Categories
ข่าวเด่น

  คืบหน้าเศร้า – พบศพ “น้องจีรยุทธ” ใต้กอไผ่ ห่างจุดจมน้ำ 2 กม. พ่อแม่ไม่ติดใจการเสียชีวิต

สตูล-คืบหน้าเศร้า – พบศพ “น้องจีรยุทธ” ใต้กอไผ่ ห่างจุดจมน้ำ 2 กม. พ่อแม่ไม่ติดใจการเสียชีวิต

         สตูล – ความหวังที่เปล่งประกายดับลงอย่างเจ็บปวด หลังเจ้าหน้าที่พบร่างของ ด.ช.จีรยุทธ นางา อายุ 6 ปี ที่จมหายไปในคลองบ้านควน เมื่อสองวันก่อน โดยศพถูกพบช่วงเช้าวันนี้ (23 พ.ค.) บริเวณบ้านทุ่งวิมาน ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 2 กิโลเมตร

          น้องถูกกระแสน้ำพัดมาเกยใต้กอไผ่ ท่ามกลางเศษไม้และวัชพืชริมคลอง เจ้าหน้าที่กู้ภัยร่มไทรพร้อมชาวบ้านเร่งนำร่างขึ้นจากน้ำอย่างนุ่มนวล ท่ามกลางความโศกเศร้าของผู้เป็นพ่อแม่และชุมชนที่ร่วมค้นหาน้องตลอด 2 วันที่ผ่านมา

          แม้จะเต็มไปด้วยความเสียใจ แต่ครอบครัวของน้องยืนยันไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต โดยระบุว่าเข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุจากการพลัดตกน้ำ ประกอบกับการพบศพในสภาพสมบูรณ์ ไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยผิดปกติ

         หลังการชันสูตรเบื้องต้นเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่อนุญาตให้ครอบครัวนำศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาในทันที

          เหตุการณ์นี้กลายเป็นบทเรียนสะเทือนใจสำหรับชุมชนอีกครั้ง โดยเฉพาะผู้ปกครองและเยาวชนในพื้นที่ ซึ่งต่างตระหนักถึงอันตรายของแหล่งน้ำในช่วงหน้าฝน ที่แม้จะดูสงบ แต่ซ่อนความเชี่ยวกรากและอันตรายไว้เบื้องล่าง

………………………………..

อัพเดทล่าสุด

 “พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค สตูล

“พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค

Categories
ข่าวเด่น

สตูล-เด็ก 6 ขวบจมน้ำลึกคลองในหมู่บ้าน  ญาติขอปาฏิหาริย์มีจริง  ชุดกู้ภัย-ฝ่ายปกครอง ระดมกำลังเร่งค้นหาแม้น้ำจะเชี่ยวจะเป็นอุปสรรค

สตูล-เด็ก 6 ขวบจมน้ำลึกคลองในหมู่บ้าน  ญาติขอปาฏิหาริย์มีจริง  ชุดกู้ภัย-ฝ่ายปกครอง ระดมกำลังเร่งค้นหาแม้น้ำจะเชี่ยวจะเป็นอุปสรรค

สตูล – ปฏิบัติการค้นหาเด็กชายวัย 6 ขวบ “ด.ช.จีรยุทธ นางา” ที่จมหายกลางลำคลองบ้านควน อำเภอเมืองสตูล เข้าสู่วันที่ 2 แล้ว ท่ามกลางความหวัง ความห่วงใย และเสียงร่ำไห้ของครอบครัว รวมถึงชาวบ้านกว่า 100 คนที่เฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด

เหตุการณ์สะเทือนใจนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา เด็กชายจีรยุทธ สวมเสื้อพละสีแดงของโรงเรียน กลับจากเรียนหนังสือและเดินเล่นกับเพื่อนบริเวณบันไดริมลำคลองบ้านควน หมู่ที่ 3 ต.บ้านควน ก่อนจะพลัดตกลงไปในน้ำ ซึ่งไหลเชี่ยวและมีโพรงหินใต้น้ำจำนวนมาก

เพื่อนของน้องให้การเบื้องต้นว่าเห็นน้องลื่นและจมหายไปต่อหน้าต่อตา สร้างความตกใจและเศร้าสลดให้กับชุมชนในทันที

