Categories
ข่าวเด่น

นาทีบีบหัวใจ! แม่อุ้มหนูน้อยวัย 1 ขวบ  ขอความช่วยเหลือร้านเภสัช  ช่วยลูกที่อาการชักเกร็งตาค้างอ่อนแรง  ก่อนพบต้นเหตุที่เชื่อว่า   เกิดจากองุ่นติดคอเข้าหลอดลม

นาทีบีบหัวใจ! แม่อุ้มหนูน้อยวัย 1 ขวบ  ขอความช่วยเหลือร้านเภสัช  ช่วยลูกที่อาการชักเกร็งตาค้างอ่อนแรง  ก่อนพบต้นเหตุที่เชื่อว่า   เกิดจากองุ่นติดคอเข้าหลอดลม

           เหตุการณ์รายนี้เกิดขึ้นที่ร้านขายยา  เภสัชกระติ๊บ  บนถนนยนตรการกำธร  เทศบาลตำบลคลองขุด  อำเภอเมือง  จังหวัดสตูล  เมื่อ เภสัชกรหญิงณภัคมนต์ ลักษณะ  เภสัชกรร้านขายยาแผนปัจจุบัน  ชื่อร้านขายยาเภสัชกระติ๊บ  ได้โพสต์บนสื่อโซเชียล  เล่าเหตุการณ์ว่า 11 ปี  หลังจากเหตุการณ์โจรปืนปลอมมาจี้ที่ร้านยา ก็ไม่เคยมีครั้งไหน  ใจเต้นและบีบหัวใจเท่าเหตุการณ์ในวันนี้  เรียกได้ว่า “วินาทีชีวิต”   โดยเล่าว่าในช่วงเวลา 18.00 น. มีลูกค้าประจำที่ร้านขี่รถมอเตอร์ไซค์พาลูกน้อยวัย 1 ขวบ มาจอดหน้าร้าน  ได้ยินเสียงรถเบรกเสียงดัง แล้วตะโกนให้ช่วยน้องด้วยน้องชัก  “นี่ก็ตกใจมาก” แม่น้องแจ้งว่า  น้องไข้แล้วน้องชัก ” เราก็ตั้งสติ จับน้องนอนลงในคอกเด็ก แจ้งยายให้หาผ้าเช็ดตัวมาให้ด่วน ก่อนให้พ่อเด็กรีบโทร 1669 ทันที!!

 

           น้องมาด้วยอาการ ตาค้างเบิกโพลน ไม่กระพริบ ตัวอ่อนแรง ฉี่และอุจาระ ไม่ได้สติ จึงเริ่มจากการเช็ดตัว แต่พอจับตัวน้องน้องไม่ได้ตัวร้อน จึงปั๊มหัวใจ แต่ประเมินอาการแล้วน่าจะไม่ใช่อาการที่แม่น้องบอกมา

 

          จึงสอบถามแม่น้องว่า ก่อนหน้านี้ให้น้องกินอะไรมาบ้าง เพราะในใจสงสัยเรื่องอาหารติดคอ พอแม่บอกว่าองุ่นชิ้นเล็ก แม้จะชิ้นเล็กแต่เด็กวัยนี้  มีพฤติกรรมอมอาหารแล้วอาจจะสำลักเข้าหลอดลมได้ง่าย

 

           จึงไม่รอช้าลงมือจับน้องกระทุ้งทันที  นาทีนั้น  น้องตอบสนอง  ตาเริ่มกระพริบช้า เริ่มได้ยินเสียงร้องเบาๆ จากนั่นก็ทำครั้งที่ 2 เสียงเริ่มดังขึ้น ครั้งที่ 3 น้องร้องเสียงดังขึ้นกว่าเดิมตั้งคอได้  เราน้ำตาไหลในใจนี้โล่งเลย  “น้องรอดแล้วนะลูก” ประจวบเหมาะกับรถโรงพยาบาลมาถึงหน้าร้านพอดี 

             เภสัชกรหญิงณภัคมนต์ ลักษณะ  หรือ เภสัชกระติ๊บ  บอกอีกว่า  เปิดร้านยามา 12 ปี เจอผู้ป่วยวิกฤติมาเยอะแต่ไม่เคยมีครั้งไหนบีบหัวใจเท่าครั้งนี้

           เพราะเราก็มนุษย์แม่เช่นกัน ตอนนี้น้องปลอดภัยและยังคงเฝ้าดูอาการน้องต่อที่รพ.สตูล ไม่เจอกับตัวเอง  ไม่รู้เลยว่า  คำว่านาทีชีวิตมันเป็นอย่างไร  ขอบคุณตัวเองที่มีสติพอ   ขอบคุณคลิปต่างๆของพี่หน่วยปฐมพยาบาลที่เคยผ่านตา  ทำให้ได้มีความรู้ว่า  ต้องช่วยเด็กอย่างไร

อัพเดทล่าสุด
Categories
ท้องถิ่น-การเมือง ท่องเที่ยว-กีฬา

 จัดหนักจัดเต็ม! กีฬาสูงวัยพาราสโตยเกมส์ ครั้งที่ 3 ทั้งกองเชียร์และนักกีฬาสร้างความสุขสนุกสนาน

จัดหนักจัดเต็ม! กีฬาสูงวัยพาราสโตยเกมส์ ครั้งที่ 3 ทั้งกองเชียร์และนักกีฬาสร้างความสุขสนุกสนาน

        เริ่มแล้ว…การแข่งขันกีฬาผู้สูงอายุและคนพิการจังหวัดสตูล  “ใส่ใจ สูงวัย พาราสโตยเกมส์”  ครั้งที่ 3 ที่มีการจัดขึ้นที่สนามกีฬากลางองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล ตำบลคลองขุด  อำเภอเมือง 

