เร่งล่าแก๊งขโมยเรือข้ามชาติ! แก๊งโจรสุดแสบขโมยเรือศุลกากรมาเลย์ มูลค่า 1.5 ล้าน หวังชำแหละขายเครื่องยนต์เมืองท่องเที่ยว

          วันที่ 16 ม.ค.2568  น.อ.แสนย์ไท บัวเนียม รอง ผอ.ศรชล.จว.สตูล , พ.ต.ท.บรรเจิด. มานะเวช. รองผกก.บก.รน. , พ.ต.ท.ศุภกิจตา สนุ่นดี สารวัตรสถานีตำรวจน้ำสตูล พร้อม เจ้าหน้าที่ ศรชล.สตูล ,ตำรวจน้ำสตูล , ตชด. 436 หน่วยสืบสวนปราบปรามสตูล-ปากบารา , สภ.เมืองสตูล , ฝ่ายปกครองเมืองสตูล,  ชปพ.นก.พตต.ศรชล.ภาค 3   ได้บูรณาการร่วมกันหลังได้รับแจ้งว่า 

 

           เมื่อวันที่ 13 มกราคม 2568  ที่ผ่านมาได้รับแจ้งว่า จากทางการมาเลเซียว่า เรือศุลกากร รัฐเปอร์ลิส  ประเทศมาเลเซีย ได้หายไปจากจุดจอดเรือ โดยได้มีการประสานเจ้าหน้าที่ฝ่ายจังหวัดสตูลว่าหากมีแนวโน้มหรือเป็นไปได้ที่จะมีการนำเรือมาซุกซ่อนหรือชำแหละ ให้ช่วยตรวจสอบ

 

          ทางการจังหวัดสตูลหน่วยความมั่นคงทางทะเล จึงได้มีการประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นศลชล. ตำรวจทหารฝ่ายปกครอง เพื่อร่วมบูรณาการในการค้นหา

 

         แต่เมื่อวานนี้ได้รับแจ้งว่า พบเห็นเรือคล้ายๆตามที่แจ้ง บริเวณคลองน้ำเวียน  ตำบลคลองขุด  อำเภอเมือง  จังหวัดสตูล พบว่ายังไม่ใช่เรือลำเดียวกันแจ้ง

 

        และมีการแจ้งไปยังกลุ่มชาวบ้านให้ช่วยแจ้งเบาะแส  ประมงพื้นบ้านให้ช่วยตรวจสอบเรือลำสีเหลืองเครื่องยนต์ค่อนข้างใหม่ยี่ห้อฮอนด้า ปรากฏว่าเมื่อเช้านี้ทางเรือกลุ่มหาปลา ได้มีการโทรหานายสมนึก สุภาพ ผญบ.3 [ผญบ.แอน] ผู้ใหญ่บ้านพื้นที่คลองน้ำเวียน ตำบลคลองขุด  อำเภอเมือง  จังหวัดสตูล  ก่อนประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงเรือ ศรชล. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่  ตำรวจน้ำ  ศรชล.  ศุลกากร ฝ่ายปกครอง ไปร่วมกันตรวจสอบ พบเรือลำดังกล่าวซึ่งคาดว่าน่าจะตรงกับเรือที่ได้รับแจ้งว่าสูญหายหายไป

 

         ระหว่างนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกับทางการมาเลเซียที่จะมายืนยันว่าเป็นเรือลำที่หายไปหรือไม่ หลังจากนั้นก็จะมีการส่งมอบอีกครั้ง

           ขณะนี้ตำรวจน้ำยังไม่ทราบถึงวัตถุประสงค์ของการขโมยมาเพื่ออะไร  แต่เพราะว่าเรือลักษณะนี้มีความคล่องตัวและมีอเนกประสงค์ ในการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นการประมง  การขนของ  หรือใช้สำหรับเรือพาณิชย์ต่างๆ อีกทั้งเรือลำนี้หากอยู่ในฝั่งไทยมีมูลค่าสูงถึง 1,500,000 บาท

 

           ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่พบเส้นทางการเชื่อมโยงระหว่างเรือลำแรกของเอกชน  กับลำที่สองของศุลกากร   รัฐเปอร์ลิส  ประเทศมาเลเซีย   ถึงเส้นทางการขโมยมาที่ฝั่งไทย สันนิษฐานว่าเรือทั้งสองลำเป็นอันเรืออเนกประสงค์ใช้งานได้หลากหลาย และด้วยมูลค่าของเรือเครื่องยนต์มีมูลค่ามาก

 

           การตรวจยึดเรือหลังได้รับแจ้งว่าหายเข้ามาในพื้นที่แสดงให้เห็นถึงศักยภาพการทำงานของเจ้าหน้าที่ฝั่งไทย ที่ได้มีการบูรณาการทำงานร่วมกัน ไม่ว่าจะเป็นทหารตำรวจปกครอง  ศรชล.  ตำรวจน้ำ และหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดสตูล อีกทั้งเป็นการบูรณาการทำงานร่วมกันระหว่างประเทศไทยและมาเลเซีย เห็นถึงความเข้มแข็งกันโดยตลอด และมีประสิทธิภาพสร้างความมั่นใจ ได้มากขึ้น

 

           หลังพบเรือที่คาดว่าจะเป็นเรือของหน่วยสืบสวนปราบปรามศุลกากรรัฐเปอร์ลิส  ประเทศมาเลเซีย  ที่ใช้สำหรับการข่าว โดยรองอธิบดีฝ่ายปราบปรามกรมศุลกากรมาเลเซีย  ได้ขอบคุณเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายความมั่นคงของทางการจังหวัดสตูลที่ช่วยติดตามเรือกลับมาได้

 

           สำหรับเรือลำที่หายไปนั้นเป็นเรือที่มีขนาดความยาว 10.20 เมตร  กว้าง 2.4 เมตร   และยังคงมีเครื่องยนต์อยู่ในสภาพสมบูรณ์

 

           ด้าน พ.ต.ท.บรรเจิด มานะเวช  รองผู้กำกับกองบังคับการตำรวจน้ำ เปิดเผยว่า  ส่วนเรือลำแรกที่ตรวจยึดมาได้  ไม่ได้เชื่อมโยงกับเรือลำที่สองที่ยึดได้วันนี้  เนื่องจากเรือก่อนหน้านี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ไปตรวจพบที่คลองละงู  เป็นเรือใช้สำหรับนำเที่ยวของเอกชนที่ถูกขโมยมาจากประเทศมาเลเซีย  ทางการเจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำพบเส้นทางการขโมยว่าได้พยายามในการที่จะขโมยเรือจากประเทศเพื่อนบ้าน   เนื่องจากมีความเร็วและความแรงของสภาพเรือและเครื่องยนต์ที่สามารถมาชำแหละส่งขายเครื่องยนต์ในจังหวัดกระบี่และจังหวัดภูเก็ต   เนื่องจากเป็นเมืองท่องเที่ยว

 

        โดยเฉพาะเรือลำที่สองการข่าวพบว่า มีความพยายามจะขโมยเรือลำที่ถูกจับกุมซึ่งมีเครื่องยนต์ 2  เครื่องยนต์ไว้   แต่พบว่ามีการล่ามโซ่ไว้อย่างหนาแน่น   และได้เปลี่ยนเป้าหมายมาขโมยเรือของเจ้าหน้าที่แทน การข่าวยังพบอีกว่าการขโมยในครั้งนี้  มีคนไทยเข้ามีส่วนรู้เห็นซึ่งจะมีการติดตามจับกุมตัวมาดำเนินคดีต่อไป

………………………………

อัพเดทล่าสุด