เจ้าหน้าที่กู้ภัยร่มไทร จ.สตูล พร้อมฝ่ายปกครอง อส. และทีมประดาน้ำกว่า 20 นาย เร่งค้นหาน้องตลอดทั้งวันทั้งคืน โดยใช้ทั้งเรือในการตีผิวน้ำเพื่อให้ร่างลอยขึ้น รวมถึงอุปกรณ์ค้นหาท่ามกลางสภาพน้ำเชี่ยว และสภาพใต้น้ำที่ซับซ้อน มีทั้งโพรงและโขดหินขนาดต่าง ๆ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญ

นายกูดานัน  หลังจิ นายก อบต.บ้านควน เผยว่า ชาวบ้านร่วมมือกันอย่างเต็มที่ ให้การสนับสนุนและส่งแรงใจแก่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย พร้อมภาวนาให้เกิดปาฏิหาริย์

 

ด้านนายฮามีดัน ตะวัน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ระบุว่า เด็ก ๆ ในชุมชนมักเล่นน้ำบริเวณนี้เป็นประจำ แต่ครั้งนี้อาจเกิดเหตุไม่คาดฝัน พร้อมย้ำว่าได้รับคำสั่งเร่งด่วนจากผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลให้เร่งค้นหาโดยไม่ลดละ

 

แม้ความหวังจะริบหรี่ แต่ภารกิจยังคงเดินหน้าด้วยพลังศรัทธา และคำภาวนา “ขอให้น้องกลับมาอย่างปลอดภัย” ท่ามกลางคำเตือนที่ดังกึกก้องในชุมชนว่า “น้ำใสไม่ใช่ว่าปลอดภัยเสมอไป”

เตือนภัย: ผู้ปกครองควรระวังเด็กเล็กใกล้แหล่งน้ำ และควรมีการรั้วกั้นหรือมาตรการป้องกันในพื้นที่เสี่ยง เพื่อป้องกันโศกนาฏกรรมซ้ำรอยในอนาคต.

……………………………………..

อัพเดทล่าสุด

 “พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค สตูล

“พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค

Categories
ข่าวเด่น

40 นักดำน้ำฝ่าคลื่นช่วยชีวิตปะการังสตูล  ร่วมแรงใจเพื่อสิ่งแวดล้อม ไม่หวั่นแม้ลมแรงฝนหนาว

ภารกิจเคลียร์อวนใต้ทะเลสุดโหด! 40 นักดำน้ำฝ่าคลื่นช่วยชีวิตปะการังสตูล  ร่วมแรงใจเพื่อสิ่งแวดล้อม… ไม่หวั่นแม้ลมแรงฝนหนาว

ท้องทะเลสตูลเต็มไปด้วยความหวังอีกครั้ง เมื่อทีมจิตอาสานักดำน้ำกว่า 40 ชีวิต จากหลายภาคส่วน รวมพลังฝ่าคลื่นลมแรง สายฝนหนาวเหน็บ ทำภารกิจเก็บกวาดอวนผืนใหญ่ที่ติดอยู่กับแนวปะการัง บริเวณ “กองหินขาว” ใกล้เกาะบุโหลนเล จังหวัดสตูล เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2568

 

ภารกิจครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่าง บริษัทหาดทิพย์ จำกัด (มหาชน), Reef Guardian Thailand, อุทยานแห่งชาติเภตรา, อุทยานแห่งชาติตะรุเตา, บริษัทเลตรังไดว์วิ้ง, กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, พร้อมผู้สนับสนุนอีกหลายราย โดยมี นายดินัน พัทลุง ประธานกลุ่มรีฟการ์เดี้ยน  หัวหน้าชุดเก็บกู้อวนในครั้งนี้  และ นายไรน่าน เด็นเบ็น จาก Reef Guardian Thailand เป็นหัวเรือใหญ่ในการประสานภารกิจครั้งนี้

 

ทีมงานออกปฏิบัติภารกิจด้วย เรือหางยาง 3 ลำ และ เรือสปีดโบ๊ท 1 ลำ มุ่งหน้าสู่จุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นแนวปะการังที่อวนพลาสติกขนาดยักษ์ กว้างกว่า 150 เมตร และสูง 8 เมตร พัวพันอยู่กับกองหินใต้ทะเล ลักษณะอวนเริ่มเสื่อมสภาพและอาจกลายเป็นกับดักสัตว์น้ำชนิดต่าง ๆ สร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศในระยะยาว

 

แม้จะเจอสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ  คลื่นลมแรง น้ำขุ่น และฝนตกโปรยปราย แต่ด้วยความทุ่มเท ทีมดำน้ำใช้ความชำนาญและประสบการณ์ ค่อย ๆ ตัด คลี่ และเก็บอวนออกจากแนวปะการังอย่างระมัดระวัง ไม่ให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติม

ภารกิจนี้สำเร็จลุล่วงด้วยดี  โดยสามารถนำอวนและเศษขยะใต้ท้องทะเลขึ้นฝั่งได้ รวมกว่า 550 กิโลกรัม เป็นอีกก้าวสำคัญของการอนุรักษ์ทะเลใต้และฟื้นฟูธรรมชาติสู่ความสมดุล

 

“นี่ไม่ใช่แค่การเก็บขยะ… แต่มันคือการคืนชีวิตให้ทะเล”  เสียงหนึ่งจากนักดำน้ำอาสาที่สะท้อนให้เห็นถึงหัวใจของคนรักทะเลได้อย่างลึกซึ้ง

 

การรวมพลังครั้งนี้ไม่เพียงเป็นแบบอย่างของความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และจิตอาสา แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้สังคมลุกขึ้นมาปกป้องท้องทะเลไทย ก่อนที่ธรรมชาติจะไม่เหลือโอกาสให้แก้ตัวอีกต่อไป

………………………………………………..

ขอบคุณภาพ  จากคุณไรน่าน  เด็นเบ็น

อัพเดทล่าสุด

 “พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค สตูล

“พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค

Categories
ข่าวเด่น

สะพานรอวันซ่อม… เสียงจากชาวเกาะสาหร่ายถึงใจผู้ว่าฯ สตูล

สะพานรอวันซ่อม… เสียงจากชาวเกาะสาหร่ายถึงใจผู้ว่าฯ สตูล

สตูล – บนเกาะสาหร่าย หมู่ที่ 5 และหมู่ที่ 6 ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมือง จังหวัดสตูล สะพานท่าเทียบเรือซึ่งเคยเป็นหัวใจของการเดินทางและขนส่งสินค้า ได้กลายเป็นเพียงโครงสร้างที่ผุพังมานานกว่า 5 ปี สภาพชำรุดทรุดโทรม ขาดการดูแล และไร้เจ้าภาพรับผิดชอบอย่างชัดเจน ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านต้องเผชิญความลำบากทุกวัน

การขนถ่ายสินค้าทางทะเลกลายเป็นเรื่องยากลำบาก โดยเฉพาะในฤดูมรสุม ขณะเดียวกันก็ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว เพราะพื้นที่ดังกล่าวเคยเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม เสียโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับชุมชนและผู้ประกอบการรายย่อย

จากความทุกข์นี้เอง ทำให้นายยุทธพงษ์ หมัดตุกัง ประธานกลุ่มประมงพื้นบ้านตำบลเกาะสาหร่าย พร้อมด้วยนายอดุลย์ ชนะบัณฑิต จากภาคประชาชน จ.สตูล (พลเมืองรักษ์สตูล) เป็นตัวแทนรวบรวมรายชื่อชาวบ้านนับร้อยคน ยื่นหนังสือผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสตูล เพื่อทวงถามแนวทางการซ่อมแซมสะพานแห่งนี้อย่างเร่งด่วน

ความเคลื่อนไหวนี้ได้รับความใส่ใจจาก นายธนพัฒน์  เด่นบูรณะ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสตูล ซึ่งได้ลงมารับเรื่องด้วยตนเอง พร้อมชี้แจงว่า นายศักระ  กปิลกาญจน์  ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ไม่ได้นิ่งนอนใจ และนายพิบูลย์  รัชกิจประการ ส.ส.ได้มีการเข้ามาทวงถามและหารือเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง

 

