Categories
ข่าวทั่วไป

สตูลปล่อยพันธุ์หอยชักตีนกว่าแสนตัว หลังพบปริมาณลดลง หวังฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล

สตูลปล่อยพันธุ์หอยชักตีนกว่าแสนตัว หลังพบปริมาณลดลง หวังฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล

           ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลสตูล พร้อมชาวบ้านในพื้นที่ตำบลเกาะสาหร่าย   ได้ดำเนินการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ประกอบด้วยพันธุ์หอยชักตีนมากกว่า 100,000 ตัว พร้อมพันธุ์กุ้งแชบ๊วย และแม่พันธุ์หอยชักตีนกว่า 10 กิโลกรัม ภายใต้โครงการนวัตกรรมธนาคารปูม้าสู่การจัดการทรัพยากรชายฝั่ง ตามแนวทางเศรษฐกิจสีน้ำเงินในจังหวัดสตูล โดยมี ผศ.ดร.ทัศนภา ว่องสนั่นศิลป์ เป็นหัวหน้าโครงการที่ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)  เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล  หลังพบว่าพันธุ์หอยชักตีนได้มีปริมาณลดลงจากท้องทะเล  

          สัตว์น้ำทั้งหมดถูกลำเลียงจากท่าเทียบเรือทุ่งริ้น อ.ท่าแพ ไปยังอ่าวบากันใหญ่ เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล ซึ่งเป็นเขตอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งประมงพื้นบ้าน หมู่ที่ 2 พื้นที่กว่า 1,000 ไร่ อันเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ทะเลหายาก อาทิ พะยูน เต่า และโลมา

         อย่างไรก็ตาม นายดลฮอนี สุวาหลำ กำนันตำบลเกาะสาหร่าย เปิดเผยว่า พื้นที่อนุรักษ์ยังประสบปัญหาสำคัญ เนื่องจากขาดสัญลักษณ์แสดงแนวเขตที่ชัดเจนและคงทน ทำให้มีชาวประมงจากพื้นที่อื่นเข้ามาทำประมงและทำลายแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ โดยเฉพาะการคลาดปลิงทะเล

        “เราต้องการการสนับสนุนจากภาครัฐในการจัดทำแนวเขตที่คงทนถาวร เพราะที่ผ่านมาทุ่นแสดงแนวเขตมักชำรุดภายใน 2-3 ปี พื้นที่อนุรักษ์นี้เปรียบเสมือนหม้อข้าวของชาวบ้าน เพราะประชากรกว่า 90% ประกอบอาชีพประมง และที่นี่ถือเป็นแหล่งผลิตอาหารทะเลที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดสตูล” นายดลฮอนีกล่าว

……………………………..

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

รองผู้ว่าฯ สตูลคนใหม่ เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เสริมสิริมงคล

รองผู้ว่าฯ สตูลคนใหม่ เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เสริมสิริมงคล

         วันที่ 20 ต.ค. 67  นางสาวดุษฎี พฤกษเศรษฐ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสงขลา เดินทางมาเข้ารับตำแหน่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากกระทรวงมหาดไทย และเพื่อความเป็นสิริมงคลในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ ได้เดินทางเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หลวงพ่อแก่ ณ วัดดุลยาราม ตำบลฉลุง อำเภอเมืองสตูล จากนั้นเดินทางไปสักการะอนุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ณ ค่ายสมันตรัฐบุรินทร์ ตำบลคลองขุด อำเภอเมืองสตูล และเดินทางกราบสักการะศาลเขาโต๊ะหยงกง หรือศาลม้าขาว ซึ่งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองสตูล และจากนั้นเดินทางเข้าบ้านพักรองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล โดยมีหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดสตูล นายอำเภอ หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ร่วมให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก

         โอกาสนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้การต้อนรับและมาร่วมแสดงความยินดีอย่างอบอุ่น ถือเป็นโอกาสอันดีที่ได้ย้ายมาดำรงตำแหน่งที่จังหวัดสตูล ซึ่งตนตั้งใจมาทำงานให้กับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสตูลอย่างเต็มความสามารถต่อไป

……………………………….
ภาพ / ข่าว : ศุภาพิชญ์ ดวงไข / ปาลิน เกื้อมี

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

สาวใหญ่สตูล ป่วยด้วยโรคประหลาด ขาบวมทั้งสองข้างต้องแบกติ่งเนื้อหนักกว่า 20 กิโลกรัม วอนช่วยรักษาให้หายขาด

สาวใหญ่สตูล ป่วยด้วยโรคประหลาด ขาบวมทั้งสองข้างต้องแบกติ่งเนื้อหนักกว่า 20 กิโลกรัม วอนช่วยรักษาให้หายขาด

           (21 ต.ค.2567) ที่ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล ทีมข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าได้มีครอบครัวหนึ่งที่ป่วยด้วยโรคร้ายต้องการความช่วยเหลือจากหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง    จึงเดินทางไปที่บ้านเลขที่  37 หมู่ที่ 1 ตำบลกำแพง   พบนางวราภรณ์   เหล็มหา  อายุ 51 ปี (หากดูผิวเผินแทบไม่รู้ว่ามีอาการผิดปกติของร่างกาย) โดยเจ้าตัวบอกว่าตนเองที่ป่วยเป็นโรคบวมน้ำเหลือง โดยช่วงท่อนร่างของร่างกายตั้งแต่โคนขาอ่อนลงไปถึงหลังเท้าสูงมีอาการบวมน้ำเหลือง ติ่งเนื้อที่บวมออกมาข้างขาอ่อนที่มีขนาดใหญ่กว่าลูกฟุตบอลทำให้นางวราภรณ์ ไม่สามารถสวมกางเกงชั้นในได้

