Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

โรตีกาปาย  ขนมปังบางกรอบรสเค็มเคี้ยวมัน  มีขายในเมืองสตูลมากว่าร้อยปี

โรตีกาปาย  ขนมปังบางกรอบรสเค็มเคี้ยวมัน  มีขายในเมืองสตูลมากว่าร้อยปี

           มาจนถึงทุกวันนี้ยังมีนางยัลณี  ขุนดำ ประธาน กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านวังพะเนียด  ตำบลเกตรี (เกด-ตรี) อำเภอเมือง  จังหวัดสตูล  ที่เริ่มก่อตั้งกลุ่มเมื่อปี 2547  และยังคงอนุรักษ์และสืบสานขนมโบราณให้คนรุ่นใหม่ได้ชิม

          ด้านเกษตรอำเภอเมืองสตูล โดยนายเฉลิมพร  ศรีสวัสดิ์  พามาดูกลุ่มแม่บ้านที่ยังคงอนุรักษ์  สืบสานการทำขนมโบราณที่อยู่คู่จังหวัดสตูลมาช้านาน

 

          ทันทีที่มียอดสั่งซื้อ  กลุ่มแม่บ้านที่นี่หลังเสร็จภารกิจจากกรีดยางพารา  และงานบ้าน จะมารวมตัวกันที่มัสยิดในหมู่บ้าน  เพื่อที่จะช่วยกันทำขนมโรตีกาปาย   ที่มีส่วนผสมของ น้ำตาล,ไข่,เนย,นม,เกลือ ,และแป้งสาลี  นำมาผสมรวมกันนวดจนแป้งเหนียวหนึบ  ก่อนที่จะนำเข้าเครื่องรีดเพื่อให้แป้งเป็นแผ่นบาง

 

         จากนั้นได้นำมาตัดเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมผืนผ้า (ซึ่งก่อนหน้านี้  โรตีกาปายที่นี่จะเป็นแผ่นทรงกลม   แต่ด้วยที่เหลือเศษแป้งจำนวนมาก   ทำให้มีการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ของขนม  มาเป็นสี่เหลี่ยมผืนผ้าแทน)  และขั้นตอนที่ช้าที่สุดที่ทางกลุ่มแม่บ้านบอกคือ  การเรียงแผ่นแป้งที่ผ่านการตัดเรียบร้อยแล้ว  ลงบนถาดทีละแผ่น  เพื่อพักไว้และรอเข้าเตาอบที่อุณหภูมิร้อนสม่ำเสมอกัน  จนทำให้แป้งสุกฟู   เป็นอันเสร็จกระบวนการทำขนมโรตีกาปาย

 

          จากนั้นแพ็คใส่ถุงซีลภายใต้ชื่อแบรนด์   “โรตีกาปาย”  ทุ่งเกตรีขนมพื้นเมืองสตูล, วิสาหกิจชุมชน,สินค้า OTOP ,มผช.,เครื่องหมายฮาลาล,  กรอบมัน  รับความอร่อยคู่เมืองสตูล

         นางบุหลัน   อาดำ อายุ 60 ปี การตลาดของกลุ่มฯ   บอกว่า เมื่อก่อนจะทำเป็นรูปทรงกลม  แต่ปัจจุบันได้เปลี่ยนเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าเพื่อไม่ให้เหลือเศษแป้ง  ขนมชนิดนี้ต้องทำเป็นกลุ่มเนืองจากมีหลายขั้นตอนโดยเฉพาะขั้นตอนการเรียงชิ้นแป้งบนถาดจะใช้เวลานานกว่าขั้นตอนเอง  เพราะหากวางชนิดแป้งซ้อนกันจะทำให้ขนมไม่สุก

 

        นายจีรศักดิ์  อาดำ   ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 5  บ้านวังพะเนียด บอกว่า ขณะนี้เป็นขนมโบราณที่สืบทอดมาจากรุ่นสู่รุ่นแล้ว เป็นเรื่องดีที่ชาวบ้านได้ร่วมกันสืบสานให้ขนมชนิดนี้คงอยู่ โดยปกติแล้วจะนิยมนำมากินคู่กับโกปี้ หรือ กาแฟโบราณ มีรสชาติกรอบเค็มมัน ซึ่งเป็นรสชาติดั้งเดิม หรือจะนำมายำกับมะพร้าวอ่อนก็เพิ่มความอร่อย

 

        สำหรับราคาซื้อขายขนมโรตีกาปายขาย 3 กล่องร้อย ,หรือจะซื้อครึ่งกิโลกรัม 90 บาทหรือ 1 กิโลกรัม 180 บาท ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ก๊ะบุหลัน โทร. 082-375-9497  หรือ ก๊ะไลลา  กรมเมือง  โทร. 087 290-8601 

นี่คือเรื่องราวของโรตีกาปาย ขนมโบราณที่ยังคงมีเสน่ห์และรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดสตูล หากมีโอกาสมาเยือน อย่าลืมแวะชิมกันนะคะ

อัพเดทล่าสุด

 สตูล..วิถีประมงแปรรูป สร้างอาชีพริมคลองเจ๊ะบิลัง “ปลาเส้นแคลเซียมสูง” เสริมรายได้จากเรือเล็กสู่ครัวเรือน

สตูล..วิถีประมงแปรรูป สร้างอาชีพริมคลองเจ๊ะบิลัง “ปลาเส้นแคลเซียมสูง” เสริมรายได้จากเรือเล็กสู่ครัวเรือน สตูล

Categories
เยาวชน-การศึกษา

 มูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์  และวิทยากรอาสาสมัครการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานเครือเจริญโภคภัณฑ์ติดความรู้เยาวชน  คืนชีวิตด้วย CPR

สตูล- มูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์  และวิทยากรอาสาสมัครการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานเครือเจริญโภคภัณฑ์ติดความรู้เยาวชน  คืนชีวิตด้วย CPR

