เตือนภัยผลกระทบยาเสพติดเด็กในสตูลตกเป็นเหยื่อความรุนแรงในครอบครัว

           โศกนาฏกรรมสะเทือนขวัญเกิดขึ้นที่หมู่ 3 บ้านคลองลิดี ตำบลสาคร อำเภอท่าแพ จังหวัดสตูล เมื่อเด็กชายวัยเพียง 2 ขวบ  ต้องจบชีวิตลงอย่างน่าเศร้าขณะถูกนำส่งโรงพยาบาล หลังถูกลุงซึ่งมีอาการคลุ้มคลั่งจากฤทธิ์ยาเสพติด จับตัวเหวี่ยงกระแทกพื้นอย่างรุนแรงสองครั้งซ้อน เหตุการณ์สลดใจนี้สร้างความตกใจให้กับชาวบ้านในละแวกใกล้เคียงเป็นอย่างมาก

         จากการสอบสวนเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถจับกุมตัวนายอับดุลอาซีด (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี หมู่ที่ 3 บ้านคลองลิดี ต.สาคร อ.ท่าแพ ผู้ก่อเหตุได้ในที่เกิดเหตุ โดยผู้ต้องหายังคงมีอาการผิดปกติ พูดคนเดียว แต่รับสารภาพว่าตนเองเป็นผู้เหวี่ยงเด็กกระแทกพื้นจนเสียชีวิตจริง และไม่ได้ขัดขืนการจับกุมแต่อย่างใด

         พี่ชายของผู้ต้องหาให้ข้อมูลว่า ขณะที่ตนนอนพักอยู่ภายในบ้าน ได้ยินเสียงดังตุบ 2 ครั้ง จึงรีบออกมาดูและพบเด็กนอนสลบแน่นิ่งอยู่แล้ว  จึงรีบแจ้งเหตุและนำตัวส่งโรงพยาบาลทันที  แต่น่าเศร้าที่เด็กเสียชีวิตระหว่างทาง

         ทั้งนี้ จากการสืบสวนทราบว่าผู้ต้องหามีประวัติติดยาเสพติดมานาน ถึงแม้จะผ่านการบำบัดมาหลายครั้ง แต่ก็กลับไปเสพซ้ำอยู่เรื่อยๆ ขณะเกิดเหตุเชื่อว่าผู้ต้องหามีอาการคลุ้มคลั่งจากฤทธิ์ของยาเสพติด จนนำไปสู่การกระทำรุนแรงต่อเด็ก

       

        ความสัมพันธ์ระหว่างผู้ต้องหาและเด็กผู้เสียชีวิตนั้น มีศักดิ์เป็นลุง (พี่ชายของพ่อเลี้ยง) บ้านของทั้งสองครอบครัวอยู่ใกล้กัน และปกติเด็กกับผู้ต้องหาก็มีความคุ้นเคยกันดี ขณะเกิดเหตุ แม่ของเด็กกำลังล้างจานอยู่ที่หลังบ้าน ไม่ทันได้เห็นเหตุการณ์สลดใจที่เกิดขึ้น

         นายอนุสรณ์ อุเส็น ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ต.สาคร เล่าว่า หลังทราบเหตุได้รีบแจ้งตำรวจเข้าควบคุมตัวผู้ต้องหาที่ยังคงอยู่ในอาการผิดปกติ ทางด้านตำรวจได้ควบคุมตัวผู้ต้องหาเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

         ล่าสุด พล.ต.ต.มารุต เรืองจินตนา ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล พร้อมด้วย พ.ต.อ.ปรีชา เพ็ชรรัตน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรท่าแพ, พ.ต.ท.อาบูบากาด ดาแลหมัน สารวัตรปราบปรามสถานีตำรวจภูธรท่าแพ, ร.ต.อ.นุกูล จิตรเพชร พนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรท่าแพ, นายขจรศักดิ์ เจ๊ะแอ กำนันตำบลสาคร, นายอนุสรณ์ อุเส็น ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 3 ต.สาคร และข้าราชการตำรวจจากสถานีตำรวจภูธรท่าแพ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบที่เกิดเหตุ พร้อมหารือแนวทางป้องกันแก้ไขกรณีเหตุทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัสและเสียชีวิต

 

          เหตุการณ์สลดใจครั้งนี้สะท้อนถึงปัญหายาเสพติดที่ยังคงเป็นภัยร้ายแรงในสังคม โดยเฉพาะผลกระทบที่เกิดขึ้นกับเด็กผู้บริสุทธิ์ แม้จะมีมาตรการการบำบัดรักษาผู้ติดยาเสพติด แต่การกลับไปเสพซ้ำยังคงเป็นปัญหาสำคัญที่ท้าทายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง

 

        ผู้นำชุมชนและเจ้าหน้าที่รัฐในพื้นที่เตรียมหารือถึงมาตรการเฝ้าระวังและป้องกันในกรณีผู้มีประวัติเสพยาเสพติดที่อาศัยอยู่ใกล้ชิดกับเด็กและเยาวชน เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดโศกนาฏกรรมซ้ำรอยในอนาคต ขณะที่ครอบครัวของผู้เสียชีวิตยังคงตกอยู่ในความโศกเศร้าอย่างสุดซึ้ง

………………………………………………..

อัพเดทล่าสุด