ชาวสวนสตูลรวมกลุ่มทำปาล์มน้ำมันคุณภาพ  ต่อรองกับลานเทอับราคาได้สูงกว่าหน้าร้าน พร้อมยอมรับการเมืองมีผลต่อการขึ้น ลง ของพืชเศรษฐกิจ

        ปาล์มน้ำมันเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัด  แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าราคาผันผวนทำให้เกิดผลกระทบ  การรวมตัวเป็นแปลงใหญ่ของเกษตรกรปาล์มน้ำมัน  เป็นโอกาสดีในการต่อรองราคาให้สูง  ภายใต้ผลผลิตคุณภาพ   ซึ่งทางกรมส่งเสริมการเกษตร โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดสตูล  ตั้งเป้าหมาย 5 ด้าน ลดต้นทุนการผลิต 20% เพิ่มผลผลิต 20%  พัฒนาคุณภาพ/พัฒนาให้ได้มาตรฐาน บริหารจัดการ และ การตลาด 

        ที่วิสาหกิจชุมชนปาล์มน้ำมันแปลงใหญ่อำเภอควนโดน มีสมาชิก 183 ราย พื้นที่ปลูกปาล์มรวม 1,111 ไร่  มีนายศุภเรศน์  แซะอามา  เป็นประธานฯ  ได้รับองค์ความรู้ด้านการดูแลสวน  การจัดการสวน  ตลอดจนการตลาด  กระทั่งสามา รถผลิตปาล์มคุณภาพ  และสามารถต่อรองราคาได้สูงกว่าราคาป้ายที่ผันผวนตลอดเวลา

         นายชาญณรงค์ วิรุณสาร เกษตรจังหวัดสตูล  พร้อมทีมเกษตรอำเภอควนโดนลงติดตามความก้าวหน้าการของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปาล์มน้ำมันแปลงใหญ่อำเภอควนโดน ซึ่งเป็นหนึ่งใน 15 แปลงของจังหวัดสตูลโดยมีการบูรณาการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงเกษตรเอง  และนอกกระทรวง  ทั้งภาคเอกชน   ให้การสนับสนุนเรื่ององค์ความรู้ทำอย่างไรให้พี่น้องเกษตรกรสามารถที่จะเพิ่มผลผลิตต่อไร่  โดยใช้หลักวิชาการเข้ามาเกี่ยวข้อง  ไม่ว่าจะเป็นการให้น้ำ  ให้ปุ๋ย  เรื่องพันธุ์ต่างๆ เพื่อให้เกษตรกรมีผลผลิต เพิ่มขึ้นการตรวจวิเคราะห์ดิน   การวิเคราะห์ใบปาล์ม  เพื่อที่จะให้ตอบสนองและสอดคล้องกับความต้องการจริงๆ   การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมเพื่อสนับสนุนให้การใช้ปุ๋ยเคมีมีประสิทธิภาพมากขึ้น

        ในเรื่องของมาตรฐานคุณภาพปาล์มที่ตัดทุกทะลายจะต้องมีคุณภาพเป็นปาล์มที่แก่จัด เกษตรกรก็จะสามารถอัพราคาขึ้นมาได้  แปลงใหญ่ทั้งหมดเราให้ความสำคัญโดยจะไม่ตัดปาล์มไม่มีคุณภาพส่งโรงงาน   ในอีกส่วนหนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องกับสมาชิกแปลงใหญ่โดยตรงคือการรวมตัวกันเพื่อให้เกิดความเข้มแข็ง  พัฒนากลุ่มให้มีความเข้มแข็ง  เพื่อเชื่อมโยงด้านความร่วมมืออำนาจในการต่อรองการร่วมกันจัดการ   ไม่ว่าจะเรื่องการรับองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่จะเข้ามา  ทั้งในเรื่องการต่อรองกับลานเทต่างๆ

       นายศุภเรศน์  แซะอามา  ประธานแปลงใหญ่ปาล์มน้ำมันอำเภอควนโดน  กล่าวว่า   กรมส่งเสริมฯได้อบรมให้ความรู้กับสมาชิกปาล์มแปลงใหญ่   ทุกคนมีองค์ความรู้สามารถที่จะปลูกปาล์มน้ำมัน  หรือพัฒนาปาล์มน้ำมันที่ปลูกเรื่องด้านการตลาดจะเห็นได้ว่า  เมื่อกลุ่มมีพลัง  สมาชิกเองมีระบบการจัดการที่ดี   กลุ่มเองก็มีการตกลงกับลานเท   เพื่อที่จะต่อรองว่าเรามีคุณภาพแล้ว  เราสามารถได้ราคาที่ดีกว่าเกษตรกรทั่วไป   นี่คือสิ่งที่เราให้การสนับสนุน  โดยความร่วมมือจากในหน่วยงานเกษตรทั้งหมด

      จากองค์ความรู้  ทางกลุ่มทำปาล์มคุณภาพโดยตัดปาล์มสุก  ซึ่งให้สังเกตดูที่พื้นถ้าใต้โคนมีลูกร่วงอยู่ประมาณ3- 4 เม็ด ถึง 10 เม็ด สามารถที่จะตัดปาล์มเอาไปขายได้   เพราะเป็นปาล์มมีคุณภาพ ซึ่งมีเปอร์เซ็นต์น้ำมันที่ 21% ขึ้นไป  เมื่อทางกลุ่มมีปาล์มที่มีคุณภาพ มากกว่า 90%    ก็ได้ทำ  MOU กับลานปาล์ม   เมื่อทางกลุ่มส่งปาล์มคุณภาพให้    กลุ่มฯจะได้ส่วนต่างเพิ่มราคาหน้าป้าย 20  สตางค์  เช่นวันนี้ราคาปาล์ม 5.60 บาททางกลุ่มฯ จะได้อย่างน้อย 5.80 บาท  บางคนบวกได้สูงถึง 40 สตางค์  อันนี้คือเป็นผลดีกับเกษตรกรที่ได้เข้าร่วมกลุ่มปาล์มแปลงใหญ่

       สำหรับผลผลิตโดยรวมของแปลงใหญ่  เริ่มจากตอนที่ยังไม่ได้เข้ากลุ่มฯ  ไม่มีองค์ความรู้ต่างคนต่างทำผลผลิตเฉลี่ยตอนนั้น 2,300 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี   แต่หลังจากที่เราได้รวมกลุ่มฯกัน  มีองค์ความรู้พัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ เป็น 2.5 ตัน ถึง 2.7 ตัน ในปีที่ผ่านมา 2565 เราได้ผลผลิต 3,245 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี เพิ่มขึ้นแตะ 3 ตันสูงกว่าระดับประเทศอยู่ตอนนี้

       ทางด้าน  ลานเทปาล์มครูเหม ซึ่งตั้งอยู่ บ้านควนบ่อทอง  ต.ทุ่งนุ้ย  อ.ควนกาหลง  จ.สตูล  เป็นลานเท ที่ทำ MOU กับ เกษตรกร แปลงใหญ่ปาล์มน้ำมันควนโดน  ทุกๆวันจะมีปาล์มคุณภาพจากเกษตรกรเข้ามาเฉลี่ยวันละ  1.8-2 ตัน   โดย  นายเจ๊ะบารอเหม   ยาหลี  เจ้าของลานปาล์มครูเหม  กล่าวถึงผลดีเมื่อได้ทำ MOU ร่วมกับ แปลงใหญ่ปาล์มน้ำมันควนโดน  ถึงข้อดีคือ   ลานเทมีปริมาณปาล์มเข้ามากขึ้น ลูกค้ามีแน่นอน   ผลดีของลานเทคือ  ได้ปาล์มที่มีคุณภาพ  ส่งเข้าโรงงาน   ทางลานเทก็สามารถที่จะอัพราคาให้กับปาล์มแปลงใหญ่ได้ เพิ่มถึง 20 สตางค์  หากมีแปลงปาล์มมากกว่า 50 ไร่ก็จะเพิ่มสูงถึง 25 สตางค์ต่อกิโลกรัม   ขึ้นอยู่กับช่วงราคาที่เราได้จากโรงงานด้วย  

      ส่วนการเมืองที่อยู่ระหว่างจัดตั้งรัฐบาล  นายเจ๊ะบารอเหม   ยาหลี  เจ้าของลานปาล์มครูเหม  กล่าวเพิ่มเติมว่า  การเมืองมีผลต่อพืชผลเศรษฐกิจหลายด้าน  ทั้งด้านการประกันราคา  ปริมาณสินค้าจากต่างประเทศไม่ให้ทะลักเข้าประเทศเพราะส่งผลต่อราคาที่ผันผวนได้  ทำให้มีการดีดกลับไปที่โรงงาน   และดีดกลับมาที่ลานเท  แม้ขณะนี้ราคายังทรงอยู่   หลายฝ่ายรอดูสถานกาณณ์ผู้นำจะทำอย่างไร อยากให้รัฐบาลมาดูแลทุกขั้นตอนทุกระดับ ให้ฐานะดีขึ้นทั้ง ปาล์มน้ำมัน และยางพารา

      สำหรับ  สถานการณ์ปาล์มน้ำมันของลานเท  ณ ปัจจุบันปริมาณคงที่  วันหนึ่งเฉลี่ย 20 ตันต่อวัน   โดยบางวันก็อาจจะแค่ 18  -19 ตัน แล้วแต่ช่วงจังหวะฝนตกหรือจังหวะที่ผลผลิตน้อย  

…………………………………………

อัพเดทล่าสุด