            ทุกวันนี้ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก เดินเหินไม่สะดวก ขาอ่อนที่บวมเป็นติ่งเนื้อใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนแบกก้อนน้ำหนัก 20 กิโลกรัม ไว้ติดตัวด้วยตลอด  ทุกครั้งที่เดินเหมือนจะยักหลังหากไม่ระวังเพราะก้อนเนื้อที่บวมขนาดใหญ่จะรั้งไปด้านหลัง  ตอนนอนจะลำบาก นั่งก็ไม่เต็มเก้าอี้ อยากหายขาด อยากใช้ชีวิตให้เหมือนคนอื่น  แม้จะไม่หายขาดก็อยากให้มีอาการที่ดีกว่านี้ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยให้ตนได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง

           โดยทางนางวราภรณ์  และครอบครัว ยอมรับว่า เคยเป็นคนไข้ของพระบรมฯเมื่อประมาณปี พ.ศ.2540  ได้รับการผ่าตัดแล้ว 4-5 ครั้งในขณะนั้น คิดว่าตัวเองหายแล้ว จึงขาดการติดต่อกลับไป อยากให้คนอื่นที่อาการหนักกว่าได้เข้ารับการรักษาบ้าง ในช่วงนั้นจึงแต่งงานและมีลูก ไม่คิดว่าอาการจะกลับมาเป็นอีก อาการเริ่มเป็นที่หัวเข่าข้างเดียวก่อนลามเป็นอีกข้างตอนนี้เริ่มเป็นแผล ต้องใช้ผ้าก็อตพันไว้  

          และต่อมามีคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เมื่อ 4-5 ปีก่อน (ด้วยเงินบริจาค 300,000 บาทจากบิณบรรลือฤทธิ์) ได้ขึ้นไปกทม.พร้อมครอบครัวขึ้นไปอยู่ที่กทม.เพื่อตั้งใจว่าเงินที่ได้มาจะรักษา แบบขันชานอส รักษา 7 วัน12,000 บาท คือทำให้แผลที่บวมแห้งถึงจะผ่าตัดได้ เหมือนรีดน้ำให้หมดจนแผลเหี่ยวถึงจะผ่าตัดได้   สรุปหมดไปเป็นแสนกับการทำขันชานอส  สุดท้ายเงินหมดก่อน ไม่ได้ผ่าตัด แม้ครอบครัวตน พ่อแม่ลูกจะช่วยกันทำขนมขายตอนอยู่กรุงเทพแต่ก็ไม่พอกิน ลูกก็ย้ายไปเรียนที่นู้น อีกทั้งโควิดระบาดทำให้ต้องกลับมาบ้าน ขาดการรักษาต่อเนื่อง เพราะเงินไม่มี อาการก็กำเริบขึ้นมาอีกครั้ง   ประจวบเหมาะตรงกับโรคโควิคระบาดการรักษาไปได้ไม่   บ้านต้องเช่า ข้าวต้องซื้อ เลยตัดสินใจกลับบ้านที่สตูล

          นายย็ะยาห์  ดือราแม  อายุ 48 ปี  ผู้เป็นสามี  ยอมรับว่า ตนให้กำลังใจภรรยาได้เพียงแค่อยู่ด้วยใกล้ ๆ ให้เขาอุ่นใจ ไม่มีคำหวานปลอบแบบอื่นนอกจากการกระทำ อยากเห็นเขาหายจากโรคร้ายนี้และมีชีวิตกลับมาปกติเหมือนคนทั่วไป ทุกวันนี้ภรรยาและพวกเราในครอบครัวไม่ได้งอมืองอเท้า ช่วยกันทำขนมขาย มีรับจ้างที่ไหนตนก็ไปทันที มีรายได้เข้ามาเลี้ยงครอบครัวบางวัน 300 บาท  แต่ก็ไม่ได้ทุกวัน ลูกก็เรียนมัธยม 1 โชคดีที่ญาติพี่น้องหยิบยื่นให้บ้าง ไม่ทอดทิ้ง

 

          ขณะที่พี่สาวของ (นางวราภรณ์   เหล็มหา) เล่าด้วยทั้งน้ำตาถึงความสงสารน้อง ด้วยตนเป็นพี่คนที่ 4 จากทั้งหมด 8 คนน้องเป็นคนสุดท้อง (เสียไปแล้ว 3 คนเหลือกัน 5 คนพี่น้อง)  เห็นน้องก็เสียใจทุกครั้งแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร อยากให้เขาหาย ช่วยเหลือน้องตลอดทุนค้าขาย เท่าที่ช่วยได้ตามกำลัง  มาพูดคุยให้กำลังใจกันตลอด  ที่ไหนบอกมีหมอบ้านดีก็พาไป บางคนบอกถูกจอมปลวกก็บอกว่าไม่มีทางแก้ บ้างว่าโดนของ หลังรักษาหมอในสตูลแล้วไม่หาย เพราะหมอที่กรุงเทพก็ไม่มีกำลังจะพาไปรักษา    

 

         ขณะนี้นางวราภรณ์   เดินเหินไม่เหมือนคนอื่น  เหนื่อยง่าย ต้องเดินลากขายกขาไม่ค่อยขึ้นหากมีสิ่งกีดขวาง เดินได้แค่ระยะสั้น ๆ เท่านั้น อยากให้หน่วยงานเกี่ยวข้องวอนให้ช่วยเหลือ รักษาตนให้หายขาดตนไม่อยากจะป่วยเป็นโรคนี้อีกแล้ว หากไม่หายป่วยก็ขอให้อาการดีกว่านี้ เอาติ่งเนื้อก้อนใหญ่ที่ห้อยนี้ออกให้ตนด้วย

 

          หากท่านใดมีกำลังอยากช่วยเหลือตน สามารถบริจาคได้ที่เลขบัญชี ธนาคาร กสิกรไทย สาขาบิกซี ตรัง 108 8 66362 0 ชื่อบัญชี นางสาววราภรณ์  เหล็มหา

