Categories
ข่าวทั่วไป

ชายพิการ หัวใจจิตอาสาทำความสะอาดบริเวณโรงเรียน และในหมู่บ้านมานานกว่า 17 ปี โดยไม่คิดหวังมีค่าตอบแทน   

สตูล-ชายพิการหัวใจจิตอาสาทำความสะอาดบริเวณโรงเรียน และในหมู่บ้านมานานกว่า 17 ปี โดยไม่คิดหวังมีค่าตอบแทน

          ทุกๆเช้าวันจันทร์ ถึงวันศุกร์ ที่โรงเรียนท่าแพผดุงวิทย์จ.สตูล จะเห็นนายมูฮัมหมัด บุญเหม หรือ บังหมาด อายุ 37 ปี ชายพิการทางร่างกาย และยังพิการทางด้านสติปัญญา จะเข็นรถเข็นเข้าไปเก็บกวาด ทำความสะอาดภายในโรงเรียน  เก็บขยะ ตามร่องคูน้ำของโรงเรียน และตรวจเช็กถังขยะโรงเรียนตามมุมต่างๆ โดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย อีกทั้งยังเดินไปเปิดประตูห้องเรียนทุกชั้นเรียนต้องขึ้นบันได และลงมากวาดขยะ เปรียบเสมือนว่าเป็นนักการภารโรงของโรงเรียน

         ด้านนายพนมไพร  วงษ์คลองเขื่อน ผู้อำนวยการโรงเรียนท่าแพผดุงวิทย์จ.สตูล  บอกว่า บังหมาด มีบ้านอยู่ไม่ไกลจากโรงเรียน และช่วยงานของโรงเรียนทุกอย่างที่ทำได้ด้วยวิญญาณของจิตอาสา แม้ไม่มีเงินเดือน ไม่มีสิ่งตอบแทน จนเป็นที่รักใคร่ของนักเรียน และทางโรงเรียนเห็นในจิตใจดีงาม ขยัน

 

          จึงตอบแทนด้วยการให้เป็นลูกจ้างเงินเดือน ๆ ละ 3,000 บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน สำหรับ บังหมาด พิการทางสติปัญญามาแต่กำเนิด เพราะมีอาการชักตั้งแต่แรกคลอด ทำให้ร่างกายเดินไม่สะดวก มือแข็ง คอแข็ง พูดไม่ได้ เพราะลิ้นไก่สั้น กระทั่งเริ่มโตก็ชอบช่วยเหลือคนอื่น ไม่นิ่งดูดาย และทำต่อเนื่องมานาน 17 ปี จนเป็นที่รักใคร่ของคนทั้งหมู่บ้าน เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่แทบจะไม่มีให้เห็นในปัจจุบัน และน่าจะเอาเป็นแรงบันดาลใจให้กับคนทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นเด็กนักเรียน หรือผู้ใหญ่ ในการทำความดีเพื่อสังคม โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน

…………………………………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

ทุเรียนโบราณ 300 ปี บนดินแดนน้ำพุร้อนทุ่งนุ้ย อบจ.สตูลดันเป็นหมู่บ้านทุเรียนเปิดเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงบ่อน้ำพุร้อน

สตูล-ทุเรียนโบราณ 300 ปี บนดินแดนน้ำพุร้อนทุ่งนุ้ย อบจ.สตูลดันเป็นหมู่บ้านทุเรียนเปิดเส้นทางท่องเที่ยวเชื่อมโยงบ่อน้ำพุร้อน

         อบจ.สตูล ผลักดัน หมู่บ้านโตนปาหนัน และหมู่บ้านน้ำร้อน ในพื้นที่ตำบลทุ่งนุ้ย  อ.ควนกาหลง  จ.สตูล  เป็นหมู่บ้านทุเรียนพื้นเมือง  หลังพบต้นทุเรียนพื้นเมืองอายุ 300 ปี  ที่มีความสูงใหญ่ให้ผลผลิตปีละ 600 ลูก  และยังพบเป็นหมู่บ้านที่ร่วมกันอนุรักษ์ต้นทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองที่มีมากกว่า 50 ต้นในพื้นที่  โดยพื้นที่แห่งนี้ห่างจากบ่อน้ำพุร้อนทุ่งนุ้ย  ที่เป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์น้ำถูกใช้ในพิธีกรรมต่างๆ   ทำให้ทุเรียนและผลไม้ในพื้นที่สมบูรณ์     

         ด้าน อบจ.สตูล พร้อมผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยง  ระหว่างหมู่บ้านผลไม้ไปยังบ่อน้ำพุร้อน  และน้ำตกโตนปาหนัน   ชมต้นทุเรียนโบราณอายุกว่า 300 ปี ขนาด 6 คนโอบ  มากกว่า 10 ต้น   เป็นสายพันธุ์พื้นเมือง  ที่มีชื่อเรียกแตกต่างกันตามรูปลักษณ์  อย่าง  ต้นทุเรียนสาวสูง  เป็นต้นที่มีลักษณะสูงมากๆ  รสชาติหวาน เนื้อเละ เหมาะกับการทำน้ำแกงทุเรียน  ส่วนต้นทุเรียนสาวเขียว  ต้นนี้ให้ลูกสีเขียว เนื้อหนึบอร่อย  และยังมีต้นทุเรียนชื่อ มดสอด เพราะมดชอบ  และ ทุเรียนเหลืองขมิ้น    

        นายอนุชัย เส็นสัน  อายุ 61 ปี  ผู้ดูแลสวน  กล่าวว่า  ต้นทุเรียนโบราณนี้  มีชื่อว่า  ทุเรียนสาวสูง  สาวหวาง(สว่าง)  สาวเขียว และ มดสอด ซึ่งชื่อ สาวสูง  เพราะต้นโตไว สูงมาก  ออกลูกตามกิ่งเป็นแถว ให้ผลผลิตประมาณ 600 ลูก  ขายกิโลกรัมละ 60 บาท  หากอยากกินให้มาที่บ้านโตนเปิดขายทุกวัน

