สตูลเอกชนมอบที่ดิน 1 ไร่ครึ่งมูลค่า 100 ล้านบาทเพื่อเป็นโฉนดให้ชุมชนชาวเลอุเส็นพร้อมโบสก์คริสต์ใช้ร่วมกัน  โดยมีเงื่อนไขห้ามซื้อขาย

       สตูลเดินหน้าแก้ปัญหาข้อพิพาทที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะอย่างต่อเนื่อง    ล่าสุดทางด้านนายอำเภอเมืองสตูลที่เพิ่งมารับตำแหน่งได้รับการประสานจากเอกชนยินดีมอบที่ดิน 1 ไร่ครึ่งมูลค่า 100 ล้านบาทให้กับชุมชนอุเส็น  ที่มีชาวบ้านอาศัยอยู่  12 ครัวเรือน พร้อมโบสก์คริสต์ที่เป็นศูนย์กลางของชุมชน  หมู่ที่ 7 ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมืองสตูล   เพื่อเป็นโฉนดชุมชนโดยมีเพียงเงื่อนไข   ห้ามซื้อขายเป็นระยะเวลา 30 ปี 

       เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูลวันนี้แม้จะเข้าสู่ช่วงฤดูโลซีซัน แต่ยังคงมีนักท่องเที่ยวและแรงงานหลากหลายเดินทางกันมาเยือนเกาะแห่งนี้กันไม่ขาดสาย  แม้บนเกาะขณะนี้ยังมีหากหลายข้อพิพาพาทที่ยังรอการแก้ไขจากคณะ  พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะประธานคณะกรรมการตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเล เกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล

 

          ล่าสุด นายพีรพัฒน์  เงินเจริญ  นายอำเภอละงู  (รักษาราชการแทนนายอำเภอเมืองสตูล) คนใหม่ที่เพิ่งเดินทางมารับตำแหน่งใหม่แทนคนเก่า  (ที่ป่วยพักรักษาตัว) เดินหน้าลงเก็บประเด็นปัญหาทางเดินลงทะเลของชาวเลอุรักลาโว้ยและนักท่องเที่ยวที่ยืนยันว่าเป็นที่สาธารณะใช้มาตั้งแต่บรรพบุรุษ   ขณะนี้คดีความอยู่ที่ศาลอยู่ระหว่ารอศาลตัดสิน    ปัญหาการถมที่ดิน และบุกรุกการก่อสร้างลำรางน้ำบนเกาะหลีเป๊ะ ขณะนี้ยังรอความชัดเจนว่าอยู่ในความรับผิดชอบของอุทยานตะรุเตา หรือ ทางท้องถิ่น

 

         นางสาวสุริยงค์   หาญทะเล   อายุ 38 ปี ชาวบ้านชุมชนอุเส็น  กล่าวว่า  พี่น้องมีความหวังมากขึ้นในเรื่องที่ดิน  เพราะช่วงนี้มีปัญหากับนายทุน  ตึกที่อยู่หน้าหาดหากมีการมอบโฉนดชุมชนให้จริงทุกคนในชุมชนมีความหวังมากขึ้น

 

         นายพีรพัฒน์   เงินเจริญ    นายอำเภอละงู (รรท.นายอำเภอเมืองสตูล) กล่าวว่า  ความคืบหน้าการแก้ปัญหาปัญหาที่อยู่อาศัยชาวเลในชุมชนอุเส็นมีความคืบหน้าไปมาก   จากเดิมชุมชนแห่งนี้เคยมีคดีความกับเอกชน ปรากฏว่าเอกชนคือคุณณรงค์ศักดิ์ (เอกชน) ได้ชนะคดี  ในชั้นศาลฎีกา  ชนะมาหลายปีแล้ว