          กับเกมกีฬาหลากหลาย   ที่สร้างความสุข  สนุกสนานให้กับผู้สูงวัยและผู้พิการ ที่มาร่วมการแข่งขันและกองเชียร์จากทั่วทุกอำเภอ 880 คน กับเกมกีฬายอดฮิตอย่างปิดตาตีหม้อ  ชนิดที่กองเชียร์ลุ้นกันเกือบลืมหายใจ  สร้างเสียงหัวเราะ  ความสุขสนุกสนานให้ทั้งผู้เล่นและผู้ชมได้ไม่น้อย  งานนี้ผู้สูงอายุและผู้พิการต่างก็มีความสุข

 

           นอกจากนี้   เกมกีฬา  ดันลูกโป่ง  ที่ผู้สูงอายุแต่ละอำเภอของจังหวัดสตูล  ได้ส่งนักกีฬาตัวท็อปตัวเต็ง  ลงการแข่งขันดันลูกโป่งให้แตกในเวลาเร็วที่สุด นักกีฬาทุกคนก็ฟิตมาเป็นอย่างดี  เพื่อไม่ให้กองเชียร์ผิดหวัง ทั้งนักกีฬาชายหญิง  ผู้สูงวัยต่าง  ตื่นเต้นสนุกสนานไปตามๆกัน

 

          มีนักกีฬาแล้วก็ต้องมีกองเชียร์ ที่แต่งตัวสีสันสวยงามกันตั้งแต่เช้ามืด  เพื่อมาร่วมงานนี้ โดยกองเชียร์แต่ละคนก็จัดหนักจัดเต็ม  ชนิดไม่มีใครยอมใคร  สีสันสวยงามเต็มท้องสนามและอัศจรรย์  งานนี้คณะกรรมการก็มีคะแนนให้กับกองเชียร์แต่ละอำเภอด้วย  โดยจะมีคะแนนความพร้อมเพรียง  ความสามัคคี  การมีส่วนร่วม   ทำให้ทุกคนเต้นส่ายสะโพกโยกย้ายชนิดลืมวัยกันเลยทีเดียว    ซึ่งเจ้าของงาน  ก็เตรียมความพร้อมทั้งรถพยาบาลฉุกเฉิน  ไว้สแตนบาย  หากเกิดเหตุจะได้ช่วยกันทันท่วงที

 

              ด้านนายชาตรี ณ  ถลาง  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล  ได้มาร่วมเป็นประธานเปิดงานในครั้งนี้  โดยมีนายสัมฤทธิ์  เลียงประสิทธิ์  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล  กล่าวถึงวัตถุประสงค์การจัด การแข่งขันกีฬาผู้สูงอายุและคนพิการจังหวัดสตูล  “ใส่ใจ สูงวัย พาราสโตยเกมส์”    ครั้งที่ 3  ซึ่งงานมีขึ้นระหว่างวันที่ 25-26 มิถุนายน 2567  โดยมีเกมกีฬาสากล  กีฬาพื้นบ้านและกิจกรรมนันทนาการ  ที่เสริมสร้างสุขภาพให้แข็งแรง  สังคมดีและมีความสุข 

 

           ผู้จัดทุกฝ่าย  เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ และคนพิการ จึงจัดกีฬาและนันทนาการ เพื่อส่งเสริมให้มีสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง  ให้สังคมตระหนักถึงคุณค่าและศักดิ์ศรีของผู้สูงอายุ และคนพิการ  พร้อมเปิดโอกาส ให้มีกิจกรรมการมีส่วนร่วมทางสังคม รวมถึงสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกัน และการอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข

…………………………

 

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 สตูล-ขนมมารากู  สูตรอินเดียกลิ่นไอของใบสมุยเทศ  สร้างรสชาติชวนลิ้มลอง  ขนมโบราณที่สืบทอดมายาวนานมีทานเฉพาะเทศกาลและออเดอร์เท่านั้น

สตูล-ขนมมารากู  สูตรอินเดียกลิ่นไอของใบสมุยเทศ  สร้างรสชาติชวนลิ้มลอง  ขนมโบราณที่สืบทอดมายาวนานมีทานเฉพาะเทศกาลและออเดอร์เท่านั้น

         ที่เป็นมากกว่าโรตี หรือโรตีกรอบ ก็ต้องยกให้  ขนมมารากูสูตรอินเดียเลย  เพราะกรรมวิธีอาจจะคล้ายโรตีทั่วไปแต่ใส่เครื่องเทศเข้ามา  ปั้นเป็นก้อนแช่น้ำมันคล้ายโรตี  ดูอีกทีก็คล้ายทอดมันปลายังไงอย่างงั้น  แต่มาดูการทำของทางร้าน บังกาหรีม ตำบลบ้านควน อำเภอเมือง จังหวัดสตูล   นางดารุณี อายาหมีน   อายุ 65 ปี  พร้อมลูกสาวนางไซนับ  มูเก็ม อายุ 42 ปี  และ หลานสาวช่วยกันทำขนม มารากู   เพื่อให้ทันกับออเดอร์ของลูกค้า

 

          ด้านนางไซนับ  มูเก็ม อายุ 42 ปี   กล่าวว่า  ขนม มารากู  เป็นขนมในประเทศอินเดีย ถือว่าเป็นขนมมงคล  ชอบทำทานในวันสำคัญ  มีการทำกันในประเทศมาเลเซียมาก  และมีการสืบทอดและไหลมาทางชายแดน จ.สตูล  ซึ่งติดกับประเทศมาเลเซีย  บรรพบุรุษหลายรุ่นจะทำกินและทำขาย  ในวันสำคัญของพี่น้องชาวมุสลิมและเป็นอาชีพในทุกวันนี้  ยิ่งในช่วงเดือนสำคัญอย่างช่วงฮารีรายา  ของพี่น้องมุสลิม จะขายดี มีออเดอร์สั่งเข้ามารัวๆเลยทีเดียว