          ด้าน นายบีสอน  ลัสมาน ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 5 บ้านโตนปาหนัน ต.ทุ่งนุ้ย  กล่าวว่า  ในพื้นที่โตนปาหนันมีทุเรียนพื้นเมืองประมาณ 50 ต้น  บริเวณนี้มีเกือบ 10 ต้น  ตอนนี้ตัวเองอายุ 60 ปีแล้ว  คำนวณแล้วต้นทุเรียนโบราณนี้อายุประมาณ 300 ปี  เพราะโตมาต้นทุเรียนก็สูงใหญ่เท่านี้อยู่แล้ว ทุเรียนพื้นบ้านแต่ละต้นแม้จะอยู่ติดกันรสชาติก็ไม่เหมือนกัน  บางต้นหวานขม  บางต้นหวานมัน  บางต้นหวานนำ  รสชาติหวานน้อย หวานมากแตกต่างกัน    ตอนนี้เราขยายพันธุ์อยู่หากมีกิ่งหักเราก็เอายอดไปขยายพันธุ์ต่อ    โดยร่วมกับทีมงานบ้านน้ำร้อนในการขยายพันธุ์ผลไม้พื้นเมือง ไม่ว่าจะเป็นจำปาดะ  ทุเรียน  เพราะโดยธรรมชาติแล้วมันจะหายไปเรื่อยๆจึงต้องอนุรักษ์ไว้

           ด้านนักท่องเที่ยว บอกว่า  รสชาติทุเรียนอร่อย หวาน มัน สมคำร่ำลือ  คำว่าหมู่บ้านผลไม้นี่คือใช่เลย มาครั้งแรกประทับใจ บรรยากาศดี  สมบูรณ์ไปด้วยผลไม้ต่างๆ อยากให้นักท่องเที่ยวได้มาลองชิมผลไม้บ้านโตนกัน

         นอกจากนี้ยังมีจุดจำหน่าย  ทุเรียนพันธุ์พื้นเมือง และผลไม้ตามฤกาลอย่าง  เงาะ  มังคุด  ทุกๆเช้าจะคึกคักเป็นพิเศษ  จะมีชาวสวนผลไม้นำผลผลิตออกมาขาย ที่ร้านก๊ะหรี ซึ่งเป็น 1 ใน 3 ร้านจำหน่ายผลไม้ในหมู่บ้าน  สำหรับร้านก๊ะหรีตั้งอยู่ซ้ายมือฝั่งขาเข้าก่อนถึงบ่อน้ำพุร้อน ที่ห่างกันเพียง 1500 เมตร  นักท่องเที่ยวสามารถแวะซื้อผลไม้ติดมือกลับไปได้  โดยทุเรียนพื้นเมือง ราคากิโลกรัมละ 60 บาท  ทุเรียนหมอนทอง ราคา 150 บาท

         ด้าน นายยูโสบ  ยูฮันนัน  อายุ 51 ปี ชาวสวนบ้านโตนปาหนัน  ขี่รถจักรยานยนต์นำทุเรียนพื้นบ้านมาขาย  โดยบอกว่า  เป็นทุเรียนพื้นเมืองทั้งหมด  จากต้นที่ส่งต่อมาจากรุ่นพ่อ  เพราะรุ่นนี้เขาไม่ปลูกแล้วทุเรียนพื้นเมืองจะปลูกทุเรียนหมอนทอง   สำหรับชื่อต้นทุเรียนแล้วแต่คนโบราณตั้งมาเพื่อง่ายในการจัดการ  ในพื้นที่ยังมีเยอะหลายสิบต้นส่วนใหญ่เป็นต้นใหญ่ๆ  ออกลูกต้นนึงประมาณ 300-400 ลูก แล้วแต่ต้น  เม็ดใหญ่ บางต้นเนื้อดี บางต้นเนื้อน้อย  เมื่อได้ปุ๋ยก็ทำให้เนื้อเยอะมากกว่าในอดีตที่เลี้ยงตามธรรมชาติ 

         หากเดินทางมายังบ้านโตนปาหนัน  หรือ หมู่บ้านทุเรียนพื้นเมืองแล้ว สามารถชมสวน  ฉีกทุเรียนกินใต้ต้นหรือซื้อกลับไปเป็นของฝาก  หรือจะไปเล่นน้ำตกโตนปาหนัน  ไปแช่น้ำร้อนที่บ่อน้ำพุร้อน ซึ่งเป็นบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ได้  เป็นทริปที่เหมาะกับทุกกลุ่มวัยเลยทีเดียว

         สนใจชมสวนทุเรียนโบราณ  ติดต่อสอบถาม  084-750-8674 ผญ.ม.5   //  089-295-4244 บังเหม

………………………

 

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

 ต้องชื่มชม  ไต๋เรือสตูลล่องทะเลพบเต่าติดเศษอวน  เร่งช่วยเหลือปล่อยสู่ท้องทะเล  พร้อมกุ้งมังกรตัวใหญ่ เพื่อขยายพันธุ์ต่อไป  

สตูล-ต้องชื่มชม  ไต๋เรือสตูลล่องทะเลพบเต่าติดเศษอวน  เร่งช่วยเหลือปล่อยสู่ท้องทะเล  พร้อมกุ้งมังกรตัวใหญ่ เพื่อขยายพันธุ์ต่อไป  

           วันที่ 4  ก.ค.2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายมาวิน  มานะกิจสมบูรณ์  อายุ 41 ปี  ไต๋บอลอวนดำซิ่ง ไต๋เรือสตูล ชื่อเรือ  ป.โชคประพาภรณ์  1  เป็นเรือประมงเชิงพาณิชย์ จังหวัดสตูล ออกจับสัตว์น้ำทะเลลึก โดยเมื่อเช้าที่ผ่านมา นายมาวิน   หรือ ไต๋บอลอวนดำซิ่ง พร้อมลูกเรือประมงนำเรือไปลอยลำแถว เกาะรอก ทางทะเลจังหวัดกระบี่  และได้ล่องเรืออยู่นั้นเห็นกองขยะลอยอยู่กลางทะเล มีสิ่งมีชีวิตเคลื่อนไหวดิ้นอยู่ จึงนำเรือเข้าไปตรวจสอบพบว่าเป็นเต่าตนุตัวขนาดกลาง  พบเศษอวนพันรอบตัวสภาพน่าสงสาร

 

        ดังนั้นจึงให้ลูกเรือไปดึงลากขึ้นมาบนเรือ และเร่งใช้มีดคม  ค่อยๆตัดเศษอวนที่พันรอบตัวเต่าตนุตัวนี้  ดูลักษณะน่าเต่าเป็นตัวหนุ่ม  ที่ว่ายน้ำมา  อาจจะเห็นกองขยะจึงว่ายเข้าไปใกล้จนถูกเศษอวนพันรอบตัว  ก่อนช่วยชีวิตปล่อยคืนสู่ทะเลกลับดังเดิม ต่อมาล่องเรือไปจับสัตว์น้ำในทะเลใกล้ๆแถวนั้นอีกครั้ง และจับได้กุ้งมังกรตัวใหญ่  ตนเองเห็นว่า กุ้งมังกรในท้องทะเลในเมืองไทย เริ่มมีน้อยลง หลังจากที่วางอวนติดมา  ก็เลือกที่จะปล่อยคืนสู่ทะเลเช่นกัน

 

          นายมาวิน  มานะกิจสมบูรณ์  อายุ 41 ปี  กล่าวกับทีมข่าว(ทางโทรศัพท์ ) ว่า ตนเองเป็นไต่เรือมีจรรยาบรรณของชาวประมง ในเรื่องการจับสัตว์น้ำ  เฉพาะที่เราจับขายเป็นหลักๆพอ แต่ถ้าจับติดสัตว์น้ำอื่นๆที่ไม่ใช่ปลา เช่นอย่างวันนี้  จับติดกุ้งมังกรตัวใหญ่ ทางเรือของเราจับได้ก็ปล่อยสู่คืนท้องทะเลเหมือนเดิม  ให้กุ้งมังกรตัวนี้กลับไปขยายพันธุ์ต่อ

              นายมาวิน   กล่าวเพิ่มเติมว่า ส่วนเต่าหรือสัตว์น้ำอื่นๆเราจับติดอวนมาบ่อย เพราะเรือประมงของตนเองเวลาล่องเรือออกทะเลไปหลายๆวัน มักเจอสัตว์น้ำขนาดใหญ่ติดมาบ้าง และเจอสัตว์น้ำรอความช่วยเหลือมาบ้าง ตนเองก็จะช่วยเหลือปล่อยสู่ท้องทะเล เพราะเรารักษ์ธรรมชาติ และร่วมปกป้องในสิ่งที่เราช่วยกันได้  นายมาวินกล่าว

…………………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

 อย่างเท่! หนุ่มใหญ่อินเดียนสตูล ประดิษฐ์รถจักรยานยนต์ทำมือเพียง 4 เดือน จากวัสดุโบราณเก่าเก็บและอยู่ในครัวเป็นอะไหล่ชั้นเยี่ยม

อย่างเท่! หนุ่มใหญ่อินเดียนสตูล ประดิษฐ์รถจักรยานยนต์ทำมือเพียง 4 เดือน จากวัสดุโบราณเก่าเก็บและอยู่ในครัวเป็นอะไหล่ชั้นเยี่ยม

           หลายคนอาจจะสงสัยว่านี่คือรถจักรยาน  หรือ  รถจักรยานยนต์กันแน่  เค้าโครงหลายส่วนของรถคันนี้เหมือนเป็นการผสมผสานระหว่างจักรยานกับรถจักรยานยนต์เข้าด้วยกัน  และเพื่อไม่ให้สงสัยนาน   คุณสมชาย  เด็นหลี  อายุ 55 ปี หรือที่รู้จักกันว่า  “ชายอาปาเช่”  ชาว ต.ฉลุง อ.เมือง จ.สตูล  ได้บอกว่านี่คือรถคัสตอมไบท์  หรือรถทำมือ  ที่สร้างจากจินตนาการของตน เพื่อทำความฝันให้เป็นจริงที่สามารถขี่ได้จริงๆ

 

           ส่วนประกอบของรถคันนี้ส่วนใหญ่มาจากโกดังภายในบ้านที่ชอบสะสมของเก่าของโบราณ  อาทิ  เครื่องเรือ 10 แรงม้า 390 cc, เครื่อง honda wave รุ่นเก่าๆทำเกียร์, คลัทช์ที่สตาร์ทเท้า,ให้เสมือนเป็นรถจักรยานยนต์ทั่วไป,ตัวถังน้ำมันจุด 20 ลิตร  ทำจากแผ่นเหล็กมาเชื่อมต่อขึ้นเอง , ล้อที่ใช้ของรถเข็นน้ำเพื่อให้อารมณ์เหมือนจักรยานแต่จะใหญ่กว่า , เบาะนั่งโบราณซึ่งมีราคา 3 – 4,000 บาท ก็หันมาทำเองเหลือเพียงราคา 500 บาทเนื่องจากมีหนังและโครงเหล็กเบาะจักรยานโบราณ โดยใช้เวลาประกอบขึ้นรูป 4-5 เดือน ไม่รวมการจัดหาวัสดุอุปกรณ์  ,วัสดุบางชนิดนำขวดน้ำพริกเผามาเป็นก๊อกน้ำมันของรถ ใช้วิธี DIY  หรือทำด้วยตัวเองทั้งคัน ส่วนมูลค่าหลักหมื่นต้นๆก็สามารถขี่ได้

         คุณสมชาย  หรือ ชายอาปาเช่  บอกด้วยว่า  รถคันนี้ได้เคยทดสอบขี่ไกลสุด ระยะทาง 50 กิโลเมตร  ส่วนความเร็วนั้นยังไม่เคยทดสอบจับเวลา  เจตนารมณ์ของตนที่สร้างรถคันนี้ขึ้นมาเพื่อมีรถที่เหมาะกับเอกลักษณ์ของอินเดียนที่ตนชอบแต่งตัวสไตล์นี้และต้องการหารถที่เหมาะสมกับเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงทำรถทำมือขึ้นมา

 

         ส่วนตัวในอดีตเคยอยู่ร้านแต่งรถ harley ส่งเข้าประกวดได้รับรางวัลมากมายสมัยอยู่จังหวัดภูเก็ต  เมื่อกลับมาอยู่บ้านก็ใช้ความรู้ที่มีมาสร้างรถทำมือขึ้น  แม้จะมีบางส่วนที่ต้องปรับปรุงในเรื่องของการสั่นให้นิ่งเงียบกว่านี้  แต่รถคันนี้ก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นรถในจินตนาการของตน  และทำความฝันของตัวเองให้เป็นความจริงได้โดยได้ลงมือทำจนประสบความสำเร็จและภาคภูมิใจกับรถจักรยานยนต์คันนี้แม้จะขับขี่ไปที่ไหนหลายคนอาจจะดูว่าแปลกและไม่คิดว่าจะเป็นรถที่นำเศษเหล็กหรือของเก่าโบราณมาตกแต่งจนวิ่งได้แต่นี่คือความภูมิใจที่ได่ทำขึ้นมา  หากผู้ที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามได้ที่  094-6809183  สมาชิกกลุ่มสตรีทอาร์ตสตูล

 

          ด้านนายสมบัติ  เจริญขวัญ  เพื่อน ยอมรับว่า ชายอาปาเช่  หรือบังเหลน ชื่อเล่น  เป็นคนชอบคิดชอบทำและมีไอเดียที่แปลกอยู่ตลอด โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์คันนี้ ถือว่าเป็นความคิดสร้างสรรค์ สร้างสิ่งแปลกใหม่ ให้เป็นที่จดจำเรื่องราวดีๆของคนชอบประดิษฐ์

………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

ผลไม้พื้นถิ่นที่เตรียมขึ้นทะเบียนพืช GI และอีกหลากเมนู หนึ่งในแคมเปญ  Green Season นี้ เที่ยวสตูล

ผลไม้พื้นถิ่นที่เตรียมขึ้นทะเบียนพืช GI และอีกหลากเมนู หนึ่งในแคมเปญ  Green Season นี้ เที่ยวสตูล

          ฤดูกาลนี้ผลไม้หลายชนิดเริ่มให้ผลผลิตออกสู่ท้องตลาดกันแล้ว  โดยเฉพาะกระท้อน  ในพื้นที่จังหวัดสตูลหลายสายพันธุ์ต่างให้ผลผลิต  สมกับจังหวัดสตูลที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นดินแดนเมืองสโตย  หรือ สตูล   ที่แปลว่ากระท้อน

          กระท้อนจำนวนมากที่มีการนำมาแปรรูปเพื่อให้รับประทานกันได้ตลอดทั้งปี  อย่างเช่นที่ร้านต้นรักโฮมเมดไอศครีม  ตั้งอยู่ที่ซอยต้นรัก เทศบาลตำบลคลองขุด  อำเภอเมือง  จังหวัดสตูล    วันนี้ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสตูล  เชิญชวนทุกคนมาท่องเที่ยว Green Season นี้ เที่ยวสตูล  ชิมกระท้อนและผลไม้พื้นถิ่นที่ทางจังหวัด  เตรียมขอขึ้นทะเบียนเป็นผลไม้  GI พืชบ่งชี้เฉพาะถิ่น

          โดยเฉพาะที่ร้านต้นรักโฮมเมดไอศครีม  ที่มีการแปรรูปกระท้อนเป็นไอศครีม  เนื้อเนียนนุ่มหวานฉ่ำชื่นใจ  โดยทางคุณสายฝน  ชูช่วย  เจ้าของร้านต้นรักโฮมเมดไอศครีม  ได้โชว์สูตรที่ไม่ลับ  ของการทำไอศครีมกระท้อนห่อ  และกระท้อนแช่อิ่ม

          ด้วยการนำส่วนผสมของเนื้อกระท้อนที่เป็นปุยฝ้าย  และฐานรองเม็ดกระท้อนที่มีความนุ่มอร่อยจำนวน 5 กิโลกรัมต่อการทำไอศครีมใน 1 ครั้ง  จากนั้นใส่  น้ำตาล 10% และส่วนอื่นๆ ที่ช่วยให้เนื้อไอศกรีมเนียนนุ่มแห้ง ขั้นตอนที่ทางคุณสายฝนแนะนำดูแล้วไม่ง่าย  เพราะทุกขั้นตอนต้องใช้ความประณีต  และพิถีพิถันหลังจากเตรียมเนื้อกระท้อนและส่วนผสมแล้ว ต้องนำเนื้อกระท้อนไปบ่ม 8 ชั่วโมง และนำมาปั่นอีก 40 นาที จากนั้น  นำไปพักไว้อีก 4 ชั่วโมง  หากทำวันนี้ก็จะได้ขายในวันพรุ่งนี้   ก็จะได้เนื้อไอศครีมที่นุ่มแห้งและเข้าถึงรสชาติของกระท้อนอย่างแท้จริง

          กระท้อนสามารถทำได้เป็น 2 เมนู  คือไอศกรีมกระท้อนห่อ  และไอศกรีมกระท้อนแช่อิ่ม หากปีไหนกระท้อนมีรสชาติเปรี้ยวก็สามารถทำเป็นไอศกรีมกระท้อนโรยพริกเกลือ  และน้ำปลาหวานได้  ก็จะได้รสชาติแปลกใหม่น่าลิ้มลองเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า

          นอกจากนี้ทางร้านต้นรักโฮมเมดไอศกรีม  ยังมีเมนูแนะนำจากผลไม้พื้นถิ่นและตามฤดูกาล   อาทิ  ไอศกรีมหมอนทอง  ไอศกรีมมะม่วงพริกเกลือ,  ไอศกรีมมะม่วงน้ำดอกไม้, ไอศกรีมมะยมพริกเกลือ, ไอศกรีมขนุนอัญชัน  และไอศกรีมมะพร้าวดั้งเดิม  ,นอกจากนี้ก็ยังมีไอศกรีมยอดนิยมทั่วไปจำหน่ายอีกด้วย  โดยขายในราคาสกู๊ปละ  30 บาทเท่านั้น  แต่สำหรับไอศกรีมหมอนทองจะเพิ่มอีก 10 บาท เนื่องจากใช้เนื้อหมอนทองจำนวนมาก

          นายไพรัช  สุขงาม  ผอ.สำนักงาน ททท.สาขาสตูล  กล่าวว่า  กระท้อนจังหวัดสตูลจะเป็นผลไม้ที่มีชื่อเสียงอยู่แล้วโดยเฉพาะกระท้อนพันธุ์ปุยฝ้าย  เพราะมีรสชาติหวานนุ่มอร่อย เมื่อมีการนำมาแปรรูปเป็นไอศกรีมจะเป็นการช่วยเพิ่มมูลค่า และสร้างความอร่อยมากยิ่งขึ้น  ช่วยเพิ่มรสชาติของการเป็นกระท้อนผ่านไอศครีมให้ดียิ่งขึ้น

          นางสาวสายฝน  ชูช่วย  เจ้าของร้านต้นรักไอศครีมโฮมเมด  บอกว่าทางร้านได้เปิดมาแล้ว 10 ปีโดยจะทำไอศครีมจากผลไม้พื้นถิ่นเป็นสินค้าหลักของร้านเช่น  ไอศครีมมะม่วงเบาไอศครีมจำปาดะและที่นำเสนอวันนี้ก็คือไอศครีมกระท้อน เป็นกระท้อนพันธุ์ปุยฝ้ายของที่บ้านปลูกเองกว่า 30 ปีเชื่อมั่นในคุณภาพและความปลอดภัยได้ ทุกๆปีเมื่อถึงฤดูกาลเราก็จะทำไอศครีมกระท้อนห่อกระท้อนแช่อิ่มและกระท้อนพริกเกลือ  ซึ่งทางร้านก็จะมีจำหน่ายทั้งไอศครีมเบเกอรี่และอาหารจานเดียวไว้รองรับลูกค้านักท่องเที่ยวด้วย

          นอกจากนี้ทางร้านก็ยังมีเมนูอาหารและเครื่องดื่มเยอะแยะมากมายที่ทางร้านเตรียมไว้บริการลูกค้า  ได้ชิมและมุมถ่ายรูปที่ถูกใจ  กับบรรยากาศสบายๆ  ซึ่งทางร้านจะเปิดให้บริการทุกวันเว้นวันจันทร์   โทร 089- 6595290  

………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

นาทีบีบหัวใจ! แม่อุ้มหนูน้อยวัย 1 ขวบ  ขอความช่วยเหลือร้านเภสัช  ช่วยลูกที่อาการชักเกร็งตาค้างอ่อนแรง  ก่อนพบต้นเหตุที่เชื่อว่า   เกิดจากองุ่นติดคอเข้าหลอดลม

นาทีบีบหัวใจ! แม่อุ้มหนูน้อยวัย 1 ขวบ  ขอความช่วยเหลือร้านเภสัช  ช่วยลูกที่อาการชักเกร็งตาค้างอ่อนแรง  ก่อนพบต้นเหตุที่เชื่อว่า   เกิดจากองุ่นติดคอเข้าหลอดลม

           เหตุการณ์รายนี้เกิดขึ้นที่ร้านขายยา  เภสัชกระติ๊บ  บนถนนยนตรการกำธร  เทศบาลตำบลคลองขุด  อำเภอเมือง  จังหวัดสตูล  เมื่อ เภสัชกรหญิงณภัคมนต์ ลักษณะ  เภสัชกรร้านขายยาแผนปัจจุบัน  ชื่อร้านขายยาเภสัชกระติ๊บ  ได้โพสต์บนสื่อโซเชียล  เล่าเหตุการณ์ว่า 11 ปี  หลังจากเหตุการณ์โจรปืนปลอมมาจี้ที่ร้านยา ก็ไม่เคยมีครั้งไหน  ใจเต้นและบีบหัวใจเท่าเหตุการณ์ในวันนี้  เรียกได้ว่า “วินาทีชีวิต”   โดยเล่าว่าในช่วงเวลา 18.00 น. มีลูกค้าประจำที่ร้านขี่รถมอเตอร์ไซค์พาลูกน้อยวัย 1 ขวบ มาจอดหน้าร้าน  ได้ยินเสียงรถเบรกเสียงดัง แล้วตะโกนให้ช่วยน้องด้วยน้องชัก  “นี่ก็ตกใจมาก” แม่น้องแจ้งว่า  น้องไข้แล้วน้องชัก ” เราก็ตั้งสติ จับน้องนอนลงในคอกเด็ก แจ้งยายให้หาผ้าเช็ดตัวมาให้ด่วน ก่อนให้พ่อเด็กรีบโทร 1669 ทันที!!

 

           น้องมาด้วยอาการ ตาค้างเบิกโพลน ไม่กระพริบ ตัวอ่อนแรง ฉี่และอุจาระ ไม่ได้สติ จึงเริ่มจากการเช็ดตัว แต่พอจับตัวน้องน้องไม่ได้ตัวร้อน จึงปั๊มหัวใจ แต่ประเมินอาการแล้วน่าจะไม่ใช่อาการที่แม่น้องบอกมา

 

          จึงสอบถามแม่น้องว่า ก่อนหน้านี้ให้น้องกินอะไรมาบ้าง เพราะในใจสงสัยเรื่องอาหารติดคอ พอแม่บอกว่าองุ่นชิ้นเล็ก แม้จะชิ้นเล็กแต่เด็กวัยนี้  มีพฤติกรรมอมอาหารแล้วอาจจะสำลักเข้าหลอดลมได้ง่าย

 

           จึงไม่รอช้าลงมือจับน้องกระทุ้งทันที  นาทีนั้น  น้องตอบสนอง  ตาเริ่มกระพริบช้า เริ่มได้ยินเสียงร้องเบาๆ จากนั่นก็ทำครั้งที่ 2 เสียงเริ่มดังขึ้น ครั้งที่ 3 น้องร้องเสียงดังขึ้นกว่าเดิมตั้งคอได้  เราน้ำตาไหลในใจนี้โล่งเลย  “น้องรอดแล้วนะลูก” ประจวบเหมาะกับรถโรงพยาบาลมาถึงหน้าร้านพอดี 

             เภสัชกรหญิงณภัคมนต์ ลักษณะ  หรือ เภสัชกระติ๊บ  บอกอีกว่า  เปิดร้านยามา 12 ปี เจอผู้ป่วยวิกฤติมาเยอะแต่ไม่เคยมีครั้งไหนบีบหัวใจเท่าครั้งนี้

           เพราะเราก็มนุษย์แม่เช่นกัน ตอนนี้น้องปลอดภัยและยังคงเฝ้าดูอาการน้องต่อที่รพ.สตูล ไม่เจอกับตัวเอง  ไม่รู้เลยว่า  คำว่านาทีชีวิตมันเป็นอย่างไร  ขอบคุณตัวเองที่มีสติพอ   ขอบคุณคลิปต่างๆของพี่หน่วยปฐมพยาบาลที่เคยผ่านตา  ทำให้ได้มีความรู้ว่า  ต้องช่วยเด็กอย่างไร

อัพเดทล่าสุด
Categories
ท้องถิ่น-การเมือง ท่องเที่ยว-กีฬา

 จัดหนักจัดเต็ม! กีฬาสูงวัยพาราสโตยเกมส์ ครั้งที่ 3 ทั้งกองเชียร์และนักกีฬาสร้างความสุขสนุกสนาน

จัดหนักจัดเต็ม! กีฬาสูงวัยพาราสโตยเกมส์ ครั้งที่ 3 ทั้งกองเชียร์และนักกีฬาสร้างความสุขสนุกสนาน

        เริ่มแล้ว…การแข่งขันกีฬาผู้สูงอายุและคนพิการจังหวัดสตูล  “ใส่ใจ สูงวัย พาราสโตยเกมส์”  ครั้งที่ 3 ที่มีการจัดขึ้นที่สนามกีฬากลางองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล ตำบลคลองขุด  อำเภอเมือง 

          กับเกมกีฬาหลากหลาย   ที่สร้างความสุข  สนุกสนานให้กับผู้สูงวัยและผู้พิการ ที่มาร่วมการแข่งขันและกองเชียร์จากทั่วทุกอำเภอ 880 คน กับเกมกีฬายอดฮิตอย่างปิดตาตีหม้อ  ชนิดที่กองเชียร์ลุ้นกันเกือบลืมหายใจ  สร้างเสียงหัวเราะ  ความสุขสนุกสนานให้ทั้งผู้เล่นและผู้ชมได้ไม่น้อย  งานนี้ผู้สูงอายุและผู้พิการต่างก็มีความสุข

 

           นอกจากนี้   เกมกีฬา  ดันลูกโป่ง  ที่ผู้สูงอายุแต่ละอำเภอของจังหวัดสตูล  ได้ส่งนักกีฬาตัวท็อปตัวเต็ง  ลงการแข่งขันดันลูกโป่งให้แตกในเวลาเร็วที่สุด นักกีฬาทุกคนก็ฟิตมาเป็นอย่างดี  เพื่อไม่ให้กองเชียร์ผิดหวัง ทั้งนักกีฬาชายหญิง  ผู้สูงวัยต่าง  ตื่นเต้นสนุกสนานไปตามๆกัน

 

          มีนักกีฬาแล้วก็ต้องมีกองเชียร์ ที่แต่งตัวสีสันสวยงามกันตั้งแต่เช้ามืด  เพื่อมาร่วมงานนี้ โดยกองเชียร์แต่ละคนก็จัดหนักจัดเต็ม  ชนิดไม่มีใครยอมใคร  สีสันสวยงามเต็มท้องสนามและอัศจรรย์  งานนี้คณะกรรมการก็มีคะแนนให้กับกองเชียร์แต่ละอำเภอด้วย  โดยจะมีคะแนนความพร้อมเพรียง  ความสามัคคี  การมีส่วนร่วม   ทำให้ทุกคนเต้นส่ายสะโพกโยกย้ายชนิดลืมวัยกันเลยทีเดียว    ซึ่งเจ้าของงาน  ก็เตรียมความพร้อมทั้งรถพยาบาลฉุกเฉิน  ไว้สแตนบาย  หากเกิดเหตุจะได้ช่วยกันทันท่วงที

 

              ด้านนายชาตรี ณ  ถลาง  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล  ได้มาร่วมเป็นประธานเปิดงานในครั้งนี้  โดยมีนายสัมฤทธิ์  เลียงประสิทธิ์  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล  กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัด การแข่งขันกีฬาผู้สูงอายุและคนพิการจังหวัดสตูล  “ใส่ใจ สูงวัย พาราสโตยเกมส์”    ครั้งที่ 3  ซึ่งงานมีขึ้นระหว่างวันที่ 25-26 มิถุนายน 2567  โดยมีเกมกีฬาสากล  กีฬาพื้นบ้านและกิจกรรมนันทนาการ  ที่เสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง  สังคมดีและมีความสุข 

 

           ผู้จัดทุกฝ่าย  เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ และคนพิการ จึงจัดกีฬาและนันทนาการ เพื่อส่งเสริมให้มีสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง  ให้สังคมตระหนักถึงคุณค่าและศักดิ์ศรีของผู้สูงอายุ และคนพิการ  พร้อมเปิดโอกาส ให้มีกิจกรรมการมีส่วนร่วมทางสังคม รวมถึงสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกัน และการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

…………………………

 

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 สตูล-ขนมมารากู  สูตรอินเดียกลิ่นไอของใบสมุยเทศ  สร้างรสชาติชวนลิ้มลอง  ขนมโบราณที่สืบทอดมายาวนานมีทานเฉพาะเทศกาลและออเดอร์เท่านั้น

สตูล-ขนมมารากู  สูตรอินเดียกลิ่นไอของใบสมุยเทศ  สร้างรสชาติชวนลิ้มลอง  ขนมโบราณที่สืบทอดมายาวนานมีทานเฉพาะเทศกาลและออเดอร์เท่านั้น

         ที่เป็นมากกว่าโรตี หรือโรตีกรอบ ก็ต้องยกให้  ขนมมารากูสูตรอินเดียเลย  เพราะกรรมวิธีอาจจะคล้ายโรตีทั่วไปแต่ใส่เครื่องเทศเข้ามา  ปั้นเป็นก้อนแช่น้ำมันคล้ายโรตี  ดูอีกทีก็คล้ายทอดมันปลายังไงอย่างงั้น  แต่มาดูการทำของทางร้าน บังกาหรีม ตำบลบ้านควน อำเภอเมือง จังหวัดสตูล   นางดารุณี อายาหมีน   อายุ 65 ปี  พร้อมลูกสาวนางไซนับ  มูเก็ม อายุ 42 ปี  และ หลานสาวช่วยกันทำขนม มารากู   เพื่อให้ทันกับออเดอร์ของลูกค้า

 

          ด้านนางไซนับ  มูเก็ม อายุ 42 ปี   กล่าวว่า  ขนม มารากู  เป็นขนมในประเทศอินเดีย ถือว่าเป็นขนมมงคล  ชอบทำทานในวันสำคัญ  มีการทำกันในประเทศมาเลเซียมาก  และมีการสืบทอดและไหลมาทางชายแดน จ.สตูล  ซึ่งติดกับประเทศมาเลเซีย  บรรพบุรุษหลายรุ่นจะทำกินและทำขาย  ในวันสำคัญของพี่น้องชาวมุสลิมและเป็นอาชีพในทุกวันนี้  ยิ่งในช่วงเดือนสำคัญอย่างช่วงฮารีรายา  ของพี่น้องมุสลิม จะขายดี มีออเดอร์สั่งเข้ามารัวๆเลยทีเดียว

            ส่วนออเดอร์ที่ลูกค้ามาสั่งจอง  รวมถึงผู้ที่ผ่านไปผ่านมาแวะมาอุดหนุน ขนมมารากู ขายได้เดือนละ 30 ถุง ซึ่งบรรจุถุงละ 1 กิโลกรัม ราคา 100 บาท เฉลี่ยแล้วมีรายได้ต่อเดือนละประมาณ 3,000 – 4,000 บาท

 

           ทั้งนี้นายสมโภชน์  สุขใจ ลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่ชอบทาน บอกว่า อร่อยและกรอบ ได้กลิ่นไอของใบนาโปแล หรือใบสมุยเทศ  และเครื่องผสมทำให้ขนมชนิดนี้ทานอร่อย รสชาติไม่เหมือนขนมอื่นๆ

                   

          สำหรับขนมชนิดนี้ชื่อว่า ขนมมารากู หรือคนใต้เรียกว่า โรตีกรอบ เพราะส่วนผสมที่ทำคล้ายแป้งโรตีนวดๆเป็นกลม โดยใช้แป้งหมี่ ไข่ไก่ และใส่เกลือ เพิ่มส่วนผสมเครื่องเทศ  พริก และ ใบสมุยเทศ (เคล็ดลับความอร่อยเพิ่มความหอมกรุ่น)   รวมทั้งหัวหอมซอย  จากนั้นนำแป้งไปนวด และฟัดเหมือนโรตีให้เป็นแผ่นบาง ๆ และตัดเป็นส่วน นำไปทอดในไฟร้อนๆ ยกสะเด็ดน้ำมัน แพ๊คใส่ถุงส่งให้ลูกค้าทันที สามารถสั่งจองได้ 089-879 1966   นอกจากนี้ที่ร้านบังกาหรีม ทุก ๆ เช้าจะเปิดขายน้ำชา กาแฟ ขนมพื้นถิ่น ขนมมารากู    หากทานคู่ชาเย็น จะอร่อยมาก 

 ………………………………………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

สตูล – แอ๊ดดี้เทพบุตรเดินดิน  จิตอาสาของน้องหมาจรจัด 18,000 ตัว 

สตูล – แอ๊ดดี้เทพบุตรเดินดิน  จิตอาสาของน้องหมาจรจัด 18,000 ตัว 

          แอ๊ดดี้  หรือ  นายเกรียงไกร  ธาตวากร  อายุ 51 ปี หนุ่มศรีสะเกษ  ลูกเจ้าของร้านรับจัดโต๊ะจีน   ดีกรีเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง  รัฐศาสตร์บัณฑิต  เทพบุตรของสุนัขจรจัด  ที่ได้ตระเวนเดินสายเป็นจิตอาสาไปทั่วประเทศกว่า 12 ปี  บริการน้องหมาจรจัดที่มีสภาพสกปรก เป็นที่น่ารังเกียจด้วยการตัดขน  ตัดเล็บและรักษาโรคผิวหนัง 18,000 ตัว  รวมทั้งแจกสูตรปรุงยารักษาโรคผิวหนัง   หรือโรคขี้เรื้อนให้ด้วย  ทั้งนี้เพื่อคืนชีวิตใหม่ให้กับน้องหมาได้มีโอกาสหาบ้านใหม่

 

          และในวันนี้ได้เดินทางมาที่จังหวัดสตูล  ซึ่งเป็นการเดินทางมาเป็นครั้งที่ 3  ที่สถานสงเคราะห์เทศบาลเมืองสตูล  ที่มีหมาจรจัดในการดูแลกว่า 200 ตัว ซึ่งเป็นน้องหมาที่ได้มาจากการถูกทอดทิ้ง  และยังพบว่าสถานการณ์หมาจรจัดในจังหวัดสตูลพบน้องหมาสายพันธ์ดังๆ  ถูกทอดทิ้งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  บางพื้นที่ไร้การเหลียวแลปล่อยให้อดอยาก  และอยู่ในสภาพที่สังคมรังเกียจ

         วันนี้แอ๊ดดี้เทพบุตรน้องหมาจรจัด  นอกจากจะมาบริการตัดขนและเล็บให้น้องหมาจรจัดฟรีแล้ว   ยังนำสูตรยาสมุนไพรรักษาโรคผิวหนังหรือโรคขี้เรื้อน   มาให้ผู้ดูแลน้องหมาจรจัด  และผู้ที่สนใจไว้รักษาน้องหมาที่บ้าน   เพียงนำผงขมิ้นที่ทำกับข้าวจำนวน 1 กิโลกรัม น้ำมะกรูด 6 ลูก น้ำมันมะกอก 2 ขวดหรือน้ำมันมะพร้าว   น้ำยาเดตตอลครึ่งฝา  กำมะถัน 1 ทัพพี  และใช้น้ำธรรมดาเป็นส่วนผสมให้เข้ากัน  คนให้ข้นเหมือนปะแป้งได้ ใช้ทาน้องหมาที่เป็นโรคผิวหนังทุก 7 วัน ทำไปเรื่อยๆ แป๊บเดียวอาการน้องหมาจะดีขึ้นคืนชีวิตใหม่ให้น้องหมา

 

          พร้อมฝากข้อคิดให้กับใครที่กำลังมองหาน้องหมา อยากแนะนำลองเปิดใจให้โอกาสน้องหมาจร ที่มีสายพันธ์ดังๆ  ถูกทอดทิ้งจากหลายสาเหตุที่นำมาทิ้งเพื่อไปเลี้ยงต่อ  ซึ่งตนเชื่อว่าการมาตัดขน ตัดเล็บ และรักษาโรคผิวหนังให้จะทำให้น้องหมาได้มีโอกาศมีบ้านใหม่ จากผู้ที่ชื่นชอบสุนัข  และตนก็ยินดีที่จะเดินสายช่วยชีวิตน้องหมาไปจนกว่าตัวเองจะยกบปัตตาเลี่ยนไม่ไหว

…………………………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

สตูล-สืบสานความสวยงามประเพณีนิยม  ชุดขันหมากโดยชุมชนสตรีมุสลิมร่วมแข่งขันพับผ้าละหมาดและผ้ารองละหมาด  สร้างสรรค์ไอเดีย  ฝึกสมาธิ สร้างรายได้และความสามัคคีในชุมชน

สตูล-สืบสานความสวยงามประเพณีนิยม  ชุดขันหมากโดยชุมชนสตรีมุสลิมร่วมแข่งขันพับผ้าละหมาดและผ้ารองละหมาด  สร้างสรรค์ไอเดีย  ฝึกสมาธิ สร้างรายได้และความสามัคคีในชุมชน

         ประเพณีนิยมการทำชุดขันหมากของไทยมุสลิมจากผ้าตาละกง หรือผ้าละหมาดผู้หญิง ผ้าซายาด๊ะ หรือผ้ารองละหมาด และผ้าขนหนู  ทำให้ทางสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสตูลและมัสยิดอะห์มาดิย๊ะปันจอร์  อ.ควนโดน จ.สตูล ได้เข้ามาส่งเสริมและมีการจัดการแข่งขันขึ้นเพื่อส่งเสริมสนับสนุนวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงาม

 

       โดยที่มัสยิดอะห์มาดิย๊ะปันจอร์  อ.ควนโดน จ.สตูล  ได้มีการจัดงานเทศกาลวันตรุษอีดิลอัฎฮา  ครั้งที่ 16  รายาหยีที่บ้านจอร์  หนึ่งในกิจกรรมที่มีการส่งเสริมความสมัครสมาชิกภายในชุมชน 10 แห่งคือ  แข่งขันพับผ้าโชว์ ผ้าตาละกง หรือผ้าละหมาดผู้หญิง ผ้าซายาด๊ะ หรือผ้ารองละหมาด และผ้าขนหนู 

 

         โดยมีกลุ่มสตรีจากชุมชนต่างๆเช่นชุมชนหลวงนา,ชุมชนปะการัง,ชุมชนไฮเวย์,ชุมชนปากบาง,ชุมชนควนดินแดง,ชุมชนทรายทอง,ชุมชนดินทรุด,ชุมชนกุมปัง,ชุมชนทุ่งโต๊ะหรัด, และชุมชนห้วยท้องหะ 10 ชุมชน เข้าร่วมการแข่งขันกันอย่างพร้อมเพรียงท่ามกลางกองเชียร์ที่มารอชมฝีมือของกลุ่มสตรีดังกล่าว

 

        การแข่งขันใช้ระยะเวลา 1 ชั่วโมงเนื่องจากต้องใช้ความปราณีต ความคิดสร้างสรรค์  โดยทางคณะกรรมการก็จะให้คะแนน ทั้งประเภทความหลากหลายของอุปกรณ์ ความสวยงาม  องค์ประกอบและขั้นตอนการพับ

 

          นายณพงศ์   ใบหมาดปันจอ   อดีตวัฒนธรรมจังหวัดสตูลและกรรมการมัสยิดฯ  กล่าวว่า   กิจกรรมของสตรีภายในหมู่บ้านในครั้งนี้  เป็นส่วนหนึ่งในการฝึกสมาธิให้ใจเย็น สร้างความสามัคคีภายในชุมชนพร้อมทั้งการสืบทอดให้ลูกหลานหัดพับผ้า ที่สามารถเพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้  จากการทำชุดขันหมากในการสู่ขอบ่าวสาว ที่จะมีการใช้ผ้าตาละกง หรือผ้าละหมาดผู้หญิง ผ้าซายาด๊ะ หรือผ้ารองละหมาด และผ้าขนหนูในการตกแต่งเป็นชุดขันหมาก มีมูลค่าจาก 300 บาทเป็น 3,000 บาทได้

 

         โดยผู้เข้าร่วมการแข่งขันหลายคนก็จะตกแต่งเป็นชุดถ้วยน้ำชา , พัดที่สวยงาม  กระเป๋า  โดมมัสยิด  บ้างก็ตกแต่งเป็นผลจำปาดะ  เค้ก และเรือ แล้วแต่ไอเดียสร้างสรรค์  ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งภายในงาน  เทศกาลวันตรุษอีดิลอัฎฮา   รายาหยีที่บ้านจอร์ ที่ชาวบ้านในชุมชนมีการจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีสำหรับปีนี้ก็จัดเป็นครั้งที่ 16 แล้ว

………

อัพเดทล่าสุด