        หลังจากนั้นทางคุณณรงค์ศักดิ์ ปัทมปาณีวงศ์ (เอกชน) ก็มีเจตจำนงว่ามีความประสงค์จะยกที่ดินแปลงนี้ นส 3 เลขที่ 10 เนื้อที่ประมาณ 1 ไร่ครึ่ง ให้กับชุมชนชาวเลอุเส็นได้อยู่ร่วมกัน โดยมีเงื่อนไขว่าห้ามขายอยู่อาศัยไปตลอดชีวิต โดยทางผู้ให้อยากจะอุทิศที่ดินผืนนี้เพราะในอดีตเคยมาทำมาหากินบนเกาะหลีเป๊ะจนมีฐานะและนี่คือเจตนารมณ์ของเอกชนผู้มอบให้

 

          หลังจากนั้นได้มาอธิบายให้กับผู้นำทางจิตวิญญาณของชาวเลบนเกาะหลีเป๊ะ แล้วผู้ใหญ่บ้านทั้ง 2 หมู่บ้าน พบว่ายังมีชาวบ้านที่มีความระแวงว่าอยู่ดีๆที่ดินมูลค่า 100 ล้านมายกให้เป็นไปได้อย่างไร    จากนั้นก็ให้ทางปลัดส่วนหน้ามาพูดคุยกับชาวบ้านเพื่อสร้างความเข้าใจ  บางส่วนก็เริ่มเข้าใจ โดยตั้งใจจะทำให้ที่ดินแปลงนี้เป็นโฉนดด้วยพร้อมสลักหลังว่าห้ามขาย ซึ่งอาจจะเป็นแปลงแรกของเกาะหลีเป๊ะ หากชาวบ้านทุกคนรับ  หลังจากนั้นจะออกโฉนดให้โรงเรียนและอนามัยบนเกาะซึ่งจากขับเคลื่อนให้เสร็จภายในเดือนนี้ โดยนำเรียนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์  หักพาล

         ซึ่งการลงมาครั้งนี้ได้มาตรวจสอบหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องน้ำเรื่องไฟฟ้าเรื่องน้ำท่วมเกาะและปัญหายาเสพติดและที่อยู่อาศัยที่ไม่มั่นคงโดยทั้งหมดนี้จะเข้ามาช่วยพี่น้องชาวเลในการแก้ปัญหาก่อน    หลังจากช่วยชาวเลเสร็จ  ในส่วนของผู้ประกอบการขอแก้ไขกฎกระทรวง และออกใบอนุญาตก่อสร้างอาคารและใบอนุญาตโรงแรมตามขั้นตอนต่อไป

         เกาะหลีเป๊ะต้องวางมาตรการให้ชาวเลและผู้ประกอบการอยู่ด้วยกันได้อย่างพึ่งพาอาศัย  และเป็นการท่องเที่ยวเชิงนิเวศอย่างยั่งยืนนี่คือเป้าในการทำงานโดยได้ดำเนินงานผ่านไปแล้ว 7-80%  ซึ่งยังมีในส่วนของข้อพิพาทในที่ดินแปลงอื่น ชุมชนชาวเลออื่นก็จะดำเนินการลักษณะนี้เหมือนกัน  ให้เป็นชาวบ้านอยู่ร่วมกันห้ามซื้อขาย   ส่วนข้อพิพาทระหว่างเอกชนกับเอกชนหรือเอกชนกับชาวเลที่อยู่ในขบวนการพิจารณาคดีชั้นศาลขอไม่ก้าวร่วง  ส่วนชาวเลที่คิดว่าไม่ได้รับความยุติธรรมจะประสานหาทนายความผ่านสภาทนายความให้

…………………………

พม.สตูล จัดโครงการเสริมสร้างเครือข่ายสื่อมวลชน เพื่อประชาสัมพันธ์ภารกิจกระทรวง พม. และ ศรส.

พม.สตูล จัดโครงการเสริมสร้างเครือข่ายสื่อมวลชน เพื่อประชาสัมพันธ์ภารกิจกระทรวง พม. และ

อัพเดทล่าสุด