Categories
ข่าวเด่น

ธรรมชาติส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์แปลกตา! คลื่นซัดหอยกะพงนับล้านเกยหาดสตูล ชาวบ้านแห่เก็บสร้างรายได้

ธรรมชาติส่งผลให้เกิดปรากฏการณ์แปลกตา! คลื่นซัดหอยกะพงนับล้านเกยหาดสตูล ชาวบ้านแห่เก็บสร้างรายได้

          วันที่ 19 กันยายน 2567  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ได้เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติครั้งแรกที่จังหวัดสตูล  หลังคลื่นแรงสูง 2-4 เมตรเมื่อวานที่ผ่านมา  ปรากฏว่าพบมีการซัดหอยกะพงนับล้านตัวเกยตื้นที่ชายหาดปากบารา อำเภอละงู ยาวกว่า 1 กิโลเมตร

 

            นางสาวอุไรวรรณ อินทองมาก ชาวบ้านในพื้นที่ เผยว่าเป็นเหตุการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน หลังจากคลื่นสงบลง ชาวบ้านและชาวประมงต่างพากันมาเก็บหอยกะพงเพื่อสร้างรายได้

 

           ด้านนางสาวฮาหวา วะฮะ ครูโรงเรียนละงูพิทยาคม แนะนำว่าสามารถนำหอยกะพงไปทำอาหารได้หลากหลาย เช่น ต้มลวกจิ้มน้ำจิ้มซีฟู้ด หรือผัดกระเพรา โดยสามารถขายได้ในราคาถุงละ 30 บาท หรือกิโลกรัมละ 30-50 บาท

 

        สำหรับหอยกะพงเป็นหอยสองฝาที่อาศัยในพื้นท้องทะเลโคลน มีเปลือกเปราะบาง สีเขียวอมม่วงหรือดำ ปรากฏการณ์ครั้งนี้สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับชาวบ้านในพื้นที่เป็นอย่างมาก

 

          ขณะที่สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดสตูลยังคงขยายวงกว้างไปในหลายตำบล โดยพื้นที่ที่ประสบภัยหนักขณะนี้เป็นพื้นที่อยู่ติดริมคลองสายสำคัญ อย่างคลองละงู คลองฉลุง และคลองมำบัง  โดยศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดสตูล รายงานสถานการณ์อุทกภัยและวาตภัยในพื้นที่ครบทั้ง  7 อำเภอ ได้แก่ 1) อำเภอควนโดน 2) อำเภอเมืองสตูล 3) อำเภอท่าแพ 4) อำเภอมะนัง 5) อำเภอละงู 6) อำเภอควนกาหลง 7) อำเภอทุ่งหว้า  20 ตำบล 125 หมู่บ้าน 5,605 ครัวเรือน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

………………………………………………………………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

ตม.สตูล รวบสาวลาวเสพยาพร้อมอุปกรณ์การเสพ เผย ไม่มีเงินเดินทางกลับบ้านเกิด หลังเอกสารเดินทางหมดอายุ

ตม.สตูลรวบสาวลาวเสพยาพร้อมอุปกรณ์การเสพ เผย ไม่มีเงินเดินทางกลับบ้านเกิด หลังเอกสารเดินทางหมดอายุ

         วันที่ 19 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.อิทธิพล  อิทธิสารรณชัยผบช.สตม., พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.ศุภโชค หยงสตาร์ รอง ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.สส.สตม. ปรก.บก.ตม.6, พ.ต.อ.เจริญพงษ์ ขันติโล ผกก.ตม.จว.สตูล และ พ.ต.ท.ระลึก อินทรัศมี รอง ผกก.ตม.จว.สตูล

         

           ชุดจับกุมฝ่ายสืบสวน ตม.จว.สตูล นำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.ยงยุทธ เลิศปรีชาพงศ์ สว.ตม.จว.สตูล และ ว่าที่ พ.ต.ท.หญิง ศิริขวัญ คงศรี สว.ตม.จว.สตูล ร่วมกับ สภ.ควนกาหลง และ ตชด.436

 

          ได้เข้าปิดล้อมตรวจค้น หอพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.ทุ่งนุ้ย อ.ควนกาหลง จว.สตูล  และทางเจ้าหน้าที่ ตม.สตูล  ได้ร่วมจับกุม น.ส.ป๊อกกี้ (MS.POKKY VOLAVONGSA) อายุ 27 ปี  สัญชาติ ลาว พร้อมด้วยของกลาง อุปกรณ์สำหรับเสพยาเสพติด (ยาไอซ์)แบบหลอดดูดภายในห้องพัก