            ส่วนออเดอร์ที่ลูกค้ามาสั่งจอง  รวมถึงผู้ที่ผ่านไปผ่านมาแวะมาอุดหนุน ขนมมารากู ขายได้เดือนละ 30 ถุง ซึ่งบรรจุถุงละ 1 กิโลกรัม ราคา 100 บาท เฉลี่ยแล้วมีรายได้ต่อเดือนละประมาณ 3,000 – 4,000 บาท

 

           ทั้งนี้นายสมโภชน์  สุขใจ ลูกค้าคนรุ่นใหม่ที่ชอบทาน บอกว่า อร่อยและกรอบ ได้กลิ่นไอของใบนาโปแล หรือใบสมุยเทศ  และเครื่องผสมทำให้ขนมชนิดนี้ทานอร่อย รสชาติไม่เหมือนขนมอื่นๆ

                   

          สำหรับขนมชนิดนี้ชื่อว่า ขนมมารากู หรือคนใต้เรียกว่า โรตีกรอบ เพราะส่วนผสมที่ทำคล้ายแป้งโรตีนวดๆเป็นกลม โดยใช้แป้งหมี่ ไข่ไก่ และใส่เกลือ เพิ่มส่วนผสมเครื่องเทศ  พริก และ ใบสมุยเทศ (เคล็ดลับความอร่อยเพิ่มความหอมกรุ่น)   รวมทั้งหัวหอมซอย  จากนั้นนำแป้งไปนวด และฟัดเหมือนโรตีให้เป็นแผ่นบาง ๆ และตัดเป็นส่วน นำไปทอดในไฟร้อนๆ ยกสะเด็ดน้ำมัน แพ๊คใส่ถุงส่งให้ลูกค้าทันที สามารถสั่งจองได้ 089-879 1966   นอกจากนี้ที่ร้านบังกาหรีม ทุก ๆ เช้าจะเปิดขายน้ำชา กาแฟ ขนมพื้นถิ่น ขนมมารากู    หากทานคู่ชาเย็น จะอร่อยมาก 

 ………………………………………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

สตูล – แอ๊ดดี้เทพบุตรเดินดิน  จิตอาสาของน้องหมาจรจัด 18,000 ตัว 

สตูล – แอ๊ดดี้เทพบุตรเดินดิน  จิตอาสาของน้องหมาจรจัด 18,000 ตัว 

          แอ๊ดดี้  หรือ  นายเกรียงไกร  ธาตวากร  อายุ 51 ปี หนุ่มศรีสะเกษ  ลูกเจ้าของร้านรับจัดโต๊ะจีน   ดีกรีเกียรตินิยมอันดับหนึ่ง  รัฐศาสตร์บัณฑิต  เทพบุตรของสุนัขจรจัด  ที่ได้ตระเวนเดินสายเป็นจิตอาสาไปทั่วประเทศกว่า 12 ปี  บริการน้องหมาจรจัดที่มีสภาพสกปรก เป็นที่น่ารังเกียจด้วยการตัดขน  ตัดเล็บและรักษาโรคผิวหนัง 18,000 ตัว  รวมทั้งแจกสูตรปรุงยารักษาโรคผิวหนัง   หรือโรคขี้เรื้อนให้ด้วย  ทั้งนี้เพื่อคืนชีวิตใหม่ให้กับน้องหมาได้มีโอกาสหาบ้านใหม่

 

          และในวันนี้ได้เดินทางมาที่จังหวัดสตูล  ซึ่งเป็นการเดินทางมาเป็นครั้งที่ 3  ที่สถานสงเคราะห์เทศบาลเมืองสตูล  ที่มีหมาจรจัดในการดูแลกว่า 200 ตัว ซึ่งเป็นน้องหมาที่ได้มาจากการถูกทอดทิ้ง  และยังพบว่าสถานการณ์หมาจรจัดในจังหวัดสตูลพบน้องหมาสายพันธ์ดังๆ  ถูกทอดทิ้งเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ  บางพื้นที่ไร้การเหลียวแลปล่อยให้อดอยาก  และอยู่ในสภาพที่สังคมรังเกียจ

         วันนี้แอ๊ดดี้เทพบุตรน้องหมาจรจัด  นอกจากจะมาบริการตัดขนและเล็บให้น้องหมาจรจัดฟรีแล้ว   ยังนำสูตรยาสมุนไพรรักษาโรคผิวหนังหรือโรคขี้เรื้อน   มาให้ผู้ดูแลน้องหมาจรจัด  และผู้ที่สนใจไว้รักษาน้องหมาที่บ้าน   เพียงนำผงขมิ้นที่ทำกับข้าวจำนวน 1 กิโลกรัม น้ำมะกรูด 6 ลูก น้ำมันมะกอก 2 ขวดหรือน้ำมันมะพร้าว   น้ำยาเดตตอลครึ่งฝา  กำมะถัน 1 ทัพพี  และใช้น้ำธรรมดาเป็นส่วนผสมให้เข้ากัน  คนให้ข้นเหมือนปะแป้งได้ ใช้ทาน้องหมาที่เป็นโรคผิวหนังทุก 7 วัน ทำไปเรื่อยๆ แป๊บเดียวอาการน้องหมาจะดีขึ้นคืนชีวิตใหม่ให้น้องหมา

 