……………………………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

วิกฤตพะยูนสตูล! พบตายเพิ่มอีกเป็นตัวที่ 2 ในรอบปี

วิกฤตพะยูนสตูล! พบตายเพิ่มอีกเป็นตัวที่ 2 ในรอบปี

            นายดลฮอนี  สุวาหลำ กำนันตำบลเกาะสาหร่าย แจ้งว่า บ่ายสองของวันที่ 19 ที่ผ่านมาขณะทำภารกิจบนแพของรองโสน  ซึ่งตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมืองสตูล ชาวบ้านบนแพและตนได้เห็นร่างของพะยูนขนาดใหญ่ลอยน้ำมาเข้าใกล้แพดังกล่าว  

 

         โดยพะยูนที่ตายมีลำตัวยาวประมาณ 2 เมตร 20 เซนติเมตร สภาพตายหงายหน้าตามตัวมีร่องรอยถลอกคาดว่าจากแดดที่เผา น้ำหนักประมาณ 50-60 กิโลกรัม (ยกสองคนไม่ขึ้น)  โดยไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นเพศอะไร สภาพเหมือนพะยูนโตเต็มวัยหนุ่มสาว  จึงรีบแจ้งให้ศูนย์วิจัยทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งทะเลอันดามันตอนล่าง มารับตัว ไปพิสูจน์สาเหตุตายที่แน่ชัดอีกครั้ง

          กำนันตำบลเกาะสาหร่าย บอกด้วยว่า  พะยูนตัวนี้นับเป็นตัวที่ 2 ในรอบปีนี้ที่พบพะยูนตายที่เกาะสาหร่าย อำเภอเมืองสตูล โดยส่วนใหญ่ที่ตายผ่านมาพบว่าไม่บาดเจ็บ หรือตายจากปัญหาขยะทะเล  โดยที่ผ่านมามีหลายมหาลัยวิทยาลัยมาทำวิจัย  ซึ่งพบว่าใกล้เกาะสาหร่ายเป็นแหล่งอยู่อาศัยของพะยูน และโลมา แต่ทางชาวบ้านไม่ทราบเรื่องประชากรที่แน่ชัด  มีหลายองค์กรเข้ามาจะมาปลูกหญ้าทะเลเพิ่มให้แต่ก็เงียบหายไป  จึงทำให้การดูแลปกป้อง พะยูน โลมา ทำได้ไม่เต็มที่

         ส่วนตนเคยนำเอาแผนเสนอท้องถิ่น ในการกำหนดให้ตำบลเกาะสาหร่ายเป็นจุดชมพะยูน แต่ไม่สำเร็จเพื่อที่จะได้ให้ชาวบ้านและชาวสตูลช่วยกันดูแลพะยูนให้เต็มที่ ให้นักท่องเที่ยวเข้ามาชม ความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลอันดามันที่เกาะสาหร่าย เหมือนอย่างที่ตรังเขาทำประสบความสำเร็จ  อีกทั้งปัญหาประมงพื้นบ้านของเราก็ยังไม่เข้มแข็ง เป็นการคุยกันเฉพาะกลุ่ม และปัญหาเศรษฐกิจที่ไม่ดี ทำให้ชาวประมงหมู่บ้านอื่นเข้ามาทำลายมากกว่าเข้ามาหากินเหมือนประมงพื้นบ้านทั่วไป

……………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

 สตูล-ตักบาตรเทโว ก่อนร่วมชักพระ สืบสาน ประเพณี

สตูล-ตักบาตรเทโว ก่อนร่วมชักพระ สืบสาน ประเพณี

          ที่วัดมงคลมิ่งเมือง เทศบาลตำบลคลองขุด  อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ชาวพุทธศาสนิกชน ร่วมทำบุญตักบาตรเทโวข้าวสาร อาหารแห้ง แด่พระภิกษุสงฆ์ เพื่อระลึกถึงวันที่พระพุทธเจ้าเสด็จลงจากสวรรค์ ชั้นดาวดึงส์เสด็จ หลังจากที่พระองค์แสดงพระอภิธรรมโปรดพระมารดา ทรงจำพรรษาที่นั้นเป็นเวลา 3 เดือน และกลับจากเทวโลก

 

          จากนั้นทุกคนก็จะไป ร่วมทำบุญ ด้วยการนำ ขนมต้ม ไปแขวนที่เรือพระ  ซึ่งเป็นอีกหนึ่ง ประเพณีที่เชื่อว่าเรือลากพระจะช่วยให้เกิดอานิสงส์ผลบุญ ทำให้ฝนตกตามฤดูกาล และการทำบุญจะช่วยส่งผลบุญกุศลให้ประสบความสำเร็จ 

         นอกจากนี้ประเพณีลากพระยังเป็นการแสดงให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างวิถีชีวิตของคน และแสดงถึงความพร้อมใจที่จะทำบุญทำกุศลรวมถึงความสนุกสนานครื้นเครงในกิจกรรม

 

           และในบ่ายวันนี้เทศบาลตำบลคลองขุด  ได้จัดงานลากพระหรือชักพระอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีการประกวดเรือลากพระ การประกวดแทงต้มการประกวดทำน้ำยาขนมจีน  การแข่งขันปีนเสาน้ำมันและการละเล่นพื้นบ้านอีกมากมายเพื่อเป็นการสืบสานประเพณี วัฒนธรรมพื้นบ้าน และสืบสาน ตามหลักพระพุทธศาสนา โดยมีการจัดขึ้นบริเวณหน้าโรงเรียนสตูลวิทยา ตำบลคลองขุด  อำเภอเมือง   จังหวัดสตูล

……..

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

เกษตรสตูล ส่งมอบสารชีวภัณฑ์เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสตูล

เกษตรสตูล ส่งมอบสารชีวภัณฑ์เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสตูล

          วันที่ 8 ตุลาคม 2567 นางสุดา ยาอีด เกษตรจังหวัดสตูล พร้อมด้วย นางสาวพรรษกร จันทร์แก้ว  หัวหน้ากลุ่มอารักขาพืช และเจ้าหน้าที่กลุ่มอารักขาพืช สำนักงานเกษตรจังหวัดสตูล ส่งมอบสารชีวภัณฑ์ ได้แก่ เชื้อราไตรโคเดอร์มา (เชื้อสด) และหัวเชื้อไตรโคเดอร์มา โดยได้รับการสนับสนุนจากศูนย์ส่งเสริม และเทคโนโลยีการเกษตรด้านอารักขาพืช จังหวัดสงขลา จำนวน 420 กิโลกรัม และหัวเชื้อไตรโคเดอร์มา จำนวน 240 ขวด เพื่อใช้ควบคุมโรครากเน่า โคนเน่า หลังน้ำลด อีกทั้งได้รับการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์ผัก และถั่วฝักยาวไร้ค้าง (พันธุ์สุรนารี 1) จากศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 2 จังหวัดตรัง

 

        ซึ่งได้ส่งมอบให้แก่สำนักงานเกษตรอำเภอ ทั้ง 7 อำเภอในจังหวัดสตูล เพื่อให้เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอ นำมอบให้แก่เกษตรกรที่ประสบภัยพิบัติ (อุทกภัย) ด้านพืช ในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ฝนตกหนักถึงหนักมากในพื้นที่จังหวัดสตูล เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา โดยส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และเกิดน้ำท่วมขัง ในพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยจังหวัดสตูลมีเกษตรกรผู้ประสบภัย จำนวน 2,281 ครัวเรือน พื้นที่ได้รับผลกระทบ จำนวน 9,422 ไร่ และพื้นที่คาดว่าจะเสียหาย จำนวน 1,664 ไร่

          ทั้งนี้ เกษตรกรผู้ปลูกพืชที่ได้รับผลกระทบ สามารถติดต่อขอรับการสนับสนุนเชื้อราไตรโคเดอร์มาเพื่อควบคุมโรครากเน่า โคนเน่า และขอรับคำปรึกษาด้านการป้องกันกำจัดโรคพืชได้ ณ ศูนย์บริการเกษตรพิรุณราชสำนักงานเกษตรอำเภอใกล้บ้านท่าน

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สตูล-อดีตผู้รับเหมาก่อสร้าง  ชีวิตพลิกผัน  ทำไม้กวาดขาย  สู้ชีวิตไม่ย่อท้อ

สตูล-อดีตผู้รับเหมาก่อสร้าง  ชีวิตพลิกผัน  ทำไม้กวาดขาย  สู้ชีวิตไม่ย่อท้อ

         นายไตรรงค์   คงปาน วัย 57 ปี อดีตผู้รับเหมาก่อสร้างรายใหญ่   ผู้ที่ชีวิตพลิกผันหลังประสบอุบัติเหตุขี่รถตกหลุมจนร่างกายไม่เหมือนเดิม  แต่ด้วยจิตใจที่เข้มแข็ง เขาเลือกที่จะลุกขึ้นสู้ทันทีที่ร่างกายดีขึ้น  ด้วยการผันตัวมาทำไม้กวาดขาย  โดยจำวิธีการจากคนอื่นแล้วมาทดลองทำเองจนสร้างรายได้

        “ผมไม่อยากเป็นภาระให้ใคร”   นายไตรรงค์กล่าวขณะสาธิตการทำไม้กวาดทางไม้ไผ่จากไม้ไผ่สีสุก   ที่กระท่อมหลังเล็กสร้างขึ้นอย่างง่ายเพื่ออยู่อาศัย   ในที่ดินของน้องสาวย่านซอยคลองขุด 19 ( หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าซอยน้องแป้น)  หมู่ที่ 7 เขตเทศบาลตำบลคลองขุด  อำเภอเมือง จังหวัดสตูล

          ด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น  เขาเลือกเชื่อว่าจะช่วยสร้างรายได้แม้ไม่มาก แต่ไม่เป็นภาระน้องสาวหรือภาระใคร  โดยใช้ไม้ไผ่สีสุกที่มีคุณสมบัติโค้งงอได้ดีมาทำเป็นซี่ไม้กวาด   ส่วนด้ามจะใช้ไม้ไผ่ที่มีเปลือกหนาเพื่อความแข็งแรง เพื่อจำหน่ายในราคาย่อมเยา   โดยไม้กวาดด้ามเล็กราคาขายเพียง  50 บาท ส่วนด้ามใหญ่ตามความสูงของลูกค้าราคาอยู่ที่  80 บาท

         จุดเริ่มต้นของธุรกิจเล็ก ๆ  นี้ เริ่มจากการทำตัวอย่างเพียง 2 อันไปเสนอตามร้านค้า  เมื่อได้รับการตอบรับที่ดี จึงรับออร์เดอร์ครั้งละ 10 อัน  ใช้เวลาประมาณ 10-15 วันในการผลิตและส่งมอบสินค้าแต่ละรอบ

          นอกจากการทำไม้กวาดแล้ว    นายไตรรงค์  เขายังใช้พื้นที่ว่างของน้องสาวเพื่อปลูกผักสวนครัว  โดยตั้งใจแบ่งปันให้น้องสาวและเพื่อนบ้านได้ทานโดยไม่คิดค่าใช้จ่าย  สะท้อนให้เห็นถึงน้ำใจที่มีต่อชุมชน แม้สภาพร่างกายยังไม่สมบูรณ์นักจากอุบัติเหตุ

