Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 ขนม”จูจอ” สานสัมพันธ์ชุมชน ฟื้นชีวิตขนมโบราณควนสตอ

ขนม“จูจอ” สานสัมพันธ์ชุมชน ฟื้นชีวิตขนมโบราณควนสตอ

          ที่อบต.ควนสตอ อ.ควนโดน จ.สตูล  ความร่วมแรงร่วมใจของแม่บ้าน 30 คน  จากหลากหมู่บ้านใน ตำบลควนสตอ วันนี้ได้รวมตัวกันสืบสานวัฒนธรรมการทำขนมโบราณ  เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับงานบุญที่กำลังจะถึง โดยมี “นางฮาหยาด  เกปัน” วัย 67 ปี ปราชญ์ชาวบ้านผู้เป็นเจ้าของสูตรขนม “จูจอ” หรือ “ดอกบัว” นำทีมในการถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น

         การรวมตัวครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการทำขนมเพื่องานบุญ 300 โต๊ะ หากยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์และสานต่อวัฒนธรรมอันดีงามของชุมชน พวกเขาได้ร่วมกันผลิตขนมหลากชนิด อาทิ ขนมโค กล้วยหยำ และจูจอ รวมทั้งสิ้น 12 กิโลกรัม หรือประมาณ 1,200 ชิ้น

          สูตรลับของขนม “จูจอ” ประกอบด้วยแป้งสาลี 1 กิโลกรัม  แป้งข้าวเจ้าครึ่งกิโลกรัม  น้ำตาลทรายขาว 8 กรัม น้ำตาลอ้อย 2 กรัม และเกลือเล็กน้อย ขั้นตอนการทำต้องอาศัยความชำนาญ โดยเฉพาะการหยอดแป้งทอดให้เป็นรูปดอกไม้ และค่อยๆ ปรุงไฟให้สุกอย่างเป็นขั้นเป็นตอน

          ขนมจูจอกลายเป็นของขึ้นชื่อประจำตลาดเช้า นิยมทานคู่กับโกปี้อ้อและชาเย็น ราคาเริ่มต้นเพียง 3-5 บาท สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวใต้มุสลิมที่เรียบง่ายแต่ทรงคุณค่า

         การอนุรักษ์และสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมผ่านขนมโบราณเช่นนี้  นับเป็นพลังสำคัญในการเชื่อมโยงคนในชุมชน สร้างความภาคภูมิใจ และถ่ายทอดภูมิปัญญาสู่คนรุ่นต่อไป

……..

ไม่เสียเปรียบเมื่อเจองู! ‘ทีมอสรพิษละงู’ จัดใหญ่ โครงการให้ความรู้ สู้ภัยงูเข้าบ้านช่วงฝน

ไม่เสียเปรียบเมื่อเจองู! ‘ทีมอสรพิษละงู’ จัดใหญ่ โครงการให้ความรู้ สู้ภัยงูเข้าบ้านช่วงฝน

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

จับกุมชายวัย 44 ปี ครอบครองอาวุธปืนเถื่อนในบ้านพัก จ.สตูล

จับกุมชายวัย 44 ปี ครอบครองอาวุธปืนเถื่อนในบ้านพัก จ.สตูล

         21 มีนาคม 2568  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสตูล ร่วมกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและฝ่ายปกครอง บุกจับกุมชายวัย 44 ปี หลังพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์หลายกระบอกซุกซ่อนภายในบ้านพัก ต.คลองขุด อ.เมืองสตูล จ.สตูล

          เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 มี.ค. 68) พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ ปรากฎชื่อ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสตูล สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสตูล นำโดย พ.ต.ท.ยงยุทธ เลิศปรีชาพงศ์ และฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสตูล นำโดย นายสิทธิวุฒิ ทรงสวัสดิ์ ปลัดอำเภอเมืองสตูล พร้อมด้วยกำนันตำบลคลองขุด เข้าตรวจค้นในพื้นที่หมู่ 1 ตำบลคลองขุด อำเภอเมืองสตูล

          จากการสืบทราบจากสายลับว่ามีการซุกซ่อนอาวุธปืนผิดกฎหมายไว้ในบ้านหลังดังกล่าว  เจ้าหน้าที่จึงขอหมายค้นจากศาลจังหวัดสตูล หมายเลข ค.21/2568 ลงวันที่ 20 มีนาคม 2568 เพื่อเข้าตรวจค้น

        เมื่อเดินทางถึงเวลาประมาณ 08.30 น. พบ นายประสิทธิชัย (สงวนนามสกุล)  อายุ 44 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นหลังจากเจ้าหน้าที่ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ ผลการตรวจค้นพบของกลางประกอบด้วย:

  1. อาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก พร้อมชุดลูกเลื่อนลำกล้อง 2 ชุด ซึ่งวางอยู่บริเวณหลังบ้าน
  2. อาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก
  3. อาวุธปืนปากกา จำนวน 2 กระบอก
  4. กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 3 นัด บรรจุในแม็กกาซีน 2 แม็ก ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายแบบสานสีน้ำตาลภายในห้องครัว

          เมื่อสอบถาม นายประสิทธิชัย  ยอมรับว่าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนทั้งหมดเป็นของตนเอง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสตูล เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

          ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกวาดล้างอาวุธปืนผิดกฎหมายในพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้อาวุธปืนตกไปอยู่ในมือของผู้ไม่หวังดีและนำไปก่อเหตุอาชญากรรม ซึ่งจะยังคงเข้มงวดตรวจค้นในพื้นที่เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง

……………………………………………

อัพเดทล่าสุด

ไม่เสียเปรียบเมื่อเจองู! ‘ทีมอสรพิษละงู’ จัดใหญ่ โครงการให้ความรู้ สู้ภัยงูเข้าบ้านช่วงฝน

ไม่เสียเปรียบเมื่อเจองู! ‘ทีมอสรพิษละงู’ จัดใหญ่ โครงการให้ความรู้ สู้ภัยงูเข้าบ้านช่วงฝน

Categories
ข่าวเด่น

สตูลทลายเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ ยึดยาบ้ากว่า 3 หมื่นเม็ด พร้อมอาวุธปืน-ทรัพย์สินกว่า 1.5 ล้าน

สตูลทลายเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ ยึดยาบ้ากว่า 3 หมื่นเม็ด พร้อมอาวุธปืน-ทรัพย์สินกว่า 1.5 ล้าน

           (19 มี.ค.2568) นายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อม กอ.รมน.จว.สตูล และ พล.ต.ต.มารุต เรืองจินตนา ผบก.ภ.จว.สตูล, พ.ต.อ.ประสิทธิ์ ดำกระบี่ รอง ผบก.ภ.จว.สตูล พ.ต.อ.ปรีชา เพ็ชรรัตน์ ผกก.สภ.ท่าแพ จ.สตูล พร้อมด้วยฝ่ายปกครองอำเภอท่าแพ และคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูง ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญในคดียาเสพติด

          โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.สตูล ภายใต้การสั่งการของ พ.ต.ท.อภิสิทธิ์ ปะดุกา รอง ผกก.สืบสวนฯ ได้จับกุมตัว นายอนุสรณ์ หรือซีด (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ต.แป-ระ อ.ท่าแพ จว.สตูล พร้อมของกลางยาบ้าจำนวนมหาศาลถึง 34,506 เม็ด อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก มูลค่าประมาณ 60,000 บาท กระสุนปืน 45 นัด และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง

          นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจยึดทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 ประกอบด้วย รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมค สีขาว จำนวน 1 คัน มูลค่าประมาณ 700,000 บาท, รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีเทา จำนวน 1 คัน มูลค่าประมาณ 500,000 บาท, รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นฟอร์ซา สีน้ำเงิน-ดำ จำนวน 1 คัน มูลค่าประมาณ 20,000 บาท, เครื่องประดับทองคำมูลค่ากว่า 120,000 บาท, สมุดบัญชีธนาคาร 3 เล่ม และเงินสด 4,190 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดทั้งสิ้นประมาณ 1,595,790 บาท

         จากการสอบสวนเบื้องต้น พบว่าผู้ต้องหารายนี้เป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ของจังหวัดสตูล มีการทำธุรกรรมทางการเงินสูงถึง 12 ล้านบาทในวันเดียว และจากคำให้การของผู้ต้องหาอ้างว่าได้ทำการค้ายาเสพติดมาแล้ว 5 ครั้ง โดยที่ผ่านมามีพี่ชายของผู้ต้องหาเคยถูกจับกุมพร้อมยาบ้ามากถึง 6 ล้านเม็ด แสดงให้เห็นถึงเครือข่ายการค้ายาเสพติดขนาดใหญ่ที่มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

          ทั้งนี้ ผู้ต้องหาถูกตั้งข้อหา “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน โดยมีอาวุธปืนหรือใช้อาวุธปืน”, “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย” และ “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”

          โดยเหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 57 ต่อเนื่องบ้านเลขที่ 127 หมู่ที่ 6 ตำบลแป-ระ อำเภอท่าแพ จังหวัดสตูล  โดยทางเจ้าหน้าที่จะขยายผลการจับกุมเพื่อติดตามเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญที่เกี่ยวข้องต่อไป

…………….

 

อัพเดทล่าสุด

ไม่เสียเปรียบเมื่อเจองู! ‘ทีมอสรพิษละงู’ จัดใหญ่ โครงการให้ความรู้ สู้ภัยงูเข้าบ้านช่วงฝน

ไม่เสียเปรียบเมื่อเจองู! ‘ทีมอสรพิษละงู’ จัดใหญ่ โครงการให้ความรู้ สู้ภัยงูเข้าบ้านช่วงฝน

Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 จากพนักงานบริษัทสู่เจ้าของกิจการ  “ขนมครกไส้โคตรทะลัก” สร้างรายได้วันละ 2,000 บาท

จากพนักงานบริษัทสู่เจ้าของกิจการ  “ขนมครกไส้โคตรทะลัก” สร้างรายได้วันละ 2,000 บาท

          ที่ตลาดรอมฎอน  ต.ฉลุง  อ.เมือง  จ.สตูล  นางสาวฐิติภัทร โลณะปาลวงษ์ อายุ 36 ปี เจ้าของร้าน “ขนมครกไส้โคตรทะลัก” เล่าให้ฟังถึงเส้นทางการเปลี่ยนชีวิตจากพนักงานบริษัทในแผนกซีพี สู่การเป็นผู้ประกอบการขนมไทยที่มีรายได้วันละ 2,000 บาท จากขนมครกเพียง 3 กิโลกรัมต่อวัน

 

          นางสาวฐิติภัทรเล่าว่า “เริ่มต้นจากการตั้งครรภ์ลูกคนที่สอง และความชอบส่วนตัวในการขายของ” “ดิฉันได้ศึกษาการทำขนมครกจากช่องทางออนไลน์ แล้วทดลองทำด้วยตัวเอง ลองผิดลองถูกจนได้สูตรที่ลงตัวอย่างทุกวันนี้”

