สตูลจัดกิจกรรม “เดิน-วิ่ง ชมเขื่อน เยือนเกษตร” ครั้งที่ 2 แถลงเตรียมเป็นเจ้าภาพประชุมวิชาการระดับชาติ อกท. ครั้งที่ 45
สตูลจัดกิจกรรม “เดิน-วิ่ง ชมเขื่อน เยือนเกษตร” ครั้งที่
สตูลเตือนภัย ..หวิดสูญเงินแสน โชคดีที่เมียเก็บเงินไว้ จึงรอดจากแก้งค์คอลเซ็นเตอร์ เลือกเหยื่อสูงวัยตบทรัพย์
(15 ส.ค 66 ) ที่ร้านนราการเบาะ ตั้งอยู่เลขที่ 330 หมู่ที่ 6 ตำบลคลองขุด อำเภอเมือง จังหวัดสตูล นายจรงค์ หนูช่วย วัย 75 ปี พร้อมภรรยา คือนางเยาวนารถ หนูช่วย อายุ 67 ปี สองสามีภรรยานำคลิปที่แก้งค์คอลเซ็นเตอร์ ใช้เป็นกลลวงให้หลงเชื่อ เกือบจะสูญเงินหลักแสนบาทให้นักข่าวดู
โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ เกิดขึ้นเมื่อคุณลุงจรงค์ วัย 75 ปี ขณะนั่งทำเบาะให้ลูกค้าเหมือนเช่นทุกวัน ที่ร้านเพียงลำพัง จู่ ๆ มีเสียงโทรศัพท์ดังขึ้น และบอกว่าเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจาก ท้องที่จังหวัดสุโขทัย อ้างว่าคุณลุงจรงค์ มีชื่อพัวพันกับกลุ่มยาเสพติดที่เปิดบัญชีซื้อขายยา ซึ่งสร้างความตกใจให้กับคุณลุงจรงค์เป็นอย่างมาก ก่อนที่จะมีการแลกเปลี่ยนไลน์กันเพื่อพูดคุย
จากนั้นคนร้ายที่สวมรอยเป็นตำรวจ ได้สอบถามถึงสมุดบัญชีธนาคาร ว่ามีของธนาคารไทยพาณิชน์หรือไม่ เพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ ลุงจรงค์ตอบทันควันว่าไม่ แต่มีของธนาคารอื่น2 ธนาคาร และได้ถ่ายรูปหน้าปกธนาคาร ทั้ง 2 เล่มให้ ( มีเงินในบัญชีเพียง 400 กับ 500 บาท) พร้อมแนบบัตรประชาชน ตามที่คนร้ายต้องการส่งไปให้ กลับถูกข่มขู่ พร้อมส่งรูปบุคคลที่ถูกจับกุมได้ และซัดทอดว่าลุงใช้ให้ไปเปิดบัญชีเพื่อโอนเงินค่ายาเสพติด ที่มีตราโลโก้คล้ายกับตำรวจให้ดู ยิ่งสร้างความกลัวและตกใจให้กับลุงเป็นอย่างมาก
และขอให้ลุงรีบมาดำเนินการในท้องที่สุโขทัย เพื่อจ่ายค่าปรับ ในจำนวนเงิน 2 แสนบาท มิฉะนั้นจะถูกดำเนินคดีทันที คุณลุงบอกไปว่าไม่มีเงิน คนร้ายจึงบอกว่าถ้าหากจะให้ช่วยเรื่องคดี เพื่อไม่ให้ยุ่งยากก็ให้โอนมา 1 หมื่นบาทก็ได้ เป็นการช่วยในเบื้องต้นโดยไม่ต้องเดินทางมา
ขณะนั้นคุณลุงเริ่มใจอ่อน และพร้อมจะโอนเงินให้ตามที่คนร้ายร้องขอ เพื่อให้คดีจบ ๆ ไป แม้พยายามจะบอกคนร้ายว่า ลุงก็มีลูกชายเป็นตำรวจ ตำแหน่งสารวัตรด้วยเหมือนกัน แต่ ดูเหมือนจะไม่ได้รับความสนใจจากแก้งค์คนร้ายดังกล่าวแต่อย่างใด ( กลับยอกย้อนว่าเงินแค่นี้มีลูกเป็นตำรวจไม่มีเหรอ) ด้วยการที่ไม่อยากจะเดินทางขึ้นไปเคลียร์ที่ จ.สุโขทัย จึงคิดที่จะยินยอมจ่ายเงิน 1 หมื่นบาทให้คนร้าย แต่ในตัวลุงเองไม่มีเงิน จึงขอเวลาคนร้ายว่าขอไปยืมเงินจากญาติก่อน
จากนั้นจึงไปขอเงินภรรยา คุณป้าเยาวนารถ วัย 67 ปี และเล่าเรื่องทั้งหมดให้ภรรยาฟัง คุณป้ารู้ทัน และบอกว่า ถูกเข้าแล้ว ถูกแก้งค์คอลเซ็นเตอร์หลอกเข้าแล้ว เหมือนกับที่เป็นข่าวในทีวี และในสื่อโซเซียลอยู่ทุกวัน จึงเก็บโทรศัพท์ของลุงมาดำเนินการเอง โดยไม่ให้รับโทรศัพท์อีก หลังคนร้ายพยายามติดต่อมาเพื่อขอเงิน จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจึงรีบไปแจ้งความที่สภ.เมืองสตูล เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้ แต่ตำรวจไม่รับแจ้งและบอกว่า คดีแบบนี้มีเยอะ และเหตุยังไม่เกิด แต่พวกตนมองว่าอยากจะเตือนภัยสังคมให้ระมัดระวังมิจฉาชีพที่มุ่งเป้าไปที่ผู้สูงอายุ สร้างความตกใจ และหวาดกลัว
นายครรชิต ชุมขวัญ ผู้นำในชุมชนที่ 2 ป้า ลุงอาศัยอยู่ (สท.ทต.คลองขุด) เปิดเผยว่า เหตุการณ์ในครั้งนี้ อยากให้เป็นการเตือนภัยสังคมที่มาในทุกรูปแบบ ไม่เลือกเด็กหรือผู้สูงอายุ วันนั้นถ้าลุงแกมีเงินอยู่ในตัว แกคงโอนให้คนร้ายไปแล้วเพราะด้วยความหวาดกลัว และตกใจว่ามีคนแอบอ้างทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง แต่นี่เงินอยู่ที่ภรรยาทำให้รอดมาได้อย่างหวุดหวิด
…………………………………………………….
สตูลจัดกิจกรรม “เดิน-วิ่ง ชมเขื่อน เยือนเกษตร” ครั้งที่