Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

หยุดยาวปีใหม่ ชวนใส่ชุดเคบาย่า  ย้อนวันวาน เมืองเก่าสตูลสัมผัสเสน่ห์แห่งวัฒนธรรม. ลิ้มรสวิถี อาหารในตำนานให้คิดถึง 27-31 ธ.ค.67

สตูล-หยุดยาวปีใหม่ ชวนใส่ชุดเคบาย่า  ย้อนวันวาน เมืองเก่าสตูลสัมผัสเสน่ห์แห่งวัฒนธรรม ลิ้มรสวิถี อาหารในตำนานให้คิดถึง 27-31 ธ.ค.67

           วันที่ 18 ธ.ค.2567 ที่สมาคมจงหัว  ต.พิมาน  อ.เมือง  จ.สตูล  สำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสตูล  จัดแถลงข่าว  โครงการยกระดับและพัฒนาด้านการท่องเที่ยวคุณภาพสูงฝั่งอันดามัน(Premium Tourism Andaman) กิจกรรมย้อนวันวานเมืองเก่าสตูล ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567

   

          โดย นางสาวดุษฎี พฤกษเศรษฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล  พร้อมด้วย นางสาวภัชกุล ตรีพันธ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสตูล  นางสาวศมานนท์ พฤกษ์พิเนต และปลัดเทศบาลเมืองสตูล  ร่วมแถลงข่าวการจัดงาน ซึ่งกำหนดขึ้นระหว่างวันที่ 27-31 ธันวาคม 2567 เวลา 17:00 น. – 22:00 น. ณ ถนนบุรีวานิช,สตูลธานี คฤหาสน์กูเด็นและบริเวณสมาคมจงหัว ต.พิมาน อ.เมือง  จ.สตูล

 

          ภายในงานแถลงข่าวได้มีการโชว์ชุดเคบายา หรือ ชุดกาบายา  สีสันสวยงาม สื่อถึงวัฒนธรรมการอยู่ร่วมกันในสังคมพหุวัฒนธรรมได้อย่างลงตัว ผ่านชุดที่สวมใส่ในวันวาน พร้อมเชิญชวนให้ชาวสตูล นักท่องเที่ยว สวมใส่ชุดพื้นเมืองเคบายาร่วมงาน ตลอด 5 วัน 5 คืน  สร้างสีสันต์และร่วมฉลองปีใหม่ไปด้วยกัน

          พร้อมกันนี้ คณะผู้เข้าร่วมงานได้นั่งรถรางชมเมืองสตูล  โดยจุดแรกแวะชมบ้านโบราณอายุกว่า 100 ปี  จากนั้นเดินทางไปยังถนนบุรีวานิช ถนนวัฒนธรรม ยังคงมีตึกชิโนโปตุกิส  และผลงานสตรีทอาร์ตบอกเล่าเรื่องราวสตูล   ก่อนไปชมบ้านพักพระยาสมันตรัฐบุรินทร์

 

            นางสาวภัชกุล ตรีพันธ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสตูล    กล่าวว่า   สตูลเตรียมต้อนรับนักท่องเที่ยวและคนในพื้นที่สู่การเดินทางย้อนเวลาร่วมสัมผัสเสน่ห์ของเมืองสตูลในอดีตที่เต็มไปด้วยสีสันและความคิดสร้างสรรค์ กับงาน “ย้อนวันวานเมืองเก่าสตูล” พร้อมการเฉลิมฉลองส่งท้ายปี เก่าต้อนรับปีใหม่ ณ ถนนบุรีวานิช,สตูลธานี คฤหาสน์กูเด็นและบริเวณสมาคมจงหัว ต.พิมาน อ.เมือง  จ.สตูล งานครั้งนี้จะพาทุกท่านดื่มต่ำ กับบรรยากาศค่ำคืนแห่งถนนบุรีวานิช  สาดแสงสีปลุกย่านเมืองเก่า ตื่นตากับการแสดงดนตรีและศิลปวัฒนธรรม ท้องถิ่นตลอดทั้ง 5 วัน

          กิจกรรมโครงการในครั้งนี้เป็นการรวมตัวกันของชาวเมืองสตูลตั้งเดิมและคนรุ่นใหม่ที่หลงใหลใน วัฒนธรรมท้องถิ่น ไม่เพียงแต่เป็นการย้อนรอยอดีต แต่ยังเป็นการสร้างสรรค์อนาคตให้กับเมืองสตูล โดยได้นำเอา เอกลักษณ์และความเป็นมาของเมืองสตูลมาตีความผสมผสานระหว่างความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมมา ผสมผสานกับวัฒนธรรมดั้งเดิม ผ่านผลงานศิลปะวัฒนธรรม การแสดง และกิจกรรมต่างๆ อาทิ เช่น  ขบวนพาเหรดพหุวัฒนกรรม  กิจกรรมวัฒนธรรมพื้นบ้าน  การแสดงศิลปวัฒนธรรม  การแสดงดนตรีจากศิลปินชื่อดัง  การเล่าเรื่องราวเมืองเก่าสตูล (Satun Old Town)  และการเฉลิมฉลอง “เคบายา” ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนมรดกทางวัฒนธรรมที่จับต้องไม่ได้จากองค์กรยูเนสโก

 

       นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมด้านอาหารท้องถิ่น โดยมีการจัดแสดงและจำหน่ายอาหารพื้นบ้านสตูลที่ได้รับ อิทธิพลจากชาวมลายูและชาวจีนฮกเกี้ยน เพื่อให้ผู้เข้าชมให้สัมผัสรสชาติของเมืองสตูลอย่างแท้จริง รวมไปถึงการ แต่งภายในงานยังสะท้อนความหลากหลายทางวัฒนธรรมของสตูล ทั้งการแต่งกายพื้นบ้านของชาวมลายูและจีน ฮกเกี้ยน รวมถึงการแต่งกายดั้งเดิมของชาวไทยเชื้อสายมลายูและจีนในพื้นที่ เพื่อเฉลิมฉลองและแสดงถึงความ ภาคภูมิใจในมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดมา

         นางสาวดุษฎี พฤกษเศรษฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล   กล่าวถึงการจัดงานในครั้งนี้ว่า เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจย่านเมืองเก่าสตูลให้กลับมาเฟื่องฟูกลายเป็นย่านเศรษฐกิจ  สร้างสรรค์เกิดพลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจที่ยั่งยืน งานนี้ยังเป็นการผลักดันเมืองสตูลให้กลายเป็นศูนย์กลาง ด้าน วัฒนธรรมและอาหาร การส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและอาหารพื้นเมืองจะทำให้สตูลเป็นที่รู้จักในระดับ นานาชาติ เพิ่มมูลค่าให้กับเศรษฐกิจท้องถิ่นและกระตุ้นการพัฒนาอย่างยั่งยืน

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

อัพเดทล่าสุด
Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา เกษตร - อาชีพ

“ขาหมูจันทร์เจริญ” สูตรลับจากจีนสู่ร้านดังเมืองสตูล ทายาท วัย33 ปีบริหารด้วยใจรักงานบริการ ตอบโจทย์ทุกวัยสายหมู

“ขาหมูจันทร์เจริญ” สูตรลับจากจีนสู่ร้านดังเมืองสตูล ทายาท วัย33 ปีบริหารด้วยใจรักงานบริการ ตอบโจทย์ทุกวัยสายหมู

         เส้นทางความสำเร็จของร้านขาหมูจันทร์เจริญ  เริ่มต้นจากคุณแม่เพ็ญผู้ได้รับการถ่ายทอดสูตรอันเป็นเอกลักษณ์จากชาวจีนใน จ.พังงา  ก่อนจะมาเปิดร้านของตัวเองที่อำเภอควนกาหลง  เป็นเวลาเกือบ 10 ปี จนได้ย้ายเข้าสู่ตัวเมืองสตูล โดยแวะพักที่แฟลตตำรวจ 1 ปี ก่อนจะมาตั้งรกรากที่ปัจจุบันบนถนนยนตรการกำธร ตำบลคลองขุด อำเภอเมืองสตูล

 

          ปัจจุบัน กิจการได้ส่งต่อมาถึงรุ่นที่ 2 โดยคุณวันจันทร์  จีวตระกูล วัย 33 ปี ผู้มีใจรักในการค้าขายและการทำอาหาร ซึ่งเสริมอาชีพจากอาชีพกู้ชีพที่ภูเก็ต มาเป็นผู้บริหารร้านร่วมกับครอบครัว

         

         โดยจุดเด่นของร้านเคล็ดลับความอร่อยที่ใครก็ต้องลอง  กับเมนูขาหมูนุ่มละลายในปาก ที่ผ่านการตุ๋นนาน 3-4 ชั่วโมง – น้ำจิ้มซีฟู้ดรสเด็ดได้ใช้น้ำมะนาวสดๆ  และวัตถุดิบคุณภาพ  โดยปริมาณการขายต่อวัน:ขาหมู 8-10 ขา   หมูทอด 6 กิโลกรัม หมูกรอบ 10 กิโลกรัม

         สำหรับเมนูแนะนำและราคา   ข้าวขาหมูธรรมดา 60 บาท , ข้าวขาหมูพิเศษ 70 บาท , ข้าวหมูทอด 50 บาท ,ก๋วยจั๊บ (เพิ่มเครื่องใน) 50 บาท , ขาหมูล้วน (กล่อง) 100 บาท- คากิล้วน (กล่อง) 100 บาท  นอกจากนี้ยังมีเมนูอื่นๆ เช่น หมูกรอบ หมูแดง แกงส้ม และบริการจัดเลี้ยงแบบกล่อง

 

          ร้าน- เปิดบริการ: 07:30 – 15:00 น. หยุดทุกวันอาทิตย์   ที่ตั้ง: ถนนยนตรการกำธร (ตรงข้าม อบจ.สตูล) ต.คลองด อ.เมืองสตูล  – โทร: 098-369-2536, 096-792-7024  และ เร็วๆ นี้มีบริการสั่งอาหารออนไลน์

 

          สำหรับร้านขาหมูจันทร์เจริญ เป็นที่นิยมในทุกกลุ่มลูกค้า  ทั้งข้าราชการและลูกค้าขาจร ด้วยรสชาติที่เป็นเอกลักษณ์และการบริการที่ใส่ใจ ทำให้ร้านนี้กลายเป็นหนึ่งในร้านขาหมูที่ได้รับความนิยมในจังหวัดสตูล

 

…………

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา เกษตร - อาชีพ

“วันเดียวเที่ยวฉลุง” สัมผัส 6 จุด มนต์เสน่ห์วิถีชุมชนดั้งเดิมแห่งสตูล

วันเดียวเที่ยวฉลุง” สัมผัส 6 จุด มนต์เสน่ห์วิถีชุมชนดั้งเดิมแห่งสตูล

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสตูล ร่วมกับเครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล เชิญชวนนักท่องเที่ยวร่วมสัมผัสประสบการณ์ท่องเที่ยวสุดพิเศษในโครงการ “วันเดียวเที่ยวฉลุง” เส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่จะพาทุกท่านย้อนรอยประวัติศาสตร์ผ่าน 6 จุดหมายสำคัญของชุมชนฉลุง โดยการเดินทางด้วยรถส้มท้องถิ่นที่จะทำให้การท่องเที่ยวครั้งนี้มีเสน่ห์ยิ่งขึ้น

