สตูลผสมกำลังเปิดปฏิบัติการยุทธการฟ้าสางอันดามัน รอบ 2   นำเรือตรวจการณ์ 3 หน่วยงานทางน้ำ ขนกำลังเกือบ 50  นาย ลงเกาะเร่งตรวจสอบเรือโดนเผา พบผู้ต้องสงสัยไหวตัวหลบหนี   

             วันที่ 24 พ.ค.2567 น.อ.แสนย์ไท บัวเนียม รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล (ศรชล.สตูล) พร้อมกำลังตำรวจน้ำสตูล ตม.สตูล ตชด 436 สตูล ตำรวจ สภ.เมืองสตูล ทหารหมวดปืนเล็ก ร้อยร 5021 และฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสตูล 48 นายสนธิกำลังตรวจสอบคดี “เผาเรือ” ที่เป็นเรือเป้าหมายน่าเชื่อได้ว่ากระทำความผิดกฎหมาย ที่เกาะยาว ต.ปูยู อ.เมือง จ.สตูล

            โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเรือต้องสงสัย ภายใต้ยุทธการฟ้าสางอันดามัน พบเรือต้องสงสัยแล่นอยู่บริเวณน่านน้ำเกาะยาว หลังเรือจอดเทียบฝั่งที่เกาะยาว จึงเข้าตรวจสอบเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2567 ก่อนถูกขัดขวาง เกิดการเขวี้ยงปาก้อนหินใส่เรือเจ้าหน้าที่ขณะเข้าตรวจสอบ จนเจ้าหน้าที่ต้องถอนกำลังออก ลอยเรือตรวจสอบอยู่ภายนอกกระทั่งพบมีการถอดเครื่องยนต์เรือ เหลือแต่ตัวเรือก่อนเผาเรือไฟลุกควันโขมง ในช่วงเช้าวันที่(23 พ.ค.2567)

            จากนั้น เจ้าหน้าที่นำเรือตรวจการตำรวจน้ำ 521 เรือตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสตูล1 และเรือตรวจการของ ศรชล. เข้าเทียบฝั่งเกาะยาว เกาะที่เกิดเหตุดังกล่าว ทางนายอำเภอเมืองสตูล มอบหมายให้ฝ่ายปกครองของอำเภอเมืองสตูล และฝ่ายป้องกันจังหวัดสตูล ประสานงานกับทางผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ก่อนเข้าตรวจสอบพบร่องรอยสภาพเรือถูกเผาไหม้ ช่วงท้ายเรือจนเกิดรอยรั่วไม่สามารถนำเข้าฝั่งแผ่นดินใหญ่ได้

           ด้านนายยัสมี หมานสัน ผญบ.1 เกาะยาว ต.ปูยู อ.เมือง จ.สตูล ผู้นำท้องที่อยู่ประจำบนเกาะแห่งนี้ พร้อมที่จะให้ความร่วมต่อเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย และพร้อมขึ้นไปบนฝั่งเพื่อแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสตูล และรวมรวบรายชื่อบุคคลที่ขัดขวาง การทำงานของเจ้าหน้าที่ส่งให้ตรวจสอบ

          ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าผู้ต้องสงสัยที่เป็นเจ้าของเรือลำดังกล่าวนั้น เป็นชาวมาเลเซีย ที่มาอาศัยอยู่บนเกาะยาวแห่งนี้ และมีครอบครัว มีภรรยาเป็นคนบนเกาะยาว ทั้งคนและเรือเป็นที่น่าสงสัย พบมีประวัติทำสิ่งผิดกฎหมาย ในน่านน้ำทางทะเลของจังหวัดสตูล และจากสาเหตุการเผาเรือลำนี้ น่าเชื่อได้ว่า เจ้าของเรือกลัวมีความผิด และทางเจ้าหน้าที่ต้องการที่จะนำเรือลากไปตรวจสอบบนฝั่ง จึงเร่งเผาทำลายหลักฐาน เรือลำนี้ แต่สภาพอากาศไม่เป็นใจ มีฝนตกลงมาทำให้เรือเสียหายช่วงท้ายเรือเท่านั้น

         ด้าน น.อ.แสนย์ไท บัวเนียม รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล (ศรชล.สตูล) กล่าวหลังได้พูดคุยกับผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวพบว่า เป็นปัญหาจากคนกลุ่มหนึ่งที่ ขัดขวางการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยการเข้ามาในวันนี้เพื่อตรวจสอบรายละเอียดของข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ของรัฐในเบื้องต้นนี้ก็คือ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วย และคนในพื้นที่ว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่รัฐส่วนที่เกี่ยวข้องจะได้ดำเนินการต่อไป ถือเป็นการมาเยี่ยมเยียนมาดูแลในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งก็ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการศรชล.จังหวัดสตูล เป็นการสื่อให้ผู้กระทำความผิดได้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มาในวันนี้มีข้อมูลด้านการข่าวครบถ้วน

          ฉะนั้นผู้ใดที่จะกระทำผิดที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือผลประโยชน์ของชาติทางภาพรวม ก็ขอให้ยุติ เพราะจะต้องมีการดำเนินการป้องกันปราบปราม เพื่อคงสภาพผลประโยชน์ของชาติต่อไป

         สำหรับคดีนี้ ขั้นแรกเจ้าของพื้นที่จะต้องแจ้งความดำเนินคดีเพราะเกิดเหตุวางเพลิง หลังจาก เจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องจะทำการสืบสวน สอบสวน หาคนกระทำผิดต่อไป
สำหรับเรือลำดังกล่าว เป็นหางยาวทำด้วยไฟเบอร์กล๊าซ เครื่องยนต์ติดท้ายจำนวน 2 เครื่อง ขนาดกว้างประมาณ 1.5 เมตร ยาวประมาณ 5 เมตร สีฟ้าสลับขาว โดยเรือลักษณะดังหล่าวนี้แล่นเร็ว
………………………………

อัพเดทล่าสุด