สตูล-จัด “เกี่ยวข้าว  เป่าซัง” ปีที่ 2  ยกให้เป็นซอฟเพาเวอร์ชาวควนสตอ  เที่ยววิถีถิ่น  วิถีไทย หลังเริ่มได้รับความสนใจจากชาวต่างชาติ

          กระแสการท่องเที่ยววิถีถิ่น  วิถีไทย  ทำให้ประชาชนในชุมชนมีความตื่นตัวภาคภูมิใจ  ในวัฒนธรรมวิถีชุมชนที่พร้อมจะช่วยกันรักษาให้ดียิ่งขึ้นและมีรายได้จากการท่องเที่ยว

 

          ที่บริเวณทุ่งรวงทองเขาจุมปง   หมู่ที่ 2 ตำบลควนสตอ   อำเภอควนโดน   จังหวัดสตูล  นายซะรี่ย์อะซีร   นุ่งอาหลี   นายก อบต.ควนสตอ   ได้บูรณาการงานร่วมกับสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอควนโดนและสำนักงานเกษตรอำเภอควนโดน   จัดโครงการส่งเสริมการท่องเที่ยวตำบลควนสตอ  ประจำปีงบประมาณ 2567   ภายใต้ชื่อ   “เกี่ยวข้าว  เป่าซัง  ย้อนความหลังฟื้นฟูประเพณีวิถีชาวนา  สืบสานภูมิปัญญา และวิถีชีวิต”  ปีที่ 2

 

          โดยเชิญว่าที่พันตรียุทธนา เจ้าดูรี นายอำเภอควนโดน ร่วมเป็นประธาน เปิดงานด้วยการเป่าซังข้าว  ด้วยกันอย่างพร้อมเพียงกัน  เพื่อแสดงสัญญาลักษณ์ของงาน   ซึ่งเป็นรูปแบบการจัดการท่องเที่ยววิถีถิ่น   วิถีไทย  สร้างอัตลักษณ์ใหม่ของเส้นทางการท่องเที่ยวตำบลควนสตอ   โดยนำเรื่องราวคุณค่าวัฒนธรรมประเพณี   วิถีชาวนาของตำบลควนสตอในกิจกรรมเกี่ยวข้าว (ด้วยเคียว และแกระ เครื่องมือโบราณ)  ตีข้าว   และภูมิปัญญาท้องถิ่นที่เกี่ยวเนื่องกับการทำนา   ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลายและดึงดูดให้ผู้สนใจมาท่องเที่ยววิถีถิ่นตำบลควนสตอ

 

          ด.ญ.รายา  มุหมีน  และ  ด.ญ.ณัสริน   หวังกุหลำ  นักเรียนชั้นป. 5  จากโรงเรียนบ้านกุบังปะโหลด  ที่มาร่วมกิจกรรมบอกว่า  ตื่นเต้นและสนุกมากที่มาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้  ได้เรียนรู้เกี่ยวกับนาข้าว และได้เป่าปี่ เป่าซังข้าว  ซึ่งมีเสียงแปลกแตกต่างกันไป  ได้ร่วมเก็บข้าว ตีข้าว และทิ่มข้าว

 

          ขณะที่ นายซะรี่ย์อะซีร   นุ่งอาหลี   นายก อบต.ควนสตอ   กล่าวว่า   ปีนี้ได้รับสนใจจากกลุ่มเป้าหมายนักเรียนมาร่วมกิจกรรมเยอะมากกว่า  300 คน ทั้งนักเรียนในพื้นที่และต่างพื้นที่เข้ามาศึกษาดูงาน  วัฒนธรรมเก่าๆประเพณีเก่าๆของบรรพบุรุษของเรา  ทำนาแบบไหนเก็บเกี่ยวแบบไหนเป็นการอนุรักษ์ให้รุ่นหลังได้เรียนรู้  ว่ามีความลำบากมากแค่ไหนกว่าจะมีพวกเราในวันนี้  และให้ได้เรียนรู้ว่าวิถีชีวิตวิถีชุมชนสามารถนำมาพัฒนาให้เป็นงานด้านการท่องเที่ยว  พ่อค้าแม่ค้าก็มาขายของ  สินค้าชุมชนก็ขายให้กับนักท่องเที่ยว เป็น concept ที่เราต้องการพัฒนาวิถีชุมชนท่องเที่ยวให้เกิดความยั่งยืน

 

          นายก อบต.ควนสตอ    กล่าวเพิ่มเติมว่า  ปีนี้เริ่มเห็นได้ว่ามีหลายประเทศเข้ามาร่วมกิจกรรม  ทั้งอินโดนีเซีย  อียิปต์  ฝรั่ง  และเพื่อเป็นการยกระดับการจัดการแข่งกิจกรรมปีหน้าจะขยายกลุ่มเป้าหมายชาวต่างชาติให้มากขึ้น  เพื่อเผยแพร่ให้เห็นวิถีชีวิตของคนบ้านเรา  เป็นเรื่องที่เราชาวควนสตอควรจะภูมิใจ   ไม่ได้เป็นเรื่องที่น่าอาย  ที่เกิดมาเป็นลูกหลานชาวนา  ถือเป็น soft power ของชาวตำบลควนสตอเพราะทุกคนที่นี่ทำนากันทุกคน

          ……………………………….

อัพเดทล่าสุด