### ไฮไลท์การท่องเที่ยว 6 จุดหมายห้ามพลาด

**1. วัดดุลยาราม** – สักการะหลวงพ่อแก่ พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมือง พระพุทธรูปทรงเครื่องปางห้ามญาติที่แกะสลักจากไม้ด้วยฝีมือช่างล้านนา มีประวัติความเป็นมาอันน่าอัศจรรย์จากการลอยน้ำมาตามคลองฉลุง

**2. บ้านแตนาน** – คาเฟ่สุดคลาสสิกในบ้านโบราณอายุกว่า 80 ปี แหล่งรวมของสะสมโบราณที่หาชมได้ยาก เหมาะสำหรับการพักผ่อนและซึมซับบรรยากาศย้อนยุค

**3. พิพิธภัณฑ์บ้านมีชีวิต หมอฮวด** – แหล่งเรียนรู้ประวัติศาสตร์การแพทย์แผนโบราณของสตูล ผ่านเรื่องราวของหมอฮวด ฉัตรชัยวงศ์ หมอแผนโบราณผู้เป็นที่เคารพนับถือของชุมชน

**4. ชิมขนมตาหยาบ** – สัมผัสรสชาติขนมพื้นบ้านที่สืบทอดกันมาจากรุ่นสู่รุ่น

**5. มัสยิดกลางฉลุง** – ศาสนสถานเก่าแก่อายุกว่า 100 ปี สะท้อนความงดงามของวิถีชีวิตพหุวัฒนธรรม

**6. ร้านจูนีฮาลาล สตรีทฟู้ด** – อิ่มอร่อยกับอาหารท้องถิ่นรสเด็ด ทั้งจิ้มจุ่ม ย่างเนย โรตีนาน และชาปากีเครื่องดื่มขึ้นชื่อ

### การเดินทางและการติดต่อ

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสตูล

– โทร: 074-740-724, 062-595-7748

– อีเมล: tatsatun@tat.or.th

– Facebook: ททท.สำนักงานสตูล : TAT Satun Office

– Line: tatsatun

– ที่อยู่: เลขที่ 52 ถนนคูหาประเวศน์ ตำบลพิมาน อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล 91000

ร่วมสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งวิถีชีวิตดั้งเดิม เรียนรู้ประวัติศาสตร์ และลิ้มรสอาหารท้องถิ่นในทริปเดียว กับ “วันเดียวเที่ยวฉลุง” เส้นทางท่องเที่ยวที่จะทำให้คุณหลงรักเสน่ห์ของสตูลอย่างไม่รู้ลืม

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา เกษตร - อาชีพ

สตูล-สืบสานขนมพื้นบ้านโบราณ จนเกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ชุมชน กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านหัวเขาพัฒนาสูตรดั้งเดิมสู่ธุรกิจยั่งยืน

สตูล-สืบสานขนมพื้นบ้านโบราณ จนเกิดการสร้างงาน สร้างรายได้ชุมชน กลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านหัวเขาพัฒนาสูตรดั้งเดิมสู่ธุรกิจยั่งยืน

          ที่กลุ่มวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านหัวเขา หมู่ที่ 9 ตำบลฉลุง อำเภอเมือง จังหวัดสตูล แม่บ้านกว่า 10 คน ซึ่งเป็นสมาชิกกลุ่มฯ กำลังร่วมแรงร่วมใจกันทำขนมตามออเดอร์ลูกค้า โดยเฉพาะขนมไข่กรอบและขนมโกยบังเกต ที่ส่งกลิ่นหอมหวานชวนน้ำลายสอ

 

         ขนมไข่กรอบ หนึ่งในผลิตภัณฑ์ขึ้นชื่อของกลุ่ม ใช้วัตถุดิบหลักเพียง 3 อย่าง ได้แก่ แป้งสาลี 700 กรัม ไข่ไก่ 10 ฟอง ไข่เป็ด 5 ฟอง และน้ำตาลทรายขาว 900 กรัม วิธีทำเริ่มจากตีไข่กับน้ำตาลให้ขึ้นฟู ใส่แป้งคลุกเคล้าให้เข้ากัน ก่อนหยอดแป้งในพิมพ์และอบ 15 นาที จนได้ขนมไข่หอมกรุ่น มีทั้งพิมพ์รูปปลาราคาชิ้นละ 5 บาท และพิมพ์รูปมะเฟืองชิ้นละ 3 บาท

 

          ส่วนขนมโกยบังเกตหรือขนมผิง อีกหนึ่งเมนูยอดนิยม ใช้แป้งมันสำปะหลัง 800 กรัม แป้งสาลี 200 กรัม ไข่ไก่ 5 ฟอง น้ำตาลทรายขาว 1.5 กิโลกรัม และน้ำกะทิ 1 กิโลกรัม นำไปเคี่ยวจนข้น ผสมแป้ง พิมพ์เป็นรูปดอกไม้ และอบจนสุกหอม เหมาะรับประทานคู่กับชากาแฟยามสาย ราคาชิ้นละ 3 บาท

 

         นางปรีดะ อายาหมีน ประธานกลุ่มฯ เล่าว่า กลุ่มก่อตั้งเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน 2548 จากการรวมตัวของสตรีในหมู่บ้าน 15 คน เริ่มจากการผลิตขนมพื้นเมือง 2-3 ชนิด ต่อมาได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานราชการ จนพัฒนาผลิตภัณฑ์เพิ่มเป็น 13 ชนิด ปัจจุบันมีสมาชิก 12 คน มีรายได้เฉลี่ยคนละ 4,000-5,000 บาทต่อเดือน

 

       “นอกจากสร้างรายได้ให้สมาชิกแล้ว กลุ่มยังสนับสนุนชุมชนด้วยการรับซื้อไข่ไก่และไข่เป็ดจากคนในพื้นที่” นางปรีดะกล่าว

 

        ด้านนางสาวณฉัตร ยุงคุณ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองสตูล กล่าวว่า กลุ่มวิสาหกิจชุมชนแห่งนี้จัดอยู่ในระดับดี มีจุดเด่นที่ผลิตภัณฑ์หลากหลาย เป็นขนมพื้นเมืองที่มีเอกลักษณ์และรสชาติเฉพาะตัว ได้รับมาตรฐานจนเป็นที่ไว้วางใจของผู้บริโภค

 

          สำหรับขนมของกลุ่ม  มีหลายชนิดอย่าง  ขนมไข่กรอบ  ขนมโดนัท  คุกกี้สิงค์โปร์  ขนมโกยบังเกตหรือขนมผิง  ขนมเสี้ยวจันทร์  ขนมมกระหรี่ปั๊บอบ  ขนมเจาะหู  ขนมไข่เต่า  ขนมผูกรัก โรตีกาปาย และบุหงาบูดะ

 

        ผู้สนใจสามารถสั่งซื้อขนมได้ในราคาถุงละ 35 บาท หรือ 3 ถุง 100 บาท และถุงละ 50 บาท นอกจากนี้ยังรับจัดกระเช้าราคาเริ่มต้น 500 บาท มีขนมให้เลือกมากกว่า 10 ชนิด สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 086-9554522 หรือ 083-1682878

………………….

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

รักษ์เล ป่า เปิดฟ้าอันดามันสตูล” มหกรรมรักษ์ทะเลครั้งยิ่งใหญ่ พร้อมต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยวทะเลอันดามัน

รักษ์เล ป่า เปิดฟ้าอันดามันสตูล” มหกรรมรักษ์ทะเลครั้งยิ่งใหญ่ พร้อมต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยวทะเลอันดามัน

          จังหวัดสตูลเตรียมพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวสู่ฤดูกาลท่องเที่ยวทางทะเลอย่างยิ่งใหญ่ ผ่านโครงการ “รักษ์เล ป่า เปิดฟ้าอันดามันสตูล” ครั้งที่ 22 ประจำปี 2567 ซึ่งจัดขึ้นโดยความร่วมมือระหว่างองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสตูล อุทยานแห่งชาติตะรุเตา และภาคีเครือข่าย

 

       ในระหว่างวันที่ 9-11 พฤศจิกายน 2567 จิตอาสากว่า 500 คนจากทั่วประเทศได้ร่วมแรงร่วมใจทำความสะอาดเกาะสำคัญในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ได้แก่:  – เกาะไข่   – เกาะอาดัง   – เกาะราวี  – เกาะหลีเป๊ะ  ซึ่งพบขยะส่วนใหญ่จำพวก พลาสติก เป็นเศษอวน  เชือก ที่ถูกคลื่นซัดสาดมาในช่วงมรสุม

         นายสัมฤทธิ์   เลียงประสิทธิ์   นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล   กล่าวว่า   การทำความสะอาดครั้งนี้ครอบคลุมทั้งบริเวณชายหาดและใต้ท้องทะเลตามแนวปะการัง พร้อมจัดกิจกรรมพิเศษในการฉีดวัคซีนและทำหมันสัตว์บนเกาะหลีเป๊ะ เพื่อการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างครบวงจร   พร้อมต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยว     

       

        โดยโครงการนี้ไม่เพียงแต่เป็นการทำความสะอาดเท่านั้น แต่ยังมุ่งเน้นการสร้างความตระหนักรู้และจิตสำนึกในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติให้แก่:  นักท่องเที่ยว   จิตอาสา   และผู้ประกอบการในพื้นที่

 

         สำหรับโครงการนี้จัดขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับฤดูกาลท่องเที่ยวทางทะเลหรือไฮซีซั่น ซึ่งเริ่มตั้งแต่กลางเดือนตุลาคมไปจนถึงกลางเดือนพฤษภาคมของทุกปี โดยมุ่งหวังให้นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติได้สัมผัสความงดงามของทะเลสตูลในสภาพแวดล้อมที่สะอาดและสมบูรณ์

 

          การร่วมมือกันครั้งนี้แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของทุกภาคส่วนในการดูแลรักษาแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลของจังหวัดสตูล พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวที่จะเดินทางมาเยือนในฤดูกาลท่องเที่ยวนี้

……………………………………

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

เกาะหลีเป๊ะเดินหน้าสู่แหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน จัดอบรมมาตรฐาน STAR พัฒนาตามเป้าหมาย STGs

เกาะหลีเป๊ะเดินหน้าสู่แหล่งท่องเที่ยวยั่งยืน

           วันที่  9 พ.ย.67  ที่ห้องอาหารบูโลคาซ่า  แกรนด์ วิว รีสอร์ท เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล นายสัมฤทธิ์ เลียงประสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล เป็นประธานในการเปิดการอบรมเพื่อสมัครมาตรฐาน STAR (stars)Sustainable Tourism Goals ภายใต้โครงการ รักษ์เล ป่า เปิดฟ้าอันดามันสตูล ครั้งที่ 22 พร้อมด้วยนางสาวดุษฎี พฤกษเศรษฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล นาย มุกตา บู่เอียด นายกสมาคมการค้าผู้ประกอบการธุรกิจเกาะหลีเป๊ะ นายวริช วิชิต รอง ผอ. ททท. สำนักงานสตูล คณะทำงานที่เกี่ยวข้อง และผู้เข้าร่วมอบรมเข้าร่วม

