Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

นักวิ่งขาแรงทั่วสารทิศไทยและต่างชาติ 630 ชีวิตร่วมแข่งขันวิ่งเทรล  ขึ้นเขาเข้าสวนชมวิถีชุมชนบ้านโตน

นักวิ่งขาแรงทั่วสารทิศไทยและต่างชาติ 630 ชีวิตร่วมแข่งขันวิ่งเทรล  ขึ้นเขาเข้าสวนชมวิถีชุมชนบ้านโตน

วันนี้ (11 ส.ค. 67) ที่บริเวณสนามโรงเรียนบ้านโตนปาหนัน ตำบลทุ่งนุ้ย อำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล นายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานในพิธีเปิดและปล่อยตัวนักกีฬาในกิจกรรมแข่งขันวิ่งเทรลรายการ “อันดามัน อินเตอร์เนชันแนล เทรล รันนิ่ง Andaman International Trail Running @ Satun” ประจำปี 2567 โดยมีนางปุณณานันท์ ทองหยู ท่องเที่ยวและการกีฬาจังหวัดสตู พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ สื่อมวลชน นักกีฬา ชาวชุมชนบ้านน้ำร้อน ตำบลทุ่งนุ้ย ร่วมกิจกรรมมากกว่า 600 คน บรรยากาศเต็มไปด้วยความคึกคัก

.

สำหรับการจัดการแข่งขันวิ่งเทรล “อันดามัน อินเตอร์เนชันแนล เทรล รันนิ่ง แอทสตูล ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว โดยใช้กีฬาเข้ามาเป็นจุดดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาจังหวัดสตูล โดยเฉพาะในช่วงโลว์ซีซั่น ตลอดจนสร้างภาพพจน์ที่ดีของจังหวัด และช่วยกระตุ้นการท่องเที่ยวของจังหวัดสตูล รวมไปถึงการท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันด้วย ซึ่งสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาฝั่งอันดามัน ต่างจัดกิจกรรมวิ่งต่อกันไปใน 6 จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา ระนอง และตรัง เป็นการกระจายรายได้สู่ประชาชนในพื้นที่ โดยจะรับช่วงต่อจากจังหวัดสตูล ไปตามลำดับ

           ทั้งนี้กิจกรรมการแข่งขันวิ่งดังกล่าว แบ่งประเภทการแข่งขัน 3 ประเภท ได้แก่ ระยะทาง 6 กิโลเมตร ชาย-หญิง , ระยะทาง 13 กิโลเมตร ชาย-หญิง และระยะทาง 25 กิโลเมตร ชาย-หญิง จุดปล่อยตัวที่สนามโรงเรียนบ้านโตนปาหนัน ตำบลทุ่งนุ้ย อำเภอควนกาหลง จังหวัดสตูล ตั้งแต่เวลา 06.00 น. เป็นต้นไปตามระยะทาง โดยเป็นเส้นทางธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ซึ่งระยะทางวิ่งสูงสุด 25 กิโลเมตร จะผ่านจุดวิสาหกิจชุมชนโกปี้ โตนปาหนัน , น้ำตกโตนปาหนัน และแยกทางเข้าบ่อน้ำพุร้อนทุ่งนุ้ย ช่วยกระจายรายได้แก่ชุมชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก

อัพเดทล่าสุด

น้ำท่วมสตูล! ปิดช่องจราจรสายหลัก ชาวบ้านอพยพ-ใช้ปี๊บกั้นน้ำ วัวชนแสนบาทหนีขึ้นที่สูง

น้ำท่วมสตูล! ปิดช่องจราจรสายหลัก ชาวบ้านอพยพ-ใช้ปี๊บกั้นน้ำ วัวชนแสนบาทหนีขึ้นที่สูง  

Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

เปิด 8 เส้นทางท่องเที่ยวถิ่นสตูล  หนุนซอฟเพาเวอร์สร้างรายได้ชุมชน

เปิด 8 เส้นทางท่องเที่ยวถิ่นสตูล  หนุนซอฟเพาเวอร์สร้างรายได้ชุมชน

        นายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เปิดเผยว่า  จากแผนการพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 (พ.ศ.2560-2564) ที่มุ่งเน้นสร้างรายได้ และความเจริญ ความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจให้ครอบคลุมทั้งประเทศโดยให้ภาคเอกชน และประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมดำเนินการร่วมกับภาครัฐ ในการขับเคลื่อนงานให้เกิดประโยชน์ในวงกว้าง จำเป็นต้องมุ่งเน้นมาที่การพัฒนาชุมชน ซึ่งถือว่าเป็นกลุ่มสำคัญสามารถขยายผลให้การสร้างรายได้ และความยั่งยืนให้กับพื้นที่ สามารถสร้างอาชีพ ทั้งด้านการผลิต การค้า และการบริการ และการสร้างการรับรู้ แก่บุคคลภายนนอกเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว มาท่องเที่ยวในรูปแบบการท่องเที่ยวชุมชน เป็นการส่งเสริมการตลาด เพื่อเป็นช่องทางในการจำหน่ายให้กับประชาชนในพื้นที่ให้มีรายได้เพิ่มขึ้น เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในวงกว้าง

           

        ทั้งนี้จังหวัดสตูล โดยสำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสตูล ได้ริเริ่มโครงการสร้างเสริมศักยภาพชุมชนเข้มแข็ง พัฒนาผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น เชื่อมโยงการท่องเที่ยวชุมชนจังหวัดสตูล  โดยได้เปิดตัวเส้นทางท่องเที่ยว 8 เส้นทาง ที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดสตูลที่นักท่องเที่ยวเมื่อมาเยือนต้องไม่พลาดที่จะไปท่องเที่ยว และเยี่ยมชมความสวยงาม

 

          โดยเส้นทางที่ 1 (เช็คอินถิ่นตูล) อำเภอเมือง – สันหลังมังกร ซึ่งจะได้พบกับ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติสตูล (คฤหาสน์กูเด็น) ซึ่งเป็นพิพิธภัณฑ์ที่จัดแสดงเรื่องราวภูมิหลังเมืองสตูลในด้านประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ประเพณีวิถีชีวิต และโบราณคดี ,ถนนบุรีวานิช ย่านเมืองเก่า ,ชุมชนบากันเคย ,หาดทรายดำ ,เกาะหินเหล็ก และหาดสันหลังมังกร ,เส้นทางที่ 2 อำเภอควนกาหลง – บ้านโตนปาหนัน ซึ่งจะได้พบกับ ชุมชนบ้านโตนปาหนัน ,บ่อน้ำพุร้อนทุ่งนุ้ย บ้านโตนปาหนัน ,เส้นทางที่ 3 อำเภอควนโดน – ชายแดนวังประจัน  จะได้พบกับ ตลาดชายแดนวังประจัน ตลาด 2 แผ่นดินไทย – มาเลเซีย ,อุทยานแห่งชาติทะเลบัน (ทะเลสวย ที่ไม่ใช่ทะเลน้ำเค็ม) สินค้าวิสาหกิจชุมชนดาหลาปาเต๊ะ อาทิ กระเป๋า ,ผ้าบาติก และผ้ามัดย้อม ,เส้นทางที่ 4 อำเภอมะนัง – ถ้ำภูผาเพชร วังสายทอง จะได้พบกับ “Unseen สตูล” อาทิ ถ้ำภูผาเพชรที่เก่าแก่กว่า 450 ล้านปี ,น้ำตกวังสายทอง ,วัดนิคมพัฒนาราม

         เส้นทางที่ 5 อำเภอท่าแพ – บ้านสาคร จะได้พบกัน ชุมชนสาครที่โอบล้อมด้วยธรรมาติแบบ 360 องศา เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศที่อุดมสมบูรณ์ที่สุด ,เส้นทางที่ 6 อำเภอละงู – ปราสาทหินพันยอด จะได้พบกับ ปราสาทหินพันยอดที่เป็นภูเขาหินปูนในยุคออโดวิเซียน มีอายุเก่าแก่กว่า 488 ล้านปี และเป็นพื้นที่ถูกประกาศให้เป็นอุทยานธรณีโลก ซึ่งเป็นอุทยานธรณีโลกแห่งแรกของไทย และปันหยาบาติก วิสาหกิจชุมขนที่ผลิต และจำหน่ายผ้ามัดย้อมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และมีฝีมือในการวาดลายผ้าที่สวยงาม โดดเด่น คือ เน้นการใช้สีธรรมชาติในการผลิตชิ้นงาน อาทิ แร่ธาติ ,ใบไม้ ,เปลือกไม้ และผลไม้ และนักท่องเที่ยวยังได้ร่วมทำกิจกรรม Workshop เพนท์ผ้าบาติกด้วยฝีมือตัวเอง

 

          เส้นทางที่ 7 อำเภอทุ่งหว้า – ท่าข้ามควาย จะได้พบกับชุมชนเล็กๆ ติดกับชายฝั่งทางออกสู่ทะเลอันดามัน ซึ่งมีกิจกรรม อาทิ ให้อาหารเหยี่ยวแดง ,ชมฝูงปูก้ามดาบ ,ชมฝูงค้างคาวนับหมื่นตัว และล่องเรือชมพระอาทิตย์ตกดิน ,พิพิธภัณฑ์บ้านท่าข้ามควาย ที่รวบรวมของเก่าหาดูยาก อาทิ เครื่องมือประมง ,อุปกรณ์ทำสวนยาง และเครื่องมือทำนา และจักสานต้นคลุ้มบ้านวังตง ที่มีผลิตภัณฑ์จักสานจากต้นคลุ้ม อาทิ โคมไฟ กระเป๋า และหมวก

 

          และเส้นทางที่ 8 เส้นทางท่องเที่ยว GEOPARK จะได้พบ พิพิธภัณฑ์อุทยานธรณีโลกสตูลนำเสนอข้อมูลทางวิชาการเกี่ยวกับธรณีวิทยา ,ซากดึกดำบรรพ์ และโบราณวัตถุในพื้นที่ ,ถ้ำเลสเตโกดอน เป็นถ้ำเลที่มีความยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาวกว่า 4 กิโลเมตร ในถ้ำมีหินรูปร่างแปลกตา ,ซากฟอสซิลที่มีอายุประมาณ 500 ล้านปี เหมาะสำหรับคนชอบท่องเที่ยวแบบ อเวนเจอร์ส และรักธรรมชาติ ,สะพานข้ามกาลเวลา เป็นทางเดินริมทะเลเพื่อศึกษาธรณีวิทยากับธรรมชาติเลียบชายฝั่ง ที่มีช่วงหนึ่งของหน้าผาที่ชนกันของหิน 2 ยุค คือ ยุคแคมเบรียน (542 – 488 ล้านปี)  กับยุค  ออร์โดวิเชียน (488 – 444 ล้านปี) และฉิมเมล่อน เป็นแหล่งเรียนรู้ท่องเที่ยวเชิงเกษตร การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน การผสมเกสรของเมล่อน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมล่อนจีโอปาร์คบนพื้นผิวเมล่อน (อัตลักษณ์หนึ่งเดียวในโลก) 

 

           “การเปิดเส้นทางท่องเที่ยว 8 เส้นทางที่เป็นไฮไลท์ของจังหวัดสตูล เชื่อว่าจะสามารถสร้างรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่ได้มีรายได้เพิ่มขึ้น โดยเป็นการนำพัฒนาผลิตภัณฑ์ชุมชน เชื่อมโยงการท่องเที่ยวชุมชนผลักดันให้เป็นซอฟเพาเวอร์ในท้องถิ่นสู่ตลาดสากล  และเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ให้ชาวบ้านมีงานทำ”

………………………………..

 



อัพเดทล่าสุด

น้ำท่วมสตูล! ปิดช่องจราจรสายหลัก ชาวบ้านอพยพ-ใช้ปี๊บกั้นน้ำ วัวชนแสนบาทหนีขึ้นที่สูง

น้ำท่วมสตูล! ปิดช่องจราจรสายหลัก ชาวบ้านอพยพ-ใช้ปี๊บกั้นน้ำ วัวชนแสนบาทหนีขึ้นที่สูง  

Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

ปลุกเมืองสตูลให้ตื่นพาณิชย์จังหวัดเอาใจคอกาแฟ รวมรวบคาเฟ่ชื่อดังมากกว่า 30 ร้าน ในงานสตูลคาเฟ่เฟสติวัล ครั้งที่ 1 วันที่ 8-10 ส.ค.นี้ห้ามพลาด คาดเม็ดเงินสะพัด 2 ล้านบาทในงาน

ปลุกเมืองสตูลให้ตื่นพาณิชย์จังหวัดเอาใจคอกาแฟ  รวมรวบคาเฟ่ชื่อดังมากกว่า 30 ร้าน ในงานสตูลคาเฟ่เฟสติวัล ครั้งที่ 1 วันที่ 8-10 ส.ค.นี้ห้ามพลาด คาดเม็ดเงินสะพัด 2 ล้านบาทในงาน

         ที่ลานวัฒนธรรมหน้าคฤหาสน์กูเด็น (พิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ) ต.พิมาน อ.เมืองสตูล  สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสตูลรวบรวมร้านกาแฟชื่อดังทั่วทั้งจังหวัดสตูลที่มีมากกว่า 30 ร้านมารวมตัวกันภายในงาน สตูลคาเฟ่เฟสติวัล ครั้งที่ 1 ที่บรรดาคอกาแฟและสายคาเฟ่ห้ามพลาด

         โดยงานมีตั้งแต่วันนี้ไปจนถึงวันที่ 10 สิงหาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 15.30 นาทีจนถึง 2 ทุ่ม การจัดงานในครั้งนี้เพื่อเพิ่มช่องทางการตลาดและเครือข่ายให้ผู้ประกอบการจังหวัด ไปพร้อมกับการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ร้านค้าคาเฟ่จังหวัดสตูลให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวต่อผู้บริโภค อีกทั้งเป็นการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของจังหวัดสตูล

          โดยภายในงานมีการจำหน่ายกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า ที่ขึ้นชื่อของจังหวัดสตูลแล้วคอกาแฟไม่ควรพลาดสายพันธุ์อื่นที่มาบริการด้วย การจำหน่ายสินค้าธงฟ้าราคาประหยัดที่ได้รับความสนใจจากประชาชน  เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับประชาชน การแสดงดนตรีโฟล์คซอง การดริปกาแฟ และอีกมากมาย

         ซึ่งงานครั้งนี้ได้รับเกียรติจากนายศักระ  กปิลกาญจน์  ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลและนายคณิต คงช่วย  รองผู้ว่าราชการจังหวัดและหัวหน้าส่วนร่วมงานอย่างคับคั่ง

           นายสายช่อ อังศุพานิช   สำนักงานพาณิชย์จังหวัดสตูล  คาดการณ์ว่ามูลค่าการจำนหน่ายอาหารเครื่องดื่ม  ผลิตภัณฑ์ชุมชน ไม่ต่ำกว่า 2 ล้านบาท และประชาชนลดรายจ่ายจากการซื้อสินค้าราคาประหยัดในงานไม่น้อยกว่า 1 แสนบาท

 

         กิจกรรมกระตุ้นเศรษฐกิจในตัวเมืองสตูลให้คึกคัก  และกลับมามีสีสันที่เหล่าบรรดาคอกาแฟและสายคาเฟ่ไม่ควรพลาดและตามรอยร้านดังในจังหวัดสตูลกันนะคะ

………………………………..

อัพเดทล่าสุด

น้ำท่วมสตูล! ปิดช่องจราจรสายหลัก ชาวบ้านอพยพ-ใช้ปี๊บกั้นน้ำ วัวชนแสนบาทหนีขึ้นที่สูง

น้ำท่วมสตูล! ปิดช่องจราจรสายหลัก ชาวบ้านอพยพ-ใช้ปี๊บกั้นน้ำ วัวชนแสนบาทหนีขึ้นที่สูง  

Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

สตูลต้อนรับนักปั่นจักรยานกว่า 800 คนจาก 14 จังหวัดภาคใต้และต่างประเทศ ในการแข่งขันปั่นจักรยานชิงแชมป์ภาคใต้

สตูล-ต้อนรับนักปั่นจักรยานกว่า 800 คนจาก 14 จังหวัดภาคใต้และต่างประเทศ ในการแข่งขันปั่นจักรยานชิงแชมป์ภาคใต้ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 4 สิงหาคม 2567 ณ ที่ว่าการอำเภอมะนัง จังหวัดสตูล

         ณ ที่ว่าการอำเภอมะนัง จังหวัดสตูล  นายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วย นางปุณณานันท์  ทองหยู ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสตูล  นายเชษฐ  บุตรรักษ์  นายอำเภอมะนัง  นายภาณุ  เพชรประดับ  นายกฯ อบต.ปาล์มพัฒนา  นายดนัย สุวรรณโณ นายก อบต.นิคมพัฒนา  ได้ร่วมกันแถลงข่าวถึงความพร้อมในการจัดการแข่งขัน   ปั่นจักรยานชิงแชมป์ภาคใต้ (Satun Southern Bike) 2024   ในครั้งนี้

 

          โดยเส้นทางการแข่งขันแบ่งเป็น 3 ประเภท ปั่นท่องเที่ยว(ไม่จำกัดจักรยาน) ระยะทาง 27 กิโลเมตร  ปั่นแข่งขันทางเรียบ(เสือภูเขา) และ (เสือหมอบ) ระยะทาง 68 กิโลเมตร  สำหรับนักกีฬาขาแรง การแข่งขันใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง  ในวันที่ 4 สิงหาคม 2567  จุดสตาร์ท ณ ที่ว่าการอำเภอมะนัง  จ.สตูล  เป้าหมายนักปั่นจาก 14 จังหวัดภาคใต้เข้าร่วม 800 คน

 

         โดยทางจังหวัดให้ความสำคัญกับความปลอดภัยของนักกีฬาเป็นอันดับหนึ่ง พร้อมทั้งจัดเตรียมกิจกรรมต่างๆ เพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว อาทิ การจำหน่ายสินค้า OTOP อุปกรณ์กีฬา และการแสดงต่างๆ  ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่จังหวัดสตูลและเสริมสร้างภาพพจน์ที่ดีและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวพร้อมทั้งส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดโดยใช้กิจกรรมกีฬาและนันทนาการเป็นสื่อกลาง  ซึ่งงบประมาณในการจัดการแข่งขันครั้งนี้อยู่ที่ 1.8 ล้านบาท โดยทางจังหวัดจะมีการเก็บสถิตินักท่องเที่ยวและรายได้ที่เกิดขึ้นภายในงาน เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการจัดกิจกรรมครั้งต่อไป

 

        นายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล  กล่าวว่า  ปัจจุบันการปั่นจักรยานเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว เนื่องจากต้องการประสบการณ์ที่แตกต่างในการท่องเที่ยวแต่ละครั้งต้องการสัมผัสธรรมชาติที่บริสุทธิ์ กิจกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การจัดทำโครงการนี้จึงเป็นการสอดรับกับพฤติกรรมทางการท่องเที่ยวของ นักท่องเที่ยว และสามารถเชื่อมโยงกับแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อเพิ่มความหลากหลายของฐานการท่องเที่ยวและเป็นการกระตุ้นกิจกรรม กีฬาเพื่อการท่องเที่ยวในช่วงนอกฤดูกาลท่องเที่ยวของจังหวัดสตูล

 

       ทางจังหวัดขอเชิญชวนชาวมะนังและชาวสตูลร่วมเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับนักปั่นจักรยาน พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ทราบว่าในวันเสาร์และอาทิตย์จะมีนักท่องเที่ยวจำนวนมากเดินทางเข้ามาในอำเภอมะนัง เพื่อร่วมสัมผัสเส้นทางอันสวยงามและท่องเที่ยวในจังหวัดสตูล

…………………………………..

อัพเดทล่าสุด

น้ำท่วมสตูล! ปิดช่องจราจรสายหลัก ชาวบ้านอพยพ-ใช้ปี๊บกั้นน้ำ วัวชนแสนบาทหนีขึ้นที่สูง

น้ำท่วมสตูล! ปิดช่องจราจรสายหลัก ชาวบ้านอพยพ-ใช้ปี๊บกั้นน้ำ วัวชนแสนบาทหนีขึ้นที่สูง  

Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

ชวนมาชาร์ตแบต กับทริปเที่ยวสุดฟิน  “จิบกาแฟ ล่องแพ แลปลา” เปิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่ตำบลปาล์มพัฒนา จ.สตูล

สตูล-ชวนมาชาร์ตแบต…กับทริปเที่ยวสุดฟิน  “จิบกาแฟ ล่องแพ แลปลา” เปิดแหล่งท่องเที่ยวใหม่ตำบลปาล์มพัฒนา จ.สตูล

          อบต.ปาล์มพัฒนา  ชวนผู้สื่อข่าวร่วมค้นหา  และโปรโมท  สถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่  มาแนะนำให้กับนักท่องเที่ยวและผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติบริสุทธิ์  นั่นคือ “คลองละงู” ที่ตำบลปาล์มพัฒนา อำเภอมะนัง จังหวัดสตูล

          ที่นี่  มีความพิเศษคือ  เป็นแหล่งรวมสายน้ำจากที่ต่างๆ มาที่นี่  ทำให้มีน้ำไหลผ่านตลอดทั้งปี  ทางอบต.จึงได้จัดกิจกรรมสุดพิเศษ “จิบกาแฟ ล่องแพ แลปลา” ที่จะพาคุณสัมผัสธรรมชาติอย่างใกล้ชิด  เริ่มต้นการผจญภัยของเราที่หมู่10 คลองละงู จุดรวมของน้ำจากแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ  ทั้งน้ำที่มาจากน้ำตกวังสายทอง  ถ้ำระฆังทอง  และถ้ำเจ็ดคต

          การล่องแพใช้เวลาประมาณ 2-3 ชั่วโมง  โดยทางอบต.ฯ มีแพไม้ไผ่ให้บริการทั้งหมด 8 ลำ แต่ละลำรับผู้โดยสารได้ 8-10 คน รวมแล้วรองรับนักท่องเที่ยวได้ถึง 50 คนเลยทีเดียว และสำหรับคนรักความท้าทาย ยังมีบริการเรือคายัคด้วย

          ระหว่างล่องแพ คุณจะได้ชื่นชมวิวสองฝั่งคลองที่เต็มไปด้วยสวนปาล์ม สวนยาง สวนทุเรียน และสวนผลไม้นานาชนิด พร้อมกับความงามของดอกไม้ริมน้ำ  โดยเฉพาะดอกกระดิ่งนางฟ้าที่บานสะพรั่งในแหล่งน้ำใสสะอาด

          นอกจากนี้ ยังมีโอกาสเห็นวิถีชีวิตของชาวบ้าน  ที่มาหาปลาและหอยโล่ซึ่งหายาก  ที่ชาวบ้านกำลังช่วยกันอนุรักษ์  เรียกได้ว่าเป็นการท่องเที่ยวที่ได้ทั้งความสวยงาม  และวัฒนธรรมท้องถิ่นในคราวเดียวกัน

          ที่พิเศษไปกว่านั้น คุณยังสามารถจิบกาแฟ ชมวิว ปิ้งย่าง และหาปลาได้ระหว่างล่องแพ อย่างที่เขาว่ากัน  “ปลาโสด  เราโสด” ใครจะรู้ อาจได้ทั้งปลาและคู่กลับบ้านก็ได้นะคะในทริปนี้

          คลองแห่งนี้เปิดให้บริการตลอดทั้งปี  โดยมีจุดขึ้น-ลงเรือที่สะดวกสบาย ลงที่ท่าสะพานเสือ  หมู่ที่ 10 และขึ้นที่ท่าเรือสะพาน 100 เมตร ในหมู่บ้านเดียวกันพร้อมทั้งจุดเล่นน้ำ

           นายภาณุ  เพชรประดับ นายก อบต.ปาล์มพัฒนา เผยว่า  อยากผลักดันให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยวใหม่สำหรับคนรักธรรมชาติ โดยได้รับความร่วมมือจากชาวบ้านที่พร้อมใจกันดูแลรักษาป่าและแหล่งน้ำ พร้อมเป็นพี่เลี้ยงและส่งต่อให้ชุมชนได้สร้างงาน สร้างอาชีพในการผืนป่าต้นน้ำต่อไป

          สำหรับใครที่สนใจมาเที่ยว “จิบกาแฟ ล่องแพ แลปลา” ที่คลองละงู สามารถติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่  เจ้าหน้าที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวของ อบต.ปาล์มพัฒนา หรือ  คุณมล โทร. 061-235-7296 หรือติดตามข่าวสารได้ทางเฟซบุ๊กของ อบต. ปาล์มพัฒนา

          มาร่วมสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวใกล้ชิดธรรมชาติ พร้อมอิ่มอร่อยกับปิ้งย่างริมน้ำ  ที่ตำบลปาล์มพัฒนากันนะคะ รับรองว่าคุ้มค่าแก่การมาเยือนอย่างแน่นอนค่ะ

…………………..

 

อัพเดทล่าสุด

น้ำท่วมสตูล! ปิดช่องจราจรสายหลัก ชาวบ้านอพยพ-ใช้ปี๊บกั้นน้ำ วัวชนแสนบาทหนีขึ้นที่สูง

น้ำท่วมสตูล! ปิดช่องจราจรสายหลัก ชาวบ้านอพยพ-ใช้ปี๊บกั้นน้ำ วัวชนแสนบาทหนีขึ้นที่สูง  

Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

โกปี้ ชุมชนสะพานเคียน ภูมิปัญญาท้องถิ่นสตูลที่หอมกรุ่นนาน 27 ปี

สตูล-โกปี้ ชุมชนสะพานเคียน ภูมิปัญญาท้องถิ่นสตูลที่หอมกรุ่นนาน 27 ปี

         ที่หมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งหนึ่งในจังหวัดสตูล  มีกลิ่นหอมของกาแฟคั่วลอยอบอวลอยู่ในอากาศ  นี่คือชุมชนสะพานเคียน หมู่ที่ 2 ต.ควนโดน อ.ควนโดน  แหล่งผลิตกาแฟโบราณที่สืบทอดภูมิปัญญามาอย่างยาวนาน

 

         กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแม่บ้านเกษตรกรสะพานเคียน  ยังคงรักษาวิธีการผลิตกาแฟแบบดั้งเดิม  โดยใช้เมล็ดกาแฟพันธุ์พื้นเมืองโรบัสต้า คั่วด้วยเตาถ่านนานถึง 2 ชั่วโมง จนได้กลิ่นหอมและรสชาติกาแฟที่เข้มข้น

 

          นางสุดา (ก๊ะดา)  มาลินี รองประธานกลุ่ม ฯ บอกว่า  นางฉ๊ะ   แกสมาน ประธานฯกลุ่มและพวกเราทำกาแฟโบราณมานานกว่า 27 ปีแล้ว ตั้งแต่ปี 2540 จนถึงปัจจุบัน เพื่ออนุรักษ์ภูมิปัญญาของบรรพบุรุษให้คนรุ่นใหม่ได้รู้จัก แม้จะทำได้ไม่มากเท่าแต่ก่อนเพราะขาดแคลนวัตถุดิบ แต่เราก็พยายามรักษาสูตรดั้งเดิมไว้ด้วยความภาคภูมิใจให้รุ่นลูกหลานได้เห็น”

 

          นอกจากกาแฟผงพร้อมชงแล้ว ทางกลุ่มยังผลิตกาแฟพร้อมดื่มบรรจุขวด และกำลังพัฒนาสบู่จากกากกาแฟอีกด้วย ราคาเริ่มต้นที่ 20 บาท ไปจนถึงกิโลกรัมละ 160 บาท

 

         กาแฟโบราณยังมีเรื่องราวน่าสนใจ ในอดีตเมื่อคั่วกาแฟ ชาวบ้านจะนำน้ำตาลที่คั่วแจกจ่ายให้เด็ก ๆ เป็นขนมหวาน เรียกว่า “หูร่า” ในภาษาท้องถิ่น มีรสชาติหวานเข้มคล้ายทอฟฟี่

         นายวริช  วิชิต  รองผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานสตูล  บอกว่า   “ททท.ได้ส่งเสริมอาหารพื้นถิ่นของที่นี่ ซึ่งมีความหลากหลายและน่าสนใจมาก นักท่องเที่ยวสามารถมาลิ้มลองอาหารพื้นเมืองอร่อยๆ ราคาย่อมเยา ไม่ว่าจะเป็นข้าวยำน้ำบูดู ข้าวมันไก่ ข้าวเหนียวปลาเค็ม กาแฟโบราณ  หรือขนมอาปมแลหงัง ที่ชุมชนสะพานเคียนแห่งนี้”

 

         กาแฟโบราณสะพานเคียน ไม่เพียงแต่เป็นเครื่องดื่มที่มีเอกลักษณ์ แต่ยังเป็นภูมิปัญญาท้องถิ่นที่ควรค่าแก่การอนุรักษ์ หากมีโอกาสมาเยือนจังหวัดสตูล อย่าลืมแวะมาสัมผัสรสชาติและกลิ่นหอมของกาแฟโบราณที่ชุมชนสะพานเคียนแห่งนี้

 

          ติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ที่โทร. 080 112 9016 ก๊ะดา และ 087-285 8251 เบอร์ประธาน

อัพเดทล่าสุด

น้ำท่วมสตูล! ปิดช่องจราจรสายหลัก ชาวบ้านอพยพ-ใช้ปี๊บกั้นน้ำ วัวชนแสนบาทหนีขึ้นที่สูง

น้ำท่วมสตูล! ปิดช่องจราจรสายหลัก ชาวบ้านอพยพ-ใช้ปี๊บกั้นน้ำ วัวชนแสนบาทหนีขึ้นที่สูง  

Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

คิดถึงวันวานกับ  ไอติมเมืองทองสตูล 112 ปี  หนึ่งใน 10 ร้านอาหารอายุ 100 ปี ทั่วประเทศจากกระทรวงวัฒนธรรม   

สตูล-คิดถึงวันวานกับ  ไอติมเมืองทองสตูล 112 ปี  หนึ่งใน 10 ร้านอาหารอายุ 100 ปี ทั่วประเทศจากกระทรวงวัฒนธรรม 

         ยังมีอยู่จริง!! สำหรับอาหารในตำนาน 112 ปีที่ไม่ควรพลาด  ครั้งหนึ่งต้องไปชิมแล้วจะติดใจ  และหวนให้คิดถึงบรรยากาศวันวาน  สำหรับร้านอาหารติดอันดับ  1 ใน 10  อายุ 100 ปีขึ้นของประเทศไทย  ที่กระทรวงวัฒนธรรม  มอบเกียรติบัตรให้  ต้องร้านนี้  “ไอติม เมืองทองสตูล”   ตั้งอยู่ใจกลางเมือง  ริมถนนสมันตประดิษฐ์   ต.พิมาน อ.เมือง  จ.สตูล  ที่เปิดมานานปัจจุบันรุ่นที่ 3 ที่ดูแลกิจการต่อกับเมนูไอติม  ที่มีหลากหลายทั้งเมนูวันวาน  ในอดีตที่ขึ้นชื่อมาจนถึงปัจจุบันอย่างไอติมรวมมิตร ,ไอติมไข่แข็ง ,ไอติมปั่นนมสด , ไอติมกะทิลูกชิด , และไอติมวานิลลา, มะม่วง ,เผือก,ทำเองทั้งหมด

 

        ลูกค้าหลายคนบอกว่า  รสชาติที่ถึงเครื่องเหมือนเดิม  ทำให้ยังคงหลั่งไหลแวะมากินกันไม่ขาดสาย  ทั้งคนรุ่นใหม่ รุ่นเก่าที่อยากรื้นฟื้นวันวาน เพราะร้านนี้ในอดีตถือว่าเป็นร้านที่นิยมที่สุดในช่วงเวลานั้น  ไม่มีใครไม่รู้จัก โดยเฉพาะเมนู ไอติมไข่แข็ง(ไม่ได้กลิ่นคาวไข่แม้แต่น้อย)   ไอติมรวมมิตรที่ใส่เครื่องจุก ๆ ทั้งขนุน ลอดช่องที่รสชาติชัดเจนชวนหลงใหล ,ไอติมราดซุปข้าวโพด ,ไอติมลูกชิด, มีขายเป็นถ้วยละ 25 บาท 4 ลูก หรือจะซื้อกลับบ้านก็มีขายเป็นกล่องมีตั้งแต่ 60 บาท 130 บาทหรือ 250 บาท ,หรือจะสั่งเป็นไอติมถัง ราคา 1,200 บาท สามารถติดต่อได้ที่  081 679 7223  หรือเพจไอติมเมืองทองสตูล

          ด้านนางเบญจวรรณ  อรัญรัชชพิศาล  เจ้าของร้านรุ่นที่ 3 อายุ 60 ปี บอกว่า คุณพ่อรุ่นที่ 2 ยังคงอยู่  แต่ไม่มีเรี่ยวแรงในการทำไอติม  จึงส่งต่อให้พวกตน  สืบทอดความอร่อย และภูมิใจที่ทางกระทรวงวัฒนธรรมยกให้เป็นหนึ่งใน 10 ร้านทั่วประเทศที่มีอายุ 100 ปีขึ้น ซึ่งขณะนี้ร้านไอติมเมืองทองมีอายุได้ 112 ปีแล้ว (โดยเปิดเมื่อปี 2455)  ก็ยังคงขายอยู่ทุกวันเปิด 8 โมงเช้า ถึง 21 นาฬิกา

…………………………………………….

อัพเดทล่าสุด

น้ำท่วมสตูล! ปิดช่องจราจรสายหลัก ชาวบ้านอพยพ-ใช้ปี๊บกั้นน้ำ วัวชนแสนบาทหนีขึ้นที่สูง

น้ำท่วมสตูล! ปิดช่องจราจรสายหลัก ชาวบ้านอพยพ-ใช้ปี๊บกั้นน้ำ วัวชนแสนบาทหนีขึ้นที่สูง  

Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

พิชิตยอดเขาบอฆ๊ะ  ผืนป่าชุมชน  เปิดจุดชมตะวันยามเช้า  ชมดาวยามค่ำคืน 

สตูล – พิชิตยอดเขาบอฆ๊ะ  ผืนป่าชุมชนเปิดจุดชมตะวันยามเช้า  ชมดาวยามค่ำคืน 

           สัมผัสหมอกไหลของแสงแรกในยามเช้ามุม 360 องศา  จากความสูงเหนือระดับน้ำทะเล 80 เมตร ที่เขาบอฆ๊ะ  ป่าชุมชนบ้านทางงอ  ตำบลควนสตอ  อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล  ที่แห่งนี้กลุ่มอนุรักษ์เขาบอฆ๊ะได้ช่วยกันดูแลและผลักดันให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวในชุมชน

         

         เส้นทางเริ่มตั้งแต่ 6 โมงเช้า  ที่กลุ่มอนุรักษ์เขาบอฆ๊ะ จะเป็นไกด์ท้องถิ่นนำนักท่องเที่ยว โดยทริปนี้ทาง การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสตูล ได้ขึ้นไปสำรวจเพื่อเตรียมผลักดันให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มนักท่องเที่ยว  ให้กว้างขวางยิ่งขึ้น  โดยตลอดเส้นทางจะมีจุดผจญภัย  สลับกับเส้นทางที่สร้างขึ้น  เพื่อให้นักท่องเที่ยวทุกกลุ่มสามารถขึ้นไปสัมผัส  ความสวยงามของธรรมชาติป่าชุมชน ณ ที่แห่งนี้ได้

         

        โดยตลอดเส้นทางนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสกับความสวยงามของผืนป่า ดอกไม้นานาที่ขึ้นแซมซอกหิน  โดดเด่นสวยงาม  ต้นไม้หายากอย่างต้นปรงเขา หรือต้นบอฆ๊ะ  ต้นรองเท้านารีขาวสตูล ต้นบอนดำ และหากโชคดีก็จะพบกับเลียงผา  ในป่าชุมชนแห่งนี้  เส้นทางขึ้นสำหรับคนที่ร่างกายปกติใช้เวลาเพียง 15 นาทีก็จะสามารถพิชิตยอดเขาบอฆ๊ะได้แล้ว  นักท่องเที่ยวก็จะตื่นตาตื่นใจกับวิว 360 องศา อากาศที่สดชื่น มองไกลเห็นวิวรอบหมู่บ้านและชมแสงยามเช้าสัมผัสกับหมอกไหลที่ธรรมชาติได้สรรสร้างมาให้

         นายบักรินทร์ ผลาอาด  ประธานกลุ่มอนุรักษ์เขาบอฆ๊ะ บ้านทางงอ  บอกว่า หลังสถานการณ์โควิดทางเขาบอฆ๊ะได้ปรับปรุงมีจุดอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวและยังมีจุดให้ผญจภัย และจะเพิ่มในจุดสอนการปีนไต่เขาให้นักท่องเที่ยวด้วย   โดยมีนักท่องเที่ยวอายุสูงสุด 82 ปี และคนที่น้ำหนัก 150 กิโลกรัมขึ้นพิชิตยอมเขาบอฆ๊ะมาแล้ว แต่อาจจะใช้เวลาในการขึ้นที่แตกต่างกัน  ซึ่งนักท่องเที่ยวที่จะมาท่านใดสนใจขึ้นชมวิวติดต่อ (081-096-5901  บักรินทร์ , 093-594-5536 สิท,095-272-6871 เชด)   ทางกลุ่มจะมีไกด์ท้องถิ่นคอยแนะนำโดยไม่มีค่าใช้จ่าย แล้วแต่จิตศรัทธา

         

       นายวริช  วิชิต รอง ผอ.ททท.สำนักงานสตูล  บอกว่า  การท่องเที่ยวได้เข้ามาร่วมทำกิจกรรมการประชาสัมพันธ์ การท่องเที่ยวจังหวัดเมืองรองที่ห้ามพลาด  การท่องเที่ยวแบบวันเดย์ทริป ชวนนักท่องเที่ยวปีนป่ายเขา ชมสายหมอก และแสงตะวันยามเช้า และชมดาวยามค่ำคืนเพื่อ พิชิตบนยอดเขาบอฆ๊ะ   บ้านทางงอ  สถานที่ท่องเที่ยวแบบท้าทายในผืนป่าชุมชน  ตำบลควนสตอ อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล

         

         หลังขึ้นพิชิตยอดเขาบอฆ๊ะ แล้วชวนชิมอาหารชุมชนทางขึ้นเขามีทั้ง ขนมจีน ข้าวยำสมุนไพร ข้าวแกงปรุงใหม่สด ข้าวเหนียวปลาเค็ม เต็มอิ่มกับบุพเฟต์ผักสด จิบชาร้อน ๆ ตามแบบฉบับสัมผัสวิถีชุมชน

……………………………………………………………………

อัพเดทล่าสุด

น้ำท่วมสตูล! ปิดช่องจราจรสายหลัก ชาวบ้านอพยพ-ใช้ปี๊บกั้นน้ำ วัวชนแสนบาทหนีขึ้นที่สูง

น้ำท่วมสตูล! ปิดช่องจราจรสายหลัก ชาวบ้านอพยพ-ใช้ปี๊บกั้นน้ำ วัวชนแสนบาทหนีขึ้นที่สูง  

Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

กาแฟต้มยำ รสชาติกลมกล่อมอร่อยเว่อร์เมนูสุขภาพ ที่โกปี้กู กาแฟคั่วมือของวิสาหกิจชุมชน

สตูล.. กาแฟต้มยำ รสชาติกลมกล่อมอร่อยเว่อร์เมนูสุขภาพ ที่โกปี้กู กาแฟคั่วมือของวิสาหกิจชุมชน

         ที่จังหวัดสตูลถือได้ว่าเป็นแหล่งปลูกกาแฟพันธุ์โรบัสต้าที่ดีที่สุดอีกแห่งหนึ่ง  โดยเมล็ดพันธุ์นี้ได้สร้างชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน  และเพื่อเป็นการตอกย้ำและการันตี  ที่วิสาหกิจชุมชน ซา-ตูล นวัตวิถีคนสตูล  ภายใต้แบรนด์ “โกปี้กู  กาแฟคั่วมือ” ภูมิใจนำเสนอเมนูสุขภาพสำหรับคอกาแฟ  สำหรับผู้ที่รักและชื่นชอบในเมล็ดพันธุ์กาแฟโรบัสต้ากับเมนู  ต้มยำกาแฟโรบัสต้า

          ที่มีส่วนผสมจุกๆด้วยสมุนไพรไทย  อาทิ ตะไคร้ ,  ข่า , มะนาวและใบมะกรูด, โดยนำส่วนผสมทั้งหมดมาโขลกรวมกัน  จากนั้นนำส่วนผสมทั้งหมดใส่น้ำแข็งนิดหน่อยแล้วใส่แก้วเช็กก่อนที่จะนำมากรอง  เมื่อได้น้ำเบสของต้มยำสมุนไพรแล้ว  เทลงใส่แก้วที่มีน้ำแข็งรองรับ  จากนั้น  นำกาแฟโรบัสต้าที่ผ่านการขั้วมือกลั่นออกมาแล้วเทลงไป  และตกแต่งด้วยใบมะกรูด ข่า  และพริกสด  เพื่อความสวยงามพร้อมเสิร์ฟ  สำหรับเมนูนี้มีราคาที่แก้วละ 65 บาท

         นายวริช  วิชิต รอง ผอ.ททท.สำนักงานสตูล พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ได้ทดลองชิม  และพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า  เป็นรสชาติที่ลงตัวและกลมกล่อมอย่างที่ไม่เคยได้ชิมที่ไหนมาก่อน  ส่วนผสมอาจจะดูแปลกตาก็ได้รสชาติของสมุนไพรไทยอย่างข่า และตะไคร้ที่เด่น มีรสเผ็ดนิดๆ ถือว่าเป็นเมนูสุขภาพและทางเลือกให้กับลูกค้าได้ดีทีเดียว

         

         นายอนุรักษ์ ไปรฮูยัน วิสาหกิจชุมชน ซา-ตูล นวัตวิถีคนสตูล  (ซา-ตูล บัส คาเฟ่ & แคมป์ปิ้ง)   ยืนยันว่า  เมล็ดกาแฟที่ทางร้านใช้  เป็นสายพันธุ์โรบัสต้าที่มาจากกลุ่มกาแฟเป็นส่วนใหญ่  ที่ผ่านการคัดสรรและมีคุณภาพในพื้นที่จังหวัดสตูล  อีกทั้งเป็นแหล่งปลูกเมล็ดพันธุ์กาแฟที่เป็นเครือข่ายของทางกลุ่มวิสาหกิจชุมชน  มีที่มาที่ไป  นอกจากเมนูต้มยำกาแฟโรบัสต้าแล้ว  ยังมีเมนูกาแฟอีกมากกว่า 20 เมนู  รวมทั้งเมนูจำปาดะคอฟฟี่  ผลไม้ GI พื้นถิ่นจังหวัดสตูลก็มีจำหน่ายด้วย

 

          สำหรับทางร้าน(ซา-ตูล บัส คาเฟ่ & แคมป์ปิ้ง) ตั้งอยู่ที่ริมถนนยนตรการกำธร ต.ควนโดน อ.ควนโดน จ.สตูล (เลยสามแยกตลาดควนโดน ซ้ายมือขาออกนอกเมือง)   ร้านเปิดปกติ เวลา 11:00-22:00น. โทร. 084  395 5667

อัพเดทล่าสุด

น้ำท่วมสตูล! ปิดช่องจราจรสายหลัก ชาวบ้านอพยพ-ใช้ปี๊บกั้นน้ำ วัวชนแสนบาทหนีขึ้นที่สูง

น้ำท่วมสตูล! ปิดช่องจราจรสายหลัก ชาวบ้านอพยพ-ใช้ปี๊บกั้นน้ำ วัวชนแสนบาทหนีขึ้นที่สูง  

Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา เกษตร - อาชีพ

ส้มตำมังคุดพรีเมี่ยม  ริมเขาติดชายแดนสองแผ่นดินไทย-มาเลเซีย  จากสวนคุณภาพมาตรฐาน GAP 

สตูล-ส้มตำมังคุดพรีเมี่ยม  ริมเขาติดชายแดนสองแผ่นดินไทย-มาเลเซีย   จากสวนคุณภาพมาตรฐาน GAP 

           ที่สวนโชคนันทวดี  ตั้งอยู่ที่บ้านวังพะเนียด  หมู่ที่5 ต.เกตรี (อ่านว่าเกด-ตรี) อ.เมือง จ.สตูล พื้นที่แห่งนี้อยู่ริมเขาติดชายแดนสองแผ่นดินไทย-มาเลเซีย  จะเป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ด้วยแร่ธาตุในดิน ทำให้สวนมังคุดที่นี่  มีรสชาติอร่อยถูกปากผู้บริโภค 

         

           นายมานพ   พูลแก้ว  เจ้าของสวนโชคนันทวดี  บอกว่า  เริ่มปลูกต้นมังคุดเมื่อปี 2535 จำนวน 100 ต้น บนพื้นที่ 8 ไร่  ในปี 2541-2542 เริ่มเก็บผลผลิตเป็นต้นมา  เคยได้ปริมาณมังคุดสูงสุดมากถึง 17 ตัน โดยการจัดการสวนมังคุดแบบคุณภาพ  ไม่ใช้สารเคมี ไม่เก็บผลผลิตลูกที่ตกลงพื้น คัดสรรสินค้าตามมาตรฐาน

           

          ในทุกเดือนกรกฎาคมของทุกปี  มังคุดคุณภาพจะเริ่มให้ผลผลิตออกสู่ตลาด  โดยจะส่งขายทั้งแบบออนไลน์และออนไซต์  โดยปีนี้แม้ผลผลิตจะมีปริมาณน้อยแต่ราคาก็เป็นที่พอใจให้กับเกษตรกร  โดยมังคุดเกรด a ออนไลน์จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 80 บาท (ลูกค้าซื้อ 5 กิโลกรัมคิดที่ 480 บาท) ส่วนมังคุดที่ส่งพ่อค้ารับไม่อั้นอยู่ที่กิโลกรัมละ 33 ถึง 35 บาท, และมังคุดผลสีดำทานในพื้นที่จะอยู่ที่กิโลกรัมละ 35 ถึง 40 บาท 

 

          มังคุด  นอกจากจะทานสดยังสามารถนำมาแปรรูปได้หลากหลายเมนู  อาทิ  แยมมังคุด, แกงส้มมังคุด,แล้ววันนี้ทางสวนได้สาธิต ส้มตำมังคุดที่รสชาติแซ่บเวอร์  กลมกล่อมลงตัวเป็นอย่างดี  โดยมีเครื่องปรุงเดียวกับส้มตำคือ พริกสดและพริกแห้ง,กระเทียม,น้ำตาลปี๊บ,น้ำปลา,ถั่วฝักยาว,มะละกอที่หาได้ภายในสวนแห่งนี้, และผลมังคุดที่ปอกเปลือกเรียบร้อยแล้ว  นำมาคลุกเคล้ากับน้ำปรุงของส้มตำจะได้รสชาติที่อร่อยแซ่บลงตัว

          นายเฉลิมพร   ศรีสวัสดิ์   เกษตรอำเภอเมืองสตูล   ยืนยันว่า  สวนมังคุดคุณภาพแปลงนี้  เป็นแปลงเครือข่ายศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพสินค้าเกษตร แล้วยังเป็นแปลงเรียนรู้ที่เกษตรกรสนใจจะปลูกมังคุดคุณภาพ  มาเรียนรู้ในแปลงแห่งนี้ ยังเป็นแปลงที่ได้มาตรฐาน GAP ตั้งแต่ปี 2552 พร้อมเชิญชวนเกษตรกรมาทำแปลงคุณภาพเพื่อช่วยยกระดับสินค้าผลผลิต ให้ได้มาตรฐานปลอดภัย  เพราะมีผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อมีความต้องการสินค้าคุณภาพจำนวนมาก

          สนใจติดต่อสอบถามได้ทางออนไลน์ “สวนโชคนันทวดี”  โทร.083-191-2628

…………….

อัพเดทล่าสุด

น้ำท่วมสตูล! ปิดช่องจราจรสายหลัก ชาวบ้านอพยพ-ใช้ปี๊บกั้นน้ำ วัวชนแสนบาทหนีขึ้นที่สูง

น้ำท่วมสตูล! ปิดช่องจราจรสายหลัก ชาวบ้านอพยพ-ใช้ปี๊บกั้นน้ำ วัวชนแสนบาทหนีขึ้นที่สูง