เบื้องต้น ทางองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะสาหร่าย ยินดีรับโอนทรัพย์สินสะพานมาอยู่ในความดูแล โดยหากวงเงินซ่อมแซมอยู่ในกรอบงบประมาณไม่เกิน 3 ล้านบาท ทาง อบต. จะสามารถดำเนินการได้ทันที แต่หากเกินขีดความสามารถ จังหวัดจะประสานกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เพื่อหาทางสนับสนุนงบเพิ่มเติม

 

ขั้นตอนต่อไปคือการให้ อบต. ออกมติเห็นชอบในการรับโอนสะพานเป็นทรัพย์สินของท้องถิ่น เพื่อให้มี “เจ้าภาพ” ดูแลระยะยาวหลังการซ่อมแซมเสร็จสิ้น

 

หัวหน้าสำนักงานจังหวัดกล่าวต่อว่า ผู้ว่าฯ สตูลมีความห่วงใย และต้องการให้เกาะสาหร่ายไม่ตกขบวนในการจัดทำ “แผนยุทธศาสตร์จังหวัด” ประจำปี 2570 หากไม่ทันในปีนี้ ก็จะผลักดันให้เข้าปี 2571 ซึ่งปัจจุบันมีสะพานหลายแห่งในสตูลที่อยู่ในภาวะวิกฤตเช่นกัน

 

ด้านนายยุทธพงษ์ หมัตตุกัง ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า หลังทราบความคืบหน้า รู้สึกคลายกังวล พร้อมขอบคุณผู้ว่าฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่รับฟังเสียงจากชาวบ้าน และแสดงเจตจำนงในการเร่งแก้ไขปัญหานี้ เพื่อให้สะพานแห่งนี้กลับมาเป็นจุดเชื่อมต่อของชีวิต เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของเกาะสาหร่ายได้อีกครั้ง

 

“ขอบคุณที่เกาะสาหร่ายจะไม่ตกขบวน… เราหวังว่าจะได้เห็นสะพานกลับมาแข็งแรงสมศักดิ์ศรี และเป็นหน้าตาของจังหวัดอีกครั้งในเร็ววัน” – ตัวแทนชาวบ้านกล่าวทิ้งท้าย

……………………………………..

อัพเดทล่าสุด

 “พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค สตูล

“พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค

Categories
ข่าวเด่น

ผู้ว่าฯ สตูลนำทีมเยียวยาครอบครัวผู้สูงอายุวัย 72 ปี หลังบ้านถูกไฟไหม้วอด สูญเสียทรัพย์สินกว่า 6 หมื่นบาท

ผู้ว่าฯ สตูลนำทีมเยียวยาครอบครัวผู้สูงอายุวัย 72 ปี หลังบ้านถูกไฟไหม้วอด สูญเสียทรัพย์สินกว่า 6 หมื่นบาท

      วันที่ (30 เม.ย.68) ที่บ้านเลขที่ 130 หมู่ที่ 6 บ้านคลองบัน ตำบลสาคร อำเภอท่าแพ จังหวัดสตูล นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วย ทพญ.สุกีรติ กปิลกาญจน์ นายกเหล่ากชาดจังหวัดสตูล นายอาทิตย์ วงมุสิก ปลัดอำเภออาวุโสอำเภอท่าแพ นางสาววาสิฏฐี สาระพงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสตูล  ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสตูล  ร่วมลงพื้นที่ให้กำลังใจผู้ประสบเหตุอัคคีภัย มอบสิ่งของช่วยเหลือ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ

         เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2568  เวลาประมาณ 16.00 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ ณ บ้านเลขที่ 130 หมู่ที่ 6 บ้านคลองบัน ตำบลสาคร อำเภอท่าแพ จังหวัดสตูล โดยผู้อยู่อาศัย ชื่อนางสะแอด๊ะ นาปาเลน อายุ 72 ปี เป็นมารดาของเจ้าของบ้าน ชื่อนางสาวฮาบีบ๊ะ น่าฮู อายุ 39 ปี จากเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว ขณะเกิดเหตุไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่ที่บ้าน ทั้งนี้องค์การบริหารส่วนตำบลสาคร  ได้ดำเนินการเข้าระงับเหตุเพลิงไหม้ และให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น  ทั้งนี้มีทรัพย์สินที่เสียหาย คือ อาคารปลูกสร้าง 1 หลัง ประมาณการความเสียหายเบื้องต้น 60,000 บาท

……………………………

ภาพ/ข่าว : ขนิษฐา เดิมหลิ่ม / ส.ปชส.สตูล

อัพเดทล่าสุด

 “พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค สตูล

“พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค

Categories
ข่าวเด่น

สตูล-ต้นตะเคียนยักษ์อายุกว่า 100 ปี ล้มทับบ้าน 4 ครอบครัวกลางดึก – เคราะห์ดีไร้คนเจ็บ หลังเจ้าของไปงานมัสยิดที่กรุงเทพฯ

สตูล-ต้นตะเคียนยักษ์อายุกว่า 100 ปี ล้มทับบ้าน 4 ครอบครัวกลางดึก – เคราะห์ดีไร้คนเจ็บ หลังเจ้าของไปงานมัสยิดที่กรุงเทพฯ

         เมื่อเวลาประมาณ 02.30 น. ของวันนี้ เกิดเหตุต้นไม้ขนาดใหญ่ล้มทับบ้านเรือนประชาชนในชุมชนซอยม้าขาว ตำบลพิมาน อำเภอเมือง จังหวัดสตูล โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นที่พักอาศัยของ 4 ครอบครัว รวมทั้งหมด 11 คน ซึ่งมีเด็กจำนวนมาก โชคดีที่ช่วงเกิดเหตุไม่มีใครอยู่บ้าน เนื่องจากทุกคนได้เดินทางไปร่วมงานประจำปีที่มัสยิดในกรุงเทพมหานคร ตั้งแต่วันพฤหัสบดีที่ผ่านมา และมีกำหนดเดินทางกลับในวันอาทิตย์

 

         นางสาวดาหวัน เส็นดาหวัน อายุ 37 ปี หนึ่งในสมาชิกครอบครัวที่อยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ เปิดเผยว่า ขณะเกิดเหตุเธอกำลังนอนพักผ่อนอยู่ในบ้านได้ยินเสียงดังโครมสนั่นจนสะดุ้งตื่น เมื่อตรวจสอบจึงพบว่าต้นไม้ขนาดใหญ่ได้ล้มทับบ้านของพี่สาวจนได้รับความเสียหายอย่างหนัก หลังเกิดเหตุไฟฟ้าในพื้นที่ได้ดับลงทันที และมีการตัดไฟเพื่อความปลอดภัย

        จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าต้นไม้ที่ล้มลงเป็นต้นตะเคียนขนาดใหญ่ อายุกว่า 100 ปี ชาวบ้านเชื่อว่าสาเหตุเกิดจากฝนตกต่อเนื่องติดต่อกันหลายวัน ทำให้พื้นดินชุ่มน้ำและอ่อนตัว จนไม่สามารถพยุงน้ำหนักของต้นไม้ได้

 

       ล่าสุดนายกิติศักดิ์ มูสิกสง นายกเทศมนตรีเมืองสตูล  สั่งการ เจ้าหน้าที่จากเทศบาลเมืองสตูลได้เข้าพื้นที่เพื่อตัดกิ่งไม้และเคลียร์ซากต้นตะเคียนออกจากบ้าน พร้อมทั้งเตรียมวางแผนให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประสบเหตุอย่างเร่งด่วน

……………………………

อัพเดทล่าสุด

 “พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค สตูล

“พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค

Categories
ข่าวเด่น

สตูล- ฝึกซ้อมการอพยพหนีไฟศาลากลางจังหวัด เสริมสร้างความปลอดภัยรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สตูล- ฝึกซ้อมการอพยพหนีไฟศาลากลางจังหวัด เสริมสร้างความปลอดภัยรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

         วันนี้ (27 มี.ค. 68) ที่ห้องประชุมโต๊ะพญาวัง ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสตูล นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล มอบหมายให้ นายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานการอบรมดับเพลิงและอพยพหนีไฟ ในพื้นที่ศาลากลางจังหวัด  เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการป้องกันและรับมือกับเหตุเพลิงไหม้ให้กับบุคลากรภายในศาลากลาง   โดยการฝึกอบรมในช่วงเช้า เริ่มต้นด้วยการให้ความรู้เกี่ยวกับหลักการดับเพลิงเบื้องต้น การใช้อุปกรณ์ดับเพลิงอย่างถูกต้อง และแนวทางปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น วิธีการแจ้งเหตุ การประเมินสถานการณ์ และการอพยพอย่างปลอดภัย โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้ความรู้  มีหัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้

 

         ช่วงเวลาประมาณ 10.30 น. เป็นการฝึกซ้อมเสมือนจริง โดยจำลองสถานการณ์ไฟไหม้ภายในอาคารศาลากลางจังหวัดสตูล  ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จำลองเหตุการณ์เพลิงไหม้ ที่ห้องสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ชั้น 2 อาคารหลังเก่า โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการดับไฟเบื้องต้น แต่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และเพลิงได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว  จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อพยพ พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ สถานีดับเพลิงเทศบาลเมืองสตูล   โรงพยาบาลสตูล   มูลนิธิธรรมรังสี   สถานีตำรวจภูธรเมืองสตูล   การประปาส่วนภูมิภาคสาขาสตูล   และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดสตูล   ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าควบคุมสถานการณ์ ได้ในเวลาประมาณ 11.30 น. โดยมีการสั่งอพยพบุคลากรออกจากอาคารอย่างเป็นระบบ รวมถึงการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยดับเพลิง หน่วยกู้ภัย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทุกคนเกิดความคุ้นเคยและสามารถปฏิบัติตามแผนได้อย่างถูกต้อง

           ภายหลังการฝึกซ้อม นายคณิต  คงช่วย  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ได้กล่าวให้โอวาท พร้อมสรุปผลการฝึกซ้อม เพื่อประเมินความพร้อมและพัฒนาแนวทางการปฏิบัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินในอนาคต ตลอดจนเสริมสร้างความปลอดภัยและความมั่นใจให้กับทุกคนที่เข้ามาใช้บริการภายในศาลากลางจังหวัดสตูลต่อไป

………………….

ภาพ-ข่าว  ประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล

อัพเดทล่าสุด

 “พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค สตูล

“พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค

Categories
ข่าวเด่น

จับกุมชายวัย 44 ปี ครอบครองอาวุธปืนเถื่อนในบ้านพัก จ.สตูล

จับกุมชายวัย 44 ปี ครอบครองอาวุธปืนเถื่อนในบ้านพัก จ.สตูล

         21 มีนาคม 2568  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสตูล ร่วมกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและฝ่ายปกครอง บุกจับกุมชายวัย 44 ปี หลังพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์หลายกระบอกซุกซ่อนภายในบ้านพัก ต.คลองขุด อ.เมืองสตูล จ.สตูล

          เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 มี.ค. 68) พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ ปรากฎชื่อ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสตูล สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสตูล นำโดย พ.ต.ท.ยงยุทธ เลิศปรีชาพงศ์ และฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสตูล นำโดย นายสิทธิวุฒิ ทรงสวัสดิ์ ปลัดอำเภอเมืองสตูล พร้อมด้วยกำนันตำบลคลองขุด เข้าตรวจค้นในพื้นที่หมู่ 1 ตำบลคลองขุด อำเภอเมืองสตูล

          จากการสืบทราบจากสายลับว่ามีการซุกซ่อนอาวุธปืนผิดกฎหมายไว้ในบ้านหลังดังกล่าว  เจ้าหน้าที่จึงขอหมายค้นจากศาลจังหวัดสตูล หมายเลข ค.21/2568 ลงวันที่ 20 มีนาคม 2568 เพื่อเข้าตรวจค้น

        เมื่อเดินทางถึงเวลาประมาณ 08.30 น. พบ นายประสิทธิชัย (สงวนนามสกุล)  อายุ 44 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นหลังจากเจ้าหน้าที่ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ ผลการตรวจค้นพบของกลางประกอบด้วย:

  1. อาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก พร้อมชุดลูกเลื่อนลำกล้อง 2 ชุด ซึ่งวางอยู่บริเวณหลังบ้าน
  2. อาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก
  3. อาวุธปืนปากกา จำนวน 2 กระบอก
  4. กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 3 นัด บรรจุในแม็กกาซีน 2 แม็ก ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายแบบสานสีน้ำตาลภายในห้องครัว