 

          โดยความพิเศษของขนมครกร้านนี้อยู่ที่การใช้แป้งข้าวไรซ์เบอร์รี่ ผสมกับน้ำกะทิคุณภาพดี ทำให้ได้เนื้อขนมที่นุ่ม หอม ไม่แข็งกระด้าง โดยเมื่อทำแป้งเสร็จแล้วจะเติมหัวกะทิอีกครั้ง และตามด้วยไส้ที่หลากหลายถึง 4 ชนิด ได้แก่:  – ไส้ฟักทอง  – ไส้มันม่วง  – ไส้ข้าวโพด  – ไส้เผือก

 

         “ความลับอยู่ที่เราใส่ใจในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ การผสมแป้ง และการทำไส้ที่สด ใหม่ทุกวัน หวานพอดี มันจากหัวกะทิ ไม่ใช้วัตถุกันเสีย” คุณฐิติภัทรกล่าว

 

         ด้วยประสบการณ์จากการทำงานในบริษัท คุณฐิติภัทรได้นำความรู้ด้านการตลาดมาปรับใช้กับธุรกิจขนมครก จัดแคมเปญ “ซื้อขนมครก 20 บาท แถมคูปอง 1 ใบ” เมื่อสะสมครบ 10 ใบ สามารถแลกขนมครกฟรี 1 กล่อง  

          “การทำแคมเปญนี้ช่วยเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น เพราะลูกค้าอยากได้คูปองมากๆ จึงซื้อในปริมาณมากขึ้น และในเดือนนี้มีลูกค้าไม่น้อยกว่า 3 รายแล้วที่มาแลกขนมฟรีจากการสะสมแต้ม” คุณฐิติภัทรกล่าวด้วยรอยยิ้ม

              ความอร่อยของขนมครกไส้โคตรทะลักไม่เพียงเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าทั่วไป แต่ยังได้รับการยอมรับจากนายกเทศมนตรีตำบลฉลุง  และผู้รับสัมปทานตลาดที่ยอมรับว่า “ขนมครกเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ได้รับความนิยม เป็นอาหารว่าง อาหารแก้บวชของพี่น้องชาวไทยมุสลิม”

 

           สำหรับเวลาเปิดให้บริการ  ในเดือนรอมฎอน  ตั้งแต่เวลา  13.00-18.00 น.  เดือนปกติ เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. ที่สามแยกฉลุง  สนใจสั่งขนมครกไส้โคตรทะลัก สามารถติดต่อได้ที่ 099-304-2659

 

     “จากความฝันเล็กๆ สู่ความสำเร็จวันนี้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงไหนของชีวิต ก็สามารถเริ่มต้นทำธุรกิจได้ ขอเพียงมีใจรัก ตั้งใจ และลงมือทำอย่างจริงจัง” คุณฐิติภัทรทิ้งท้าย

…………………………………..

ไม่เสียเปรียบเมื่อเจองู! ‘ทีมอสรพิษละงู’ จัดใหญ่ โครงการให้ความรู้ สู้ภัยงูเข้าบ้านช่วงฝน

ไม่เสียเปรียบเมื่อเจองู! ‘ทีมอสรพิษละงู’ จัดใหญ่ โครงการให้ความรู้ สู้ภัยงูเข้าบ้านช่วงฝน

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 แม่บ้านสตูลสร้างรายได้จากขนมโบราณ ‘โกยเปต’ สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นกว่า 20 ปี

แม่บ้านสตูลสร้างรายได้จากขนมโบราณ ‘โกยเปต’ สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นกว่า 20 ปี

          ที่หมู่บ้านเขาน้อยใต้ หมู่ 12 ตำบลฉลุง อำเภอเมือง จังหวัดสตูล นางฝาตีม๊ะ ดาหมาด อายุ 58 ปี พร้อมด้วยญาติพี่น้องในครอบครัวกำลังเร่งมือทำขนมโบราณที่เรียกว่า “โกยเปต” หรือ “ขนมทองพับ” เพื่อให้ทันต่อความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะในช่วงใกล้เทศกาลฮารีรายาของพี่น้องชาวไทยมุสลิม

         

         ขนมโกยเปตที่นี่มีเอกลักษณ์พิเศษด้วยการใช้สูตรโบราณและวิธีการทำแบบดั้งเดิม โดยใช้เตาถ่านในการย่าง ซึ่งช่วยเพิ่มความหอมให้กับขนม ทำให้มีรสชาติที่แตกต่างและน่ารับประทานยิ่งขึ้น

 

          “เริ่มจากทำกินในครอบครัว แล้วค่อยพัฒนามาเป็นอาชีพ” นางฝาตีม๊ะเล่าถึงจุดเริ่มต้นของธุรกิจขนมโกยเปตที่ดำเนินมากว่า 20 ปี จนเป็นที่รู้จักในนาม “โกยเปตมะหลง” 

 

          ส่วนผสมหลักของขนมโกยเปตประกอบด้วย แป้งข้าวเจ้า กะทิ น้ำตาล และไข่ไก่ โดยหนึ่งกระปุกจะบรรจุประมาณ 70 แผ่น กำลังการผลิตอยู่ที่วันละ 3-4 กิโลกรัม หรือประมาณ 7 กระปุก โดย 1 กิโลกรัมจะใช้มะพร้าวถึง 4 ลูกและไข่ไก่.  ซึ่งทางร้านเน้นทั้งคุณภาพและปริมาณ

