จากธุรกิจเพาะลูกนกกรงหัวจุกขาย สู่ยารักษาหวัดนก และกรงนกใบละหลักแสนบาท  เป็นเพียงส่วนหนึ่งของธุรกิจเกี่ยวเนื่อง ที่ชมรมนกกรงหัวจุกสตูลเดินหน้าผลักดัน ปกป้องให้เกมกีฬาพื้นบ้าน  ถูกต้องตามกฎหมาย   อยู่คู่สังคมไทย

          นกกรงหัวจุกจำนวนกว่า 30 ตัวที่นายสักรินทร์   อังวรโชติ  หรือ  “โจ ท่าน้ำ”  อายุ 38 ปีได้เพาะเลี้ยงเพื่อขายให้กับผู้ที่ชื่นชอบเลี้ยงนกกรงหัวจุก  โดยมีพ่อแม่พันธุ์สีขาวเผือกอมชมพู  ที่รูปทรงสวยงาม  และพ่อแม่พันธุ์ที่มีประสบการณ์  ผ่านสนามชนะหลายเวที    รวมทั้งการทำยาหวัดนกขาย  สร้างรายได้อีก 1 ทางให้กับผู้ที่ชื่นชอบเลี้ยงนกกรงหัวจุก

          นอกจากตัวนก  อาหารนก  ก็ยังมีสินค้าที่เชื่อมโยงกับนกกรงหัวจุก  โดยเฉพาะกรงนกที่เหล่าบรรดาเซียนนก  ที่มีกำลังทรัพย์มักจะซื้อไว้ประดับบารมี  และให้นกได้อยู่อาศัย  ด้วยผลงานที่มีฝีมือของช่างทำกรงนก  จากหลากหลายพื้นที่  เป็นงานฝีมือที่ต้องใช้ทั้งศาสตร์และศิลป์  ในการออกแบบกรงนกให้สวยงามวิจิตรบรรจง  เหมือนอย่างกรงนกใบนี้ที่มีราคาหลักแสนบาท   ด้วยการใช้มุกประดับตกแต่งและการแกะสลักลวดลาย  แม้กระทั่งภาชนะใส่น้ำในกรงนก  มีการใช้ถ้วยเบญจรงค์ บ้างก็ใช้ถ้วยทำจากหินอ่อน หรือถ้วยทำจากหยก  ตกแต่งได้อย่างสวยงามทรงคุณค่า

          นายสักรินทร์    อังวรโชติ  บอกว่า  เสียงที่ไพเราะ รูปทรงที่สวยงามทำให้ตนหลงใหลนกกรงหัวจุกมาตั้งแต่เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 4  จนถึงปัจจุบันยิ่งหลงไหล รัก และชื่นชอบ  การเพาะเลี้ยง การแข่งขัน การทำยารักษา รวมทั้ง การครอบครองกรงนกจากความชื่นชอบ   พร้อมยอมรับว่าเห็นด้วยหากจะมีการเอาจริงเอาจังหรือเอาผิดคนที่จับนกในป่ามาขายหรือแข่งขัน

         แต่ส่วนตัวเห็นว่าจากอดีตจนถึงปัจจุบัน  นกกรงหัวจุกสามารถเพาะเลี้ยงได้ อีกทั้งยังเป็นการสร้างมูลค่าให้กับหลากหลายธุรกิจที่เกี่ยวข้อง  อาทิ  เกษตรกรที่หาผลไม้อย่างกล้วยและมะละกอ  มาขายกลุ่มที่ชอบเลี้ยงนก  , กรงนกที่เห็นถึงความสวยงามด้านงานฝีมืออันทรงคุณค่า  เสมือนการสะสมทองคำ  เพราะราคาและฝีมือของช่างยิ่งเพิ่มมูลค่าให้กับกรงนกอย่างมากมายมหาศาล   นอกจากนี้ยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยว  ไม่ต่างกับการแข่งขันกีฬาทั่วไป   ทุกครั้งที่มีการแข่งขันนักกีฬาแข่งนก  ไม่น้อยกว่า 200 คนที่ตระเวนไปตามจังหวัดต่างๆ เกิดการกระจายรายได้  ที่พักโรงแรม  เพราะเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีการแก้ไข ปลดล็อคนกกรงหัวจุกออกจากสัตว์ป่าคุ้มครอง

       ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการขับเคลื่อนให้มีการปลดล็อกจากพ.ร.บ.สัตว์ป่าคุ้มครอง  ล่าสุดชมรมนกกรงหัวจุกจังหวัดสตูลและเครือข่ายทั่วประเทศ ได้ยื่นเรื่องขึ้นสู่สภาผู้แทนราษฎรแล้ว

……………………..

 

อัพเดทล่าสุด