          นายชัยณรงค์  ไชยจิตต์  ประธานสภาวัฒนธรรมอำเภอเมืองสตูลในพื้นที่  เล่าว่า   “ผมติดตามชีวิตของเขามากว่า 2 ปี เห็นถึงความมุ่งมั่นและการเป็นคนที่มีน้ำใจ แม้สภาพร่างกายจะไม่สมบูรณ์ แต่ก็ไม่เคยย่อท้อ” พร้อมเสริมว่าในอนาคตอยากผลักดันให้เป็นแหล่งเรียนรู้ของชุมชน เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ที่กำลังท้อแท้ได้เห็นว่า ชีวิตยังมีหนทางให้สู้เสมอ

          การไม่ย่อท้อต่อโชคชะตาของชีวิตที่พลิกพัน ชั่วข้ามคืนจากที่เคยมีเงิน  มีงาน มีครอบครัว  มีลูกน้องจำนวนมาก  แม้วันนี้จะเหลือเพียงน้องสาวกับแม่บังเกิดเกล้า  แต่เขาก็ไม่คิดจะให้เป็นภาระกับใคร  พอใจกับรายได้ที่ทำด้วยน้ำพักน้ำแรง  มีข้าวกิน  มีเงินจากบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ  และได้แบ่งปันสังคมบ้างตามกำลัง     โดยเฉพาะเงินหมื่นบาทที่ได้รับจากรัฐบาลมาก็ตั้งใจจะเอาไปต่อยอดธุรกิจ ซื้ออุปกรณ์เพิ่มเติมเพื่อขยายการผลิตไม้กวาดต่อไป

         ผู้สนใจสามารถติดต่อสั่งซื้อไม้กวาดได้ที่ โทร. 093-054-1664

…………………………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

เทคโนโลยีพร้อมใช้สู่แก้ปัญหาให้กับเกษตรกรผู้เพาะเห็ดจังหวัดสตูล

เทคโนโลยีพร้อมใช้สู่แก้ปัญหาให้กับเกษตรกรผู้เพาะเห็ดจังหวัดสตูล

          ที่ฟาร์มเห็ดบ้านช่าง ตำบลอุไดเจริญ  อำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล ซึ่งมีนายทวีศักดิ์  เรหนูกลิ่น (เกษตรกร) เป็นหนึ่งในเกษตรกรพื้นที่โมเดลที่มีการส่งเสริมอาชีพด้วยการใช้โรงเรือนแบบอัจฉริยะ  จากทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย จ.สงขลา  ซึ่งวันนี้ ผศ.ดร.อภิรักษ์  สงรักษ์   รองอธิการบดี  มทร.ศรีวิชัยพร้อมด้วยคณะวิศวกรรมศาสตร์ , อ.ดีน อาจารย์มทร.ศรีวิชัย หัวหน้าโครงการวิจัยฯ

 

          ลงพื้นที่ติดตามความก้าวโครงการ พบว่ากระบวนการผลิตก้อนเห็ดยังคงต้องมีการพัฒนา และ นำเทคโนโลยีควบคุมอุณหภูมิการบ่มเพาะก้อนเห็ดรวมทั้งการใช้เทคโนโลยีราคาย่อมเยาว์มาใช้เพื่อทุ่นแรงกรณีมีความต้องการของที่มากขึ้น  ส่วนการใช้เทคโนโลยีแบบอัจฉริยะมาควบคุมอุณหภูมิโรงเรือนและก้อนเห็ดในสภาพอากาศที่แปรปรวนของพื้นที่ จ.สตูล  สามารถสร้างผลผลิตให้ออกอย่างสม่ำเสมอ และตรงความต้องการของตลาด

 

          ผศ.ดร.อภิรักษ์  สงรักษ์   รองอธิการบดี  มทร.ศรีวิชัย  บอกว่า   ส่งเสริมอาชีพการใช้โรงเรือนแบบอัจฉริยะทางมหาวิทยาลัยได้เข้ามาช่วยดูเรื่องกระบวนการผลิตและพบว่า การพัฒนาก้อนเห็ดของจังหวัดสตูลมีปริมาณเพียงพอที่จะตอบโจทย์โจทย์ก้อนเห็ดและการปลูกเห็ด  ต่อไปคือทำอย่างไรให้ก้อนเห็ดมีคุณภาพก็ให้ลูกค้าได้ก้อนเห็ดมีคุณภาพอย่างสม่ำเสมอ พบว่าที่นี่ยังต้องการความรู้การจัดการก้อนเห็ดอย่างมีคุณภาพในช่วงบ่มก้อนเห็ดหลังสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงไป  การใช้เครื่องทุ่นแรงในกรณีมีความต้องการมาก  ที่เป็นเทคโนโลยีอย่างง่ายไม่ได้แพงเกินไป  มาปรับใช้ให้เหมาะกับพื้นที่  ปัญหาที่ต้นน้ำเรื่องของ supply คนปลูกและก้อนเห็ดเป็นการเตรียมความพร้อมหากต้องเจอกับตลาดใหญ่  ความต้องการที่มากขึ้นเกษตรกรสามารถตั้งรับได้  แล้วสามารถเชื่อมโยงกับ B2B หรือ b2c ที่เชื่อมโยงมาอย่างต่อเนื่องได้  นั่นหมายความว่าความมั่นคงของอาชีพครัวเรือนและรายได้ที่เราคาดหวังมีอย่างต่อเนื่องและมั่นคง  

 

          เกษตรกรเพาะเห็ดสตูลพลิกวิกฤตด้วยเทคโนโลยี หลังขาดทุนกว่า 5 หมื่นจากสภาพอากาศแปรปรวน

เกษตรกรผู้เพาะเห็ดในจังหวัดสตูลเผยความสำเร็จหลังนำเทคโนโลยีสมัยใหม่มาช่วยในการผลิต แก้ปัญหาผลผลิตไม่สม่ำเสมอจากสภาพอากาศแปรปรวน พร้อมวางแผนขยายกำลังการผลิตรองรับความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น

        นายทวีศักดิ์ เรหนูกลิ่น เกษตรกรผู้เพาะเห็ดในจังหวัดสตูล เปิดเผยว่า ฟาร์มเห็ดของตนประสบปัญหาขาดทุนกว่า 50,000 บาทในช่วงต้นปีที่ผ่านมา เนื่องจากสภาพอากาศร้อนจัดและแห้งแล้ง ส่งผลให้การผลิตไม่มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะในขั้นตอนการบ่มก้อนเห็ดที่ใช้เวลานานขึ้นจาก 30 วัน เป็น 45 วัน

        “ผมแบ่งการผลิตเป็น 2 ส่วน คือ การผลิตก้อนเห็ดและการเพาะดอกในโรงเรือน ซึ่งได้นำเทคโนโลยีใหม่มาใช้ในการควบคุมอุณหภูมิให้อยู่ที่ 30-32 องศา และรักษาความชื้นให้สม่ำเสมอ ทำให้มั่นใจว่าในปีหน้าจะสามารถรับมือกับสภาพอากาศแปรปรวนได้ดีขึ้น  ปัจจุบัน ฟาร์มมีลูกค้าประจำรับซื้อผลผลิตวันละ 50 กิโลกรัม โดยการนำเทคโนโลยีมาใช้ช่วยให้ผลผลิตมีความสม่ำเสมอ  ไม่ขึ้นลงตามสภาพอากาศเหมือนแต่ก่อน  นอกจากนี้ ยังสร้างความได้เปรียบทางการตลาด เนื่องจากเกษตรกรทั่วไปยังไม่มีการใช้เทคโนโลยีนี้ ทำให้ได้รับคำสั่งซื้อก้อนเห็ดจำนวนมากในช่วงฤดูเย็นชื้น” นายทวีศักดิ์ กล่าว 

 

มทร.ศรีวิชัย แนะเทคโนโลยีช่วยเกษตรกรเพาะเห็ด พร้อมเป็นพี่เลี้ยงผู้สนใจลงทุนใหม่

          ผศ.พิทักษ์ สถิตวรรธนะ  เจ้าของผลงานวิจัยฯ อาจารย์สาขาวิชาวิศวกรรมไฟฟ้า คณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย เปิดเผยถึงความสำเร็จของการนำเทคโนโลยีไปช่วยเกษตรกรผู้เพาะเห็ด โดยเฉพาะกรณีของ “ช่างเดี่ยว” เกษตรกรที่มีพื้นฐานช่างไฟฟ้า  “จากเดิมที่เคยดูแลเพียงโรงเรือนและควบคุมความชื้น นวัตกรรมใหม่นี้สามารถควบคุมอุณหภูมิของก้อนเห็ดโดยตรง เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น ระบบจะให้ความชื้นอัตโนมัติตามเวลาที่กำหนด ส่งผลให้เห็ดออกดอกสม่ำเสมอ” ผศ.พิทักษ์ กล่าว

 

          เทคโนโลยีดังกล่าวได้พิสูจน์ประสิทธิภาพแล้วกับโรงเรือน 4 หลังของช่างเดี่ยว ทำให้ทางมหาวิทยาลัยต้องการผลักดันให้เป็นต้นแบบสำหรับเกษตรกรรายใหม่ โดยเฉพาะกลุ่มผู้เกษียณอายุที่สนใจทำธุรกิจเพาะเห็ด เพื่อป้องกันความเสียหายจากการลงทุนที่อาจสูงถึงหลักแสนบาท   สำหรับผู้สนใจเริ่มต้นธุรกิจเพาะเห็ด ผศ.พิทักษ์แนะนำว่า “ควรเริ่มจากตู้เพาะเห็ดก่อน เพื่อเรียนรู้ทักษะการดูแลและการจัดการโรค เมื่อมั่นใจแล้วจึงค่อยลงทุนขยายเป็นโรงเรือน ซึ่งในจังหวัดสตูลมีให้เห็นทั้งสองรูปแบบ”  ทางมหาวิทยาลัยได้พัฒนาอุปกรณ์ 2 รูปแบบ:   ตู้เพาะเห็ดพร้อมกล่องควบคุม สำหรับผู้เริ่มต้น กล่องควบคุมอย่างเดียว สำหรับผู้ที่มีโรงเรือนอยู่แล้ว   “ราคาชุดอุปกรณ์อยู่ที่ 5,500 บาท รับประกัน 1 ปี พร้อมให้คำปรึกษาตลอดการใช้งาน ผู้สนใจสามารถติดต่อได้ที่สถาบันดูแลนวัตกรรมของมหาวิทยาลัยโดยตรง” ผศ.พิทักษ์กล่าวทิ้งท้าย

 

          และในวันเดียวกันได้มีการ “อบรมเชิงปฏิบัติการพัฒนานักวิจัยและนวัตกรรมชุมชน สรุปผลถอดบทเรียนและวางแผนงานวิจัยเพื่อขยายผลการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีแบบมีส่วนร่วม”  โดยเชิญทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องร่วม  ที่ห้องประชุมสมาคม วัฒนพลเมืองอำเภอละงู  จังหวัดสตูล

 

          ด้าน นางสุดา  ยาอีด   เกษตรจังหวัดสตูล  กล่าวว่า  ในส่วนของการต่อยอดเทคโนโลยีจากงานวิจัยนี้เราดูแล้วในส่วนของการเพาะเห็ดซึ่งส่วนมากเกษตรกรจะใช้ขั้นตอนวิธีการแบบเดิม ๆ ซึ่งก็เป็นโอกาสดีที่ทางมหาวิทยาลัยฯ นำงานวิจัยตรงนี้มาใช้สำหรับพี่น้องเกษตรกรโดยนำเอานวัตกรรมเทคโนโลยีเข้ามาเพื่อที่จะให้พี่น้องเกษตรกรมีผลผลิตในเรื่องของเห็ดเพิ่มมากขึ้นต่อยอดในเรื่องของรายได้สร้างอาชีพที่มั่นคงให้กับพี่น้องเกษตรกร  ในส่วนของการขยายผลคิดว่างานวิจัยตรงนี้น่าจะมีการขยายผลให้กับพี่น้องเกษตรกรที่อยากมีอาชีพเสริมในเรื่องของการเพาะเห็ด  ก็อาจจะมีงบประมาณมาสนับสนุนส่งเสริมให้กับพี่น้องเกษตรกรทำให้พี่น้องเกษตรกรเรามีรายได้เพิ่มขึ้นและมีอาชีพที่มั่นคง

 

          “นอกจากเพราะเห็ดก็สามารถนำไปสู่ผลผลิตชนิดอื่นได้  ผลผลิตจากเห็ดนี้ถ้ามีจำนวนมากเราก็อาจจะสนับสนุนถ่ายทอดความรู้ในเรื่องของการแปรรูปเพื่อที่จะให้มีผลิตภัณฑ์เพิ่มมากขึ้น และมีหลากหลายสินค้าที่ส่งเสริมให้กับพี่น้องเกษตรกรเพราะว่าสตูลของเราเองเป็นเมืองท่องเที่ยว  สามารถนำเป็นของฝากของขวัญให้แก่พี่น้องเกษตรกร และผู้ที่มากท่องเที่ยวจังหวัดสตูล  สุดท้ายก็เป็นนโยบายของทางภาครัฐโดยตลาดนำ   นวัตกรรมเสริม   เพิ่มรายได้  งานวิจัยนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้พี่น้องเกษตรกรสามารถที่จะดำเนินการตามนโยบายของภาครัฐได้” เกษตรจังหวัดสตูลกล่าวในที่สุด

 

           สำหรับเครือข่ายเกษตรกรผู้เพาะเห็ดในจังหวัดสตูล  ทางทีมวิจัยได้พัฒนาโจทย์ ภายใต้โครงการวิจัย “ขยายผลการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมแบบมีส่วนร่วมเพื่อเพิ่มความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานรากให้เครือข่ายเกษตรกรผู้เพาะเห็ดในจังหวัดสตูล โดยได้รับงบประมาณสนับสนุนจากหน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) มีกลุ่มเป้าหมาย 10 กลุ่มเป้าหมาย ในพื้นที่ 9 ตำบล 4 อำเภอของจังหวัดสตูล

 

           ชุดเทคโนโลยีการเพาะเห็ดอัตโนมัติของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย ประเภทเทคโนโลยีการเกษตรและนวัตกรรมเกษตร ลักษณะเด่นและคุณสมบัติการใช้งานเทคโนโลยีโครงตู้สามารถถอดประกอบได้ง่ายมีน้ำหนักเบาภายในตู้บรรจุก้อนเห็ดได้สูงสุด 120 ก้อน  มีระบบการให้ละอองน้ำ. แบบจานหมุนเหวี่ยงความเร็วสูงกล่องควบคุมสั่งงานผ่านระบบไร้สายและมีปุ่มเปิดปิดระบบให้น้ำแบบสัมผัสด้านหน้าระบบใช้พลังงานไฟฟ้ากระแสตรงแรงดันไม่เกิน 12 โวลต์ขนาดไม่เกิน 15 วัตต์

 

         การนำไปใช้ประโยชน์ตู้เพาะเห็ดออกแบบให้ผู้ใช้สะดวกในการประกอบขึ้นเป็นโรงเรือนขนาด ขนาดเล็กใช้สำหรับนำก้อนเห็ดจำนวนไม่เกิน 120 ก้อนเข้าไปเพราะดอกเห็ดเพื่อใช้จำหน่ายหรือบริโภคภายในครัวเรือนสามารถควบคุมให้ความชื้นก้อนเห็ดแบบอัตโนมัติ  โดยระบบการให้ละอองน้ำแบบจานหมุนเวียนความเร็วสูงผ่านกล่องควบคุมที่ใช้กำลังไฟฟ้าทั้งระบบไม่เกิน 15 วัตต์  ระบบควบคุมผ่านสัญญาณ WiFi จากกล่องควบคุมแบบออฟไลน์หมดได้

 

         โครงการวิจัยขยายผลการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมแบบมีส่วนร่วมเพื่อเพิ่มความเข้มแข็งเศรษฐกิจฐานรากให้เครือข่ายเกษตรกรผู้เพาะเห็ดในจังหวัดสตูล  ภายใต้กรอบวิจัยการขยายผลเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อยกระดับเศรษฐกิจฐานรากและแก้หนี้ครัวเรือนสนับสนุนโดยกองทุนส่งเสริมกอวนและหน่วยบ.พ.ท

………………………………………..

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

 ไม่ว่าเทศกาลกินเจหรือเทศกาลไหนๆ  “ปอเปี๊ยะเจ้บี” ก็ขายดีทำรายได้งามกับเคล็ดไม่ลับ

สตูล..ไม่ว่าเทศกาลกินเจหรือเทศกาลไหนๆ  “ปอเปี๊ยะเจ้บี” ก็ขายดีทำรายได้งามกับเคล็ดไม่ลับ

         ที่โรงเจศาลเจ้าโป้เจ้เก้ง  ตำบลพิมาน อำเภอเมือง จังหวัดสตูล  ร้านปอเปี๊ยะเจ๊บี  เจ้าอร่อยในระดับตำนานอีกหนึ่งร้านของชาวสตูล  ที่ขายมานานร่วม 7 ปีแล้ว มาวันนี้ต่างระดมทีมงานไม่น้อยกว่า 10 คนเพื่อผลิตปอเปี๊ยะหลากหลายไส้  อาทิ  ไส้วุ้นเส้น ไส้เห็ดหอม ไส้มันแกว ไส้ข้าวโพด หรือไส้ผักรวม พร้อมเต้าหู้  ขายเพียงชิ้นละ 10 บาทกับน้ำจิ้มรสเด็ด  ที่ลูกค้ารายเก่าและใหม่ไม่พลาดที่จะมาลิ้มลอง  โดยเฉพาะในเทศกาลกินเจปีนี้ และทุกปีที่ผ่านมา 

        ด้วยความพิเศษของแป้งห่อปอเปี๊ยะ และกรรมวิธีการทอดที่ออกมากรอบอร่อย บวกกับไส้ที่อัดแน่น มีหลากหลายให้เลือก โรยด้วยถั่วลิสงบด   แตงกวาซอยฝอย  และน้ำจิ้มรสเด็ดที่ลูกค้าหลายคนติดใจจนต้องมาซื้อทานซ้ำแล้วซ้ำอีก 

 

          นางจันทร์เพ็ญ  สุมังคละ  หรือเจ้บี  เจ้าของร้านบอกว่า  แรกเริ่มตนขายก๋วยเตี๋ยว และเย็นตาโฟเจ  ก่อนจะมาขายปอเปี๊ยะควบคู่ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีในเทศกาลกินเจสตูล  ห่อปอเปี๊ยะวันละไม่น้อยกว่า 50 กิโลกรัม(หนึ่งกิโลกรัมได้ประมาณ 45-50 ชิ้น)   ขายเพียง 10 บาท  เชื่อว่าลูกค้าติดใจในน้ำจิ้มรสเด็ด สามารถมาซื้อได้ทุกวันในช่วงเทศกาลกินเจ และหลังออกเจก็สามารถตามไปซื้อต่อได้ที่ ตลาดแลจันทร์ (โต้รุ่งเก่า) ตำบลพิมาน อำเภอเมืองสตูล 

          ลูกค้าที่ชื่นชอบต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่า ร้านนี้อร่อย ทำสะอาด  ราคาถูก  ชอบเกือบทุกไส้ของปอเปี๊ยะ นับว่าประสบความสำเร็จในการทำอาชีพที่ทุกคนชื่นชอบทาน กับเมนูทานเล่น ปอเปี๊ยะเจ้บี  สนใจสอบถามเพิ่มเติม โทร 081-608-2001

………………………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 จังหวัดสตูลจัดกิจกรรม ‘เอามื้อสามัคคี’ ปลูกสับปะรด 1,000 ต้น เฉลิมพระเกียรติในหลวง รัชกาลที่ 10

จังหวัดสตูลจัดกิจกรรม ‘เอามื้อสามัคคี’ ปลูกสับปะรด 1,000 ต้น เฉลิมพระเกียรติในหลวง รัชกาลที่ 10

            วันที่ 4 ตุลาคม 2567 ณ ศูนย์สารภีละงู ตำบลละงู อำเภอละงู จังหวัดสตูล   นายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วยพระครูโสภณ ปัญญาสาร เจ้าคณะอำเภอมะนัง/เจ้าอาวาสวัดนิคมพัฒนารามผัง 7 นางสาวรัตนา ไมสัน พัฒนาการจังหวัดสตูล และจ.ส.อ.ณภัทร หงษ์ทอง ผู้อำนวยการศูนย์สารภีละงู จัดกิจกรรมเอามื้อสามัคคี (ปลูกสับปะรด) และปรับปรุง พัฒนาพื้นที่ศูนย์สารภีละงู ตามโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบ เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตแบบอาารยเกษตรตามแนวพระราชดำริ เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลุเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 กระทรวงมหาดไทย จังหวัดสตูล โดยมีผู้อำนวยการกลุ่มงาน สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสตูล, พัฒนาการอำเภอ, เจ้าหน้าที่พัฒนาชุมชนจังหวัด/อำเภอ, เจ้าหน้าที่สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด, เครือข่าย โคก หนอง นา อำเภอละงู, คณะกรรมการพัฒนาสตรีอำเภอละงู, ผู้นำอาสาพัฒนาชุมชนอำเภอละงู และบัณฑิตอาสาฯ เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

            สำหรับการจัดกิจกรรมในวันนี้ ประกอบด้วย การปลูกสับปะรด จำนวน 1,000 ต้นการห่มดินด้วยฟางข้าว ใส่ปุ๋ยพืชพันธุ์ และการกำจัดวัชพืช เพื่อเป็นการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 ขยายผลการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนด้วยการบูรณาการการขับเคลื่อนการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและหลักทฤษฎีใหม่สู่การปฏิบัติจนเห็นวิถีชีวิต สอคคล้องกับสภาพพื้นที่และภูมิสังคม ต่อยอดพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่ “โคก หนอง นา” สู่การพัฒนาพื้นที่ต้นแบบอารยเกษตรตามแนวพระราชดำริฯ

 

          รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ได้กล่าวชื่นชมและให้กำลังใจทุกภาคส่วนที่เข้าร่วมกิจกรรมในวันนี้ ซึ่งเป็นที่ต่อยอดขยายผลการน้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอพียง และหลักทฤษฎีใหม่ ประยุกต์สู่การปฏิบัติรูปแบบ “โคก หนอง นา”  ที่มีความสอดคล้องกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตภูมิสังคม สร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ครัวเรือนและชุมชน ให้สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างยั่งยืน

 

          พระครูโสภณ ปัญญาสาร เจ้าคณะอำเภอมะนัง กล่าวอนุโมทนา และชื่นชมทุกท่านที่ร่วมแรงร่วมใจ ผนึกพลังสามัคคียอดเยี่ยมมาก

……………………………

 

อัพเดทล่าสุด