          พร้อมฝากข้อคิดให้กับใครที่กำลังมองหาน้องหมา อยากแนะนำลองเปิดใจให้โอกาสน้องหมาจร ที่มีสายพันธ์ดังๆ  ถูกทอดทิ้งจากหลายสาเหตุที่นำมาทิ้งเพื่อไปเลี้ยงต่อ  ซึ่งตนเชื่อว่าการมาตัดขน ตัดเล็บ และรักษาโรคผิวหนังให้จะทำให้น้องหมาได้มีโอกาศมีบ้านใหม่ จากผู้ที่ชื่นชอบสุนัข  และตนก็ยินดีที่จะเดินสายช่วยชีวิตน้องหมาไปจนกว่าตัวเองจะยกบปัตตาเลี่ยนไม่ไหว

…………………………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

สตูล-สืบสานความสวยงามประเพณีนิยม  ชุดขันหมากโดยชุมชนสตรีมุสลิมร่วมแข่งขันพับผ้าละหมาดและผ้ารองละหมาด  สร้างสรรค์ไอเดีย  ฝึกสมาธิ สร้างรายได้และความสามัคคีในชุมชน

สตูล-สืบสานความสวยงามประเพณีนิยม  ชุดขันหมากโดยชุมชนสตรีมุสลิมร่วมแข่งขันพับผ้าละหมาดและผ้ารองละหมาด  สร้างสรรค์ไอเดีย  ฝึกสมาธิ สร้างรายได้และความสามัคคีในชุมชน

         ประเพณีนิยมการทำชุดขันหมากของไทยมุสลิมจากผ้าตาละกง หรือผ้าละหมาดผู้หญิง ผ้าซายาด๊ะ หรือผ้ารองละหมาด และผ้าขนหนู  ทำให้ทางสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสตูลและมัสยิดอะห์มาดิย๊ะปันจอร์  อ.ควนโดน จ.สตูล ได้เข้ามาส่งเสริมและมีการจัดการแข่งขันขึ้นเพื่อส่งเสริมสนับสนุนวัฒนธรรมประเพณีที่ดีงาม

 

       โดยที่มัสยิดอะห์มาดิย๊ะปันจอร์  อ.ควนโดน จ.สตูล  ได้มีการจัดงานเทศกาลวันตรุษอีดิลอัฎฮา  ครั้งที่ 16  รายาหยีที่บ้านจอร์  หนึ่งในกิจกรรมที่มีการส่งเสริมความสมัครสมาชิกภายในชุมชน 10 แห่งคือ  แข่งขันพับผ้าโชว์ ผ้าตาละกง หรือผ้าละหมาดผู้หญิง ผ้าซายาด๊ะ หรือผ้ารองละหมาด และผ้าขนหนู 

 

         โดยมีกลุ่มสตรีจากชุมชนต่างๆเช่นชุมชนหลวงนา,ชุมชนปะการัง,ชุมชนไฮเวย์,ชุมชนปากบาง,ชุมชนควนดินแดง,ชุมชนทรายทอง,ชุมชนดินทรุด,ชุมชนกุมปัง,ชุมชนทุ่งโต๊ะหรัด, และชุมชนห้วยท้องหะ 10 ชุมชน เข้าร่วมการแข่งขันกันอย่างพร้อมเพรียงท่ามกลางกองเชียร์ที่มารอชมฝีมือของกลุ่มสตรีดังกล่าว

 

        การแข่งขันใช้ระยะเวลา 1 ชั่วโมงเนื่องจากต้องใช้ความปราณีต ความคิดสร้างสรรค์  โดยทางคณะกรรมการก็จะให้คะแนน ทั้งประเภทความหลากหลายของอุปกรณ์ ความสวยงาม  องค์ประกอบและขั้นตอนการพับ

 

          นายณพงศ์   ใบหมาดปันจอ   อดีตวัฒนธรรมจังหวัดสตูลและกรรมการมัสยิดฯ  กล่าวว่า   กิจกรรมของสตรีภายในหมู่บ้านในครั้งนี้  เป็นส่วนหนึ่งในการฝึกสมาธิให้ใจเย็น สร้างความสามัคคีภายในชุมชนพร้อมทั้งการสืบทอดให้ลูกหลานหัดพับผ้า ที่สามารถเพิ่มมูลค่าและสร้างรายได้  จากการทำชุดขันหมากในการสู่ขอบ่าวสาว ที่จะมีการใช้ผ้าตาละกง หรือผ้าละหมาดผู้หญิง ผ้าซายาด๊ะ หรือผ้ารองละหมาด และผ้าขนหนูในการตกแต่งเป็นชุดขันหมาก มีมูลค่าจาก 300 บาทเป็น 3,000 บาทได้

 

         โดยผู้เข้าร่วมการแข่งขันหลายคนก็จะตกแต่งเป็นชุดถ้วยน้ำชา , พัดที่สวยงาม  กระเป๋า  โดมมัสยิด  บ้างก็ตกแต่งเป็นผลจำปาดะ  เค้ก และเรือ แล้วแต่ไอเดียสร้างสรรค์  ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้เป็นเพียงส่วนหนึ่งภายในงาน  เทศกาลวันตรุษอีดิลอัฎฮา   รายาหยีที่บ้านจอร์ ที่ชาวบ้านในชุมชนมีการจัดขึ้นเป็นประจำทุกปีสำหรับปีนี้ก็จัดเป็นครั้งที่ 16 แล้ว

………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

สตูลเก๋! ขนปลาแซลมอนสด มูลค่า 10,000 บาท แล่showแจกในพิธีเปิดงานSME HALAL FOOD FEST 2024 ครั้งที่ 1  ที่มีการจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-23 มิถุนายน 67

สตูลเก๋!! ขนปลาแซลมอนสด มูลค่า 10,000 บาท แล่showแจกในพิธีเปิดงานSME HALAL FOOD FEST 2024 ครั้งที่ 1  ที่มีการจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-23 มิถุนายน 67

           ภาคธุรกิจสมาพันธ์ sme ไทยจังหวัดสตูล ทำเก๋เปิดงานSME HALAL FOOD FEST 2024 ครั้งที่ 1  อย่างยิ่งใหญ่  ด้วยการนำปลาแซลมอนจากแอตแลนติกเหนือ  ขนาดตัวละ 9 กิโลกรัมจำนวน 2 ตัวมูลค่า 10,000 บาท มาโชว์  ให้ผู้ร่วมงานและนักท่องเที่ยวได้ชิมจากฝีมือเชฟ มืออาชีพภายในงาน

         

          นายจักรพรรณ วัลแอ ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย ได้เรียนเชิญนายชาตรี ณ ถลาง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล  มาร่วมเป็นประธานเปิดงานและแขกผู้มีเกียรติที่เกี่ยวข้อง  ร่วมกิจกรรมงานSME HALAL FOOD FEST 2024 ครั้งที่ 1  ที่มีการจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18-23 มิถุนายน 67 

 

          เพื่อเป็นการสนับสนุนสินค้าฮาลาล จับจ่ายซื้อของ รวมทั้งได้กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากให้เกิดการหมุนเวียนสร้างรายได้ให้กับจังหวัด ไม่เพียงแต่ประชาชุนภายในจังหวัดสตูลเท่านั้น แต่รวมไปถึงประชาชนจากจังหวัดใกล้เคียง และนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่เดินทางมาจังหวัดสตูล

        และไฮไลท์การเปิดงานในครั้งนี้  ได้เชิญเชฟมือฉมังจากจังหวัดนราธิวาส โชว์การทำเมนูซูชิจากปลาแซลมอน สดๆ ที่ผ่านการคัดสรรมาอย่างดี  โดยเนื้อปลานำเข้า น้ำหนักตัวละ 9 กิโลกรัมจำนวน 2 ตัวมูลค่า 10,000 บาท  show ลีลาการแล่เนื้อปลาแซลมอน กับอุปกรณ์ที่มาตรฐานและทันสมัยด้วยมีดเล่มละกว่า  10,000 บาท  ให้เห็นถึงศิลปะการทำและทานซูชิ และสตอรี่ที่เชฟนำสื่อสารเพื่อเพิ่มมูลค่าให้สินค้า 

        ให้กับผู้เข้าร่วมงานได้ไม่น้อย  กับเมนูยอดนิยมซูชิปลาแซลมอน  แต่งานนี้  การทำซูชิจะไม่ธรรมดาอีกต่อไปเมื่อ  เชฟปรุงเสร็จ ทุกคนต้องใช้มือในการหยิบใส่ปาก  พากันตื่นเต้นและเสียดายที่เชฟให้ทานเพียงคนละ 1 ชิ้นเท่านั้นเนื่องจากเนื้อปลา  1 ตัวสามารถทานได้เพียง 30 คน ที่มาร่วมงาน   ถ้าใครยังติดใจเชฟก็เชิญที่บูธที่วางจำหน่ายภายในงาน   นับเป็นกลยุทธ์การขาย ที่สร้างแรงจูงใจให้กับลูกค้าที่สามารถบอกต่อและหาซื้อสามารถตามไปซื้อได้ที่ร้านภายในงาน  

          นอกจากนี้หัวปลาและกระดูกปลาแซลมอนจะมีการแจกฟรี ในวันสุดท้ายของงานเพื่อจูงใจลูกค้าให้มาเที่ยวงานด้วย

……

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 ผลผลิตออกแล้ว! กระท้อนนาปริก  เปลือกบางเนื้อนุ่ม ใหญ่สุดผลเดียว 2 กก.ต้องใช้ช้อนตัก  ฟินกันถ้วนหน้า 12 – 15 ก.ค.2567 นี้ งานกระท้อนหวานที่สตูล

ผลผลิตออกแล้ว!! กระท้อนนาปริก  เปลือกบางเนื้อนุ่ม ใหญ่สุดผลเดียว 2 กก.ต้องใช้ช้อนตัก  ฟินกันถ้วนหน้า 12 – 15 ก.ค.2567 นี้ งานกระท้อนหวานที่สตูล

          เริ่มแล้ว!! กระท้อน เริ่มให้ผลผลิตออกสู่ตลาดแล้ว  ที่หมู่บ้านกระท้อน  บ้านนาปริก ต.ควนโดน อ.ควนโดน จ.สตูล พื้นที่แห่งนี้เป็นแหล่งกระท้อนที่มีผลผลิตนุ่ม   หวาน   อร่อยและที่สำคัญผลโตมากขนาดเท่ากับหน้าคนก็ว่าได้ 

          มีชื่อเสียงโด่งดัง  กับกระท้อนมากกว่า 5 สายพันธุ์ เช่น พันธุ์ปุยฝ้าย  พันธุ์เขียวหวาน  พันธุ์ทับทิม  โดยเฉพาะพันธุ์อิล่า  สายพันธุ์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะ   ผลโต เนื้อนุ่ม หวาน อร่อย น้ำหนักเยอะสุด   ในหนึ่งผล 2 กิโลกรัมเลยทีเดียว   โดยราคาปีนี้ยังคงเดิมคือกิโลกรัมละ 60-70 บาท

          นายวริช   วิชิต  รองผอ.ททท.สำนักงานสตูล , นางวรรณนภา  คงเคว็จ  เกษตรอำเภอควนโดน และนายวริศ   มาลินี   นายกอบต.ควนโดน เยี่ยมสวนกระท้อนบ้านนาปริกคุณภาพ   หลังพบว่าที่สวนแห่งนี้เริ่มให้ผลผลิตออกสู่ตลาดกันแล้ว เพื่อประชาสัมพันธ์และส่งเสริมการขายให้กับเกษตกรและชาวบ้านที่แปรรูปสินค้า

          นายอิบรอเหม   เด็นสำดี   อายุ 66  ปี ชาวสวนกระท้อน หมู่ที่ 9 บ้านนาปริก  บอกว่า  กระท้อนชุดแรกได้ออกสู่ตลาดแล้วลูกค้าสามารถสั่งจองได้  แม้ปีนี้ผลผลิตอาจจะประสบปัญหาแล้งที่ยาวนาน   แต่ก็มีกระท้อนมากเพียงพอที่จะจำหน่ายให้กับลูกค้าที่ชื่นชอบกระท้อนผลใหญ่ เนื้อนุ่ม   ชนิดที่ต้องใช้ช้อนตักได้เลย ซึ่งกระท้อนที่นี่ปลูก 3 ปีปีที่ 4 สามารถขายได้แล้ว  ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศทำให้ผลผลิตเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ โดยปีนี้ผลผลิตมี 3 รุ่น จำนวน 12,000 ลูก ซึ่งหัวใจของกระท้อนคุณภาพ   เริ่มตั้งแต่การดูแลผลผลิตที่เริ่มออก   ด้วยการตัดแต่ง ทันทีที่กระท้อนเริ่มออกสู่ตลาดเริ่มมีออเดอร์เข้ามาแล้ว 50 กิโลกรัม สามารถติดต่อได้โดยตรงคือ 080 710 4881 หรือ 062 432 4524

          นางวรรณนภา  คงเคว็จ  เกษตรอำเภอควนโดน จ.สตูล   กล่าวว่า  พันธุ์ปุ้ยฝ้าย เขียวหวาน และอีร่า มีเสน่ห์เนื้อเปรี้ยวอมหวาน   ที่สำคัญของตลาด ทุกสายพันธุ์นุ่มฟูเปลือกบาง ได้ส่งเสริมเกษตรกรได้เข้าสู่มาตรฐาน GAP  และกำลังยื่นขอพืช GI  รอการประกาศอยู่

          นอกจากกระท้อนผลสดที่ใช้ช้อนตักทานได้อย่างสบายใจแล้ว  ยังมีกลุ่มแม่บ้านภายใต้ชื่อกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์และวิถีเกษตรเขาโต๊ะกรัง  ได้นำกระท้อนที่ตกเกรดมาแปรรูปเป็นสินค้ากระท้อนทรงเครื่อง,น้ำพริกกระท้อน,หรือน้ำยาขนมจีนกระท้อนก็สุดแสนจะอร่อย 

         นายวริศ   มาลินี   นายกอบต.ควนโดน จ.สตูล  กล่าวว่า  ทางอบต.เตรียมส่งเสริมให้มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์  สินค้าพรีเมี่ยม  อาทิ  ไซหรับกระท้อน , ไอศกรีมกระท้อน, น้ำยาขนมจีนกระท้อน ,  ในส่วนของอบต.จะพัฒนาให้มีมูลค่าสูงเพื่อส่งเสริมรายได้ให้กับชาวสวน และในวันที่ 12 – 15 ก.ค.2567 นี้จะมีการจัดงานกระท้อนตำบลควนโดน  ขึ้นที่ตลาดนัดดุสน อ.ควนโดน จ.สตูล

        ด้านนายวริช   วิชิต  รองผอ.ททท.สำนักงานสตูล  ยอมรับว่า  สวนผลไม้กระท้อนนาปริกเป็นเอกลักษณ์ของจังหวัดสตูล  ด้านการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานสตูล ก็จัดกิจกรรมเกี่ยวกับผลไม้พานักท่องเที่ยวเข้ามาชมสวน   มาอุดหนุนเกษตรกรที่นี่   ซึ่งสามรถทำการท่องเที่ยวเชื่อมโยงได้  โดยการท่องเที่ยววิถีชุมชนของอำเภอคนโดน   สามารถที่จะมาชิมผลไม้และไปเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวบริเวณรอบๆซึ่งมีที่เที่ยวหลายแห่ง ให้เช็คอิน  ถ่ายภาพ

          สำนักงานเกษตรจังหวัดสตูล ได้เข้ามาส่งเสริมและพัฒนาสินค้าเกษตรอัตลักษณ์พื้นถิ่น ส่งเสริมและพัฒนาสินค้ากระท้อนในพื้นที่ 7 อำเภอ บนพื้นที่ผลิต 60 ไร่ ที่จังหวัดสตูล   เป็นที่รู้จัก และเป็นที่ต้องการของผู้บริโภค จากลักษณะเด่นผลใหญ่ เนื้อหนานุ่มฟู รสชาติหวาน สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรได้เป็นอย่างดี และมีการขยายผลไปสู่การเชื่อมโยงการท่องเที่ยวชุมชน ตามคำขวัญ “แหล่งกระท้อน นุ่มหวาน ดินแดนประวัติศาสตร์โบราณ ประตูอุทยานธรณี”

…………………………………

 

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

ตำรวจสตูลไอเดียเก๋ ลุยสร้างมวลชนสายบุญมาพร้อมกับสโลแกน  “วันนี้ พี่ไม่จับ แต่ มาแจก”

ตำรวจสตูลไอเดียเก๋ ลุยสร้างมวลชนสายบุญมาพร้อมกับสโลแกน  “วันนี้ พี่ไม่จับ แต่ มาแจก”

         (วันที่ 18 มิ.ย.67)  พ.ต.ท.ภนภัค ภานุเดชากฤษ   รอง ผกก.สส.สภ.ทุ่งหว้า มอบหมายให้ชุดสืบสวน , สายตรวจ , และตำรวจจิตอาสา นำเครื่องดื่มสมุนไพรเพื่อสุขภาพ  อาทิ  น้ำอัญชัน, น้ำตะไคร้ , น้ำกระเจี๊ยบ,หลายร้อยขวด

        ร่วมกันแจกจ่ายในงานบุญและงานประเพณีต่าง ๆ  ทั้งงานทอดผ้าป่า สำนักสงฆ์บ้านขุมทรัพย์  และ  ทอดผ้าป่าวัดทุ่งขมิ้นของอำเภอทุ่งหว้า  และงานฮารีรายาอีดิ้ลอัฎฮาของพี่น้องมุสลิม ในพื้นที่หมู่ 3 มัสยิดทุ่งดินลุ่ม  และหน้าเทศบาล ตำบลทุ่งหว้า ได้ดื่มด่ำดับกระหายกับเมนูน้ำดื่มสมุนไพรรักสุขภาพฟรี!! ทั่วถึงทั้งชาวไทยพุทธและมุสลิม

           กิจกรรมในครั้งนี้ พ.ต.ท.ภนภัค  ภานุเดชากฤษ   รอง ผกก.สส.สภ.ทุ่งหว้า ต้องการจะสร้างสายสัมพันธ์อันดีระหว่างตำรวจ สภ.ทุ่งหว้า  และชุมชนในพื้นที่ให้ทุกคนได้ทำกิจกรรมร่วมกันอย่างมีความสุข  ความปลอดภัย  พร้อมกับดับกระหายกับน้ำดื่มสมุนไพรเพื่อสุขภาพ  อีกทั้งเป็นการไถ่โทษ ที่ จับกุมลูกหลาน ชาวบ้าน ( ที่กระทำผิด)

 

          รอง ผกก.สส.สภ.ทุ่งหว้า  กล่าวเพิ่มเติมว่า  จากการทำกิจกรรมในลักษณะดังกล่าวได้มีมวลชนเพิ่มขึ้นทำให้ในพื้นที่ ไม่เคยเกิดเหตุอุกฉกรรจ์ หรือ สะเทือนขวัญเลยนับแต่ย้ายมาดำรงตำแหน่งเมื่อธันวาคม 66   จึงเป็นที่มาของกิจกรรมที่ชื่อว่า “ วันนี้ พี่ไม่จับ แต่ มาแจก ”

………….

 

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 สตูล-ล่องเรือหาหอยตาแดงในป่าชายเลน   หอยที่หนีน้ำเกาะบนต้นไม้  ปรุงเมนูพื้นถิ่นหาทานยากและเทคนิคการกินที่สุดแสนจะเพลิดเพลิน

สตูล-ล่องเรือหาหอยตาแดงในป่าชายเลน   หอยที่หนีน้ำเกาะบนต้นไม้  ปรุงเมนูพื้นถิ่นหาทานยากและเทคนิคการกินที่สุดแสนจะเพลิดเพลิน

          ฤดูกาลนี้  แม้จะไม่ใช่ช่วงหอยตาแดงที่ชุกชุม  แต่ชาวบ้านเทศบาลตำบลเจ๊ะบิลัง อำเภอเมือง จังหวัดสตูล  ยังสามารถออกหาหอยตาแดงในป่าชายเลน  ที่ปกคลุมรอบหมู่บ้านได้ไม่ยากนัก  แต่ต้องใช้เรือลำน้อยแล่นไปตามลำคลอง  เพื่อหาตำแหน่งที่อยู่อาศัยของหอยตาแดง  สัตว์น้ำที่มักจะหนีน้ำที่ขึ้นสูงไปอยู่บนต้นไม้ป่าชายเลน

 

          นายฮาบีบ   นาฮูดา  อายุ  31 ปี พร้อมทีมงาน  นั่งเรือออกจากฝั่งท่าเทียบเรือเจ๊ะบิลัง อำเภอเมืองสตูลผ่านแยกจากคลองใหญ่มาได้สักพัก   ก็ถึงเป้าหมายลงมือหาหอยตาแดงกันเลย  การหาหอยตาแดงในช่วงนี้ไม่ง่ายเหมือนช่วงน้ำขึ้น 15 ค่ำ 1 ถึง 4 ค่ำ ซึ่งเป็นช่วงน้ำใหญ่ที่จะเห็นหอยไต่ต้นไม้ป่าโกงกางเพื่อหนีน้ำ   เกาะอยู่บนต้นไม้เหนือน้ำ   ชนิดมารอกันง่าย ๆ บางคนจับได้มากสุดครั้งละ 30 กิโลกรัม  แม้ช่วงนี้จะหาไม่ง่ายแต่ก็ยังมีหอยให้จับได้ตลอดทั้งปีเหมือนกัน   การหาหอยในช่วงนี้จะได้ประมาณ 2-3 กิโลกรัม   ก็พอจะเป็นรายได้เลี้ยงครอบครัว 200-300 บาท (แล้วแต่ขนาดของหอย)  ที่สำคัญเป็นอาหารเลี้ยงคนในครอบครัวได้ด้วย  อยากกินก็แค่นั่งเรือออกมาเก็บในคลองหน้าบ้าน ซึ่งหอยตาแดงที่ชาวบ้านนิยมหาคือ หอยตาแดงปากหนา เพราะมีเนื้อเยอะ ส่วนหอยตาแดงปากบางนั้นไม่นิยมเพราะตัวเล็ก  เสี่ยงมันจะบาดปาก

            หลังได้หอยตาแดงมาเพียงพอสำหรับแกงในวันนี้  เจ๊ะติม๊ะ   หลังจิ  วัย 68 ปี แม่บ้านฝีมือเด็ดของหมู่บ้านเจ๊ะบิลัง  ก็อาสาลงมือปรุงเมนูยอดนิยมของหมู่บ้าน  นั่นก็คือ เมนู แกงหอยตาแดง  โดยขั้นตอนปกติจะต้องแช่หอยไว้ 1 คืน ก่อนนำมาปรุง   เพื่อให้หอยได้คลายดินโคลนออกจากตัวก่อน ไม่ให้เสียอรรสในการกิน  และเคล็ดลับเพิ่มการคลายโคลนในตัวหอย   คือหลังล้างน้ำ  ก็ใส่พริกขี้หนูสัก 2-3 เม็ดลงไปแช่ร่วมกับหอย จากนั้นก็ลงมือสับก้นหอยประมาณข้อที่ 3 เพื่อให้เวลากินจะจุ๊บหรือดูดหอยได้ง่ายนั่นเอง

 

         เครื่องปรุงของเมนูนี้ก็จะมี  พริกสด  หอมกระเทียม กะทิ ขมิ้น  น้ำมัน เกลือ น้ำตาล  กะปิ  หัวมันเทศเพิ่มความกลมกล่อมและที่สำคัญคือ  หอยตาแดงที่ผ่านการล้างตัดก้นเรียบร้อยแล้ว  โดยลงมือนำเครื่องปรุงทุกอย่างที่เป็นเครื่องแกงมาโครกหรือบดจนละเอียดแล้วตั้งกระทะให้ร้อน  นำเครื่องแกงไปผัดในน้ำมันให้หอมกรุ่น ก่อนใส่กะทิตั้งไฟให้เดือด  และใส่หอยที่เตรียมไว้ลงไป  จากนั้นก็ปรุงรสตามใจชอบ  และรับประทานได้เลยกับข้าวสวยร้อนๆ

 

        เคล็ดลับในการกินแกงหอยตาแดง  สำหรับมือใหม่ต้องมีเทคนิคในการจุ๊บหอยคือ ต้องจุ๊บหอยแรง ๆ ครั้งเดียวหรือจะแบ่งเป็นจังหวะ เพราะไม่อย่างนั้นคุณจะอดกินหอยอย่างแน่นอน

……………………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

รถบัสสไตล์วินเทจ “ซา-ตูล บัส คาเฟ่แอนด์แคมปิ้ง” พร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม

รถบัสสไตล์วินเทจ “ซา-ตูล บัส คาเฟ่แอนด์แคมปิ้ง” ของวิสาหกิจชุมชนซา-ตูล นวัตวิถีคนสตูล เปิดแกลลอรี่ภายใต้คอนเซป มาแล้วต้องได้ทำ ได้ดู ได้กิน และซื้อกลับบ้านพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม

           ริมถนนยนตรการกำธร  ต.ควนโดน  อ.ควนโดน จ.สตูล  (เลยสามแยกตลาดควนโดน  ซ้ายมือขาออกนอกเมือง)  ผู้คนที่สัญจรผ่านไปมาก็จะเห็นรถบัสขนาดใหญ่จอดอยู่ 2  คัน  ที่ตกแต่งเป็นคาเฟ่ให้นักท่องเที่ยวและผู้ที่ผ่านไปมาได้แวะชมชิม  ภายใต้ชื่อร้าน    “ซา-ตูล  บัส  คาเฟ่แอนด์แคมปิ้ง” 

 

          ซึ่งนายอนุรักษ์   ไปรฮูยัน  วิศวกรรับเหมาก่อสร้าง  หนุ่มใหญ่เจ้าของ  “ซา-ตูล  บัส  คาเฟ่แอนด์แคมปิ้ง”  ที่ออกแบบรถบัสวินเทจได้เล่าความเป็นมาของ “ซาตูล  บัส  คาเฟ่แอนด์แคมปิ้ง”   คำว่าสตูลเป็นคำตายที่มาจากหลักฐานหัวไม้เท้าของเจ้าเมืองโบราณ

          ด้านในรถบัสคันแรกจะคงบรรยากาศรถบัสเดิม ๆ ให้ลูกค้าได้สัมผัสกลิ่นไอของรถบัสติดแอร์เย็นย่ำ  และจะตกแต่งด้านหลังเป็นบาร์   พร้อมเสิร์ฟอาหารเครื่องดื่มร้อนและเย็น  ด้านบนหลังคาก็จะเป็นอีกทางเลือกที่นั่งให้กับลูกค้าได้นั่งกินลมชมบรรยากาศในมุมสูง   ส่วนรถบัสคันที่สองก็จะถูกตกแต่งให้เป็นแกลลอรี่  สตูลมีดี  บัสแกลอรี่ของสะสมวินเทจ ให้นักท่องเที่ยว  ลูกค้าที่เข้ามาได้เรียนรู้เรื่องราวต่าง ๆ ความเป็นมาของสตูล 

 

           ภายใต้คอนเซ็ป..มาแล้วต้องมีอะไรให้ดู  มีอะไรให้ทำ มีอะไรให้กิน และมีอะไรให้ซื้อกลับบ้านนั่นก็คือ สินค้าโอทอปของที่นี่  ที่มีหลากหลายจากชุมชน ที่พร้อมจะต้อนรับคณะนักท่องเที่ยวเป็นกรุ๊ปทัวร์  กลุ่มเพื่อนฝูง หรือครอบครัวก็พร้อมให้บริการบนพื้นที่ 1 ไร่ครึ่ง  ที่แบ่งเป็นโซน แคมปิ้ง, เรื่องของสวนเกษตร, พื้นที่ใช้สอยรถบัส, และบ้านต้นไม้

 

          เปิดทุกวัน  (ยกเว้นวันพฤหัสบดี) ตั้งแต่เวลา 10 นาฬิกาถึง 23 นาฬิกา โทร.084 996 9980

……………………………………………

 

อัพเดทล่าสุด