Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สุกเต็มต้นแล้ว…จำปูลิ้ง  ผลไม้ป่าโบราณพื้นบ้านทางภาคใต้หาทานยาก

สุกเต็มต้นแล้ว…จำปูลิ้ง  ผลไม้ป่าโบราณพื้นบ้านทางภาคใต้หาทานยาก

        “จำปูลิ้ง”  ภาษามลายูเรียก  อินเต๊ะ  เป็นผลไม้ที่พบเห็นได้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ บางพื้นที่จะรู้จักกันในชื่อ จำปูรี  จำไหร หรือ มะไฟลิง ตามแต่ละถิ่นที่จะเรียก โดยแต่ละปีจะให้ผลผลิตเพียง1 -2 ครั้งเท่านั้น  ตามฤดูกาลผลสุกจะเริ่มมีทยอยออกมาให้เห็นมากในเดือน กรกฎาคม สิงหาคม ของทุกปี

 

       ผลไม้ป่าพื้นบ้านภาคใต้ พบได้ตามพื้นที่ป่าเชิงเขา ที่ราบริมเขา ที่มีดินร่วมปนทราย ลักษณะคล้ายมะไฟหรือละไม แต่ผลมีขนาดผลเล็กกว่า เป็นเหลี่ยมเล็กน้อย เปลือกผลแข็งกรอบ ผลและยอดใช้แกงเลียง แกงส้มได้ ผลสุกสีเหลืองส้มกินได้รสชาติหวานอมเปรี้ยว

 

        ต้นจำปูลิ้งสูง20 เมตร  ปลูกมานานเกิน 50 ปี บนพื้นที่ 9 ไร่บ้านวังประจัน หมู่ที่ 2 ต.วังประจัน อ.ควนโดน จ.สตูล  ผลไม้ป่าที่บรรพบุรุษเก็บไว้ให้หลังเข้ามาทำกินในบริเวณนี้  มี 2 ต้น  ให้ผลผลิตทุกปี ให้ผลผลิตมากสุด 600 กิโลเมตร  ขายกิโลกรัมละ60 บาท

         นายรอศักดิ์  นาปาเลน อายุ 54 ปี บอกว่า ทันทีที่ผลจำปูลิ้งสุก จะต้องมีอุปกรณ์เซฟตี้ในการขึ้นไปเพราะมันสูงมาก จะเก็บผลที่สุกเหลืองเข้มเท่านั้น 

 

          นางกาญจนา  นาปาเลน อายุ 53 ปี บอกว่า จำปูลิ้งให้ผลผลิตปีละครั้ง เป็นผลไม้ป่าไม่เหมาะส่งไปขายต่างจังหวัด เพราะรสชาติจะเสีย เป็นผลไม้ป่าพื้นถิ่นที่อยู่คู่สตูลมานาน ขายในตลาดศาลากลางและตลาดธกส.จ.สตูลเท่านั้น

 

          ที่สวนเป็นสวนออแกนิก ผลไม้หลายชนิดได้รับการรับรอง ไม่ว่าจะเป็นเงาะ มะพร้าว กระท้อนและจำปูลิ้ง  ที่นี่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ในชุมชนด้วย  สำหรับพันธุ์จำปูลิ้งจะเพาะพันธุ์ได้ยากกว่าผลไม้ชนิดอื่น  สามารถแปรรูปเป็นไอศกรีมได้ แต่ทานสดจะได้รับความนิยมกว่า  ในกลุ่มคนที่เคยทาน

 

          แนะนำให้แกะเปลือกอย่างเบามือ ห้ามมือถูกเม็ดในผลจำปูลิ้งเพราะคนโบราณบอกว่า จะทำให้มีรสชาติเปรี้ยวได้  เวลาทานให้อมใช้ลิ้นดันให้เม็ดแตกในปากแล้วกลืน

…………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

เปิดวาร์ปกาแฟในตำนาน 56 ปีราคาเริ่มต้น 5 บาท ชาเย็นถุงบิ๊กไซส์ทานได้จุกๆ 2 คน เจ้าของยืนยันจะขายราคานี้ตลอดไป

เปิดวาร์ปกาแฟในตำนาน 56 ปีราคาเริ่มต้น 5 บาท ชาเย็นถุงบิ๊กไซส์ทานได้จุกๆ 2 คน เจ้าของยืนยันจะขายราคานี้ตลอดไป

          กาแฟโบราณในยุคเศรษฐกิจฝืดน่าจะตอบโจทย์คอกาแฟและคอชา  วันนี้ชี้เป้าของถูกมาที่จังหวัดสตูล  ซอยคลองขุด 29 (หรือซอยทรายทอง)  หรือที่หลายคนรู้จักในนามซอยเอวหัก ติดตลาดนัดวันอาทิตย์    กับร้านกาแฟดั้งเดิมหรือร้านกาแฟในตำนาน   “ร้านบังอาด” ก็ว่าได้   ที่ขายมานานกว่า 56  ปี  มีการสืบต่อเป็นรุ่นที่ 2

          ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะในการชงชา ขายเพียงแก้วละ 5 บาท  ชาเย็น (sizeถุงน้ำตาล 1 กิโลกรัม) ขายเพียง 15 บาท  ส่วนลีลาการชงชาก็ไม่ธรรมดาชงคู่ชนิดที่ลูกค้าลุ้นกลัวว่าจะหก  แต่พ่อค้าก็ไม่ทำให้ผิดหวัง  ใช้ทักษะการชงอย่างช่ำชอง  และชำนาญ

          ที่ร้านนี้จะเปิดขาย 2 เวลา  คือตั้งแต่ 05 : 30 น. – 12 : 00 น.  และ 14:00 น ถึง 17:00 น ยกเว้นวันอาทิตย์ที่ขายแค่ครึ่งเช้าเท่านั้น  ลูกค้าส่วนใหญ่จะหมุนเวียนกันมาซื้อไม่ขาดสาย มีทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ที่ซื้อซ้ำแล้วซ้ำอีกสมัยรุ่นพ่อมาจนถึงรุ่นลูก  ด้วยรสชาติ  ปริมาณและราคาที่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า 

          ลูกค้ารายหนึ่งบอกว่า  เป็นลูกค้ามานานกว่า 4 ปีแล้วชื่นชอบเมนูกาแฟเย็นและเมนูชาเย็น  ทุกครั้งที่มาซื้อก็จะนำแก้วส่วนตัวมาใส่ก็ขายราคาเดียวกันคือ 15 บาท รสชาติเข้มข้น ราคาสบายกระเป๋า  ตอบโจทย์เป็นอย่างมากในยุคปัจจุบันที่เข้าของแพง  หากไปซื้อร้านอื่นก็จะขายตั้งแต่ 25 บาทขึ้นไปแต่ร้านนี้ขายเพียง 15 บาทเท่านั้น

         นายเดช  หวันยาวา อายุ62 ปี  เจ้าของร้านบอกว่า   เมนูที่ขายดีคือชาเย็นเป็นชาที่มาจากประเทศมาเลเซียเพื่อนบ้าน   สำหรับ ร้านกาแฟนี้เป็นธุรกิจของครอบครัวพวกตนเป็นรุ่นที่ 2 หลังจากที่พ่อได้จากไปก็มาสืบทอดกันขายกาแฟต่อ  โดยมีตนเป็น พี่ชายคนโตและรองน้องคนสุดท้องมาช่วยสับเปลี่ยนกันขาย   ได้ขายกาแฟ-ชาเย็นในราคานี้มาตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อ   คือแตอ้อร้อนแก้วละ 5 บาท  โกปี้อ้อร้อน 5 บาท โอวัลตินร้อน 8 บาท โอเลี้ยงชาเย็นถุงเล็กถุงละ 10 บาท,ส่วนถุงใหญ่บิ๊กขายเพียงถุงละ 15 บาท (ทานได้ถึง 2 คน)  ทานกับขนมที่ชาวบ้านมาฝากขายข้าวเหนียวปลาเค็ม 10 บาท  ,ขนมบาดะ 5 บาท จูจุ่น 5 บาท ,ข้าวเหนียวสังขยา 5 บาท  ข้าวเหนียวหน้ากุ้งและหน้ามะพร้าวห่อละ 5 บาท  พูดง่ายๆมีเพียง 20 บาทมื้อเช้าก็สามารถมาทานที่ร้านของตนได้

         ลูกค้าส่วนใหญ่ก็มีตั้งแต่รุ่นคุณพ่อที่ยังคงมาอุดหนุนกันเหมือนเดิม   และเด็กรุ่นใหม่ก็จะแวะเวียนกันไม่ขาดสายเชื่อว่าชื่นชอบในคุณภาพ,ปริมาณ,รสชาติและราคา พร้อมยืนยันว่าจะขายราคานี้ตลอดไป  อยากให้ทุกคนได้กินในราคาย่อมเยาโดยเฉพาะในยุคเศรษฐกิจแบบนี้

         สำหรับร้านนี้เป็นร้านกาแฟในตำนานที่ยังคงความเป็นร้านกาแฟประจำหมู่บ้าน  ไม่รับเงินโอน ไม่มีพร้อมเพย์ ต้องเงินสดเท่านั้นถึงจะใช้บริการที่ร้านนี้ได้  (แต่!!ยกเว้นหากน้องสาวอยู่ในช่วงเช้าก็สามารถโอนได้)

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สตูล-ขนมครกโบราณแป้งสด วัยรุ่นสร้างตัวสู้ชีวิต ตอบโจทย์สายรักสุขภาพ

สตูล-ขนมครกโบราณแป้งสด วัยรุ่นสร้างตัวสู้ชีวิต ตอบโจทย์สายรักสุขภาพ

          บนถนนยนตรการกำธร ตรงข้ามสำนักงาน อบจ.สตูล ทุกวันในเวลา 15 นาฬิกาเป็นต้นไป พ่อค้าวัย 39 ปี รุ่นที่2 พร้อมภรรยา  กำลังสารวนช่วยกันหยอดขนมครกโบราณสูตรคุณแม่  ที่มีอายุไม่น้อยกว่า 50 ปีเตรียมพร้อมขายลูกค้า

         โดยมีรสชาติที่รังสรรค์ขึ้นมาเพิ่มเติมจากสูตรคุณแม่ คือรสชาติดั้งเดิม  เป็น ข้าวหอมมะลิ ข้าวไรซ์เบอรี่ ใบเตย อัญชัน โดยแป้งขนมครกจะทำขึ้นเองใหม่สดทุกวัน  ทางร้านทำขายวันละ 3-4 กิโลกรัม ขาย 8 คู่ 20 บาท แพคเกจห่อด้วยใบตองตามแบบฉบับโบราณ

          นายพรชัย  สุวรรณพัฒน์ อายุ 39  ปี (หรือคุณป้อม)  ทายาทรุ่นที่2 ของคุณแม่เตื้อน  หรือที่หลายคนรุ่นแรก ๆ รู้จักเรียกว่า  ขนมครกป้าเตื้อน  เตา ถ่าน (ซอยโรงลังเปลวจีน) วัดมงคลมิ่งเมือง จ.สตูล วัย 77 ปีที่วางมือแล้ว  เป็นสูตรที่สืบทอดต่อด้วยการทำแป้งเองใหม่สดทุกวัน  เดิมทีตนมีอาชีพเป็นช่างทำเฟอร์นิเจอร์เมื่อไม่มีงานก็จะหันมาขายขนมครกเป็นอาชีพเสริม  แต่ปัจจุบันก็จะแบ่งหน้าที่เพื่อให้ได้ทำทั้ง 2 อาชีพ ในการหาเลี้ยงครอบครัวและลูก  เมื่อย้ายมาจากจังหวัดสุราษฎร์ธานีก็นำอาชีพที่คุณแม่ให้ไว้มาขายเป็นรายได้เสริมเลี้ยงครอบครัว เพราะเคยหยุดไปพักหนึ่งจากโควิดก็ยังมีลูกค้าเก่าๆตามมาซื้อ

          ลูกค้าเก่าเจ้าประจำรายสหนึ่ง  ยอมรับว่า  เป็นลูกค้ามานานแล้วชอบซื้อขนมครกเจ้านี้โดยเฉพาะรสชาติของข้าวไรซ์เบอรี่และใบเตย  มีความอร่อยและรสชาติชัดเจน อีกทั้ง   ชอบในอัธยาศัยของพ่อค้า พูดจาดีอยากให้หลายคนมาอุดหนุน

          พ่อค้าป้อม  บอกว่า  สำหรับคนที่มองหาอาชีพ  ไม่รู้จะทำอะไรดีแนะนำให้มองหาอาชีพที่ถนัดและคุ้นเคยมาตั้งแต่เด็ก  เชื่อว่าจะสามารถทำได้ดีและแก้ปัญหาได้  เหมือนอย่างตนไม่ได้รู้สึกอับอายที่หลายคนมองว่าการขายขนมครกน่าจะเป็นผู้หญิง  และยิ่งเห็นว่าหากไม่อายทำกินก็สามารถมีงานสร้างรายได้อีกทาง  เพื่อเลี้ยงครอบครัวในยุคเศรษฐกิจปัจจุบัน

          สำหรับลูกค้าที่สนใจอยากจะซื้อสั่งเป็นอาหารเบรค หรือรับทำนอกสถานที่  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 096-386 8354

……………………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

บริการฟรี! บีบนวดคลายเส้น คลายเอ็นจม อาการดีขึ้นขอถวายข้าว 1 ปิ่นโต  กล้วย 1 หวี และน้ำ 1 ขวด สำหรับผู้มีจิตศรัทธาที่จะบริจาคเพิ่ม ให้บริจาคกับสำนักสงฆ์ รายได้ทั้งหมด  เพื่อสร้างเมรุ ค่าน้ำค่าไฟ ชาวบ้านแห่ใช้บริการรักษาทางเลือก

สตูล – บริการฟรี! บีบนวดคลายเส้น คลายเอ็นจม อาการดีขึ้นขอถวายข้าว 1 ปิ่นโต  กล้วย 1 หวี และน้ำ 1 ขวด สำหรับผู้มีจิตศรัทธาที่จะบริจาคเพิ่ม ให้บริจาคกับสำนักสงฆ์ รายได้ทั้งหมด  เพื่อสร้างเมรุ ค่าน้ำค่าไฟ ชาวบ้านแห่ใช้บริการรักษาทางเลือก

           ที่สำนักสงฆ์บ้านนาแค หมู่ที่ 5 ตำบลคลองขุด อำเภอเมือง  จังหวัดสตูล  นอกจากชาวบ้านจะมาทำบุญตักบาตร ฟังเทศก์ธรรมกันแล้ว  ที่นี่ยังเป็นสถานที่บริการญาติโยม  ที่มีอาการปวดเมื่อยจับเส้นคลายเส้น   โดยเฉพาะกับพระ  ที่มีอาการอาพาธ  หรืออาการปวดเมื่อยเรื้อรัง หลังจากที่ไม่สามารถรักษาหายจากโรงพยาบาล 

 

           อาการปวดเมื่อยเรื้อรัง นิ้วล็อก  เอ็นจม ปวดสะโพกร้าวลงขา หลายคนเจ็บป่วยด้วยอาการนี้  มาให้หมอบ้านช่วยจับบีบคลายเส้น  โดยมี  นายประจวบ(หมอจวบ)   คงศรีทอง อายุ 55 ปี และ “หมอฤทธิ์” น้องชาย  2 คนพี่น้องชาวขอนหาด อ.ชะอวด จ.นครศรีธรรมราช  ที่มาตั้งรกรากที่สตูล  นำภูมิปัญญาด้านนวดคลายเส้นมาจากบรรพบุรุษรุ่นสู่รุ่น   พ่อที่เป็นหมอบีบที่รู้จักกันดีชื่อ  “หมอคลี่”  ที่มานวดจับเส้นโดยบริการให้ฟรี  ไม่มีค่าแรง

         “หมอจวบ” อายุ 55 ปี บอกว่า   ความรู้ได้มาจากรุ่นสู่รุ่น  ด้วยพ่อก็เป็นหมอบีบคลายเส้นตามหมู่บ้าน จากจุดเริ่มต้นที่มาอยู่ตรงนี้   คือตามหลวงพ่อมาวัด  เห็นพระหลายรูปอาพาธ จึงอยากจะนำความรู้มาช่วยบรรเทาอาการ  และรักษาอาการเจ็บปวดจากการปวดเมื่อย เอ็นจม และอาการที่รักษาที่โรงพยาบาลแล้วไม่หาย  มาช่วยแนะนำและคลายเส้น  ให้แล้วไม่น้อยกว่า 60 คน  เจตนาใจจริงอยากช่วยให้หายเจ็บป่วย

         หากใครหาย  อาการดีขึ้นในเวลา 3 มื้อ (หรือ 3 วันที่ต่อเนื่อง) ขอแค่ให้นำอาหาร 1 ปิ่นโตกล้วย 1 หวีและน้ำ 1 ขวด  มาถวายที่สำนักสงฆ์บ้านนาแค  ส่วนใครจะให้ค่ารักษาแล้วแต่จิตศรัทธาถวายค่าน้ำ  ค่าไฟ  และสมทบทุนในการสร้างเมรุ  ให้กับทางสำนักสงฆ์เท่านั้น  โดยเปิดให้บริการทุกวัน

         พระทรงชัย  ฐานงฺกโร  ประธานที่พักสงฆ์บ้านนาแค  บอกว่า  ก่อนหน้านี้ปวดหลังปวดเอวมาก  เพราะเคยทำงานหนักมาก่อนหลังได้รักษากับหมอจวบช่วยบีบนวดให้ 3 มื้อก็ได้คล่องได้สะดวกและขอให้ประจำอยู่ที่นี่เพื่อช่วยรักษาชาวบ้าน 

         ชาวบ้านที่รักษาอาการดีขึ้น  บอกว่า  หมอบีบดีจากที่ไม่ค่อยแข็งแรงก็สามารถแข็งแรงขึ้นมาได้ ช่วยทำบุญซื้อน้ำมันนวดเองและนำปิ่นโต กล้วยและน้ำมาถวาย ทำบุญให้กับทางวัด 

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

ชายพิการ หัวใจจิตอาสาทำความสะอาดบริเวณโรงเรียน และในหมู่บ้านมานานกว่า 17 ปี โดยไม่คิดหวังมีค่าตอบแทน   

สตูล-ชายพิการหัวใจจิตอาสาทำความสะอาดบริเวณโรงเรียน และในหมู่บ้านมานานกว่า 17 ปี โดยไม่คิดหวังมีค่าตอบแทน

          ทุกๆเช้าวันจันทร์ ถึงวันศุกร์ ที่โรงเรียนท่าแพผดุงวิทย์จ.สตูล จะเห็นนายมูฮัมหมัด บุญเหม หรือ บังหมาด อายุ 37 ปี ชายพิการทางร่างกาย และยังพิการทางด้านสติปัญญา จะเข็นรถเข็นเข้าไปเก็บกวาด ทำความสะอาดภายในโรงเรียน  เก็บขยะ ตามร่องคูน้ำของโรงเรียน และตรวจเช็กถังขยะโรงเรียนตามมุมต่างๆ โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย อีกทั้งยังเดินไปเปิดประตูห้องเรียนทุกชั้นเรียนต้องขึ้นบันได และลงมากวาดขยะ เปรียบเสมือนว่าเป็นนักการภารโรงของโรงเรียน

         ด้านนายพนมไพร  วงษ์คลองเขื่อน ผู้อำนวยการโรงเรียนท่าแพผดุงวิทย์จ.สตูล  บอกว่า บังหมาด มีบ้านอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียน และช่วยงานของโรงเรียนทุกอย่างที่ทำได้ด้วยวิญญาณของจิตอาสา แม้ไม่มีเงินเดือน ไม่มีสิ่งตอบแทน จนเป็นที่รักใคร่ของนักเรียน และทางโรงเรียนเห็นในจิตใจดีงาม ขยัน

 

          จึงตอบแทนด้วยการให้เป็นลูกจ้างเงินเดือน ๆ ละ 3,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน สำหรับ บังหมาด พิการทางสติปัญญามาแต่กำเนิด เพราะมีอาการชักตั้งแต่แรกคลอด ทำให้ร่างกายเดินไม่สะดวก มือแข็ง คอแข็ง พูดไม่ได้ เพราะลิ้นไก่สั้น กระทั่งเริ่มโตก็ชอบช่วยเหลือคนอื่น ไม่นิ่งดูดาย และทำต่อเนื่องมานาน 17 ปี จนเป็นที่รักใคร่ของคนทั้งหมู่บ้าน เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แทบจะไม่มีให้เห็นในปัจจุบัน และน่าจะเอาเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเด็กนักเรียน หรือผู้ใหญ่ ในการทำความดีเพื่อสังคม โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน

…………………………………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

 ต้องชื่มชม  ไต๋เรือสตูลล่องทะเลพบเต่าติดเศษอวน  เร่งช่วยเหลือปล่อยสู่ท้องทะเล  พร้อมกุ้งมังกรตัวใหญ่ เพื่อขยายพันธุ์ต่อไป  

สตูล-ต้องชื่มชม  ไต๋เรือสตูลล่องทะเลพบเต่าติดเศษอวน  เร่งช่วยเหลือปล่อยสู่ท้องทะเล  พร้อมกุ้งมังกรตัวใหญ่ เพื่อขยายพันธุ์ต่อไป  

           วันที่ 4  ก.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมาวิน  มานะกิจสมบูรณ์  อายุ 41 ปี  ไต๋บอลอวนดำซิ่ง ไต๋เรือสตูล ชื่อเรือ  ป.โชคประพาภรณ์  1  เป็นเรือประมงเชิงพาณิชย์ จังหวัดสตูล ออกจับสัตว์น้ำทะเลลึก โดยเมื่อเช้าที่ผ่านมา นายมาวิน   หรือ ไต๋บอลอวนดำซิ่ง พร้อมลูกเรือประมงนำเรือไปลอยลำแถว เกาะรอก ทางทะเลจังหวัดกระบี่  และได้ล่องเรืออยู่นั้นเห็นกองขยะลอยอยู่กลางทะเล มีสิ่งมีชีวิตเคลื่อนไหวดิ้นอยู่ จึงนำเรือเข้าไปตรวจสอบพบว่าเป็นเต่าตนุตัวขนาดกลาง  พบเศษอวนพันรอบตัวสภาพน่าสงสาร

 

        ดังนั้นจึงให้ลูกเรือไปดึงลากขึ้นมาบนเรือ และเร่งใช้มีดคม  ค่อยๆตัดเศษอวนที่พันรอบตัวเต่าตนุตัวนี้  ดูลักษณะน่าเต่าเป็นตัวหนุ่ม  ที่ว่ายน้ำมา  อาจจะเห็นกองขยะจึงว่ายเข้าไปใกล้จนถูกเศษอวนพันรอบตัว  ก่อนช่วยชีวิตปล่อยคืนสู่ทะเลกลับดังเดิม ต่อมาล่องเรือไปจับสัตว์น้ำในทะเลใกล้ๆแถวนั้นอีกครั้ง และจับได้กุ้งมังกรตัวใหญ่  ตนเองเห็นว่า กุ้งมังกรในท้องทะเลในเมืองไทย เริ่มมีน้อยลง หลังจากที่วางอวนติดมา  ก็เลือกที่จะปล่อยคืนสู่ทะเลเช่นกัน

 

          นายมาวิน  มานะกิจสมบูรณ์  อายุ 41 ปี  กล่าวกับทีมข่าว(ทางโทรศัพท์ ) ว่า ตนเองเป็นไต่เรือมีจรรยาบรรณของชาวประมง ในเรื่องการจับสัตว์น้ำ  เฉพาะที่เราจับขายเป็นหลักๆพอ แต่ถ้าจับติดสัตว์น้ำอื่นๆที่ไม่ใช่ปลา เช่นอย่างวันนี้  จับติดกุ้งมังกรตัวใหญ่ ทางเรือของเราจับได้ก็ปล่อยสู่คืนท้องทะเลเหมือนเดิม  ให้กุ้งมังกรตัวนี้กลับไปขยายพันธุ์ต่อ

              นายมาวิน   กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนเต่าหรือสัตว์น้ำอื่นๆเราจับติดอวนมาบ่อย เพราะเรือประมงของตนเองเวลาล่องเรือออกทะเลไปหลายๆวัน มักเจอสัตว์น้ำขนาดใหญ่ติดมาบ้าง และเจอสัตว์น้ำรอความช่วยเหลือมาบ้าง ตนเองก็จะช่วยเหลือปล่อยสู่ท้องทะเล เพราะเรารักษ์ธรรมชาติ และร่วมปกป้องในสิ่งที่เราช่วยกันได้  นายมาวินกล่าว

…………………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

 อย่างเท่! หนุ่มใหญ่อินเดียนสตูล ประดิษฐ์รถจักรยานยนต์ทำมือเพียง 4 เดือน จากวัสดุโบราณเก่าเก็บและอยู่ในครัวเป็นอะไหล่ชั้นเยี่ยม

อย่างเท่! หนุ่มใหญ่อินเดียนสตูล ประดิษฐ์รถจักรยานยนต์ทำมือเพียง 4 เดือน จากวัสดุโบราณเก่าเก็บและอยู่ในครัวเป็นอะไหล่ชั้นเยี่ยม

           หลายคนอาจจะสงสัยว่านี่คือรถจักรยาน  หรือ  รถจักรยานยนต์กันแน่  เค้าโครงหลายส่วนของรถคันนี้เหมือนเป็นการผสมผสานระหว่างจักรยานกับรถจักรยานยนต์เข้าด้วยกัน  และเพื่อไม่ให้สงสัยนาน   คุณสมชาย  เด็นหลี  อายุ 55 ปี หรือที่รู้จักกันว่า  “ชายอาปาเช่”  ชาว ต.ฉลุง อ.เมือง จ.สตูล  ได้บอกว่านี่คือรถคัสตอมไบท์  หรือรถทำมือ  ที่สร้างจากจินตนาการของตน เพื่อทำความฝันให้เป็นจริงที่สามารถขี่ได้จริงๆ

 

           ส่วนประกอบของรถคันนี้ส่วนใหญ่มาจากโกดังภายในบ้านที่ชอบสะสมของเก่าของโบราณ  อาทิ  เครื่องเรือ 10 แรงม้า 390 cc, เครื่อง honda wave รุ่นเก่าๆทำเกียร์, คลัทช์ที่สตาร์ทเท้า,ให้เสมือนเป็นรถจักรยานยนต์ทั่วไป,ตัวถังน้ำมันจุด 20 ลิตร  ทำจากแผ่นเหล็กมาเชื่อมต่อขึ้นเอง , ล้อที่ใช้ของรถเข็นน้ำเพื่อให้อารมณ์เหมือนจักรยานแต่จะใหญ่กว่า , เบาะนั่งโบราณซึ่งมีราคา 3 – 4,000 บาท ก็หันมาทำเองเหลือเพียงราคา 500 บาทเนื่องจากมีหนังและโครงเหล็กเบาะจักรยานโบราณ โดยใช้เวลาประกอบขึ้นรูป 4-5 เดือน ไม่รวมการจัดหาวัสดุอุปกรณ์  ,วัสดุบางชนิดนำขวดน้ำพริกเผามาเป็นก๊อกน้ำมันของรถ ใช้วิธี DIY  หรือทำด้วยตัวเองทั้งคัน ส่วนมูลค่าหลักหมื่นต้นๆก็สามารถขี่ได้

         คุณสมชาย  หรือ ชายอาปาเช่  บอกด้วยว่า  รถคันนี้ได้เคยทดสอบขี่ไกลสุด ระยะทาง 50 กิโลเมตร  ส่วนความเร็วนั้นยังไม่เคยทดสอบจับเวลา  เจตนารมณ์ของตนที่สร้างรถคันนี้ขึ้นมาเพื่อมีรถที่เหมาะกับเอกลักษณ์ของอินเดียนที่ตนชอบแต่งตัวสไตล์นี้และต้องการหารถที่เหมาะสมกับเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงทำรถทำมือขึ้นมา

 

         ส่วนตัวในอดีตเคยอยู่ร้านแต่งรถ harley ส่งเข้าประกวดได้รับรางวัลมากมายสมัยอยู่จังหวัดภูเก็ต  เมื่อกลับมาอยู่บ้านก็ใช้ความรู้ที่มีมาสร้างรถทำมือขึ้น  แม้จะมีบางส่วนที่ต้องปรับปรุงในเรื่องของการสั่นให้นิ่งเงียบกว่านี้  แต่รถคันนี้ก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นรถในจินตนาการของตน  และทำความฝันของตัวเองให้เป็นความจริงได้โดยได้ลงมือทำจนประสบความสำเร็จและภาคภูมิใจกับรถจักรยานยนต์คันนี้แม้จะขับขี่ไปที่ไหนหลายคนอาจจะดูว่าแปลกและไม่คิดว่าจะเป็นรถที่นำเศษเหล็กหรือของเก่าโบราณมาตกแต่งจนวิ่งได้แต่นี่คือความภูมิใจที่ได่ทำขึ้นมา  หากผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่  094-6809183  สมาชิกกลุ่มสตรีทอาร์ตสตูล

 

          ด้านนายสมบัติ  เจริญขวัญ  เพื่อน ยอมรับว่า ชายอาปาเช่  หรือบังเหลน ชื่อเล่น  เป็นคนชอบคิดชอบทำและมีไอเดียที่แปลกอยู่ตลอด โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์คันนี้ ถือว่าเป็นความคิดสร้างสรรค์ สร้างสิ่งแปลกใหม่ ให้เป็นที่จดจำเรื่องราวดีๆของคนชอบประดิษฐ์

………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 สตูล-ขนมมารากู  สูตรอินเดียกลิ่นไอของใบสมุยเทศ  สร้างรสชาติชวนลิ้มลอง  ขนมโบราณที่สืบทอดมายาวนานมีทานเฉพาะเทศกาลและออเดอร์เท่านั้น

สตูล-ขนมมารากู  สูตรอินเดียกลิ่นไอของใบสมุยเทศ  สร้างรสชาติชวนลิ้มลอง  ขนมโบราณที่สืบทอดมายาวนานมีทานเฉพาะเทศกาลและออเดอร์เท่านั้น

         ที่เป็นมากกว่าโรตี หรือโรตีกรอบ ก็ต้องยกให้  ขนมมารากูสูตรอินเดียเลย  เพราะกรรมวิธีอาจจะคล้ายโรตีทั่วไปแต่ใส่เครื่องเทศเข้ามา  ปั้นเป็นก้อนแช่น้ำมันคล้ายโรตี  ดูอีกทีก็คล้ายทอดมันปลายังไงอย่างงั้น  แต่มาดูการทำของทางร้าน บังกาหรีม ตำบลบ้านควน อำเภอเมือง จังหวัดสตูล   นางดารุณี อายาหมีน   อายุ 65 ปี  พร้อมลูกสาวนางไซนับ  มูเก็ม อายุ 42 ปี  และ หลานสาวช่วยกันทำขนม มารากู   เพื่อให้ทันกับออเดอร์ของลูกค้า

 

          ด้านนางไซนับ  มูเก็ม อายุ 42 ปี   กล่าวว่า  ขนม มารากู  เป็นขนมในประเทศอินเดีย ถือว่าเป็นขนมมงคล  ชอบทำทานในวันสำคัญ  มีการทำกันในประเทศมาเลเซียมาก  และมีการสืบทอดและไหลมาทางชายแดน จ.สตูล  ซึ่งติดกับประเทศมาเลเซีย  บรรพบุรุษหลายรุ่นจะทำกินและทำขาย  ในวันสำคัญของพี่น้องชาวมุสลิมและเป็นอาชีพในทุกวันนี้  ยิ่งในช่วงเดือนสำคัญอย่างช่วงฮารีรายา  ของพี่น้องมุสลิม จะขายดี มีออเดอร์สั่งเข้ามารัวๆเลยทีเดียว

            ส่วนออเดอร์ที่ลูกค้ามาสั่งจอง  รวมถึงผู้ที่ผ่านไปผ่านมาแวะมาอุดหนุน ขนมมารากู ขายได้เดือนละ 30 ถุง ซึ่งบรรจุถุงละ 1 กิโลกรัม ราคา 100 บาท เฉลี่ยแล้วมีรายได้ต่อเดือนละประมาณ 3,000 – 4,000 บาท

 

           ทั้งนี้นายสมโภชน์  สุขใจ ลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่ชอบทาน บอกว่า อร่อยและกรอบ ได้กลิ่นไอของใบนาโปแล หรือใบสมุยเทศ  และเครื่องผสมทำให้ขนมชนิดนี้ทานอร่อย รสชาติไม่เหมือนขนมอื่นๆ

                   

          สำหรับขนมชนิดนี้ชื่อว่า ขนมมารากู หรือคนใต้เรียกว่า โรตีกรอบ เพราะส่วนผสมที่ทำคล้ายแป้งโรตีนวดๆเป็นกลม โดยใช้แป้งหมี่ ไข่ไก่ และใส่เกลือ เพิ่มส่วนผสมเครื่องเทศ  พริก และ ใบสมุยเทศ (เคล็ดลับความอร่อยเพิ่มความหอมกรุ่น)   รวมทั้งหัวหอมซอย  จากนั้นนำแป้งไปนวด และฟัดเหมือนโรตีให้เป็นแผ่นบาง ๆ และตัดเป็นส่วน นำไปทอดในไฟร้อนๆ ยกสะเด็ดน้ำมัน แพ๊คใส่ถุงส่งให้ลูกค้าทันที สามารถสั่งจองได้ 089-879 1966   นอกจากนี้ที่ร้านบังกาหรีม ทุก ๆ เช้าจะเปิดขายน้ำชา กาแฟ ขนมพื้นถิ่น ขนมมารากู    หากทานคู่ชาเย็น จะอร่อยมาก 

 ………………………………………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

สตูล – แอ๊ดดี้เทพบุตรเดินดิน  จิตอาสาของน้องหมาจรจัด 18,000 ตัว 

สตูล – แอ๊ดดี้เทพบุตรเดินดิน  จิตอาสาของน้องหมาจรจัด 18,000 ตัว 

          แอ๊ดดี้  หรือ  นายเกรียงไกร  ธาตวากร  อายุ 51 ปี หนุ่มศรีสะเกษ  ลูกเจ้าของร้านรับจัดโต๊ะจีน   ดีกรีเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง  รัฐศาสตร์บัณฑิต  เทพบุตรของสุนัขจรจัด  ที่ได้ตระเวนเดินสายเป็นจิตอาสาไปทั่วประเทศกว่า 12 ปี  บริการน้องหมาจรจัดที่มีสภาพสกปรก เป็นที่น่ารังเกียจด้วยการตัดขน  ตัดเล็บและรักษาโรคผิวหนัง 18,000 ตัว  รวมทั้งแจกสูตรปรุงยารักษาโรคผิวหนัง   หรือโรคขี้เรื้อนให้ด้วย  ทั้งนี้เพื่อคืนชีวิตใหม่ให้กับน้องหมาได้มีโอกาสหาบ้านใหม่

 

          และในวันนี้ได้เดินทางมาที่จังหวัดสตูล  ซึ่งเป็นการเดินทางมาเป็นครั้งที่ 3  ที่สถานสงเคราะห์เทศบาลเมืองสตูล  ที่มีหมาจรจัดในการดูแลกว่า 200 ตัว ซึ่งเป็นน้องหมาที่ได้มาจากการถูกทอดทิ้ง  และยังพบว่าสถานการณ์หมาจรจัดในจังหวัดสตูลพบน้องหมาสายพันธ์ดังๆ  ถูกทอดทิ้งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  บางพื้นที่ไร้การเหลียวแลปล่อยให้อดอยาก  และอยู่ในสภาพที่สังคมรังเกียจ

         วันนี้แอ๊ดดี้เทพบุตรน้องหมาจรจัด  นอกจากจะมาบริการตัดขนและเล็บให้น้องหมาจรจัดฟรีแล้ว   ยังนำสูตรยาสมุนไพรรักษาโรคผิวหนังหรือโรคขี้เรื้อน   มาให้ผู้ดูแลน้องหมาจรจัด  และผู้ที่สนใจไว้รักษาน้องหมาที่บ้าน   เพียงนำผงขมิ้นที่ทำกับข้าวจำนวน 1 กิโลกรัม น้ำมะกรูด 6 ลูก น้ำมันมะกอก 2 ขวดหรือน้ำมันมะพร้าว   น้ำยาเดตตอลครึ่งฝา  กำมะถัน 1 ทัพพี  และใช้น้ำธรรมดาเป็นส่วนผสมให้เข้ากัน  คนให้ข้นเหมือนปะแป้งได้ ใช้ทาน้องหมาที่เป็นโรคผิวหนังทุก 7 วัน ทำไปเรื่อยๆ แป๊บเดียวอาการน้องหมาจะดีขึ้นคืนชีวิตใหม่ให้น้องหมา

 

          พร้อมฝากข้อคิดให้กับใครที่กำลังมองหาน้องหมา อยากแนะนำลองเปิดใจให้โอกาสน้องหมาจร ที่มีสายพันธ์ดังๆ  ถูกทอดทิ้งจากหลายสาเหตุที่นำมาทิ้งเพื่อไปเลี้ยงต่อ  ซึ่งตนเชื่อว่าการมาตัดขน ตัดเล็บ และรักษาโรคผิวหนังให้จะทำให้น้องหมาได้มีโอกาศมีบ้านใหม่ จากผู้ที่ชื่นชอบสุนัข  และตนก็ยินดีที่จะเดินสายช่วยชีวิตน้องหมาไปจนกว่าตัวเองจะยกบปัตตาเลี่ยนไม่ไหว

…………………………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

สตูล-สืบสานความสวยงามประเพณีนิยม  ชุดขันหมากโดยชุมชนสตรีมุสลิมร่วมแข่งขันพับผ้าละหมาดและผ้ารองละหมาด  สร้างสรรค์ไอเดีย  ฝึกสมาธิ สร้างรายได้และความสามัคคีในชุมชน

สตูล-สืบสานความสวยงามประเพณีนิยม  ชุดขันหมากโดยชุมชนสตรีมุสลิมร่วมแข่งขันพับผ้าละหมาดและผ้ารองละหมาด  สร้างสรรค์ไอเดีย  ฝึกสมาธิ สร้างรายได้และความสามัคคีในชุมชน

         ประเพณีนิยมการทำชุดขันหมากของไทยมุสลิมจากผ้าตาละกง หรือผ้าละหมาดผู้หญิง ผ้าซายาด๊ะ หรือผ้ารองละหมาด และผ้าขนหนู  ทำให้ทางสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสตูลและมัสยิดอะห์มาดิย๊ะปันจอร์  อ.ควนโดน จ.สตูล ได้เข้ามาส่งเสริมและมีการจัดการแข่งขันขึ้นเพื่อส่งเสริมสนับสนุนวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงาม

 

       โดยที่มัสยิดอะห์มาดิย๊ะปันจอร์  อ.ควนโดน จ.สตูล  ได้มีการจัดงานเทศกาลวันตรุษอีดิลอัฎฮา  ครั้งที่ 16  รายาหยีที่บ้านจอร์  หนึ่งในกิจกรรมที่มีการส่งเสริมความสมัครสมาชิกภายในชุมชน 10 แห่งคือ  แข่งขันพับผ้าโชว์ ผ้าตาละกง หรือผ้าละหมาดผู้หญิง ผ้าซายาด๊ะ หรือผ้ารองละหมาด และผ้าขนหนู 

 

         โดยมีกลุ่มสตรีจากชุมชนต่างๆเช่นชุมชนหลวงนา,ชุมชนปะการัง,ชุมชนไฮเวย์,ชุมชนปากบาง,ชุมชนควนดินแดง,ชุมชนทรายทอง,ชุมชนดินทรุด,ชุมชนกุมปัง,ชุมชนทุ่งโต๊ะหรัด, และชุมชนห้วยท้องหะ 10 ชุมชน เข้าร่วมการแข่งขันกันอย่างพร้อมเพรียงท่ามกลางกองเชียร์ที่มารอชมฝีมือของกลุ่มสตรีดังกล่าว

 

        การแข่งขันใช้ระยะเวลา 1 ชั่วโมงเนื่องจากต้องใช้ความปราณีต ความคิดสร้างสรรค์  โดยทางคณะกรรมการก็จะให้คะแนน ทั้งประเภทความหลากหลายของอุปกรณ์ ความสวยงาม  องค์ประกอบและขั้นตอนการพับ

 

          นายณพงศ์   ใบหมาดปันจอ   อดีตวัฒนธรรมจังหวัดสตูลและกรรมการมัสยิดฯ  กล่าวว่า   กิจกรรมของสตรีภายในหมู่บ้านในครั้งนี้  เป็นส่วนหนึ่งในการฝึกสมาธิให้ใจเย็น สร้างความสามัคคีภายในชุมชนพร้อมทั้งการสืบทอดให้ลูกหลานหัดพับผ้า ที่สามารถเพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้  จากการทำชุดขันหมากในการสู่ขอบ่าวสาว ที่จะมีการใช้ผ้าตาละกง หรือผ้าละหมาดผู้หญิง ผ้าซายาด๊ะ หรือผ้ารองละหมาด และผ้าขนหนูในการตกแต่งเป็นชุดขันหมาก มีมูลค่าจาก 300 บาทเป็น 3,000 บาทได้

 

         โดยผู้เข้าร่วมการแข่งขันหลายคนก็จะตกแต่งเป็นชุดถ้วยน้ำชา , พัดที่สวยงาม  กระเป๋า  โดมมัสยิด  บ้างก็ตกแต่งเป็นผลจำปาดะ  เค้ก และเรือ แล้วแต่ไอเดียสร้างสรรค์  ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งภายในงาน  เทศกาลวันตรุษอีดิลอัฎฮา   รายาหยีที่บ้านจอร์ ที่ชาวบ้านในชุมชนมีการจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีสำหรับปีนี้ก็จัดเป็นครั้งที่ 16 แล้ว

………

อัพเดทล่าสุด