Categories
ข่าวทั่วไป

เกษตรสตูล ส่งมอบพันธุ์พืช ให้แก่สำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อดำเนินการมอบให้แก่เกษตรกรและผู้ประสบภัยพิบัติในจังหวัดสตูล

เกษตรสตูล ส่งมอบพันธุ์พืช ให้แก่สำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อดำเนินการมอบให้แก่เกษตรกรและผู้ประสบภัยพิบัติในจังหวัดสตูล

          วันที่ 4 ธันวาคม 2567 นางสาวกำไลทิพย์ เศรษฐ์วิชัย เกษตรจังหวัดสตูล  ได้ส่งมอบพันธุ์หน่อกล้วยน้ำว้ากาบขาวให้แก่สำนักงานเกษตรอำเภอในพื้นที่ต่าง ๆ เพื่อดำเนินการมอบให้แก่เกษตรกรและผู้ประสบภัยพิบัติในจังหวัดสตูล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยบรรเทาผลกระทบจากภัยพิบัติและเพิ่มรายได้ให้กับชุมชนในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ

         พันธุ์หน่อกล้วยน้ำว้ากาบขาว ได้รับการสนับสนุนต้นพันธุ์จากศูนย์ขยายพันธุ์พืชที่ 2 จังหวัดตรัง ซึ่งการมอบพันธุ์หน่อกล้วยน้ำว้ากาบขาวครั้งนี้ ถือเป็นการช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่ได้รับผลกระทบจากภัยธรรมชาติ (อุทกภัย) ซึ่งในช่วงวันที่ 27- 30 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ได้เกิดฝนตกหนักอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมขังในหลายพื้นที่ของจังหวัดสตูล โดยการปลูกกล้วยน้ำว้ากาบขาวเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่สามารถสร้างรายได้และเสริมความมั่นคงทางอาหารให้กับเกษตรกรในพื้นที่ได้เป็นอย่างดี

         ทั้งนี้ สำนักงานเกษตรอำเภอจะนำพันธุ์หน่อกล้วยน้ำว้ากาบขาวไปแจกจ่ายให้แก่เกษตรกรที่ประสบภัยในพื้นที่ต่าง ๆ ต่อไป เพื่อให้เกษตรกรสามารถปลูกและดูแลรักษาได้ในระยะยาว พร้อมทั้งจะมีการจัดอบรมและส่งเสริมการปลูกกล้วยน้ำว้าให้กับเกษตรกรอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยและฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่จังหวัดสตูลให้กลับมามั่นคงอีกครั้ง

อัพเดทล่าสุด

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด!

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด! 18

Categories
ข่าวทั่วไป

อบต.ฉลุง ดึงเครือข่ายประชาสัมพันธ์ในตำบล เรียนรู้การสร้างตัวตน  ฝึกผลิตคลิปสั้น เสริมทักษะด้านการประชาสัมพันธ์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร

อบต.ฉลุง ดึงเครือข่ายประชาสัมพันธ์ในตำบล เรียนรู้การสร้างตัวตน  ฝึกผลิตคลิปสั้น เสริมทักษะด้านการประชาสัมพันธ์เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร

          ที่ ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลฉลุง  อ.เมือง  จ.สตูล  ประชาชนในพื้นที่ตำบลฉลุง  แกนนำหมู่บ้านคณะกรรมการหมู่บ้าน สมาชิก ชมรมผู้สูงอายุ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) กลุ่มเด็กและ เยาวชนโรงเรียนในเขตพื้นที่ คณะผู้บริหาร และเจ้าหน้าที่ ขององค์การบริหารส่วนตำบลฉลุง จำนวน 50 คน เข้ารับความรู้และร่วมกิจกรรม สัมพันธ์และขับเคลื่อน  โครงการพัฒนาศักยภาพเครือข่ายประชาสัมพันธ์ ขององค์การบริหารส่วนตำบลฉลุง  ซึ่งจัดขึ้นในวันที่ 2 ธ.ค.2567  โดย นายสุจริต ยามาสา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลฉลุง  มอบหมายให้ นายรัตนชัย  กาหนุง  รองนายก อบต.ฉลุง  เป็นประธานในพิธีเปิด 

 

          นายจรัญ เส็นหล๊ะ   ปลัดอบต.ฉลุง  กล่าวรายงานวัตถุประสงค์ของโครงการว่า  เพื่อพัฒนาศักยภาพเครือข่ายประชาสัมพันธ์และสร้างจิตสำนึก ร่วมกันในการพัฒนาท้องถิ่นระหว่างองค์กรกับประชาชนในพื้นที่  ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนกับองค์การบริหารส่วนตำบลฉลุงได้มาตรฐานสากล และครอบคลุมภารกิจและหน้าที่ ขององค์การ บริหารส่วนตำบล   เพื่อเผยแพร่ข้อมูลข่าวสาร ผลงานของ องค์การบริหารส่วนตำบล ฉลุง ผลงานเครือข่ายภาคประชาชน และภาคราชการที่เกี่ยวข้อง และสร้างเครือข่ายระหว่างองค์กรกับประชาชนในพื้นที่ ร่วมพัฒนา ท้องถิ่น

         โดยบรรยากาศการฝึกอบรมเป็นไปอย่างสนุกสนาน ผู้เข้าอบรมได้เรียนรู้การสร้างตันตนในโลกออนไลน์  และการผลิตคลิปวิดีโอเพื่อการประชาสัมพันธ์ด้วยมือถือ  ก่อนโชว์ผลงานการผลิตคลิปทำความรู้จัก อบต.ฉลุง  โอกาสนี้ นายสุจริต ยามาสา  นายกองค์การบริหารส่วนตำบล  กล่าวหลังร่วมชมผลงานาของผู้เข้าอบรมว่า เราได้จัดตั้ง เครือข่ายประชาสัมพันธ์ในพื้นที่ขึ้นในปีที่ผ่านมา เพื่อขับเคลื่อนงาน ประชาสัมพันธ์ขององค์การบริหารส่วนตำบลฉลุง และงานส่วนราชการต่างๆ ที่เกี่ยวข้องได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะเครือข่ายจากแขนงต่างๆ เช่น คณะกรรมการ หมู่บ้าน สมาชิกชมรมผู้สูงอายุ อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อส ม.) กลุ่มเด็กและเยาวชนโรงเรียนในเขตพื้นที่ ประชาชนทั่วไปและเจ้าหน้าที่ ของ อบต.ฉลุง ตามกลุ่มเป้าหมายที่วางไว้ ด้วยการเพิ่มองค์ความรู้สมัยใหม่ ในการพัฒนางานด้านประชาสัมพันธ์ภารกิจต่างๆขององค์การบริหารส่วน ตำบล และหน่วยงานราชการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องกับองค์การบริหารส่วนตำบล ฉลุง ให้เกิดความเจริญรุ่งเรือง ทันต่อการพัฒนาในอนาคต ในปีนี้การ พัฒนาศักยภาพของเครือข่ายจึงเป็นการต่อยอดและพัฒนาให้การขับเคลื่อนต่อไป

………………………………..

อัพเดทล่าสุด

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด!

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด! 18

Categories
ข่าวทั่วไป

ผนึกกำลังพัฒนา! หน่วยงานรัฐเร่งแก้ปัญหาน้ำอุปโภคบนเกาะบุโหลนดอน

ผนึกกำลังพัฒนา! หน่วยงานรัฐเร่งแก้ปัญหาน้ำอุปโภคบนเกาะบุโหลนดอน

         วันที่ 26 พ.ย.67  นายมิตร บุญจันทร์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสตูล สำนักงานชลประทานที่ 16 พร้อมด้วยนายธีรศักดิ์ ชุมแคล้ว วิศวกรชลประทานชำนาญการ ร่วมลงพื้นที่โครงการจัดหาน้ำให้เกาะบุโหลนดอน หมู่ที่ 3 ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล  โดยมีนายอนุเทพ อัลมาตร์ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลปากน้ำอำเภอละงู นายไพศาล บุญแก้ว ผู้จัดการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคสาขาอำเภอละงู นายสุพล คำเสนาะ หัวหน้าอุทยานแห่งชาติ หมู่เกาะเภตรา นายโกเมศ  จิตพิทักษ์ สมาชิกสภาจังหวัดสตูล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ในครั้งนี้ ณ บริเวณสถานที่เกาะบุโหลนดอน หมู่ที่ 3 ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล

 

       เพื่อร่วมบูรณาการหาแนวทางแก้ไขปัญหาแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภค – บริโภค ไฟฟ้าส่องสว่าง และระบบสาธารณสุขของประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวต่อไป

อัพเดทล่าสุด

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด!

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด! 18

Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

ใหญ่กว่านี้มีอีกไหม! กล้วยงาช้างสตูล-ลูกใหญ่ เนื้อแน่เยอะ หวานกรอบ จากสวนยางสู่กล้วยกรอบแก้วระดับพรีเมียม

ใหญ่กว่านี้มีอีกไหม! กล้วยงาช้างสตูล-ลูกใหญ่ เนื้อแน่เยอะ หวานกรอบ จากสวนยางสู่กล้วยกรอบแก้วระดับพรีเมียม

          ที่สวนของสมาชิกในกลุ่ม  “วิสาหกิจชุมชนกล้วยสวนกรอบแก้ว”   529/1 หมู่ที่ 5 ตำบลน้ำผุด  อำเภอละงู  จังหวัดสตูล ได้มีการปลูกกล้วยเพื่อแซมสวนยางพารา  ร่วมกับต้นกาแฟ ต้นกระท่อม เพื่อเป็นรายได้เสริมให้กับสมาชิกในกลุ่ม  โดยเฉพาะการปลูกกล้วยงาช้าง ที่เป็นวัตถุดิบชั้นเยี่ยมของทางกลุ่มในการนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อ  ภายใต้แบรนด์  กล้วยงาช้างกรอบแก้ว “สวนตาอุ้ย” กรอบอร่อย ทุกที่ทุกเวลา  ที่ได้รับเลขทะเบียน อย.การันตีความอร่อยสะอาดถูกหลักอนามัยด้วย

 

          จากการลองผิด ลองถูก เพื่อให้เกิดความแตกต่างมาลงตัวที่  กล้วยงาช้าง  ด้วยคุณสมบัติผลใหญ่ (ใหญ่สุดลูกเดียว 1.8 ขีด)  ปลูกเพียง 8 เดือนก็สามารถให้ผลผลิต  เนื้อเนียน  เนื้อเยอะ  ไม่มีเมล็ด  รสชาติดีทำให้ทางกลุ่มของคุณป้าเย็น และคุณจิต และเพื่อนๆ สมาชิกได้ตกลงใช้กล้วยสายพันธุ์นี้ทำ  กล้วยกรอบแก้ว  ที่มีรสชาติลงตัวที่สุดกับ รสหวาน รสเค็มและรสปาปิกา  จำหน่ายเพียงถุงละ 35 บาท (3 ถุงร้อย) ถุงละ 50 บาทหรือจะซื้อเป็นกิโลกรัมละ 180 บาท (2-3 กิโลกรัมขึ้นไป) 

 

          ขั้นตอนการทำที่ไม่ยุ่งยาก  เน้นความสะอาด  กล้วยที่ได้มาเป็นกล้วยแก่ 70 เปอร์เซ็นต์  ล้างน้ำทำความสะอาดจากนั้นแช่ในน้ำเปล่า ตัดหัวตัดท้ายออกปลอกเปลือกและแช่ในน้ำส้มสายชู  เพื่อล้างยางในตัวกล้วย และนำมาสไลด์เป็นแผ่นบาง ๆ  ตั้งไฟใส่น้ำมันร้อนลงไปทอดไม่ทันเหลืองให้ยกขึ้นจากกระทะ  ให้สะเด็ดน้ำมันแล้วนำไปใส่ในหม้อน้ำตาลที่ผ่านการเคี้ยวจนหอมน้ำใบเตย  ไม่ถึงนาทียกขึ้นให้สะเด็ดน้ำตาลจากนั้นนำไปทอดในกระทะอีกครั้ง เพิ่มความเหลืองกรอบในระดับหนึ่งก่อนยกขึ้นให้สะเด็ดน้ำมัน  วางบนกระดาษซับน้ำมัน เป็นอันเสร็จ ชิมความอร่อยของกล้วยกรอบแก้ว รสหวานได้เลย

          นางเกสร  เตชะศิริประภา (ป้าเย็น) ประธานกลุ่ม “วิสาหกิจชุมชนกล้วยสวนกรอบแก้ว”  นางเขมนิจ   เมืองแก้ว (ป้าจิต) รองประธานฯ พร้อมสมาชิก 20 คน   บอกว่า   ทางกลุ่มผลิตกล้วยกรอบแก้วจาก “กล้วยงาช้าง” ที่มีคุณภาพ  เพราะลูกใหญ่ รสชาติหวาน กรอบ และเก็บได้นาน  ทำให้เป็นที่ต้องการของตลาดตอบรับเป็นอย่างดี 

 

           สำหรับสมาชิกของทางกลุ่มฯ ส่วนใหญ่เป็นชาวไร่ ชาวสวน ที่มารวมกลุ่มกันสร้างรายได้เสริม  ปัจจุบันแม้ประสบปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบเนื่องจากปีที่ผ่านมาประสบภัยแล้ง   แต่ทุกคนยังคงมุ่งมั่นในการที่จะผลิตสินค้าคุณภาพ เพราะมีใจรักในการทำ และใส่ใจคุณภาพ สมาชิกทุกคน 20 คนได้รับการปันผลรายได้ทันทีตามผลประกอบการแต่ก็ไม่ใช่สาระหลัก  เพราะทุกคนอยากมารวมตัวกันเจอกันรายได้เสริมเป็นแค่ส่วนหนึ่งในการทำกลุ่มมากกว่า

 

          นางสาวมนัสนันท์  นุ่นแก้ว เกษตรอำเภอละงู  กล่าวว่า  สำหรับพื้นที่อำเภอละงูมีการปลูกกล้วยงาช้าง 40 ไร่ พบว่าผลผลิตก็ยังไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด เนื่องจากมีกระแสตอบรับดีมาก ทำให้ทางสำนักงานมีแนวความคิด ขยายพื้นที่การปลูกกล้วย กล้วยงาช้างให้เพิ่มขึ้น โดยจะส่งเสริมไปในส่วนของสมาชิกกลุ่มก่อน และจะขยายพื้นที่เพิ่มขึ้นในบริเวณใกล้เคียง   สำหรับ  กล้วยงาช้าง  มีความพิเศษคือมีผลขนาดใหญ่เปลือกบาง เนื้อเนียนแน่นไม่มีเมล็ด ทำให้เหมาะกับการมาแปรรูปเป็นกล้วยฉาบ เมื่อแปรรูปเสร็จเนื้อจะกรอบเนียนอร่อย

 

         สำหรับกลุ่มวิสาหกิจชุมชนฯ นี้มาตั้งแต่ปี 2562 ทางเกษตรอำเภอได้เข้ามาช่วยส่งเสริมการบริหารจัดการกลุ่ม เพื่อให้กลุ่มมีความเข้มแข็งมากขึ้น นอกจากนี้ก็จะเป็นในส่วนของการตลาดและมาตรฐาน นอกจากนี้ทางกลุ่มก็ได้รับมาตรฐานอย.แล้วด้วย   อยากจะฝากกล้วยกับแก้วของทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกล้วยสวนกรอบแก้วเพราะมีรสชาติอร่อย

 

        สามารถติดตามได้ทางช่องทาง Facebook ของกลุ่ม หรือของทางสำนักงานเกษตรอำเภอละงูได้ โทร. 0896571242  , 0918147759

……………………………….

อัพเดทล่าสุด

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด!

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด! 18

Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

ถั่วลิสงแซมยาง สร้างเงิน! เกษตรกรสตูลเผยสูตรสำเร็จ ปลูก 2 ไร่ 3 เดือนรายได้งาม

ถั่วลิสงแซมยาง สร้างเงิน! เกษตรกรสตูลเผยสูตรสำเร็จ ปลูก 2 ไร่ 3 เดือนรายได้งาม

         เกษตรกรต้นแบบที่ จ.สตูล สร้างรายได้เสริมด้วยการปลูกถั่วลิสงแซมในสวนยางพารา  ที่บ้านอุใดใต้  หมู่ที่ 5 ตำบลอุใดเจริญ  อำเภอควนกาหลง  จังหวัดสตูล

         

         โดยนางสาวสุภาพ  ศรีทอง นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ รักษาราชการแทนเกษตรอำเภอควนกาหลง พร้อม น.ส.จุฑามาศ เกียรติอุปถัมภ์  นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ และ นายธารสวาท พิมเสน  นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ ลงพื้นที่เยี่ยมเกษตรกรและให้คำแนะนำการปลูกและดูแลพืชระยะสั้นที่ให้ผลผลิตเร็ว อย่างการปลูกถั่วลิสง

 

          ซึ่งเกษตรรายนี้คือ  นายนิรันดร  คลิ้งนวล อายุ 63 ปี  คุณลุงพร้อมภรรยา  เกษตรกรชาวบ้านอุใดใต้  ได้ปลูกถั่วลิสงแซมในสวนยางที่ยังไม่เปิดกรีด  เป็นทางเลือกที่ดีในการสร้างรายได้เสริม โดยใช้พื้นที่ว่างให้เกิดประโยชน์ระหว่างรอยางโตบนพื้นที่ปลูก 2 ไร่  โดยใช้เมล็ดพันธุ์เพียง 15 กิโลกรัมต่อไร่ มีเทคนิคการปลูกที่ไม่ยุ่งยาก เริ่มจากการไถดินและหว่านปูนขาวเพื่อป้องกันหนอน ปลูกโดยเว้นระยะห่าง 1 ไม้บรรทัด ใส่ปุ๋ยสูตร 15-15 สองครั้งในช่วงอายุ 15 และ 30 วัน

         นางสาวสุภาพ ศรีทอง นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ รักษาราชการแทนเกษตรอำเภอควนกาหลง กล่าวว่า   ถั่วลิสงเป็นพืชที่ปลูกง่าย ใช้เวลาสั้นเพียง 3 เดือนก็เก็บผลผลิตได้ และยังช่วยบำรุงดินอีกด้วย ที่สำคัญ ในพื้นที่ 1 ไร่ สามารถให้ผลผลิตถึง 300 กิโลกรัม ขายได้กิโลกรัมละ 50 บาท และหากแกะล้างเรียบร้อยราคาจะเพิ่มเป็นกิโลกรัมละ 75 บาท สร้างรายได้เสริมให้เกษตรกรได้เป็นอย่างดี

 

         โดยรายได้จากการขายถั่วลิสงต่อไร่ 15,000 บาท   ในพื้นที่จำนวน 2 ไร่  คุณลุงนิรันดร สามารถสร้างรายได้ภายใน 3 เดือน 30,000 บาท ควบคู่ไปกับพืชชนิดอื่นที่ปลูกแซมไปพร้อมกันด้วย

 

         นอกจากนี้ หลังเก็บเกี่ยวถั่วลิสงแล้ว ยังสามารถปลูกพืชหมุนเวียนอื่น ๆ เช่น ข้าว ข้าวเหนียวดำ หรือข้าวโพด ข้าวไร่  ได้อีกด้วย เกษตรกรที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ คุณลุงนิรันดร คลิ้งนวล โทร 083-656-1525 หรือที่สำนักงานเกษตรอำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล

……………………………………………

อัพเดทล่าสุด

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด!

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด! 18

Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

เยาวชนสตูล ร่วมสืบสานวิถีชาวนาพื้นบ้าน เรียนรู้ตั้งแต่เก็บเกี่ยวถึงการแปรรูป

เยาวชนสตูล ร่วมสืบสานวิถีชาวนาพื้นบ้าน เรียนรู้ตั้งแต่เก็บเกี่ยวถึงการแปรรูป

         บรรยากาศอันสวยงามของทุ่งข้าวเหนียวดำพันธุ์พื้นเมืองที่กำลังออกรวงเต็มท้องทุ่ง พร้อมให้เก็บเกี่ยวบนพื้นที่ 30 ไร่ในแปลงยางพาราอายุไม่เกิน 3 ปี ณ บ้านนาโต๊ะขุน ตำบลแป-ระ อำเภอท่าแพ จังหวัดสตูล ได้กลายเป็นห้องเรียนธรรมชาติที่มีชีวิตสำหรับเยาวชนรุ่นใหม่

        วันนี้ (20 พ.ย. 67) นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จากโรงเรียนพิมานพิทยาสรรค์จำนวน 38 คน ได้มีโอกาสเรียนรู้วิถีชีวิตชาวนาผ่านการแข่งขันเก็บเกี่ยวข้าวด้วย “แกะ” เครื่องมือพื้นบ้านที่สืบทอดมาแต่โบราณ โดยมีนายหร่ออ๊บ มุเส็มสะเดา นายอำเภอท่าแพ นางสาวกำไลทิพย์ เศรษฐ์ วิชัย เกษตรจังหวัดสตูล  นายอารีย์  โส๊ะสันสะ เกษตรอำเภอท่าแพ และชาวบ้านในชุมชนร่วมลงแขกเก็บเกี่ยวไปพร้อมกัน

         เพื่อสืบสานภูมิปัญญาการทำข้าวเม่า  หลังจากเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จ ผู้ร่วมงานได้เรียนรู้กระบวนการทำข้าวเม่าแบบดั้งเดิม เริ่มจากการคั่วข้าวเหนียว ตำในครก และฟัดด้วยกระด้ง ก่อนนำไปแปรรูปเป็นเมนูพื้นบ้าน “ข้าวเม่าคลุกมะพร้าวอ่อน” ที่ใช้ส่วนผสมจากวัตถุดิบในท้องถิ่น 

         นางสาวชนกสุดา เจริญศิลป์  และนายธนกฤต เพชรสงค์  นักเรียน ชั้น ม.6  โรงเรียนพิมานพิทยาสรรค์     เปิดเผยว่า “แม้จะเป็นคนสตูลแต่ไม่เคยมีโอกาสได้สัมผัสกับการเก็บเกี่ยวข้าวมาก่อน การได้มาเรียนรู้วันนี้ทำให้ภูมิใจในภูมิปัญญาท้องถิ่นของเรา และเห็นศักยภาพในการพัฒนาต่อยอดเป็นวิสาหกิจชุมชน”

 

        ด้าน นางรำไพ สตันน๊อด ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแปรรูปผลผลิตบ้านนาโต๊ะขุน เล่าถึงที่มาของโครงการว่า เกิดจากแนวคิดในการใช้ประโยชน์พื้นที่ว่างหลังการโค่นยางพารา โดยหันมาปลูกข้าวเหนียวดำเพื่อสืบสานวัฒนธรรมดั้งเดิมของชุมชน

 

        ปัจจุบัน อำเภอท่าแพมีพื้นที่ปลูกข้าวรวม 3,048 ไร่ จาก 615 ครัวเรือน โดยเฉพาะในตำบลแป-ระมีพื้นที่ปลูกข้าว 1,576 ไร่ แบ่งเป็นนาข้าว 778 ไร่ และข้าวไร่ 798 ไร่ ซึ่งส่วนใหญ่ปลูกแซมในสวนยางพาราและสวนปาล์มน้ำมัน สะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานระหว่างวิถีเกษตรดั้งเดิมกับการเกษตรสมัยใหม่ได้อย่างลงตัว

………………………

อัพเดทล่าสุด

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด!

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด! 18

Categories
ข่าวทั่วไป

สตูลไม่ทิ้งกัน! เครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล ร่วมกับพันธมิตรพี่น้องและผองเพื่อน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยไฟไหม้ตำบลควนสตอ

สตูลไม่ทิ้งกัน//เครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล ร่วมกับพันธมิตรพี่น้องและผองเพื่อน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยไฟไหม้ตำบลควนสตอ

          วันศุกร์ที่ 8 พ.ย.67 เวลา 10:00 น. นางสาวพัชรี เกิดพรม ประธานเครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล พร้อมคณะกรรมการและสมาชิกได้เป็นสะพานบุญในการระดมน้ำใจพี่น้องผองเพื่อน และพันธมิตรร่วมด้วยช่วยเหลือผู้ประสบภัยไฟไหม้บ้านทั้งหลัง ซึ่งพบว่าเป็นครอบครัวกลุ่มเปราะบาง (ผู้สูงอายุ ผู้พิการและเด็กพิเศษ)

 

          โดยเหตุไฟไหม้บ้านดังกล่าว ได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ (23 ต.ค.2567) ที่ผ่านมา ที่ ม.2 ต.ควนสตอ อ.ควนโดน จ.สตูล โดยวันนี้มีน้ำใจจากหลากหลายได้หลั่งไหล เข้ามาช่วยซับน้ำตาปลอบขวัญและกำลังใจ  ช่วยซับน้ำตาให้ผู้ประสบภัยไฟไหม้ 7 ชีวิตได้มีบ้านอยู่อาศัย

 

          ในการนี้  นายซะรี่ย์อะซีร นุ่งอาหลี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลควนสตอ  พร้อมกับปลัดธิดาและคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับเปิดศูนย์รวมน้ำใจในการรวบรวมรายได้เพื่อสร้างบ้านให้ผู้ประสบภัย

         

         โดยพี่น้องผองเพื่อนที่รวมน้ำใจ ประกอบด้วย  เครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล  สำนักงานกฎหมายขวัญเมืองทนายความ เพื่อนพ้อง และครอบครัว  โดยคุณศรายุธ ขวัญเมือง และ คุณดารารัตน์ ขวัญเมือง  กลุ่มวิสาหกิจชุมชนรักษ์ท่องเที่ยวตำมะลัง  นำโดยนางสาวฮามีน๊ะ ปูหัด  ประธานกลุ่มฯ  นายณรงค์ศักดิ์  นันทคำภิรา  ผอ.แขวงทางหลวงจังหวัดสตูล  พร้อมคณะ  นายสุจริต ยามาสา นายกองค์การบริหารส่วนตําบลฉลุง  พร้อมเจ้าหน้าที่  สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองสตูล  ฟาร์มสุขเรสซิเด้นซ์แอนด์รีสอร์ท  ประชาสัมพันธ์เทศบาลตำบลคลองขุด  และพี่น้องผองเพื่อนที่ไม่ประสงค์ออกนาม

……………………………

อัพเดทล่าสุด

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด!

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด! 18

Categories
ข่าวทั่วไป

 “สงขลาสู่มรดกโลก” แหลง ขับ เล่า โชว์ 27 ปี สงขลาโฟกัส

 “สงขลาสู่มรดกโลก” แหลง ขับ เล่า โชว์ 27 ปี สงขลาโฟกัส

          วันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 เวลา 13.30 น. ณ หอเปรมดนตรี มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตสงขลา นายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานกิจกรรม

 

        “แหลง ขับ เล่า โชว์ สงขลาสู่มรดกโลก”ประวัติศาสตร์บ้านเรา มีคุณค่า น่าเรียนรู้ เนื่องในโอกาสครบรอบ 27 ปี สงขลาโฟกัส เคียงข้าง สร้างสรรค์ ยึดมั่นวิชาชีพ โดยนายภูวสิษฏ์ สุขใส บรรณาธิการหนังสือพิมพ์สงขลาโฟกัส กล่าววัตถุประสงค์การจัดงาน รองศาสตราจารย์ ดร.ณฐพงศ์ จิตรนิรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยทักษิณ กล่าวต้อนรับ

 

         นางสุรียพรรณ์ ณ สงขลา รองประธานมูลนิธิสงขลาสู่มรดกโลก กล่าวรายงานการจัดงาน ซึ่งมีนางสุนิสา รามแก้ว ประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา, นายนราเดช คำทัปน์ นายกเทศมนตรีเมืองเขารูปช้าง

 

         นายสุวิทย์ ตันรัตนากร ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา, นางสาว ปาริชาด สอนสุภาพ กรรมการหอการค้าจังหวัดสงขลาฝ่ายขับเคลื่อน Creative Tourism และการท่องเที่ยวชุมชน

 

        นางนฤมล อมรรัตน์วิทยา กรรมการผู้จัดการ บริษัทโอเดียนเซาท์เทิร์นเซ็นเตอร์ จำกัด เจ้าของห้างโอเดียนแฟชั่นมอลล์หาดใหญ่ เข้าร่วมเป็นเกียรติในการจัดกิจกรรมดังกล่าว

 

        สำหรับกิจกรรม“แหลง ขับ เล่า โชว์ สงขลาสู่มรดกโลก” ประกอบด้วยขับหนังตะลุง โดยหนังอ้นกวี ศรีวิชัย ครูสืบ (นายสืบสกุล ศรีสุข เลขานุการมูลนิธิสงขลาสู่มรดกโลก” เล่าเรื่องสงขลาสู่มรดกโลก ปิดท้ายด้วย เก่ง ธขย โชว์

 

        ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวมีครู และนักเรียนในจังหวัดสงขลาเข้าร่วมประมาณ 800 คน ตั้งแต่เวลา 13.30 น.- 16.30 น.รวมเวลา 3 ชั่วโมงเต็ม

         นายภูวสิษฏ์ สุขใส บรรณาธิการหนังสือพิมพ์สงขลาโฟกัส กล่าวถึงวัตถุประสงการจัดงานว่า เจตนารมณ์ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ สืบเนื่องจากได้รับความไว้วางใจให้เป็นพื้นที่หนึ่งทางด้านสื่อจากมูลนิธิสงขลาสู่มรดกโลก โดยท่านอาจารย์สืบ (ครูสืบสกุล ศรีสุข) เมื่อประมาณ 3-4 ปีที่แล้ว ท่านโทรศัพท์มาหาผมว่าอยากจะขอพื้นที่ในหนังสือพิมพ์ภาคใต้โฟกัส เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนสงขลาสู่มรดกโลก ผมก็ตอบรับด้วยความยินดี เพราะตอบรับกับเจตนารมย์ของการเกิดขึ้นของหนังสือพิมพ์ภาคใต้โฟกัสเมื่อ 27 ปีก่อน ที่มีความตั้งใจว่าถ้าเราจะมีสื่อสักฉบับหนึ่งในจังหวัดสงขลา นอกจากความมุ่งหมายที่จะให้เป็นสื่อที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมแล้ว บทบาทการขับเคลื่อนสังคมเป็นเจตนารมณ์และเป็นที่มาของสโลแกน ข่าวสาระเชิงลึกและเวทีความคิด

 

        หนังสือพิมพ์ภาคใต้โฟกัสเกิดขึ้นในยุดที่ท่านบัญญัติ จันทน์เสนะ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ซึ่งท่านได้มอบหมายให้ท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาคือ ท่านชัยรัตน์ เสถียร มาเป็นประธานเปิดป้ายสำนักงาน ถือเป็นจุดเริ่มต้นของหนังสือพิมพ์ภาคใต้โฟกัส มาวันนี้ได้รับเกียรติจากท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาท่านวิทยา จันทน์เสนะ ให้เกียรติมาเป็นประธาน 27 ปี ก็ต้องกราบขอบพระคุณทั้งสองท่านในโอกาสนี้อีกครั้งหนึ่ง

 

           สิ่งที่สำคัญในการทำหน้าที่สื่อสารมวลชนตลอดระยะเวลา 27 ปี ที่ผ่านมา และกำลังจะเดินไปข้างหน้าสำหรับพวกผมว่าเรามีความมุ่งมั่นอยากจะทำหน้าในบทบาทของสื่อในชุมชนในท้องถิ่น นำเสนอเรื่องราวที่เป็นสารประโยชน์สำหรับชุมชนท้องถิ่น ซึ่งท่านที่ได้ติดตามเรามาตั้งแต่ ณ จุดเริ่มต้นนั้น เราจะมีความแตกต่างจากสื่อทั่วไปก็คือ ไม่เน้นข่าวอาชญากรรมใด ๆ ไม่ข่าวเหตุการณ์รถชน ไฟไหม้ทุกประเภท กระทั่งมาถึงวันที่เราต้องทำสื่อออนไลน์ตามยุคสมัยวันนี้เราใช้โลโก้เดียวกันทั้งหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ เพจ ติ๊กต๊อก และทุกเพลตฟอร์ม

           

          ก็คือโลโก้กลม ๆสีแดง ๆ แบบนี้ อยากจะให้ทุกท่านจำภาพนี้ว่าถ้าหมายถึงโฟกัสหมายถึงพวกผมต้องเป็นโลโก้นี้เท่านั้น แต่ถ้าพูดถึงโฟกัสแล้วเป็นลักษณะอย่างอื่นไม่ใช่พวกเรา

 

          ทำไมผมต้องพูดอย่างนี้ เพราะว่าหลายปีที่ผ่านมามีสื่อที่มีชื่อที่มาสร้างความสับสนมาพ้องกับความเป็นโฟกัสของพวกเรา ผมเองก็ถูกคนไม่เข้าใจ ถูกข่มขู่ จะฟ้องบ้าง และมีบุกเข้ามาถึงสำนักงาน มากระชากคอเสื้อผมด้วยความโกรธ ก็มีหลากหลายรูปแบบ มีโทรศัพท์มาขู่ มีอาคาดหลากหลาย เพราะเข้าใจว่าเป็นการทำงานของพวกผม

 

           สำหรับคนที่รู้จักเรา เราไม่เคยทำข่าวในลักษณะแบบนั้น ก็อยากจะขอใช้โอกาสนี้บอกกล่าวกับทุกท่าน ถ้าเป็นผม เป็นโฟกัส เป็นทีมงานของพวกเราต้องมีลักษณะโลโก้แบบนี้เท่านั้น เมื่อท่านได้ยินว่าโฟกัสนำเสนอข่าวอะไร ท่านต้องไปดูหน้าเว็บเพจว่าโลโก้เป็นแบบไหน จึงขอให้เวทีนี้อธิบายอีกครั้ง

 

          ประการต่อมาอยากจะบอกลูก ๆ นักเรียน ที่เข้าร่วมกิจกรรมวันนี้ สิ่งนี้ผมเชื่อว่าตลอดเวลา 3 ชั่วที่มีกิจกรรมเกิดขึ้นเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการเรียนรู้ ต่อสำนึกรักบ้านเกิด ต่อความเป็นสงขลาที่จะเดินไปข้างหน้า เพราะฉะนั้นถ้าลูก ๆ เก็บภาพ เก็บเนื้อหา สามารถเขียนเป็นบทความ หรือทำผลิตเป็นคลิปออกมาแล้วส่งมาที่สงขลาโฟกัส ทางเพจเฟซบุ๊กหรือในช่องทางที่ได้สแกนคิวอาร์โดวันนี้ ผมจะให้มีการประกวด บทความหรือคลิป ที่ผลิตจากเนื้อหาของงานในวันนี้หรือลูกจะค้นหาเพิ่มเติมจากช่องทางอื่น ๆ มาประกอบกัน แล้วนำส่งมา จะมีรางวัลเป็นเงินสดและโล่รางวัลหรือเกียรติบัตรให้

 

         โดยจะมีการประกาศผ่านช่องทางการประชาสัมพันธ์ของเราเพิ่มเติม จึงอยากให้ทุกคนเก็บเกี่ยวจากตรงนี้ สุดท้ายวันนี้เราเดินทางมาถึงปีที่ 27 โฟกัสก็จะเดินต่อไป

 

         อนาคตในแพลตฟอร์มสื่อยุคใหม่ก็จะมีบทบาทมากขึ้น เราก็จะต้องปรับตัวในเรื่องของการทำสื่อต่อไป สำคัญโฟกัสจะอยู่หรือไม่อยู่ ก็อยู่ที่การยอมรับการสนับสนุนและความเชื่อมั่นของสังคมผู้อ่าน ผู้บริโภค สิ่งใดที่เราบกพร่องท่านช่วยแนะนำ สิ่งใดที่ท่านคิดจะเป็นประโยชน์มากกว่านี้ ถ้าโฟกัสได้ทำสิ่งนั้น อันนี้เป็นสิ่งที่พวกเราน้อมรับ พร้อมที่จะปรับและพัฒนา อยากจะใช้โอกาสนี้บอกกล่าวเรียนทุกท่านด้วยความเคารพ และต้องขอบคุณเป็นพิเศษสำหรับวันนี้ ท่านครูสืบสกุล ศรีสุข ซึ่งเป็นทั้งกำลังใจและเป็นคนที่เคียงข้าง เคียงคู่ทำงานกันมา 3-4 ปี ทำให้โฟกัสเกิดประโยชน์กับสังคมตามเจตนารมณ์ที่เราตั้งใจ ณ ก้าวแรก และขอบคุณศิลปินที่เป็นลูกสงขลาทั้งสองท่านที่ผมเชิญมาร่วมกิจกรรมในวันนี้ และน้องทั้งสองคนก็ตอบรับด้วยความยินดี ทั้งน้องเก่ง ธขย และน้องอ้น กวี ศรีวิชัย ซึ่งเป็นนายหนังตะลุง

         ขอบคุณน้องกร เราเรียกร้องกรมานาน วันนี้เปิดตัวน้องในฐานะ อินฟลูเอนเซอร์ กบภูเขา ซึ่งมีผลงานที่น่าติดตามก็ฝากทุกท่านติดตามน้องกรด้วย ในฐานะที่เป็นคนคุณภาพของจังหวัดสงขลาอีกคนหนึ่ง ขอบคุณทุกท่านที่อยู่ในห้องนี้อีกครั้ง ขอบคุณมากครับ

 

อัพเดทล่าสุด

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด!

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด! 18

Categories
ข่าวทั่วไป

หนุ่มสตูลชอบตกปลาล่องเรือตกได้ปลากดขี้ลิง  ประหลาดมีลำตัวเป็นสีเผือกสวยแวววาว

หนุ่มสตูลชอบตกปลาล่องเรือตกได้ปลากดขี้ลิง  ประหลาดมีลำตัวเป็นสีเผือกสวยแวววาว

          วันที่ 5  พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่ร้านอ้อม  ตำบลพิมาน อำเภอเมือง จังหวัดสตูล  นายอภิชาต   มากลับ  อายุ 27 ปี หรือน้องเบ้นซ์   ที่มีความชอบส่วนตัว ชอบล่องเรือออกไปตกปลา ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 67 ที่ผ่านมา เวลา 14.00 น. ได้ล่องเรือออกไปตามลำคลองที่ตำมะลัง  อ.เมือง  จ.สตูล

 

          โดยนายอภิชาต  มากลับ  อายุ 27 ปี หรือน้องเบ้นซ์  เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า   การตกปลาได้ครั้งนี้แตกต่างจากทุกครั้ง   โดยวันนี้ตกได้ 5 ตัว  และตัวนี้เป็นตัวที่ 5 ตกได้ปลากดที่มีลำตัวเป็นสีขาวเผือก   ดวงตาแดง   จึงนั่งเรือพากลับมาบ้าน   และถือว่าการได้ปลากดเผือกนี้   เป็นความพิเศษและแปลกมาก  ในซึ่งที่ผ่านๆมา  เวลาออกมาตกปลา จนได้ไปสอบถามผู้รู้ว่าปลาชนิดนี้คือปลาอะไรกันแน่   โดยชาวประมงเรียกปลานี้ว่า  “ปลากดขี้ลิง”   ส่วนใหญ่มีสีเขียว และนี้แปลกประหลาดสีขาวเผือกอย่างที่เห็น

           ทั้งนี้น้องเบ้นซ์    ยังบอกอีกว่า   ไม่เคยพบเห็นมาก่อน   ลำตัวของปลามีความแวว  ครีบ ตา  และหางมีสีแดงอมชมพู หากมีผู้สนใจก็พร้อมจะขายหากให้ราคาเป็นที่น่าพอใจ   ติดต่อได้ที่เบอร์ 094-2584092  โทรได้ 24 ชั่วโมง และอยากมีผู้รู้ช่วยวิเคราะห์ว่า ปลาตัวนี้   ควรเลี้ยงไว้ หรือปล่อยสู่ธรรมชาติดี หรือมีผู้ที่สนใจอยากซื้อไป

อัพเดทล่าสุด

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด!

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด! 18

Categories
ข่าวทั่วไป

พ่อค้าแม่ค้าชาวสตูลแห่ซื้อน้ำมันพืชจากมาเลย์ฯ ที่ตลาดค้าชายแดนคึกคัก  ส่วนจนท.ตรวจเข้มรถเข้า-ออก หวั่นซุกน้ำมันพืชลักลอบนำเข้า

พ่อค้าแม่ค้าชาวสตูลแห่ซื้อน้ำมันพืชจากมาเลย์ฯ ที่ตลาดค้าชายแดนคึกคัก  ส่วนจนท.ตรวจเข้มรถเข้า-ออก หวั่นซุกน้ำมันพืชลักลอบนำเข้า

         วันที่ 5 พฤศจิกายน 2567   จากปัญหาสินค้าจำพวกน้ำมันพืช น้ำปาล์มที่ใช้นำไปประกอบอาหาร จำพวก ของทอด เช่น  ร้านไก่ทอด ร้านกล้วยทอด และร้านอาหารในพื้นที่จังหวัดสตูล   ไม่สามารถทนรับราคาน้ำมันพืชที่ปรับราคาขึ้นไหว   จึงต้องหันไปซื้อน้ำมันพืชของประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศมาเลเซีย   จึงทำให้บรรยากาศพื้นที่บริเวณร้านค้าชายแดนวังประจัน ตำบลวังประจัน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล ที่ติดกับบ้านวังเกลียน  ประเทศมาเลเซีย  ร้านขายของชำเกือบทุกร้านต้องนำน้ำมันพืช น้ำมันปาล์ม มาวางขายหน้าร้าน แบบเป็นถุง ๆ  1 กิโลกรัม ขายราคาถุงละ   45  บาท  และแบบเป็นแกลลอน   ขนาด 5 กิโลกรัม ราคา 230 บาท ถูกพี่น้องพ่อค้า แม่ค้าชาวสตูล  มาเหมาซื้อไปจนหมดเกลี้ยงเกือบทุกร้าน   ขายดีจนขาดตลาด  และทางร้านบอกว่าช่วงนี้ที่น้ำมันพืชขายดีสาเหตุเพราะการนำเข้ายากมากและหากนำเข้าทางด่านชายแดนภาษีก็แพง

        นางสาวโรสณี  นางงา อายุ 38 ปี ลูกจ้างร้านขายของชำชายแดนวังประจัน กล่าวว่า ทางร้านค้าได้มีน้ำมันพืช น้ำมันปาล์มที่ใช้ปรุงอาหารขาย เหลือเพียง 3-4 ขวดเท่านั้น แบบเป็นถุงไม่มี หมดมาเกือบเดือนแล้ว เพราะ นำเข้ายาก และภาษีจัดเก็บชายแดนแพง ส่วนน้ำมันพืชของไทยไม่นำมาขาย ขายไม่ได้เพราะมีราคาแพงเกินไป  สำหรับน้ำมันพืชของประเทศเพื่อนบ้านจึงเป็นหนึ่งตัวเลือกสุดท้ายที่กลุ่มร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของทอดมาเหมาซื้อไปทีละเยอะ ๆ เพราะเกรงว่าของจะขาดตลาด พร้อมกันนี้ด้านทางเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรวังประจัน ทหาร ตำรวจ ตม.สตูล ตชด.436 ร่วมกันตรวจรถบรรทุกสินค้าที่วิ่งผ่านชายแดนมาเลเซีย เข้ามาทางชายแดนจังหวัดสตูลทุกคัน หวั่นลักลอบนำน้ำมันพืชของมาเลเซียซุกซ่อนใต้ท้องรถเพื่อหลบเลี่ยงหนีภาษีได้

…………………………………………

อัพเดทล่าสุด

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด!

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด! 18