Categories
เยาวชน-การศึกษา

 ศรชล.สตูลจัดกิจกรรมสร้างความรู้ทางทะเล ปลูกฝังเยาวชนอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง 

ศรชล.สตูลจัดกิจกรรมสร้างความรู้ทางทะเล ปลูกฝังเยาวชนอนุรักษ์ทรัพยากรชายฝั่ง

        ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 โดยศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล จัดกิจกรรมสร้างองค์ความรู้ทางทะเล มหาสมุทร และผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ในพื้นที่จังหวัดสตูล นายศักระ  กปิลกาญจน์ ผู้อำนวยการศูนย์รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล / ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล มอบหมายให้ นาวาเอกรัฐพล  แก้วกระจาย หัวหน้าศูนย์ควบคุมความมั่นคงท่าเรือจังหวัดสตูล เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมสร้างองค์ความรู้ทางทะเล มหาสมุทร และผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ในพื้นที่จังหวัดสตูล ณ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 42 จังหวัดสตูล ต.คลองขุด อ.เมืองสตูล จังหวัดสตูล เพื่อสร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับทะเล มหาสมุทร และผลประโยชน์ของชาติทางทะเล ให้กับบุคลากรทางการศึกษา และเด็กนักเรียน ซึ่งเป็นเยาวชนของชาติในพื้นที่รับผิดชอบของ ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล ซึ่งมีผู้เข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ จำนวน 50 คน

         ทั้งนี้กิจกรรม “สร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับทะเล มหาสมุทร และผลประโยชน์ของชาติทางทะเล” ศูนย์รักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการในการรักษาระบบนิเวศรวมถึงอนุรักษ์สิ่งมีชีวิตในทะเลจังหวัดสตูลและทะเลอันดามันให้มีความอุดมสมบูรณ์โดยให้เยาวชนได้รู้จักและเห็นคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลในท้องถิ่นของตนพร้อมที่จะเป็นแหล่งศึกษาและท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์  ทางด้านนิเวศวิทยานับว่าเป็นองค์ประกอบที่สำคัญยิ่งของการอนุรักษ์รวมถึงเป็นการสร้างจิตสำนึกที่ดีให้กับเยาวชนจึงได้จัดกิจกรรม “สร้างองค์ความรู้เกี่ยวกับทะเล มหาสมุทร และผลประโยชน์ของชาติทางทะเล”เพื่อเป็นการรักษาระบบนิเวศรวมถึงฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งมีชีวิตในทะเลอันดามัน

………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
เยาวชน-การศึกษา

 นักเรียนสตูล 350 คน ร่วมงาน คมนาคมปลอดภัย ใต้ร่มพระบารมี “DLT Kids on the road” เรียนรู้ 6 ฐาน ด้านความปลอดภัยทางถนน

นักเรียนสตูล 350 คน ร่วมงาน คมนาคมปลอดภัย ใต้ร่มพระบารมี “DLT Kids on the road” เรียนรู้ 6 ฐาน ด้านความปลอดภัยทางถนน

          วันที่ 9 ก.ย. 67 ที่หอประชุมอาคารเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ศาลากลางจังหวัดสตูล นายชัยวุฒิ บัวทอง ปลัดจังหวัดสตูล เป็นประธานในพิธีเปิดงานคมนาคมปลอดภัย ใต้ร่มพระบารมี “DLT Kids on the road” ภายใต้โครงการเสริมสร้างทักษะและประสบการณ์ด้านความปลอดภัยทางถนนแก่เด็กและเยาวชน เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีนางสาวธัญรัศม์ ไตรพันธ์รัชตะ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสตูล นายเทพฤทธิ์ แก้วสุวรรณ์ ขนส่งจังหวัดสตูล พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ และนักเรียน เข้าร่วมงานจำนวนมาก พร้อมร่วมลงนามถวายพระพรชัยมงคลและถวายราชสดุดีเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และชมนิทรรศการเผยแพร่พระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ และพระอัจฉริยภาพในด้านการคมนาคมขนส่ง

            สำหรับการจัดงานในวันนี้ สำนักงานขนส่งจังหวัดสตูล ได้มีการจัดแสดงนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เผยแพร่พระราชกรณียกิจและพระอัจฉริยะภาพด้านคมนาคม และนิทรรศการด้านความปลอดภัยทางถนน ซึ่งเป็นผลการดำเนินงานของกรมการขนส่งทางบก กองทุนเพื่อความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนน และสำนักงานขนส่งจังหวัด ทั้งยังมีกิจกรรมเสริมสร้างทักษะและประสบการณ์ด้านความปลอดภัยทางถนน จำนวน 6 ฐานการเรียนรู้ ประกอบด้วย ฐานการข้ามถนนบริเวณทางม้าลาย , ฐานการเรียนรู้เกี่ยวกับการเอาตัวรอดและช่วยเหลือตนเองในสถานการณ์ฉุกเฉิน และการเรียนรู้เกี่ยวกับการใช้อุปกรณ์ป้องกัน เช่น หมวกนิรภัยและเข็มขัดนิรภัย เป็นต้น นอกจากนี้ ยังสนุกสนานกับกิจกรรมนันทนาการอื่นๆ ทั้งการระบายสี การแสดงศิลปิน การตอบคำถามชิงรางวัลอีกด้วย

            ทั้งนี้มีกลุ่มเป้าหมายเป็นเด็กและเยาวชนจากโรงเรียนอนุบาลสตูล , โรงเรียนเทศบาล 1 (วัดสตูลสันตยาราม) ,โรงเรียนเทศบาล 3 (บ้านหัวทาง) , โรงเรียนเทศบาล 4 (บ้านศาลากันตง) , โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 42 จังหวัดสตูล และโรงเรียนบ้านคลองขุด ซึ่งเป็นนักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 – 6 เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 350 คน กิจกรรมดังกล่าวจะเป็นเครื่องมือในการปลูกฝังให้เด็กและเยาวชนเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีจิตสำนึกด้านความปลอดภัยและมีวินัย นำไปสู่การป้องกันอุบัติเหตุทางถนนได้อย่างยั่งยืนต่อไป
……………………………

