Categories
ข่าวทั่วไป

สตูล-สืบสานความสวยงามประเพณีนิยม  ชุดขันหมากโดยชุมชนสตรีมุสลิมร่วมแข่งขันพับผ้าละหมาดและผ้ารองละหมาด  สร้างสรรค์ไอเดีย  ฝึกสมาธิ สร้างรายได้และความสามัคคีในชุมชน

สตูล-สืบสานความสวยงามประเพณีนิยม  ชุดขันหมากโดยชุมชนสตรีมุสลิมร่วมแข่งขันพับผ้าละหมาดและผ้ารองละหมาด  สร้างสรรค์ไอเดีย  ฝึกสมาธิ สร้างรายได้และความสามัคคีในชุมชน

         ประเพณีนิยมการทำชุดขันหมากของไทยมุสลิมจากผ้าตาละกง หรือผ้าละหมาดผู้หญิง ผ้าซายาด๊ะ หรือผ้ารองละหมาด และผ้าขนหนู  ทำให้ทางสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสตูลและมัสยิดอะห์มาดิย๊ะปันจอร์  อ.ควนโดน จ.สตูล ได้เข้ามาส่งเสริมและมีการจัดการแข่งขันขึ้นเพื่อส่งเสริมสนับสนุนวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงาม

 

       โดยที่มัสยิดอะห์มาดิย๊ะปันจอร์  อ.ควนโดน จ.สตูล  ได้มีการจัดงานเทศกาลวันตรุษอีดิลอัฎฮา  ครั้งที่ 16  รายาหยีที่บ้านจอร์  หนึ่งในกิจกรรมที่มีการส่งเสริมความสมัครสมาชิกภายในชุมชน 10 แห่งคือ  แข่งขันพับผ้าโชว์ ผ้าตาละกง หรือผ้าละหมาดผู้หญิง ผ้าซายาด๊ะ หรือผ้ารองละหมาด และผ้าขนหนู 

 

         โดยมีกลุ่มสตรีจากชุมชนต่างๆเช่นชุมชนหลวงนา,ชุมชนปะการัง,ชุมชนไฮเวย์,ชุมชนปากบาง,ชุมชนควนดินแดง,ชุมชนทรายทอง,ชุมชนดินทรุด,ชุมชนกุมปัง,ชุมชนทุ่งโต๊ะหรัด, และชุมชนห้วยท้องหะ 10 ชุมชน เข้าร่วมการแข่งขันกันอย่างพร้อมเพรียงท่ามกลางกองเชียร์ที่มารอชมฝีมือของกลุ่มสตรีดังกล่าว

 

        การแข่งขันใช้ระยะเวลา 1 ชั่วโมงเนื่องจากต้องใช้ความปราณีต ความคิดสร้างสรรค์  โดยทางคณะกรรมการก็จะให้คะแนน ทั้งประเภทความหลากหลายของอุปกรณ์ ความสวยงาม  องค์ประกอบและขั้นตอนการพับ

 

          นายณพงศ์   ใบหมาดปันจอ   อดีตวัฒนธรรมจังหวัดสตูลและกรรมการมัสยิดฯ  กล่าวว่า   กิจกรรมของสตรีภายในหมู่บ้านในครั้งนี้  เป็นส่วนหนึ่งในการฝึกสมาธิให้ใจเย็น สร้างความสามัคคีภายในชุมชนพร้อมทั้งการสืบทอดให้ลูกหลานหัดพับผ้า ที่สามารถเพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้  จากการทำชุดขันหมากในการสู่ขอบ่าวสาว ที่จะมีการใช้ผ้าตาละกง หรือผ้าละหมาดผู้หญิง ผ้าซายาด๊ะ หรือผ้ารองละหมาด และผ้าขนหนูในการตกแต่งเป็นชุดขันหมาก มีมูลค่าจาก 300 บาทเป็น 3,000 บาทได้

 

         โดยผู้เข้าร่วมการแข่งขันหลายคนก็จะตกแต่งเป็นชุดถ้วยน้ำชา , พัดที่สวยงาม  กระเป๋า  โดมมัสยิด  บ้างก็ตกแต่งเป็นผลจำปาดะ  เค้ก และเรือ แล้วแต่ไอเดียสร้างสรรค์  ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งภายในงาน  เทศกาลวันตรุษอีดิลอัฎฮา   รายาหยีที่บ้านจอร์ ที่ชาวบ้านในชุมชนมีการจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีสำหรับปีนี้ก็จัดเป็นครั้งที่ 16 แล้ว

………

อัพเดทล่าสุด

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด!

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด! 18

Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 ผลผลิตออกแล้ว! กระท้อนนาปริก  เปลือกบางเนื้อนุ่ม ใหญ่สุดผลเดียว 2 กก.ต้องใช้ช้อนตัก  ฟินกันถ้วนหน้า 12 – 15 ก.ค.2567 นี้ งานกระท้อนหวานที่สตูล

ผลผลิตออกแล้ว!! กระท้อนนาปริก  เปลือกบางเนื้อนุ่ม ใหญ่สุดผลเดียว 2 กก.ต้องใช้ช้อนตัก  ฟินกันถ้วนหน้า 12 – 15 ก.ค.2567 นี้ งานกระท้อนหวานที่สตูล

          เริ่มแล้ว!! กระท้อน เริ่มให้ผลผลิตออกสู่ตลาดแล้ว  ที่หมู่บ้านกระท้อน  บ้านนาปริก ต.ควนโดน อ.ควนโดน จ.สตูล พื้นที่แห่งนี้เป็นแหล่งกระท้อนที่มีผลผลิตนุ่ม   หวาน   อร่อยและที่สำคัญผลโตมากขนาดเท่ากับหน้าคนก็ว่าได้ 

          มีชื่อเสียงโด่งดัง  กับกระท้อนมากกว่า 5 สายพันธุ์ เช่น พันธุ์ปุยฝ้าย  พันธุ์เขียวหวาน  พันธุ์ทับทิม  โดยเฉพาะพันธุ์อิล่า  สายพันธุ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ   ผลโต เนื้อนุ่ม หวาน อร่อย น้ำหนักเยอะสุด   ในหนึ่งผล 2 กิโลกรัมเลยทีเดียว   โดยราคาปีนี้ยังคงเดิมคือกิโลกรัมละ 60-70 บาท

          นายวริช   วิชิต  รองผอ.ททท.สำนักงานสตูล , นางวรรณนภา  คงเคว็จ  เกษตรอำเภอควนโดน และนายวริศ   มาลินี   นายกอบต.ควนโดน เยี่ยมสวนกระท้อนบ้านนาปริกคุณภาพ   หลังพบว่าที่สวนแห่งนี้เริ่มให้ผลผลิตออกสู่ตลาดกันแล้ว เพื่อประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการขายให้กับเกษตกรและชาวบ้านที่แปรรูปสินค้า

          นายอิบรอเหม   เด็นสำดี   อายุ 66  ปี ชาวสวนกระท้อน หมู่ที่ 9 บ้านนาปริก  บอกว่า  กระท้อนชุดแรกได้ออกสู่ตลาดแล้วลูกค้าสามารถสั่งจองได้  แม้ปีนี้ผลผลิตอาจจะประสบปัญหาแล้งที่ยาวนาน   แต่ก็มีกระท้อนมากเพียงพอที่จะจำหน่ายให้กับลูกค้าที่ชื่นชอบกระท้อนผลใหญ่ เนื้อนุ่ม   ชนิดที่ต้องใช้ช้อนตักได้เลย ซึ่งกระท้อนที่นี่ปลูก 3 ปีปีที่ 4 สามารถขายได้แล้ว  ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยปีนี้ผลผลิตมี 3 รุ่น จำนวน 12,000 ลูก ซึ่งหัวใจของกระท้อนคุณภาพ   เริ่มตั้งแต่การดูแลผลผลิตที่เริ่มออก   ด้วยการตัดแต่ง ทันทีที่กระท้อนเริ่มออกสู่ตลาดเริ่มมีออเดอร์เข้ามาแล้ว 50 กิโลกรัม สามารถติดต่อได้โดยตรงคือ 080 710 4881 หรือ 062 432 4524

          นางวรรณนภา  คงเคว็จ  เกษตรอำเภอควนโดน จ.สตูล   กล่าวว่า  พันธุ์ปุ้ยฝ้าย เขียวหวาน และอีร่า มีเสน่ห์เนื้อเปรี้ยวอมหวาน   ที่สำคัญของตลาด ทุกสายพันธุ์นุ่มฟูเปลือกบาง ได้ส่งเสริมเกษตรกรได้เข้าสู่มาตรฐาน GAP  และกำลังยื่นขอพืช GI  รอการประกาศอยู่

          นอกจากกระท้อนผลสดที่ใช้ช้อนตักทานได้อย่างสบายใจแล้ว  ยังมีกลุ่มแม่บ้านภายใต้ชื่อกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์และวิถีเกษตรเขาโต๊ะกรัง  ได้นำกระท้อนที่ตกเกรดมาแปรรูปเป็นสินค้ากระท้อนทรงเครื่อง,น้ำพริกกระท้อน,หรือน้ำยาขนมจีนกระท้อนก็สุดแสนจะอร่อย 

         นายวริศ   มาลินี   นายกอบต.ควนโดน จ.สตูล  กล่าวว่า  ทางอบต.เตรียมส่งเสริมให้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์  สินค้าพรีเมี่ยม  อาทิ  ไซหรับกระท้อน , ไอศกรีมกระท้อน, น้ำยาขนมจีนกระท้อน ,  ในส่วนของอบต.จะพัฒนาให้มีมูลค่าสูงเพื่อส่งเสริมรายได้ให้กับชาวสวน และในวันที่ 12 – 15 ก.ค.2567 นี้จะมีการจัดงานกระท้อนตำบลควนโดน  ขึ้นที่ตลาดนัดดุสน อ.ควนโดน จ.สตูล

        ด้านนายวริช   วิชิต  รองผอ.ททท.สำนักงานสตูล  ยอมรับว่า  สวนผลไม้กระท้อนนาปริกเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดสตูล  ด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานสตูล ก็จัดกิจกรรมเกี่ยวกับผลไม้พานักท่องเที่ยวเข้ามาชมสวน   มาอุดหนุนเกษตรกรที่นี่   ซึ่งสามรถทำการท่องเที่ยวเชื่อมโยงได้  โดยการท่องเที่ยววิถีชุมชนของอำเภอคนโดน   สามารถที่จะมาชิมผลไม้และไปเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวบริเวณรอบๆซึ่งมีที่เที่ยวหลายแห่ง ให้เช็คอิน  ถ่ายภาพ

          สำนักงานเกษตรจังหวัดสตูล ได้เข้ามาส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น ส่งเสริมและพัฒนาสินค้ากระท้อนในพื้นที่ 7 อำเภอ บนพื้นที่ผลิต 60 ไร่ ที่จังหวัดสตูล   เป็นที่รู้จัก และเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค จากลักษณะเด่นผลใหญ่ เนื้อหนานุ่มฟู รสชาติหวาน สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรได้เป็นอย่างดี และมีการขยายผลไปสู่การเชื่อมโยงการท่องเที่ยวชุมชน ตามคำขวัญ “แหล่งกระท้อน นุ่มหวาน ดินแดนประวัติศาสตร์โบราณ ประตูอุทยานธรณี”

…………………………………

 

อัพเดทล่าสุด

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด!

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด! 18

Categories
ข่าวทั่วไป

ตำรวจสตูลไอเดียเก๋ ลุยสร้างมวลชนสายบุญมาพร้อมกับสโลแกน  “วันนี้ พี่ไม่จับ แต่ มาแจก”

ตำรวจสตูลไอเดียเก๋ ลุยสร้างมวลชนสายบุญมาพร้อมกับสโลแกน  “วันนี้ พี่ไม่จับ แต่ มาแจก”

         (วันที่ 18 มิ.ย.67)  พ.ต.ท.ภนภัค ภานุเดชากฤษ   รอง ผกก.สส.สภ.ทุ่งหว้า มอบหมายให้ชุดสืบสวน , สายตรวจ , และตำรวจจิตอาสา นำเครื่องดื่มสมุนไพรเพื่อสุขภาพ  อาทิ  น้ำอัญชัน, น้ำตะไคร้ , น้ำกระเจี๊ยบ,หลายร้อยขวด

        ร่วมกันแจกจ่ายในงานบุญและงานประเพณีต่าง ๆ  ทั้งงานทอดผ้าป่า สำนักสงฆ์บ้านขุมทรัพย์  และ  ทอดผ้าป่าวัดทุ่งขมิ้นของอำเภอทุ่งหว้า  และงานฮารีรายาอีดิ้ลอัฎฮาของพี่น้องมุสลิม ในพื้นที่หมู่ 3 มัสยิดทุ่งดินลุ่ม  และหน้าเทศบาล ตำบลทุ่งหว้า ได้ดื่มด่ำดับกระหายกับเมนูน้ำดื่มสมุนไพรรักสุขภาพฟรี!! ทั่วถึงทั้งชาวไทยพุทธและมุสลิม

           กิจกรรมในครั้งนี้ พ.ต.ท.ภนภัค  ภานุเดชากฤษ   รอง ผกก.สส.สภ.ทุ่งหว้า ต้องการจะสร้างสายสัมพันธ์อันดีระหว่างตำรวจ สภ.ทุ่งหว้า  และชุมชนในพื้นที่ให้ทุกคนได้ทำกิจกรรมร่วมกันอย่างมีความสุข  ความปลอดภัย  พร้อมกับดับกระหายกับน้ำดื่มสมุนไพรเพื่อสุขภาพ  อีกทั้งเป็นการไถ่โทษ ที่ จับกุมลูกหลาน ชาวบ้าน ( ที่กระทำผิด)

 

          รอง ผกก.สส.สภ.ทุ่งหว้า  กล่าวเพิ่มเติมว่า  จากการทำกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวได้มีมวลชนเพิ่มขึ้นทำให้ในพื้นที่ ไม่เคยเกิดเหตุอุกฉกรรจ์ หรือ สะเทือนขวัญเลยนับแต่ย้ายมาดำรงตำแหน่งเมื่อธันวาคม 66   จึงเป็นที่มาของกิจกรรมที่ชื่อว่า “ วันนี้ พี่ไม่จับ แต่ มาแจก ”

………….

 

อัพเดทล่าสุด

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด!

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด! 18

Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 สตูล-ล่องเรือหาหอยตาแดงในป่าชายเลน   หอยที่หนีน้ำเกาะบนต้นไม้  ปรุงเมนูพื้นถิ่นหาทานยากและเทคนิคการกินที่สุดแสนจะเพลิดเพลิน

สตูล-ล่องเรือหาหอยตาแดงในป่าชายเลน   หอยที่หนีน้ำเกาะบนต้นไม้  ปรุงเมนูพื้นถิ่นหาทานยากและเทคนิคการกินที่สุดแสนจะเพลิดเพลิน

          ฤดูกาลนี้  แม้จะไม่ใช่ช่วงหอยตาแดงที่ชุกชุม  แต่ชาวบ้านเทศบาลตำบลเจ๊ะบิลัง อำเภอเมือง จังหวัดสตูล  ยังสามารถออกหาหอยตาแดงในป่าชายเลน  ที่ปกคลุมรอบหมู่บ้านได้ไม่ยากนัก  แต่ต้องใช้เรือลำน้อยแล่นไปตามลำคลอง  เพื่อหาตำแหน่งที่อยู่อาศัยของหอยตาแดง  สัตว์น้ำที่มักจะหนีน้ำที่ขึ้นสูงไปอยู่บนต้นไม้ป่าชายเลน

 

          นายฮาบีบ   นาฮูดา  อายุ  31 ปี พร้อมทีมงาน  นั่งเรือออกจากฝั่งท่าเทียบเรือเจ๊ะบิลัง อำเภอเมืองสตูลผ่านแยกจากคลองใหญ่มาได้สักพัก   ก็ถึงเป้าหมายลงมือหาหอยตาแดงกันเลย  การหาหอยตาแดงในช่วงนี้ไม่ง่ายเหมือนช่วงน้ำขึ้น 15 ค่ำ 1 ถึง 4 ค่ำ ซึ่งเป็นช่วงน้ำใหญ่ที่จะเห็นหอยไต่ต้นไม้ป่าโกงกางเพื่อหนีน้ำ   เกาะอยู่บนต้นไม้เหนือน้ำ   ชนิดมารอกันง่าย ๆ บางคนจับได้มากสุดครั้งละ 30 กิโลกรัม  แม้ช่วงนี้จะหาไม่ง่ายแต่ก็ยังมีหอยให้จับได้ตลอดทั้งปีเหมือนกัน   การหาหอยในช่วงนี้จะได้ประมาณ 2-3 กิโลกรัม   ก็พอจะเป็นรายได้เลี้ยงครอบครัว 200-300 บาท (แล้วแต่ขนาดของหอย)  ที่สำคัญเป็นอาหารเลี้ยงคนในครอบครัวได้ด้วย  อยากกินก็แค่นั่งเรือออกมาเก็บในคลองหน้าบ้าน ซึ่งหอยตาแดงที่ชาวบ้านนิยมหาคือ หอยตาแดงปากหนา เพราะมีเนื้อเยอะ ส่วนหอยตาแดงปากบางนั้นไม่นิยมเพราะตัวเล็ก  เสี่ยงมันจะบาดปาก

            หลังได้หอยตาแดงมาเพียงพอสำหรับแกงในวันนี้  เจ๊ะติม๊ะ   หลังจิ  วัย 68 ปี แม่บ้านฝีมือเด็ดของหมู่บ้านเจ๊ะบิลัง  ก็อาสาลงมือปรุงเมนูยอดนิยมของหมู่บ้าน  นั่นก็คือ เมนู แกงหอยตาแดง  โดยขั้นตอนปกติจะต้องแช่หอยไว้ 1 คืน ก่อนนำมาปรุง   เพื่อให้หอยได้คลายดินโคลนออกจากตัวก่อน ไม่ให้เสียอรรสในการกิน  และเคล็ดลับเพิ่มการคลายโคลนในตัวหอย   คือหลังล้างน้ำ  ก็ใส่พริกขี้หนูสัก 2-3 เม็ดลงไปแช่ร่วมกับหอย จากนั้นก็ลงมือสับก้นหอยประมาณข้อที่ 3 เพื่อให้เวลากินจะจุ๊บหรือดูดหอยได้ง่ายนั่นเอง

 

         เครื่องปรุงของเมนูนี้ก็จะมี  พริกสด  หอมกระเทียม กะทิ ขมิ้น  น้ำมัน เกลือ น้ำตาล  กะปิ  หัวมันเทศเพิ่มความกลมกล่อมและที่สำคัญคือ  หอยตาแดงที่ผ่านการล้างตัดก้นเรียบร้อยแล้ว  โดยลงมือนำเครื่องปรุงทุกอย่างที่เป็นเครื่องแกงมาโครกหรือบดจนละเอียดแล้วตั้งกระทะให้ร้อน  นำเครื่องแกงไปผัดในน้ำมันให้หอมกรุ่น ก่อนใส่กะทิตั้งไฟให้เดือด  และใส่หอยที่เตรียมไว้ลงไป  จากนั้นก็ปรุงรสตามใจชอบ  และรับประทานได้เลยกับข้าวสวยร้อนๆ

 

        เคล็ดลับในการกินแกงหอยตาแดง  สำหรับมือใหม่ต้องมีเทคนิคในการจุ๊บหอยคือ ต้องจุ๊บหอยแรง ๆ ครั้งเดียวหรือจะแบ่งเป็นจังหวะ เพราะไม่อย่างนั้นคุณจะอดกินหอยอย่างแน่นอน

……………………………………….

อัพเดทล่าสุด

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด!

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด! 18

Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

ปลูกข่าตาแดง  อาชีพทำเงินรายได้งาม  ตลาดกว้างลงทุนครั้งเดียวเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ทั้งปี  

ปลูกข่าตาแดง  อาชีพทำเงินรายได้งาม  ตลาดกว้างลงทุนครั้งเดียวเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ทั้งปี  

         เมื่อยางพารามีราคาที่ผันผวนง่าย  การหันมาปลูกพืชสวนครัว  ที่ทุกครัวเรือนจะต้องรับประทานกันเกือบทุกวัน   จึงเป็นทางเลือกทางรอดของครอบครัวคุณสุนันท์  สาลิกาพงษ์  อายุ 59 ปี  สองคนสามีที่เปลี่ยนอาชีพหลักจากกรีดยางพารามาปลูกหัวข่าเสริมรายได้  บนพื้นที่   3  ไร่  ซอย ชุมชนสนามบิน 10  หมู่ 6  ต.คลองขุด อ.เมือง  จ.สตูล  จนถึงขณะนี้กลายเป็นรายได้หลักเลี้ยงครอบครัวได้อย่างสบายสไตล์พอเพียงไปแล้ว

         “ข่าตาแดง”  เป็นพันธุ์ข่าพื้นบ้านชอบดินร่วนซุย   ลงทุนปลูกเพียงครั้งเดียวเก็บเกี่ยวได้ยาวนาน   เพราะเป็นพืชหน่อ  ที่ขุดไปแล้วเหลือไว้ทำเชื้อ 2-3 ต้น  ก็จะแตกหน่อหมุนเวียนให้กลับมาเก็บใหม่ได้อีกครั้ง     การดูแลก็ต้องใส่ปุ๋ย   กำจัดวัชพืชบ้าง  เพื่อให้เขาเติบโตสวยงามและให้ผลผลิตเร็ว   การปลูกจะอิงธรรมชาติเป็นหลัก  หากเจอช่วงแล้งหนัก  ยาวนาน  ก็จะหยุดให้ผลผลิตได้ 

         การเก็บผลผลิตนั้น  ก็สามารถเก็บได้ทุกวัน  วันละ20 กิโลกรัม  ขายกิโลกรัมละ 40 บาทส่งพ่อค้า  ซึ่งในช่วงนี้ราคาดี  เคยมีราคาแตะไปถึงกิโลกรัมละ 50 บาทในข่าอ่อน   ส่วนข่าแก่ก็ส่งขายทำเครื่องแกงได้อีกด้วย    ใบข่าก็ยังสามารถนำไปทำปุ๋ย   ลำต้นก็สามารถนำไปแกะเปลือกนำมาแกงกินได้  เหมือนกับดอกของข่า  ก็เป็นผักสมุนไพรหลายคนชอบรับประทาน 

         เมื่อขุด “ข่าตาแดง” จากแปลงมาแล้ว    ก็ต้องเข้าสู่ขั้นตอนล้าง   ซึ่งทางสามีคุณสุนันท์  สาลิกาพงษ์   จะใช้เครื่องมือทุ่นแรง  เพิ่มแรงน้ำอัดฉีดเพื่อเอาดินออก  ร่นระยะเวลารวดเร็วในการล้าง  ให้  “ข่าตาแดง”   สะอาดสวยงามอมชมพู  และใช้มีดเก็บทำความสะอาดอีกครั้งเพิ่มความสวยก่อนส่งขาย

         นายเฉลิมพร   ศรีสวัสดิ์   เกษตรอำเภอเมืองสตูล  บอกว่า  เกษตรกรรายนี้เคยปลูกฝรั่งมาก่อน  แต่เจอปัญหาศัตรูพืชก่อนหันมาปลูกข่าตาแดง ได้ปีที่ 8 แล้ว ซึ่งข่านับเป็นพืชที่ตลาดยังมีความต้องการอีกเยอะ 

        มีการปลูกน้อยและสามารถให้ผลผลิตได้ตลอดทั้งปี  สร้างรายได้สม่ำเสมอ    โดยทางเกษตรอำเภอเองได้เข้ามาให้ความรู้เรื่องศัตรูพืช และการจัดการแปลงเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดี

………………….

อัพเดทล่าสุด

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด!

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด! 18

Categories
ข่าวทั่วไป

ผู้ช่วย รมว.กก. พลภูมิ ลงพื้นที่ตรวจแหล่งท่องเที่ยวท่าเรือเกาะลันตาใหญ่ และแหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อนเค็มคลองท่อม

ผู้ช่วย รมว.กก. พลภูมิ ลงพื้นที่ตรวจแหล่งท่องเที่ยวท่าเรือเกาะลันตาใหญ่ และแหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อนเค็มคลองท่อม

           วันที่ 7 มิ.ย.67 เวลา 10.20 น. ณ ท่าเรือเกาะลันตาใหญ่ เกาะลันตา จ.กระบี่ นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย นายคุณากร ปรีชาชนะชัย คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และคณะ ลงพื้นที่ตรวจบริเวณแหล่งท่องเที่ยวท่าเรือเกาะลันตาใหญ่ และ ตรวจสอบสภาพห้องน้ำ เพื่อเตรียมปรับปรุงให้สะอาด เหมาะสม รองรับนักท่องเที่ยวมาใช้บริการ โดยมีนายสุรัตน์ จรณโยธิน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกระบี่ให้การต้อนรับและ ชี้แจงข้อมูลในพื้นที่ทั้ง 2 สถานที่ให้ทางคณะทราบ

              จากนั้นได้เดินทางต่อมาที่แหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อนเค็มคลองท่อม เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยและการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่มาเข้าใช้บริการ โดยบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ มีลักษณะเป็นบ่อน้ำผุดมาจากชั้นใต้ดินตามธรรมชาติ สาเหตุที่มีรสชาติเค็มนั้นเกิดจากการผสมกันของน้ำร้อนและน้ำทะเลในระดับลึกก่อนโพล่พ้นพื้นดิน เกิดเป็นน้ำพุร้อน จัดอยู่ในประเภทน้ำพุร้อนเกลือ (salt spring) ในบริเวณรอบๆ น้ำพุร้อนเค็ม หรือบ่อน้ำพุร้อนเกลือ เป็นพื้นที่ป่าชายเลนตามธรรมชาติ มีบ่อน้ำพุร้อนเค็มกระจายอยู่รอบบริเวณพื้นที่ จำนวน 14 บ่อ, สำหรับความมหัศจรรย์ของบ่อน้ำพุร้อนเค็มนั้นอยู่ที่อุณหภูมิของน้ำในบ่อไม่ร้อนมากจนเกินไป มีอุณหภูมิสูงประมาณ 40-47 องศาเซลเซียส ลักษณะน้ำใสสะอาดสะท้อนกับท้องฟ้าเป็นสีมรกตสวยงาม ภายในมีศาลานวดแผนไทยและเส้นทางเดินชมศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน นับเป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen ที่น่าสนใจสำหรับคนที่ชอบการผ่อนคลายด้วยสปาธรรมชาติแบบนี้ เหมาะสำหรับการอาบชำระร่างกายแบบ บรรเทาการปวดกล้ามเนื้อ และปวดข้อต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้มีการไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้น หรือช่วยผ่อนคลาย เพื่อรักษาสุขภาพโดยวิธีธาราบำบัดแบบธรรมชาติ

………………

อัพเดทล่าสุด

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด!

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด! 18

Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สตูล-กลุ่มวิสาหกิจชุมชนควนขันบาติก สกัดสีจากเปลือกไม้ ผลไม้  วาดลวยลายอัตลักษณ์บนผืนผ้ายอดสั่งสุดปัง สร้างรายได้อย่างงาม

สตูล-กลุ่มวิสาหกิจชุมชนควนขันบาติก สกัดสีจากเปลือกไม้ ผลไม้  วาดลวยลายอัตลักษณ์บนผืนผ้ายอดสั่งสุดปัง สร้างรายได้อย่างงาม

          หลังมีการรณรงค์ ส่งเสริมให้สวมใส่ผ้าไทย ผ้าอัตลักษณ์   ลายผ้าที่ผ่านการตัดเย็บอย่างประณีตจึงถูกหยิบมาสวมใส่  ด้านกลุ่มวิสาหกิจผลิตผ้าหลายๆกลุ่มในจังหวัดสตูล  ต่างดึงเสน่ห์ความเป็นอัตลักษณ์ในพื้นที่ออกมาใช้  ออกแบบให้สวยงามควรค่าแก่การสวมใส่ 

 

          อย่างที่วิสาหกิจชุมชนควนขันบาติกปาเต๊ะ ซึ่งมี นางสาวพรพรรณ รักนิยม เป็นประธานกลุ่ม  ก็ดึงเอาอัตลักษณ์ในพื้นที่ ทั้งความเป็นอุทยานธรณีโลกสตูล  สีจากเปลือกไม้  ใบไม้  และผลไม้ในพื้นที่ มาต่อยอดสกัดเป็นสีย้อมผ้า  และลวดลายบนผืนผ้า  เพื่อเพิ่มมูลค่าและได้รับความนิยมจากผู้สวมใส่

         

        ล่าสุดทางกลุ่ม  มีโอกาสนำผ้าเข้าร่วมประกวดผ้าจากสีธรรมชาติ  ในกิจกรรมการประกวดสุดยอดผ้าจังหวัดสตูล ประจำปี 2567 ซึ่ง ทางวิสาหกิจชุมชนควนขันบาติกปาเต๊ะ  ได้รับรางวัลชนะเลิศ ประเภทสีธรรมชาติ  และยังได้ในส่วนของรางวัลชนะเลิศอันดับที่ 2  ประเภทสีเคมี

 

          สมาชิกกลุ่ม วิสาหกิจชุมชนควนขันบาติกปาเต๊ะ นำสีจากเปลือกและแกนไม้แสมดำ  ขนุน เปลือกมังคุด  ที่ถูกสกัดมาเป็นสีทาบนผืนผ้าที่วาดลวดลายแล้วทั้ง 2 ด้าน เพื่อเพิ่มสีสันให้สมบูรณ์ สวยงาม

 

       ส่วนลายผ้านั้น  มีทั้งลายดอกกาหลง ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดสตูล   ลายช่องลมของพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ  คฤหาสน์กูเด็น   ลายฟอสซิลชนิดต่างๆที่ถูกค้นพบในจังหวัดสตูล  ว่าวควาย  รวมถึงลายขอ  ซึ่งเป็นลายพระราชทาน  ทำให้สีและลายผ้าของกลุ่มฯมีมากมายให้เลือก ทั้งสีจากธรรมชาติ  และสีเคมี  ซึ่งทำให้ราคาแตกต่างกันมาก

         นางสาวพรพรรณ รักนิยม ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนควนขันบาติกปาเต๊ะ  บอกว่า  ผ้าแต่ละลวดลายที่ทำมาจากสีธรรมชาติ   ทางกลุ่มจะขายอยู่ที่ผืนละ 2 เมตร ราคา 2,500 บาท  ส่วนที่ทำจากสีเคมี เริ่มต้นราคาผืนละ 650 บาท โดยผ้าที่ทำจากสีธรรมชาตินั้น ขายได้ดีกว่า มียอดสั่งซื้อจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะซื้อเพื่อนำไปตัดเป็นเสื้อ และผ้าถุง หรือตัดเป็นชุดสวมใส่  ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในจังหวัดสตูล และต่างจังหวัด  มียอดสั่งซื้อไกลถึงกรุงเทพฯ เฉลี่ยแล้วเดือนหนึ่งขายผ้าได้ 30 ผืน มีรายได้เดือนละประมาณ  40,000 กว่าบาท  นอกจากผ้าชิ้นแล้ว  ยังมีชุดเสื้อผ้าบาติก กระเป๋า หมวก และผลิตภัณฑ์จากผ้าบาติกอื่นๆอีกด้วย

 

          ด้านนายเฉลิมพร ศรีสวัสดิ์ เกษตรอำเภอเมืองสตูล มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองสตูล  ลงพื้นที่กลุ่ม วิสาหกิจชุมชนควนขันบาติกปาเต๊ะ  เพื่อติดตามการดำเนินงาน  และการบริหารจัดการกลุ่ม

           

         โดยนางฮาบีบ๊ะ  จารุพันธ์  นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองสตูล    กล่าวว่า สำหรับกลุ่ม  วิสาหกิจชุมชนควนขันบาติกปาเต๊ะ  ได้จดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนเมื่อปี 2556  มีสมาชิก 16 คน โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสตรีทำผ้ามานานกว่า 20 ปีแล้ว ได้เรียนรู้นำเปลือกไม้จากธรรมชาติมาสกัด และทำเป็นสีได้อย่างสวยงาม  มีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของกลุ่ม

……………………………………………………………………..

อัพเดทล่าสุด

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด!

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด! 18

Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สตูล-อาชีพทำเงิน   ดองปูเปี้ยวหรือปูเค็ม  หนุ่มสตูลสานต่ออาชีพครอบครัวส่งออกสร้างรายได้กระจายในชุมชน

สตูล-อาชีพทำเงิน   ดองปูเปี้ยวหรือปูเค็ม  หนุ่มสตูลสานต่ออาชีพครอบครัวส่งออกสร้างรายได้กระจายในชุมชน

           ทุก ๆ วัน ชาวบ้านจะนำปูเปี้ยว  หรือ ปูแสม  ที่หาได้จากป่าชายเลน  มาขายยังแพปูเปี้ยว  ในพื้นที่บ้านไร่ทอน  หมู่ที่ 3 ต.ท่าเรือ  อ.ท่าแพ  จ.สตูล  โดยทางแพปูเปี้ยวจะรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 35 – 45 บาท แล้วแต่ขนาดของปู  เพื่อนำไปดองส่งขายตลาดต่างจังหวัดทั่วไทย  และส่งออกไปยังประเทศสิงคโปร์  สร้างรายได้รอบด้าน  ตั้งแต่คนหาปูเปี้ยว  พนักงานคัดแยก  ดอง ปู    โดยปูเปี้ยวที่มีมากถึง  200  กก.ถึง 1  ตัน (1000 กก.) ต่อวัน  ถูกน็อคน้ำแข็งก่อนนำมาคัดแยกไซต์ แล้วนำไปล้าง 2 น้ำ  ดองเกลือนาน 2 วัน ก็ได้ปูเปี้ยวพร้อมส่งขาย  

 

          โดยนายวัชรินทร์  คงหนู (อาร์ม) อายุ 25 ปี ทายาทเจ้าของแพปูเปี้ยว  เปิดเผยว่า  กว่า 30 ปีแล้วที่แพเปิดรับซื้อปูเปี้ยวมาดองขาย  สร้างรายได้ให้กับครอบครัว  รวมถึงชาวบ้านที่ไปหาปูมาขาย  และชาวบ้านที่มาดองปู  โดยทางแพจะรับซื้อปูเปี้ยวจากชาวบ้านในราคากิโลกรัมละ 35 บาท   หากเป็นปูตัวใหญ่ก็จะรับซื้อในราคา 40-45 บาท  ก่อนดองขายแยกเป็น 3 ขนาด   ปูใหญ่ราคา 85 บาท  ปูกลาง 60  บาท  และเล็ก 35 บาท  ปูดองปี๊บละ 7 กิโลกรัม  ราคา 580 บาท  ปูดองปี๊บละ 10 กิโลกรัมราคา 700  บาท   ส่งขายหาดใหญ่วันละ 300 – 500 กิโลกรัม  ส่งเชียงใหม่สัปดาห์ละ 220 ปี๊บ    ส่งกทม.สัปดาห์ละ  200-300 ปี๊บ  และส่งออกไปประเทศสิงคโปร์สัปดาห์ละ 150-200 ปี๊บ 

 

          นางจีหนา  ไชยยัน  อายุ 44 ปี พนักงานแพปูเปี้ยว   กล่าวว่า  หลังจากกรีดยางพาราในตอนเช้า  ก็มารับจ้างดองปูที่แพ  สร้างรายได้วัน 300 – 400 บาท  แล้วแต่ปริมาณของปู  โดยทางแพจะจ้างดองกิโลกรัมละ 2 บาทนำมาหารแบ่งกัน  โดยทำมา 20 ปีแล้ว  เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่สามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้  สำหรับกระบวนการดอกปูเปี้ยวนั้น  ก่อนอื่นต้องคัดแยกไซต์  ก่อนดองเกลือนาน 1-2 วัน แล้วแต่ความชอบ  

   

           ด้านนางรอม  เจริญฤทธิ์  อายุ 65 ปี  ชาวบ้านจากอำเภอทุ่งหว้า จ.สตูล  กล่าวว่า  ตนรับซื้อปูเปี้ยวตัวใหญ่จากชาวบ้านในพื้นที่อำเภอทุ่งหว้า  ในราคากิโลกรัมละ 35 บาท  มาขายยังแพปูเปี้ยวในอำเภอท่าแพ  วันนึงจะนำมาขาย 150 – 200 กิโลกรัม เพราะพื้นที่อำเภอทุ่งหว้ามีป่าชายเลนสมบูรณ์  ปูเปี้ยวที่อยู่ในป่าชายเลนจึงมาเยอะ

 

           ด้านนายดนรอสัก  เปรมใจ  นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าเรือ  กล่าวว่า ปูเปี้ยวในพื้นที่ตำบลท่าเรือ ถือว่ามีเยอะ เพราะป่าชายเลนสมบูรณ์  สามารถจับขายได้  ที่นี่มีการดองปูเปี้ยว นับเป็นธุรกิจที่สร้างเงิน  และสร้างงานให้กับชาวบ้าน   ซึ่งปูเปี้ยวนี้สามารถทำอาหารได้อย่างเมนู ส้มตำ พร้อมกันนี้อบต.ท่าเรือก็ได้แนะนำให้มีการจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชน      

 

  สนใจติดต่อสอบถาม  ซื้อ ขาย  ปูเปี้ยว โทร  062-0639844   (คุณอาร์ม) 

…………………………….

อัพเดทล่าสุด

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด!

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด! 18

Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สตูล-ร้านโรตีเจ้าเก่าแก่  ปรับตัวตัวตามภาวะเศรษฐกิจ   จากโรตีมะตะบะเมนูพื้นถิ่น เพิ่มทางเลือกลูกค้าสายรักผลไม้  สู่เมนูโรตีสับปะรด  โรตีมะพร้าวอ่อนขายยกลูก  และโรตีขนุน โรตีลูกชิด ให้ลิ้มลอง

สตูล-ร้านโรตีเจ้าเก่าแก่  ปรับตัวตัวตามภาวะเศรษฐกิจ   จากโรตีมะตะบะเมนูพื้นถิ่น เพิ่มทางเลือกลูกค้าสายรักผลไม้  สู่เมนูโรตีสับปะรด  โรตีมะพร้าวอ่อนขายยกลูก  และโรตีขนุน โรตีลูกชิด ให้ลิ้มลอง

             จากภาวะเศรษฐกิจส่งผลให้หลายร้านต้องมีการปรับตัว  เพื่อสร้างความแปลกใหม่และจูงใจลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น  การสร้างสรรค์เมนูพื้นถิ่นให้มีความหลากหลาย  เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย  ได้เข้ามาลิ้มลอง

            แต่ก็ไม่ทิ้งเมนูดั้งเดิม  อย่างที่ร้านโรตีมะตะบะ  (หน้าพ.ส.) ริมถนนสตูลธานี  (ตั้งตรงข้ามโรงเรียนพิมานพิทยาสรรค์)   ตำบลพิมาน  อำเภอเมือง  จังหวัดสตูล ร้านเก่าแก่กว่า 26 ปี  ที่มีเมนูขึ้นชื่ออย่างโรตีมะตะบะ  มาวันนี้ได้มีการสร้างสรรค์เมนูโรตี  ให้มีความหลากหลายเพื่อตอบโจทย์ลูกค้ามากยิ่งขึ้น 

          โดยล่าสุดทางร้านได้มีการรังสรรค์เมนู  โรตีสับปะรด  ที่ยกมาทั้งลูกให้ลูกค้ารับประทานกันอย่างจุใจ  จะได้รสชาติของสับปะรดอย่างแท้จริง   โดยการผสมผสานเนื้อโรตีกับเนื้อสับปะรดได้อย่างลงตัว   ซึ่งทางร้านได้นำสับปะรดมาเป็นส่วนผสมคลุกเคล้าเข้ากับนมข้นหวานให้เข้ากัน  ราดไปบนเนื้อโรตีแผ่นบางบนกระทะ  จากนั้นห่อเนื้อสับปะรดเข้าไปด้วยกัน  ทำให้ความเปรี้ยวของสับปะรดตัดความมันแก้เลี่ยนได้

           นอกจากนี้ยังมีเมนู  โรตีลูกชิด  ผลไม้พื้นถิ่นที่นำมาปรุงเป็นส่วนผสมกินกับโรตีได้อย่างลงตัว  และยังมีอีกหลากหลายเมนูอย่างโรตีขนุน  และที่เป็นไฮไลท์ของทางร้านอีก 1 ชนิด  คือโรตีมะพร้าวอ่อนที่ยกเสิร์ฟกันทั้งลูกเช่นกัน

          นายอัมรินทร์   บินอับดุลรามาน   อายุ 50 ปี  เจ้าของร้านรุ่นที่2  บอกว่า  เมนูที่ลูกค้าชอบเป็นประจำและขายดียืนหนึ่งมาตลอดก็คือโรตีมะตะบะที่ขายมานานกว่า 26 ปี  แต่เพื่อเป็นการสร้างความหลากหลายจึงนำผลไม้พื้นถิ่นในพื้นที่มาเป็นส่วนผสม  เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า  ทั้งโรตีมะพร้าวอ่อนที่ยกทั้งลูก  โรตีสับปะรดที่ยกทั้งลูกเช่นกัน  โรตีลูกชิดที่มีความอร่อยลงตัว  โรตีขนุน  และอีกหลากหลายเมนูนอกจากนี้ทางร้านก็ยังมีเมนูอื่นๆให้เลือกทานอีกมากมาย กว่า 70 เมนู  ทั้งขนมจีน  ข้าวต้ม  ลูกชิ้น  เป็นต้น

         ลูกค้าบอกว่า   ชอบโรตีสับปะรดและโรตีลุูกจากมาก  เพราะได้รสชาติของผลไม้ที่แท้จริงและตัดเลี่ยนได้อย่างลงตัว   ซึ่งก่อนหน้านี้เดิมๆจะชอบโรตีมะตะบะเป็นขาประจำที่ร้านนี้อยู่แล้ว  เมื่อมีทางเลือกอื่นมาเพิ่มก็ชื่นชอบมากขึ้น  ราคาย่อมเยา 

         สำหรับลูกค้าที่ร้านโรตีมะตะบะ  หน้าพ.ส. ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าดั้งเดิม  ที่ทานกันมาตั้งแต่เด็กจนโต  ด้วยเจ้าของร้านใจดีชอบแถมอาหารทานเล่นให้บ่อยครั้ง   และเจ้าของร้านมีความเป็นกันเองกับลูกค้าด้วย  ซึ่งเจ้าของร้านบอกว่า  จะเน้นลูกค้าขาประจำภายในจังหวัดมากกว่านักท่องเที่ยว  หลายคนที่เป็นลูกค้าก็มาทานตั้งแต่เด็กจนโต 

          สำหรับ  โรตีมะตะบะราคา 40 บาท , โรตีสัปปะรด  60 บาท โรตีมะพร้าวอ่อน 60 บาท, โรตีขนุน 35 บาท  ,  และ โรตีลูกชิด 50 บาท ,

นอกจากนี้ทางร้านยังเคลมว่าร้านนี้ไม่ใส่ผงชูรส  และผงปรุงรสทุกชนิดด้วย  เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม  ทางเพจ : โรตีมะตะบะ หรือ โทร.096 – 651 -5977

………..

อัพเดทล่าสุด

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด!

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด! 18

Categories
ข่าวทั่วไป

ศรชล.สตูลปลูกต้นกล้า รุ่นที่2  รู้อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและมีส่วนร่วมอย่างยั่งยืน

ศรชล.สตูลปลูกต้นกล้า รุ่นที่2  รู้อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งและมีส่วนร่วมอย่างยั่งยืน

          นักเรียน  นักศึกษา  ตลอดจนเยาวชน นับเป็นกลไกสำคัญในการอนุรักษ์ทรัพยากร  ทางทะเลและชายฝั่ง  การสร้างองค์ความรู้และปลูกจิตสำนึก รวมทั้งการมีส่วนร่วมนั้น

         วันที่  29 พ.ค.2567  นาวาเอกแสนย์ไท บัวเนียม รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล หรือ  ศรชล.สตูล  เป็นประธานในพิธีเปิด กิจกรรม “สร้างความรับรู้ในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล” เพื่อขับเคลื่อนการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้เกิดความยั่งยืน ครั้งที่2 ในการพัฒนาองค์ความรู้และปลูกจิตสำนึกในการรักษาทรัพยากรทางทะเลของชาติ ตลอดจนส่งเสริมการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในการช่วยกันดูแลรักษาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งในพื้นที่ให้เกิดความยั่งยืน 

          โดยมีนาวาเอก รัฐพล แก้วกระจาย หัวหน้าศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดสตูล ศรชล.ภาค 3  รายงานและ ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล การอนุรักษ์และการใช้ประโยชน์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง รวมทั้งทรัพยากรป่าชายเลน และการนำผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ ลงพื้นที่เยี่ยมชมศึกษาธรรมชาติของทรัพยากรป่าชายเลนตำมะลัง และร่วมกันปลูกป่าชายเลน ณ ศูนย์เรียนรู้ธรรมชาติป่าชายเลนตำมะลัง กิจกรรมเก็บขยะ   ชายฝั่งและปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำกุ้ง จำนวน 2,000 ตัว ที่ บริเวณท่าเทียบเรือตำมะลัง ซึ่งได้รับการสนับสนุน   ต้นพันธุ์กล้าไม้และสถานที่ปลูกป่าชายเลน จากศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนที่  24 (ตำมะลัง สตูล) และได้รับการสนับสนุนพันธุ์สัตว์น้ำ จากศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลสตูล ทั้งนี้มีผู้เข้าร่วมกิจกรรมฯ เป็นนักศึกษาจากวิทยาลัยชุมชนสตูล และเจ้าหน้าที่หน่วยงานใน ศรชล.จังหวัดสตูล จำนวน 50  คน

อัพเดทล่าสุด

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด!

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด! 18