         ด้าน  พ.ต.อ.เจริญพงษ์  ขันติโล  ผกก.ตม.จว.สตูล กล่าวว่า เมื่อวานนี้ ใน เวลาประมาณ 15.00 น. นำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.ยงยุทธ เลิศปรีชาพงศ์ สว.ตม.จว.สตูล และ ว่าที่ พ.ต.ท.หญิง ศิริขวัญ คงศรี สว.ตม.จว.สตูล พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน ตม.จว.สตูล, สภ.ควนกาหลง และ ตชด.436 ได้เข้าปิดล้อมตรวจค้นห้องพักที่เกิดเหตุ พบ ผู้ต้องหาได้พักอยู่ในห้องพักที่เกิดเหตุ ตรวจค้นในห้องพบอุปกรณ์ที่ใช้สำหรับเสพยาเสพติดเป็นหลอดแก้วสำหรับเสพยาไอซ์ซุกซ่อนอยู่ในหมอนบนเตียงไม่พบยาเสพติด

 

          แต่สอบถามยอมรับว่าเสพยาไอซ์มาจริง เจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบหนังสือเดินทาง ปรากฏว่าผู้ต้องหาเคยได้รับสิทธิให้อยู่ในราชอาณาจักรแต่ครบกำหนดไปแล้วโดยอยู่เกินกว่า 12 วัน โดยเจ้าตัวทราบดีว่ากระทำผิดกฎหมายแต่ไม่มีเงินเดินทางกลับประเทศตนเอง เจ้าหน้าที่จึงได้จัดเก็บปัสสาวะส่งตรวจพิสูจน์ที่โรงพยาบาลควนกาหลงพบว่ามีสารเมทแอมเฟตามีนจริง

 

        ทั้งนี้ พ.ต.ท.ระลึก อินทรัศมี รอง ผกก.ตม.จว.สตูล  ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า  จึงได้จับกุมผู้ต้องหาดำเนินคดีโดยกล่าวหาว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด และเสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยผิดกฎหมาย” นำส่ง พงส.สภ.ควนกาหลง ดำเนินคดีตามกฎหมาย

……………………………….

 

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

สตูลคลื่นซัดกระหน่ำเรือเล็กหลบหนี  หลายพื้นที่น้ำลดหลายพื้นที่ทรงตัว เครือข่ายผู้ผลิตข่าวจ.สตูล เยียวยาเพื่อนนักข่าวที่ประสบภัยนาน 4 วัน

สตูลคลื่นซัดกระหน่ำเรือเล็กหลบหนี  หลายพื้นที่น้ำลดหลายพื้นที่ทรงตัว เครือข่ายผู้ผลิตข่าวจ.สตูล เยียวยาเพื่อนนักข่าวที่ประสบภัยนาน 4 วัน

         (18 ก.ย.2567) ที่จ.สตูล ขณะนี้ชาวประมงพื้นบ้านกำลังประสบปัญหาคลื่นลมแรง   ชาวบ้านริมทะเลบ้านตันหยงโป  อำเภอเมือง  จังหวัดสตูล  ได้รับผลกระทบจากความแรงของคลื่นลมบ้านเรือติดริมชายฝั่ง   เรือเล็ก   ต้องนำไปหาที่จอดหลบลมในลำคลองป่าชายเลนเพื่อลดความเสียหาย

 

        ขณะที่บนฝั่งหลายพื้นที่ระดับน้ำลงลดแต่ยังไม่เข้าสู่สภาวะปกติ  บ่ายวันนี้กลับพบว่าปริมาณฝนยังคงตกเข้ามาเติม  ส่วนปริมาณน้ำในลำคลองพื้นที่ต้นน้ำอย่างที่คลองควนโดน ตำบลย่านซื่อ  อำเภอควนโดน  วันนี้ปริมาณน้ำยังเต็มตลิ่งระดับน้ำลด หลายจุดน้ำยังท่วมสูงมากถึง 80 เซนติเมตร การสัญจรยังไม่สามารถไปมาได้สะดวก บ้านเรือนที่อาศัยใกล้ลำคลองยังคงได้รับผลกระทบนานเข้าวันที่ 4 แล้ว

 

          สำหรับชาวบ้านที่อาศัยริมคลองได้รับผลกระทบท่วมเริ่มตั้งแต่ อ.ควนกาหลง อ.ควนโดน อ.เมืองสตูล อ.ท่าแพ อ.ละงู อ.มะนัง  สถานกรณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.สตูล หลายจุดยังคงได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วมอย่างหนัก 

 

          โดยหนึ่งในนั้นเป็นผู้สื่อข่าวด้วย  วันนี้เพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์  สร้างกำลังใจและดูแลครอบครัวผู้สื่อข่าวด้วยกัน  นางสาวพัชรี  เกิดพรม  ประธานเครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล  พร้อมด้วย   นาวาโท ธนภูมิ  ประทีป ผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 452  , เรือหลวงมันกองเรือปฏิบัติการทัพเรือภาคที่3และกำลังพลชุดจิตอาสา    ได้นำข้าวสาร  อาหารแห้ง น้ำดื่มสะอาด และยารักษาโรค พร้อมทีมหมอทหารเรือมาดูแลเยียวยาคนในครอบครัวผู้สื่อข่าวด้วยกัน

 

           ด้านสำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัย จ.สตูล  ได้ประกาศให้ชาวบ้าน  เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากน้ำท่วมขังและคลื่นลมแรงเพิ่มเติม  ระหว่างวันที่ 17-22 กันยายน 2567 ขอให้ประชาชนระมัดระวังอันตรายที่เกิดจากสภาวะน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก   น้ำท่วมขังและคลื่นลมแรง  รวมถึงระมัดระวังอันตรายจากกระแสไฟฟ้ารั่ว   ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง

 

          สรุปเบื้องต้นสถานการณ์สาธารณภัย  ตั้งแต่วันที่ 15 กันยายน 2567  ในพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ 1) อำเภอควนโดน 2) อำเภอเมืองสตูล 3) อำเภอท่าแพ 4) อำเภอมะนัง 5) อำเภอละงู สรุปความเสียหาย เกิดอุทกภัย จำนวน 5 อำเภอ 14 ตำบล 94 หมู่บ้าน 1,419 ครัวเรือน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

น้ำท่วมสตูล! ปิดช่องจราจรสายหลัก ชาวบ้านอพยพ-ใช้ปี๊บกั้นน้ำ วัวชนแสนบาทหนีขึ้นที่สูง

น้ำท่วมสตูล! ปิดช่องจราจรสายหลัก ชาวบ้านอพยพ-ใช้ปี๊บกั้นน้ำ วัวชนแสนบาทหนีขึ้นที่สูง

          ผู้สื่อข่าวได้บันทึกภาพมุมสูงพื้นที่แยกบ้านกุบังจามัง  บนถนนสายฉลุง-ละงู อำเภอเมือง จังหวัดสตูล  พบประมาณน้ำจำนวนมากที่ไหลเข้าท่วมเส้นทางขาเข้าเมือง  ต้องปิดช่องการจราจร  สัญจรได้เพียงช่องเดียวคือขาออก ความยาวประมาณ 1 กิโลเมตร เป็นช่วง ๆ ส่งผลให้การจราจรติดขัด เนื่องจากปริมาณน้ำที่แรงและไหลทะลัก  โดยทางตำรวจขอให้ผู้ใช้เส้นทางที่ไม่มีภารกิจเร่งด่วนหันไปใช้เส้นทางอื่น  และรถจยย.ระมัดระวังการเดินทางเนื่องจากน้ำอาจทำให้รถดับได้

 

        ขณะที่ชาวบ้านได้ขนย้ายสิ่งของขึ้นบนที่สูงเพื่อหนีน้ำ เช่นเดียวกับ วัวชนมูลค่ากว่าแสนบาทก็ต้องหนีมาอยู่บนที่สูง  โดยทางเจ้าของหวั่นว่าน้ำจะขึ้นสูงอีก เตรียมเคลื่อนย้ายหาที่อยู่ใหม่เพื่อไม่ให้วัวชน  ต้องแช่ในน้ำเสี่ยงเป็นโรคปากเท้าเปื่อยได้

 

          นายวัชรพล  (บิลลี่)  สลีมีน  เจ้าของวัว  บอกว่า  กังวลว่าน้ำจะสูงขึ้นอีกต้องเตรียมเคลื่อนย้ายวัวไปอยู่ที่สูงเพื่อไม่ให้วัวยืนแช่น้ำเพราะเสี่ยงเป็นโรคปากเท้าเปื่อยได้

 

        ส่วนชาวบ้านที่อาศัยริมเส้นทางน้ำท่วมแม้จะเป็นพื้นที่ท่วมซ้ำซากทำให้เรียนรู้ที่จะรับมือแบบง่าย ๆ ด้วยการนำกระป๋องปี๊บขนาดใหญ่มาวางเรียงกั้นน้ำหน้าบ้านเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเข้า โดยบอกว่าช่วยบรรเทาความเดือดร้อนป้องกันน้ำทะลักได้มากเลยทีเดียว

          นางซัลวา  หมาดเต๊ะ  เจ้าของไอเดียปี๊บ  บอกว่า  ตนเองขายขนมปี๊บอยู่แล้ว จึงคิดว่าเอาปี๊บมากั้นน้ำท่วมดีกว่าใช้กระสอบทรายเพราะเราก็มีอุปกรณ์อยู่แล้วจึงนำกระป๋องปี๊บไปใส่น้ำกันน้ำเข้าบ้านได้อย่างดีทีเดียว ช่วยบรรเทาได้เยอะ  

 

         ส่วนคลองรับน้ำอย่าง  คลองฉลุง  ขณะนี้ปริมาณน้ำปริ่มไหลทะลักเข้าบ้านเรือน และตลาดย่านเศรษฐกิจ เขตเทศบาลตำบลฉลุงตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา โดยขณะนี้น้ำได้ท่วมตลาด และย่านการค้า  ซึ่งทางผู้นำเทศบาลตำบลฉลุง  ได้นำกระสอบทรายให้ชาวบ้านป้องกันน้ำเพิ่มเติม  พร้อมบอกว่า  พื้นที่แห่งนี้เป็นแอ่งกระทะ และอยู่ใกล้ลำคลอง เตรียมแผนระยะยาวคือเสนอให้มีการขุดลอกคลอง เพื่อช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วม

 

       สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในขณะนี้ไม่ได้มีแค่ในพื้นที่ อ.เมือง เพียงอย่างเดียว ส่วน อ.ควนโดน อ.ควนกาหลง อ.ละงู  อ.ท่าแพ อ.มะนัง  และอ.ทุ่งหว้า ก็ได้รับผลกระทบลดลั่นกันไป บางก็ท่วมในพื้นที่สวนยางพารา และพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยขณะนี้ทางจังหวัดสตูล ยังคงประกาศเตือนภัยต่อไปอีกจนถึงวันที่ 18 ก.ย.2567 ให้ประชาชนเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำป่าที่ไหลหลาก 

……………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

สตูล-น้ำทะลักย่านเศรษฐกิจชุมชนเก่าแก่  ขณะที่คลื่นลมมีกำลังแรงเตือนชาวประมงเรือเล็กงดออกจากฝั่ง 

สตูล-น้ำทะลักย่านเศรษฐกิจชุมชนเก่าแก่  ขณะที่คลื่นลมมีกำลังแรงเตือนชาวประมงเรือเล็กงดออกจากฝั่ง 

         (วันที่ 16 กันยายน 2567)  สถานการณ์น้ำท่วมใน  จ.สตูล  เข้าสู่วันที่ 2 หลังทางป้องกันบรรเทาสาธารณะภัยจังหวัดได้ประกาศเตือนให้ระมัดระวังน้ำป่าไหลหลากและน้ำท่วมฉับพลันระหว่าวันที่ 13-18 ก.ย.นี้ ล่าสุดสถานการณ์น้ำได้ไหลเข้าท่วมแล้วใน 7 อำเภอของจังหวัดสตูล 

 

        ล่าสุดที่ย่านชุมชนเก่า   บริเวณที่ตลาดสดเทศบาลตำบลฉลุง  อำเภอเมือง จังหวัดสตูล  ซึ่งถือว่าเป็นย่านชุมชน ย่านตลาดสด  ที่สำคัญใจกลางเมืองเทศบาลตำบลฉลุง ที่มีประชาชน และนักท่องเที่ยวออกมาจับจ่ายซื้อข้าวของ อาหารทะเล ของใช้   ขณะนี้พื้นที่แห่งนี้ได้ถูกมวลน้ำจากด้านบนปกคลุมแล้ว 

 

        ชาวบ้านบอกว่าน้ำได้ไหลจากมาจาก อำเภอควนกาหลง อำเภอควนโดน  มายังอำเภอเมืองสตูล ที่ตำบลฉลุงเวลาประมาณ  3 นาฬิกา แม้ทางการจะประกาศให้เตรียมเคลื่อนย้ายสิ่งของไว้บนที่สูงแต่นับว่าปีนี้น้ำมาเร็วและเยอะมาก

 

        นายวิสุทธิ์   เอกฉัตร  อายุ 59 ปี อาศัยย่านชุมชนตำบลฉลุง 40 ปี กล่าวว่า  สถานการณ์ตอนนี้น้ำน่ากลัวมาก  เมื่อปีที่แล้วประมาณใกล้เดือน พ.ย.56 น้ำท่วมแต่ไม่ขึ้นสูงเพียงแค่ข้อเท้า  แต่ในขณะนี้ตอนนี้น้ำท่วมหนักอีกครั้ง  น้ำขึ้นสูงในย่านชุมชน ตลาดสด ท่วมเกือบขึ้นครึ่งล้อรถยนต์กระบะ เร่งขนของขึ้นที่สูง

           ขณะที่คลื่นลมทะเลจังหวัดสตูลมีกำลังแรง  ที่บ้านหาดทรายยาว  หมู่ที่ 2 ต.ตันหยงโป อ.เมือง  จ.สตูล  ชาวประมงเรือเล็กต่างนำเรือหลบลมตามลำคลอง ป้องกันคลื่นซัดเรือได้รับความเสียหาย

           ปภ.จ.สตูลได้แจ้งเตือนเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขังและคลื่นลมแรงระหว่างวันที่ 13-18 กันยายน 2567 โดยขอให้ติดตามข่าวสารจากทางการอย่างใกล้ชิดระวังอันตรายจากฝนตกหนักระมัดระวังการเดินทางหรือสัญจรเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังหรือน้ำไหลผ่าน  ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง สายด่วน 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง  

……………………………………………………………………………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

คืบหน้าสตูล…ปักธงแดงเตือนภัย!!พื้นที่ริมตลิ่งท้ายน้ำเสี่ยงท่วม 7 อำเภอ รวมทั้งหมู่บ้านชาวเลเกาะหลีเป๊ะ ขณะที่ความช่วยเหลือระดมกำลังทุกภาคส่วน

คืบหน้าสตูล…ปักธงแดงเตือนภัย!!พื้นที่ริมตลิ่งท้ายน้ำเสี่ยงท่วม 7 อำเภอ รวมทั้งหมู่บ้านชาวเลเกาะหลีเป๊ะ ขณะที่ความช่วยเหลือระดมกำลังทุกภาคส่วน

วันที่ 15 ก.ย.67 ฝนที่ตกหนักหลายวันติดต่อกัน ทำให้จังหวัดสตูลได้ประกาศเตือนภัย!! ด้วยการยกธงแดง  ที่ริมคลองฉลุง ต.ฉลุง อ.เมือง จ.สตูล หลังระดับน้ำในคลองเพิ่มสูงขึ้นเป็นลำดับ  และปริมาณน้ำฝนที่ยังคงเติมเข้ามาในพื้นที่ส่งผลให้บ้านเรือนริมคลองพื้นที่ต่ำได้รับผลกระทบน้ำท่วมขัง จากน้ำป่าที่ไหลหลากในหลายอำเภอที่รับผลกระทบ ล่าสุด อ.ควนกาหลง อ.ควนโดน อ.เมืองสตูล   ส่วนอ.ละงู อ.ท่าแพ และอ.ทุ่งหว้าและอ.มะนัง เฝ้าติดตามสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากอย่างใกล้ชิด

ความช่วยเหลือภาครัฐหลายหน่วยงานลงพื้นที่ช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว   ด้านพ.ต.ท.คำนึง อุ่นปลอด ผบ.ร้อย ตชด.436 มอบหมายให้ ร.ต.อ.ปริวรรต  หมาดรา ผบ.มว.ฯ พร้อมกำลังพล ร้อย ตชด.436 ออกช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่ และมอบน้ำดื่ม ยาสามัญ ประจำบ้าน ให้แก่ ประชาชน  และเยี่ยมผู้ป่วยติดเตียงสร้างขวัญกำลังใจในพื้นที่ ต.ควนโดน ต.ย่านซื่อ อ.ควนโดน จ.สตูล

ส่วนที่เกาะหลีเป๊ะ  ตำบลเกาะสาหร่าย  พ.ต.ต.สุจิต  ปิริยะ  สว.สภ.เกาะหลีเป๊ะ มอบหมายให้ ร.ต.อ.จำลอง  คงสวัสดิ์ รอง สว.สอบสวนฯ  พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เกาะหลีเป๊ะและชุดจิตอาสา  ร่วมกับเจ้าหน้าที่ อบต.เกาะสาหร่าย  เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ทหาร ในพื้นที่นำสิ่งของเครื่องใช้อุปโภคบริโภคให้แก่ชาวเลอูรักลาโว้ย ที่ประสบภัยน้ำท่วมที่บ้านหลีเป๊ะพัฒนา ม.8 ต.เกาะสาหร่าย อ.เมืองสตูล จว.สตูล  โดยสิ่งของเครื่องใช้อุปโภคบริโภค ได้รับสนับสนุนจาก อบจ.สตูล และ อบต.เกาะสาหร่าย

กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสตูล  ยังคงประกาศแจ้งเตือน!!  เฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขังและคลื่นลมแรงระหว่างวันที่ 13-18 กันยายน 2567 โดยขอให้ติดตามข่าวสารจากทางการอย่างใกล้ชิดระวังอันตรายจากฝนตกหนักระมัดระวังการเดินทางหรือสัญจรเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังหรือน้ำไหลผ่านชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง สายด่วน 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง

…………………………………………………..

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

สตูล-ฝนถล่มท่วมแล้ว  ผู้ว่าฯเตือนภัยเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากไปจนถึงวันที่18 กันยายน 2567

สตูล…ฝนถล่มท่วมแล้ว  ผู้ว่าฯเตือนภัยเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลากไปจนถึงวันที่18 กันยายน 2567

วันที่ 15 กันยายน 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากฝนที่ตกหนักลงมาสะสมหลายวัน ทำให้น้ำในพื้นที่ฝ่ายชลประทานดุสน  เทศบาลตำบลควนโดน  อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล ล่าสุดน้ำไหลล้นทะลักลงคลองดุสนที่เป็นสายน้ำไหลผ่าน 2 อำเภอได้แก่ ต.ควนโดน อำเภอควนโดน และ ต.ควนโพธิ์ ต.ฉลุง อำเภอเมืองสตูล

ล่าสุดเรือโทสุโภชน์  ทองย้อย รองผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 452  นำกำลังเข้าช่วยชาวบ้านที่ประสบภัยในพื้นที่หมู่ที่ 7 ตำบลย่านซื่อ  อำเภอควนโดน และเฝ้าจับดูสถานการณ์น้ำหากมีการร้องขอ  หลังพบว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากและอยู่ติดลำคลองสำคัญ

น้ำในลำคลองล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนที่ปลูกสร้างริมลำคลองที่พื้นที่ราบลุ่มต่ำ  โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านปันจอร์ หมู่ที่ 7 ตำบลย่านซื่อ และหมู่ที่ 1 ตำบลควนโด

นายศักระ   กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล  กล่าวว่า   สตูลได้แจ้งเตือนเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก น้ำท่วมขังและคลื่นลมแรงระหว่างวันที่ 13-18 กันยายน 2567 โดยขอให้ติดตามข่าวสารจากทางการอย่างใกล้ชิดระวังอันตรายจากฝนตกหนักระมัดระวังการเดินทางหรือสัญจรเส้นทางที่มีน้ำท่วมขังหรือน้ำไหลผ่าน  ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวังเรือเล็กควรงดออกจากฝั่ง สายด่วน 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง   ให้นายอำเภอประจำแต่ละอำเภอเหล่านี้ ส่งเจ้าหน้าออกตรวจตราดูแลความเดือดร้อนของประชาชนทันที และหาวิธีรับมือน้ำ หรือกระจายกำลังประสานหน่วยงานต่าง ๆ ลงพื้นที่มือสถานการณ์น้ำทันที

……………………………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

จังหวัดสตูลช่วยเหลือชายไทยวัย 48 ป่วยติดในมาเลเซีย ส่งกลับถึงบ้านอุดรธานี

จังหวัดสตูลช่วยเหลือชายไทยวัย 48 ป่วยติดในมาเลเซีย ส่งกลับถึงบ้านอุดรธานี

           วันที่ 5 ก.ย. 67) ที่โรงพยาบาลสตูล อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล มอบหมายให้นางสาวธัญรัศม์ ไตรพันธ์รัชตะ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสตูล เป็นตัวแทนมอบเงินและสิ่งของ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจให้แก่ ชายไทย อายุ 48 ปี ที่ประสบความเดือดร้อนในประเทศมาเลเซีย เป็นผู้ป่วยแขนขาอ่อนแรง ไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาล ซึ่งได้รับความช่วยเหลือจากจังหวัดสตูล โดยศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสตูล สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสตูล ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสตูล และโรงพยาบาลสตูล ให้การช่วยเหลือดำเนินการรับกลับมาประเทศไทย รักษาตัว และส่งกลับภูมิลำเนา สร้างความซาบซึ้งให้แก่ชายไทย อายุ 48 ปี เป็นอย่างมาก
.
         หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสตูล กล่าวว่า สืบเนื่องจากจังหวัดสตูล ได้รับการประสานจากสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองปีนัง ว่ามีชายไทย อายุ 48 ปี ประสบปัญหาป่วยแขนขาอ่อนแรง ไม่มีเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาล และหนังสือเดินทางใกล้จะหมดอายุ จึงต้องการส่งตัวกลับประเทศไทย ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล จึงได้มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้การช่วยเหลือ โดยให้ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสตูล ประสานสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองปีนัง และมีหนังสือถึงโรงพยาบาลสุลตานาห์มาลิฮา เมืองลังกาวี ประเทศมาเลเซีย เพื่อขอความอนุเคราะห์ค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาล และประสานสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองลังกาวี ประเทศมาเลเซีย เพื่ออำนวยความสะดวกในการเดินทางกลับประเทศไทยให้กับผู้ป่วยชายไทย ซึ่งได้รับความร่วมมือจากประเทศมาเลเซียเป็นอย่างดี

             และเมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสตูล ร่วมกับสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสตูล รับตัวผู้ป่วยชายไทย กลับจากประเทศมาเลเซีย ณ ท่าเทียบเรือตำมะลัง และส่งต่อเพื่อรักษาอาการป่วยที่โรงพยาบาลสตูล พร้อมประสานติดตามญาติของผู้ป่วยชายไทย ทราบว่า อาศัยอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี ซึ่งญาติให้ข้อมูลว่าผู้ป่วยเป็นน้องชาย มีความประสงค์จะรับผู้ป่วยกลับไปดูแล แต่เนื่องจากครอบครัวมีฐานะยากจน จึงไม่สามารถเดินทางมารับตัวผู้ป่วยได้ด้วยตนเอง และขอให้หน่วยงานให้ความช่วยเหลือในการนำส่งผู้ป่วยกลับคืนสู่ครอบครัว
.
           นอกจากนี้ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสตูล ได้ประสานขอความร่วมมือศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดอุดรธานี ลงพื้นที่เยี่ยมบ้านญาติของผู้ป่วย เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับผู้ป่วย เดินทางกลับไปจังหวัดอุดรธานี และนำผู้ป่วยย้ายทะเบียนราษฎร์ออกจากทะเบียนบ้านกลาง เข้าทะเบียนบ้าน ศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสตูล เพื่อทำบัตรประจำตัวประชาชนที่ สำนักงานอำเภอเมืองสตูล ด้านโรงพยาบาลสตูล ได้ตรวจรักษาผู้ป่วย พบว่าผู้ป่วยเป็นโรคฮีทสโตรก มีอาการแขนขาซีกขวายังอ่อนแรง และมีปัญหาด้านการสื่อสารไม่สามารถพูดออกเสียงชัดเจน โต้ตอบได้บางคำ แพทย์อนุญาตให้ผู้ป่วยเดินทางกลับไปรักษาตัวต่อที่บ้านได้ พร้อมทั้งมอบไม้เท้า 4 ขา สำหรับฝึกเดินกายภาพบำบัด

           ทั้งนี้สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด ร่วมกับศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดสตูล ภายใต้ชุดปฏิบัติการด้านคนขอทานและคนไร้ที่พึ่ง ศูนย์เร่งรัดจัดการสวัสดิภาพประชาชน (ศรส.) จังหวัดสตูล ให้ความช่วยเหลือนำส่งผู้ป่วยชาวไทยเดินทางกลับภูมิลำเนาเดิมที่จังหวัดอุดรธานี พร้อมทั้งประสานศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่งจังหวัดอุดรธานี วางแผนให้การช่วยเหลือต่อไป
……………………………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

สตูลส่งมอบเรือของกลางคืนมาเลเซีย หลังถูกโจรกรรมมาซุกในสตูล พร้อมเดินหน้าตามหาคนผิดต่อไป

สตูลส่งมอบเรือของกลางคืนมาเลเซีย หลังถูกโจรกรรมมาซุกในสตูล พร้อมเดินหน้าตามหาคนผิดต่อไป การส่งมอบคืนในครั้งนี้เป็นการร่วมมือในการแก้ปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติและการแก้ปัญหาความมั่นคงทางทะเล

         วันที่ 30 สิงหาคม 2567 ที่ด่านศุลกากรตำมะลัง จังหวัดสตูล มีพิธีส่งมอบเรือของกลางคืนให้แก่ทางการมาเลเซีย โดยนายศักระ  กปิลกาญจน์  ผู้ว่าราชการจังหวัด  ผอ.ศรชล.ได้มอบหมายให้  น.อ.แสนย์ไท บัวเนียม รองผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล เป็นประธานในพิธี

          สำหรับเรือลำนี้เป็นเรือประมงสัญชาติมาเลเซีย ชื่อ KHF 818 ขนาด 38.46 ตันกรอส ถูกพบเมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2567 โดยเจ้าหน้าที่ตรวจท่าปฏิบัติการ สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคจังหวัดสตูล พบว่าเรือลำนี้เข้ามาจอดที่อู่เรือในตำบลตำมะลัง อำเภอเมืองสตูล โดยไม่ได้รายงานการเข้ามาต่อเจ้าท่าตามกฎหมาย

          จากการสอบสวนพบว่า เรือลำนี้เป็นของนายอี เทีย จาย สัญชาติมาเลเซีย ซึ่งถูกโจรกรรมมาจากท่าเรือประมงกัวลาเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2565 และได้มีการแจ้งความไว้ที่สถานีตำรวจกัวลาเคดาห์แล้ว

          ในการส่งมอบครั้งนี้ได้มีเจ้าหน้าที่ระดับสูงของจังหวัดสตูลเข้าร่วม อาทิ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสตูล นายด่านศุลกากรสตูล ผู้อำนวยการศูนย์บริหารจัดการด่านตรวจประมงเขต 9 สตูล ประมงจังหวัดสตูล และเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสตูลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วม

          สำหรับฝ่ายมาเลเซียมีมูฮัมหมัด ไครูลานัวร์ บิน อิบราฮิม รองสารวัตรตำรวจน้ำลังกาวี รัฐเคดาห์ และเจ้าหน้าที่จากสำนักงานประมงรัฐเคดาห์ มารับมอบเรือ

          ทั้งสองฝ่ายได้ตรวจสอบสภาพเรือและยืนยันว่าไม่มีความเสียหายเพิ่มเติม การส่งมอบครั้งนี้เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมายและไม่มีการเรียกร้องผลประโยชน์ใดๆ ทางการไทยยังเน้นย้ำว่าจะเร่งติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีโดยเร็ว

          การส่งมอบเรือคืนครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความร่วมมืออันดีระหว่างไทยและมาเลเซียในการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมข้ามชาติ และการรักษาความมั่นคงทางทะเลร่วมกัน

………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

จับยาไอซ์  10 กิโลฯ ถูกซุกแกลลอนวางทิ้งไว้บนชายหาดเกาะยาว รวมมูลค่า 3 ล้านบาท

สตูล-จับยาไอซ์  10 กิโลฯ ถูกซุกแกลลอนวางทิ้งไว้บนชายหาดเกาะยาว รวมมูลค่า 3 ล้านบาท

         วันที่ 6 สิงหาคม 2567   เจ้าหน้าที่ปราบปรามยาเสพติดจังหวัดสตูล พร้อมสนธิกำลังหลายฝ่ายทั้ง ตำรวจน้ำสตูล ศรชล.สตูล ทหารเรือ ตชด.436 พร้อมด้วยกำพลังทหารจากกองพันทหาราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 5 จังหวัดสตูล ด่านศุลกากรตำมะลัง และ ฝ้ายปกครองจังหวัดสตูล กำลังช่วยกันลำเลียงยาไอซ์ที่ถูกซุกไว้ในถังแกลลอนน้ำมัน 30 ลิตร ( สีน้ำเงิน )  2 ถัง ซึ่งพบว่าข้างในแต่ละถังมียาไอซ์ถูกแพ็กไว้อย่างละ 1 กิโลกรัม จำนวน 5 ถุง ได้ถูกนำไปวางไว้ตั้งแต่ก่อนรุ่งฟ้าสาง ใกล้ริมชายหาดในพื้นที่ หมู่ที่ 1 บ้านเกาะยาว ตำบลปูยู อำเภอเมือง จ.สตูล  ห่างจากเสาโทรศัพท์ไม่มากนัก   เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้นำของกลาง ยาไอซ์ทั้ง 2 แกลลอน น้ำหนัก 10 กิโลฯ ของกลางถูกควบคุมมาขึ้นเรือตรวจการณ์ของตำรวจน้ำ มาขึ้นฝั่งที่บริเวณที่ท่าเทียบเรือตำรวจน้ำ และได้นำของกลางดังกล่าวไปที่ ตชด.436 สตูล

         ด้านน.อ.แสนย์ ไทบัวเนียม  รอง.ศรชล.สตูล ได้จัดแถลงข่าวโดยมีเจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายที่ร่วมจับกุมได้ตั้งโต๊ะแถลงข่าว  ได้นำของกลางทั้ง 2 แกลลอนออกมาพบว่าถูกห่อหุ้มไปด้วยถุงพลาสติกที่เป็นภาษาจีน และแกะออกมา มีรหัสลับเป็นภาษาอังกฤษ เขียนคำว่า  XLP น่าจะเป็นรหัสสินค้าที่จัดส่งออกไปยังประเทศที่ 3 ( มาเลเซีย และอินโดนีเซีย )  โดยทางการข่าวทราบมาว่า ยาไอซ์ล๊อตนี้มีการขนมาจากทางเหนือตอนบนของประเทศไทย ตามใบสั่ง และเลือกพื้นที่จังหวัดสตูล ฝั่งทะเลเป็นการลำเลียงออกนอกประเทศ แต่ด้วยภารกิจการสกัดกั้นคุมเข้มของทาง ศรชล.สตูล และหลายๆฝ่าย  ทำให้ผู้ค้ายาเสพติดข้ามชาติกลัวจึงได้นำมาทิ้งไว้ดังกล่าว แต่อย่างไรก็ตาม จะนำของกลางเหล่านี้นำไปตรวจสอบพิสูจน์ต่อไป ซึ่งรวมทั้งมูลค่าตีเป็นเงินไทยของยาไอซ์ล็อตนี้อยู่ที่ประมาณ 3 ล้านบาท แต่ถ้าหากหลุดไปนอกประเทศจะมีราคาเพิ่มไปอีกเท่าตัว ส่วนจะโยงใยถึงคนในพื้นที่หรือว่าคนบนเกาะหรือคนสตูลรู้เห็นหรือไม่ อยู่ในกระบวนการตรวจสอบต่อไป

อัพเดทล่าสุด