Categories
ข่าวทั่วไป

สตูลไม่ทิ้งกัน! เครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล ร่วมกับพันธมิตรพี่น้องและผองเพื่อน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยไฟไหม้ตำบลควนสตอ

สตูลไม่ทิ้งกัน//เครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล ร่วมกับพันธมิตรพี่น้องและผองเพื่อน ช่วยเหลือผู้ประสบภัยไฟไหม้ตำบลควนสตอ

          วันศุกร์ที่ 8 พ.ย.67 เวลา 10:00 น. นางสาวพัชรี เกิดพรม ประธานเครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล พร้อมคณะกรรมการและสมาชิกได้เป็นสะพานบุญในการระดมน้ำใจพี่น้องผองเพื่อน และพันธมิตรร่วมด้วยช่วยเหลือผู้ประสบภัยไฟไหม้บ้านทั้งหลัง ซึ่งพบว่าเป็นครอบครัวกลุ่มเปราะบาง (ผู้สูงอายุ ผู้พิการและเด็กพิเศษ)

 

          โดยเหตุไฟไหม้บ้านดังกล่าว ได้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ (23 ต.ค.2567) ที่ผ่านมา ที่ ม.2 ต.ควนสตอ อ.ควนโดน จ.สตูล โดยวันนี้มีน้ำใจจากหลากหลายได้หลั่งไหล เข้ามาช่วยซับน้ำตาปลอบขวัญและกำลังใจ  ช่วยซับน้ำตาให้ผู้ประสบภัยไฟไหม้ 7 ชีวิตได้มีบ้านอยู่อาศัย

 

          ในการนี้  นายซะรี่ย์อะซีร นุ่งอาหลี นายกองค์การบริหารส่วนตำบลควนสตอ  พร้อมกับปลัดธิดาและคณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับเปิดศูนย์รวมน้ำใจในการรวบรวมรายได้เพื่อสร้างบ้านให้ผู้ประสบภัย

         

         โดยพี่น้องผองเพื่อนที่รวมน้ำใจ ประกอบด้วย  เครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล  สำนักงานกฎหมายขวัญเมืองทนายความ เพื่อนพ้อง และครอบครัว  โดยคุณศรายุธ ขวัญเมือง และ คุณดารารัตน์ ขวัญเมือง  กลุ่มวิสาหกิจชุมชนรักษ์ท่องเที่ยวตำมะลัง  นำโดยนางสาวฮามีน๊ะ ปูหัด  ประธานกลุ่มฯ  นายณรงค์ศักดิ์  นันทคำภิรา  ผอ.แขวงทางหลวงจังหวัดสตูล  พร้อมคณะ  นายสุจริต ยามาสา นายกองค์การบริหารส่วนตําบลฉลุง  พร้อมเจ้าหน้าที่  สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองสตูล  ฟาร์มสุขเรสซิเด้นซ์แอนด์รีสอร์ท  ประชาสัมพันธ์เทศบาลตำบลคลองขุด  และพี่น้องผองเพื่อนที่ไม่ประสงค์ออกนาม

……………………………

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ข่าวทั่วไป

 “สงขลาสู่มรดกโลก” แหลง ขับ เล่า โชว์ 27 ปี สงขลาโฟกัส

 “สงขลาสู่มรดกโลก” แหลง ขับ เล่า โชว์ 27 ปี สงขลาโฟกัส

          วันที่ 5 พฤศจิกายน 2567 เวลา 13.30 น. ณ หอเปรมดนตรี มหาวิทยาลัยทักษิณ วิทยาเขตสงขลา นายวิทยา จันทน์เสนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา เป็นประธานกิจกรรม

 

        “แหลง ขับ เล่า โชว์ สงขลาสู่มรดกโลก”ประวัติศาสตร์บ้านเรา มีคุณค่า น่าเรียนรู้ เนื่องในโอกาสครบรอบ 27 ปี สงขลาโฟกัส เคียงข้าง สร้างสรรค์ ยึดมั่นวิชาชีพ โดยนายภูวสิษฏ์ สุขใส บรรณาธิการหนังสือพิมพ์สงขลาโฟกัส กล่าววัตถุประสงค์การจัดงาน รองศาสตราจารย์ ดร.ณฐพงศ์ จิตรนิรัตน์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยทักษิณ กล่าวต้อนรับ

 

         นางสุรียพรรณ์ ณ สงขลา รองประธานมูลนิธิสงขลาสู่มรดกโลก กล่าวรายงานการจัดงาน ซึ่งมีนางสุนิสา รามแก้ว ประชาสัมพันธ์จังหวัดสงขลา, นายนราเดช คำทัปน์ นายกเทศมนตรีเมืองเขารูปช้าง

 

         นายสุวิทย์ ตันรัตนากร ประธานสภาอุตสาหกรรมจังหวัดสงขลา, นางสาว ปาริชาด สอนสุภาพ กรรมการหอการค้าจังหวัดสงขลาฝ่ายขับเคลื่อน Creative Tourism และการท่องเที่ยวชุมชน

 

        นางนฤมล อมรรัตน์วิทยา กรรมการผู้จัดการ บริษัทโอเดียนเซาท์เทิร์นเซ็นเตอร์ จำกัด เจ้าของห้างโอเดียนแฟชั่นมอลล์หาดใหญ่ เข้าร่วมเป็นเกียรติในการจัดกิจกรรมดังกล่าว

 

        สำหรับกิจกรรม“แหลง ขับ เล่า โชว์ สงขลาสู่มรดกโลก” ประกอบด้วยขับหนังตะลุง โดยหนังอ้นกวี ศรีวิชัย ครูสืบ (นายสืบสกุล ศรีสุข เลขานุการมูลนิธิสงขลาสู่มรดกโลก” เล่าเรื่องสงขลาสู่มรดกโลก ปิดท้ายด้วย เก่ง ธขย โชว์

 

        ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวมีครู และนักเรียนในจังหวัดสงขลาเข้าร่วมประมาณ 800 คน ตั้งแต่เวลา 13.30 น.- 16.30 น.รวมเวลา 3 ชั่วโมงเต็ม

         นายภูวสิษฏ์ สุขใส บรรณาธิการหนังสือพิมพ์สงขลาโฟกัส กล่าวถึงวัตถุประสงการจัดงานว่า เจตนารมณ์ในการจัดกิจกรรมครั้งนี้ สืบเนื่องจากได้รับความไว้วางใจให้เป็นพื้นที่หนึ่งทางด้านสื่อจากมูลนิธิสงขลาสู่มรดกโลก โดยท่านอาจารย์สืบ (ครูสืบสกุล ศรีสุข) เมื่อประมาณ 3-4 ปีที่แล้ว ท่านโทรศัพท์มาหาผมว่าอยากจะขอพื้นที่ในหนังสือพิมพ์ภาคใต้โฟกัส เพื่อร่วมกันขับเคลื่อนสงขลาสู่มรดกโลก ผมก็ตอบรับด้วยความยินดี เพราะตอบรับกับเจตนารมย์ของการเกิดขึ้นของหนังสือพิมพ์ภาคใต้โฟกัสเมื่อ 27 ปีก่อน ที่มีความตั้งใจว่าถ้าเราจะมีสื่อสักฉบับหนึ่งในจังหวัดสงขลา นอกจากความมุ่งหมายที่จะให้เป็นสื่อที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมแล้ว บทบาทการขับเคลื่อนสังคมเป็นเจตนารมณ์และเป็นที่มาของสโลแกน ข่าวสาระเชิงลึกและเวทีความคิด

 

        หนังสือพิมพ์ภาคใต้โฟกัสเกิดขึ้นในยุดที่ท่านบัญญัติ จันทน์เสนะ ดำรงตำแหน่งผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ซึ่งท่านได้มอบหมายให้ท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาคือ ท่านชัยรัตน์ เสถียร มาเป็นประธานเปิดป้ายสำนักงาน ถือเป็นจุดเริ่มต้นของหนังสือพิมพ์ภาคใต้โฟกัส มาวันนี้ได้รับเกียรติจากท่านรองผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลาท่านวิทยา จันทน์เสนะ ให้เกียรติมาเป็นประธาน 27 ปี ก็ต้องกราบขอบพระคุณทั้งสองท่านในโอกาสนี้อีกครั้งหนึ่ง

 

           สิ่งที่สำคัญในการทำหน้าที่สื่อสารมวลชนตลอดระยะเวลา 27 ปี ที่ผ่านมา และกำลังจะเดินไปข้างหน้าสำหรับพวกผมว่าเรามีความมุ่งมั่นอยากจะทำหน้าในบทบาทของสื่อในชุมชนในท้องถิ่น นำเสนอเรื่องราวที่เป็นสารประโยชน์สำหรับชุมชนท้องถิ่น ซึ่งท่านที่ได้ติดตามเรามาตั้งแต่ ณ จุดเริ่มต้นนั้น เราจะมีความแตกต่างจากสื่อทั่วไปก็คือ ไม่เน้นข่าวอาชญากรรมใด ๆ ไม่ข่าวเหตุการณ์รถชน ไฟไหม้ทุกประเภท กระทั่งมาถึงวันที่เราต้องทำสื่อออนไลน์ตามยุคสมัยวันนี้เราใช้โลโก้เดียวกันทั้งหนังสือพิมพ์และเว็บไซต์ เพจ ติ๊กต๊อก และทุกเพลตฟอร์ม

           

          ก็คือโลโก้กลม ๆสีแดง ๆ แบบนี้ อยากจะให้ทุกท่านจำภาพนี้ว่าถ้าหมายถึงโฟกัสหมายถึงพวกผมต้องเป็นโลโก้นี้เท่านั้น แต่ถ้าพูดถึงโฟกัสแล้วเป็นลักษณะอย่างอื่นไม่ใช่พวกเรา

 

          ทำไมผมต้องพูดอย่างนี้ เพราะว่าหลายปีที่ผ่านมามีสื่อที่มีชื่อที่มาสร้างความสับสนมาพ้องกับความเป็นโฟกัสของพวกเรา ผมเองก็ถูกคนไม่เข้าใจ ถูกข่มขู่ จะฟ้องบ้าง และมีบุกเข้ามาถึงสำนักงาน มากระชากคอเสื้อผมด้วยความโกรธ ก็มีหลากหลายรูปแบบ มีโทรศัพท์มาขู่ มีอาคาดหลากหลาย เพราะเข้าใจว่าเป็นการทำงานของพวกผม

 

           สำหรับคนที่รู้จักเรา เราไม่เคยทำข่าวในลักษณะแบบนั้น ก็อยากจะขอใช้โอกาสนี้บอกกล่าวกับทุกท่าน ถ้าเป็นผม เป็นโฟกัส เป็นทีมงานของพวกเราต้องมีลักษณะโลโก้แบบนี้เท่านั้น เมื่อท่านได้ยินว่าโฟกัสนำเสนอข่าวอะไร ท่านต้องไปดูหน้าเว็บเพจว่าโลโก้เป็นแบบไหน จึงขอให้เวทีนี้อธิบายอีกครั้ง

 

          ประการต่อมาอยากจะบอกลูก ๆ นักเรียน ที่เข้าร่วมกิจกรรมวันนี้ สิ่งนี้ผมเชื่อว่าตลอดเวลา 3 ชั่วที่มีกิจกรรมเกิดขึ้นเป็นประโยชน์อย่างยิ่งต่อการเรียนรู้ ต่อสำนึกรักบ้านเกิด ต่อความเป็นสงขลาที่จะเดินไปข้างหน้า เพราะฉะนั้นถ้าลูก ๆ เก็บภาพ เก็บเนื้อหา สามารถเขียนเป็นบทความ หรือทำผลิตเป็นคลิปออกมาแล้วส่งมาที่สงขลาโฟกัส ทางเพจเฟซบุ๊กหรือในช่องทางที่ได้สแกนคิวอาร์โดวันนี้ ผมจะให้มีการประกวด บทความหรือคลิป ที่ผลิตจากเนื้อหาของงานในวันนี้หรือลูกจะค้นหาเพิ่มเติมจากช่องทางอื่น ๆ มาประกอบกัน แล้วนำส่งมา จะมีรางวัลเป็นเงินสดและโล่รางวัลหรือเกียรติบัตรให้

 

         โดยจะมีการประกาศผ่านช่องทางการประชาสัมพันธ์ของเราเพิ่มเติม จึงอยากให้ทุกคนเก็บเกี่ยวจากตรงนี้ สุดท้ายวันนี้เราเดินทางมาถึงปีที่ 27 โฟกัสก็จะเดินต่อไป

 

         อนาคตในแพลตฟอร์มสื่อยุคใหม่ก็จะมีบทบาทมากขึ้น เราก็จะต้องปรับตัวในเรื่องของการทำสื่อต่อไป สำคัญโฟกัสจะอยู่หรือไม่อยู่ ก็อยู่ที่การยอมรับการสนับสนุนและความเชื่อมั่นของสังคมผู้อ่าน ผู้บริโภค สิ่งใดที่เราบกพร่องท่านช่วยแนะนำ สิ่งใดที่ท่านคิดจะเป็นประโยชน์มากกว่านี้ ถ้าโฟกัสได้ทำสิ่งนั้น อันนี้เป็นสิ่งที่พวกเราน้อมรับ พร้อมที่จะปรับและพัฒนา อยากจะใช้โอกาสนี้บอกกล่าวเรียนทุกท่านด้วยความเคารพ และต้องขอบคุณเป็นพิเศษสำหรับวันนี้ ท่านครูสืบสกุล ศรีสุข ซึ่งเป็นทั้งกำลังใจและเป็นคนที่เคียงข้าง เคียงคู่ทำงานกันมา 3-4 ปี ทำให้โฟกัสเกิดประโยชน์กับสังคมตามเจตนารมณ์ที่เราตั้งใจ ณ ก้าวแรก และขอบคุณศิลปินที่เป็นลูกสงขลาทั้งสองท่านที่ผมเชิญมาร่วมกิจกรรมในวันนี้ และน้องทั้งสองคนก็ตอบรับด้วยความยินดี ทั้งน้องเก่ง ธขย และน้องอ้น กวี ศรีวิชัย ซึ่งเป็นนายหนังตะลุง

         ขอบคุณน้องกร เราเรียกร้องกรมานาน วันนี้เปิดตัวน้องในฐานะ อินฟลูเอนเซอร์ กบภูเขา ซึ่งมีผลงานที่น่าติดตามก็ฝากทุกท่านติดตามน้องกรด้วย ในฐานะที่เป็นคนคุณภาพของจังหวัดสงขลาอีกคนหนึ่ง ขอบคุณทุกท่านที่อยู่ในห้องนี้อีกครั้ง ขอบคุณมากครับ

 

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ข่าวทั่วไป

หนุ่มสตูลชอบตกปลาล่องเรือตกได้ปลากดขี้ลิง  ประหลาดมีลำตัวเป็นสีเผือกสวยแวววาว

หนุ่มสตูลชอบตกปลาล่องเรือตกได้ปลากดขี้ลิง  ประหลาดมีลำตัวเป็นสีเผือกสวยแวววาว

          วันที่ 5  พฤศจิกายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่ร้านอ้อม  ตำบลพิมาน อำเภอเมือง จังหวัดสตูล  นายอภิชาต   มากลับ  อายุ 27 ปี หรือน้องเบ้นซ์   ที่มีความชอบส่วนตัว ชอบล่องเรือออกไปตกปลา ล่าสุดเมื่อวันที่ 1 พ.ย. 67 ที่ผ่านมา เวลา 14.00 น. ได้ล่องเรือออกไปตามลำคลองที่ตำมะลัง  อ.เมือง  จ.สตูล

 

          โดยนายอภิชาต  มากลับ  อายุ 27 ปี หรือน้องเบ้นซ์  เล่าให้ทีมข่าวฟังว่า   การตกปลาได้ครั้งนี้แตกต่างจากทุกครั้ง   โดยวันนี้ตกได้ 5 ตัว  และตัวนี้เป็นตัวที่ 5 ตกได้ปลากดที่มีลำตัวเป็นสีขาวเผือก   ดวงตาแดง   จึงนั่งเรือพากลับมาบ้าน   และถือว่าการได้ปลากดเผือกนี้   เป็นความพิเศษและแปลกมาก  ในซึ่งที่ผ่านๆมา  เวลาออกมาตกปลา จนได้ไปสอบถามผู้รู้ว่าปลาชนิดนี้คือปลาอะไรกันแน่   โดยชาวประมงเรียกปลานี้ว่า  “ปลากดขี้ลิง”   ส่วนใหญ่มีสีเขียว และนี้แปลกประหลาดสีขาวเผือกอย่างที่เห็น

           ทั้งนี้น้องเบ้นซ์    ยังบอกอีกว่า   ไม่เคยพบเห็นมาก่อน   ลำตัวของปลามีความแวว  ครีบ ตา  และหางมีสีแดงอมชมพู หากมีผู้สนใจก็พร้อมจะขายหากให้ราคาเป็นที่น่าพอใจ   ติดต่อได้ที่เบอร์ 094-2584092  โทรได้ 24 ชั่วโมง และอยากมีผู้รู้ช่วยวิเคราะห์ว่า ปลาตัวนี้   ควรเลี้ยงไว้ หรือปล่อยสู่ธรรมชาติดี หรือมีผู้ที่สนใจอยากซื้อไป

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ข่าวทั่วไป

พ่อค้าแม่ค้าชาวสตูลแห่ซื้อน้ำมันพืชจากมาเลย์ฯ ที่ตลาดค้าชายแดนคึกคัก  ส่วนจนท.ตรวจเข้มรถเข้า-ออก หวั่นซุกน้ำมันพืชลักลอบนำเข้า

พ่อค้าแม่ค้าชาวสตูลแห่ซื้อน้ำมันพืชจากมาเลย์ฯ ที่ตลาดค้าชายแดนคึกคัก  ส่วนจนท.ตรวจเข้มรถเข้า-ออก หวั่นซุกน้ำมันพืชลักลอบนำเข้า

         วันที่ 5 พฤศจิกายน 2567   จากปัญหาสินค้าจำพวกน้ำมันพืช น้ำปาล์มที่ใช้นำไปประกอบอาหาร จำพวก ของทอด เช่น  ร้านไก่ทอด ร้านกล้วยทอด และร้านอาหารในพื้นที่จังหวัดสตูล   ไม่สามารถทนรับราคาน้ำมันพืชที่ปรับราคาขึ้นไหว   จึงต้องหันไปซื้อน้ำมันพืชของประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศมาเลเซีย   จึงทำให้บรรยากาศพื้นที่บริเวณร้านค้าชายแดนวังประจัน ตำบลวังประจัน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล ที่ติดกับบ้านวังเกลียน  ประเทศมาเลเซีย  ร้านขายของชำเกือบทุกร้านต้องนำน้ำมันพืช น้ำมันปาล์ม มาวางขายหน้าร้าน แบบเป็นถุง ๆ  1 กิโลกรัม ขายราคาถุงละ   45  บาท  และแบบเป็นแกลลอน   ขนาด 5 กิโลกรัม ราคา 230 บาท ถูกพี่น้องพ่อค้า แม่ค้าชาวสตูล  มาเหมาซื้อไปจนหมดเกลี้ยงเกือบทุกร้าน   ขายดีจนขาดตลาด  และทางร้านบอกว่าช่วงนี้ที่น้ำมันพืชขายดีสาเหตุเพราะการนำเข้ายากมากและหากนำเข้าทางด่านชายแดนภาษีก็แพง

        นางสาวโรสณี  นางงา อายุ 38 ปี ลูกจ้างร้านขายของชำชายแดนวังประจัน กล่าวว่า ทางร้านค้าได้มีน้ำมันพืช น้ำมันปาล์มที่ใช้ปรุงอาหารขาย เหลือเพียง 3-4 ขวดเท่านั้น แบบเป็นถุงไม่มี หมดมาเกือบเดือนแล้ว เพราะ นำเข้ายาก และภาษีจัดเก็บชายแดนแพง ส่วนน้ำมันพืชของไทยไม่นำมาขาย ขายไม่ได้เพราะมีราคาแพงเกินไป  สำหรับน้ำมันพืชของประเทศเพื่อนบ้านจึงเป็นหนึ่งตัวเลือกสุดท้ายที่กลุ่มร้านค้า ร้านอาหาร ร้านขายของทอดมาเหมาซื้อไปทีละเยอะ ๆ เพราะเกรงว่าของจะขาดตลาด พร้อมกันนี้ด้านทางเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรวังประจัน ทหาร ตำรวจ ตม.สตูล ตชด.436 ร่วมกันตรวจรถบรรทุกสินค้าที่วิ่งผ่านชายแดนมาเลเซีย เข้ามาทางชายแดนจังหวัดสตูลทุกคัน หวั่นลักลอบนำน้ำมันพืชของมาเลเซียซุกซ่อนใต้ท้องรถเพื่อหลบเลี่ยงหนีภาษีได้

…………………………………………

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ข่าวทั่วไป ท่องเที่ยว-กีฬา

ชาวสตูลกว่า  3,000 คน ร่วมกิจกรรม “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาตครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติในหลวง เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ” ประจำปี 2567

ชาวสตูลกว่า  3,000 คน ร่วมกิจกรรม “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาตครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติในหลวง เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ” ประจำปี 2567

        วันที่  2 พ.ย. 67  เวลา 05.30 น. ที่บริเวณลานหน้าศาลากลางจังหวัดสตูล นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานเปิดกิจกรรม เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีนายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล นางสาวดุษฎี  พฤกษเศรษฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล นายพิบูลย์ รัชกิจประการ สส.สตูล เขต 1 นายชัยวุฒิ บัวทอง ปลัดจังหวัดสตูล แพทย์หญิงอภิญญา  เพ็ชรศรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสตูล  พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ศาล ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน สื่อมวลชน เยาวชน และประชาชนในพื้นที่จังหวัดสตูล ร่วมสวมใส่เสื้อโครงการฯ และเสื้อโทนสีเหลืองเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 3,000 คน บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

         สำหรับกิจกรรมดังกล่าว  คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล , ศูนย์โรคหลอดเลือดสมองศิริราช , ศิริราชมูลนิธิ และภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชนกว่า 40 หน่วยงาน ร่วมกันจัดขึ้น โดยขับเคลื่อนโครงการฯ ผ่านเขตสุขภาพ 13 แห่งทั่วประเทศ ในการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ กิจกรรมให้ความรู้  โรคหลอดเลือดสมอง และกิจกรรมออกกำลังกาย เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ที่ร่วมจัดงานพร้อมกัน 77 จังหวัดทั้งประเทศ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ที่ทรงเป็นแบบอย่างแก่ประชาชนชาวไทย   ในการรักษาสุขภาพและการออกกำลังกาย  ตลอดจนจัดกิจกรรมสร้างความตระหนักรู้  โรคหลอดเลือดสมอง ภายใต้หัวข้อ “คนไทยสมองดี” หรือ “Healthy Thai , Healthy Brains” และรณรงค์เชิญชวนคนไทยให้หันมาออกกำลังกาย  เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง อันจะเป็นการป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้ในอีกทางหนึ่งด้วย

 

         ทั้งนี้ ภายในกิจกรรม ประกอบด้วย การจัดนิทรรศการฯ , การเต้นแอโรบิค , เดิน วิ่ง ระยะทาง 5 และ 10 กิโลเมตร และปั่นจักรยาน ระยะทาง 23 กิโลเมตร

……………………………………………………………

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ข่าวทั่วไป

ตำรวจน้ำสตูลจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จย่า ครบรอบ 124 ปี ที่เกาะหลีเป๊ะ

ตำรวจน้ำสตูลจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จย่า ครบรอบ 124 ปี ที่เกาะหลีเป๊ะ

          กองกำกับการ 9 กองบังคับการตำรวจน้ำ (กก.9 บก.รน.) จัดโครงการเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี เนื่องในวันคล้ายวันพระราชสมภพครบรอบ 124 ปี ภายใต้ชื่อ “น้อมรำลึกพระเมตตา ตามรอยสมเด็จย่ากับตำรวจน้ำไทย” ประจำปี 2567 ระหว่างวันที่ 20-22 ตุลาคม 2567 ณ อาคารเอนกประสงค์ หมู่ 7 บ้านเกาะหลีเป๊ะ ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมือง จังหวัดสตูล  โดย พันตำรวจเอก กมลศักดิ์ วันประดุง ผู้กำกับการ กก.9 บก.รน.  พ.ต.ท.บรรเจิด มานะเวช รอง ผกก.9 บก.รน., พ.ต.ท.ศุภศิษฏ์ อึ้งสุวรรณพานิช รอง ผกก.9 บก.รน. , พ.ต.ท.ศุภกิจตา สนุ่นดี สว.ส.รน.3 กก.9 บก.รน. และข้าราชการตำรวจในสังกัด กก.9 บก.รน นำเรือตรวจการณ์ 809 และเรือตรวจการณ์ 521 ออกปฏิบัติภารกิจ

 

          ในโอกาสนี้  พันตำรวจเอก กมลศักดิ์ วันประดุง ผู้กำกับการ กก.9 บก.รน. เป็นประธานในพิธี โดยได้ร่วมกับหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. จังหวัดสตูล และหน่วยงานในพื้นที่ จัดกิจกรรมบริการประชาชน ประกอบด้วย การแจกถุงยังชีพแก่ผู้ยากไร้ บริการตัดผม ตรวจสุขภาพและจ่ายยา เยี่ยมผู้ป่วยติดเตียงพร้อมมอบเวชภัณฑ์ และร่วมเก็บขยะที่หาดซันไรซ์

         การจัดกิจกรรมครั้งนี้ได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน อาทิ สอ.รฝ 491 สถานีตำรวจภูธรเกาะหลีเป๊ะ อุทยานแห่งชาติตะรุเตา ตำรวจท่องเที่ยวสตูล ฝ่ายปกครองเกาะหลีเป๊ะ โรงพยาบาลสตูล สมาคมผู้ประกอบการเกาะหลีเป๊ะ และประชาชนจิตอาสา รวมผู้เข้าร่วมกิจกรรมทั้งสิ้น 70 นาย

 

        ทั้งนี้ การดำเนินงานอยู่ภายใต้การอำนวยการของ พลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง และ พันตำรวจเอก พรศักดิ์ เลารุจิราลัย รองผู้บังคับการปราบปราม รักษาการผู้บังคับการตำรวจน้ำ

………………………………….

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ข่าวทั่วไป

คืบหน้า สาวสตูลป่วยโรคประหลาด

คืบหน้า…สาวสตูลป่วยโรคประหลาด

           จากกรณีที่ทีมข่าวได้ลงพื้นที่บ้าน   ของนางวราภรณ์   เหล็มหา  อายุ 51 ปี (ที่ป่วยด้วยโรคประหลาด ขาทั้งสองข้างบวมเป่งและมีติ่งเนื้องอกขนาดใหญ่กว่า ลูกฟุตบอลที่หว่างขา  น้ำหนักของติ่งเนื้อที่ยื่นมานี้ไม่น้อยกว่า 20 กิโลกรัม ) สร้างความทุกข์ทรมานในการใช้ชีวิตเป็นอย่างมากและอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยรักษานั้น

 

         ล่าสุดวันนี้มีความคืบหน้าหลัง  นายแพทย์ระพี  เลาประสพวัฒนา  แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว โรงพยาบาลละงูและทีมสหวิชาชีพ  พร้อมด้วย นางสาวณัติญา เฉลิม พยาบาลวิชาชีพ ชำนาญการ อบต.กำแพง , ผู้ใหญ่บ้าน ,ทีมพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสตูล , อสม.และส่วนที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่บ้านเลขที่  37 หมู่ที่ 1 ตำบลกำแพง  อ.ละงู  ซึ่งเป็นบ้านของนางวราภรณ์   เหล็มหา  (ที่ป่วยด้วยโรคประหลาด ขาทั้งสองข้างบวมเบ่งและมีติ่งเนื้องอกขนาดใหญ่กว่า ลูกฟุตบอลที่หว่างขาหนักกว่า 20 กิโลกรัม )