        นักเรียน 240 คน จากโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 42 จังหวัดสตูล  กำลังฝึกการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานอย่างถูกต้อง หรือ ซีพีอาร์  ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมการฝึกอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

 

         โดยกิจกรรมในครั้งนี้มูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์  โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ และวิทยากรอาสาสมัครการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานเครือเจริญโภคภัณฑ์เข้ามาสนับสนุนต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 14 และในครั้งนี้มีนักเรียนเข้ารับการอบรมจำนวน  240 คน  เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนมีจิตอาสา มีทักษะและความมั่นใจ ในการทำ ซีพีอาร์และการใช้เครื่องช็อกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ ช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุหมดสติ  ไม่หายใจ และหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน ให้ทันเวลาภายใน  4 นาที 

 

         ทักษะเบื้องต้นนี้ยังเป็นการคืนชีพกลับมาด้วยสภาวะสมองไม่ได้รับการเสียหายจากการขาดออกซิเจน  สามารถกลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติสุขได้ต่อไปได้  และเพื่อสร้างเสริมคุณธรรมและสร้างเสริมคุณภาพชีวิตให้แก่เยาวชนและประชาชนทั่วไป เพื่อเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยในการดำรงชีวิตของคนไทยอีกด้วย

          นายรัชนนท์  เพ็งแก้ว  อายุ 17 ปี ม.6  โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 42 จังหวัดสตูล  บอกว่า  ขั้นตอนการช่วยชีวิต เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นไม่ทราบเวลา หากมีความรู้ติดตัวไว้สามารถช่วยคนในสังคมและคนใกล้ตัวได้ โดยได้มีการสอนเช็คการหายใจอยู่หรือไม่ หากไม่ได้สอนให้มีการปั๊ม CPR

 

            นางปุณฑริกา  ลินฮาท  ผู้ชำนาญการอาวุโสสำนักบริหารโครงการพิเศษเครือเจริญโภคภัณฑ์ บอกว่า  มุ่งหวังว่าจะเผยแพร่การช่วยชีวิต การใช้เครื่องมือ โดยคำนึงถึงการช่วยเหลือหากเจอคนหัวใจหยุดเต้น ประชาชนคนแรกที่อยู่ใกล้ชิดผู้ประสบเหตุจะเป็นคนแรกที่คืนชีวิตให้กับเขาได้ ฉะนั้นในการ CPR จะต้องมีการเรียน และฝึกปฏิบัติที่ถูกต้องและชำนาญจะได้ช่วยชีวิตพวกเขาได้ เครือเจริญโภคภัณฑ์จึงทำโครงการนี้มาเพื่อให้ประชาชนทั่วไปมีความรู้ และมีทักษะ ปั๊มหัวใจอย่างถูกต้องและรอดปลอดภัย

……………………………………

อัพเดทล่าสุด

 สตูล..วิถีประมงแปรรูป สร้างอาชีพริมคลองเจ๊ะบิลัง “ปลาเส้นแคลเซียมสูง” เสริมรายได้จากเรือเล็กสู่ครัวเรือน

สตูล..วิถีประมงแปรรูป สร้างอาชีพริมคลองเจ๊ะบิลัง “ปลาเส้นแคลเซียมสูง” เสริมรายได้จากเรือเล็กสู่ครัวเรือน สตูล

Categories
ข่าวเด่น

จับยาไอซ์  10 กิโลฯ ถูกซุกแกลลอนวางทิ้งไว้บนชายหาดเกาะยาว รวมมูลค่า 3 ล้านบาท

สตูล-จับยาไอซ์  10 กิโลฯ ถูกซุกแกลลอนวางทิ้งไว้บนชายหาดเกาะยาว รวมมูลค่า 3 ล้านบาท

         วันที่ 6 สิงหาคม 2567   เจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดจังหวัดสตูล พร้อมสนธิกำลังหลายฝ่ายทั้ง ตำรวจน้ำสตูล ศรชล.สตูล ทหารเรือ ตชด.436 พร้อมด้วยกำพลังทหารจากกองพันทหาราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 5 จังหวัดสตูล ด่านศุลกากรตำมะลัง และ ฝ้ายปกครองจังหวัดสตูล กำลังช่วยกันลำเลียงยาไอซ์ที่ถูกซุกไว้ในถังแกลลอนน้ำมัน 30 ลิตร ( สีน้ำเงิน )  2 ถัง ซึ่งพบว่าข้างในแต่ละถังมียาไอซ์ถูกแพ็กไว้อย่างละ 1 กิโลกรัม จำนวน 5 ถุง ได้ถูกนำไปวางไว้ตั้งแต่ก่อนรุ่งฟ้าสาง ใกล้ริมชายหาดในพื้นที่ หมู่ที่ 1 บ้านเกาะยาว ตำบลปูยู อำเภอเมือง จ.สตูล  ห่างจากเสาโทรศัพท์ไม่มากนัก   เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำของกลาง ยาไอซ์ทั้ง 2 แกลลอน น้ำหนัก 10 กิโลฯ ของกลางถูกควบคุมมาขึ้นเรือตรวจการณ์ของตำรวจน้ำ มาขึ้นฝั่งที่บริเวณที่ท่าเทียบเรือตำรวจน้ำ และได้นำของกลางดังกล่าวไปที่ ตชด.436 สตูล

         ด้านน.อ.แสนย์ ไทบัวเนียม  รอง.ศรชล.สตูล ได้จัดแถลงข่าวโดยมีเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ร่วมจับกุมได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว  ได้นำของกลางทั้ง 2 แกลลอนออกมาพบว่าถูกห่อหุ้มไปด้วยถุงพลาสติกที่เป็นภาษาจีน และแกะออกมา มีรหัสลับเป็นภาษาอังกฤษ เขียนคำว่า  XLP น่าจะเป็นรหัสสินค้าที่จัดส่งออกไปยังประเทศที่ 3 ( มาเลเซีย และอินโดนีเซีย )  โดยทางการข่าวทราบมาว่า ยาไอซ์ล๊อตนี้มีการขนมาจากทางเหนือตอนบนของประเทศไทย ตามใบสั่ง และเลือกพื้นที่จังหวัดสตูล ฝั่งทะเลเป็นการลำเลียงออกนอกประเทศ แต่ด้วยภารกิจการสกัดกั้นคุมเข้มของทาง ศรชล.สตูล และหลายๆฝ่าย  ทำให้ผู้ค้ายาเสพติดข้ามชาติกลัวจึงได้นำมาทิ้งไว้ดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม จะนำของกลางเหล่านี้นำไปตรวจสอบพิสูจน์ต่อไป ซึ่งรวมทั้งมูลค่าตีเป็นเงินไทยของยาไอซ์ล็อตนี้อยู่ที่ประมาณ 3 ล้านบาท แต่ถ้าหากหลุดไปนอกประเทศจะมีราคาเพิ่มไปอีกเท่าตัว ส่วนจะโยงใยถึงคนในพื้นที่หรือว่าคนบนเกาะหรือคนสตูลรู้เห็นหรือไม่ อยู่ในกระบวนการตรวจสอบต่อไป

อัพเดทล่าสุด

 สตูล..วิถีประมงแปรรูป สร้างอาชีพริมคลองเจ๊ะบิลัง “ปลาเส้นแคลเซียมสูง” เสริมรายได้จากเรือเล็กสู่ครัวเรือน

สตูล..วิถีประมงแปรรูป สร้างอาชีพริมคลองเจ๊ะบิลัง “ปลาเส้นแคลเซียมสูง” เสริมรายได้จากเรือเล็กสู่ครัวเรือน สตูล

Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

สตูลต้อนรับนักปั่นจักรยานกว่า 800 คนจาก 14 จังหวัดภาคใต้และต่างประเทศ ในการแข่งขันปั่นจักรยานชิงแชมป์ภาคใต้

สตูล-ต้อนรับนักปั่นจักรยานกว่า 800 คนจาก 14 จังหวัดภาคใต้และต่างประเทศ ในการแข่งขันปั่นจักรยานชิงแชมป์ภาคใต้ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 4 สิงหาคม 2567 ณ ที่ว่าการอำเภอมะนัง จังหวัดสตูล

         ณ ที่ว่าการอำเภอมะนัง จังหวัดสตูล  นายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วย นางปุณณานันท์  ทองหยู ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสตูล  นายเชษฐ  บุตรรักษ์  นายอำเภอมะนัง  นายภาณุ  เพชรประดับ  นายกฯ อบต.ปาล์มพัฒนา  นายดนัย สุวรรณโณ นายก อบต.นิคมพัฒนา  ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงความพร้อมในการจัดการแข่งขัน   ปั่นจักรยานชิงแชมป์ภาคใต้ (Satun Southern Bike) 2024   ในครั้งนี้

 

          โดยเส้นทางการแข่งขันแบ่งเป็น 3 ประเภท ปั่นท่องเที่ยว(ไม่จำกัดจักรยาน) ระยะทาง 27 กิโลเมตร  ปั่นแข่งขันทางเรียบ(เสือภูเขา) และ (เสือหมอบ) ระยะทาง 68 กิโลเมตร  สำหรับนักกีฬาขาแรง การแข่งขันใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง  ในวันที่ 4 สิงหาคม 2567  จุดสตาร์ท ณ ที่ว่าการอำเภอมะนัง  จ.สตูล  เป้าหมายนักปั่นจาก 14 จังหวัดภาคใต้เข้าร่วม 800 คน

 

         โดยทางจังหวัดให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของนักกีฬาเป็นอันดับหนึ่ง พร้อมทั้งจัดเตรียมกิจกรรมต่างๆ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว อาทิ การจำหน่ายสินค้า OTOP อุปกรณ์กีฬา และการแสดงต่างๆ  ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดสตูลและเสริมสร้างภาพพจน์ที่ดีและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวพร้อมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดโดยใช้กิจกรรมกีฬาและนันทนาการเป็นสื่อกลาง  ซึ่งงบประมาณในการจัดการแข่งขันครั้งนี้อยู่ที่ 1.8 ล้านบาท โดยทางจังหวัดจะมีการเก็บสถิตินักท่องเที่ยวและรายได้ที่เกิดขึ้นภายในงาน เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการจัดกิจกรรมครั้งต่อไป

 

        นายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล  กล่าวว่า  ปัจจุบันการปั่นจักรยานเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว เนื่องจากต้องการประสบการณ์ที่แตกต่างในการท่องเที่ยวแต่ละครั้งต้องการสัมผัสธรรมชาติที่บริสุทธิ์ กิจกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การจัดทำโครงการนี้จึงเป็นการสอดรับกับพฤติกรรมทางการท่องเที่ยวของ นักท่องเที่ยว และสามารถเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายของฐานการท่องเที่ยวและเป็นการกระตุ้นกิจกรรม กีฬาเพื่อการท่องเที่ยวในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัดสตูล

 

       ทางจังหวัดขอเชิญชวนชาวมะนังและชาวสตูลร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับนักปั่นจักรยาน พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่าในวันเสาร์และอาทิตย์จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางเข้ามาในอำเภอมะนัง เพื่อร่วมสัมผัสเส้นทางอันสวยงามและท่องเที่ยวในจังหวัดสตูล

…………………………………..

อัพเดทล่าสุด

 สตูล..วิถีประมงแปรรูป สร้างอาชีพริมคลองเจ๊ะบิลัง “ปลาเส้นแคลเซียมสูง” เสริมรายได้จากเรือเล็กสู่ครัวเรือน

สตูล..วิถีประมงแปรรูป สร้างอาชีพริมคลองเจ๊ะบิลัง “ปลาเส้นแคลเซียมสูง” เสริมรายได้จากเรือเล็กสู่ครัวเรือน สตูล

Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

ชวนมาชาร์ตแบต กับทริปเที่ยวสุดฟิน  “จิบกาแฟ ล่องแพ แลปลา” เปิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่ตำบลปาล์มพัฒนา จ.สตูล

สตูล-ชวนมาชาร์ตแบต…กับทริปเที่ยวสุดฟิน  “จิบกาแฟ ล่องแพ แลปลา” เปิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่ตำบลปาล์มพัฒนา จ.สตูล

          อบต.ปาล์มพัฒนา  ชวนผู้สื่อข่าวร่วมค้นหา  และโปรโมท  สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่  มาแนะนำให้กับนักท่องเที่ยวและผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติบริสุทธิ์  นั่นคือ “คลองละงู” ที่ตำบลปาล์มพัฒนา อำเภอมะนัง จังหวัดสตูล

          ที่นี่  มีความพิเศษคือ  เป็นแหล่งรวมสายน้ำจากที่ต่างๆ มาที่นี่  ทำให้มีน้ำไหลผ่านตลอดทั้งปี  ทางอบต.จึงได้จัดกิจกรรมสุดพิเศษ “จิบกาแฟ ล่องแพ แลปลา” ที่จะพาคุณสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด  เริ่มต้นการผจญภัยของเราที่หมู่10 คลองละงู จุดรวมของน้ำจากแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ  ทั้งน้ำที่มาจากน้ำตกวังสายทอง  ถ้ำระฆังทอง  และถ้ำเจ็ดคต

          การล่องแพใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง  โดยทางอบต.ฯ มีแพไม้ไผ่ให้บริการทั้งหมด 8 ลำ แต่ละลำรับผู้โดยสารได้ 8-10 คน รวมแล้วรองรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 50 คนเลยทีเดียว และสำหรับคนรักความท้าทาย ยังมีบริการเรือคายัคด้วย

          ระหว่างล่องแพ คุณจะได้ชื่นชมวิวสองฝั่งคลองที่เต็มไปด้วยสวนปาล์ม สวนยาง สวนทุเรียน และสวนผลไม้นานาชนิด พร้อมกับความงามของดอกไม้ริมน้ำ  โดยเฉพาะดอกกระดิ่งนางฟ้าที่บานสะพรั่งในแหล่งน้ำใสสะอาด

          นอกจากนี้ ยังมีโอกาสเห็นวิถีชีวิตของชาวบ้าน  ที่มาหาปลาและหอยโล่ซึ่งหายาก  ที่ชาวบ้านกำลังช่วยกันอนุรักษ์  เรียกได้ว่าเป็นการท่องเที่ยวที่ได้ทั้งความสวยงาม  และวัฒนธรรมท้องถิ่นในคราวเดียวกัน

          ที่พิเศษไปกว่านั้น คุณยังสามารถจิบกาแฟ ชมวิว ปิ้งย่าง และหาปลาได้ระหว่างล่องแพ อย่างที่เขาว่ากัน  “ปลาโสด  เราโสด” ใครจะรู้ อาจได้ทั้งปลาและคู่กลับบ้านก็ได้นะคะในทริปนี้

          คลองแห่งนี้เปิดให้บริการตลอดทั้งปี  โดยมีจุดขึ้น-ลงเรือที่สะดวกสบาย ลงที่ท่าสะพานเสือ  หมู่ที่ 10 และขึ้นที่ท่าเรือสะพาน 100 เมตร ในหมู่บ้านเดียวกันพร้อมทั้งจุดเล่นน้ำ

           นายภาณุ  เพชรประดับ นายก อบต.ปาล์มพัฒนา เผยว่า  อยากผลักดันให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่สำหรับคนรักธรรมชาติ โดยได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านที่พร้อมใจกันดูแลรักษาป่าและแหล่งน้ำ พร้อมเป็นพี่เลี้ยงและส่งต่อให้ชุมชนได้สร้างงาน สร้างอาชีพในการผืนป่าต้นน้ำต่อไป

          สำหรับใครที่สนใจมาเที่ยว “จิบกาแฟ ล่องแพ แลปลา” ที่คลองละงู สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวของ อบต.ปาล์มพัฒนา หรือ  คุณมล โทร. 061-235-7296 หรือติดตามข่าวสารได้ทางเฟซบุ๊กของ อบต. ปาล์มพัฒนา

          มาร่วมสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวใกล้ชิดธรรมชาติ พร้อมอิ่มอร่อยกับปิ้งย่างริมน้ำ  ที่ตำบลปาล์มพัฒนากันนะคะ รับรองว่าคุ้มค่าแก่การมาเยือนอย่างแน่นอนค่ะ

…………………..

 

อัพเดทล่าสุด

 สตูล..วิถีประมงแปรรูป สร้างอาชีพริมคลองเจ๊ะบิลัง “ปลาเส้นแคลเซียมสูง” เสริมรายได้จากเรือเล็กสู่ครัวเรือน

สตูล..วิถีประมงแปรรูป สร้างอาชีพริมคลองเจ๊ะบิลัง “ปลาเส้นแคลเซียมสูง” เสริมรายได้จากเรือเล็กสู่ครัวเรือน สตูล

Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

โกปี้ ชุมชนสะพานเคียน ภูมิปัญญาท้องถิ่นสตูลที่หอมกรุ่นนาน 27 ปี

สตูล-โกปี้ ชุมชนสะพานเคียน ภูมิปัญญาท้องถิ่นสตูลที่หอมกรุ่นนาน 27 ปี

         ที่หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในจังหวัดสตูล  มีกลิ่นหอมของกาแฟคั่วลอยอบอวลอยู่ในอากาศ  นี่คือชุมชนสะพานเคียน หมู่ที่ 2 ต.ควนโดน อ.ควนโดน  แหล่งผลิตกาแฟโบราณที่สืบทอดภูมิปัญญามาอย่างยาวนาน

 

         กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแม่บ้านเกษตรกรสะพานเคียน  ยังคงรักษาวิธีการผลิตกาแฟแบบดั้งเดิม  โดยใช้เมล็ดกาแฟพันธุ์พื้นเมืองโรบัสต้า คั่วด้วยเตาถ่านนานถึง 2 ชั่วโมง จนได้กลิ่นหอมและรสชาติกาแฟที่เข้มข้น

 

          นางสุดา (ก๊ะดา)  มาลินี รองประธานกลุ่ม ฯ บอกว่า  นางฉ๊ะ   แกสมาน ประธานฯกลุ่มและพวกเราทำกาแฟโบราณมานานกว่า 27 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2540 จนถึงปัจจุบัน เพื่ออนุรักษ์ภูมิปัญญาของบรรพบุรุษให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จัก แม้จะทำได้ไม่มากเท่าแต่ก่อนเพราะขาดแคลนวัตถุดิบ แต่เราก็พยายามรักษาสูตรดั้งเดิมไว้ด้วยความภาคภูมิใจให้รุ่นลูกหลานได้เห็น”

 

          นอกจากกาแฟผงพร้อมชงแล้ว ทางกลุ่มยังผลิตกาแฟพร้อมดื่มบรรจุขวด และกำลังพัฒนาสบู่จากกากกาแฟอีกด้วย ราคาเริ่มต้นที่ 20 บาท ไปจนถึงกิโลกรัมละ 160 บาท

 

         กาแฟโบราณยังมีเรื่องราวน่าสนใจ ในอดีตเมื่อคั่วกาแฟ ชาวบ้านจะนำน้ำตาลที่คั่วแจกจ่ายให้เด็ก ๆ เป็นขนมหวาน เรียกว่า “หูร่า” ในภาษาท้องถิ่น มีรสชาติหวานเข้มคล้ายทอฟฟี่

         นายวริช  วิชิต  รองผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานสตูล  บอกว่า   “ททท.ได้ส่งเสริมอาหารพื้นถิ่นของที่นี่ ซึ่งมีความหลากหลายและน่าสนใจมาก นักท่องเที่ยวสามารถมาลิ้มลองอาหารพื้นเมืองอร่อยๆ ราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นข้าวยำน้ำบูดู ข้าวมันไก่ ข้าวเหนียวปลาเค็ม กาแฟโบราณ  หรือขนมอาปมแลหงัง ที่ชุมชนสะพานเคียนแห่งนี้”

 

         กาแฟโบราณสะพานเคียน ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์ แต่ยังเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ หากมีโอกาสมาเยือนจังหวัดสตูล อย่าลืมแวะมาสัมผัสรสชาติและกลิ่นหอมของกาแฟโบราณที่ชุมชนสะพานเคียนแห่งนี้

 

          ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ที่โทร. 080 112 9016 ก๊ะดา และ 087-285 8251 เบอร์ประธาน

อัพเดทล่าสุด

 สตูล..วิถีประมงแปรรูป สร้างอาชีพริมคลองเจ๊ะบิลัง “ปลาเส้นแคลเซียมสูง” เสริมรายได้จากเรือเล็กสู่ครัวเรือน

สตูล..วิถีประมงแปรรูป สร้างอาชีพริมคลองเจ๊ะบิลัง “ปลาเส้นแคลเซียมสูง” เสริมรายได้จากเรือเล็กสู่ครัวเรือน สตูล

Categories
เยาวชน-การศึกษา

 สตูลปั้นเชฟตัวน้อย ต่อยอดอาชีพให้โรงเรียนขยายโอกาส

สตูลปั้นเชฟตัวน้อย ต่อยอดอาชีพให้โรงเรียนขยายโอกาส

         ขนมโดนัทหลากหลายสีสันที่ชวนให้รับประทานและขนมไทยเหล่านี้เป็นฝีมือของน้องๆนักเรียนที่โรงเรียนบ้านทุ่งมะปรัง หมู่ที่ 1 ตำบลวังประจัน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล  ที่เด็กๆทุกคนเข้าร่วมโครงการฝึกอาชีพได้ช่วยกันทำออกมา  เพื่อเป็นอาหารว่าง ส่งขายสหกรณ์โรงเรียน  และตามออเดอร์สั่ง  โดยมีคุณครูช่วยเป็นพี่เลี้ยง

          โดยน้องๆบอกว่าโดนัทจิ๋วมีส่วนผสมไม่มาก อาทิ  แป้งเค้ก  ไข่ไก่  น้ำตาลทราย  นมจืด   ผงฟู   เกลือ เป็นต้น   เด็กๆพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าชื่นชอบขนมชนิดนี้เนื่องจากมีสีสันสวยงามชวนรับประทาน  และสนุกกับการได้ตกแต่งหน้าตาของโดนัทจิ๋ว  นอกจากนี้ก็ยังมีการฝึกขนมไทยอย่างขนมลืมกลืน  น้ำเครื่องดื่มที่นิยมรับประทานกัน ทั้งชาเขียวชาเย็นและน้ำเก๊กฮวย   ทำเสริมเป็นชุดเบรคในห้องประชุมต่างๆ

อัพเดทล่าสุด

 สตูล..วิถีประมงแปรรูป สร้างอาชีพริมคลองเจ๊ะบิลัง “ปลาเส้นแคลเซียมสูง” เสริมรายได้จากเรือเล็กสู่ครัวเรือน

สตูล..วิถีประมงแปรรูป สร้างอาชีพริมคลองเจ๊ะบิลัง “ปลาเส้นแคลเซียมสูง” เสริมรายได้จากเรือเล็กสู่ครัวเรือน สตูล

         นางสาวสุพัชรี  ขำนุรักษ์  นักเรียน ชั้น ม.3  โรงเรียนบ้านทุ่งมะปรัง ต.วังประจัน  บอกว่า ชื่นชอบการทำขนมมาก อยากเปิดร้านคาเฟ่เป็นของตัวเอง อยากแต่งหน้าเค้กและทำเมนูที่มีลาวาไหลออกมาจากขนมโดยส่วนตัวก็ชื่นชอบทานขนมเหล่านี้ด้วย

         โรงเรียนบ้านทุ่งมะปรัง  เป็นโรงเรียนขยายโอกาสขนาดเล็ก  มีนักเรียนเพียง 140 คน การนำอาชีพมาฝึกสอนให้กับเด็ก ถือเป็นการฝึกทักษะและหาประสบการณ์ ให้กับเด็กที่ชื่นชอบและหลงรักในการทำอาหารและขนม ซึ่งได้มีการทำ MOU ร่วมกันกับวิทยาลัยเทคนิคสตูลในการเข้ามาฝึกสอนเสริมความรู้ให้  เพื่อให้เด็กได้รู้ตัวตนของตัวเองหากชื่นชอบจะได้มีการต่อยอดด้านการเรียนรู้  ในการสร้างงานและรายได้ต่อไป

        นางสาวนาฎนธี  ผิวเหลือง  ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านทุ่งมะปรัง  บอกว่า  เมนูอาหารว่าง  ทุกครั้งที่มีหน่วยงานมาดูงานที่โรงเรียนอยากโชว์ให้หน่วยงานที่สนใจ และหน่วยงานที่สนับสนุนได้เห็นว่ามีการพัฒนาฝีมือและสนับสนุนของน้องๆนักเรียน นอกจากจะเป็นการก่อให้เกิดรายได้ระหว่างเรียนแล้วเด็กสามารถนำไปต่อยอดเรียนต่อในสาขาอาชีพที่เขารักในด้านนี้ได้  เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักเรียนเพื่อจะได้ค้นหาตัวเองให้เจอ  และมีวิทยาลัยที่จะแนะนำเพื่อต่อยอดส่งเสริมด้านอาชีพต่อไป

          สำหรับหน่วยงานใดหรือองค์กรใดสนใจจะรับอาหารเบรคอุดหนุนนักเรียน  สามารถติดต่อได้ที่โรงเรียนบ้านทุ่งมะปรังโทร 088-789 4418 

……….

Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สุกเต็มต้นแล้ว…จำปูลิ้ง  ผลไม้ป่าโบราณพื้นบ้านทางภาคใต้หาทานยาก

สุกเต็มต้นแล้ว…จำปูลิ้ง  ผลไม้ป่าโบราณพื้นบ้านทางภาคใต้หาทานยาก

        “จำปูลิ้ง”  ภาษามลายูเรียก  อินเต๊ะ  เป็นผลไม้ที่พบเห็นได้ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ บางพื้นที่จะรู้จักกันในชื่อ จำปูรี  จำไหร หรือ มะไฟลิง ตามแต่ละถิ่นที่จะเรียก โดยแต่ละปีจะให้ผลผลิตเพียง1 -2 ครั้งเท่านั้น  ตามฤดูกาลผลสุกจะเริ่มมีทยอยออกมาให้เห็นมากในเดือน กรกฎาคม สิงหาคม ของทุกปี

 

       ผลไม้ป่าพื้นบ้านภาคใต้ พบได้ตามพื้นที่ป่าเชิงเขา ที่ราบริมเขา ที่มีดินร่วมปนทราย ลักษณะคล้ายมะไฟหรือละไม แต่ผลมีขนาดผลเล็กกว่า เป็นเหลี่ยมเล็กน้อย เปลือกผลแข็งกรอบ ผลและยอดใช้แกงเลียง แกงส้มได้ ผลสุกสีเหลืองส้มกินได้รสชาติหวานอมเปรี้ยว

 

        ต้นจำปูลิ้งสูง20 เมตร  ปลูกมานานเกิน 50 ปี บนพื้นที่ 9 ไร่บ้านวังประจัน หมู่ที่ 2 ต.วังประจัน อ.ควนโดน จ.สตูล  ผลไม้ป่าที่บรรพบุรุษเก็บไว้ให้หลังเข้ามาทำกินในบริเวณนี้  มี 2 ต้น  ให้ผลผลิตทุกปี ให้ผลผลิตมากสุด 600 กิโลเมตร  ขายกิโลกรัมละ60 บาท

         นายรอศักดิ์  นาปาเลน อายุ 54 ปี บอกว่า ทันทีที่ผลจำปูลิ้งสุก จะต้องมีอุปกรณ์เซฟตี้ในการขึ้นไปเพราะมันสูงมาก จะเก็บผลที่สุกเหลืองเข้มเท่านั้น 

 

          นางกาญจนา  นาปาเลน อายุ 53 ปี บอกว่า จำปูลิ้งให้ผลผลิตปีละครั้ง เป็นผลไม้ป่าไม่เหมาะส่งไปขายต่างจังหวัด เพราะรสชาติจะเสีย เป็นผลไม้ป่าพื้นถิ่นที่อยู่คู่สตูลมานาน ขายในตลาดศาลากลางและตลาดธกส.จ.สตูลเท่านั้น

 

          ที่สวนเป็นสวนออแกนิก ผลไม้หลายชนิดได้รับการรับรอง ไม่ว่าจะเป็นเงาะ มะพร้าว กระท้อนและจำปูลิ้ง  ที่นี่ยังเป็นแหล่งเรียนรู้ในชุมชนด้วย  สำหรับพันธุ์จำปูลิ้งจะเพาะพันธุ์ได้ยากกว่าผลไม้ชนิดอื่น  สามารถแปรรูปเป็นไอศกรีมได้ แต่ทานสดจะได้รับความนิยมกว่า  ในกลุ่มคนที่เคยทาน

 

          แนะนำให้แกะเปลือกอย่างเบามือ ห้ามมือถูกเม็ดในผลจำปูลิ้งเพราะคนโบราณบอกว่า จะทำให้มีรสชาติเปรี้ยวได้  เวลาทานให้อมใช้ลิ้นดันให้เม็ดแตกในปากแล้วกลืน

…………………………….

อัพเดทล่าสุด

 สตูล..วิถีประมงแปรรูป สร้างอาชีพริมคลองเจ๊ะบิลัง “ปลาเส้นแคลเซียมสูง” เสริมรายได้จากเรือเล็กสู่ครัวเรือน

สตูล..วิถีประมงแปรรูป สร้างอาชีพริมคลองเจ๊ะบิลัง “ปลาเส้นแคลเซียมสูง” เสริมรายได้จากเรือเล็กสู่ครัวเรือน สตูล

Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

คิดถึงวันวานกับ  ไอติมเมืองทองสตูล 112 ปี  หนึ่งใน 10 ร้านอาหารอายุ 100 ปี ทั่วประเทศจากกระทรวงวัฒนธรรม   

สตูล-คิดถึงวันวานกับ  ไอติมเมืองทองสตูล 112 ปี  หนึ่งใน 10 ร้านอาหารอายุ 100 ปี ทั่วประเทศจากกระทรวงวัฒนธรรม 

         ยังมีอยู่จริง!! สำหรับอาหารในตำนาน 112 ปีที่ไม่ควรพลาด  ครั้งหนึ่งต้องไปชิมแล้วจะติดใจ  และหวนให้คิดถึงบรรยากาศวันวาน  สำหรับร้านอาหารติดอันดับ  1 ใน 10  อายุ 100 ปีขึ้นของประเทศไทย  ที่กระทรวงวัฒนธรรม  มอบเกียรติบัตรให้  ต้องร้านนี้  “ไอติม เมืองทองสตูล”   ตั้งอยู่ใจกลางเมือง  ริมถนนสมันตประดิษฐ์   ต.พิมาน อ.เมือง  จ.สตูล  ที่เปิดมานานปัจจุบันรุ่นที่ 3 ที่ดูแลกิจการต่อกับเมนูไอติม  ที่มีหลากหลายทั้งเมนูวันวาน  ในอดีตที่ขึ้นชื่อมาจนถึงปัจจุบันอย่างไอติมรวมมิตร ,ไอติมไข่แข็ง ,ไอติมปั่นนมสด , ไอติมกะทิลูกชิด , และไอติมวานิลลา, มะม่วง ,เผือก,ทำเองทั้งหมด

 

        ลูกค้าหลายคนบอกว่า  รสชาติที่ถึงเครื่องเหมือนเดิม  ทำให้ยังคงหลั่งไหลแวะมากินกันไม่ขาดสาย  ทั้งคนรุ่นใหม่ รุ่นเก่าที่อยากรื้นฟื้นวันวาน เพราะร้านนี้ในอดีตถือว่าเป็นร้านที่นิยมที่สุดในช่วงเวลานั้น  ไม่มีใครไม่รู้จัก โดยเฉพาะเมนู ไอติมไข่แข็ง(ไม่ได้กลิ่นคาวไข่แม้แต่น้อย)   ไอติมรวมมิตรที่ใส่เครื่องจุก ๆ ทั้งขนุน ลอดช่องที่รสชาติชัดเจนชวนหลงใหล ,ไอติมราดซุปข้าวโพด ,ไอติมลูกชิด, มีขายเป็นถ้วยละ 25 บาท 4 ลูก หรือจะซื้อกลับบ้านก็มีขายเป็นกล่องมีตั้งแต่ 60 บาท 130 บาทหรือ 250 บาท ,หรือจะสั่งเป็นไอติมถัง ราคา 1,200 บาท สามารถติดต่อได้ที่  081 679 7223  หรือเพจไอติมเมืองทองสตูล

          ด้านนางเบญจวรรณ  อรัญรัชชพิศาล  เจ้าของร้านรุ่นที่ 3 อายุ 60 ปี บอกว่า คุณพ่อรุ่นที่ 2 ยังคงอยู่  แต่ไม่มีเรี่ยวแรงในการทำไอติม  จึงส่งต่อให้พวกตน  สืบทอดความอร่อย และภูมิใจที่ทางกระทรวงวัฒนธรรมยกให้เป็นหนึ่งใน 10 ร้านทั่วประเทศที่มีอายุ 100 ปีขึ้น ซึ่งขณะนี้ร้านไอติมเมืองทองมีอายุได้ 112 ปีแล้ว (โดยเปิดเมื่อปี 2455)  ก็ยังคงขายอยู่ทุกวันเปิด 8 โมงเช้า ถึง 21 นาฬิกา

…………………………………………….

อัพเดทล่าสุด

 สตูล..วิถีประมงแปรรูป สร้างอาชีพริมคลองเจ๊ะบิลัง “ปลาเส้นแคลเซียมสูง” เสริมรายได้จากเรือเล็กสู่ครัวเรือน

สตูล..วิถีประมงแปรรูป สร้างอาชีพริมคลองเจ๊ะบิลัง “ปลาเส้นแคลเซียมสูง” เสริมรายได้จากเรือเล็กสู่ครัวเรือน สตูล

Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

เปิดวาร์ปกาแฟในตำนาน 56 ปีราคาเริ่มต้น 5 บาท ชาเย็นถุงบิ๊กไซส์ทานได้จุกๆ 2 คน เจ้าของยืนยันจะขายราคานี้ตลอดไป

เปิดวาร์ปกาแฟในตำนาน 56 ปีราคาเริ่มต้น 5 บาท ชาเย็นถุงบิ๊กไซส์ทานได้จุกๆ 2 คน เจ้าของยืนยันจะขายราคานี้ตลอดไป

          กาแฟโบราณในยุคเศรษฐกิจฝืดน่าจะตอบโจทย์คอกาแฟและคอชา  วันนี้ชี้เป้าของถูกมาที่จังหวัดสตูล  ซอยคลองขุด 29 (หรือซอยทรายทอง)  หรือที่หลายคนรู้จักในนามซอยเอวหัก ติดตลาดนัดวันอาทิตย์    กับร้านกาแฟดั้งเดิมหรือร้านกาแฟในตำนาน   “ร้านบังอาด” ก็ว่าได้   ที่ขายมานานกว่า 56  ปี  มีการสืบต่อเป็นรุ่นที่ 2

          ด้วยเอกลักษณ์เฉพาะในการชงชา ขายเพียงแก้วละ 5 บาท  ชาเย็น (sizeถุงน้ำตาล 1 กิโลกรัม) ขายเพียง 15 บาท  ส่วนลีลาการชงชาก็ไม่ธรรมดาชงคู่ชนิดที่ลูกค้าลุ้นกลัวว่าจะหก  แต่พ่อค้าก็ไม่ทำให้ผิดหวัง  ใช้ทักษะการชงอย่างช่ำชอง  และชำนาญ

          ที่ร้านนี้จะเปิดขาย 2 เวลา  คือตั้งแต่ 05 : 30 น. – 12 : 00 น.  และ 14:00 น ถึง 17:00 น ยกเว้นวันอาทิตย์ที่ขายแค่ครึ่งเช้าเท่านั้น  ลูกค้าส่วนใหญ่จะหมุนเวียนกันมาซื้อไม่ขาดสาย มีทั้งลูกค้าเก่าและลูกค้าใหม่ที่ซื้อซ้ำแล้วซ้ำอีกสมัยรุ่นพ่อมาจนถึงรุ่นลูก  ด้วยรสชาติ  ปริมาณและราคาที่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า 

          ลูกค้ารายหนึ่งบอกว่า  เป็นลูกค้ามานานกว่า 4 ปีแล้วชื่นชอบเมนูกาแฟเย็นและเมนูชาเย็น  ทุกครั้งที่มาซื้อก็จะนำแก้วส่วนตัวมาใส่ก็ขายราคาเดียวกันคือ 15 บาท รสชาติเข้มข้น ราคาสบายกระเป๋า  ตอบโจทย์เป็นอย่างมากในยุคปัจจุบันที่เข้าของแพง  หากไปซื้อร้านอื่นก็จะขายตั้งแต่ 25 บาทขึ้นไปแต่ร้านนี้ขายเพียง 15 บาทเท่านั้น

         นายเดช  หวันยาวา อายุ62 ปี  เจ้าของร้านบอกว่า   เมนูที่ขายดีคือชาเย็นเป็นชาที่มาจากประเทศมาเลเซียเพื่อนบ้าน   สำหรับ ร้านกาแฟนี้เป็นธุรกิจของครอบครัวพวกตนเป็นรุ่นที่ 2 หลังจากที่พ่อได้จากไปก็มาสืบทอดกันขายกาแฟต่อ  โดยมีตนเป็น พี่ชายคนโตและรองน้องคนสุดท้องมาช่วยสับเปลี่ยนกันขาย   ได้ขายกาแฟ-ชาเย็นในราคานี้มาตั้งแต่สมัยรุ่นพ่อ   คือแตอ้อร้อนแก้วละ 5 บาท  โกปี้อ้อร้อน 5 บาท โอวัลตินร้อน 8 บาท โอเลี้ยงชาเย็นถุงเล็กถุงละ 10 บาท,ส่วนถุงใหญ่บิ๊กขายเพียงถุงละ 15 บาท (ทานได้ถึง 2 คน)  ทานกับขนมที่ชาวบ้านมาฝากขายข้าวเหนียวปลาเค็ม 10 บาท  ,ขนมบาดะ 5 บาท จูจุ่น 5 บาท ,ข้าวเหนียวสังขยา 5 บาท  ข้าวเหนียวหน้ากุ้งและหน้ามะพร้าวห่อละ 5 บาท  พูดง่ายๆมีเพียง 20 บาทมื้อเช้าก็สามารถมาทานที่ร้านของตนได้

         ลูกค้าส่วนใหญ่ก็มีตั้งแต่รุ่นคุณพ่อที่ยังคงมาอุดหนุนกันเหมือนเดิม   และเด็กรุ่นใหม่ก็จะแวะเวียนกันไม่ขาดสายเชื่อว่าชื่นชอบในคุณภาพ,ปริมาณ,รสชาติและราคา พร้อมยืนยันว่าจะขายราคานี้ตลอดไป  อยากให้ทุกคนได้กินในราคาย่อมเยาโดยเฉพาะในยุคเศรษฐกิจแบบนี้

         สำหรับร้านนี้เป็นร้านกาแฟในตำนานที่ยังคงความเป็นร้านกาแฟประจำหมู่บ้าน  ไม่รับเงินโอน ไม่มีพร้อมเพย์ ต้องเงินสดเท่านั้นถึงจะใช้บริการที่ร้านนี้ได้  (แต่!!ยกเว้นหากน้องสาวอยู่ในช่วงเช้าก็สามารถโอนได้)

อัพเดทล่าสุด

 สตูล..วิถีประมงแปรรูป สร้างอาชีพริมคลองเจ๊ะบิลัง “ปลาเส้นแคลเซียมสูง” เสริมรายได้จากเรือเล็กสู่ครัวเรือน

สตูล..วิถีประมงแปรรูป สร้างอาชีพริมคลองเจ๊ะบิลัง “ปลาเส้นแคลเซียมสูง” เสริมรายได้จากเรือเล็กสู่ครัวเรือน สตูล