Categories
ท้องถิ่น-การเมือง เยาวชน-การศึกษา

 ชาวบ้านเขาขาวนำไก่ตัวโปรดร่วมแข่งขันประชันเสียงไก่ขัน ในงานยกระดับเศรษฐกิจฐานรากชุมชนต้นแบบ สร้างสีสันต์ในชุมชน 

สตูล_ชาวบ้านเขาขาวนำไก่ตัวโปรดร่วมแข่งขันประชันเสียงไก่ขัน ในงานยกระดับเศรษฐกิจฐานรากชุมชนต้นแบบ สร้างสีสันต์ในชุมชน

สิ้นเสียงนกหวีดดัง เจ้าของไก่แจ้พันธุ์พื้นเมืองต่างส่งเสียงและท่าทางสนุกสนาน ส่งสัญญานให้ไก่ตัวโปรดขันร้อง เพื่อเรียกคะแนน ภายในสนามแข่งขันประชันเสียงไก่แจ้ โดยสนามนี้มีผู้ร่วมแข่งขันทั้งหมด 20 ทีม แข่งขันกัน 4 ยก ยกละ1 นาที ขันให้ได้รวม 8 ดอก หรือ ขัน 8 ครั้ง จะเป็นผู้ชนะ โดยนายเพิ่ม ตรีสุข เจ้าของไก่ชื่อ จะโก้ย หรือ ปาต้องโก๋ ได้รับชัยชนะในครั้งนี้ รับรางวัลที่เงินสด 500 บาท

ด้านนายอำสัน ตรีสุข อายุ 52 ปี ผู้จัดการแข่งขัน กล่าวว่า การแข่งขันประชันเสียงไก่ขัน มีการจัดขึ้นอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ตำบลเขาขาวแต่ได้หยุดไปช่วงโควิดระยะหนึ่ง ก่อนมาจัดขึ้นอีกครั้งเพื่อความสนุกสนานเป็นการอนุรักษ์ไก่แจ้ไว้ ซึ่งการแข่งขันนี้เป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมในพื้นที่เขาขาวมานาน โดยไก่แจ้เป็นไก่พื้นเมือง ที่จัดอยู่ในประเภทสัตว์สวยงามอยู่คู่สังคมไทยมาเป็นเวลานาน บางคนเลี้ยงไว้ดูเล่น

สำหรับการแข่งขันประชันเสียงไก่ขันเป็น 1 ในกิจกรรม ภายในโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตและยกระดับเศรษฐกิจฐานรากชุมชนต้นแบบ (เทศกาลตำข้าวเม่า ปี 2) ต.เขาขาว อ.ละงู จ.สตูล ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 16-17 สิงหาคม 2567 ณ ต.เขาขาว อ.ละงู จ.สตูล โดยนายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานในพิธีเปิดงาน โดยมี รศ.ดร.ทัศนา ศิริโชติ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา นายวรวุฒิ ปาละสัน นายกองค์การบริหารส่วนตำบลเขาขาว นายจักรพรรณ วัลแอ เลขาธิการสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยภาคใต้ , ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย จ.สตูล ส่วนราชการเข้าร่วม พร้อมมอบรางวัลการประชันเสียงไก่ขันในเวทีนี้

    

ผศ.ดร.วัชชพงษ์ ชัชวาลย์ คณบดีคณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา กล่าวว่า ภายในงานเทศกาลต่ำข้าวเม่า ปี 2 “โครงการยกระดับเศรษฐกิจฐานรากชุมชนต้นแบบ ต.เขาขาว อ.ละงู จ.สตูล มีการสัมมนาเชิงปฏิบัติการเรื่อง ประเพณีท้องถิ่นชุมชนเขาขาว และจัดงานเพื่อส่งเสริมอนุรักษ์ ฟื้นฟูประเพณีวัฒนธรรมอาหารพื้นถิ่นและการประกวดธิดาข้าวเม่าชุมชนเขาขาว ปีที่ 2” โดยภาคีเครือข่ายที่ร่วมจัดงาน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประภาคการศึกษา ที่ได้ผนึกกำลังกันเพื่อนำทุนทางวัฒนธรรมด้านต่างๆ ที่มีอยู่ในพื้นที่ตำบลเขาขาขาวมาจัดแสดงและประชาสัมพันธ์พื้นที่ให้คนภายนอก ได้รับรู้ผ่านการจัดงานเทศาล

การนำเอาศักยภาพของภาคส่วนต่าง ๆ ทั้งภาคเอกชน ประชาสังคม ชุมชนท้องถิ่น มาร่วมขับเคลื่อน รวมถึงการสนับสนุนการรวมตัวของประชาชนเพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนให้สอดคล้องกับความต้องการระดับพื้นที่บนฐานองค์ความรู้และความเข้าใจในบริบทในเชิงลึก นับเป็นการเสริมสร้างศักยภาพและความสามารถของประชาชน เฉพาะอย่างยิ่ง การเปิดโอกาสให้เกิดกระบวนการรวมตัวของประชากรทุกกลุ่ม ทุกเพศ ทุกวัย ในการร่วมคิด ร่วมลงมือพัฒนา เป็นพลังสำคัญในการสร้างโอกาสและความเสมอภาศในสังคมควบคู่ไปกับการดำเนินการของภาครัฐในการขับเคลื่อนไปข้างหน้า

การพัฒนาการท่องเที่ยวระดับชุมชนท้องถิ่นและเชิงพื้นที่ ถือเป็นการวางแผนที่เชื่อมโยงการพัฒนาเศรษฐกิจกับชุมชนแหล่งท่องเที่ยว การนำทุนทางศิลปวัฒนธรรมมาสร้างให้เกิดมูลค่าและคุณค่าใหม่ เป็นการเพิ่มโอกาสให้ทุกภาคส่วนในทุกระดับเข้ามาเป็นกำลังของการพัฒนา เป็นการสร้างพื้นที่สร้างความเข้าใจและยอมรับถึงคุณค่า และสร้างเป้าหมายหรือร่วมอย่างสร้างสรรค์
………………………

   

Categories
เยาวชน-การศึกษา

 สตูล-ดึงนักศึกษาชายแดนใต้ มีส่วนร่วม จัดงานกิจกรรมท่องเที่ยว  SKRU Camping สุดชิคใน ม.ราชภัฏสงขลา วิทยาเขตสตูล แคมป์ปิ้ง วัฒนธรรมรำมโนราห์ตัวอ่อน 

สตูล-ดึงนักศึกษาชายแดนใต้ มีส่วนร่วม จัดงานกิจกรรมท่องเที่ยว  SKRU Camping สุดชิคใน ม.ราชภัฏสงขลา วิทยาเขตสตูล แคมป์ปิ้ง วัฒนธรรมรำมโนราห์ตัวอ่อน 

         ผศ.ดร.อนุมัติ  เดชนะ  รองอธิการบดี ม.ราชภัฏสงขลา วิทยาเขตสตูล พร้อมด้วย  อาจารย์ ดร.ทวีสินธุ์  ตั้งเซ่ง  ผู้อำนวยการสำนักงานวิทยาเขตสตูล   เปิดเผยว่า ทางราชภัฎสงขลา วิทยาเขตสตูล นำร่องกิจกรรมแคมป์ปิ้ง พักเต้น เน้นของชุมชน ชูลานวัฒนธรรมศิลปะภาคใต้ ดันกิจกรรมนักศึกษา ในพื้นที่ชายแดนใต้ ภายใต้งานโครงการ การท่องเที่ยวเชิงเกษตรบนฐานการเรียนรู้ โคก หนอง นา  โมเดล เชื่อมรูปแบบแคมปิ้ง  ณ มหาวิทยาลัยราชภัฎสงขลา วิทยาเขตสตูล  โดยนายคณิต  คงช่วย  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล  เป็นประธานในพิธีเปิด

 

         บรรยากาศภายในงานมีลานกิจกรรมที่นำการแสดงของเด็กๆนักศึกษาที่เป็นเด็กในพื้นที่ได้มาเรียนกันที่นี่  รวมทั้งจัดเวทีการแสดงออกการร้องเพลง และการร่ายรำศิลปวัฒนธรรม รำมโนราห์ตัวอ่อนเป็นการเปิดพื้นที่ดีๆการกล้าแสดงออก นอกจากนี้มีการขายของจากสินค้า อาหารพื้นถิ่นของชุมชนในพื้นที่นำมาวางขาย และ มีจุดลานกางเตนท์  แคมป์ปิ้ง และมีคาเฟ่กิจรรมมาจัดโชว์ทั้งรถเก่า  ขี่ม้ารอบมหาวิทยาลัย 

 

         ด้าน ผศ.ดร.อนุมัติ  เดชนะ  รองอธิการบดี ม.ราชภัฏสงขลา วิทยาเขตสตูล กล่าวว่า กิจกรรมนี้เป็นการนำร่องจัดงานครั้งแรก ภายใต้ชื่อว่า SKRU Camping สุดชิคใน ม.ราชภัฏสงขลา วิทยาเขตสตูล บรรยากาศการตั้งแคมป์ปิ้งในมหาลัยราชภัฏสงขลา วิทยาเขตสตูล  ซึ่งเป็น 1 กิจกรรมในโครงการศูนย์เรียนรู้ เพื่อการพัฒนาการบริหารจัดการทรัพยากรชุมขนอย่างยั่งยืน ที่คณะอาจารย์จัดขึ้น  จัดเพียง 1 วัน การนำร่องปีนี้โดยปีหน้าดึงหลายภาคส่วนมาร่วมจัดงานใหญ่กว่าเดิม

 

          การจัดงานและสัมมนาเพื่อถ่ายทอดองค์ความรู้และการจัดการท่องเที่ยวเชิงเกษตรบนฐานการเรียนรู้โคกหนองนาโมเดลเชื่อมโยงรูปแบบแคมป์ปิ้งและลานกิจกรรมวัฒนธรรมของนักศึกษาซึ่งจังหวัดสตูลเองนั้น  ทางจังหวัดก็มุ่งเน้นให้ความสำคัญกับการพัฒนาท้องถิ่นและชุมชนตลอดมา  ซึ่งกิจกรรมนี้ก็สอดคล้องกับยุทธศาสตร์รวมทั้งมหาวิทยาลัยราชภัฏที่เป็นมหาวิทยาลัยเพื่อการพัฒนาท้องถิ่นอยู่แล้วนั้น  การจัดงานครั้งนี้จึงเป็นการส่งเสริมให้ชุมชนมีความเข้มแข็งบนฐานของการมีส่วนร่วมในทุกภาคส่วน  พร้อมทั้งเป็นการสื่อให้เห็นถึงการยกระดับและเพิ่มมูลค่าการดำเนินงานกิจกรรมต่างๆไม่ว่าจะเป็นแคมป์ปิ้งการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและกิจกรรมวัฒนธรรมและการนำเด็กในพื้นที่ชายแดนภาคใต้อย่างดึกสตูลร่วมมีกิจกรรมถือเป็นเรื่องที่ดีและในรูปแบบแคมป์ปิ้งพร้อมกับเป็นการนำอาหารพื้นถิ่นขนมอร่อยของชุมชนมาชูโรงพัฒนาชุมชนแบบยั่งยืนมีรายได้ต่อไป

      ……………………………………………….

Categories
เยาวชน-การศึกษา

 มูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์  และวิทยากรอาสาสมัครการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานเครือเจริญโภคภัณฑ์ติดความรู้เยาวชน  คืนชีวิตด้วย CPR

สตูล- มูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์  และวิทยากรอาสาสมัครการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานเครือเจริญโภคภัณฑ์ติดความรู้เยาวชน  คืนชีวิตด้วย CPR

        นักเรียน 240 คน จากโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 42 จังหวัดสตูล  กำลังฝึกการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานอย่างถูกต้อง หรือ ซีพีอาร์  ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในกิจกรรมการฝึกอบรมการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567

 

         โดยกิจกรรมในครั้งนี้มูลนิธิหัวใจแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์  โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ และวิทยากรอาสาสมัครการช่วยชีวิตขั้นพื้นฐานเครือเจริญโภคภัณฑ์เข้ามาสนับสนุนต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่ 14 และในครั้งนี้มีนักเรียนเข้ารับการอบรมจำนวน  240 คน  เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนและประชาชนมีจิตอาสา มีทักษะและความมั่นใจ ในการทำ ซีพีอาร์และการใช้เครื่องช็อกหัวใจไฟฟ้าอัตโนมัติ ช่วยชีวิตผู้ประสบเหตุหมดสติ  ไม่หายใจ และหัวใจหยุดเต้นกะทันหัน ให้ทันเวลาภายใน  4 นาที 

 

         ทักษะเบื้องต้นนี้ยังเป็นการคืนชีพกลับมาด้วยสภาวะสมองไม่ได้รับการเสียหายจากการขาดออกซิเจน  สามารถกลับไปใช้ชีวิตอย่างปกติสุขได้ต่อไปได้  และเพื่อสร้างเสริมคุณธรรมและสร้างเสริมคุณภาพชีวิตให้แก่เยาวชนและประชาชนทั่วไป เพื่อเพิ่มมาตรฐานความปลอดภัยในการดำรงชีวิตของคนไทยอีกด้วย

          นายรัชนนท์  เพ็งแก้ว  อายุ 17 ปี ม.6  โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 42 จังหวัดสตูล  บอกว่า  ขั้นตอนการช่วยชีวิต เพราะอุบัติเหตุเกิดขึ้นไม่ทราบเวลา หากมีความรู้ติดตัวไว้สามารถช่วยคนในสังคมและคนใกล้ตัวได้ โดยได้มีการสอนเช็คการหายใจอยู่หรือไม่ หากไม่ได้สอนให้มีการปั๊ม CPR

 

            นางปุณฑริกา  ลินฮาท  ผู้ชำนาญการอาวุโสสำนักบริหารโครงการพิเศษเครือเจริญโภคภัณฑ์ บอกว่า  มุ่งหวังว่าจะเผยแพร่การช่วยชีวิต การใช้เครื่องมือ โดยคำนึงถึงการช่วยเหลือหากเจอคนหัวใจหยุดเต้น ประชาชนคนแรกที่อยู่ใกล้ชิดผู้ประสบเหตุจะเป็นคนแรกที่คืนชีวิตให้กับเขาได้ ฉะนั้นในการ CPR จะต้องมีการเรียน และฝึกปฏิบัติที่ถูกต้องและชำนาญจะได้ช่วยชีวิตพวกเขาได้ เครือเจริญโภคภัณฑ์จึงทำโครงการนี้มาเพื่อให้ประชาชนทั่วไปมีความรู้ และมีทักษะ ปั๊มหัวใจอย่างถูกต้องและรอดปลอดภัย

……………………………………

Categories
เยาวชน-การศึกษา

 สตูลปั้นเชฟตัวน้อย ต่อยอดอาชีพให้โรงเรียนขยายโอกาส

สตูลปั้นเชฟตัวน้อย ต่อยอดอาชีพให้โรงเรียนขยายโอกาส

         ขนมโดนัทหลากหลายสีสันที่ชวนให้รับประทานและขนมไทยเหล่านี้เป็นฝีมือของน้องๆนักเรียนที่โรงเรียนบ้านทุ่งมะปรัง หมู่ที่ 1 ตำบลวังประจัน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล  ที่เด็กๆทุกคนเข้าร่วมโครงการฝึกอาชีพได้ช่วยกันทำออกมา  เพื่อเป็นอาหารว่าง ส่งขายสหกรณ์โรงเรียน  และตามออเดอร์สั่ง  โดยมีคุณครูช่วยเป็นพี่เลี้ยง

          โดยน้องๆบอกว่าโดนัทจิ๋วมีส่วนผสมไม่มาก อาทิ  แป้งเค้ก  ไข่ไก่  น้ำตาลทราย  นมจืด   ผงฟู   เกลือ เป็นต้น   เด็กๆพูดเป็นเสียงเดียวกันว่าชื่นชอบขนมชนิดนี้เนื่องจากมีสีสันสวยงามชวนรับประทาน  และสนุกกับการได้ตกแต่งหน้าตาของโดนัทจิ๋ว  นอกจากนี้ก็ยังมีการฝึกขนมไทยอย่างขนมลืมกลืน  น้ำเครื่องดื่มที่นิยมรับประทานกัน ทั้งชาเขียวชาเย็นและน้ำเก๊กฮวย   ทำเสริมเป็นชุดเบรคในห้องประชุมต่างๆ

         นางสาวสุพัชรี  ขำนุรักษ์  นักเรียน ชั้น ม.3  โรงเรียนบ้านทุ่งมะปรัง ต.วังประจัน  บอกว่า ชื่นชอบการทำขนมมาก อยากเปิดร้านคาเฟ่เป็นของตัวเอง อยากแต่งหน้าเค้กและทำเมนูที่มีลาวาไหลออกมาจากขนมโดยส่วนตัวก็ชื่นชอบทานขนมเหล่านี้ด้วย

         โรงเรียนบ้านทุ่งมะปรัง  เป็นโรงเรียนขยายโอกาสขนาดเล็ก  มีนักเรียนเพียง 140 คน การนำอาชีพมาฝึกสอนให้กับเด็ก ถือเป็นการฝึกทักษะและหาประสบการณ์ ให้กับเด็กที่ชื่นชอบและหลงรักในการทำอาหารและขนม ซึ่งได้มีการทำ MOU ร่วมกันกับวิทยาลัยเทคนิคสตูลในการเข้ามาฝึกสอนเสริมความรู้ให้  เพื่อให้เด็กได้รู้ตัวตนของตัวเองหากชื่นชอบจะได้มีการต่อยอดด้านการเรียนรู้  ในการสร้างงานและรายได้ต่อไป

        นางสาวนาฎนธี  ผิวเหลือง  ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านทุ่งมะปรัง  บอกว่า  เมนูอาหารว่าง  ทุกครั้งที่มีหน่วยงานมาดูงานที่โรงเรียนอยากโชว์ให้หน่วยงานที่สนใจ และหน่วยงานที่สนับสนุนได้เห็นว่ามีการพัฒนาฝีมือและสนับสนุนของน้องๆนักเรียน นอกจากจะเป็นการก่อให้เกิดรายได้ระหว่างเรียนแล้วเด็กสามารถนำไปต่อยอดเรียนต่อในสาขาอาชีพที่เขารักในด้านนี้ได้  เพื่อเป็นทางเลือกให้กับนักเรียนเพื่อจะได้ค้นหาตัวเองให้เจอ  และมีวิทยาลัยที่จะแนะนำเพื่อต่อยอดส่งเสริมด้านอาชีพต่อไป

          สำหรับหน่วยงานใดหรือองค์กรใดสนใจจะรับอาหารเบรคอุดหนุนนักเรียน  สามารถติดต่อได้ที่โรงเรียนบ้านทุ่งมะปรังโทร 088-789 4418 

……….

Categories
ข่าวทั่วไป เยาวชน-การศึกษา

เด็กหญิงวัย 7 ขวบ บกพร่องทางร่างกาย ขอโอกาสเรียนหนังสือ  ด้านตำรวจสตูลสานฝันส่งน้องเข้าเรียน  คุณแม่อยากให้บุตรสาวยืนหยัดอยู่ในสังคมได้ 

เด็กหญิงวัย 7 ขวบ บกพร่องทางร่างกาย ขอโอกาสเรียนหนังสือ  ด้านตำรวจสตูลสานฝันส่งน้องเข้าเรียน  คุณแม่อยากให้บุตรสาวยืนหยัดอยู่ในสังคมได้

         หลายครอบครัวเริ่มเตรียมความพร้อมก่อนเปิดภาคเรียน ในปีการศึกษา 2567  ขณะที่นักเรียนหลายคนในพื้นที่ชนบทยังไม่สมัครเรียน  อย่างเช่นกรณีเด็กหญิงวัย 7 ขวบ  ที่มีความบกพร่องทางร่างกาย เดินไม่ไม่ได้  แต่อยากเรียนหนังสือ   โดยคุณแม่ขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ  ในโอกาสที่ตำรวจ  สภ.ฉลุง  เข้าเยี่ยมเยียนครอบครัว  ตามโครงการ 1  ตำรวจ  1  หมู่บ้าน  เพื่อให้บุตรที่บกพร่องทางร่างกายได้รับโอกาสเรียนหนังสือในโรงเรียนรัฐ  หลังไม่แน่ใจว่าทางโรงเรียนจะรับน้องที่บกพร่องทางร่างกายเข้าเรียนหนังสือหรือไม่

 

          ที่โรงเรียนอนุบาลเมืองสตูล  ต.ฉลุง  อ.เมือง  จ.สตูล  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ฉลุง  นำโดย พ.ต.อ.บุญเลิศ  ตรัสศิริ  ผกก.สภ.ฉลุง  พร้อมคุณแม่และพี่สาวของเด็กหญิงวัย 7 ขวบ  ซึ่งมีความบกพร่องทางร่างกาย ต้องนั่งวีลแชร์  มาส่งที่โรงเรียนเพื่อสมัครเข้าเรียน ในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1  โดยมี นายวารุทธิ์  ช่างเหล็ก ผอ.โรงเรียนอนุบาลเมืองสตูล  พร้อมคณะครู และครูที่ปรึกษาประจำชั้น  ให้การต้อนรับพร้อมประเมินความพร้อมของนักเรียน  และวางแผนการให้ความช่วยเหลือนักเรียนขณะเรียนหนังสือร่วมกับเพื่อน

         

         โอกาสนี้  เด็กหญิงวัย 7 ขวบ  ได้ขับร้องอัลนาชีด ซึ่งเป็นความสามารถในการทำกิจกรรมที่โรงเรียนเดิม  เมื่อร้องจบได้รับเสียงปรบมือเป็นกำลังใจจากพี่ๆตำรวจและคณะครู  ด้านเด็กหญิงวัย 7 ขวบ  บอกว่า   อยากเรียนที่นี่เพราะชอบเรียน   ชอบวิชาภาษาอังกฤษเพราะภาษาอังกฤษทำให้หนูสมองดีและอ่าน  A B C   ได้  โตไปอยากเป็นคุณหมอรักษาคนป่วย

         

          ทางด้านคุณแม่เด็กหญิงวัย 7 ขวบ   ยอมรับว่า อยากให้น้องมีความรู้  มีภูมิคุ้มกัน  เติบโต  ยืนหยัดด้วยตัวเองอยู่ท่ามกลางสังคมปัจจุบันให้ได้    และยังบอกอีกว่า  ตัวน้องมีความพร้อมที่อยากเรียนที่นี่   เพราะมีญาติมาเรียนด้วย  สำหรับร่างกายน้องปกติเพียงแต่ไม่มีกระดูกตั้งแต่เกิดเท่านั้นเอง   ส่วนตัวรู้สึกดีใจมากๆที่ทางตำรวจเข้ามาช่วย  ส่วนที่กังวลเพราะน้องเดินไม่ได้คุณครูคนเดียวต้องรับผิดชอบหลายคน  จะให้คุณครูมาดูนักเรียนคนเดียวก็คงจะเป็นไปไม่ได้   

           ด้าน นายวารุทธิ์  ช่างเหล็ก ผอ.โรงเรียนอนุบาลเมืองสตูล  กล่าวว่า  เมื่อได้พบวันนี้ได้ทำการทดสอบแล้ว   ในส่วนของน้องก็มีความพร้อมทางสติปัญญา แต่บกพร่องทางด้านร่างกายในส่วนอื่นทางโรงเรียนอนุบาลเมืองสตูลก็ยินดี ที่จะดูแลน้องเป็นอย่างดี   เหมือนกับนักเรียนทั่วไปแต่จะดูแลเพิ่มเป็นพิเศษในการช่วยเหลือต่างๆในเบื้องต้นก่อน   ทางด้านการเรียนการสอนเชื่อเหลือเกินว่า    ที่โรงเรียนอนุบาลเมืองสตูล   โดยเฉพาะคุณครูสายชั้น ป. 1 ป. 2 ป. 3 จะดูแลนักเรียนเป็นอย่างดี   ก็อยากจะให้เชื่อมั่นและเชื่อใจกับโรงเรียนของเรา

 

          ทางด้าน  พ.ต.อ.บุญเลิศ  ตรัสศิริ  ผกก.สภ.ฉลุง  กล่าวว่า  โครงการ  1  ตำรวจ  1  หมู่บ้าน  ตำรวจก็ได้ขับเคลื่อนโครงการดังกล่าวมาเป็นระยะเวลาหนึ่งแล้ว  โดยเฉพาะในส่วนของจังหวัดสตูลนั้นผู้บังคับการตำรวจภูธรสตูล   ให้ความสำคัญกับโครงการนี้เป็นอย่างมาก  จะเน้นหนักในเรื่องของการลงไปพบปะเยี่ยมเยียนชาวบ้าน   เพื่อปรับแผน   วางแผนในการป้องกันอาชญากรรมป้องกันยาเสพติดในหมู่บ้าน   รวมถึงปัญหาอื่นๆที่ชาวบ้านจะฝากทางตำรวจมาประสาน  

 

        เช่นกรณีนี้   ตำรวจที่รับผิดชอบ หมู่ 1 ตำบลฉลุง   ก็ได้รับแจ้งจากผู้ปกครองขณะลงไปเยี่ยมเยียน  ว่ามีลูกซึ่งมีความผิดปกติทางด้านร่างกายตั้งแต่กำเนิด   ทางครอบครัวอยากให้ลูกเข้ารับการศึกษาในโรงเรียนรัฐบาลที่ในระดับชั้นประถมศึกษา  ส่วนตัวน้องก็มีความตั้งใจและเป็นเด็กนักกิจกรรมเก่าของโรงเรียนแต่ไม่กล้าที่จะมาสมัคร  กลัวว่าทางโรงเรียนจะไม่รับ   ก็ถือโอกาสที่ทางตำรวจไปเยี่ยมเยียนขอช่วยให้ตำรวจประสานกับทางโรงเรียน

 

          วันนี้จึงนัดมาเพื่อสมัครและหารือความเป็นไปได้   ก็ดีใจที่วันนี้ทางผอ. และคุณครูมีใจ   ถึงแม้ห้องเรียนของน้องจะเต็มแล้ว   แต่เห็นความต้องการของน้องและเห็นความสามารถในการช่วยเหลือตัวเอง   ทางโรงเรียนก็ยินดีที่จะรับเข้าการศึกษาที่นี่   และจะมีการปรับปรุงทางกายภาพของโรงเรียน   เพื่อให้น้องใช้ชีวิตขณะมาเรียนและใช้ชีวิตประจำวันภายในโรงเรียนได้    ในส่วนของตำรวจสตูลก็ดีใจ  ต้องขอขอบคุณทางโรงเรียนด้วยที่ให้การช่วยเหลือน้องและครอบครัว

 

           โอกาสนี้  ผกก.สภ.ฉลุง  กล่าวอีกว่า  น้องได้รับการสนับสนุนวีลแชร์ตัวหนึ่งจากภาครัฐ   แต่เป็นวีลแชร์สำหรับผู้ใหญ่   ซึ่งสรีระไม่เหมาะกับการใช้ชีวิตของน้อง   ในส่วนนี้ทางตำรวจภูธรฉลุง  และภาคีเครือข่าย  จะช่วยกันจัดหาวีลแชร์ที่เป็นไซด์ของน้อง   เพื่อความสะดวกในการใช้ชีวิตทั้งที่บ้านและที่โรงเรียน   หากผู้มีจิตศรัทธาอยากจะสนับสนุนการศึกษาของน้อง  ก็ยินดีที่จะได้รับการช่วยเหลือผ่านผู้ปกครองของน้อง  เบอร์โทร   099-4633213

 

          สำหรับโรงเรียนอนุบาลเมืองสตูล  เปิดการเรียนระดับชั้น อนุบาล 2 – ม.3  ปัจจุบันมีนักเรียน  242 คน

…………….

Categories
ข่าวทั่วไป เยาวชน-การศึกษา

 อบต.ฉลุง ดึงเยาวชนช่วงปิดภาคเรียน จัดฝึกอาชีพการทำก๋วยเตี๋ยวลุยสวน สลัดโรลและบลูเบอรี่ชีสพาย  

อบต.ฉลุง ดึงเยาวชนช่วงปิดภาคเรียน จัดฝึกอาชีพการทำก๋วยเตี๋ยวลุยสวน สลัดโรลและบลูเบอรี่ชีสพาย

           นายสุจริต ยามาสา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลฉลุง เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอาชีพ เด็กและเยาวชน หลักสูตรการทำก๋วยเตี๋ยวลุยสวน สลัดโรล และบลูเบอรี่ชีสพาย ประจำปีงบประมาณ 2567  พร้อมด้วย นายสาและ เส็นโกบ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลฉลุง  หัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วม ดำเนินโครงการโดยกองสวัสดิการสังคม ณ อาคารเอนกประสงค์ (อบต.ฉลุง) มีกลุ่มเป้าหมายเด็กและเยาวชนในพื้นที่เข้าร่วมจำนวน 30 คน โดยมีนางสาวพัชรี  พรหมพุด วิทยากรจากวิทยาลัยเทคนิคสตูล  และนางสาวปรียาภรณ์  จำนงพันธ์ ผู้ช่วยวิทยากร เป็นผู้ให้ความรู้ เพื่อให้เด็กและเยาวชนที่สนใจมีความรู้เกี่ยวกับอาชีพเสริมเป็นช่องทางสร้างรายได้ แก่ตนเองและครอบครัว ส่งเสริมสนับสนุนให้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์สนับสนุนให้เด็กและเยาวชนมีกิจกรรมในการพัฒนาตน

 

          นายสุจริต ยามาสา กล่าวว่า ในการฝึกอาชีพแก่เด็กและเยาวชนในวันนี้ ถือเป็นสิ่งที่ดีในการสร้างองค์ความรู้ และเพิ่มทักษะด้านอาชีพให้แก่เด็กและเยาวชน ได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์กับตนเองในช่วงปิดเทอม เด็กและเยาวชนสามารถเยาวชนสามารถนำองค์ความรู้ไปสร้างอาชีพเสริม เพื่อเป็นช่องทางสร้างรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว พร้อมทั้งเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้เครือข่ายเด็กและเยาวชนในพื้นที่ได้มีกิจกรรมในการพัฒนาเด็กและเยาวชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มเด็กและเยาวชนในตำบลฉลุง 

 

             นางสาวจัลวาตีย์ บังคม สมาชิกฝ่ายสวัสดิการ สภาเด็กและเยาวชนตำบลฉลุง กล่าวว่า   รู้สึกสนุก ได้ความรู้ สามารถไปถ่ายทอดได้เปิดร้านได้และคิดว่าอยากเข้าร่วมโครงการทุกปี

 

            นายซอฟรี  ดาราหมาน  ประธานสภาเด็กและเยวชตำบลฉลุง และนายตอฟิก  วัฒนะ รองประธานสภาเด็กและเยาวชนตำบลฉลุง กล่าวว่า สิ่งที่ได้รับสามารถนำไปต่อยอดได้ในชีวิตประจำวันในครอบครัวไม่มีเตาอบก็สามารถทำได้ และสามมารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ทำกินได้เป็นการลดน้ำหนัก และต่อยอดในอนาคต

……………………….

ศิริรัตน์ ทองอินทร์ / ถ่ายภาพ
อรุณี หลงหัน / ข่าว

Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา เยาวชน-การศึกษา

    สตูลเปิดหลักสูตร เสริมทักษะเอาตัวรอดเหตุจมน้ำลดการสูญเสียช่วงปิดเทอม  

สตูลเปิดหลักสูตร เสริมทักษะเอาตัวรอดเหตุจมน้ำลดการสูญเสียช่วงปิดเทอม

           ที่สระว่ายน้ำชุมชน  ต.ฉลุง  อ.เมือง  จ.สตูล    เด็ก เยาวชนจังหวัดสตูล  จำนวน 260 คน  เข้าร่วมฝึกทักษะว่ายน้ำจากโค้ชมืออาชีพ  ในกิจกรรม ฝึกทักษะว่ายน้ำเพื่อป้องกันการจมน้ำในกลุ่มเด็ก  เยาวชน  อายุ 6-14 ปี  ที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา  โดยสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสตูล  จัดโครงการ เด็กไทยว่ายน้ำได้ ประจำปี 2567  ขึ้น  ระหว่างวันที่ 18-25 เมษายน 2567  โดยเปิดสอนจำนวน  4 รุ่น  ในช่วงปิดภาคเรียน

 

         ด.ช.อับดุสสลาม  ตาเดอิน  หรือ น้องเจ้านาย  วัย 12 ปี นักเรียนโรงเรียนพิมานพิทยาสรร  เป็นหนึ่งเยาวชนที่เข้าร่วมฝึกว่ายน้ำ  กล่าวว่า  สนุกครับ  แม่สนับสนุนให้มาผมจึงมาครับ  ช่วงนี้อากาศร้อนถือว่าได้ช่วยดับร้อน  แล้วก็ได้ฝึกทักษะเพิ่ม  จริงๆก็สามารถช่วยเหลือตัวเองได้  ในส่วนของเพื่อนๆที่ไปเล่นน้ำในช่วงปิดเทอมก็อยากให้ระมัดระวังด้วย  บางจุดน้ำอาจแรงเกิดอันตรายได้

 

           ด้านนางสาวรุ่งทิพา  สะอิ  คุณแม่น้องฟาเบรกัส วัย 6 ขวบ กล่าวว่า จริงๆแล้วเด็กๆว่ายน้ำไม่เป็น  แต่ชอบเล่นน้ำ  กิจกรรมส่วนใหญ่ของเด็กๆโดยเฉพาะวันหยุดหรือปิดเทอม  เราก็จะพาไปเล่นน้ำอยู่แล้ว  แต่เด็กๆไม่มีพื้นฐานว่ายน้ำก็เลยคิดว่าควรจะให้ลูกได้เรียนรู้  มีทักษะในการว่ายน้ำ   นอกจากว่ายน้ำเฉยๆแล้วยังได้ความรู้เรื่องการช่วยตัวเอง เวลาอยู่ในน้ำ   ถ้าเกิดอะไรขึ้นจะสามารถช่วยเหลือตัวเองได้อย่างไรบ้าง  มองเห็นความสำคัญของโครงการเลยคิดว่ามีประโยชน์กับลูก  เลยสมัครเข้าร่วมโครงการ

              นางสาวพฤทธิพร  เสือทอง  เจ้าหน้าพละศึกษาประจำอำเภอควนกาหลง (ครูฝึกว่ายน้ำ)   กล่าวว่า ระยะสั้นนี้เบื้องต้นเราจะเน้นให้เด็กลอยตัวได้ช่วยเหลือเบื้องต้นได้พอจะจมน้ำ  บางคนพอลงน้ำก็จมเลย แต่เบื้องต้นเด็กสามารถช่วยเหลือตัวเองได้  ในการตีน้ำมีการลอยตัวได้  เด็กที่ทักษะดีอย่างเด็กรุ่นแรกเรียนไปสามวันเด็กก็เริ่มลอยตัวได้แล้ว  พอลอยตัวได้ก็ให้ไปอีกทักษะหนึ่ง  คือทักษะการใช้มือ เริ่มเป็นท่าทางเช่น FREE Style

 

            เพื่อเพิ่มทักษะการว่ายน้ำและป้องกันอุบัติเหตุจากการจมน้ำของเด็ก และเยาวชน ในช่วงปิดภาคเรียน  นางปุณณานันท์ ทองหยู ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสตูล  กล่าวว่า  หลักๆแล้วของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาโดยกรมพลศึกษา  มุ่งที่จะให้เด็กซึ่งเป็นเยาวชนรู้จักทักษะการว่ายน้ำเป็นลำดับแรกและพัฒนาไปสู่การว่ายน้ำเป็นเล่นน้ำได้  ก็มีประโยชน์หลายอย่าง   ลำดับแรกคือในเรื่องของการว่ายน้ำเป็น  ก็สามารถที่จะพยุงชีวิตตัวเองได้  ช่วยเหลือนักท่องเที่ยวได้  ช่วยเหลือคนอื่นได้   อันนั้นประโยชน์แรก   ประโยชน์ที่สองถ้าทำไปแล้วเกิดความรัก   ทำบ่อยๆ  ก็สามารถที่จะพัฒนาไปสู่กีฬาว่ายน้ำได้   ในส่วนของเด็กๆที่อายุตั้งแต่  6 ขวบถึง 12 ขวบ  จำเป็นมากๆเพราะผู้ปกครอง ที่ดูแลเด็กอยู่   บางคนก็ไม่มีเวลาต้องทำมาหากิน   เลยต้องจัดคอร์สสอนขึ้นมาเพื่อให้เด็กได้เล่นน้ำและว่ายน้ำเป็น  ช่วยเหลือตัวเองได้  ช่วยเหลือคนอื่นได้อันดับแรก   จังหวัดสตูลเรามีสถิติเด็กจมน้ำเยอะมากในช่วงฤดูร้อน  เราไม่อยากให้มีการเสียชีวิต  คิดว่าเด็กที่พอจะว่ายน้ำเป็นก็สามารถที่จะสอนคนอื่นได้ด้วยผู้ปกครองก็น่าจะสบายใจมากขึ้น

……………………….

Categories
ข่าวทั่วไป เยาวชน-การศึกษา

ปลูกสำนึกต้นกล้าเยาวชน 50 คนร่วมปล่อยกุ้ง ปลูกป่า เรียนรู้ความอุดมสมบูรณ์ป่าชายเลน เพื่อร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งยั่งยืน

ปลูกสำนึกต้นกล้าเยาวชน 50 คนร่วมปล่อยกุ้ง ปลูกป่า เรียนรู้ความอุดมสมบูรณ์ป่าชายเลน เพื่อร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งยั่งยืน

         ที่เพ็ญทิพย์รีสอร์ท ตำบลพิมาน อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูลโดย   นาวาเอกแสนย์ไท    บัวเนียม รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล  ประธานเปิดงาน   พร้อมด้วย  เรือตรีบำรุง  ไตรญาณ  เจ้าหน้าที่ส่งกำลังบำรุง ศรชล.จังหวัดสตูล ศรชล.ภาค 3  รายงานถึงวัตถุประสงค์ในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง และ  สื่อมวลชน 

       ถึงการจัดกิจกรรมในครั้งนี้เพื่อ  “สร้างการรับรู้ในการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล” เพื่อขับเคลื่อนการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้เกิดความยั่งยืน ในกลุ่มเยาวชนเป้าหมาย 50 คน  จากโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 42  ที่มีการจัดขึ้นทุกปีโดยศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล   หรือ ศรชล.สตูล

          ที่เล็งเห็นว่าเยาวชนคือกำลังสำคัญในการมาร่วมดูแลการอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งให้ยั่งยืน  ด้วยการสร้างองค์ความรู้ การปลูกจิตสำนึก  การส่งเสริมการมีส่วนร่วมในการดูแล  ขับเคลื่อนรักษาทรัพยากรทางทะเลของชาติ 

           จากนั้นได้นำเยาวชนทั้ง 50 คน  ร่วมกิจกรรมปล่อยพันธุ์กุ้งกุลาดำ  50,000 ตัว  ที่ริมชายฝั่งป่าชายเลน   ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนที่ 24    ตำมะลัง-สตูล  ก่อนที่ปล่อยให้เยาวชนที่เดินชมป่าในเมือง  ที่มีป่าไม้โกงกางที่ขึ้นสวยงามและชื่นชม พันธุ์ไม้ป่าโกงกาง และปู ปลา  ที่อาศัยอยู่ร่วมกับไม้ป่าเป็นห่วงโซ่อาหารที่สำคัญของธรรมชาติ  ก่อนที่ทุกคนจะได้ร่วมกันปลูกป่าชายเลน  200 ต้น  ในพื้นที่ป่าในเมือง  เพื่อสร้างความภาคภูมิใจว่าเป็นส่วนหนึ่งในการร่วมดูแลปกป้องผืนป่าที่เป็นทรัพยากรทางทะเลที่สำคัญของชาติ

 

          นางสาวนภัสสร   แกสมาน  มัธยมศึกษาปีที่  5 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 42  บอกว่า  ป่าชายเลนมีประโยชน์มาก เป็นแหล่งอนุบาลสสัตว์น้ำ  เป็นป่าไม้ที่ให้ความร่มเย็น การช่วยกันปลูกป่าเพิ่มจะทำให้มีออกซิเจนเพิ่มมากขึ้น  อยากชวนมาร่วมปลูกป่าอนุรักษ์ทรัพยากรของเราให้ยั่งยืนค่ะ

          นางสาวเสาวลักษณ์  สุขพา    มัธยมศึกษาปีที่  5 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 42  บอกว่า  วันนี้ได้เรียนรู้ การปลูกป่า  การอนุรักษ์สัตว์น้ำ  การปลูกป่าที่ทดแทนในส่วนที่เสียไป เป็นกิจกรรมที่มีความสุขและสนุกมากค่ะ

          นายเอกชัย  เถรว่อง  ผอ.ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนที่ 24  ตำมะลัง-สตูล  กล่าวว่า  มีชุมชนร่วมอนุรักษ์ป่าชายเลน ต.คลองขุด ต.ปูยู  ทม.เมืองสตูล รวบรวมได้   13 ชุมชน แต่ละปีป่าชายเลนสตูลเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ การบุกรุกน้อยมาก  เพราะการมีส่วนร่วมของชุมชนและเครือข่าย  เพราะเยาวชนเป็นกำลังสำคัญในการอนุรักษ์ป่าชายเลน 

          ด้าน นาวาเอกแสนย์ไท    บัวเนียม รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล  กล่าวว่า   การสร้างผลประโยนชน์ของชาติเริ่มตั้งแต่  การปลูกป่าชายเลน เป็นถิ่นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำ เป็นทรัพยากรของชาติ การให้เยาวชนได้เรียนรู้สิ่งเหล่านี้ว่านี่คือแหล่งอาหาร  เป็นแหล่งรายได้  ทำให้เยาวชนได้เรียนรู้ ที่จะรักษาผลประโยชน์ของชาติต่อไป การทำกิจกรรมปล่อยปลา เรียนรู้วงจรของน้ำรักษาทะเล  ไม่ทำลายปะการัง ไม่ทำลายสัตว์น้ำ  สร้างความรู้ให้เยาวชน และขอฝากประชาชนทั่วไป  ขอให้ทุกคนหวงแหนรักษาไว้เพื่อลูกหลานคนในชาติของเรา  ได้เห็นความสำคัญเรื่องของผลประโยชน์ชาติที่มีความสำคัญมากเพื่อลูกหลานของเรา 

………………………………………………….