         ด้วยกิจกรรมการอบรมฯนี้ เป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการท่องเที่ยวตามแนวทางแผนนโยบายและยุทธศาสตร์ของ ททท. ภายในกิจกรรมได้มีการให้ความรู้เกี่ยวกับมาตรฐาน STAR รวมถึงหัวข้อมาตรฐาน STAR 17 ข้อ เป็นการสร้างมาตรฐานการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนเพื่อขับเคลื่อนภาคธุรกิจให้เกิดการเติบโตอย่างยั่งยืน พัฒนาตามแนวคิดการพัฒนาที่ยั่งยืน Sustainable Development Goals : SDGs ขององค์การสหประชาชาติ โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้ดำเนินการโครงการเพื่อผลักดันแนวทางสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนSustainable Tourism Goals : STGs เพื่อให้เข้ากับบริบทของประเทศไทยในด้านการท่องเที่ยว สู่เป้าหมาย STGs โดยมีเป้าหมายในการดำเนินการ ทั้งหมด 17 เป้าหมาย ที่สะท้อนความยั่งยืนในมิติต่าง ๆ 4 มิติ คือ มิติธรรมาภิบาล สังคม-เศรษฐกิจ วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม

 

         โครงการ STAR : Sustainable Tourism Acceleration Rating เป็นการยกระดับต่อยอดโครงการมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย Amazing Thailand Safety and Health Administration ภายใต้ความร่วมมือของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาโดย ททท. และกระทรวงสาธารณสุข โดยกรมควบคุมโรค กรมอนามัย กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว เพื่อให้การท่องเที่ยวเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการควบคุมโรค ส่งมอบประสบการณ์ที่ดี มีความสุข และมั่นใจความปลอดภัยด้านสุขอนามัย จากสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวไทย รวมทั้งสะท้อนความร่วมมือระหว่างพันธมิตรเพื่อร่วมสร้างภาพลักษณ์การท่องเที่ยวไทยที่มีคุณค่าและยั่งยืน ทั้งเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันให้ประเทศไทยให้เป็น Sustainable Destination ต่อไป

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ข่าวทั่วไป ท่องเที่ยว-กีฬา

ชาวสตูลกว่า  3,000 คน ร่วมกิจกรรม “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาตครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติในหลวง เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ” ประจำปี 2567

ชาวสตูลกว่า  3,000 คน ร่วมกิจกรรม “เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาตครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติในหลวง เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ” ประจำปี 2567

        วันที่  2 พ.ย. 67  เวลา 05.30 น. ที่บริเวณลานหน้าศาลากลางจังหวัดสตูล นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานเปิดกิจกรรม เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ครั้งที่ 10 เฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคล เฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 โดยมีนายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล นางสาวดุษฎี  พฤกษเศรษฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล นายพิบูลย์ รัชกิจประการ สส.สตูล เขต 1 นายชัยวุฒิ บัวทอง ปลัดจังหวัดสตูล แพทย์หญิงอภิญญา  เพ็ชรศรี นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสตูล  พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ ศาล ข้าราชการ ทหาร ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทุกภาคส่วน สื่อมวลชน เยาวชน และประชาชนในพื้นที่จังหวัดสตูล ร่วมสวมใส่เสื้อโครงการฯ และเสื้อโทนสีเหลืองเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 3,000 คน บรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก

         สำหรับกิจกรรมดังกล่าว  คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล , ศูนย์โรคหลอดเลือดสมองศิริราช , ศิริราชมูลนิธิ และภาคีเครือข่ายภาครัฐและเอกชนกว่า 40 หน่วยงาน ร่วมกันจัดขึ้น โดยขับเคลื่อนโครงการฯ ผ่านเขตสุขภาพ 13 แห่งทั่วประเทศ ในการจัดกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติ กิจกรรมให้ความรู้  โรคหลอดเลือดสมอง และกิจกรรมออกกำลังกาย เดิน วิ่ง ปั่น ป้องกันอัมพาต ที่ร่วมจัดงานพร้อมกัน 77 จังหวัดทั้งประเทศ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว  และสมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินี ที่ทรงเป็นแบบอย่างแก่ประชาชนชาวไทย   ในการรักษาสุขภาพและการออกกำลังกาย  ตลอดจนจัดกิจกรรมสร้างความตระหนักรู้  โรคหลอดเลือดสมอง ภายใต้หัวข้อ “คนไทยสมองดี” หรือ “Healthy Thai , Healthy Brains” และรณรงค์เชิญชวนคนไทยให้หันมาออกกำลังกาย  เพื่อสุขภาพที่แข็งแรง อันจะเป็นการป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดสมองได้ในอีกทางหนึ่งด้วย

 

         ทั้งนี้ ภายในกิจกรรม ประกอบด้วย การจัดนิทรรศการฯ , การเต้นแอโรบิค , เดิน วิ่ง ระยะทาง 5 และ 10 กิโลเมตร และปั่นจักรยาน ระยะทาง 23 กิโลเมตร

……………………………………………………………

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

ททท. จับมือ กระทรวงท่องเที่ยวฯ มาเลเซีย แถลงความร่วมมือส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกัน เล็งบูสต์กลุ่มนักท่องเที่ยวขับรถข้ามชายแดน หวังดันท่องเที่ยวระหว่างไทย-มาเลเซีย 7 ล้านคนตลอดปี

ททท. จับมือ กระทรวงท่องเที่ยวฯ มาเลเซีย แถลงความร่วมมือส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกัน เล็งบูสต์กลุ่มนักท่องเที่ยวขับรถข้ามชายแดน หวังดันท่องเที่ยวระหว่างไทย-มาเลเซีย 7 ล้านคนตลอดปี

           (26 ตุลาคม 2567 ) การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดย นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ และ กระทรวงการท่องเที่ยว ศิลปะ และวัฒนธรรม แห่งมาเลเซีย โดย ดร. ยัสมิน บินติ ยาซิม รองเลขาธิการใหญ่ ร่วมกันแถลงความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยว เชื่อมโยงระหว่างกัน ด้วยการท่องเที่ยวรูปแบบขับรถข้ามชายแดนไทย-มาเลเซีย (Cross-border Tourism) พร้อมร่วมปล่อยขบวนคาราวาน Thailand-Malaysia Self-Drive Tourism กว่า 60 คัน ณ ลานจอดรถ The Zon Duty Free Complex ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างด่านสะเดา จังหวัดสงขลา ราชอาณาจักรไทย และด่านบูกิตกายูฮิตัม สหพันธรัฐมาเลเซีย ซึ่งมีนักขับรถและผู้ร่วมคาราวานเข้าร่วมงานกว่า 100 คน เดินทางสัมผัสประสบการณ์การท่องเที่ยวที่น่าประทับใจ แลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมของทั้งสองประเทศ

         นางสาวภัทรอนงค์ ณ เชียงใหม่ รองผู้ว่าการด้านตลาดเอเชียและแปซิฟิกใต้ ททท. เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมุ่งขับเคลื่อนนโยบาย IGNITE Thailand’s Tourism ผลักดันให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางด้านการท่องเที่ยวระดับโลก และเป็นศูนย์กลางในการเดินทางของภูมิภาคอาเซียน กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย ททท.ได้เร่งดาเนินการมุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวข้ามแดนระหว่างประเทศเพื่อนบ้านภายใต้กรอบความร่วมมืออาเซียน (ASEAN) โดยสาหรับประเทศไทยและมาเลเซียนั้น เป็นประเทศเพื่อนบ้านที่มีนักท่องเที่ยวเดินทางไปมาหาสู่กันอยู่เสมอ สามารถเชื่อมโยงกันได้ทั้งทางอากาศ ทางบก (ทางถนนและทางราง) และทางน้า ซึ่งปัจจุบันนักท่องเที่ยวมาเลเซียติดอันดับ Top 3 ตลาดนักท่องเที่ยวที่เดินทางเยือนไทยมากที่สุด โดยตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 23 ตุลาคม 2567 มีนักท่องเที่ยวมาเลเซียมาเยือนไทยแล้วมากกว่า 4 ล้านคน โดยร้อยละ 49 เลือกเดินทางเข้าประเทศไทยผ่านชายแดนด่านตรวจคนเข้าเมืองสะเดา จังหวัดสงขลา ซึ่งจากปัจจัยสนับสนุนของมาตรการรัฐบาลในการขยายเวลาการยกเว้นการยื่นรายการตามแบบ ตม.6 ของ 4 ด่านชายแดนทางบกระหว่างประเทศไทยและมาเลเซีย ตั้งแต่วันที่ 16 ตุลาคม 2567 ถึงวันที่ 30 เมษายน 2568 จึงเป็นโอกาสอันดีที่ไทยและมาเลเซียจะร่วมกันส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวทั้งสองประเทศเดินทางระหว่างกันในรูปแบบการท่องเที่ยวขับรถข้ามแดน (Cross-border Tourism) ทั้งนี้ ในปี 2567 คาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียมาเยือนไทยรวมทั้งหมดไม่น้อยกว่า 5 ล้านคน ในขณะเดียวกันจะมีคนไทยเดินทางไปเยือนมาเลเซียในปีนี้ ไม่น้อยกว่า 2 ล้านคน รวมแล้วคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวเดินทางระหว่างกันไม่น้อยกว่า 7 ล้านคน

         ดร.ยัสมิน บินติ ยาซิม รองเลขาธิการใหญ่ กระทรวงการท่องเที่ยว ศิลปะ และวัฒนธรรม แห่งมาเลเซีย กล่าวว่า มาเลเซียมีความยินดียิ่งที่ได้มีความร่วมมือกับประเทศไทยในการส่งเสริมการท่องเที่ยวข้ามชายแดน โดยจะมุ่งส่งมอบประสบการณ์ที่น่าประทับใจและส่งเสริมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมของสองประเทศ และมาเลเซียได้เตรียมการประกาศให้ปี 2569 เป็นปีท่องเที่ยวมาเลเซีย (Visit Malaysia 2026) ตั้งเป้าดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติทั่วโลกไม่น้อยกว่า 35.6 ล้านคน และเชื่อว่าการท่องเที่ยวข้ามชายแดน จะมีบทบาทสาคัญในการเพิ่มจานวนนักท่องเที่ยวระหว่างไทยและมาเลเซียได้อย่างมาก สอดคล้องกับความตั้งใจของมาเลเซียที่จะส่งเสริมให้มีการอำนวยความสะดวก สำหรับการเดินทางข้ามชายแดนอย่างไร้รอยต่อ และเสริมสร้างความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวกับไทยและประเทศสมาชิกทั้งภายใต้กรอบความร่วมมืออาเซียน (ASEAN) และ Indonesia-Malaysia-Thailand Growth Triangle (IMTGT) ให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ตลอดจนสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืนให้กับภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวต่อไป

       การแถลงความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีในการต้อนรับฤดูกาลท่องเที่ยวของทั้งสองประเทศ โดย ททท. และกระทรวงการท่องเที่ยว ศิลปะ และวัฒนธรรม แห่งมาเลเซีย ได้ร่วมกันเปิดตัวคู่มือแผนที่เส้นทางท่องเที่ยว Self-Drive เชื่อมโยงชายแดนไทยและมาเลเซีย ซึ่งให้ข้อมูลเกี่ยวกับสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในเส้นทาง โดยนักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถรับข้อมูลในรูปแบบดิจิทัล พร้อมทั้งค้นหาคู่มือเส้นทางท่องเที่ยว เชื่อมโ ยงประเ ทศ ไทย แล ะ มาเล เ ซีย รว มถึงประเทศเพื่อน บ้าน อื่น ๆ ได้ที่เว็บ ไ ซ ต์ https://tourismproduct.tourismthailand.org โดย ททท. มีแผนจะพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยว โดยเฉพาะการท่องเที่ยวขับรถข้ามแดนร่วมกับมาเลเซียเพิ่มเติม อีกทั้งพิจารณาการพัฒนาสินค้าและบริการการท่องเที่ยวที่สอดคล้องกับพฤติกรรมของนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซีย ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมที่พัก ร้านค้า ร้านอาหาร สถานที่ท่องเที่ยวรวมถึงการจัดกิจกรรมกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยว และเพิ่มโอกาสให้นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียได้ขยายการเดินทางไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ของไทย นอกเหนือจากภูมิภาคภาคใต้ด้วย เพื่อส่งเสริมให้เกิดการเดินทางเชื่อมโยงกันโดยสะดวก

        นอกจากนี้ เพื่อขับเคลื่อนนโยบายในการผลักดันให้ประเทศไทยเป็น ASEAN Hub ททท. มีนโยบายที่จะกระตุ้นการเดินทางเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านผ่านช่องทางคมนาคมที่หลากหลาย สาหรับประเทศไทยและมาเลเซียนั้นถือว่ามีข้อได้เปรียบที่สามารถเชื่อมโยงกันได้ทั้งทางอากาศ ทางบก (ทางถนนและทางราง) และทางน้า จึงเป็นโอกาสอันดีในการส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจระหว่างประเทศไปพร้อมกัน โดยในส่วนของการเชื่อมโยงทางอากาศมีความร่วมมือในการเปิดเส้นทางการบินใหม่ ๆ อยู่อย่างต่อเนื่อง อาทิ เส้นทางบินกัวลาลัมเปอร์-เชียงใหม่ของ Malaysia Airline เมื่อเดือนสิงหาคม 2567 และทางราง ได้ริเริ่มผลักดันการเดินทางท่องเที่ยวโดยรถไฟจากกัวลาลัมเปอร์ ตรงไปยังสถานีหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ภายใต้การบูรณาการความร่วมมือกันระหว่าง การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) กับการรถไฟมาลายา หรือ KTMB (Keretapi Tanah Melayu Berhad) ให้บริการขนส่งนักท่องเที่ยวโดยรถไฟ KTM Electric Train Service (ETS) ซึ่งให้บริการจากสถานี KL Sentral ไปยังสถานีรถไฟปาดังเบซาร์ รัฐปะลิส ก่อนจะเชื่อมต่อไปยังสถานีรถไฟหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ทั้งยังจัด Chartertrain ชื่อ My Sawasdee ในเส้นทางกัวลาลัมเปอร์-ปาดังเบซาร์-หาดใหญ่ รองรับผู้โดยสารได้ถึงเที่ยวละ 400 คน โดยจะเปิดให้บริการเพียงช่วงวันหยุดยาว หรือเทศกาลเฉลิมฉลองพิเศษ ซึ่ง ททท. มีแผนที่จะส่งเสริมเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางที่เปิดให้บริการเป็นประจาเพิ่มขึ้นต่อไป

        ททท. คาดว่า การเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขัน ด้วยการนาเสนอรูปแบบการท่องเที่ยวผ่านช่องทางคมนาคมที่หลากหลายระหว่างไทยและประเทศเพื่อนบ้านนั้น จะทาให้ ททท. ดาเนินกิจกรรมด้านการตลาดได้บรรลุตามเป้าของรัฐบาล ซึ่งตั้งเป้ารายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท และเพิ่มเป้าหมายจานวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ 36.7 ล้านคน ภายในปี 2567 นี้

………………………………………

ไพรัช  สุขงาม // ภาพ-ข่าว

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ท้องถิ่น-การเมือง ท่องเที่ยว-กีฬา

สตูล เปิด “หลาดเกตเวย์ไนท์” แหล่งรวมสินค้าและ Street Food อย่างเป็นทางการ

สตูล เปิด “หลาดเกตเวย์ไนท์” แหล่งรวมสินค้าและ Street Food อย่างเป็นทางการ

         ที่บริเวณลานจีโอปาร์คเกตเวย์ ตำบลควนโดน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานในพิธีเปิด “หลาดเกตเวย์ไนท์” แหล่งรวมสินค้าและ Street Food อย่างเป็นทางการ โดยมีนายคณิต คงช่วย นางสาวดุษฎี พฤกษเศรษฐ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล นายสัมฤทธิ์ เลียงประสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ สื่อมวลชน ประชาชน และนักท่องเที่ยว เข้าร่วมในพิธีเปิดเป็นจำนวนมาก ซึ่งบรรยากาศในงานต่างมีประชาชนและนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเข้ามาจับจ่ายสินค้ากันอย่างคึกคัก

         ทั้งนี้   องค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล  ได้เล็งเห็นความสำคัญในการพัฒนาศูนย์บริการท่องเที่ยวจังหวัดสตูล ให้เป็นศูนย์กลางในการให้บริการข้อมูลข่าวสารการท่องเที่ยว  เป็นแหล่งกระจายรายได้ให้แก่ประชาชนในท้องถิ่นและเพื่อให้เป็นไปตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาการท่องเที่ยวสอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของประเทศ จึงกำหนดจัดหาผลประโยชน์ในทรัพย์สินขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล  และได้กำหนดจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวด้วยวิถีถิ่น (หลาดเกตเวย์ไนท์) ขึ้น ณ บริเวณลานจอดรถบริเวณศูนย์บริการนักท่องเที่ยวจังหวัดสตูล ในวันอังคารและวันศุกร์ เวลา 15.30 ถึง 22.00 น. โดยกำหนดเปิดตลาดในวันที่ (25 ต.ค. 67) และจะดำเนินการเปิดตลาดทุกวันอังคารและศุกร์ ตลอดปีงบประมาณ พ.ศ.2568

 

         ทั้งนี้มีผู้ประกอบการร้านค้าที่ผ่านการคัดเลือกและมีสิทธิ์จำหน่ายสินค้าในหลาดเกตเวย์ไนท์ จำนวน 70 ราย รวมพื้นที่ใช้เปิดร้านค้า จำนวน 120 ล๊อค ประกอบด้วย อาหารและเครื่องดื่ม ของใช้ สินค้ากิฟชอฟ สินค้ามือสอง ต้นไม้ และสัตว์เลี้ยง อย่างหลากหลาย สามารถส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็ง และส่งเสริมการท่องเที่ยวของจังหวัดสตูลมิติต่าง ๆ ได้อย่างต่อเนื่องต่อไป

………………………………..

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

สตูล..ททท.ชวนโต้คลื่นปิดฤดูกาลของปีที่ Satun Surf Festival เทศกาลฟิลกู๊ดริมทะเล 18-20 ตุลาคม 67 ที่หาดกาสิงห์ กระตุ้นเศรษฐกิจสามวันเงินสะพัด 10 ล้านบาท

สตูล..ททท.ชวนโต้คลื่นปิดฤดูกาลของปีที่ Satun Surf Festival เทศกาลฟิลกู๊ดริมทะเล 18-20 ตุลาคม 67 ที่หาดกาสิงห์ กระตุ้นเศรษฐกิจสามวันเงินสะพัด 10 ล้านบาท

        ที่หาดกาสิงห์  บ้านบ่อเจ็ดลูก  ตำบลปากน้ำ  อำเภอละงู  จังหวัดสตูล  นักกีฬาเซิร์ฟทั้งมือสมัครเล่นและมืออาชีพต่างนำกระดานโต้คลื่นออกไปท้าคลื่นลมกันอย่างสนุกสนาน หลังการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสตูล ได้พยามให้หาดกาสิงห์ ของจังหวัดสตูลเป็นอกหนึ่งแหล่งที่ทำกิจกรรมการท่องเที่ยวใหม่ประเภทกีฬาเชิร์ฟ

          โดย การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสตูล  ได้ร่วมกับจังหวัดสตูล จัดงาน” SATUN SURF FESTIVAL” กิจกรรมส่งท้ายปิดฤดูกาลโต้คลื่นของปี โดยมีวัตถุประสงค์ในการส่งเสริม และ กระตุ้นการท่อง เที่ยวนอกฤดูกาล เพื่อตอกย้ำว่าสตูลเป็นจังหวัดที่สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดปี พร้อมผลักดันให้จังหวัดสตูลเป็น Sport City เมืองชายแดนใต้ ทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วย สร้างรายได้สู่ชุมชนและผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวจากกิจกรรมกีฬาเพื่อการท่องเที่ยวใน พื้นที่ด้วย

          ซึ่งพิธีเปิดในวันนี้ได้เชิญนายสัมฤทธิ์  เลียงประสิทธิ์  นายก อบจ.สตูล (เป็นประธาน) โดยมีนายไพรัช  สุขงาม  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานสตูล (กล่าวรายงาน)  และ  นายบำรุงรัตน์  พลอยดำ  หน.อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา แขกผู้มีเกียรติทั้งภาครัฐและเอกชน ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น  นักท่องเที่ยวโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบกีฬาเซิร์ฟบอร์ดเข้าร่วมงานกันอย่างคับคั่ง

           SATUN SURF FESTIVAL เป็นกิจกรรมความสนุกส่งท้ายก่อนปิดฤดูกาลโต้คลื่นประจำปีของ จังหวัดสตูล ภายใต้แนวคิด surf eco craft music โดยเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยว และผู้ที่สนใจได้สัมผัส และเรียนรู้การเล่นเซิร์ฟจากนักเล่นเซิร์ฟระดับแนวหน้าของเมืองไทยทั้ง Surfboard SUPboard และ Skimboard นอกจากนี้ยังมี Workshop งาน craft รักษ์สิ่งแวดล้อม การแสดงดนตรี จากศิลปินต่าง ๆ อาทิ โฟล์คซองจากToompood วง TR1IX และวงแทมมารีน เป็นต้น พร้อมการ จำหน่ายอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าชุมชน และแพ็คเกจทัวร์ราคาพิเศษ ซึ่งทุกกิจกรรมที่เกิดขึ้นนั้นถูก ขับเคลื่อนตามนโนบายการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ ท่ามกลางบรรยากาศอันสวยงามของ ชายหาดและท้องทะเล อันเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของจังหวัดสตูล

        SATUN SURF FESTIVAL เทศกาลฟิลกู๊ดริมทะเลหาดกาสิงห์ สนุกครบจบในงานเดียวทั้งเซิร์ฟ ตนตรี อาหาร เครื่องดื่ม Workshop และ Shopping 18-20 ตุลาคม 67 ณ บริเวณหาดกาสิงห์ บ้าน บ่อเจ็ดลูก ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล

         นายไพรัช  สุขงาม  ผู้อำนวยการ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยสำนักงานสตูล  บอกว่า  กิจกรรม SATUN SURF FESTIVAL เทศกาลฟิลกู๊ดริมทะเลหาดกาสิงห์ในครั้งนี้ตั้งกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมกิจกรรมไม่น้อยกว่า 5,000 คน เนื่องจากเป็นกลุ่มใหม่ที่มีกำลังซื้อจะมีเม็ดเงินสะพัดในจังหวัดสตูลและในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 10 ล้านบาทในตลอด 3 วันของการจัดงาน   และเพื่อตอกย้ำว่าสตูลเป็นจังหวัดที่สามารถท่องเที่ยวได้ตลอดปี พร้อมผลักดันให้จังหวัดสตูลเป็น Sport City เมืองชายแดนใต้ ทั้งยังเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจ ช่วย สร้างรายได้สู่ชุมชนและผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวจากกิจกรรมกีฬาเพื่อการท่องเที่ยวใน พื้นที่ด้วย

……………………

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต