Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 สตูล-เกษตรกรสวนยาง 5 จังหวัดใต้ยื่นหนังสือวอนรัฐแก้ราคายางตกต่ำ ขู่ยกระดับเคลื่อนไหวหากยังนิ่งเฉย 

สตูล..เกษตรกรสวนยาง 5 จังหวัดใต้ยื่นหนังสือวอนรัฐแก้ราคายางตกต่ำ ขู่ยกระดับเคลื่อนไหวหากยังนิ่งเฉย

          วันที่ 22 เมษายน 2568 ที่ศาลากลางจังหวัดสตูล นายสันติ์ ดลภาวิจิตร ประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางจังหวัดสตูล และรองประธานเครือข่ายสถาบันเกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้ตอนล่าง ดูแล 5 จังหวัด  (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา และสตูล)

 

          ได้เดินทางเข้ายื่นหนังสือถึงหัวหน้าสำนักงานจังหวัดสตูล นายธนพัฒน์ เด่นบูรณะ  หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสตูล  พร้อมด้วย รักษาการหัวหน้าศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด , สำนักงานเกษตรและสหกรณ์จังหวัด และการยางแห่งประเทศไทยจังหวัดสตูล ร่วมรับหนังสือดังกล่าว เพื่อส่งต่อไปยังหน่วยงานระดับกระทรวงที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ

         สาระสำคัญของหนังสือร้องเรียนสะท้อนถึงความเดือดร้อนของเกษตรกรชาวสวนยางที่กำลังเผชิญกับภาวะราคายางพาราตกต่ำอย่างหนัก  โดยเฉพาะในช่วงเดือนเมษายนที่ผ่านมา  ราคายางแผ่นดิบลดลงอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยราว 10 บาทต่อกิโลกรัม  ส่งผลกระทบต่อรายได้ของเกษตรกรอย่างรุนแรง สาเหตุหลักเกิดจากการที่บริษัทและกลุ่มทุนใหญ่จงใจกดราคารับซื้อยางให้ต่ำกว่าความเป็นจริง โดยอ้างอิงนโยบายกำแพงภาษีจากสหรัฐอเมริกา ซึ่งในความเป็นจริง มาตรการดังกล่าวได้ถูกเลื่อนการบังคับใช้ออกไปอีก 90 วันแล้ว

 

         นายสันติ์ ดลภาวิจิตร กล่าวว่า ขณะนี้ราคายางพารา ได้ตกจับ 60 เหลือ 40 บาท เพียง 2 วันจากการประกาศ กำแพง ภาษีของสหรัฐอเมริกา เป็นผลให้ กลุ่มทุนถือเป็นการเอาเปรียบเกษตรกรอย่างไม่เป็นธรรม และฝ่าฝืนพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ.2542 อย่างชัดเจน เครือข่ายเกษตรกรทั่วประเทศจึงพร้อมใจยื่นหนังสือต่อศูนย์ดำรงธรรมทุกจังหวัดในวันเดียวกัน  เพื่อให้รัฐบาลตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชน และเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาโดยด่วน

ข้อเรียกร้องสำคัญในหนังสือ ได้แก่ 

  1. ให้รัฐกำหนดราคายางที่เป็นธรรมตามกฎหมาย
  2. ตรวจสอบพฤติกรรมการกดราคาจากกลุ่มทุน
  3. ควบคุมการขนย้ายยางพาราในพื้นที่ชายแดนเพื่อป้องกันการลักลอบนำเข้า
  4. ตรวจสอบบัญชีภาษีของบริษัทรับซื้อยางที่มีพฤติกรรมหลีกเลี่ยงภาษี
  5. อนุมัติโครงการสินเชื่อเงินกู้เพื่อรักษาเสถียรภาพราคายางวงเงิน 10,000 ล้านบาท

 

ทั้งนี้ เครือข่ายฯ ยืนยันว่าหากไม่มีการตอบสนองจากรัฐบาลภายใน 15 วันหลังได้รับหนังสือ กลุ่มเกษตรกรในพื้นที่จะยกระดับการเคลื่อนไหวทันที เพื่อปกป้องอาชีพหลักของตนที่มีสมาชิกกว่า 1 หมื่นรายในสตูล

 

“เราไม่ต้องการสร้างความวุ่นวาย เพียงแต่ต้องการความยุติธรรมให้กับอาชีพสุจริตของเรา หากรัฐยังนิ่งเฉย เราจำเป็นต้องยกระดับการชุมนุมอย่างสันติ” นายสันติ์กล่าวทิ้งท้าย

