‘Satun Old Town บุรีวานิช’ คึกคัก! คณะผู้บริหารจังหวัดสตูลใส่ชุดเคบายา นำนักเล่าเรื่องชื่อดัง ‘มาโนช พุฒตาล’ ท่องย่านเมืองเก่าด้วยรถราง
‘Satun Old Town บุรีวานิช’ คึกคัก!
สตูล-สองสามีภรรยาสู้ชีวิต! ขายส้มตำเลี้ยงชีพ เก็บสวนหลังบ้านเป็นเครื่องเคียง ลูกค้าชมหวานกรอบไร้สารพิษ กุ้งทะเลร้าตัวโตอร่อยแห่อุดหนุนให้กำลังใจ
ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันไป ตราบใดที่ 2 มือสองเท้ายังมีขอเพียงไม่ยอมแพ้ เหมือนอย่างครอบครัวสองสามีภรรยาชาวสตูลนี้
หลังรักษาตัวจนหายเจ็บป่วย จากโรค(ลิ้นหัวใจ และไทรอยด์ทั้งคู่) ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา ต้องหยุดรักษาตัว สองสามีภรรยาก็สามารถออกทำมาหากินได้ เดินหน้าทำอาชีพที่รักและถนัด ด้วยการเปิดร้านส้มตำไก่ย่าง คอดียะห์ ร้านเพิงเล็กๆ ริมถนน สายแยกควนสตอ-วังประจัน ตั้งอยู่หมู่ที่ 8 ตำบลควนสตอ (เลยสามแยกควนสตอเพียง 1 กิโลเมตรซ้ายมือ) ก็จะพบกับร้านส้มตำของคอดียะห์ ร้านนี้ดูผิวเผินอาจจะเป็นร้านเล็กๆ ธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา
เพราะผักและเครื่องเคียงเกือบทุกชนิดที่นี่ ใช้ปรุงเป็นเมนูส้มตำจะนำมาจากสวนครัวหลังบ้านที่ก๊ะคอดียะห์ ที่เป็นคนลงมือปลูกด้วยตัวเองพร้อมยืนยันว่าผักภายในสวนนี้ปลอดจากสารพิษ 100% ไม่ว่าจะเป็น ถั่วฝักยาว มะเขือ พริกสด ผักบุ้ง คะน้า และผักอื่นๆอีกมากมายที่ปลูกเป็นส่วนผสมและเป็นผักเครื่องเคียงสำหรับใช้ปรุงในการทำเมนูส้มตำขายเลี้ยงปากท้อง
ลูกค้าที่มาทานส้มตำที่ร้านนี้ ยังสามารถที่จะเดินเก็บผักมารับประทานเองได้ หรือจะให้แม่ค้าไปเก็บผักในสวนมาเป็นผักเครื่องเคียงทานกับส้มตำ ก็จะได้รสชาติที่หวานกรอบอร่อย และเชื่อมั่นได้ว่ารับประทานผักที่ร้านส้มตำไก่ย่างนี้แล้วจะปลอดภัยจากสารพิษตกค้างอย่าง 100% เพราะผักทุกชนิดคุณคอดียะห์ปลูกเองกับมือโดยมีสามีเป็นผู้ช่วย
นอกจากนี้เมนูส้มตำปลาร้าของที่ร้านนี้ก็จะใช้กุ้งทะเลทำเป็นกุ้งร้าแทนปลา เป็นสูตรใหม่ที่ก๊ะคอดียะห์คิดสูตรขึ้นมาเอง ได้รสชาติกลมกล่อมอร่อยถูกใจลูกค้าไม่น้อย และยังสร้างจุดขายให้กับทางร้านเล็กๆ ได้รับประทานกันด้วย
