Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สตูล-กลุ่มวิสาหกิจชุมชนควนขันบาติก สกัดสีจากเปลือกไม้ ผลไม้  วาดลวยลายอัตลักษณ์บนผืนผ้ายอดสั่งสุดปัง สร้างรายได้อย่างงาม

สตูล-กลุ่มวิสาหกิจชุมชนควนขันบาติก สกัดสีจากเปลือกไม้ ผลไม้  วาดลวยลายอัตลักษณ์บนผืนผ้ายอดสั่งสุดปัง สร้างรายได้อย่างงาม

          หลังมีการรณรงค์ ส่งเสริมให้สวมใส่ผ้าไทย ผ้าอัตลักษณ์   ลายผ้าที่ผ่านการตัดเย็บอย่างประณีตจึงถูกหยิบมาสวมใส่  ด้านกลุ่มวิสาหกิจผลิตผ้าหลายๆกลุ่มในจังหวัดสตูล  ต่างดึงเสน่ห์ความเป็นอัตลักษณ์ในพื้นที่ออกมาใช้  ออกแบบให้สวยงามควรค่าแก่การสวมใส่ 

 

          อย่างที่วิสาหกิจชุมชนควนขันบาติกปาเต๊ะ ซึ่งมี นางสาวพรพรรณ รักนิยม เป็นประธานกลุ่ม  ก็ดึงเอาอัตลักษณ์ในพื้นที่ ทั้งความเป็นอุทยานธรณีโลกสตูล  สีจากเปลือกไม้  ใบไม้  และผลไม้ในพื้นที่ มาต่อยอดสกัดเป็นสีย้อมผ้า  และลวดลายบนผืนผ้า  เพื่อเพิ่มมูลค่าและได้รับความนิยมจากผู้สวมใส่

         

        ล่าสุดทางกลุ่ม  มีโอกาสนำผ้าเข้าร่วมประกวดผ้าจากสีธรรมชาติ  ในกิจกรรมการประกวดสุดยอดผ้าจังหวัดสตูล ประจำปี 2567 ซึ่ง ทางวิสาหกิจชุมชนควนขันบาติกปาเต๊ะ  ได้รับรางวัลชนะเลิศ ประเภทสีธรรมชาติ  และยังได้ในส่วนของรางวัลชนะเลิศอันดับที่ 2  ประเภทสีเคมี

 

          สมาชิกกลุ่ม วิสาหกิจชุมชนควนขันบาติกปาเต๊ะ นำสีจากเปลือกและแกนไม้แสมดำ  ขนุน เปลือกมังคุด  ที่ถูกสกัดมาเป็นสีทาบนผืนผ้าที่วาดลวดลายแล้วทั้ง 2 ด้าน เพื่อเพิ่มสีสันให้สมบูรณ์ สวยงาม

 

       ส่วนลายผ้านั้น  มีทั้งลายดอกกาหลง ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดสตูล   ลายช่องลมของพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ  คฤหาสน์กูเด็น   ลายฟอสซิลชนิดต่างๆที่ถูกค้นพบในจังหวัดสตูล  ว่าวควาย  รวมถึงลายขอ  ซึ่งเป็นลายพระราชทาน  ทำให้สีและลายผ้าของกลุ่มฯมีมากมายให้เลือก ทั้งสีจากธรรมชาติ  และสีเคมี  ซึ่งทำให้ราคาแตกต่างกันมาก

         นางสาวพรพรรณ รักนิยม ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนควนขันบาติกปาเต๊ะ  บอกว่า  ผ้าแต่ละลวดลายที่ทำมาจากสีธรรมชาติ   ทางกลุ่มจะขายอยู่ที่ผืนละ 2 เมตร ราคา 2,500 บาท  ส่วนที่ทำจากสีเคมี เริ่มต้นราคาผืนละ 650 บาท โดยผ้าที่ทำจากสีธรรมชาตินั้น ขายได้ดีกว่า มียอดสั่งซื้อจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะซื้อเพื่อนำไปตัดเป็นเสื้อ และผ้าถุง หรือตัดเป็นชุดสวมใส่  ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในจังหวัดสตูล และต่างจังหวัด  มียอดสั่งซื้อไกลถึงกรุงเทพฯ เฉลี่ยแล้วเดือนหนึ่งขายผ้าได้ 30 ผืน มีรายได้เดือนละประมาณ  40,000 กว่าบาท  นอกจากผ้าชิ้นแล้ว  ยังมีชุดเสื้อผ้าบาติก กระเป๋า หมวก และผลิตภัณฑ์จากผ้าบาติกอื่นๆอีกด้วย

 

          ด้านนายเฉลิมพร ศรีสวัสดิ์ เกษตรอำเภอเมืองสตูล มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองสตูล  ลงพื้นที่กลุ่ม วิสาหกิจชุมชนควนขันบาติกปาเต๊ะ  เพื่อติดตามการดำเนินงาน  และการบริหารจัดการกลุ่ม

           

         โดยนางฮาบีบ๊ะ  จารุพันธ์  นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองสตูล    กล่าวว่า สำหรับกลุ่ม  วิสาหกิจชุมชนควนขันบาติกปาเต๊ะ  ได้จดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนเมื่อปี 2556  มีสมาชิก 16 คน โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสตรีทำผ้ามานานกว่า 20 ปีแล้ว ได้เรียนรู้นำเปลือกไม้จากธรรมชาติมาสกัด และทำเป็นสีได้อย่างสวยงาม  มีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของกลุ่ม

……………………………………………………………………..

อัพเดทล่าสุด
Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

สตูล – ร้านลับๆของบาริสต้าซุปตาร์ลูกหนังระดับชาติ  แฟนคลับแห่อุดหนุน

ร้านลับๆของบาริสต้าซุปตาร์ลูกหนังระดับชาติ  แฟนคลับแห่อุดหนุน

         [ Kanu Craft Bar ]  ร้านกาแฟเล็กๆ กับบาริสต้าซุปตาร์ระดับชาติ  นายอดิศักดิ์ กานู นักฟุตบอลกองกลางทีม PT สตูลยูไนเต็ด (หรือ ทีมหมอผีสตูล)   วัย 38 ปี (ดีกรีนักฟุตบอลอาชีพ 10 สโมสร)    เปิดร้านกาแฟเล็กๆ ที่บ้านโต๊ะซ๊ะ ตำบลควนสตอ  อำเภอควนโดน  จังหวัดสตูล (รอยต่อติดกับโรงเรียนบ้านเกตตรี  อำเภอเมืองสตูล)

 

        จากจุดเริ่มต้น  ชอบดื่มกาแฟและชอบการตั้งแคมป์ปิ้ง  จึงสร้างเครื่องมือชงกาแฟมากมาย  ประกอบกับช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา  ทำให้หยุดเล่นฟุตบอลไประยะหนึ่ง  จึงทดลองเปิดร้านกาแฟที่จังหวัดยะลา (ซึ่งเป็นบ้านแฟน) ขณะนั้นยอมรับว่ากระแสตอบรับดีมาก  โดยสโลแกนขายกาแฟตอนนั้น  คือ  ลีกปิดร้านเปิด

 

        นายอดิศักดิ์  กานู  นักฟุตบอลอาชีพคนสำคัญของทีม PT สตูลยูไนเต็ด   ยอมรับว่าอยากกลับมาดูแลพ่อแม่ที่จังหวัดสตูล สโลแกนนั้นจึงต้องพับไว้  เพราะตอนนี้ร้านเปิดทุกวันโดยมีแฟนช่วยดูแลร้าน   ที่เปิดตั้งแต่เวลา 14:00 น. ไปจนถึง 22:00 น. โดยแบ่งเวลาไปฝึกซ้อมในช่วงเย็น

           ลูกค้าประจำรายหนึ่งบอกว่า  ปกติตัวเองชื่นชอบกาแฟอยู่แล้วโดยเฉพาะกาแฟดำ  ดื่มกาแฟมาตั้งแต่มัธยมปลาย ติดในรสชาติของกาแฟ รสชาติที่ตนทานปกติจะเป็นสายกาแฟ special   ซึ่งที่ร้านนี้ก็มีตอบโจทย์ตัวเองอย่างมาก  อีกทั้งเจ้าของร้านก็มีส่วนอย่างมากทำให้อยากมานั่งทานเพราะเป็น FC เจ้าของร้านตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย  ชอบสไตล์การเล่นฟุตบอลของพี่เขาเก่งและติดตามมานาน   ยิ่งชงกาแฟได้เก่งก็ยิ่งชอบ  จนกลายมาเป็นลูกค้าประจำ

 

          จากความชื่นชอบ  ใส่ใจและหมั่นฝึกฝนเป็นทักษะพื้นฐานเหมือนกันระหว่าง  ในการเล่นฟุตบอลอาชีพและ  การชงกาแฟในทัศนคติของนายอดิศักดิ์  กานู  กองหน้าทีม PT สตูล ยูไนเต็ด หากเราจับจุดได้  หมั่นฝึกฝน  และพัฒนาอุปกรณ์ ฝีมือรสชาติให้ชำนาญต่อเนื่อง ก็สามารถที่จะไปอยู่กับสโมสรใหญ่ๆหรือทีมใหญ่ๆได้  เช่นเดียวกับการชงกาแฟที่ทำให้ลูกค้าติดใจในฝีมือการชงได้

 

          สิ่งที่อยากพัฒนาร้านต่อไปคือ  ไม่ได้ต้องการให้เป็นคาเฟ่  แต่อยากให้เป็นสภากาแฟมานั่งพบปะพูดคุยของคนทุกวัยและดื่มกาแฟที่ทุกคนชื่นชอบและโปรดปราน   โดยสามารถพูดคุยกับทางร้านได้ว่าชื่นชอบรสชาติไหน  นอกจากนี้ทางร้านก็ยังมีเมนูสำหรับสายสุขภาพ  หรืออาหารทานเล่นไว้บริการด้วย

 

          ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา  14:00 น.  เป็นต้นไปจนถึง 22:00 น. ครัวปิดแต่สามารถนั่งต่อได้  สอบถามเพิ่มเติมทางเพจและ IG : kanucratbar  ,หรือโทร  063 2638914

 

          สำหรับอดิศักดิ์  กานู  เป็นนักฟุตบอลอาชีพ 10 สโมสร สโมสรเยาวชนจุฬาฯยูไนเต็ด , สโมสรอาชีพ BBC FC,สุพรรณบุรีเป็นต้น และ ปัจจุบันอยู่กับสโมสร PT สตูลยูไนเต็ด หมายเลข 14

…..

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สตูล-อาชีพทำเงิน   ดองปูเปี้ยวหรือปูเค็ม  หนุ่มสตูลสานต่ออาชีพครอบครัวส่งออกสร้างรายได้กระจายในชุมชน

สตูล-อาชีพทำเงิน   ดองปูเปี้ยวหรือปูเค็ม  หนุ่มสตูลสานต่ออาชีพครอบครัวส่งออกสร้างรายได้กระจายในชุมชน

           ทุก ๆ วัน ชาวบ้านจะนำปูเปี้ยว  หรือ ปูแสม  ที่หาได้จากป่าชายเลน  มาขายยังแพปูเปี้ยว  ในพื้นที่บ้านไร่ทอน  หมู่ที่ 3 ต.ท่าเรือ  อ.ท่าแพ  จ.สตูล  โดยทางแพปูเปี้ยวจะรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 35 – 45 บาท แล้วแต่ขนาดของปู  เพื่อนำไปดองส่งขายตลาดต่างจังหวัดทั่วไทย  และส่งออกไปยังประเทศสิงคโปร์  สร้างรายได้รอบด้าน  ตั้งแต่คนหาปูเปี้ยว  พนักงานคัดแยก  ดอง ปู    โดยปูเปี้ยวที่มีมากถึง  200  กก.ถึง 1  ตัน (1000 กก.) ต่อวัน  ถูกน็อคน้ำแข็งก่อนนำมาคัดแยกไซต์ แล้วนำไปล้าง 2 น้ำ  ดองเกลือนาน 2 วัน ก็ได้ปูเปี้ยวพร้อมส่งขาย  

 

          โดยนายวัชรินทร์  คงหนู (อาร์ม) อายุ 25 ปี ทายาทเจ้าของแพปูเปี้ยว  เปิดเผยว่า  กว่า 30 ปีแล้วที่แพเปิดรับซื้อปูเปี้ยวมาดองขาย  สร้างรายได้ให้กับครอบครัว  รวมถึงชาวบ้านที่ไปหาปูมาขาย  และชาวบ้านที่มาดองปู  โดยทางแพจะรับซื้อปูเปี้ยวจากชาวบ้านในราคากิโลกรัมละ 35 บาท   หากเป็นปูตัวใหญ่ก็จะรับซื้อในราคา 40-45 บาท  ก่อนดองขายแยกเป็น 3 ขนาด   ปูใหญ่ราคา 85 บาท  ปูกลาง 60  บาท  และเล็ก 35 บาท  ปูดองปี๊บละ 7 กิโลกรัม  ราคา 580 บาท  ปูดองปี๊บละ 10 กิโลกรัมราคา 700  บาท   ส่งขายหาดใหญ่วันละ 300 – 500 กิโลกรัม  ส่งเชียงใหม่สัปดาห์ละ 220 ปี๊บ    ส่งกทม.สัปดาห์ละ  200-300 ปี๊บ  และส่งออกไปประเทศสิงคโปร์สัปดาห์ละ 150-200 ปี๊บ 

 

          นางจีหนา  ไชยยัน  อายุ 44 ปี พนักงานแพปูเปี้ยว   กล่าวว่า  หลังจากกรีดยางพาราในตอนเช้า  ก็มารับจ้างดองปูที่แพ  สร้างรายได้วัน 300 – 400 บาท  แล้วแต่ปริมาณของปู  โดยทางแพจะจ้างดองกิโลกรัมละ 2 บาทนำมาหารแบ่งกัน  โดยทำมา 20 ปีแล้ว  เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่สามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้  สำหรับกระบวนการดอกปูเปี้ยวนั้น  ก่อนอื่นต้องคัดแยกไซต์  ก่อนดองเกลือนาน 1-2 วัน แล้วแต่ความชอบ  

   

           ด้านนางรอม  เจริญฤทธิ์  อายุ 65 ปี  ชาวบ้านจากอำเภอทุ่งหว้า จ.สตูล  กล่าวว่า  ตนรับซื้อปูเปี้ยวตัวใหญ่จากชาวบ้านในพื้นที่อำเภอทุ่งหว้า  ในราคากิโลกรัมละ 35 บาท  มาขายยังแพปูเปี้ยวในอำเภอท่าแพ  วันนึงจะนำมาขาย 150 – 200 กิโลกรัม เพราะพื้นที่อำเภอทุ่งหว้ามีป่าชายเลนสมบูรณ์  ปูเปี้ยวที่อยู่ในป่าชายเลนจึงมาเยอะ

 

           ด้านนายดนรอสัก  เปรมใจ  นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าเรือ  กล่าวว่า ปูเปี้ยวในพื้นที่ตำบลท่าเรือ ถือว่ามีเยอะ เพราะป่าชายเลนสมบูรณ์  สามารถจับขายได้  ที่นี่มีการดองปูเปี้ยว นับเป็นธุรกิจที่สร้างเงิน  และสร้างงานให้กับชาวบ้าน   ซึ่งปูเปี้ยวนี้สามารถทำอาหารได้อย่างเมนู ส้มตำ พร้อมกันนี้อบต.ท่าเรือก็ได้แนะนำให้มีการจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชน      

 

  สนใจติดต่อสอบถาม  ซื้อ ขาย  ปูเปี้ยว โทร  062-0639844   (คุณอาร์ม) 

…………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สตูล-ร้านโรตีเจ้าเก่าแก่  ปรับตัวตัวตามภาวะเศรษฐกิจ   จากโรตีมะตะบะเมนูพื้นถิ่น เพิ่มทางเลือกลูกค้าสายรักผลไม้  สู่เมนูโรตีสับปะรด  โรตีมะพร้าวอ่อนขายยกลูก  และโรตีขนุน โรตีลูกชิด ให้ลิ้มลอง

สตูล-ร้านโรตีเจ้าเก่าแก่  ปรับตัวตัวตามภาวะเศรษฐกิจ   จากโรตีมะตะบะเมนูพื้นถิ่น เพิ่มทางเลือกลูกค้าสายรักผลไม้  สู่เมนูโรตีสับปะรด  โรตีมะพร้าวอ่อนขายยกลูก  และโรตีขนุน โรตีลูกชิด ให้ลิ้มลอง

             จากภาวะเศรษฐกิจส่งผลให้หลายร้านต้องมีการปรับตัว  เพื่อสร้างความแปลกใหม่และจูงใจลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น  การสร้างสรรค์เมนูพื้นถิ่นให้มีความหลากหลาย  เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย  ได้เข้ามาลิ้มลอง

            แต่ก็ไม่ทิ้งเมนูดั้งเดิม  อย่างที่ร้านโรตีมะตะบะ  (หน้าพ.ส.) ริมถนนสตูลธานี  (ตั้งตรงข้ามโรงเรียนพิมานพิทยาสรรค์)   ตำบลพิมาน  อำเภอเมือง  จังหวัดสตูล ร้านเก่าแก่กว่า 26 ปี  ที่มีเมนูขึ้นชื่ออย่างโรตีมะตะบะ  มาวันนี้ได้มีการสร้างสรรค์เมนูโรตี  ให้มีความหลากหลายเพื่อตอบโจทย์ลูกค้ามากยิ่งขึ้น 

          โดยล่าสุดทางร้านได้มีการรังสรรค์เมนู  โรตีสับปะรด  ที่ยกมาทั้งลูกให้ลูกค้ารับประทานกันอย่างจุใจ  จะได้รสชาติของสับปะรดอย่างแท้จริง   โดยการผสมผสานเนื้อโรตีกับเนื้อสับปะรดได้อย่างลงตัว   ซึ่งทางร้านได้นำสับปะรดมาเป็นส่วนผสมคลุกเคล้าเข้ากับนมข้นหวานให้เข้ากัน  ราดไปบนเนื้อโรตีแผ่นบางบนกระทะ  จากนั้นห่อเนื้อสับปะรดเข้าไปด้วยกัน  ทำให้ความเปรี้ยวของสับปะรดตัดความมันแก้เลี่ยนได้

           นอกจากนี้ยังมีเมนู  โรตีลูกชิด  ผลไม้พื้นถิ่นที่นำมาปรุงเป็นส่วนผสมกินกับโรตีได้อย่างลงตัว  และยังมีอีกหลากหลายเมนูอย่างโรตีขนุน  และที่เป็นไฮไลท์ของทางร้านอีก 1 ชนิด  คือโรตีมะพร้าวอ่อนที่ยกเสิร์ฟกันทั้งลูกเช่นกัน

          นายอัมรินทร์   บินอับดุลรามาน   อายุ 50 ปี  เจ้าของร้านรุ่นที่2  บอกว่า  เมนูที่ลูกค้าชอบเป็นประจำและขายดียืนหนึ่งมาตลอดก็คือโรตีมะตะบะที่ขายมานานกว่า 26 ปี  แต่เพื่อเป็นการสร้างความหลากหลายจึงนำผลไม้พื้นถิ่นในพื้นที่มาเป็นส่วนผสม  เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า  ทั้งโรตีมะพร้าวอ่อนที่ยกทั้งลูก  โรตีสับปะรดที่ยกทั้งลูกเช่นกัน  โรตีลูกชิดที่มีความอร่อยลงตัว  โรตีขนุน  และอีกหลากหลายเมนูนอกจากนี้ทางร้านก็ยังมีเมนูอื่นๆให้เลือกทานอีกมากมาย กว่า 70 เมนู  ทั้งขนมจีน  ข้าวต้ม  ลูกชิ้น  เป็นต้น

         ลูกค้าบอกว่า   ชอบโรตีสับปะรดและโรตีลุูกจากมาก  เพราะได้รสชาติของผลไม้ที่แท้จริงและตัดเลี่ยนได้อย่างลงตัว   ซึ่งก่อนหน้านี้เดิมๆจะชอบโรตีมะตะบะเป็นขาประจำที่ร้านนี้อยู่แล้ว  เมื่อมีทางเลือกอื่นมาเพิ่มก็ชื่นชอบมากขึ้น  ราคาย่อมเยา 

         สำหรับลูกค้าที่ร้านโรตีมะตะบะ  หน้าพ.ส. ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าดั้งเดิม  ที่ทานกันมาตั้งแต่เด็กจนโต  ด้วยเจ้าของร้านใจดีชอบแถมอาหารทานเล่นให้บ่อยครั้ง   และเจ้าของร้านมีความเป็นกันเองกับลูกค้าด้วย  ซึ่งเจ้าของร้านบอกว่า  จะเน้นลูกค้าขาประจำภายในจังหวัดมากกว่านักท่องเที่ยว  หลายคนที่เป็นลูกค้าก็มาทานตั้งแต่เด็กจนโต 

          สำหรับ  โรตีมะตะบะราคา 40 บาท , โรตีสัปปะรด  60 บาท โรตีมะพร้าวอ่อน 60 บาท, โรตีขนุน 35 บาท  ,  และ โรตีลูกชิด 50 บาท ,

นอกจากนี้ทางร้านยังเคลมว่าร้านนี้ไม่ใส่ผงชูรส  และผงปรุงรสทุกชนิดด้วย  เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม  ทางเพจ : โรตีมะตะบะ หรือ โทร.096 – 651 -5977

………..

อัพเดทล่าสุด
Categories
ท้องถิ่น-การเมือง

การแนะนำตัวของผู้สมัครรับเลือกเป็น ‘สว.’

เลือก สว. 67 : ทำไม ‘สว.’ หาเสียงไม่ได้เหมือน ‘สส.’

การแนะนำตัวที่ทำได้เฉพาะในขอบเขตของกฎหมายผู้สมัคร สว. ต้องแนะนำตัวแบบใดจึงไม่ผิดเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด ศึกษาหลักเกณฑ์-ขอบเขตการแนะนำตัวทั้งในส่วนผู้สมัครรับเลือก ผู้ช่วยเหลือฯ และ ประชาชนทั่วไป เพื่อให้การเลือก สว. ครั้งนี้ถูกต้อง โปร่งใส และเที่ยงธรรม

          เมื่อได้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว.) แล้ว ผู้สมัครที่ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติ-ลักษณะต้องห้าม อาจแนะนําตัวเพื่อให้ผู้สมัครรับเลือกรายอื่นและประชาชนทั่วไปได้รู้จักข้อมูลของตนเอง ตามวิธีการและเงื่อนไขที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กำหนด

 

เหตุใดกฎหมายกำหนดให้ ‘สว.’ ใช้วิธีการแนะนำตัวไม่ใช่การหาเสียง

          ประเด็นดังกล่าว นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง ได้อธิบายไว้ว่า ‘สว.’ ตามรัฐธรรมนูญมีลักษณะต่างจาก ‘สส.’ ที่เป็นสภาของนักการเมือง เป็นสมาชิกพรรคการเมือง โดย สว. เป็นสภาผู้ทรงคุณวุฒิ มีความเป็นกลางทางการเมือง

 

          กฎหมายจึงกำหนดให้ผู้สมัคร สว. ทำได้เพียงแนะนำตัว นั้นหมายความว่าห้ามหาเสียงโดยปริยาย เพราะเชื่อว่าผู้ทรงคุณวุฒิด้วยกันเองที่สมัครทุกคน มีความดี เด่น ดัง ในสาขาอาชีพของตัวเองเป็นที่ประจักษ์และทราบกันดีในวงการนั้นอยู่แล้ว และด้วยเป็นผู้ทรงคุณวุฒิจะมี วิจารณญานในการเลือกที่ถูกต้องได้เป็นอย่างดีโดยไม่มีการจัดตั้ง ฮั้วกันในการเลือก

 

         “การแนะนำตัว คือ การบอกว่าตัวเองเป็นใคร มีประสบการณ์ในกลุ่มสาขาอาชีพนั้นอย่างไรเท่านี้ก็ถือว่าเพียงพอทั้งการเลือกแบบในกลุ่ม หรือเลือกแบบไขว้” นายแสวงระบุ

 

          ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2561 มาตรา 36 กำหนดให้ ผู้สมัครอาจแนะนำตัวได้ตามวิธีการและเงื่อนไขที่ กกต. กำหนด ทั้งนี้ บุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้สมัครจะช่วยเหลือผู้สมัครในการแนะนำตัวจะต้องตามวิธีการและเงื่อนไขที่ กกต. กำหนด ด้วยเช่นกัน

 

           โดยระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2567 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2567 กำหนดให้ บุคคลอื่นซึ่งไม่ใช่ผู้สมัครรับเลือก สว. หากประสงค์จะช่วยเหลือผู้สมัครในการแนะนําตัวจะต้องปฏิบัติตามวิธีการและเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในฐานะผู้ช่วยเหลือผู้สมัคร ซึ่งเป็น บุคคลอื่นที่ไม่ใช่ผู้สมัครที่ผู้สมัครยินยอมให้ช่วยเหลือแนะนำตัว รวมทั้ง สามี ภรรยา และบุตร ของผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา 


 

         หากมีการแจ้งและเปลี่ยนแปลงชื่อผู้ช่วยเหลือฯ ต้องแจ้งต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนวันดำเนินการ ยกเว้น สามี ภรรยา และบุตร ไม่ต้องแจ้ง

 

       กรณีไม่แจ้งชื่อหรือการเปลี่ยนแปลงชื่อต่อผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเป็นลายลักษณ์อักษรก่อนวันดำเนินการ ผู้อำนวยการการเลือกตั้งประจำจังหวัดอาจให้แก้ไขได้ภายในระยะเวลาที่กำหนด หากไม่ดำเนินการอาจนำมาเป็นเหตุสืบสวนหรือไต่สวนได้

 

ข้อห้ามในการแนะนำตัวการสมัครรับเลือก สว. มีดังนี้

  • ห้ามนำสถาบันกษัตริย์มาเกี่ยวข้องกับการแนะนำตัว
  • ฝ่าฝืนข้อห้ามตามกฎหมายว่าด้วยการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิสภา
  • ห้ามใช้ถ้อยคำรุนแรง/ปลุกระดมก่อให้เกิดความไม่สงบขึ้นในพื้นที่
  • ห้ามแนะนำตัวทางทีวี วิทยุ เคเบิลทีวี สื่อสิ่งพิมพ์ รวมถึงการให้สัมภาษณ์แก่สื่อมวลชน นักข่าว หรือสื่อโฆษณาซึ่งเผยแพร่ผ่านบริการแพลตฟอร์มดิจิทัล
  • จงใจไม่ปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบ

 

      กฎหมายกำหนดบทลงโทษผู้สมัครหรือผู้ใดไม่ปฏิบัติตามวิธีการหรือเงื่อนไขเกี่ยวกับการแนะนําตัว ‘ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั่นมีกำหนด 5 ปี’

 

ท้ังนี้หากมีข้อสงสัยในการแนะนำตัวของผู้สมัครรับเลือกเป็นสมาชิกวุฒิสภา

         สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากตามระเบียบคณะกรรมการการเลือกตั้งว่าด้วยการแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา พ.ศ. 2567 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2567 รวมถึงคำพิพากษาศาลปกครองกลาง คดีหมายเลขดำที่ 753/2567 หมายเลขแดงที่ 971/2567 และคำพิพากษาศาลปกครอง คดีหมายเลขดำที่ 771/2567 หมายเลขแดงที่ 972/2567

 

         หรือ ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง https://www.ect.go.th/ect_th/th/db_119_ect_th_6/2967 และสอบถามได้ที่สายด่วน 1444

 

#สว67 #เลือกตัวแทนประชาชน #20กลุ่มอาชีพร่วมใจขับเคลื่อนประเทศไทยไปพร้อมกัน

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

ศรชล.สตูลปลูกต้นกล้า รุ่นที่2  รู้อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและมีส่วนร่วมอย่างยั่งยืน

ศรชล.สตูลปลูกต้นกล้า รุ่นที่2  รู้อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและมีส่วนร่วมอย่างยั่งยืน

          นักเรียน  นักศึกษา  ตลอดจนเยาวชน นับเป็นกลไกสำคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากร  ทางทะเลและชายฝั่ง  การสร้างองค์ความรู้และปลูกจิตสำนึก รวมทั้งการมีส่วนร่วมนั้น

         วันที่  29 พ.ค.2567  นาวาเอกแสนย์ไท บัวเนียม รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล หรือ  ศรชล.สตูล  เป็นประธานในพิธีเปิด กิจกรรม “สร้างความรับรู้ในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล” เพื่อขับเคลื่อนการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้เกิดความยั่งยืน ครั้งที่2 ในการพัฒนาองค์ความรู้และปลูกจิตสำนึกในการรักษาทรัพยากรทางทะเลของชาติ ตลอดจนส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการช่วยกันดูแลรักษาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในพื้นที่ให้เกิดความยั่งยืน 

          โดยมีนาวาเอก รัฐพล แก้วกระจาย หัวหน้าศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดสตูล ศรชล.ภาค 3  รายงานและ ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล การอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมทั้งทรัพยากรป่าชายเลน และการนำผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ ลงพื้นที่เยี่ยมชมศึกษาธรรมชาติของทรัพยากรป่าชายเลนตำมะลัง และร่วมกันปลูกป่าชายเลน ณ ศูนย์เรียนรู้ธรรมชาติป่าชายเลนตำมะลัง กิจกรรมเก็บขยะ   ชายฝั่งและปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำกุ้ง จำนวน 2,000 ตัว ที่ บริเวณท่าเทียบเรือตำมะลัง ซึ่งได้รับการสนับสนุน   ต้นพันธุ์กล้าไม้และสถานที่ปลูกป่าชายเลน จากศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนที่  24 (ตำมะลัง สตูล) และได้รับการสนับสนุนพันธุ์สัตว์น้ำ จากศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลสตูล ทั้งนี้มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ เป็นนักศึกษาจากวิทยาลัยชุมชนสตูล และเจ้าหน้าที่หน่วยงานใน ศรชล.จังหวัดสตูล จำนวน 50  คน

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

ทกจ.กระบี่ประชุมความพร้อมยกทัพ นักกีฬาผู้สูงอายุกระบี่ร่วม”เมืองกาญจน์เกมส์ “

ทกจ.กระบี่ประชุมความพร้อมยกทัพ นักกีฬาผู้สูงอายุกระบี่ร่วม”เมืองกาญจน์เกมส์ “

              วันที่ 27 พฤษภาคม 2567  เวลา 13.30 น.  ณ ห้องประชุม ชั้น 2 สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกระบี่    นายสุรัตน์ จรณโยธิน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกระบี่ เป็นประธานในการประชุม พร้อมด้วยตัวแทนนักกีฬาผู้สูงอายุ เจ้าหน้าที่ของจังหวัดกระบี่ เข้าร่วมประชุม เพื่อเตรียมความพร้อมและชี้แจงรายละเอียดก่อนเดินทางเข้าร่วมการแข่งขันกีฬาและนันทนาการผู้สูงอายุแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 16 ประจำปี 2567 “เมืองกาญจน์เกมส์” ระหว่างวันที่ 18 – 21 มิถุนายน 2567 ณ จังหวัดกาญจนบุรี โดยจังหวัดกระบี่ส่งนักกีฬาและเจ้าหน้าที่จำนวน 139 ท่าน เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ผู้สูงอายุได้มีโอกาสได้ออกกำลังกายและเล่นกีฬาหรือกิจกรรมนันทนาการเพื่อสุขภาพ โดยใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ อีกทั้งยังช่วยให้ผู้สูงอายุได้เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างคนทุกวัยในสังคมได้เป็นอย่างดี โดยจัดการแข่งขันทั้งหมด 11 ชนิดกีฬา ได้แก่ กรีฑา กอล์ฟ แบดมินตัน เปตอง วู้ดบอล หมากรุกไทย ตะกร้อ ลีลาศ ประกวดแอโรบิกมวยไทย ประกวดร้องเพลงคาราโอเกะ และเกทบอล