 

          เพื่อขอดูอาการเบื้องต้น  และประวัติการรักษาที่ผ่านมาก่อนจะพบว่า  หลังพบว่าคนไข้รายนี้เคยรักษาตัวที่กรุงเทพฯ และได้ขาดการรักษาไปช่วงนึง   เนื่องจากว่าอาจจะติดในเรื่องของการเดินทางและสถานการณ์โควิด   ทางโรงพยาบาลละงู  เลยมาติดตามว่า  ขณะนี้การรักษาอยู่ที่ขั้นตอนไหนแล้ว

 

          ทางด้านนายแพทย์ระพี  เลาประสพวัฒนา  แพทย์เวชศาสตร์ครอบครัว โรงพยาบาลละงู  ได้ตรวจดูเบื้องต้นพบว่าสามารถรักษาไปตามระบบได้   เพราะคนไข้ยังไม่มีอาการติดเชื้อ  หรือมีภาวะเร่งด่วน  แต่พบว่ามีภาวะความยากลำบากในการเคลื่อนไหวในชีวิตประจำวัน    โดยได้วางแผนการรักษาโดยให้คนไข้เข้ารับการรักษาตามระบบ  ตามสิทธิ์ที่มีคือสิทธิ์บัตรทอง  โดยเริ่มต้นที่โรงพยาบาลชุมชนใกล้บ้าน  แล้วโรงพยาบาลละงู  จากการตรวจประเมินแล้วจะทำการส่งต่อไปยังแพทย์เฉพาะทาง ที่มีศักยภาพในการรักษาเพิ่มเติมต่อไป

 

         ส่วนโรคที่ประสบนั้นนายแพทย์ระพี  บอกว่า เกิดจากโรคน้ำเหลืองอุดตัน ทำให้น้ำเหลืองที่ย้อนลงมาที่ขาไม่กลับขึ้นไปตามระบบปกติ  ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงบริเวณเนื้อเยื่อที่ขา ต้องส่งไปหาคุณหมอที่รักษาเฉพาะทางเพื่อทำการผ่าตัดท่อน้ำเหลือง  ซึ่งโรคนี้สิทธิ์บัตรทองได้รักษาครอบคลุมอยู่แล้วรักษาได้ในทันที

 

        ด้านนางสาวณัติญา เฉลิม พยาบาลวิชาชีพ ชำนาญการ อบต.กำแพง  บอกด้วยว่า ในส่วนของญาติหรือสามีคนไข้ให้เร่งไปดำเนินการย้ายชื่อบัตรทองจาก จ.นนทบุรี กลับมาที่บ้านเกิดสตูล เพื่อใช้สิทธิบัตรทอง และทางอบต.จะช่วยดูแลในด้านการเดินทางไปรักษายัง รพ.ต่างๆ เพื่อแบ่งเบาภาระครอบครัว ซึ่งให้มาขึ้นทะเบียนเพื่อขอใช้สิทธิ์ที่ทาง อบต. ได้เตรียมไว้ให้สามารถดำเนินการได้ทันที

 

ขณะที่ด้านพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสตูลได้สอบถามเรื่อง ความเป็นอยู่และความสามารถในการดูแลบุตรสาววัย 14 ปี ที่กำลังเรียนโดยทางครอบครัวยืนยันว่ายังคงเลี้ยงดูได้ โดยทาง พมจ.ได้ส่งเรื่องเพื่อให้รับสิทธิ์เงินสงเคราะห์บรรเทาความเดือดร้อน ครอบครัวให้ด้วย

 

ซึ่งก็เป็นไปตามเจตนาของคนไข้ที่อยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทำอย่างไรก็ได้ให้ช่วยให้ชีวิตของตนกลับมาใช้ตามปกติ อาจจะไม่หายขาด เพราะที่ผ่านมา  นางวราภรณ์   เหล็มหา  อายุ 51 ปี เคยผ่าตัดมาแล้ว 4 ครั้ง (แต่ได้ขาดการรักษาอย่างต่อเนื่องเอง)  แม้หลังผ่าตัดอาการจะดีขึ้นแต่โรคก็กลับมาเป็นอีก ซึ่งดีกว่าจะได้มีช่วงระยะพักตัวร่างกายบ้าง โดยตอนนี้อาการหนักขึ้นกว่าเดิม   ขาทั้งสองข้างบวมเบ่งและมีติ่งเนื้องอกขนาดใหญ่กว่า ลูกฟุตบอลที่หว่างขา  น้ำหนักของติ่งเนื้อที่ยื่นมานี้ไม่น้อยกว่า 20 กิโลกรัม

…………………………………………….

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ข่าวทั่วไป

สตูลปล่อยพันธุ์หอยชักตีนกว่าแสนตัว หลังพบปริมาณลดลง หวังฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล

สตูลปล่อยพันธุ์หอยชักตีนกว่าแสนตัว หลังพบปริมาณลดลง หวังฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล

           ศูนย์วิจัยและพัฒนาประมงทะเลสตูล พร้อมชาวบ้านในพื้นที่ตำบลเกาะสาหร่าย   ได้ดำเนินการปล่อยพันธุ์สัตว์น้ำ ประกอบด้วยพันธุ์หอยชักตีนมากกว่า 100,000 ตัว พร้อมพันธุ์กุ้งแชบ๊วย และแม่พันธุ์หอยชักตีนกว่า 10 กิโลกรัม ภายใต้โครงการนวัตกรรมธนาคารปูม้าสู่การจัดการทรัพยากรชายฝั่ง ตามแนวทางเศรษฐกิจสีน้ำเงินในจังหวัดสตูล โดยมี ผศ.ดร.ทัศนภา ว่องสนั่นศิลป์ เป็นหัวหน้าโครงการที่ได้รับทุนสนับสนุนจากสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)  เพื่อฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเล  หลังพบว่าพันธุ์หอยชักตีนได้มีปริมาณลดลงจากท้องทะเล  

          สัตว์น้ำทั้งหมดถูกลำเลียงจากท่าเทียบเรือทุ่งริ้น อ.ท่าแพ ไปยังอ่าวบากันใหญ่ เกาะสาหร่าย อ.เมือง จ.สตูล ซึ่งเป็นเขตอนุรักษ์ฟื้นฟูทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งประมงพื้นบ้าน หมู่ที่ 2 พื้นที่กว่า 1,000 ไร่ อันเป็นแหล่งอาศัยของสัตว์ทะเลหายาก อาทิ พะยูน เต่า และโลมา

         อย่างไรก็ตาม นายดลฮอนี สุวาหลำ กำนันตำบลเกาะสาหร่าย เปิดเผยว่า พื้นที่อนุรักษ์ยังประสบปัญหาสำคัญ เนื่องจากขาดสัญลักษณ์แสดงแนวเขตที่ชัดเจนและคงทน ทำให้มีชาวประมงจากพื้นที่อื่นเข้ามาทำประมงและทำลายแหล่งอนุบาลสัตว์น้ำ โดยเฉพาะการคลาดปลิงทะเล

        “เราต้องการการสนับสนุนจากภาครัฐในการจัดทำแนวเขตที่คงทนถาวร เพราะที่ผ่านมาทุ่นแสดงแนวเขตมักชำรุดภายใน 2-3 ปี พื้นที่อนุรักษ์นี้เปรียบเสมือนหม้อข้าวของชาวบ้าน เพราะประชากรกว่า 90% ประกอบอาชีพประมง และที่นี่ถือเป็นแหล่งผลิตอาหารทะเลที่สำคัญที่สุดแห่งหนึ่งของจังหวัดสตูล” นายดลฮอนีกล่าว

……………………………..

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ข่าวทั่วไป

รองผู้ว่าฯ สตูลคนใหม่ เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เสริมสิริมงคล

รองผู้ว่าฯ สตูลคนใหม่ เข้ารับตำแหน่งอย่างเป็นทางการ สักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์เสริมสิริมงคล

         วันที่ 20 ต.ค. 67  นางสาวดุษฎี พฤกษเศรษฐ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสงขลา เดินทางมาเข้ารับตำแหน่ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ซึ่งได้รับการแต่งตั้งจากกระทรวงมหาดไทย และเพื่อความเป็นสิริมงคลในโอกาสเข้ารับตำแหน่งใหม่ ได้เดินทางเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ หลวงพ่อแก่ ณ วัดดุลยาราม ตำบลฉลุง อำเภอเมืองสตูล จากนั้นเดินทางไปสักการะอนุสาวรีย์พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ณ ค่ายสมันตรัฐบุรินทร์ ตำบลคลองขุด อำเภอเมืองสตูล และเดินทางกราบสักการะศาลเขาโต๊ะหยงกง หรือศาลม้าขาว ซึ่งอยู่ในเขตเทศบาลเมืองสตูล และจากนั้นเดินทางเข้าบ้านพักรองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล โดยมีหัวหน้าส่วนราชการจังหวัดสตูล นายอำเภอ หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน ร่วมให้การต้อนรับเป็นจำนวนมาก

         โอกาสนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ได้กล่าวขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้การต้อนรับและมาร่วมแสดงความยินดีอย่างอบอุ่น ถือเป็นโอกาสอันดีที่ได้ย้ายมาดำรงตำแหน่งที่จังหวัดสตูล ซึ่งตนตั้งใจมาทำงานให้กับพี่น้องประชาชนชาวจังหวัดสตูลอย่างเต็มความสามารถต่อไป

……………………………….
ภาพ / ข่าว : ศุภาพิชญ์ ดวงไข / ปาลิน เกื้อมี

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ข่าวทั่วไป

สาวใหญ่สตูล ป่วยด้วยโรคประหลาด ขาบวมทั้งสองข้างต้องแบกติ่งเนื้อหนักกว่า 20 กิโลกรัม วอนช่วยรักษาให้หายขาด

สาวใหญ่สตูล ป่วยด้วยโรคประหลาด ขาบวมทั้งสองข้างต้องแบกติ่งเนื้อหนักกว่า 20 กิโลกรัม วอนช่วยรักษาให้หายขาด

           (21 ต.ค.2567) ที่ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล ทีมข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่าได้มีครอบครัวหนึ่งที่ป่วยด้วยโรคร้ายต้องการความช่วยเหลือจากหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง    จึงเดินทางไปที่บ้านเลขที่  37 หมู่ที่ 1 ตำบลกำแพง   พบนางวราภรณ์   เหล็มหา  อายุ 51 ปี (หากดูผิวเผินแทบไม่รู้ว่ามีอาการผิดปกติของร่างกาย) โดยเจ้าตัวบอกว่าตนเองที่ป่วยเป็นโรคบวมน้ำเหลือง โดยช่วงท่อนร่างของร่างกายตั้งแต่โคนขาอ่อนลงไปถึงหลังเท้าสูงมีอาการบวมน้ำเหลือง ติ่งเนื้อที่บวมออกมาข้างขาอ่อนที่มีขนาดใหญ่กว่าลูกฟุตบอลทำให้นางวราภรณ์ ไม่สามารถสวมกางเกงชั้นในได้

            ทุกวันนี้ใช้ชีวิตอย่างยากลำบาก เดินเหินไม่สะดวก ขาอ่อนที่บวมเป็นติ่งเนื้อใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ เหมือนแบกก้อนน้ำหนัก 20 กิโลกรัม ไว้ติดตัวด้วยตลอด  ทุกครั้งที่เดินเหมือนจะยักหลังหากไม่ระวังเพราะก้อนเนื้อที่บวมขนาดใหญ่จะรั้งไปด้านหลัง  ตอนนอนจะลำบาก นั่งก็ไม่เต็มเก้าอี้ อยากหายขาด อยากใช้ชีวิตให้เหมือนคนอื่น  แม้จะไม่หายขาดก็อยากให้มีอาการที่ดีกว่านี้ อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยให้ตนได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง

           โดยทางนางวราภรณ์  และครอบครัว ยอมรับว่า เคยเป็นคนไข้ของพระบรมฯเมื่อประมาณปี พ.ศ.2540  ได้รับการผ่าตัดแล้ว 4-5 ครั้งในขณะนั้น คิดว่าตัวเองหายแล้ว จึงขาดการติดต่อกลับไป อยากให้คนอื่นที่อาการหนักกว่าได้เข้ารับการรักษาบ้าง ในช่วงนั้นจึงแต่งงานและมีลูก ไม่คิดว่าอาการจะกลับมาเป็นอีก อาการเริ่มเป็นที่หัวเข่าข้างเดียวก่อนลามเป็นอีกข้างตอนนี้เริ่มเป็นแผล ต้องใช้ผ้าก็อตพันไว้  

          และต่อมามีคนยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ เมื่อ 4-5 ปีก่อน (ด้วยเงินบริจาค 300,000 บาทจากบิณบรรลือฤทธิ์) ได้ขึ้นไปกทม.พร้อมครอบครัวขึ้นไปอยู่ที่กทม.เพื่อตั้งใจว่าเงินที่ได้มาจะรักษา แบบขันชานอส รักษา 7 วัน12,000 บาท คือทำให้แผลที่บวมแห้งถึงจะผ่าตัดได้ เหมือนรีดน้ำให้หมดจนแผลเหี่ยวถึงจะผ่าตัดได้   สรุปหมดไปเป็นแสนกับการทำขันชานอส  สุดท้ายเงินหมดก่อน ไม่ได้ผ่าตัด แม้ครอบครัวตน พ่อแม่ลูกจะช่วยกันทำขนมขายตอนอยู่กรุงเทพแต่ก็ไม่พอกิน ลูกก็ย้ายไปเรียนที่นู้น อีกทั้งโควิดระบาดทำให้ต้องกลับมาบ้าน ขาดการรักษาต่อเนื่อง เพราะเงินไม่มี อาการก็กำเริบขึ้นมาอีกครั้ง   ประจวบเหมาะตรงกับโรคโควิคระบาดการรักษาไปได้ไม่   บ้านต้องเช่า ข้าวต้องซื้อ เลยตัดสินใจกลับบ้านที่สตูล

          นายย็ะยาห์  ดือราแม  อายุ 48 ปี  ผู้เป็นสามี  ยอมรับว่า ตนให้กำลังใจภรรยาได้เพียงแค่อยู่ด้วยใกล้ ๆ ให้เขาอุ่นใจ ไม่มีคำหวานปลอบแบบอื่นนอกจากการกระทำ อยากเห็นเขาหายจากโรคร้ายนี้และมีชีวิตกลับมาปกติเหมือนคนทั่วไป ทุกวันนี้ภรรยาและพวกเราในครอบครัวไม่ได้งอมืองอเท้า ช่วยกันทำขนมขาย มีรับจ้างที่ไหนตนก็ไปทันที มีรายได้เข้ามาเลี้ยงครอบครัวบางวัน 300 บาท  แต่ก็ไม่ได้ทุกวัน ลูกก็เรียนมัธยม 1 โชคดีที่ญาติพี่น้องหยิบยื่นให้บ้าง ไม่ทอดทิ้ง

 

          ขณะที่พี่สาวของ (นางวราภรณ์   เหล็มหา) เล่าด้วยทั้งน้ำตาถึงความสงสารน้อง ด้วยตนเป็นพี่คนที่ 4 จากทั้งหมด 8 คนน้องเป็นคนสุดท้อง (เสียไปแล้ว 3 คนเหลือกัน 5 คนพี่น้อง)  เห็นน้องก็เสียใจทุกครั้งแต่ไม่รู้จะทำอย่างไร อยากให้เขาหาย ช่วยเหลือน้องตลอดทุนค้าขาย เท่าที่ช่วยได้ตามกำลัง  มาพูดคุยให้กำลังใจกันตลอด  ที่ไหนบอกมีหมอบ้านดีก็พาไป บางคนบอกถูกจอมปลวกก็บอกว่าไม่มีทางแก้ บ้างว่าโดนของ หลังรักษาหมอในสตูลแล้วไม่หาย เพราะหมอที่กรุงเทพก็ไม่มีกำลังจะพาไปรักษา    

 

         ขณะนี้นางวราภรณ์   เดินเหินไม่เหมือนคนอื่น  เหนื่อยง่าย ต้องเดินลากขายกขาไม่ค่อยขึ้นหากมีสิ่งกีดขวาง เดินได้แค่ระยะสั้น ๆ เท่านั้น อยากให้หน่วยงานเกี่ยวข้องวอนให้ช่วยเหลือ รักษาตนให้หายขาดตนไม่อยากจะป่วยเป็นโรคนี้อีกแล้ว หากไม่หายป่วยก็ขอให้อาการดีกว่านี้ เอาติ่งเนื้อก้อนใหญ่ที่ห้อยนี้ออกให้ตนด้วย

 

          หากท่านใดมีกำลังอยากช่วยเหลือตน สามารถบริจาคได้ที่เลขบัญชี ธนาคาร กสิกรไทย สาขาบิกซี ตรัง 108 8 66362 0 ชื่อบัญชี นางสาววราภรณ์  เหล็มหา

……………………………………………….

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต