นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล “ส่องใต้นิวส์”

สำนักข่าว ส่องใต้นิวส์ ผู้ผลิตและจำหน่าย รวมถึงการดำเนินการทางธุรกิจและการตลาด หนังสือพิมพ์ส่องใต้รวมถึงสื่อออนไลน์ทุก แพลตฟอร์มในนาม “ส่องใต้นิวส์” (รวมเรียกว่า “สำนักข่าว”)ตระหนักถึงความสำคัญของการคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลและมี ความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ท่านให้ความสนใจในการเรียกใช้บริการ สำนักข่าวจึงได้จัดทำนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ฉบับนี้ ขึ้นเพื่อใช้บังคับกับเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งใช้บริการทำธุรกรรม หรือร่วมกิจกรรมใดๆ กับสำนักข่าวโดยครอบคลุม ผลิตภัณฑ์ และบริการทั้งเว็บไซต์ โซเชียลมีเดีย (Social Media) รวมถึงหนังสือพิมพ์และช่องทางอื่นๆ ในอนาคตโดยมีหลักเกณฑ์ กลไก มาตรการ กำกับดูแล และการบริหารจัดการข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562

ดังรายละเอียดต่อไปนี้

นโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อ 1: คำจำกัดความ (Definitions)

ข้อ 2: การเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อ 3: วัตถุประสงค์ในการจัดเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อ 4: ข้อจำกัดในการจัดเก็บ รวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อ 5: การโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังต่างประเทศ

ข้อ 6: การคุ้มครองข้อมูลการเงิน

ข้อ 7: ความปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อ 8: สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อ 9: การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อ 10: เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

ข้อ 11: ช่องทางการติดต่อสำนักข่าว

ข้อ 1: คำจำกัดความ (Definitions)

1) สำนักข่าว

สำนักข่าว ส่องใต้นิวส์

2) ข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data)

ข้อมูลที่สามารถระบุหรืออาจระบุตัวตนได้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม เช่น ชื่อ นามสกุล เพศ ที่อยู่ เบอร์โทรศัพท์ อีเมล ข้อมูลบัตรเครดิต เลขที่บัญชีธนาคาร เลขที่บัตรประจำตัวประชาชน ข้อมูลทางการเงิน IP Address Cookies เป็นต้น

3) เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล (Data Subject)

บุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล และ/หรือ บุคคลที่ข้อมูลนั้นระบุไปถึง แต่ไม่รวมถึง “นิติบุคคล” (Juridical Person) ที่ จัดตั้งขึ้นตามกฎหมาย เช่น บริษัท สมาคม มูลนิธิ หรือองค์กรอื่นใด

ข้อ 2 : การเก็บข้อมูลส่วนบุคคล

สำนักข่าวจะเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลโดยมีวัตถุประสงค์ ขอบเขตและใช้วิธีการที่ชอบด้วยกฎหมายและเป็นธรรม โดยในการ เก็บนั้นจะทำเพียงเท่าที่จำเป็นแก่การดำเนินงานภายใต้วัตถุประสงค์ของสำนักข่าวส่องใต้นิวส์เท่านั้น ทั้งนี้ บริษัทจะดำเนินการให้ เจ้าของข้อมูลรับรู้ให้ความยินยอมทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือตามแบบวิธีการของสำนักข่าว กรณีที่บริษัทจัดเก็บข้อมูลส่วนอ่อนไหว ของเจ้าของข้อมูล สำนักข่าวจะขอความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลโดยได้แจ้งก่อนทำการเก็บรวบรวม เว้นแต่การเก็บข้อมูลส่วน บุคคลอ่อนไหวจะเข้าข้อยกเว้นตามที่ พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 หรือกฎหมายอื่นที่กำหนดไว้ สำนักข่าวอาจ สอบถามข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเพิ่มเติมจากท่าน เช่น เมื่อท่านเข้าร่วมกิจกรรม หรือบริการที่สำนักข่าวหรือพันธมิตรทาง ธุรกิจจัดขึ้น โดยท่านอาจต้องระบุข้อมูลเพิ่มเติม การแจ้งข้อมูลส่วนบุคคลเพิ่มเติมจะทำให้ท่านสามารถใช้บริการต่างๆ ได้มากขึ้นทั้งนี้สำนักข่าวจะเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตามระยะเวลาที่จำเป็นเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล นั้นๆ และเพื่อปฏิบัติตามภาระหน้าที่ทางกฎหมายและข้อบังคับต่างๆ โดยระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วน บุคคลจะเปลี่ยนแปลง ไปโดยขึ้นอยู่กับวัตถุประสงค์ที่กำหนดในการเก็บรวบรวมและประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลนั้นๆ

ข้อ 3: จุดประสงค์การใช้ข้อมูลส่วนบุคคล และการเปิดเผยข้อมูล

สำนักข่าวจะทำการจัดเก็บ รวบรวม และใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน เพื่อให้ท่านได้รับสินค้าและบริการที่ดีจากสำนักข่าวอย่างมี ประสิทธิภาพ โดยท่านตกลงและยินยอมให้สำนักข่าวสามารถใช้ เปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านในการติดต่อหรือส่งข้อมูลส่วน บุคคลของท่านทั้งหมดหรือบางส่วนไปยังสำนักข่าวในเครือของบริษัทหรือพันธมิตรในทางธุรกิจ หรือบุคคลอื่น โดยไม่จำเป็นต้อง บอกกล่าวล่วงหน้าแก่ท่าน เพื่อประโยชน์ของท่านและของกิจการบางส่วน ดังต่อไปนี้

  1. เพื่อสนับสนุนการส่งมอบบริการ, โฆษณา, ผลิตภัณฑ์, สิทธิพิเศษ, กิจกรรมด้านการตลาดที่ตรงกับความต้องการของท่าน ผ่านช่องทางส่วนบุคคลที่ท่านยินยอมให้สำนักข่าวจัดเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
  2. เพื่อวิจัยและวิเคราะห์ประสบการณ์การใช้บริการ ทำธุรกรรม หรือการร่วมกิจกรรมใดๆ กับสำนักข่าวในเครือส่องใต้กรุ๊ป ทำให้ ท่านสามารถใช้บริการได้อย่างต่อเนื่อง
  3. เพื่อปรับแต่งข้อเสนอ โฆษณา สิทธิพิเศษ กิจกรรมด้านการตลาด หรือเนื้อหาที่คุณสนใจ ซึ่งจะส่งให้ท่านผ่านทางช่องทาง ต่างๆ ของ “ส่องใต้” เช่น เว็บไซต์, อีเมล, การแจ้งเตือนภายในเว็บไซต์, โซเชียลมีเดีย, หรือช่องทางอื่นๆ ในอนาคต
  4. เพื่อดำเนินการตามการใช้บริการ ทำนิติกรรมสัญญา ธุรกรรม หรือการร่วมกิจกรรมใดๆ ไม่ว่าจะเป็นการดำเนินการโดย บริษัท หรือบริษัทพันธมิตร
  5. เพื่อดำเนินการเกี่ยวกับการขนส่งสินค้าผ่านทางแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะดำเนินการโดยสำนักข่าว บริษัท หรือบุคคลภายนอก รวมถึง บริษัทพันธมิตร
  6. เพื่อติดต่อผู้ใช้งานสำหรับการให้บริการ และดูแลผู้ใช้งาน หรือสำหรับการสื่อสารด้านการตลาดที่ได้รับอนุญาตตามช่องทาง การสื่อสารที่ท่านยินยอมให้ทางสำนักข่าวหรือบริษัทจัดเก็บ ใช้ และเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล
  7. เพื่อดำเนินการตามวัตถุประสงค์ตามกฎหมาย
  8. เพื่อคุ้มครองสิทธิในทรัพย์สิน หรือความปลอดภัยของสำนักข่าว หรือของผู้ใช้บริการของสำนักข่าวการเปิดเผยข้อมูลส่วน บุคคล ของท่านให้กับบุคคลอื่น จะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนด ทั้งนี้ การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ของท่าน ให้ กับบุคคลอื่น จะดำเนินการภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดข้างต้นหรือวัตถุประสงค์ อื่นที่กฎหมายกำหนดให้กระทำได้เท่านั้น ในกรณีที่กฎหมายกำหนดว่าต้องได้รับความยินยอมจากท่าน สำนักข่าวจะดำเนินการขอความยินยอมโดยชัด แจ้งจากท่านก่อน โดยบริษัทจะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่ได้เปิดเผย และเพื่อปฏิบัติตามกฎหมาย ว่าด้วยการ คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล นโยบายส่วนบุคคลนี้ ไม่ครอบคลุมการรวบรวมและ การใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของบุคคลภายนอก ที่กระทำโดยบุคคลภายนอก ไม่ว่าจะเป็นผู้โฆษณา ผู้ให้บริการ ผู้ขายสินค้าในเว็บไซต์อื่นๆ ที่เชื่อมต่อ (Link) กับเว็บไซต์, แอปพลิเคชัน, โซเชียลมีเดีย (Social Media) หรือช่องทางในอนาคตของบริษัท การเชื่อมโยงระบบโซเชียลมีเดีย (Social Media) เพื่อแชร์เนื้อ หาใน ช่องทางของสำนักข่าวหรือบริษัท หากการกระทำใดๆ ก็ตามที่ขัดต่อกฎหมาย และก่อให้เกิดความเสียหายแก่สำนักข่าวหรือบริษัท ทางสำนักข่าวหรือบริษัทจะไม่ รับผิดชอบในความเสียหายใดๆ อันเนื่องมาจากการกระทำหรือการรวบรวมข้อมูลโดยบุคคล ภายนอก

ข้อ 4: ข้อจำกัดในการใช้และ/หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล

  1. สำนักข่าวจะจัดเก็บ รวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลตามความยินยอมของท่าน โดยจะต้องเป็นการใช้ตามวัตถุประสงค์ ของการเก็บรวบรวมข้อมูลของสำนักข่าวเท่านั้นสำนักข่าวจะกำกับดูแลพนักงานหรือผู้ปฏิบัติงานของบริษัทมิให้ใช้และ/ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์ของการเก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคล หรือเปิดเผยต่อ บุคคลภายนอก เว้นแต่

1.1) เป็นการปฏิบัติตามกฎหมาย เช่น พ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ร.บ.ว่าด้วยธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ พ.ร.บ.ป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน ประมวลกฎหมายแพ่งและอาญา ประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่งและวิธีพิจารณาความ อาญา ฯลฯ

1.2) เป็นไปเพื่อประโยชน์แก่การสอบสวนของพนักงานสอบสวน หรือการพิจารณาพิพากษาคดีของศาล

1.3) เพื่อประโยชน์ของท่าน และการขอความยินยอมไม่อาจกระทำได้ในเวลานั้น

1.4) เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของสำนักข่าว หรือของบุคคลหรือนิิติบุคคล ท่ีไม่ใช่สำนักข่าว

1.5) เป็นการจำเป็นเพื่อป้องกันหรือระงับอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย หรือสุขภาพของบุคคล

1.6) เป็นการจำเป็นเพื่อการปฏิบัติตามสัญญา ซึ่งเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นคู่สัญญาหรือเพื่อใช้ในการดำเนินการตามคำขอ ของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเข้าทำสัญญานั้น

1.7) เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ที่เกี่ยวกับการจัดทำเอกสารประวัติศาสตร์หรือจดหมายเหตุ เพื่อประโยชน์สาธารณะ หรือเพื่อ การศึกษา วิจัย การจัดทำสถิติ ซึ่งได้จัดให้มีมาตรการป้องกันที่เหมาะสม

  1. บริษัทอาจใช้บริการสารสนเทศของผู้ให้บริการซึ่งเป็นบุคคลภายนอก เพื่อให้ดำเนินการเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล ซึ่งผู้ ให้บริการนั้นจะต้องมีมาตรการรักษาความมั่นคงปลอดภัย โดยห้ามดำเนินการเก็บรวบรวม ใช้หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล นอกเหนือจากที่บริษัทกำหนด

ข้อ 5: การเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลหรือการลบข้อมูลส่วนบุคคล

สำนักข่าวอาจเปิดเผยหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังบุคคลภายนอกหรือเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ในต่างประเทศซึ่งเป็นประเทศ ปลายทาง ที่อาจมีหรือไม่มีระดับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เท่าเทียมกัน ทั้งนี้ สำนักข่าวจะดำเนินการตามขั้นตอนและ มาตรการต่างๆ เพื่อทำให้ท่านมั่นใจได้ว่าการโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจะดำเนินการอย่างปลอดภัยและบุคคลที่รับโอน ข้อมูลนั้นมีระดับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เหมาะสม และในบางกรณี บริษัทอาจขอความยินยอมจากท่านเพื่อการโอน ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปยังต่างประเทศ หากจำเป็นต้องปฏิบัติตามที่กฎหมายกำหนด

ข้อ 6: การคุ้มครองข้อมูลการเงิน

การรักษาความลับข้อมูลด้านการเงินส่วนบุคคล เป็นเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งต่อสำนักข่าว สำนักข่าวจะไม่เผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวต่อ บุคคลภายนอก เว้นแต่เท่าที่ระบุไว้ในนโยบายส่วนบุคคลฉบับนี้ ดังนั้น ข้อมูลสถิติของผู้ใช้บริการ สำนักข่าวอาจเปิดเผยข้อมูลที่ ท่านให้ความยินยอมต่อผู้โฆษณา หรือพันธมิตรทางธุรกิจเกี่ยวกับบริการทางการเงิน รวมถึงการใช้บริการของลูกค้าของสำนักข่าว

ข้อ 7: ระยะเวลาในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน

สำนักข่าวตระหนักถึงความสำคัญของการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านสำนักข่าวจึงกำหนดให้มี มาตรการในการรักษาความมั่นคงปลอดภัยของข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเหมาะสม และสอดคล้องกับการรักษาความลับของข้อมูลส่วน บุคคลเพื่อป้องกันการสูญหาย การเข้าถึง ทำลาย ใช้ แปลง แก้ไขหรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลโดยไม่มีสิทธิหรือโดยไม่ชอบด้วย กฎหมาย ตลอดจนการป้องกันมิให้มีการนำข้อมูลส่วนบุคคลไปใช้โดยมิได้รับอนุญาต และดำเนินมาตรการที่เหมาะสมเพื่อ คุ้มครองสิทธิของท่าน เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล โดยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่สำนักข่าวได้รับมาจะ ถูกนำไปใช้ให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์การดำเนินงานของสำนักข่าวเท่านั้น

ข้อ 8: สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

เจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลมีสิทธิในการดำเนินการ ดังนี้

  1. การเพิกถอนความยินยอม : ท่านมีสิทธิที่จะเพิกถอนความยินยอมของท่านในการจัดเก็บ ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล ของท่านตลอดระยะเวลาที่ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านอยู่กับสำนักข่าว
  2. การขอเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคล : ท่านสามารถขอเข้าถึง ขอรับสำเนาข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน หรือขอให้เปิดเผยการได้มาซึ่ง ข้อมูลส่วนบุคคล ทั้งนี้ สำนักข่าวอาจปฏิเสธคำขอของท่านได้ตามที่กฎหมายกำหนด หรือตามคำสั่งศาล
  3. การได้รับข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์และถ่ายโอนข้อมูล : ท่านมีสิทธิที่จะได้รับข้อมูลที่ได้ให้ไว้กับสำนักข่าวในรูปแบบอิเล็กทรอนิกส์ และมีสิทธิในการถ่ายโอนข้อมูลของท่านสำหรับการใช้งานในบริการของบุคคลอื่น และในการใช้สิทธิดังกล่าวนี้ ท่านมีสิทธิที่จะ ให้สำนักข่าวถ่ายโอนข้อมูลไปยังบุคคลอื่นๆ โดยตรง หากสามารถกระทำได้โดยทางเทคนิค
  4. การคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล : ท่านมีสิทธิคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูล เกี่ยวกับท่าน ในกรณีดังนี้

4.1) กรณีที่เป็นการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการตลาดแบบตรง

4.2) กรณีที่เป็นการเก็บรวบรวม ใช้ หรือ เปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อวัตถุประสงค์เกี่ยวกับการศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ หรือสถิติ เว้นแต่กรณีจำเป็นเพื่อการด าเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของสำนักข่าว

4.3) กรณีที่เป็นข้อมูลที่เก็บรวบรวมไว้ด้วยเหตุจำเป็น เพื่อการดำเนินภารกิจเพื่อประโยชน์สาธารณะของสำนักข่าว หรือเหตุจำเป็น เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายของสำนักข่าว เว้นแต่สำนักข่าวแสดงให้เห็นถึงเหตุอันชอบด้วยกฎหมายที่สำคัญยิ่งกว่า หรือ เป็นไปเพื่อก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตาม หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้สิทธิ เรียกร้องตามกฎหมาย

  1. การขอลบ หรือเปลี่ยนแปลงสถานะข้อมูลส่วนบุคคล : ท่านสามารถขอให้ลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลของ ท่านกลายเป็นข้อมูลที่ไม่ระบุตัวบุคคล เว้นแต่เป็นกรณีที่บริษัทต้องปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการเก็บรักษาข้อมูล ดังกล่าว
  2. การขอให้ระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล : ท่านสามารถขอให้สำนักข่าวระงับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ทั้งหมด หรือบางส่วน เป็นการชั่วคราวหรือถาวร
  3. การแก้ไขข้อมูลส่วนบุคคลให้ถูกต้อง : ท่านสามารถขอแก้ไข หรือเปลี่ยนแปลงข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ในกรณีที่ข้อมูลส่วน บุคคลของท่านไม่ถูกต้องตามความเป็นจริง และให้ข้ำอมูลของท่านเป็นปัจจุบัน
  4. การร้องเรียน : ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่ท่านเชื่อว่าการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผย ข้อมูลส่วนบุคคลของสำนักข่าวนั้นฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562

ข้อ 9: การเปลี่ยนแปลงนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล

เมื่อท่านใช้บริการ ทำธุรกรรม หรือร่วมกิจกรรมใดๆ กับสำนักข่าว ถือว่าท่านได้รับทราบและยินยอมปฏิบัติตามนโยบายคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้ และฉบับแก้ไขเพิ่มเติมในอนาคต

สำนักข่าวอาจจะแก้ไขเพิ่มเติมนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้เป็นครั้งคราว เพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลง กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลหรือกฎหมายอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทจะเผยแพร่ประกาศการแก้ไขเพิ่มเติมบน เว็บไซต์และช่องทางอื่นของบริษัท และถือเป็นการยอมรับข้อกำหนดของนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลฉบับนี้

ข้อ 10: การเปลี่ยนแปลงนโยบายส่วนบุคคล

สำนักข่าวได้ดำเนินการตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562 โดยแต่งตั้งเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (Data Protection Officer: DPO) เพื่อตรวจสอบการดำเนินการของบริษัทที่เกี่ยวกับการเก็บรวบรวม ใช้ และเปิดเผยข้อมูล ส่วนบุคคลให้สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการคุ้มครอง ข้อมูลส่วนบุคคล นอกจากนี้ บริษัทได้จัดทำระเบียบ คำสั่ง ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามที่กำหนดไว้ เพื่อให้การดำเนินงาน ตามแนวนโยบายที่เกี่ยวกับการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลเป็นไปด้วยความเรียบร้อย อีกทั้ง ยังเป็นไปตามนโยบายของ คณะกรรมการกำกับการบริหารข้อมูลส่วนบุคคลและความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์ที่กำหนด

ข้อ 11: ช่องทางการติดต่อ

หากท่านต้องการทราบข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับนโยบายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัท ตลอดจนมีข้อสงสัย หรือมีความประสงค์ขอใช้สิทธิเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน สามารถติดต่อสำนักข่าวผ่านช่องทาง ดังนี้

เลขที่ 714 ซอย คลองขุด25 ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล 91000

อีเมล : 222satun@gmail.com

โทร : 081-9595403