นางบีเซาะ เกปัน ลูกค้าบอกว่า มาทานครั้งแรกก็รู้สึกประทับใจกับร้านนี้ นอกจากรสชาติที่อร่อยเหมือนต้นตำรับมาจากอีสาน เนื่องจากแม่ค้าเป็นคนพื้นเพจังหวัดบุรีรัมย์ แต่มาตั้งรกรากเป็นสะใภ้มุสลิมที่นี่ ยิ่งสร้างความมั่นใจและประทับใจกับผักที่ปลูกขึ้นมาเอง ให้กับลูกค้าได้ทานอย่างปลอดภัยด้วยรสชาติหวานกรอบอร่อย และยิ่งประทับใจในตัวแม่ค้าที่เป็นคนสู้ชีวิต แม้จะเจอมรสุมเข้ามาก็ไม่ย่อท้อก็อยากจะสนับสนุนและอุดหนุนเชิญชวนให้คนมากินส้มตำที่นี่ที่อร่อยและมีผักปลอดภัยไว้บริการในราคาย่อมเยา
นายมะอุเส็น แซะอามา สมาชิกอบต.ควนสตอ บอกว่า จะมาอุดหนุนลูกบ้านรายนี้อยู่เป็นประจำถ้ามีโอกาส เพราะอดีตเคยปลูกผักปลอดสารพิษขาย เมื่อล้มป่วยลงทั้งสองคนสามีภรรยาก็หยุดไปพักใหญ่ และกลับมาค้าขายอีกก็อยากจะมาอุดหนุนและอดชื่นชมไม่ได้ถึงฝีมือการปรุงอาหารรวมทั้งผักที่ปลอดภัยนำมาขายให้กับลูกค้าอยากให้ทุกคนมาช่วยกันอุดหนุนให้เยอะๆเพื่อเป็นกำลังใจให้กับเขาทั้งสอง
นอกจากผักที่สดหวานกรอบแล้ว นางคอดียะห์ ยังมีกุ้งทะเลร้า สูตรที่คิดขึ้นเองใช้แทนปลาร้า สร้างความแปลกใหม่ให้กับสูตรส้มตำของที่นี่ โดยลูกค้าก็จะได้รับประทานกุ้งร้า ตัวโตในราคาย่อมเยา โดยจะขายเป็นเมนูส้มตำกุ้งร้า เพียงจานละ 30 บาท และหากเป็นเมนูส้มตำไข่เค็มจานละ 40 บาทนอกจากนี้ยังมีเมนู ส้มตำไทย, ตำมะม่วงและตำซั่ว, รวมทั้งไก่ย่างไม้ละ 10 บาท
นางคอดียะห์ เหมสลาหมาด อายุ 50 ปี บอกว่า เดิมทีตนมีอาชีพขายส้มตำไก่ย่างมานานกว่า 30 ปีหลังจากที่ล้มป่วยลงได้หยุดไป 5 ปีและพึ่งที่จะกลับมาขายเหมือนเดิมเพราะไม่รู้จะไปทำอาชีพอะไรและเห็นว่าตัวเองมีความถนัดในอาชีพนี้เลยตั้งใจกับสามีว่าจะช่วยกันขายส้มตำไก่ย่างและใช้ผักที่ชื่นชอบในการปลูกไว้หลังบ้านมาเป็นผักเครื่องเคียงให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ ได้ทานกันอย่างจุใจในราคาย่อมเยา โดยเริ่มต้นที่ราคา 30 บาท ในเมนูส้มตำธรรมดาและ 40 บาท ในเมนูส้มตำไข่เค็มและส้มตำมะม่วง รวมทั้งตำซั่ว ไก่ย่างไม้ละ 10 บาทซึ่งเมนูมีไม่มากนักทำค้าขายพออยู่ได้กัน 2 คนสามีภรรยาเพราะผักส่วนใหญ่ก็จะใช้ผักในส่วนตัวมาปรุงเป็นเมนูส้มตำ
ส่วนกุ้งทะเลที่นำมาเป็นกุ้งร้านั้น ได้ที่สูตรขึ้นมาเองทำเหมือนกับปลาร้าแต่เปลี่ยนมาเป็นกุ้งทะเลแทนก็รสชาติอร่อยดีให้ลูกค้าได้ทาน หลายคนก็ชื่นชอบในความหอมกลมกล่อม
โดยทางร้านจะเปิดขายทุกวันตั้งแต่เที่ยงไปจนกว่าของจะหมด โดยติดต่อสอบถามได้ที่โทร 080-608-2176 , 090-229-9740
……………………….
‘Satun Old Town บุรีวานิช’ คึกคัก!