…….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 สตูลเปิดฤดู “ผสมพันธุ์ดอก เก็บผล แปรรูปสละ” ยกระดับสละสุมาลีสู่ผลไม้เศรษฐกิจแห่งท่าแพ

สตูลเปิดฤดู “ผสมพันธุ์ดอก เก็บผล แปรรูปสละ” ยกระดับสละสุมาลีสู่ผลไม้เศรษฐกิจแห่งท่าแพ

           สำนักงานเกษตรจังหวัดสตูลจัดกิจกรรมส่งเสริมการผลิตและแปรรูปสละคุณภาพ   เปิดเทคนิคผสมเกสรเพิ่มผลผลิตกว่า 70% พร้อมต่อยอดแปรรูปสละน้ำปลาหวานสร้างมูลค่าเพิ่ม

         

           บรรยากาศเต็มไปด้วยความรู้และความตื่นเต้น ณ แปลงต้นแบบการผลิตสละคุณภาพของนายประชา กาสาเอก หมู่ที่ 6 ตำบลท่าแพ อำเภอท่าแพ จังหวัดสตูล เมื่อสำนักงานเกษตรจังหวัดสตูลร่วมกับสำนักงานเกษตรอำเภอท่าแพ จัดกิจกรรม “ผสมดอก เก็บผล แปรรูปสละ” โดยมีนายหร่ออ๊บ มุเส็มสะเดา นายอำเภอท่าแพ เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนางสาวกำไลทิพย์ เศรษฐ์วิชัย เกษตรจังหวัดสตูล และคณะเจ้าหน้าที่ ร่วมถ่ายทอดความรู้ให้แก่เกษตรกรและผู้สนใจที่เข้าร่วมกิจกรรม

         

           กิจกรรมเริ่มต้นอย่างน่าสนใจด้วยการสาธิตเทคนิคการผสมเกสรดอกสละแบบต่างๆ ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญที่ช่วยเพิ่มอัตราการติดผล  จากเดิมที่เกิดขึ้นโดยธรรมชาติเพียง 20-30% ให้เพิ่มขึ้นเป็นกว่า 70%  นายอารีย์  โส๊ะสันสะ เกษตรอำเภอท่าแพ อธิบายพร้อมสาธิตเทคนิคการผสมเกสรทั้ง 4 วิธี ได้แก่ การเขย่าถุง การถูดอก การปักดอก และการพ่นเกสร  โดยเน้นการใช้เกสรตัวผู้ที่มีคุณภาพและจังหวะเวลาที่เหมาะสม

 

          “การผสมเกสรไม่ใช่แค่เพิ่มปริมาณการติดผล แต่ยังช่วยยกระดับคุณภาพของผลสละให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เนื้อแน่น และรสชาติหวานฉ่ำยิ่งขึ้นด้วย”

         แปลงสละของนายประชา กาสาเอก เป็นแปลงต้นแบบการผลิตสละคุณภาพ พื้นที่ 3 ไร่  ได้เปลี่ยนสภาพจากต้นยางพารา ปาล์มน้ำมัน มาปลูกสละสายพันธุ์สุมาลีมานานกว่า 3 ปี และได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP เมื่อปี 2567 ทำให้ผลผลิตเป็นที่ต้องการของตลาด เจ้าของแปลงเล่าถึงประสบการณ์การดูแลสละว่า “สละเป็นพืชที่ต้องการความชื้นและร่มเงาพอสมควร การจัดการระบบน้ำและปุ๋ยที่เหมาะสมเป็นปัจจัยสำคัญ ที่สำคัญคือการผสมเกสรที่ถูกวิธีจะช่วยให้ได้ผลผลิตที่มีคุณภาพสูง”

 

          จากนั้น คณะได้เดินชมสวนสละที่ปลูกอย่างเป็นระบบ โดยมีการจัดการแถวปลูก ระยะปลูก การให้น้ำ และระบบระบายน้ำที่เหมาะสม รวมถึงการปลูกต้นตัวผู้ร่วมประมาณ 10% เพื่อการผสมเกสรที่มีประสิทธิภาพ นางสาวกำไลทิพย์ เศรษฐ์วิชัย เกษตรจังหวัดสตูล กล่าวว่า “อำเภอท่าแพมีศักยภาพสูงในการผลิตสละคุณภาพ ด้วยผลผลิตเฉลี่ยสูงถึง 1,156 กิโลกรัมต่อไร่ และสละสุมาลีมีจุดเด่นที่เนื้อหนา กลิ่นหอม รสหวานฉ่ำ ถือเป็นจุดขายสำคัญ”

          ไฮไลท์สำคัญของงานคือการสาธิตการแปรรูปสละน้ำปลาหวาน ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มและยืดอายุการเก็บรักษาผลผลิต   เจ้าหน้าที่สาธิตขั้นตอนการคัดเลือกสละที่มีคุณภาพ การปอกเปลือก แกะเมล็ด และการหมักกับน้ำปลาหวานตามสูตรเฉพาะ ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้เข้าร่วมงานอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีการแนะนำผลิตภัณฑ์แปรรูปอื่นๆ เช่น สละลอยแก้ว และสละทรงเครื่อง ที่สามารถพัฒนาเป็นสินค้า OTOP ของชุมชน

 

           “เราต้องการส่งเสริมให้เกษตรกรพัฒนาทั้งต้นน้ำ กลางน้ำ และปลายน้ำ ตั้งแต่การผลิตที่มีคุณภาพ การเก็บเกี่ยวที่ถูกต้อง และการแปรรูปที่หลากหลาย เพื่อลดความเสี่ยงจากความผันผวนของราคาและเพิ่มช่องทางสร้างรายได้” นายหร่ออ๊บ มุเส็มสะเดา นายอำเภอท่าแพ กล่าวทิ้งท้าย

 

           สำนักงานเกษตรจังหวัดสตูลพร้อมให้การสนับสนุนเกษตรกรผู้สนใจในการปลูกสละอย่างครบวงจร ทั้งด้านองค์ความรู้ เทคโนโลยีการผลิต และช่องทางการตลาด เพื่อส่งเสริมให้สละกลายเป็นผลไม้เศรษฐกิจสำคัญที่สร้างรายได้อย่างยั่งยืน ให้กับเกษตรกรในพื้นที่ต่อไป

 

           สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติม 0652393811 , 0805457923

……………………………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

สตูล-ต้นตะเคียนยักษ์อายุกว่า 100 ปี ล้มทับบ้าน 4 ครอบครัวกลางดึก – เคราะห์ดีไร้คนเจ็บ หลังเจ้าของไปงานมัสยิดที่กรุงเทพฯ

สตูล-ต้นตะเคียนยักษ์อายุกว่า 100 ปี ล้มทับบ้าน 4 ครอบครัวกลางดึก – เคราะห์ดีไร้คนเจ็บ หลังเจ้าของไปงานมัสยิดที่กรุงเทพฯ

         เมื่อเวลาประมาณ 02.30 น. ของวันนี้ เกิดเหตุต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับบ้านเรือนประชาชนในชุมชนซอยม้าขาว ตำบลพิมาน อำเภอเมือง จังหวัดสตูล โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นที่พักอาศัยของ 4 ครอบครัว รวมทั้งหมด 11 คน ซึ่งมีเด็กจำนวนมาก โชคดีที่ช่วงเกิดเหตุไม่มีใครอยู่บ้าน เนื่องจากทุกคนได้เดินทางไปร่วมงานประจำปีที่มัสยิดในกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และมีกำหนดเดินทางกลับในวันอาทิตย์

 

         นางสาวดาหวัน เส็นดาหวัน อายุ 37 ปี หนึ่งในสมาชิกครอบครัวที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุเธอกำลังนอนพักผ่อนอยู่ในบ้านได้ยินเสียงดังโครมสนั่นจนสะดุ้งตื่น เมื่อตรวจสอบจึงพบว่าต้นไม้ขนาดใหญ่ได้ล้มทับบ้านของพี่สาวจนได้รับความเสียหายอย่างหนัก หลังเกิดเหตุไฟฟ้าในพื้นที่ได้ดับลงทันที และมีการตัดไฟเพื่อความปลอดภัย

        จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าต้นไม้ที่ล้มลงเป็นต้นตะเคียนขนาดใหญ่ อายุกว่า 100 ปี ชาวบ้านเชื่อว่าสาเหตุเกิดจากฝนตกต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน ทำให้พื้นดินชุ่มน้ำและอ่อนตัว จนไม่สามารถพยุงน้ำหนักของต้นไม้ได้

 

       ล่าสุดนายกิติศักดิ์ มูสิกสง นายกเทศมนตรีเมืองสตูล  สั่งการ เจ้าหน้าที่จากเทศบาลเมืองสตูลได้เข้าพื้นที่เพื่อตัดกิ่งไม้และเคลียร์ซากต้นตะเคียนออกจากบ้าน พร้อมทั้งเตรียมวางแผนให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบเหตุอย่างเร่งด่วน

……………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

 สตูลเดินหน้าขับเคลื่อนศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน เน้นการสร้างเครือข่ายสื่อมวลชนในพื้นที่

สตูลเดินหน้าขับเคลื่อนศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน เน้นการสร้างเครือข่ายสื่อมวลชนในพื้นที่

          วันนี้ (9 เม.ย. 68) ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัด ชั้น 4 ตำบลคลองขุด อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสตูล  จัดกิจกรรมขับเคลื่อนศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชนจังหวัดสตูล ร่วมกับภาคีเครือข่ายด้านสังคมและสื่อมวลชนท้องถิ่นในพื้นที่จังหวัดสตูล โดยมีนางวิไลวรรณ สุวรรณรักษา พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสตูล เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยผู้บริหารกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล อาสาสมัคร และสื่อมวลชน เข้าร่วม เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่ายด้านสังคมและสื่อมวลชนท้องถิ่น พร้อมทั้งเผยแพร่สิทธิสวัสดิการที่ประชาชนพึงได้รับ

         กิจกรรมในครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของการขับเคลื่อนภารกิจของ ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์  มีภารกิจหลักในการเร่งรัดและบูรณาการการให้ความช่วยเหลือประชาชนกลุ่มเปราะบางและผู้ประสบปัญหาทางสังคมให้เข้าถึงสิทธิและสวัสดิการของรัฐได้อย่างรวดเร็ว  ทั่วถึง  และเป็นธรรม  โดยเฉพาะการช่วยเหลือในเชิงรุกผ่านความร่วมมือของเครือข่ายในพื้นที่

          ทั้งนี้ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ มีภารกิจสำคัญในการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น เด็ก ผู้สูงอายุ คนพิการ ผู้ด้อยโอกาส และผู้ประสบปัญหาทางสังคม ผ่านการสนับสนุนสวัสดิการสังคม การคุ้มครองสิทธิ การเสริมสร้างความเข้มแข็งของสถาบันครอบครัวและชุมชน ตลอดจนการส่งเสริมความเท่าเทียมและลดความเหลื่อมล้ำในสังคม เพื่อให้ประชาชนสามารถดำรงชีวิตได้อย่างมั่นคงและมีศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์

อัพเดทล่าสุด
Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

จังหวัดสตูลเปิดศึกตกปลานานาชาติ “ตันหยงโปฟิชชิ่ง 2025” กระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยว

จังหวัดสตูลเปิดศึกตกปลานานาชาติ “ตันหยงโปฟิชชิ่ง 2025” กระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยว

         จังหวัดสตูลเตรียมจัดการแข่งขันกีฬาตกปลาระดับนานาชาติ “ตันหยงโปฟิชชิ่ง 2025” ระหว่างวันที่ 19-20 เมษายน 2568 ณ ลานกิจกรรม ตำบลตันหยงโป อำเภอเมืองสตูล เพื่อยกระดับการท่องเที่ยวและกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่

 

        นายธนพัฒน์ เด่นบุรณะ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสตูล เป็นประธานในการแถลงข่าวเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2568 ณ ร้าน The Sea ตำบลตันหยงโป โดยมีนางสาวภัชกุล ตรีพันธ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสตูล พร้อมด้วยนายเสนีย์ เหมนะ รองปลัดองค์การบริหารส่วนตำบลตันหยงโป   นายอาเล็น ระสุโส๊ะ นายกสมาคมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดสตูล  ผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ร่วมงาน

 

       การแข่งขันครั้งนี้ใช้เรือหัวโทงจำนวน 30 ลำ รับสมัครผู้เข้าแข่งขัน 30 ทีม ทีมละ 3 คน รวม 90 คน ชิงเงินรางวัลรวม 60,000 บาท โดยแบ่งการแข่งขันเป็น 5 ประเภทปลาเกม ได้แก่ ปลากะพงขาว ปลากระเบน ปลาอังเกย (อั่งจ้อ) ปลาสาก และปลารวม แต่ละประเภทมีเงินรางวัล 12,000 บาท แบ่งเป็นรางวัลที่ 1 จำนวน 5,000 บาท รางวัลที่ 2 จำนวน 4,000 บาท และรางวัลที่ 3 จำนวน 3,000 บาท

          นายเสนีย์ เหมมะ รองปลัด อบต.ตันหยงโป กล่าวว่า “ตันหยงโปเป็นประตูเปิดการท่องเที่ยวของอำเภอเมืองให้มีสีสัน เป็นประตูสู่เกาะตะรุเตา และจะเติบโตขึ้นเรื่อยๆ ด้วยความพร้อมของคนในพื้นที่ อนาคตจะยกระดับเป็นแหล่งท่องเที่ยวระดับภูมิภาค”

 

        ตันหยงโปเป็นที่รู้จักในฐานะ “สวรรค์ของนักตกปลา” เนื่องจากมีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ ทั้งป่าชายเลนยาว 195 กิโลเมตร แหล่งอาหารทะเลสด และทิวทัศน์พระอาทิตย์ขึ้น-ตกที่สวยงาม นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวอื่นๆ เช่น สันหลังมังกร สะพานตาโลวาว และสะพานท่าเรือหลักสี่

        ผู้สนใจสามารถสมัครเข้าร่วมการแข่งขันได้ตั้งแต่วันที่ 8 เมษายน 2568 เป็นต้นไป จนกว่าจะครบจำนวน สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 066-023-8888, 081-599-3512 หรือสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสตูล โทร. 074-711225

อัพเดทล่าสุด
Categories
ท้องถิ่น-การเมือง

พลังเสื้อขาวสตูลยืนหยัด “ไม่เอาบ่อนกาสิโน” พร้อมยกระดับประท้วงหากรัฐบาลดันกฎหมายผ่าน

พลังเสื้อขาวสตูลยืนหยัด “ไม่เอาบ่อนกาสิโน” พร้อมยกระดับประท้วงหากรัฐบาลดันกฎหมายผ่าน

กลุ่มประชาชนชาวสตูลกว่า 50 คนรวมตัวสวมเสื้อขาวหน้าศาลากลางจังหวัด ประกาศจุดยืนคัดค้านร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แม้รัฐบาลประกาศเลื่อนการเสนอญัตติ แต่ผู้ชุมนุมยืนยันไม่วางใจและพร้อมยกระดับการประท้วงถึงรัฐสภาหากมีการดันกฎหมายต่อ

วันนี้ (9 เม.ย. 2568) ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสตูล กลุ่มประชาชนผู้คัดค้านกาสิโนได้เดินทางมาตามนัดหมายเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการสวมเสื้อสีขาว สื่อถึงจุดยืนของชาวสตูลที่ไม่ต้องการให้ผ่านกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่มีกาสิโนเป็นส่วนประกอบ

ผู้ชุมนุมประกอบด้วยตัวแทนเครือข่ายข้าราชการบำนาญ ข้าราชการเกษียณ และเครือข่ายกลุ่มผู้สูงอายุในจังหวัดสตูล รวมประมาณ 50 คน ซึ่งได้มาชุมนุมกันโดยสงบ โดยระบุว่าต้องการปกป้องลูกหลานจากการทำให้สิ่งที่เป็นอบายมุขกลายเป็นสิ่งถูกกฎหมาย พร้อมแสดงความไม่เชื่อว่ารายได้ที่จะเข้าประเทศจะมากกว่าปัญหาสังคมที่จะตามมา

ศาสตราจารย์ ดร.สมยศ ทุ่งหว้า ประธานศูนย์พัฒนาการเมืองภาคพลเมือง สถาบันพระปกเกล้า จ.สตูล หนึ่งในตัวแทนผู้ชุมนุมกล่าวว่า “แม้ครั้งนี้อาจดูเหมือนมาแสดงพลังน้อย แต่ความเป็นจริงเชื่อว่าชาวสตูลไม่มีใครต้องการให้กฎหมายนี้ผ่าน แม้ทางรัฐบาลจะอ้างว่าให้เลื่อนไปก่อน แต่นั่นไม่ได้หมายถึงการถอนออกจากญัตติ หากรัฐบาลยังคงดื้อดึงเดินหน้าขับเคลื่อนเรื่องนี้ต่อไป ทางกลุ่มผู้ชุมนุมก็พร้อมยกระดับด้วยการไปร่วมชุมนุมที่รัฐสภา เพื่อแสดงเจตนารมณ์ว่าไม่ต้องการให้กฎหมายที่จะทำลายสังคมและเยาวชนผ่านอย่างแน่นอน”

หลังการรวมตัวและแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ กลุ่มผู้ชุมนุมได้ร่วมกันลงชื่อแสดงเจตนารมณ์คัดค้านกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยยื่นผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสตูลเพื่อเสนอต่อรัฐบาลต่อไป

 

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าที่บริเวณหน้าสำนักงานพรรคเพื่อไทยบนถนนบุรีวานิช ก็มีกลุ่มผู้ชุมนุมที่คัดค้านกาสิโนได้นัดรวมตัวเพื่อแสดงออกด้วยเช่นกัน โดยสถานการณ์ทั่วไปเป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย

ทั้งนี้ การคัดค้านกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่มีกาสิโนเป็นส่วนหนึ่งนี้ ได้เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ สะท้อนความกังวลของประชาชนต่อผลกระทบด้านสังคมที่อาจตามมาหากมีการอนุมัติให้เปิดกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทย

……………………

………………………………………..

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 สตูลสร้างงาน สร้างอาชีพวัยเกษียณ สร้างความสุข

สตูลสร้างงาน สร้างอาชีพวัยเกษียณ สร้างความสุข

          ในยุคที่หลายคนมองหาความมั่นคงหลังเกษียณ “สวนบ้านริมเขา ทุ่งนายร้อย” เป็นตัวอย่างของการใช้ชีวิตอย่างพอเพียงและสร้างรายได้ไปพร้อมกัน บนพื้นที่เจ็ดไร่ของนายปรีชา อ่อนประชู อดีตข้าราชการ อบจ.สตูล  และภรรยา นางอำพร อ่อนประชู อดีตกุ๊กร้านอาหาร พวกเขาได้พลิกพื้นที่สวนให้กลายเป็นแหล่งสร้างรายได้จากการทำเกษตรผสมผสาน

         

         หนึ่งในไฮไลท์ของสวนนี้คือแปลงดาวเรือง  ที่ปลูกไว้เพื่อจำหน่ายดอกเป็นช่อ  โดยสามารถขายได้ทุกวันพระ สัปดาห์ละ 100-150 ช่อ ในราคาสามดอกสิบบาท  คิดเป็นรายได้ต่อเดือนหลักหมื่นบาท   นอกจากสร้างรายได้แล้ว  ยังสร้างความสุขให้กับทั้งผู้ปลูกและลูกค้าที่มารับซื้อถึงสวน

         นอกจากดาวเรือง พื้นที่สวนยังมีการปลูกพืชหลายชนิด เช่น พริก, ส้มโอ, ชมพู่ โดยการปลูกพืชแบบผสมผสาน  ช่วยให้แมลงศัตรูพืชลดลงตามธรรมชาติ   มีการใช้ขวดน้ำ  แขวนตามแปลงเพื่อไล่แมลงโดยไม่ต้องพึ่งพาสารเคมี  พื้นที่สวนยังแบ่งออกเป็นแปลงไผ่ซางนวล   ซึ่งไม่ได้ขายลำต้นแต่ขายหน่อไผ่ปีละ 10,000-20,000 บาท

 

          ภายในสวนมีการขุดสระน้ำและทำระบบน้ำล้น เพื่อให้มีน้ำใช้ตลอดปีในการรดพืชผัก  และดูแลสวน ระบบน้ำที่ดีช่วยลดต้นทุนการผลิต และทำให้พืชสามารถเติบโตได้ดีโดยไม่ต้องพึ่งพาน้ำประปา

           

          นอกจากการปลูกพืชผักไว้บริโภคเองแล้ว   รายได้จากการขายผลผลิต เช่น พริก และเป็ดอี้เหรียง ที่ให้ไข่วันละแผง ยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือน   ทำให้ชีวิตหลังเกษียณของทั้งสองมีความสุข ไม่ต้องเร่งรีบกับการทำงานเหมือนแต่ก่อน รายได้เกิดจากความพอใจในการทำเกษตร มากกว่าการหวังกำไรสูงสุด

           อนาคตของสวนบ้านริมเขา นายปรีชาและอำพร วางแผนให้สวนแห่งนี้เป็นแหล่งเรียนรู้ในชุมชน  และที่พักแนวโฮมสเตย์  ด้วยบรรยากาศธรรมชาติที่ติดภูเขาและอากาศสดชื่น ทำให้ลูกชายคนเล็กมีแนวคิดต่อยอดธุรกิจครอบครัวให้เป็นสถานที่พักผ่อนที่มีการเกษตรเป็นจุดขาย

 

          นี่คือตัวอย่างของชีวิตหลังเกษียณที่เต็มไปด้วยความสุขและรายได้แบบพอเพียง

………………………………………..