 

          วิธีการทำขนมโกยเปตมีเคล็ดลับอยู่ที่การสังเกตสีของแป้ง หลังจากวางแท่นพิมพ์ลงบนเตาถ่าน ให้รอจนแป้งที่อยู่รอบขอบแท่นพิมพ์เปลี่ยนเป็นสีเหลือง แล้วจึงรีบยกขึ้นมาพับเป็นรูปสี่เหลี่ยมทันที จะได้ขนมที่มีสีเหลืองสวย แบน และง่ายต่อการบรรจุลงกล่อง

 

          ขนมโกยเปตของนางฝาตีม๊ะ  เป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงเทศกาลฮารีรายา  เนื่องจากทุกบ้านจะต้องซื้อไว้รับรองแขกที่มาเยี่ยมเยียน  แต่ทางร้านยังคงเปิดขายตลอดทั้งปี ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับของฝากหรือของขวัญในโอกาสพิเศษต่างๆ

          ด้านนายสุจริต  ยามาสา  นายก อบต.ฉลุง ยอมรับว่าขนมร้านของนางฝาตีม๊ะ  มีความอร่อยและรักษาคุณภาพของอาหารได้อย่างยอดเยี่ยมจนเป็นที่ขึ้นชื่อ แต่สิ่งที่ต้องการพัฒนาต่อไปคือเรื่องของตราสินค้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งทาง อบต. จะเข้ามาช่วยหนุนเสริมในส่วนนี้ เพื่อเพิ่มมูลค่าของสินค้า นอกจากนี้ ทางองค์การบริหารส่วนตำบลยังจะช่วยส่งเสริมการขายผ่านช่องทางต่างๆ และสนับสนุนให้มีการรวมกลุ่ม เพื่อให้ภาครัฐสามารถเข้ามาช่วยเหลือได้มากขึ้น

 

          สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสั่งซื้อขนมโกยเปตได้ในราคากระปุกใหญ่ และกระปุกเล็ก

ไม่เสียเปรียบเมื่อเจองู! ‘ทีมอสรพิษละงู’ จัดใหญ่ โครงการให้ความรู้ สู้ภัยงูเข้าบ้านช่วงฝน

ไม่เสียเปรียบเมื่อเจองู! ‘ทีมอสรพิษละงู’ จัดใหญ่ โครงการให้ความรู้ สู้ภัยงูเข้าบ้านช่วงฝน

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 11 ปีแห่งตำนานไก่ย่างกอและโบราณไม้ละ 5 บาท  อร่อยเท่าเดิม ราคาคงเดิม ท่ามกลางค่าครองชีพพุ่ง

11 ปีแห่งตำนานไก่ย่างกอและโบราณไม้ละ 5 บาท  อร่อยเท่าเดิม ราคาคงเดิม ท่ามกลางค่าครองชีพพุ่ง

          ในยุคที่ราคาอาหารถีบตัวสูงขึ้น มีร้านเล็กๆ ริมคลอง(เอวหัก)  ม.7 ซอยทรายทอง  ทต.คลองขุด อ.เมืองสตูล แห่งหนึ่งที่ยังคงยืนหยัดขายไก่ย่างไม้ละ 5 บาทมาเนิ่นนานถึง 11 ปี “ร้านสามพี่น้องริมคลองเอวหัก” ของคุณอัญชลี บิลเต๊ะ หรือที่ลูกค้ารู้จักกันในนาม “น้องกิ๊ก” วัย 38 ปี คือตัวอย่างของความมุ่งมั่นที่หาได้ยากในปัจจุบัน

 

         “ขายราคานี้ลูกค้าอยู่ได้ เราก็อยู่ได้” คือคำพูดติดปากของคุณอัญชลี ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาซื้อส่วนใหญ่ก็จะเป็นลูกค้าประจำ และนักเรียน อีกทั้งเป็นผู้ซึ่งใช้อาชีพขายไก่ย่างเลี้ยงดูครอบครัว 6 ชีวิต รวมลูกอีก 4 คน โดยทางร้านเปิดให้บริการวันละสองรอบ ช่วงเช้าตั้งแต่ 06.00-09.00 น. และช่วงบ่ายตั้งแต่ 15.00-18.00 น. (และหยุดทุกวันเสาร์)  ยกเว้นช่วงเดือนรอมฎอนที่จะเปิดขายตอน 14.00 น. ทุกวันไม่มีวันหยุด

 

          เมนูยอดนิยมของทางร้านคือ “ไก่ย่างสามรส” ในราคาเพียงไม้ละ 5 บาท และ “ไก่กอและ” หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ไก่แดงโบราณ” ในราคาไม้ละ 10 บาท พร้อมข้าวเหนียวห่อละ 5 บาท โดยทั้งหมดมีหอมกระเทียมเจียวโรยหน้าให้เพิ่มความหอม

             คุณอัญชลี  เล่าว่า น้ำราดไก่กอและสุดพิเศษใช้สูตรจากพี่เขยที่จังหวัดตรัง มีส่วนผสมของเครื่องแกง ถั่วลิสง พริกแห้ง ผสมแป้งข้าวโพดเล็กน้อย น้ำตาลทราย และเกลือ ทำให้ได้รสชาติที่หวาน มัน เค็ม และเผ็ดเล็กน้อย ที่สำคัญคือทำสดใหม่ทุกวัน

 

          ทางร้านปรับตัวเข้ากับเทศกาลรอมฎอนด้วยการเพิ่มเครื่องดื่มหลากหลายชนิด ทั้งน้ำพุทรา น้ำกระเจี๊ยบ โอเลี้ยง ชาดำเย็น และน้ำลิ้นจี่ ในราคาเพียงถุงละ 10 บาท

 

          ทุกวันคุณอัญชลีจะเตรียมไก่ย่างวันละประมาณ 10 กิโลกรัม แบ่งเป็นช่วงเช้า 5 กิโลกรัม (ซึ่ง 1 กิโลกรัมสามารถแบ่งได้ประมาณ 60 ไม้ ) โดยชิ้นส่วนที่ขายดีที่สุดคือหนังไก่และเนื้อสะโพก

 

           ป้ายิ้ม ลูกค้าประจำของร้าน กล่าวว่า “ซื้อที่ร้านนี้เป็นประจำเพราะรสชาติอร่อย ราคาถูก ซื้อประจำทั้งเช้าและเย็น”

 

           หากใครสนใจอยากลิ้มลองไก่ย่างราคาประหยัดที่คงราคาเดิมมานานถึง 11 ปี สามารถไปอุดหนุนได้ที่ “ร้านสามพี่น้องริมคลอง” ตั้งอยู่ที่ซอยเอวหัก ริมคลอง. หรือทรายทอง หมู่ 7 เขตเทศบาลตำบลคลองขุดอำเภอเมืองสตูล หรือติดต่อคุณอัญชลีได้ที่ 065-015-0955

…………

ไม่เสียเปรียบเมื่อเจองู! ‘ทีมอสรพิษละงู’ จัดใหญ่ โครงการให้ความรู้ สู้ภัยงูเข้าบ้านช่วงฝน

ไม่เสียเปรียบเมื่อเจองู! ‘ทีมอสรพิษละงู’ จัดใหญ่ โครงการให้ความรู้ สู้ภัยงูเข้าบ้านช่วงฝน

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 เกษตรกรสตูลปลูก “ขมิ้นแดงสยาม-ขมิ้นตรัง” แปรรูปด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ สร้างมูลค่าเพิ่มสมุนไพรไทย

เกษตรกรสตูลปลูก “ขมิ้นแดงสยาม-ขมิ้นตรัง” แปรรูปด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ สร้างมูลค่าเพิ่มสมุนไพรไทย

            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดสตูลยกระดับการเกษตรสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ส่งเสริมเกษตรกรในพื้นที่อำเภอควนโดนปลูกขมิ้นแดงสยามและขมิ้นตรัง พร้อมพัฒนาการแปรรูปด้วยเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสมุนไพรท้องถิ่น ตอบสนองความต้องการตลาดที่เพิ่มขึ้น

             นางวรรณนภา คงเคว็จ เกษตรอำเภอควนโดน พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอควนโดน และนายสมยศ จิตเที่ยง นายอำเภอควนโดน ร่วมกับ ผศ.กิติศักดิ์ ชุมทอง ได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมการปลูกขมิ้นแดงสยามของกลุ่มเกษตรกรในอำเภอควนโดน ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตเพื่อนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรหลากหลายชนิด

           นายเจ๊ะมูสอด สามารถ อายุ 73 ปี เจ้าของพื้นที่ปลูกขมิ้นแดงสยามในพื้นที่หมู่ที่ 10 ตำบลควนโดน เปิดเผยว่า ตนได้เริ่มปลูกขมิ้นในพื้นที่ 1 ไร่ 2 งาน ซึ่งสามารถจำหน่ายขมิ้นแดงสยามในราคา 21 บาทต่อกิโลกรัม โดยเมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวประมาณ 2-3 เดือน ขมิ้นจะถูกขุดขึ้นมาและทำความสะอาดเพื่อเตรียมแปรรูป ทั้งนี้ การปลูกในกระสอบปุ๋ยและวงล้อรถยนต์ช่วยให้เก็บเกี่ยวผลผลิตได้สะดวกมากขึ้น

          ด้านนางสายฝน นุ่งอาหลี อีกหนึ่งเกษตรกรผู้ปลูกขมิ้นในวงล้อ และลงดิน ที่ปลูกพื้นที่หมู่ที่ 8 ตำบลควนสะตอ ได้ขยายพื้นที่ปลูกขมิ้นถึง 5 ไร่ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น

         โดยนางสายฝน นุ่งอาหลี  กล่าวว่า  ปลูกขมิ้นทำรายได้เลี้ยงกลุ่มและครอบครัวได้ดี เป็นที่ต้องการที่จะนำไปเป็นสมุนไพรทางการแพทย์ จึงไม่เพียงพอต่อการผลิตแปรรูป รวมทั้งการปลูกขมิ้นใช้พื้นที่น้อยข้างบ้านก็ปลูกได้ ในกระสอบ วงล้อก็ทำได้

           ทางด้านนายฮูสรี  หีมมะหมัด นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร สำนักงานเกษตรอำเภอควนโดน กล่าวว่า  ได้ให้การสนับสนุนโดยส่งเสริมการแปรรูปขมิ้นด้วยเทคโนโลยีการตากแห้งด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิต และนำไปสู่การผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพรหลายชนิด เช่น ลูกประคบสมุนไพรราคา 60 บาท น้ำมันเหลืองราคา 80 บาท และยาดมราคา 35 บาท

           นายสมยศ จิตเที่ยง นายอำเภอควนโดน กล่าวว่า “การแปรรูปขมิ้นเป็นสมุนไพรถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเกษตรกรในพื้นที่ ซึ่งไม่เพียงแค่สร้างรายได้ แต่ยังเป็นการสนับสนุนการใช้สมุนไพรเพื่อสุขภาพ ขมิ้นที่ผลิตในพื้นที่มีคุณภาพสูงและส่งไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่เพื่อการรักษาผู้ป่วย แต่ขณะนี้ผลผลิตยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงอยากให้เกษตรกรหันมาปลูกขมิ้นเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับตลาดที่กำลังเติบโต”

          ทั้งนี้ โครงการส่งเสริมการปลูกขมิ้นแดงสยามและขมิ้นตรังในพื้นที่อำเภอควนโดน ถือเป็นตัวอย่างของการพัฒนาเกษตรกรรมที่ยั่งยืน ใช้ทรัพยากรท้องถิ่นและพลังงานสะอาด สร้างความมั่นคงทางอาชีพให้กับเกษตรกรในพื้นที่ และตอบสนองต่อความต้องการผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน

………………………………………………………

ไม่เสียเปรียบเมื่อเจองู! ‘ทีมอสรพิษละงู’ จัดใหญ่ โครงการให้ความรู้ สู้ภัยงูเข้าบ้านช่วงฝน

ไม่เสียเปรียบเมื่อเจองู! ‘ทีมอสรพิษละงู’ จัดใหญ่ โครงการให้ความรู้ สู้ภัยงูเข้าบ้านช่วงฝน

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

จังหวัดสตูลคัดเฟ้นสุดยอด OTOP เด่น 2568 ยกระดับผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นสู่ตลาดระดับประเทศ

สืบสานนวัฒนธรรมอาหารมุสลิมโบราณ  โรตีออลาย!! สามวัยพี่น้องฟื้นชีวิตขนมโบราณรอมฎอน บนเส้นทางสืบสานมรดกปู่ย่าตายาย

ในยุคที่อาหารฟาสต์ฟู้ดและขนมสมัยใหม่กำลังเป็นที่นิยม ยังมีกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มุ่งมั่นในการอนุรักษ์และสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมด้านอาหารของบรรพบุรุษ หนึ่งในนั้นคือ “ขนมโรตีออลาย” หรือ “โรตียาลอ” หรือ “โรตีเส้น” ขนมโบราณที่หาทานได้ง่ายในช่วงเดือนรอมฎอนของพี่น้องชาวไทยมุสลิม

รสชาติแห่งประวัติศาสตร์ที่ส่งต่อ   โรตีออลายเป็นขนมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยส่วนผสมที่เรียบง่ายแต่ทรงคุณค่า ประกอบด้วยแป้งหมี่ 1 กิโลกรัม ไข่ไก่ 2 ฟอง เกลือ 1 ช้อนชา และน้ำสะอาด 1 ลิตร ขนมนี้มีให้เลือกสองสี คือสีธรรมชาติของแป้งและสีเขียวจากใบเตย

กรรมวิธีการทำที่พิถีพิถันเริ่มจากการละเลงแป้งบนกระทะร้อนที่เคลือบน้ำมันเล็กน้อย หมุนวนเป็นลวดลายคล้ายดอกไม้อย่างสวยงาม จนแป้งเกาะตัวกันเป็นแผ่นบาง ก่อนนำขึ้นจากเตาและพับใส่กล่อง บรรจุ 8 ชิ้นต่อกล่อง

ด้วยรสชาติที่ลงตัวทำให้   โรตีออลายนิยมรับประทานคู่กับน้ำจิ้มสองแบบตามความชอบ คือ แกงถั่วผสมแกงตอแมะไก่ หรือกะทิหวาน ในขณะที่ลูกค้าวัยรุ่นมักนิยมรับประทานคู่กับนมข้นหวานมากกว่า แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวของขนมโบราณให้เข้ากับรสนิยมของคนรุ่นใหม่

นางสาวสุจิตรา  ชูแก้ว  อายุ 38 ปี พร้อมน้อง ๆ  นางสาวสุทารินทร์  ชูแก้ว อายุ 18 ปี ทายาทผู้สืบทอดขนมโบราณ บอกว่า  ชวนพี่น้องสามวัย  มาร่วมกันสืบสานสูตรขนมโบราณที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากรุ่นปู่ย่าตายาย พวกเขาไม่เพียงแค่รักษามรดกทางวัฒนธรรม แต่ยังชวนครอบครัวและญาติพี่น้องมาร่วมกันทำขนมเพื่อจำหน่าย สร้างงานและรายได้ในช่วงเดือนรอมฎอน

ทางร้านผลิตขนมโรตีออลายวันละประมาณ 2 กิโลกรัม และได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงเดือนรอมฎอน โดยยึดมั่นในการปรุงอาหารสดใหม่และเปิดโอกาสให้ลูกค้าโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ได้เห็นกรรมวิธีการทำขนมโบราณ เพื่อสืบสานต่อไป

แหล่งจำหน่าย  ผู้ที่สนใจสามารถหาซื้อขนมโรตีออลายได้ที่ตลาดรอมฎอน เทศบาลเมืองสตูล บริเวณรอบมัสยิดมำบัง ตำบลพิมาน อำเภอเมืองสตูล ในราคากล่องละ 20 บาท พร้อมน้ำจิ้มให้เลือกสองแบบ

นางสาวนุตเราะห์   ชัยยะวิริยะ  ลูกค้าข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ (ผอ.กองศึกษาอบจ.สตูล) ยอมรับว่า  ดูวิธีการทำแล้วน่าซื้อหาไปรับประทานในช่วงละศีลอดนี้  ทั้งแม่ค้าคนรุ่นใหม่มาช่วยกันสืบสานขนมโบราณยิ่งทำให้อยากช่วยกันอุดหนุน และที่ตลาดรอมฏอนแห่งนี้ก็ยังมีอาหารที่น่าสนใจซื้อหารับประทานได้อย่างหลากหลายด้วย

เรื่องราวของขนมโรตีออลายและเจ้าของร้านสามวัยพี่น้องนี้ เป็นตัวอย่างอันดีของการอนุรักษ์วัฒนธรรมอาหารโบราณ ควบคู่ไปกับการสร้างอาชีพและรายได้ พิสูจน์ให้เห็นว่าภูมิปัญญาท้องถิ่นและมรดกทางวัฒนธรรมยังคงมีคุณค่าและสามารถอยู่ร่วมกับยุคสมัยปัจจุบันได้อย่างกลมกลืน

……………………………………

อัพเดทล่าสุด

ไม่เสียเปรียบเมื่อเจองู! ‘ทีมอสรพิษละงู’ จัดใหญ่ โครงการให้ความรู้ สู้ภัยงูเข้าบ้านช่วงฝน

ไม่เสียเปรียบเมื่อเจองู! ‘ทีมอสรพิษละงู’ จัดใหญ่ โครงการให้ความรู้ สู้ภัยงูเข้าบ้านช่วงฝน

Categories
ข่าวทั่วไป

สืบสานนวัฒนธรรมอาหารมุสลิมโบราณ  โรตีออลาย! สามวัยพี่น้องฟื้นชีวิตขนมโบราณรอมฎอน บนเส้นทางสืบสานมรดกปู่ย่าตายาย

สืบสานนวัฒนธรรมอาหารมุสลิมโบราณ  โรตีออลาย!! สามวัยพี่น้องฟื้นชีวิตขนมโบราณรอมฎอน บนเส้นทางสืบสานมรดกปู่ย่าตายาย

ในยุคที่อาหารฟาสต์ฟู้ดและขนมสมัยใหม่กำลังเป็นที่นิยม ยังมีกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มุ่งมั่นในการอนุรักษ์และสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมด้านอาหารของบรรพบุรุษ หนึ่งในนั้นคือ “ขนมโรตีออลาย” หรือ “โรตียาลอ” หรือ “โรตีเส้น” ขนมโบราณที่หาทานได้ง่ายในช่วงเดือนรอมฎอนของพี่น้องชาวไทยมุสลิม

รสชาติแห่งประวัติศาสตร์ที่ส่งต่อ   โรตีออลายเป็นขนมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยส่วนผสมที่เรียบง่ายแต่ทรงคุณค่า ประกอบด้วยแป้งหมี่ 1 กิโลกรัม ไข่ไก่ 2 ฟอง เกลือ 1 ช้อนชา และน้ำสะอาด 1 ลิตร ขนมนี้มีให้เลือกสองสี คือสีธรรมชาติของแป้งและสีเขียวจากใบเตย

กรรมวิธีการทำที่พิถีพิถันเริ่มจากการละเลงแป้งบนกระทะร้อนที่เคลือบน้ำมันเล็กน้อย หมุนวนเป็นลวดลายคล้ายดอกไม้อย่างสวยงาม จนแป้งเกาะตัวกันเป็นแผ่นบาง ก่อนนำขึ้นจากเตาและพับใส่กล่อง บรรจุ 8 ชิ้นต่อกล่อง

ด้วยรสชาติที่ลงตัวทำให้   โรตีออลายนิยมรับประทานคู่กับน้ำจิ้มสองแบบตามความชอบ คือ แกงถั่วผสมแกงตอแมะไก่ หรือกะทิหวาน ในขณะที่ลูกค้าวัยรุ่นมักนิยมรับประทานคู่กับนมข้นหวานมากกว่า แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวของขนมโบราณให้เข้ากับรสนิยมของคนรุ่นใหม่

นางสาวสุจิตรา  ชูแก้ว  อายุ 38 ปี พร้อมน้อง ๆ  นางสาวสุทารินทร์  ชูแก้ว อายุ 18 ปี ทายาทผู้สืบทอดขนมโบราณ บอกว่า  ชวนพี่น้องสามวัย  มาร่วมกันสืบสานสูตรขนมโบราณที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากรุ่นปู่ย่าตายาย พวกเขาไม่เพียงแค่รักษามรดกทางวัฒนธรรม แต่ยังชวนครอบครัวและญาติพี่น้องมาร่วมกันทำขนมเพื่อจำหน่าย สร้างงานและรายได้ในช่วงเดือนรอมฎอน

ทางร้านผลิตขนมโรตีออลายวันละประมาณ 2 กิโลกรัม และได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงเดือนรอมฎอน โดยยึดมั่นในการปรุงอาหารสดใหม่และเปิดโอกาสให้ลูกค้าโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ได้เห็นกรรมวิธีการทำขนมโบราณ เพื่อสืบสานต่อไป

แหล่งจำหน่าย  ผู้ที่สนใจสามารถหาซื้อขนมโรตีออลายได้ที่ตลาดรอมฎอน เทศบาลเมืองสตูล บริเวณรอบมัสยิดมำบัง ตำบลพิมาน อำเภอเมืองสตูล ในราคากล่องละ 20 บาท พร้อมน้ำจิ้มให้เลือกสองแบบ

นางสาวนุตเราะห์   ชัยยะวิริยะ  ลูกค้าข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ (ผอ.กองศึกษาอบจ.สตูล) ยอมรับว่า  ดูวิธีการทำแล้วน่าซื้อหาไปรับประทานในช่วงละศีลอดนี้  ทั้งแม่ค้าคนรุ่นใหม่มาช่วยกันสืบสานขนมโบราณยิ่งทำให้อยากช่วยกันอุดหนุน และที่ตลาดรอมฏอนแห่งนี้ก็ยังมีอาหารที่น่าสนใจซื้อหารับประทานได้อย่างหลากหลายด้วย

เรื่องราวของขนมโรตีออลายและเจ้าของร้านสามวัยพี่น้องนี้ เป็นตัวอย่างอันดีของการอนุรักษ์วัฒนธรรมอาหารโบราณ ควบคู่ไปกับการสร้างอาชีพและรายได้ พิสูจน์ให้เห็นว่าภูมิปัญญาท้องถิ่นและมรดกทางวัฒนธรรมยังคงมีคุณค่าและสามารถอยู่ร่วมกับยุคสมัยปัจจุบันได้อย่างกลมกลืน

……………………………………

อัพเดทล่าสุด

ไม่เสียเปรียบเมื่อเจองู! ‘ทีมอสรพิษละงู’ จัดใหญ่ โครงการให้ความรู้ สู้ภัยงูเข้าบ้านช่วงฝน

ไม่เสียเปรียบเมื่อเจองู! ‘ทีมอสรพิษละงู’ จัดใหญ่ โครงการให้ความรู้ สู้ภัยงูเข้าบ้านช่วงฝน

Categories
ข่าวทั่วไป

สัญญาณแห่งความอุดมสมบูรณ์! ตะลึงพบฝูงโลมาอิรวดี 10 ตัว โชว์ตัวกลางคลองท่าจีนสตูล

สัญญาณแห่งความอุดมสมบูรณ์! ตะลึงพบฝูงโลมาอิรวดี 10 ตัว โชว์ตัวกลางคลองท่าจีนสตูล

วันที่ 10 มีนาคม 2568  ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า   ชาวสตูลและนักท่องเที่ยวต่างตื่นตาตื่นใจกับการพบฝูงโลมาอิรวดีกว่า 10 ตัว ว่ายน้ำและกระโดดโชว์ตัวอย่างไม่หวาดกลัวผู้คนในพื้นที่คลองท่าจีน ตำบลคลองขุด อำเภอเมือง จังหวัดสตูล สะท้อนความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศป่าชายเลนและทรัพยากรทางทะเลในพื้นที่

นายทรงเดชา วันทา ปลัดเทศบาลตำบลคลองขุด พร้อมด้วยกลุ่มประมงพื้นบ้านและกลุ่มท่องเที่ยวชุมชน ได้จัดกิจกรรมล่องเรือสำรวจเส้นทางคลองท่าจีน หมู่ที่ 1 ตำบลคลองขุด เพื่อพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในพื้นที่ ระหว่างการสำรวจได้พบเหตุการณ์น่าประทับใจเมื่อฝูงโลมาอิรวดีประมาณ 10 ตัว ว่ายน้ำและกระโดดแสดงความน่ารักให้ชม โดยไม่แสดงอาการตื่นกลัวต่อผู้คนแต่อย่างใด

“การพบโลมาอิรวดีในพื้นที่นี้เป็นสัญญาณที่ดีของความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ” นายทรงเดชากล่าว “โลมาอิรวดีจะเข้ามาในพื้นที่ที่มีแหล่งอาหารอุดมสมบูรณ์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทรัพยากรในพื้นที่นี้ยังคงสมบูรณ์และมีความสำคัญต่อสัตว์ทะเลหายากเหล่านี้”

พื้นที่คลองท่าจีนตั้งอยู่ใกล้กับภูเขาสูงที่ชาวบ้านเรียกว่า “โต๊ะกูเด็น โต๊ะตาบอด” เป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าชายเลน หอยขาว และสัตว์ทะเลนานาชนิด การพบฝูงโลมาอิรวดีซึ่งเป็นสัตว์ทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์ในครั้งนี้ จึงเป็นเครื่องยืนยันถึงความสำคัญของพื้นที่ที่ต้องได้รับการอนุรักษ์อย่างจริงจัง

ทางเทศบาลตำบลคลองขุดได้เรียกร้องให้ประชาชนในพื้นที่ร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อรักษาความอุดมสมบูรณ์และพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างยั่งยืน พร้อมเตรียมผลักดันเส้นทางล่องเรือคลองท่าจีนให้เป็นจุดหมายใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติและชมความน่ารักของฝูงโลมาอิรวดีในถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติ

…………………………………………..

คลิปพบฝูงโลมา    ขอบคุณภาพประทับใจจาก…ปลัดเทศบาลตำบลคลองขุด

อัพเดทล่าสุด

ไม่เสียเปรียบเมื่อเจองู! ‘ทีมอสรพิษละงู’ จัดใหญ่ โครงการให้ความรู้ สู้ภัยงูเข้าบ้านช่วงฝน

ไม่เสียเปรียบเมื่อเจองู! ‘ทีมอสรพิษละงู’ จัดใหญ่ โครงการให้ความรู้ สู้ภัยงูเข้าบ้านช่วงฝน