          เมื่อสอบถาม นายประสิทธิชัย  ยอมรับว่าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนทั้งหมดเป็นของตนเอง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสตูล เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

          ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกวาดล้างอาวุธปืนผิดกฎหมายในพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้อาวุธปืนตกไปอยู่ในมือของผู้ไม่หวังดีและนำไปก่อเหตุอาชญากรรม ซึ่งจะยังคงเข้มงวดตรวจค้นในพื้นที่เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง

……………………………………………

อัพเดทล่าสุด

 “พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค สตูล

“พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค

Categories
ข่าวเด่น

สตูลทลายเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ ยึดยาบ้ากว่า 3 หมื่นเม็ด พร้อมอาวุธปืน-ทรัพย์สินกว่า 1.5 ล้าน

สตูลทลายเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ ยึดยาบ้ากว่า 3 หมื่นเม็ด พร้อมอาวุธปืน-ทรัพย์สินกว่า 1.5 ล้าน

           (19 มี.ค.2568) นายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อม กอ.รมน.จว.สตูล และ พล.ต.ต.มารุต เรืองจินตนา ผบก.ภ.จว.สตูล, พ.ต.อ.ประสิทธิ์ ดำกระบี่ รอง ผบก.ภ.จว.สตูล พ.ต.อ.ปรีชา เพ็ชรรัตน์ ผกก.สภ.ท่าแพ จ.สตูล พร้อมด้วยฝ่ายปกครองอำเภอท่าแพ และคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูง ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญในคดียาเสพติด

          โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.สตูล ภายใต้การสั่งการของ พ.ต.ท.อภิสิทธิ์ ปะดุกา รอง ผกก.สืบสวนฯ ได้จับกุมตัว นายอนุสรณ์ หรือซีด (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ต.แป-ระ อ.ท่าแพ จว.สตูล พร้อมของกลางยาบ้าจำนวนมหาศาลถึง 34,506 เม็ด อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก มูลค่าประมาณ 60,000 บาท กระสุนปืน 45 นัด และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง

          นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจยึดทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 ประกอบด้วย รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมค สีขาว จำนวน 1 คัน มูลค่าประมาณ 700,000 บาท, รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีเทา จำนวน 1 คัน มูลค่าประมาณ 500,000 บาท, รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นฟอร์ซา สีน้ำเงิน-ดำ จำนวน 1 คัน มูลค่าประมาณ 20,000 บาท, เครื่องประดับทองคำมูลค่ากว่า 120,000 บาท, สมุดบัญชีธนาคาร 3 เล่ม และเงินสด 4,190 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดทั้งสิ้นประมาณ 1,595,790 บาท

         จากการสอบสวนเบื้องต้น พบว่าผู้ต้องหารายนี้เป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ของจังหวัดสตูล มีการทำธุรกรรมทางการเงินสูงถึง 12 ล้านบาทในวันเดียว และจากคำให้การของผู้ต้องหาอ้างว่าได้ทำการค้ายาเสพติดมาแล้ว 5 ครั้ง โดยที่ผ่านมามีพี่ชายของผู้ต้องหาเคยถูกจับกุมพร้อมยาบ้ามากถึง 6 ล้านเม็ด แสดงให้เห็นถึงเครือข่ายการค้ายาเสพติดขนาดใหญ่ที่มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

          ทั้งนี้ ผู้ต้องหาถูกตั้งข้อหา “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน โดยมีอาวุธปืนหรือใช้อาวุธปืน”, “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย” และ “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”

          โดยเหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 57 ต่อเนื่องบ้านเลขที่ 127 หมู่ที่ 6 ตำบลแป-ระ อำเภอท่าแพ จังหวัดสตูล  โดยทางเจ้าหน้าที่จะขยายผลการจับกุมเพื่อติดตามเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญที่เกี่ยวข้องต่อไป

…………….

