Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

  ร้านขนมจีนทำเก๋เปิดซุ้มบุพเฟ่ต์ผักสดพื้นบ้านทานแบบจุก ๆ  คนตกงาน คนยากไร้ทานฟรี  

ร้านขนมจีนทำเก๋เปิดซุ้มบุพเฟ่ต์ผักสดพื้นบ้านทานแบบจุก ๆ  คนตกงาน คนยากไร้ทานฟรี

       ผู้สื่อข่าวจังหวัดสตูล  แนะนำสำหรับคนที่ชื่นชอบการทานขนมจีน   แบบร้านค้าไม่ขี้เหนียวผัก  ต้องร้านนี้เลย  ตั้งอยู่ที่บ้านเขาจีน  ซอยคลองขุด 18 ตำบลคลองขุด  อำเภอเมือง  จังหวัดสตูล ร้านอยู่ในซอยติดกับโรงเรียนบ้านเขาจีน  ชื่อว่า   ร้านขนมจีนคุณฝน  บุฟเฟ่ต์ผัก กิน@สตูล

       ความพิเศษของร้านนี้มีการจัดซุ้มสำหรับผักที่รับประทานกับขนมจีน กันมากกว่า 30 ชนิด  ให้ลูกค้าได้เลือกช็อปหยิบตามใจชอบ  กันแบบบุฟเฟ่ต์ผัก  โดยเฉพาะผักพื้นบ้าน ผักตามฤดูกาล อย่างลูกฉิ่ง  ยอดหัวครก  มันปู  ยอดหมุย  ผักชีล้อมและสะตอ  และผักดอง ผักต้มกะทิ  มากันยกโหลให้ลูกค้าได้เลือกสรรกันอย่างจุใจ  แต่มีข้อแม้คือ   ผักที่หยิบไปต้องทานให้หมด  หากไม่หมดต้องถูกปรับขีดละ 15 บาท เป็นกติกาให้สำหรับคนที่หยิบเฉพาะที่ทานเท่านั้น

        นอกจากจัดซุ้มสำหรับผักให้ลูกค้าช็อปเลือกกันแบบบุฟเฟ่ต์ผักแล้ว  น้ำแกงขนมจีนก็มีหลากหลายมากถึง 6 หม้อ  แกงกะทิ  น้ำยาป่าตีนไก่   แกงไตปลา  แกงส้ม  แกงเขียวหวานไก่ แกงหวาน  โดยใช้สูตรคนนครฯที่ขึ้นชื่อเรื่องขนมจีนมาเสิร์ฟชาวสตูล

        คุณแนน  ลูกค้าประจำ  ยอมรับว่า  ร้านนี้ถูกใจทุกอย่างทั้งขนมจีน ผัก และขนมหวาน  โดยเฉพาะแม่ค้าพูดจาอัธยาศัยดีชอบมาทานบ่อยมาก  ชอบทุกเมนูมีให้เลือกเยอะมาก

         นางสาวอลิษา   พันธุโยร์  หรือคุณฝน   เจ้าของร้านขนมจีนคุณฝนบุฟเฟ่ต์ผัก กิน@สตูล   บอกว่า  ร้านนี้เปิดขึ้นมาด้วยเป็นคนที่ชื่นชอบทานขนมจีนที่มีผักเยอะ ๆ มีน้ำแกงที่หลากหลาย และคิดว่าหากเราเปิดร้านแบบนี้น่าจะมีคนชื่นชอบจึงเปิดแม้ไม่กี่เดือนได้รับกระแสตอบรับอย่างดี  และได้เพจไปในสื่อโซเซียลที่ตนเคยดูแล ชื่อ  เพจกิน@สตูล   ซึ่งมีพ่อค้าแม่ค้าและคนที่อยากซื้อของกินในสตูลมาเข้าดูมากกถึง 1 แสนคน เชื่อว่าช่วยให้ร้านเป็นที่รู้จักเร็วขึ้น

        นอกจากนี้ทางร้านยังให้ทานฟรี  ในกลุ่มคนตกงาน   คนยากไร้   ทานฟรีไม่คิดเงินเลยสักบาทเดียวเพราะอยากช่วยเหลือสังคมให้พวกเขาเหล่านั้นได้ทานอิ่ม มีกำลังใจสู้ต่อไปด้วยอาหารขนมจีนของเรา

        ทางร้านขนมจีนคุณฝนมีขายเป็นชุดเล็ก 89 บาททานได้สองท่าน ชุดใหญ่  199 บาท  ทานได้สี่ถึง 5  ท่านพร้อมท็อปปิ้ง ไก่ทอดและลูกชิ้นแดงทอด  ไข่ต้ม  ปลาจิ้งจั้ง  ผักเติมไม่อั้น  หรือจะแยกจานราคาเริ่มต้น 25 บาท 

        ร้านเปิดขายทุกวัน เว้นวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา  9 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น ขายขนมจีนวันละ 50 กก.  ผักใหม่สดทุกวันจากชาวบ้านในชุมชนส่วนใหญ่เป็นผักพื้นบ้าน  รับมาอย่างละ 50 มัด ถั่วงอกวันละ 10 กก.  โดยผักจะหมุนเวียนไปตามฤดูกาล และยังมีของหวาน และน้ำใบเตยให้ทานฟรีอีกด้วย สำรองจองโต๊ะที่  โทร  0951201299

…………………………

สตูลไม่ทิ้งกัน! เครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล ร่วมกับพันธมิตรพี่น้องและผองเพื่อน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยไฟไหม้ตำบลควนสตอ

สตูลไม่ทิ้งกัน//เครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล ร่วมกับพันธมิตรพี่น้องและผองเพื่อน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยไฟไหม้ตำบลควนสตอ    

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

 ร้านขายขนมปังชาไทยในจังหวัดสตูล   ตกใจชื่อเมนูอาหารถูกอ้างจดสิทธิบัตร

คืบหน้า  ปลอดภัยแล้วชาวมาเลเซีย 30 ชีวิตพายเรือคายัคข้ามแดนจากลังกาวีมาไทยหลังเจอคลื่นซัด

         จากกรณีดราม่า   ปังชา  ที่เป็นกระแสในโซเซียล  จากร้านอาหารแห่งหนึ่งได้จดสิทธิบัตร ไม่ให้ทำซ้ำหรือลอกเลียนแบบจนเกิดกระแสทักท้วง ว่าน้ำแข็งไสราดชาไทยนั้นมีขายมานานแล้ว  มีการจดสิทธิบัตรและอนุสิทธิบัตร  อ้างเป็นสิทธิแต่เพียงผู้เดียวได้ด้วยหรือไม่นั้น

         หลายร้านในพื้นที่จังหวัดสตูลที่มีเมนูคล้ายกันแล้วแต่จะเรียกว่า   น้ำแข็งไส หรือ บิงซู  การตกแต่งหน้าตาอาจจะแตกต่างกันออกไป   ต่างพากันงงว่า  สรุปเมนูเหล่านี้สามารถจดสิทธิบัติได้ด้วยหรือ  แล้วเมนูของพวกตนที่มีการคิดค้นเพิ่มสูตร  ที่แตกต่างสามารถจดสิทธิบัตรได้หรือไม่  หรือว่าพวกตนต้องไปจดสิทธิบัติ  แล้วถ้าเรามีเมนูที่คล้ายกันแล้วคนอื่นไปจดสิทธิบัตรก่อน  เราจะมีความผิดหรือไม่  เกิดคำถามหลากหลาย  หลังมีตัวอย่างการถูกเรียกเก็บค่าสิทธิบัตร  ในร้านที่ตกเป็นข่าวในอำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา และร้านในจังหวัดเชียงราย ที่เจ้าของสิทธิบัตรเรียกความเสียหายถึง 102 ล้านบาท

          นางสาวหนึ่งฤทัย  เสียงแก้ว  เจ้าของร้านบาร์นม 55 ยอมรับว่าตกใจกับข่าวที่เกิดขึ้น  แล้วกลับมาดูภายในร้านเราเอง  มีแต่เมนูบิงซู   ซึ่งก็มั่นใจว่าร้านเราไม่ได้ลอกเลียนแบบร้าน ปังชา  ที่จดสิทธิบัตรมาแต่อย่างใด   ภาชนะที่ใส่เป็นแก้วใส แต่ก็ไม่คิดว่าจะมีการฟ้องร้องร้านเล็ก ๆในต่างจังหวัด  เพราะตนก็เป็นหนึ่งในลูกค้าที่เคยไปกินที่ร้าน ปังชา ไก่ทอง ที่กทม.เพราะมูลค่าการจัดตกแต่งร้าน ภาชนะที่เขาเลือก   รวมทั้งวัตถุดิบที่แปลกและแตกต่าง  ไม่น่าจะมีใครไปลอกเลียนแบบเพราะมีความยาก

           ขณะที่นางสาวณิชากร   จินดานุ   หรือ คุณเตี๊ยบ   เจ้าของร้านบัวลอยจงเจริญ(สาขาสตูล)  เปิดเผยว่า  เมื่อเห็นข่าวครั้งแรกก็ตกใจรีบมาดูเมนูภายในร้าน  ว่ามีเมนูไหนที่ไปลอกเลียนแบบเขามาหรือไม่  เพราะทางร้านมีมากกว่า 100 เมนู โดยทางร้านมีเมนูแนะนำ คือ  ปังเย็นจงเจริญ  ปังเย็นบัวลอยเลือกน้ำได้ อาทิ ชาไทย โกโก้ นมสด นมชมพู  ปังเย็นนมสดภูเขาไฟ ซึ่งเปิดขาย 5 สาขา ชื่อเมนูก็จะคล้ายกันกับร้านทั่วไปเพราะลูกค้าจำและเรียกได้ง่าย   และยิ่งมาเกิดคำถามว่าหากมีใครไปจด หรือว่า  เราต้องจดสิทธิบัตรหรือไม่  เพราะเมนูหลักของเราส่วนใหญ่มี   บัวลอย  เป็นส่วนประกอบเกือบทุกเมนู  หรือว่าใครเกิดไปจดสิทธิบัตร  คำว่า  ไอติม  แล้วจะทำอย่างไร

         ซึ่งวันนี้ก็กลับมาดูว่าเราเผลอไปใช้ภาชนะที่เหมือนหรือใกล้เคียงเขาหรือไม่  ซึ่งในประเด็นนี้ทางร้านยอมรับว่า  ต้องคอยศึกษาหาข้อมูลเพื่อไม่ให้เกิดกรณีเหมือนร้านที่ถูกคดี  พร้อมเห็นว่า  ไม่คาดคิดว่าจะมีการฟ้องร้องร้านเล็ก ๆในต่างจังหวัด   เพราะเมนูอาหารก็ทำกันมานานมีส่วนผสมและชื่อก็จะคล้าย ๆ กัน

…………………………………. 

สตูลไม่ทิ้งกัน! เครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล ร่วมกับพันธมิตรพี่น้องและผองเพื่อน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยไฟไหม้ตำบลควนสตอ

สตูลไม่ทิ้งกัน//เครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล ร่วมกับพันธมิตรพี่น้องและผองเพื่อน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยไฟไหม้ตำบลควนสตอ    

อัพเดทล่าสุด
Categories
ท้องถิ่น-การเมือง ท่องเที่ยว-กีฬา

ชาวคลองขุดชวนกันหาหอยพื้นถิ่นด้วยมือเปล่า  ขณะที่แม่ครัวโชว์ลีลาเด็ดปรุงเมนูหอยเรียกเสียงฮา  ในงานรักษ์ครอง รักษ์ป่า  รักษ์หอยขาว

ชาวคลองขุดชวนกันหาหอยพื้นถิ่นด้วยมือเปล่า  ขณะที่แม่ครัวโชว์ลีลาเด็ดปรุงเมนูหอยเรียกเสียงฮา  ในงานรักษ์ครอง รักษ์ป่า  รักษ์หอยขาว

         ที่ท่าเรือเขาจีน  หมู่ที่ 1 ตำบลคลองขุด  อำเภอเมือง  จังหวัดสตูล  เทศบาลตำบลคลองขุด  นำชาวบ้าน และกลุ่มอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน ทสม.ร่วม 100 คน  ลงเรือแพเพื่อศึกษาเส้นทางธรรมชาติป่าโกงกางที่อุดมสมบูรณ์ในคลองเขาจีนโดยมีวิทยากรจากป่าชายเลนมาให้ความรู้  ภายใต้โครงการ รักษ์ครอง รักษ์ป่า  รักษ์หอยขาว  ซึ่งมีการจัดติดต่อมาเป็นเวลา 10 ปีแล้วนั้น

         สำหรับพื้นที่ตำบลคลองขุด  ติดกับป่าชายเลน 4 หมู่บ้านได้แก่หมู่ 1 3 4 และ 5   ประชาชนมีวิถีชีวิตที่มีความสัมพันธ์เกี่ยวกับป่าชายเลน   การประกอบอาชีพการตั้งถิ่นฐานและการบริโภคนอกจากนี้ป่าชายเลนที่ทอดตัวยาวเปรียบเสมือนกำแพงธรรมชาติ  ทำหน้าที่ปรับสมดุลธรรมชาติทางทะเลเป็นที่ดักกรองมลพิษที่หลายคนมากับน้ำมาสู่ทะเล   อีกครั้งป่าชายเลนอย่างเป็นต้นกำเนิดของห่วงโซ่อาหารของท้องถิ่นแหล่งผลิตอาหารแหล่งที่อยู่อาศัยวางไข่และเป็นแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำวัยอ่อนหลายชนิดโดยเฉพาะสัตว์น้ำเศรษฐกิจอย่างหอยขาวหรือหอยตลับที่มีความชุ่มในพื้นที่มาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

         นายสุนทร  พรหมเมศก์   นายกเทศมนตรีตำบลคลองขุด  บอกว่า   กิจกรรมในครั้งนี้เพื่อให้เกิดความตระหนักและร่วมกันอนุรักษ์โดยกิจกรรมแบ่งออกเป็น 2 ลักษณะคือการเรียนรู้   การบรรยายในหัวข้อและประเด็นที่เกี่ยวกับการอนุรักษ์การจัดการขยะและการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศชายฝั่ง    ควบคู่กับการสัมผัสและชื่นชมความงดงามความสมบูรณ์ของธรรมชาติป่าชายเลน    และวิธีการใช้ชีวิตร่วมกันของคนกับป่าชายเลน

        นอกจากนี้ทางเทศบาลตำบลคลองขุด  ได้จัดกิจกรรมเชิญชวนให้รู้จักหอยขาว  หรือ  หอยตลับ  หอยพื้นถิ่นและวิธีการหาหอยที่ไม่ทำให้หอยสูญพันธุ์ด้วยการหาหอยด้วยมือเปล่าเพื่ออนุรักษ์ให้หอยตลับ หรือหอยขาวอยู่คู่คลองเขาจีนและชาวเทศบาลตำบลคลองขุดให้ยาวนาน 

         และกิจกรรมที่สร้างสัมพันธ์กันในหมู่บ้านคือการแข่งขันปรุงอาหารจากเมนูหอยขาว จาก 7 หมู่บ้านที่นำมาแข่งขันในความอร่อย เช่น เมนูสปาเก็ตตี้หอยขาว   เมนูผัดขี้เมาหอยขาว  เมนูลาบหอยขาว ส้มตำหอยขาว และผัดเครื่องแกงหอยขาว พร้อมลีลาความสนุกสนานของแม่ครัว บวกกับความสะอาด ความสวยงาม สร้างสีสันและกองเชียร์กันอย่างสนุกสนาน งานนี้ภรรยาท่านนายกเทศมนตรีได้ลงแข่งขันด้วย  กับเมนูผัดขี้เมาหอยขาว  ยิ่งสร้างสีสันให้กับลูกบ้านได้ไม่น้อย

        มาทำความรู้จัก  หอยตลับ  หรือ  หอยขาว   ลักษณะหอยตลับหรือหอยขาวก็คือเปลือกหนาผิวเป็นเงามีสีและลวดลายต่าง ๆ ตั้งแต่สีขาวเรียบสีครีมลายสีน้ำตาลอ่อนไปจนถึงสีน้ำตาลเข้ม  แหล่งที่พบ   บริเวณพื้นทรายบนโคลนหรือปากแม่น้ำเมื่อน้ำลงต่ำสุดจะฝังตัวบนพื้นทรายลึกประมาณ 5 ถึง10 เซนติเมตรได้ปากแม่น้ำ   กินตะกอนอินทรีย์แขวนลอยบริเวณพื้นท้องทะเลและสาหร่ายขนาดเล็กกรองกินเป็นอาหาร

………………………………..

 

สตูลไม่ทิ้งกัน! เครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล ร่วมกับพันธมิตรพี่น้องและผองเพื่อน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยไฟไหม้ตำบลควนสตอ

สตูลไม่ทิ้งกัน//เครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล ร่วมกับพันธมิตรพี่น้องและผองเพื่อน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยไฟไหม้ตำบลควนสตอ    

อัพเดทล่าสุด

        วันหยุดสุดสัปดาห์มีแหล่งท่องเที่ยวแหล่งจับจ่ายมาแนะนำ  นักท่องเที่ยวสายวัฒนธรรม  โดยทางอบจ.สตูล ได้จัดงาน  “สตูลฮาลาลสตรีท 2023” ครั้งที่ 4  ระหว่างวันที่ 4-6 ส.ค.2566 ขึ้นที่ บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (คฤหาสน์กูเด็น)  ตำบลพิมาน  อำเภอเมือง จังหวัดสตูล   โดยภายในงานมีการจัดนิทรรศการจากภาคส่วนต่าง ๆ การออกร้านจากผู้ประกอบการ  ที่มีทั้งอาหารคาว  หวาน  และอาหารซีฟู้ดที่ขึ้นชื่อในจังหวัดสตูล และจังหวัดข้างเคียง  โดยเฉพาะเมนูยอดฮิตของชาวสตูลคือโรตี  ในรูปแบบต่าง ๆ  อาหารทะเลซีฟู้ดสด ๆ จากทะเลสตูล และเมนูอาหารวัฒนธรรมท้องถิ่นมากมายมารวมภายในงานนี้  

        นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมสาธิตเมนูอาหารและชิมฟรี  กิจกรรมการเสวนา “ฮาลาลเพื่อการท่องเที่ยว”  โดยสถาบันฮาลาล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสตูล   การแสดงนาฏศิลป์มลายู ชุด Eid Mubarak จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ  การแสดงอันนาชีด โดยวงนัจมี  จากโรงเรียนสามัคคีอิสสลามวิทยา

Categories
ข่าวทั่วไป

สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ผนึกกำลังสมาคมนักข่าวลาวจัดประชุมพัฒนาสื่อดิจิทัลลาว

สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ผนึกกำลังสมาคมนักข่าวลาวจัดประชุมพัฒนาสื่อดิจิทัลลาว

         สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ร่วมกับ สมาคมนักข่าวแห่งสปป.ลาว ร่วมกันจัดประชุม “ทิศทางการพัฒนาสื่อออนไลน์ของลาว” ณ สถานีวิทยุกระจายเสียงแห่งชาติลาว นครเวียงจันทน์ สปป.ลาว โดยมี ท่านสะหวันคอน ราซมนตรี ประธานสมาคมนักข่าวแห่ง สปป.ลาว ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีเปิด  สำหรับวัตถุประสงค์ในการจัดประชุมในครั้งนี้ เพื่อเป็นการติดตามผล “การอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาทักษะการเพิ่มรายได้ผ่านออนไลน์แพลตฟอร์มสำหรับสื่อมวลชนลาว” ที่เคยจัดขึ้นเมื่อวันที่ 24-26 กรกฏาคม 2565 ณ เมืองวังเวียง สปป.ลาว  

        โดยนายระวี ตะวันธรงค์ นายกสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ นายชวรงค์ ลิมป์ปัทมปาณี ที่ปรึกษาสมาคมฯ พร้อมด้วยคณะกรรมการสมาคมฯ ได้ร่วมกันเป็นวิทยากรให้ความรู้เกี่ยวกับการวางแผนกลยุทธ์การผลิตคอนเทนต์ ให้ตอบโจทย์เป้าหมายทางธุรกิจ และการตลาด Business Model รวมทั้งแนวทางการสร้างรายได้ โดยการประชุมครั้งนี้ได้รับความสนใจจากผู้บริหารและผู้ปฏิบัติงานในองค์กรสื่อมวลชนแขนงต่างๆในสปป.ลาว เข้าร่วมจำนวนมาก มีการตอบข้อซักถาม แลกเปลี่ยน ให้คำแนะนำในหลายประเด็น โดยเฉพาะแนวทางการหารายได้และการทำตลาดของสื่อลาว

       ทั้งนี้การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท ซีพี ออลล์ จํากัด (มหาชน) และบริษัท ฟ้าใหญ่มีเดีย จำกัด (BigBlue Agency Laos)

อัพเดทล่าสุด

สตูลไม่ทิ้งกัน! เครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล ร่วมกับพันธมิตรพี่น้องและผองเพื่อน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยไฟไหม้ตำบลควนสตอ

สตูลไม่ทิ้งกัน//เครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล ร่วมกับพันธมิตรพี่น้องและผองเพื่อน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยไฟไหม้ตำบลควนสตอ    

Categories
ข่าวเด่น

คืบหน้า  ปลอดภัยแล้วชาวมาเลเซีย 30 ชีวิตพายเรือคายัคข้ามแดนจากลังกาวีมาไทยหลังเจอคลื่นซัด 

คืบหน้า  ปลอดภัยแล้วชาวมาเลเซีย 30 ชีวิตพายเรือคายัคข้ามแดนจากลังกาวีมาไทยหลังเจอคลื่นซัด

          วันที่ 29 สิงหาคม  2566  เวลา 19 นาฬิกา จากเหตุการณ์นักกีฬาพายเรือคายัคชาวมาเลเซียที่รวมตัวกัน 30 คนใช้เรือคายัคพายข้ามแดนจากเกาะลังกาวี รัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย  เพื่อมาท่องเที่ยวในจังหวัดสตูล ประเทศไทย ด้วยระยะทาง 32 กม. แต่ระหว่างทางได้เกิดคลื่นลมแรง  ทำให้ไม่สามารถประคองเรือ   เดินทางมาตามวันเวลา  ที่มีการนัดหมายกับทางการไทย  ที่เกาะยาว  อำเภอเมือง จังหวัดสตูลได้  เนื่องจากเกิดเรือล่มระหว่างทาง   ในแนวเขตของมาเลเซียก่อน

        ทำให้ทางการไทยทุกฝ่าย ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล, หน่วยเฉพาะกิจพื้นที่ตอนใต้ จว.สตูล ศรชล ภาค 3, ชุดปฏิบัติการพิเศษ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ เจ้าท่าส่วนภูมิภาคสาขาสตูล  ตำรวจน้ำสตูล  สั่งกำลังพร้อมเร่งให้ความช่วยเหลือ  เนื่องจากความแรงลม    และคลื่นได้ซัดให้ทั้ง30 คน  แยกเป็นหญิง 18 คน ชาย 12 คน ที่พายเรือคายัคมาจำนวน 20 ลำ   แตกแยกย้าย  โดยพบว่ามาติดตามเกาะปรัสมาน่า  และรอยต่อสตูล ลังกาวี   พบจำนวน 27 คน และอีก 3 คน คลื่นลมได้ซัดนักพายเรือเข้ารัฐเปอร์ลิส ของประเทศมาเลเซีย ซึ่งขณะนี้ทั้งหมดปลอดภัยแล้ว   มีเพียง 1 ใน 27 คนที่พบอาการบาดเจ็บที่สะบักเล็กน้อย   

         สำหรับนักกีฬาพายเรือคายัคชุดนี้    มีด้วยกันจำนวน  20 ลำ 30 คน  ได้ออกเดินทางจากเกาะลังกาวี  รัฐเคดาห์ประเทศมาเลเชีย มายังจังหวัดสตูล ประเทศไทย  ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ   และประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวอุทยานธรณีโลกสตูล และเกาะลังกาวี รัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย ให้เป็นที่รู้จัก  ซึ่งมีการจัดกิจกรรมขึ้น โดยจังหวัดสตูล ร่วมกับ หน่วยงาน Langkawi Development    Authority  (LADA) เกาะลังกาวีรัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย  กำหนดจัดกิจกรรมพายเรือคายัคระหว่างประเทศ   สตูลลังกาวี   ระหว่างวันที่ 29-31 สิงหาคม 2566

……………………………..

สตูลไม่ทิ้งกัน! เครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล ร่วมกับพันธมิตรพี่น้องและผองเพื่อน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยไฟไหม้ตำบลควนสตอ

สตูลไม่ทิ้งกัน//เครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล ร่วมกับพันธมิตรพี่น้องและผองเพื่อน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยไฟไหม้ตำบลควนสตอ    

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

ด่วน ทางการไทยเร่งช่วยชีวิตคณะนักกีฬาพายเรือคายัคลังกาวี มาสตูลล่มจากคลื่นลมแรง

ด่วน  ทางการไทยเร่งช่วยชีวิตคณะนักกีฬาพายเรือคายัคลังกาวี   มาสตูลล่มจากคลื่นลมแรง

       ด่วน   เกิดเหตุเรือคายัคของนักกีฬาจากเกาะลังกาวี   ประเทศมาเลเซียล่มบริเวณน่านน้ำของมาเลเซีย   โดยทุกคนได้ลอยคอและประคองเรือขอความช่วยเหลือฝั่งไทย    ขณะที่พายเรือข้ามทะเลเข้ามาทางด้านเกาะยาว  ของอำเภอเมือง   จังหวัดสตูล  โดยขณะนี้ทางไทย  ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล, หน่วยเฉพาะกิจพื้นที่ตอนใต้ จว.สตูล ศรชล ภาค 3, ชุดปฏิบัติการพิเศษ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ กองเรือยุทธการ เจ้าท่าส่วนภูมิภาคสาขาสตูล  ออกให้ความช่วยเหลือ  นักกีฬาพายเรือคายัคทั้งหมดมาพักที่เกาะยาว  ได้แล้วจำนวน 15 คน และยังมีส่วนที่ยังค้นหาและออกช่วยเหลือ  เนื่องจากก่อนเกิดเหตุและขณะนี้  ยังมีคลื่นลมแรงเป็นเหตุให้นักกีฬาพายเรือไม่สามารถประคองเรือสู้กับคลื่นที่แรงได้  เบื้องต้นมีรายงานได้รับบาดเจ็บที่แขนเล็กน้อย 1 ราย

      สำหรับนักกีฬาพายเรือคายัคชุดนี้    มีด้วยกันจำนวน  20 ลำ 30 คน  ได้ออกเดินทางจากเกาะลังกาวี  รัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเชีย มายังจังหวัดสตูล ประเทศไทย  ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวอุทยานธรณีโลกจังหวัดสตูล และเกาะลังกาวี รัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย ให้เป็นที่รู้จัก  ซึ่งมีการจัดกิจกรรมขึ้น จังหวัดสตูล ร่วมกับ หน่วยงาน Langkawi Development Authoritu (LADA) เกาะลังกาวี รัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย  กำหนดจัดกิจกรรมพายเรือคายัคระหว่างประเทศ   สตูล-ลังกาวี   ระหว่างวันที่ 29-31 สิงหาคม 2566

……………………………………………………….

สตูลไม่ทิ้งกัน! เครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล ร่วมกับพันธมิตรพี่น้องและผองเพื่อน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยไฟไหม้ตำบลควนสตอ

สตูลไม่ทิ้งกัน//เครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล ร่วมกับพันธมิตรพี่น้องและผองเพื่อน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยไฟไหม้ตำบลควนสตอ    

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

ไอเดียบรรเจิด  ใช้ข้าวสารอาหารแห้งตกแต่งหน้าหีบศพ เสร็จงานแจกผู้ยากไร้ได้บุญทั้งผู้ให้สุขใจทั้งผู้รับ

สตูลไอเดียบรรเจิด  ใช้ข้าวสารอาหารแห้งตกแต่งหน้าหีบศพ เสร็จงานแจกผู้ยากไร้ได้บุญทั้งผู้ให้สุขใจทั้งผู้รับ

วันที่28  ..2566  ที่วัดสตูลสันยาราม  หรือวัดป่าช้าไทย  ตำบลพิมาน  อำเภอเมือง  จังหวัดสตูล  มีการตั้งบำเพ็ญกุศลศพ คุณแม่ไพเราะ  หมื่นหาญ  อายุ 79 ปี   ซึ่งเสียชีวิตด้วยโรคชรา    แต่งานศพครั้งนี้ได้สร้างความตื่นตาเมื่อเจ้าภาพลูก บุตรหลานได้มีแนวคิดที่อยากจะจัดตกแต่งงานได้เกิดประโยชน์ต่อผู้วายชนมากที่สุด   โดยมีนกยูง 2 ตัวอยู่ข้างหีบหน้าศพ

จึงเกิดไอเดียในการนำข้าวของซึ่งเป็นอาหารแห้งมาตกแต่ง  ไม่ว่าจะเป็นบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปแบบซองหรือแบบถ้วยมาประดับเป็นหางนกยูง   ขนมปังในห่อที่สวยงามมาตกแต่งเป็นช่อดอกไม้  และข้าวสารมาแต่งเป็นสายธารน้ำไหล  ได้อย่างสวยงามสะดุดตาแขกผู้มาร่วมงาน  ต่างชื่นชมในแนวคิด นอกจากจะทำให้ประหยัดแล้ว ยังเป็นการลดโลกร้อน  และส่วนใหญ่ไม่เคยเห็นในงานที่ไหนทำแบบนี้

นางสาวเนตรดาว  สู้ณรงค์  ครอบครัวผู้เสียชีวิต  บอกว่า  ลูกหลานของผู้เสียชีวิตต้องการจะจัดงานเพื่อเป็นบุญกุศลให้กับผู้วายชนให้มากที่สุด  โดยสิ่งของที่นำมาตกแต่งประดับประดาที่สวยงามหน้าหีบศพ ต้องการจะนำสิ่งของเหล่านี้ทำบุญให้ผ่านไปยังมูลนิธิเพื่อนำไปช่วยเหลือชาวบ้านที่ยากไร้จริงๆ อีกทั้งทางวัดก็อยากให้มีการส่งเสริมรณรงค์ใช้สิ่งของที่เป็นประโยชน์ให้มากที่สุดด้วยเพื่อไม่ให้เหลือสร้างขยะให้กับวัด และการจัดช่อดอกไม้และนกยูงในครั้งนี้  เสียค่าใช้จ่ายเพียง 13,500 บาท  จากปกติหากตกแต่งแบบนี้จะต้องเสียค่าดอกไม้สดสูงถึง 30,000 บาท

พระปลัดสุริยา ดิสาโร    เจ้าอาวาสวัดสตูลสันตยาราม  บอกว่า   เป็นเรื่องที่ดีที่ญาติโยมใช้สิ่งของเครื่องใช้ของแห้งมาตกแต่งหน้าหีบศพได้อย่างสวยงาม  นอกจากจะเป็นการทำบุญให้กับผู้วายชนที่จากลาโลกไปแล้ว  ยังเป็นการช่วยต่อชีวิตให้กับผู้ที่ยังอยู่ ด้วยการนำ   บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป  ข้าวสาร  ไปทำบุญให้ผู้ยากไร้ได้บุญทั้งผู้ให้และผู้วายชน  ส่วนผู้ที่มีฐานะยากจนการใช้วิธีนี้ก็จะช่วยลดค่าใช้จ่ายในการจัดงานศพได้
………………….

อัพเดทล่าสุด

สตูลไม่ทิ้งกัน! เครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล ร่วมกับพันธมิตรพี่น้องและผองเพื่อน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยไฟไหม้ตำบลควนสตอ

สตูลไม่ทิ้งกัน//เครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล ร่วมกับพันธมิตรพี่น้องและผองเพื่อน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยไฟไหม้ตำบลควนสตอ    

Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

 สตูล.พบฝูงโลมาปากขวด กระโดดโชว์อวดโฉมความน่ารัก ที่อ่าวตะโล๊ะวาว อช.ตะรุเตา

สตูล..พบฝูงโลมาปากขวด กระโดดโชว์อวดโฉมความน่ารัก ที่อ่าวตะโล๊ะวาว อช.ตะรุเตา

          วันที่ 11 กันยายน 2566 ภาพความน่ารักของฝูงโลมาที่กำลังกระโดดเล่นน้ำ และแหวกว่ายไปมา ที่บริเวณหน้าอ่าวตะโลวาว และตะโละอุดัง เขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ทางเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันบันทึกภาพไว้ได้ และนำมาเผยแพร่บนเพจของอุทยานแห่งชาติตะรุเตาสร้างความประทับใจให้ผู้พบเห็นนั้น

         นายสมศักดิ์ พูนปาน หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติตะรุเตาที่ 1 (อ่าวตะโละวาว) แจ้งว่าวันนี้ เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนที่ 001 (อ่าวตะโละวาว/อ่าวตะโละอุดัง) ออกลาดตระเวนทางเรือในพื้นที่ตามปกติ พบ โลมาปากขวด จำนวน 1 ฝูง ประมาณ 10-15 ตัวบริเวณหน้าอ่าวตะโละวาว ซึ่งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเกาะตะรุเตา

         ทั้งนี้ จากการที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการจัดเก็บ และบันทึกฐานข้อมูล ซึ่งปรากฏว่าในช่วงปีที่ผ่านมา และต้นเดือนนี้ ยังไม่เคยพบเห็น โลมาที่มากันเป็นฝูง ซึ่งล่าสุดเพิ่งได้พบในครั้งนี้