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 คนสู้ชีวิต! หนุ่มช่างคอมพิวเตอร์ พลิกสวนยางโค่นเป็นไร่สับปะรด แปรรูปขาย สร้างรายได้ครึ่งล้านต่อปี 

คนสู้ชีวิต!! หนุ่มช่างคอมพิวเตอร์ พลิกสวนยางโค่นเป็นไร่สับปะรด แปรรูปขาย สร้างรายได้ครึ่งล้านต่อปี

          เสียงเก็บสับปะรดในสวนดังขึ้นเป็นจังหวะ   นายอิสมาแอน ไชยมล วัย 40 ปี ชาวบ้านหมู่ 6 ต.ควนโพธิ์ อ.เมือง จ.สตูล กำลังเร่งเก็บผลผลิตชุดสุดท้ายจากสวนสับปะรด 20 ไร่ ซึ่งเดิมเคยเป็นสวนยางพาราทั้งของตนเองและของญาติๆ ก่อนจะโค่นเพื่อปลูกใหม่ แต่เขากลับเลือกใช้พื้นที่ว่างนี้  ปลูกสับปะรดพันธุ์ภูเก็ตแทน   เพื่อฟื้นฟูดิน และสร้างรายได้ให้ครอบครัว

 

         นายอิสมาแอน กล่าวว่า  “ผมเคยเป็นช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ ก่อนจะหันมาทำเกษตรเต็มตัวเมื่อ 8 ปีก่อน ได้แรงบันดาลใจจากการไปดูงานที่กระบี่ จึงลองปลูกบนที่ดินของตนเอง และต่อมาญาติ ๆ ก็ให้ใช้พื้นที่สวนยางที่โค่นใหม่”

 

         อิสมาแอนใช้เทคนิคการปลูกแบบเว้นช่วงเก็บเกี่ยว    ไม่ให้ผลผลิตออกพร้อมกันทั้งแปลง ช่วยให้ขายได้ต่อเนื่องไม่กระทบราคา ทั้งยังเปิดหน้าร้านขายเองที่สวน ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาพ่อค้าคนกลาง ปัจจุบันขายได้ลูกละ 15-30 บาท มีรายได้เฉลี่ยปีละกว่า 400,000 บาท โดยเฉพาะช่วงรอมฎอนที่ผ่านมา ขายได้ถึง 30,000 ลูกในเดือนเดียว

          นางสาวกำไลทิพย์ เศรษฐ์วิชัย เกษตรจังหวัดสตูล  บอกว่า “เกษตรกรรายนี้ถือเป็นตัวอย่างที่ดีในการใช้พื้นที่ว่างหลังโค่นยางพารา มาปรับปรุงดินและสร้างรายได้ เขามีการจัดการที่ดีมาก ทั้งในแปลงและการตลาด”

          นอกจากขายสด ยังมีการแปรรูปหลากหลายเมนู เช่น น้ำสับปะรดขวดละ 12 บาท สับปะรดกวน และนมสดสับปะรดขวดละ 20 บาท โดยมีครอบครัวช่วยกัน ทั้งแม่ หลานสาว และน้องสะใภ้ ดูแลการแปรรูปและหน้าร้าน

           เกษตรจังหวัดสตูล. บอกอีกว่า.  “อิสมาแอนเป็นเกษตรกรที่ได้รับมาตรฐาน GAP และ Q ซึ่งการันตีคุณภาพและความปลอดภัย อยากให้เกษตรกรคนอื่นที่ปลูกในพื้นที่ของญาติ   หรือพื้นที่เอกสารสิทธิ์ มาขึ้นทะเบียนเกษตรกรเพื่อรับสิทธิ์ช่วยเหลือหากเกิดภัยพิบัติ”

 

          แม้หน่อพันธุ์สับปะรดจะยังไม่พอแบ่งขาย   เพราะต้องใช้ขยายแปลงในอนาคต   แต่ของเหลือจากการแปรรูป   เช่น กากและเปลือก ก็ยังนำไปทำปุ๋ยหมักต่อได้   ถือเป็นการใช้ประโยชน์ครบทุกส่วน. สนใจสอบถาม. โทร. 082-376-2450

……………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

สตูล- ฝึกซ้อมการอพยพหนีไฟศาลากลางจังหวัด เสริมสร้างความปลอดภัยรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สตูล- ฝึกซ้อมการอพยพหนีไฟศาลากลางจังหวัด เสริมสร้างความปลอดภัยรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

         วันนี้ (27 มี.ค. 68) ที่ห้องประชุมโต๊ะพญาวัง ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสตูล นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล มอบหมายให้ นายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานการอบรมดับเพลิงและอพยพหนีไฟ ในพื้นที่ศาลากลางจังหวัด  เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการป้องกันและรับมือกับเหตุเพลิงไหม้ให้กับบุคลากรภายในศาลากลาง   โดยการฝึกอบรมในช่วงเช้า เริ่มต้นด้วยการให้ความรู้เกี่ยวกับหลักการดับเพลิงเบื้องต้น การใช้อุปกรณ์ดับเพลิงอย่างถูกต้อง และแนวทางปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น วิธีการแจ้งเหตุ การประเมินสถานการณ์ และการอพยพอย่างปลอดภัย โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้ความรู้  มีหัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้

 

         ช่วงเวลาประมาณ 10.30 น. เป็นการฝึกซ้อมเสมือนจริง โดยจำลองสถานการณ์ไฟไหม้ภายในอาคารศาลากลางจังหวัดสตูล  ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จำลองเหตุการณ์เพลิงไหม้ ที่ห้องสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ชั้น 2 อาคารหลังเก่า โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการดับไฟเบื้องต้น แต่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และเพลิงได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว  จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อพยพ พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ สถานีดับเพลิงเทศบาลเมืองสตูล   โรงพยาบาลสตูล   มูลนิธิธรรมรังสี   สถานีตำรวจภูธรเมืองสตูล   การประปาส่วนภูมิภาคสาขาสตูล   และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดสตูล   ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าควบคุมสถานการณ์ ได้ในเวลาประมาณ 11.30 น. โดยมีการสั่งอพยพบุคลากรออกจากอาคารอย่างเป็นระบบ รวมถึงการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยดับเพลิง หน่วยกู้ภัย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทุกคนเกิดความคุ้นเคยและสามารถปฏิบัติตามแผนได้อย่างถูกต้อง

           ภายหลังการฝึกซ้อม นายคณิต  คงช่วย  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ได้กล่าวให้โอวาท พร้อมสรุปผลการฝึกซ้อม เพื่อประเมินความพร้อมและพัฒนาแนวทางการปฏิบัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินในอนาคต ตลอดจนเสริมสร้างความปลอดภัยและความมั่นใจให้กับทุกคนที่เข้ามาใช้บริการภายในศาลากลางจังหวัดสตูลต่อไป

………………….

ภาพ-ข่าว  ประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 ขนม”จูจอ” สานสัมพันธ์ชุมชน ฟื้นชีวิตขนมโบราณควนสตอ

ขนม“จูจอ” สานสัมพันธ์ชุมชน ฟื้นชีวิตขนมโบราณควนสตอ

          ที่อบต.ควนสตอ อ.ควนโดน จ.สตูล  ความร่วมแรงร่วมใจของแม่บ้าน 30 คน  จากหลากหมู่บ้านใน ตำบลควนสตอ วันนี้ได้รวมตัวกันสืบสานวัฒนธรรมการทำขนมโบราณ  เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับงานบุญที่กำลังจะถึง โดยมี “นางฮาหยาด  เกปัน” วัย 67 ปี ปราชญ์ชาวบ้านผู้เป็นเจ้าของสูตรขนม “จูจอ” หรือ “ดอกบัว” นำทีมในการถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น

         การรวมตัวครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการทำขนมเพื่องานบุญ 300 โต๊ะ หากยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์และสานต่อวัฒนธรรมอันดีงามของชุมชน พวกเขาได้ร่วมกันผลิตขนมหลากชนิด อาทิ ขนมโค กล้วยหยำ และจูจอ รวมทั้งสิ้น 12 กิโลกรัม หรือประมาณ 1,200 ชิ้น

          สูตรลับของขนม “จูจอ” ประกอบด้วยแป้งสาลี 1 กิโลกรัม  แป้งข้าวเจ้าครึ่งกิโลกรัม  น้ำตาลทรายขาว 8 กรัม น้ำตาลอ้อย 2 กรัม และเกลือเล็กน้อย ขั้นตอนการทำต้องอาศัยความชำนาญ โดยเฉพาะการหยอดแป้งทอดให้เป็นรูปดอกไม้ และค่อยๆ ปรุงไฟให้สุกอย่างเป็นขั้นเป็นตอน

          ขนมจูจอกลายเป็นของขึ้นชื่อประจำตลาดเช้า นิยมทานคู่กับโกปี้อ้อและชาเย็น ราคาเริ่มต้นเพียง 3-5 บาท สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวใต้มุสลิมที่เรียบง่ายแต่ทรงคุณค่า

         การอนุรักษ์และสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมผ่านขนมโบราณเช่นนี้  นับเป็นพลังสำคัญในการเชื่อมโยงคนในชุมชน สร้างความภาคภูมิใจ และถ่ายทอดภูมิปัญญาสู่คนรุ่นต่อไป

……..

อัพเดทล่าสุด