………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

สตูล – ตำรวจทุ่งหว้า รวบสาวรุ่นติดยา ตรวจประวัติพบคดีบัญชีม้า

 ตำรวจทุ่งหว้า รวบสาวรุ่นติดยา ตรวจประวัติพบคดีบัญชีม้า

          (20 พ.ค.67) เวลาประมาณ 10.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ทุ่งหว้า ได้เดินทางไปยังขนำในสวนยางพารา ในพื้นที่ ต.ป่าแก่บ่อหิน อ.ทุ่งหว้า จว.สตูล  ตามที่ได้สืบทราบมาพบหญิงวัยรุ่นพาเด็กอายุประมาณ 4 ปี มานั่งอยู่บริเวณขนำ สภาพเด็กน่าสงสาร นั่งหิวโหย เสื้อผ้าสกปรก ผิวหนังถูกยุงกัด โดยหญิงวัยรุ่นลักษณะคล้ายคนติดยาเสพติด  เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้สอบถามข้อมูล ทราบชื่อคือ นางสาวเกตุแก้ว หรือ ฟ้า (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี  ที่อยู่ ม.1 ต.ทุ่งยาว อ.ปะเหลียน  จ.ตรัง ท่าทางมีพิรุธจึงได้ขอทำการตรวจค้นกระเป๋า พบ กระสุนปืน .22 จำนวน 1 นัด เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขอทำการตรวจค้นขนำ และบริเวรโดยรอบขนำ พบยาบ้า 1 เม็ด ถูกโยนทิ้งไว้บนพื้นใกล้กับจุดที่ น.ส.เกตุแก้ว ฯ นั่งอยู่ และพบอาวุธปืนยาว ใช้กระสุนลูกแก้ว ทำจากท่อ PVC  จำนวน 1 กระบอก ลูกแก้ว จำนวน 53 ลูก และอุปกรณ์การเสพ จำนวน 1 ชุด ภายในขนำ

       โดยกล่าวหาว่า  มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต , มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) ไว้ในครอบครองเพื่อเสพโดยไม่ได้รับอนุญาต , เสพยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 (แอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย

          จากนั้นได้ตรวจสอบประวัติ พบมีหมายจับของศาลจังหวัดเลย  ในคดีเกี่ยวกับการเปิดบัญชีม้า จึงได้ควบคุมตัวมายัง สภ.ทุ่งหว้า ทำบันทึกจับกุมนำส่งพนักงานสอบสวน ดำเนินคดีต่อไป ส่วน เด็ก 4 ขวบ เนื่องจากเด็กขาดอาหาร เจ้าหน้าที่ตำรวจได้จัดหาอาหาร ขนม อาบน้ำแต่งตัวและจัดหาของใช้จำเป็นให้กับเด็ก และได้ประสานความร่วมมือกับ พม.จังหวัดสตูล และ บ้านพักเด็กจังหวัดสตูล เพื่อรับตัวเด็กคนดังกล่าวไปดูแล จากนั้น พ.ต.ท.ภนภัค ภานุเดชากฤษ สั่งการให้ชุดสืบสวน รีบนำเด็กส่งบ้านพักเด็กจังหวัดสตูลเป็นการด่วน

……………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

สตูล – เผาเรือกลางเกาะหนีความผิด

สตูลผสมกำลังเปิดปฏิบัติการยุทธการฟ้าสางอันดามัน รอบ 2   นำเรือตรวจการณ์ 3 หน่วยงานทางน้ำ ขนกำลังเกือบ 50  นาย ลงเกาะเร่งตรวจสอบเรือโดนเผา พบผู้ต้องสงสัยไหวตัวหลบหนี   

             วันที่ 24 พ.ค.2567 น.อ.แสนย์ไท บัวเนียม รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล (ศรชล.สตูล) พร้อมกำลังตำรวจน้ำสตูล ตม.สตูล ตชด 436 สตูล ตำรวจ สภ.เมืองสตูล ทหารหมวดปืนเล็ก ร้อยร 5021 และฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสตูล 48 นายสนธิกำลังตรวจสอบคดี “เผาเรือ” ที่เป็นเรือเป้าหมายน่าเชื่อได้ว่ากระทำความผิดกฎหมาย ที่เกาะยาว ต.ปูยู อ.เมือง จ.สตูล

            โดยเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบเรือต้องสงสัย ภายใต้ยุทธการฟ้าสางอันดามัน พบเรือต้องสงสัยแล่นอยู่บริเวณน่านน้ำเกาะยาว หลังเรือจอดเทียบฝั่งที่เกาะยาว จึงเข้าตรวจสอบเมื่อวันที่ 22 พ.ค.2567 ก่อนถูกขัดขวาง เกิดการเขวี้ยงปาก้อนหินใส่เรือเจ้าหน้าที่ขณะเข้าตรวจสอบ จนเจ้าหน้าที่ต้องถอนกำลังออก ลอยเรือตรวจสอบอยู่ภายนอกกระทั่งพบมีการถอดเครื่องยนต์เรือ เหลือแต่ตัวเรือก่อนเผาเรือไฟลุกควันโขมง ในช่วงเช้าวันที่(23 พ.ค.2567)

            จากนั้น เจ้าหน้าที่นำเรือตรวจการตำรวจน้ำ 521 เรือตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสตูล1 และเรือตรวจการของ ศรชล. เข้าเทียบฝั่งเกาะยาว เกาะที่เกิดเหตุดังกล่าว ทางนายอำเภอเมืองสตูล มอบหมายให้ฝ่ายปกครองของอำเภอเมืองสตูล และฝ่ายป้องกันจังหวัดสตูล ประสานงานกับทางผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ก่อนเข้าตรวจสอบพบร่องรอยสภาพเรือถูกเผาไหม้ ช่วงท้ายเรือจนเกิดรอยรั่วไม่สามารถนำเข้าฝั่งแผ่นดินใหญ่ได้

           ด้านนายยัสมี หมานสัน ผญบ.1 เกาะยาว ต.ปูยู อ.เมือง จ.สตูล ผู้นำท้องที่อยู่ประจำบนเกาะแห่งนี้ พร้อมที่จะให้ความร่วมต่อเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย และพร้อมขึ้นไปบนฝั่งเพื่อแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสตูล และรวมรวบรายชื่อบุคคลที่ขัดขวาง การทำงานของเจ้าหน้าที่ส่งให้ตรวจสอบ

          ซึ่งจากการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ พบว่าผู้ต้องสงสัยที่เป็นเจ้าของเรือลำดังกล่าวนั้น เป็นชาวมาเลเซีย ที่มาอาศัยอยู่บนเกาะยาวแห่งนี้ และมีครอบครัว มีภรรยาเป็นคนบนเกาะยาว ทั้งคนและเรือเป็นที่น่าสงสัย พบมีประวัติทำสิ่งผิดกฎหมาย ในน่านน้ำทางทะเลของจังหวัดสตูล และจากสาเหตุการเผาเรือลำนี้ น่าเชื่อได้ว่า เจ้าของเรือกลัวมีความผิด และทางเจ้าหน้าที่ต้องการที่จะนำเรือลากไปตรวจสอบบนฝั่ง จึงเร่งเผาทำลายหลักฐาน เรือลำนี้ แต่สภาพอากาศไม่เป็นใจ มีฝนตกลงมาทำให้เรือเสียหายช่วงท้ายเรือเท่านั้น

         ด้าน น.อ.แสนย์ไท บัวเนียม รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล (ศรชล.สตูล) กล่าวหลังได้พูดคุยกับผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ถึงเหตุการณ์ดังกล่าวพบว่า เป็นปัญหาจากคนกลุ่มหนึ่งที่ ขัดขวางการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ ถือว่าเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย โดยการเข้ามาในวันนี้เพื่อตรวจสอบรายละเอียดของข้อมูลจากเจ้าหน้าที่ของรัฐในเบื้องต้นนี้ก็คือ ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ช่วย และคนในพื้นที่ว่าเกิดอะไรขึ้น หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่รัฐส่วนที่เกี่ยวข้องจะได้ดำเนินการต่อไป ถือเป็นการมาเยี่ยมเยียนมาดูแลในพื้นที่ห่างไกล ซึ่งก็ได้รับมอบหมายจากผู้อำนวยการศรชล.จังหวัดสตูล เป็นการสื่อให้ผู้กระทำความผิดได้เห็นว่า เจ้าหน้าที่ของรัฐที่มาในวันนี้มีข้อมูลด้านการข่าวครบถ้วน

          ฉะนั้นผู้ใดที่จะกระทำผิดที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อผลประโยชน์ของชาติทางทะเล หรือผลประโยชน์ของชาติทางภาพรวม ก็ขอให้ยุติ เพราะจะต้องมีการดำเนินการป้องกันปราบปราม เพื่อคงสภาพผลประโยชน์ของชาติต่อไป

         สำหรับคดีนี้ ขั้นแรกเจ้าของพื้นที่จะต้องแจ้งความดำเนินคดีเพราะเกิดเหตุวางเพลิง หลังจาก เจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้องจะทำการสืบสวน สอบสวน หาคนกระทำผิดต่อไป
สำหรับเรือลำดังกล่าว เป็นหางยาวทำด้วยไฟเบอร์กล๊าซ เครื่องยนต์ติดท้ายจำนวน 2 เครื่อง ขนาดกว้างประมาณ 1.5 เมตร ยาวประมาณ 5 เมตร สีฟ้าสลับขาว โดยเรือลักษณะดังหล่าวนี้แล่นเร็ว
………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

ทกจ.กระบี่ พร้อม Staff เข้าพบ ผวจ.กระบี่ สรุปความพร้อมจัดงาน”Krabi Gastronomy Route”

ทกจ.กระบี่ พร้อม Staff เข้าพบ ผวจ.กระบี่ สรุปความพร้อมจัดงาน”Krabi Gastronomy Route”

           วันที่ 23 พฤษภาคม 2567  เวลา 13.30 น. นายสุรัตน์ จรณโยธิน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยนายจิรวัฒน์ ปลอดวงศ์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดกระบี่ และทีมบริษัทสานฟ้า เข้าพบนายสมชาย หาญภักดีปฏิมา ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ และ พ.ต.อ.สมเด็จ สุขการ นายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ รวมถึงได้พูดคุยร่วมกับตัวแทนผู้ประกอบการร้านอาหาร จำนวน 4 ร้าน คือ ร้านอาหารอัญชลี ร้านปากน้ำซีฟู้ด ร้านพอลเบเกอรี่ และร้านโบทานี่ คาเฟ่ เพื่อปรึกษาหารือการเตรียมการจัดโครงการ “Krabi Gastronomy Route เส้นทางสายกิน เต็มอิ่มด้วยความอร่อย” ซึ่งจะจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 28 – 30 มิถุนายน 2567 ณ ลานประติมากรรมปูดำ จังหวัดกระบี่ เพื่อให้การดำเนินงานโครงการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและบรรลุวัตถุประสงค์ของโครงการ ในการนำเสนอเมนูสร้างสรรค์จากวัตถุดิบอาหารท้องถิ่นในจังหวัดกระบี่ การนำเสนอเส้นทางอาหารของจังหวัดกระบี่ที่มีเสน่ห์และน่าสนใจ เชื่อมโยงความหลากหลายทางวัฒนธรรม และเอกลักษณ์อาหารของจังหวัดกระบี่ รังสรรค์ให้มีความเป็นอัตลักษณ์ เพื่อเผยแพร่ให้นักท่องเที่ยวรับรู้และเดินทางมาสัมผัสเส้นทางอาหารของโครงการฯ ส่งเสริมและสร้างรายได้หมุนเวียนให้กับพื้นที่จังหวัดกระบี่ไปสู่ความยั่งยืนต่อไป

อัพเดทล่าสุด