         สำหรับการเจอโลมาปากขวดในครั้งนี้ เป็นตัวชี้วัดสำคัญ ถึงความอุดมสมบูรณ์ทางทรัพยากรทะเล ได้แสดงว่า ชายฝั่งทะเลแถบนี้ มีความหลากหลายทางชีวภาพ มีสัตว์น้ำวัยอ่อนที่เป็นอาหารของโลมา ซึ่งอาศัยอยู่พื้นที่บริเวณชายฝั่งทะเลของจังหวัดสตูล
……………..
(ขอบคุณภาพจาก อุทยานตะรุเตา )

สตูลไม่ทิ้งกัน! เครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล ร่วมกับพันธมิตรพี่น้องและผองเพื่อน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยไฟไหม้ตำบลควนสตอ

สตูลไม่ทิ้งกัน//เครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล ร่วมกับพันธมิตรพี่น้องและผองเพื่อน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยไฟไหม้ตำบลควนสตอ    

อัพเดทล่าสุด
Categories
ท้องถิ่น-การเมือง ท่องเที่ยว-กีฬา

นั่งวิ่งทั่วสารทิศตื่นเช้า ร่วมกิจกรรม “วิ่งรวมใจก้าวต่อไปเพื่อผู้ด้อยโอกาส” ต.ฉลุง กันอย่างครึกครื้น

นั่งวิ่งทั่วสารทิศตื่นเช้า ร่วมกิจกรรม “วิ่งรวมใจก้าวต่อไปเพื่อผู้ด้อยโอกาส” ต.ฉลุง กันอย่างครึกครื้น

       วันที่่ 26 ส.ค.2566  นั่งวิ่งจากทั่วสารทิศกว่า  600 คน  เข้าร่วมวิ่งรวมใจ   ก้าวต่อไป เพื่อผู้ด้อยโอกาส ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ. 2566   ที่อบต.ฉลุงจัดขึ้น  โดย นายพิบูลย์ รัชกิจประการ  ส.ส.เขต1 จ.สตูล, รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ,นายกอบจ.สตูล ,นายกทต.คลองขุด ,นายก อบต.หลายพื้นที่ และ แขกผู้มีเกียรติทุกท่านร่วมมาเป็นเกียรติเปิดงาน   

     โดยนายสุจริต  ยามาสา  นายกองค์การบริหารส่วนตำบลฉลุง   ในนามผู้จัดงานโครงการวิ่งรวมใจ   ก้าวต่อไป เพื่อผู้ด้อยโอกาส มองว่า องค์การบริหารส่วนตำบลฉลุง  เห็นปัญหาที่กำลังมีมากขึ้นในเขตพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลฉลุง โดยเฉพาะปัญหาที่เกิดจากสภาวะเศรษฐกิจ และปัญหาสังคมในปัจจุบัน จึงทำให้ประชาชนเหล่านั้นตกเป็นผู้ที่ด้อยโอกาสทางสังคมกว่าผู้อื่นนั้น

        ซึ่ง “ผู้ด้อยโอกาส” ในที่นี้หมายถึง “ผู้ที่ประสบปัญหาความเดือดร้อน และได้รับผลกระทบในด้านเศรษฐกิจสังคม การศึกษา สาธารณสุข การเมือง กฎหมาย วัฒนธรรม ภัยธรรมชาติ และภัยสงคราม รวมถึงผู้ที่ขาดโอกาสที่จะเข้าถึงบริการขั้นพื้นฐานของรัฐ ตลอดจนผู้ประสบปัญหาที่ยังไม่มีองค์กรหลักรับผิดชอบอันจะส่งผลให้ไม่สามารถดำรงชีวิตได้เท่าเทียมกับผู้อื่น”

       องค์การบริหารส่วนตำบลฉลุง โดยผู้บริหาร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตำบล ได้ร่วมกับ ฝ่ายปกครองกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และ ฝ่ายผู้นำศาสนา  อีหม่ามประจำมัสยิด เพื่อจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลฉลุง   และได้ร่วมกันจัดงาน วิ่งรวมใจ ก้าวต่อไป เพื่อผู้ด้อยโอกาส ขึ้นในวันนี้   โดยมีวัตถุประสงค์  เพื่อหารายได้ช่วยเหลือผู้ด้อยโอกาสในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลฉลุง  ส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้ที่ด้อยโอกาส ได้มีโอกาสในด้านต่างๆทัดเทียมคนทั่วไป  สร้างโอกาสให้ประชาชนทั่วไปได้มีโอกาสเป็นผู้ให้   และเพื่อสร้างความสัมพันธ์ ความรัก ความสามัคคีของคน

…………

สตูลไม่ทิ้งกัน! เครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล ร่วมกับพันธมิตรพี่น้องและผองเพื่อน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยไฟไหม้ตำบลควนสตอ

สตูลไม่ทิ้งกัน//เครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล ร่วมกับพันธมิตรพี่น้องและผองเพื่อน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยไฟไหม้ตำบลควนสตอ    

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

  สตรีเหล็กในวงการเห็ดสตูล  ปลดหนี้ด้วยลำแข้ง สามารถสร้างรายได้ 2 แสนบาทต่อเดือน  เตรียมขยายพื้นที่สร้างอาณาจักรเห็ดแบบครบวงจร พร้อมเปิดเป็นแหล่งเรียนรู้  

สตรีเหล็กในวงการเห็ดสตูล  ปลดหนี้ด้วยลำแข้ง สามารถสร้างรายได้ 2 แสนบาทต่อเดือน  เตรียมขยายพื้นที่สร้างอาณาจักรเห็ดแบบครบวงจร พร้อมเปิดเป็นแหล่งเรียนรู้

         อาชีพเกษตรกรไม่ได้ทำให้รวยในวันนี้หรือพรุ่งนี้  แต่หากคุณทำไปเรื่อย ๆ เรียนรู้จากประสบการณ์คุณก็จะประสบความสำเร็จเหมือนอย่างคุณนาถลดา  ขาวคง อายุ 41 ปี  เกษรตกรเพาะเห็ด ซึ่งตั้งอยู่เลขที่ 237 หมู่ที่ 2 ตำบลควนโพธิ์  อำเภอเมือง จังหวัดสตูล   ซึ่งขณะนี้มีโรงเรือนเพาะเห็ดมากถึง 15 โรงเรือน

         

          โดยขณะนี้หลายโรงเรือนกำลังให้ผลผลิตเห็ดหูหนูซึ่งพร้อมเก็บเกี่ยวผลผลิต  ทุกโรงเรือนที่เลี้ยงเห็ดหูหนู  เป็นผลพวงมาจากการพักโรงเรือนของเห็ดนางฟ้าภูฐานเป็นเวลา 1 เดือน  ทั้งนี้เพื่อไม่ให้พื้นที่ว่างเปล่าไร้ประโยชน์ จึงได้เพาะเลี้ยงเห็ดหูหนู  ซึ่งเห็ดหูหนูนี้จะให้ผลผลิตต่อ 1 ก้อนสูงถึง 1 กิโลกรัม ผลผลิตแต่ละวันได้ถึง 50 กิโลกรัม ราคาขายส่งกิโลกรัมละ 60 บาท ซึ่งเป็นรายได้เสริมอีกทางรองจากการเลี้ยงเห็ดนางฟ้าภูฐาน

 

          สำหรับฟาร์มนาถลดาแห่งนี้  ตลอด 10 ปี ในวงการอาชีพเพาะเห็ดสามารถปลูกขยายพันธ์ได้ถึง 3 สายพันธุ์ โดยมีเห็ดภูฐานนางฟ้า เป็นตัวหลัก   เห็ดหูหนู และเห็ดแครง   ซึ่งทางฟาร์มทำครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำ กลางน้ำ ไปถึงปลายน้ำ คือมีโรงอัดเห็ดก้อนที่สามารถทำกำลังผลิตได้วันละ 1200 ก้อนต่อวัน  การเก็บผลผลิตจากเห็ดนางฟ้าภูฐานได้วันละ 150 กก. เห็ดหูหนูวันละ 50 กก.และขณะนี้เห็ดแครงกำลังรอให้ผลผลิต  สินค้าในแต่ละวันมีไม่เพียงพอกับความต้องการของลูกค้า

         ชีวิตที่ต้องสู้และดิ้นรนด้วยลำพังเป็นคุณแม่เลี้ยงเดี่ยว กับภาระหนี้สินที่สามีเก่าทิ้งไว้ให้ 4 ล้านบาท จากนักการเมืองท้องถิ่นที่ได้รับการยอมรับนับหน้าถือตา มาวันนี้ได้ถอดหมวกออกก้าวสู่เกษตรกรอย่างเต็มตัว  แม้จะลองผิดลองถูกจนเกือบล้มละลายจนถึงขณะนี้สามารถปลดหนี้ได้ทั้งหมด และกำลังจะขยายอาณาจักรฟาร์มเลี้ยงเห็ดจาก 1 ไร่เป็น 4 ไร่ และเพิ่มกำลังผลิตเห็ดก้อนเป็นวันละ 200 ก้อนเพิ่มในส่วนของโรงงานทำปุ๋ยจากก้อนเห็ดที่หมดสภาพแล้ว รวมทั้งการเตรียมความพร้อมในการแปรรูปน้ำพริกจากเห็ด และของฝากจากเห็ดสวรรค์

          คุณนาถลดา  ขาวคง  เชื่อว่าอาชีพของเกษตรกร  หากเรามีความอดทนและต่อสู้หมั่นเรียนรู้  สามารถแก้ปัญหาได้ไปเรื่อยๆ จะทำให้คุณมีวันนี้และประสบความสำเร็จเหมือนตนที่กล้าประกาศได้ว่า ชีวิตตนได้ประสบความสำเร็จแล้ว เพราะทุกวันนี้มีรายได้เหลือจากรายจ่ายเดือนละ  2 แสนบาท คู่ชีวิตคนใหม่รับราชการทหารก็ให้ลาออกมาช่วยกันเติมความฝัน พร้อมลูกรักที่เป็นกำลังใจให้ตนได้สู้ต่อไปเพื่อพวกเขา

        

          นางฮาบีบ๊ะ  จายุพันธ์  นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองสตูล  กล่าวว่า เกษตรกรรายนี้ถือเป็นตัวอย่างที่น่าชื่นชม ด้วยความอดทน และมีมานะในการต่อสู่กับปัญหาที่รุมเร้า  โดยเฉพาะในการทำอาชีพเพาะเห็ดที่ต้องเรียนรู้หมั่นดูเชื้อราที่เข้ามาแทนที เชื้อราดี ที่ต้องคอยรื้อออก  หากไม่อย่างนั้นผลผลิตจะได้รับความเสียหาย และการคิดทำก้อนเห็ดเองเพื่อลดต้นทน การคิดทำโรงปุ๋ยจากก้อนเห็ดที่หมดสภาพ เป็นแนวคิดที่มีการต่อยอดบวกกับตลาดมีความต้องการสูง ซึ่งทางเกษตรอำเภอเมืองได้เข้ามาช่วยให้คำปรึกษาและเป็นพี่เลี้ยงหากเขาต้องการคำปรึกษา ซึ่งก็นับเป็นเกษตรกรที่น่าภาคภูมิใจที่สามารถเติบโตได้จนถึงทุกวันนี้

………………

สตูลไม่ทิ้งกัน! เครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล ร่วมกับพันธมิตรพี่น้องและผองเพื่อน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยไฟไหม้ตำบลควนสตอ

สตูลไม่ทิ้งกัน//เครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล ร่วมกับพันธมิตรพี่น้องและผองเพื่อน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยไฟไหม้ตำบลควนสตอ    

อัพเดทล่าสุด