 

อัพเดทล่าสุด

 “พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค สตูล

“พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค

Categories
ข่าวเด่น

สตูล-เยียวยาหัวใจที่แตกสลาย! ครอบครัวที่ต้องต่อสู้กับโรคร้ายเมื่อลูกน้อยวัย 9เดือนป่วยโรคหัวใจรั่ว ไม่มีเงินซื้อยานอกระบบ และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน 4 ชีวิตด้วยความยากจน

เยียวยาหัวใจที่แตกสลาย! ครอบครัวที่ต้องต่อสู้กับโรคร้ายเมื่อลูกน้อยวัย 9เดือนป่วยโรคหัวใจรั่ว ไม่มีเงินซื้อยานอกระบบ และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน 4 ชีวิตด้วยความยากจน

ความหวังยังคงเหลืออยู่ท่ามกลางความมืดมิด เมื่อสังคมยื่นมือช่วยเหลือครอบครัวที่กำลังเผชิญวิกฤตซ้ำซ้อน ทั้งโรคร้ายของลูกน้อยวัย 9 เดือนและความยากจนที่รุมเร้า

“ทุกวันนี้ผมไม่กล้าแม้แต่จะออกทะเล เพราะเท้าเคยเป็นบาดทะยัก สายตาก็มองไม่ค่อยเห็น” นายวาเหตุ สามาดี อายุ 59 ปี เล่าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “มีแต่รายจ่าย ไม่มีรายได้ ลูกสาวตัวน้อยป่วยหนัก ต้องวิ่งเข้าออกโรงพยาบาลไม่รู้จบ และต้องเตรียมยานอกระบบด้วย “

นายวาเหตุ  เล่าว่าลูกสาววัย 9 เดือนป่วยด้วยโรคหัวใจขนาดใหญ่ผิดปกติ ปอดติดเชื้อ และผนังกั้นหัวใจห้องล่างรั่วทั้ง 2 ห้อง ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลสตูล 14 คืน ก่อนถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลหาดใหญ่อีก 7 คืน กลับบ้านได้เพียงคืนเดียวก็ต้องกลับเข้าโรงพยาบาลอีกจนถึงปัจจุบัน โดยมีคิวผ่าตัดในเดือนมีนาคมหรือพฤษภาคม

“ผมตกงานมา 4-5 เดือนแล้ว ล่าสุดช่วยเพื่อนต่อเติมบ้านได้เงินมา 1,000 บาท” นายวาเหตุเล่า ขณะที่ภรรยาวัย 38 ปี ต้องเฝ้าลูกที่โรงพยาบาลทำให้ไม่มีรายได้เช่นกัน ส่วนลูกชายวัย 4 ขวบ ผมต้องขี่รถจยย.เดินทางไปส่งไปกลับโรงเรียนไกลถึง 50 กิโลเมตรจากโรงพยาบาลสตูล ไปตันหยงโป

คุณลุงกฤษฎา มะสมัน อายุ 75 ปี เพื่อนบ้านยืนยันว่า “ผมรู้จักครอบครัวนี้มานาน เห็นความยากลำบากมาตลอด ตัวสามีเคยได้รับบาดเจ็บจากบาดทะยัก เดินไม่สะดวก สายตาก็ไม่ดี ทำงานได้แค่ก่อสร้าง พอลูกป่วย ภรรยาไม่ได้ทำงาน ต้องเลี้ยงลูกสองคน เป็นครอบครัวที่ลำบากจริงๆ ผมก็ช่วยบ่อยครั้ง”

ด้านพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสตูล  หลังทราบข่าวได้ลงพื้นที่มอบความช่วยเหลือเบื้องต้น ทั้งนม แพมเพิส ขนมปัง และข้าวสาร พร้อมเตรียมนำเรื่องเข้าที่ประชุมเพื่อขออนุมัติค่าดูแลบุตร ส่วนเรื่องยานอกระบบได้ประสานกับสาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาล

ขณะที่ อบต.ตันหยงโป และ อบจ.ได้มีการเดินเรื่องเพื่อขอสนับสนุนค่าเดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ให้กับทางครอบครัวผู้เดือดร้อนแล้ว

สำหรับผู้ที่สนใจร่วมบริจาคช่วยเหลือครอบครัวนี้ สามารถบริจาคผ่านเลขบัญชี 020-315-673-861 ธนาคารออมสิน ชื่อบัญชี นายวาเหตุ สามาดี

……………………………………….

อัพเดทล่าสุด

 “พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค สตูล

“พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค