Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

พลังเสื้อขาวสตูลยืนหยัด “ไม่เอาบ่อนกาสิโน” พร้อมยกระดับประท้วงหากรัฐบาลดันกฎหมายผ่าน

พลังเสื้อขาวสตูลยืนหยัด “ไม่เอาบ่อนกาสิโน” พร้อมยกระดับประท้วงหากรัฐบาลดันกฎหมายผ่าน

กลุ่มประชาชนชาวสตูลกว่า 50 คนรวมตัวสวมเสื้อขาวหน้าศาลากลางจังหวัด ประกาศจุดยืนคัดค้านร่างกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ แม้รัฐบาลประกาศเลื่อนการเสนอญัตติ แต่ผู้ชุมนุมยืนยันไม่วางใจและพร้อมยกระดับการประท้วงถึงรัฐสภาหากมีการดันกฎหมายต่อ

วันนี้ (9 เม.ย. 2568) ที่บริเวณหน้าศาลากลางจังหวัดสตูล กลุ่มประชาชนผู้คัดค้านกาสิโนได้เดินทางมาตามนัดหมายเพื่อแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ด้วยการสวมเสื้อสีขาว สื่อถึงจุดยืนของชาวสตูลที่ไม่ต้องการให้ผ่านกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่มีกาสิโนเป็นส่วนประกอบ

ผู้ชุมนุมประกอบด้วยตัวแทนเครือข่ายข้าราชการบำนาญ ข้าราชการเกษียณ และเครือข่ายกลุ่มผู้สูงอายุในจังหวัดสตูล รวมประมาณ 50 คน ซึ่งได้มาชุมนุมกันโดยสงบ โดยระบุว่าต้องการปกป้องลูกหลานจากการทำให้สิ่งที่เป็นอบายมุขกลายเป็นสิ่งถูกกฎหมาย พร้อมแสดงความไม่เชื่อว่ารายได้ที่จะเข้าประเทศจะมากกว่าปัญหาสังคมที่จะตามมา

ศาสตราจารย์ ดร.สมยศ ทุ่งหว้า ประธานศูนย์พัฒนาการเมืองภาคพลเมือง สถาบันพระปกเกล้า จ.สตูล หนึ่งในตัวแทนผู้ชุมนุมกล่าวว่า “แม้ครั้งนี้อาจดูเหมือนมาแสดงพลังน้อย แต่ความเป็นจริงเชื่อว่าชาวสตูลไม่มีใครต้องการให้กฎหมายนี้ผ่าน แม้ทางรัฐบาลจะอ้างว่าให้เลื่อนไปก่อน แต่นั่นไม่ได้หมายถึงการถอนออกจากญัตติ หากรัฐบาลยังคงดื้อดึงเดินหน้าขับเคลื่อนเรื่องนี้ต่อไป ทางกลุ่มผู้ชุมนุมก็พร้อมยกระดับด้วยการไปร่วมชุมนุมที่รัฐสภา เพื่อแสดงเจตนารมณ์ว่าไม่ต้องการให้กฎหมายที่จะทำลายสังคมและเยาวชนผ่านอย่างแน่นอน”

หลังการรวมตัวและแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ กลุ่มผู้ชุมนุมได้ร่วมกันลงชื่อแสดงเจตนารมณ์คัดค้านกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ โดยยื่นผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสตูลเพื่อเสนอต่อรัฐบาลต่อไป

 

ขณะเดียวกัน มีรายงานว่าที่บริเวณหน้าสำนักงานพรรคเพื่อไทยบนถนนบุรีวานิช ก็มีกลุ่มผู้ชุมนุมที่คัดค้านกาสิโนได้นัดรวมตัวเพื่อแสดงออกด้วยเช่นกัน โดยสถานการณ์ทั่วไปเป็นไปอย่างสงบเรียบร้อย

ทั้งนี้ การคัดค้านกฎหมายเอ็นเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ที่มีกาสิโนเป็นส่วนหนึ่งนี้ ได้เกิดขึ้นในหลายพื้นที่ทั่วประเทศ สะท้อนความกังวลของประชาชนต่อผลกระทบด้านสังคมที่อาจตามมาหากมีการอนุมัติให้เปิดกาสิโนถูกกฎหมายในประเทศไทย

……………………

………………………………………..

พลังเสื้อขาวสตูลยืนหยัด “ไม่เอาบ่อนกาสิโน” พร้อมยกระดับประท้วงหากรัฐบาลดันกฎหมายผ่าน

พลังเสื้อขาวสตูลยืนหยัด “ไม่เอาบ่อนกาสิโน” พร้อมยกระดับประท้วงหากรัฐบาลดันกฎหมายผ่าน กลุ่มประชาชนชาวสตูลกว่า 50

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 สตูลสร้างงาน สร้างอาชีพวัยเกษียณ สร้างความสุข

สตูลสร้างงาน สร้างอาชีพวัยเกษียณ สร้างความสุข

          ในยุคที่หลายคนมองหาความมั่นคงหลังเกษียณ “สวนบ้านริมเขา ทุ่งนายร้อย” เป็นตัวอย่างของการใช้ชีวิตอย่างพอเพียงและสร้างรายได้ไปพร้อมกัน บนพื้นที่เจ็ดไร่ของนายปรีชา อ่อนประชู อดีตข้าราชการ อบจ.สตูล  และภรรยา นางอำพร อ่อนประชู อดีตกุ๊กร้านอาหาร พวกเขาได้พลิกพื้นที่สวนให้กลายเป็นแหล่งสร้างรายได้จากการทำเกษตรผสมผสาน

         

         หนึ่งในไฮไลท์ของสวนนี้คือแปลงดาวเรือง  ที่ปลูกไว้เพื่อจำหน่ายดอกเป็นช่อ  โดยสามารถขายได้ทุกวันพระ สัปดาห์ละ 100-150 ช่อ ในราคาสามดอกสิบบาท  คิดเป็นรายได้ต่อเดือนหลักหมื่นบาท   นอกจากสร้างรายได้แล้ว  ยังสร้างความสุขให้กับทั้งผู้ปลูกและลูกค้าที่มารับซื้อถึงสวน

         นอกจากดาวเรือง พื้นที่สวนยังมีการปลูกพืชหลายชนิด เช่น พริก, ส้มโอ, ชมพู่ โดยการปลูกพืชแบบผสมผสาน  ช่วยให้แมลงศัตรูพืชลดลงตามธรรมชาติ   มีการใช้ขวดน้ำ  แขวนตามแปลงเพื่อไล่แมลงโดยไม่ต้องพึ่งพาสารเคมี  พื้นที่สวนยังแบ่งออกเป็นแปลงไผ่ซางนวล   ซึ่งไม่ได้ขายลำต้นแต่ขายหน่อไผ่ปีละ 10,000-20,000 บาท

 

          ภายในสวนมีการขุดสระน้ำและทำระบบน้ำล้น เพื่อให้มีน้ำใช้ตลอดปีในการรดพืชผัก  และดูแลสวน ระบบน้ำที่ดีช่วยลดต้นทุนการผลิต และทำให้พืชสามารถเติบโตได้ดีโดยไม่ต้องพึ่งพาน้ำประปา

           

          นอกจากการปลูกพืชผักไว้บริโภคเองแล้ว   รายได้จากการขายผลผลิต เช่น พริก และเป็ดอี้เหรียง ที่ให้ไข่วันละแผง ยังช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายในครัวเรือน   ทำให้ชีวิตหลังเกษียณของทั้งสองมีความสุข ไม่ต้องเร่งรีบกับการทำงานเหมือนแต่ก่อน รายได้เกิดจากความพอใจในการทำเกษตร มากกว่าการหวังกำไรสูงสุด

           อนาคตของสวนบ้านริมเขา นายปรีชาและอำพร วางแผนให้สวนแห่งนี้เป็นแหล่งเรียนรู้ในชุมชน  และที่พักแนวโฮมสเตย์  ด้วยบรรยากาศธรรมชาติที่ติดภูเขาและอากาศสดชื่น ทำให้ลูกชายคนเล็กมีแนวคิดต่อยอดธุรกิจครอบครัวให้เป็นสถานที่พักผ่อนที่มีการเกษตรเป็นจุดขาย

 

          นี่คือตัวอย่างของชีวิตหลังเกษียณที่เต็มไปด้วยความสุขและรายได้แบบพอเพียง

………………………………………..

พลังเสื้อขาวสตูลยืนหยัด “ไม่เอาบ่อนกาสิโน” พร้อมยกระดับประท้วงหากรัฐบาลดันกฎหมายผ่าน

พลังเสื้อขาวสตูลยืนหยัด “ไม่เอาบ่อนกาสิโน” พร้อมยกระดับประท้วงหากรัฐบาลดันกฎหมายผ่าน กลุ่มประชาชนชาวสตูลกว่า 50

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 คนสู้ชีวิต! หนุ่มช่างคอมพิวเตอร์ พลิกสวนยางโค่นเป็นไร่สับปะรด แปรรูปขาย สร้างรายได้ครึ่งล้านต่อปี 

คนสู้ชีวิต!! หนุ่มช่างคอมพิวเตอร์ พลิกสวนยางโค่นเป็นไร่สับปะรด แปรรูปขาย สร้างรายได้ครึ่งล้านต่อปี

          เสียงเก็บสับปะรดในสวนดังขึ้นเป็นจังหวะ   นายอิสมาแอน ไชยมล วัย 40 ปี ชาวบ้านหมู่ 6 ต.ควนโพธิ์ อ.เมือง จ.สตูล กำลังเร่งเก็บผลผลิตชุดสุดท้ายจากสวนสับปะรด 20 ไร่ ซึ่งเดิมเคยเป็นสวนยางพาราทั้งของตนเองและของญาติๆ ก่อนจะโค่นเพื่อปลูกใหม่ แต่เขากลับเลือกใช้พื้นที่ว่างนี้  ปลูกสับปะรดพันธุ์ภูเก็ตแทน   เพื่อฟื้นฟูดิน และสร้างรายได้ให้ครอบครัว

 

         นายอิสมาแอน กล่าวว่า  “ผมเคยเป็นช่างซ่อมคอมพิวเตอร์ ก่อนจะหันมาทำเกษตรเต็มตัวเมื่อ 8 ปีก่อน ได้แรงบันดาลใจจากการไปดูงานที่กระบี่ จึงลองปลูกบนที่ดินของตนเอง และต่อมาญาติ ๆ ก็ให้ใช้พื้นที่สวนยางที่โค่นใหม่”

 

         อิสมาแอนใช้เทคนิคการปลูกแบบเว้นช่วงเก็บเกี่ยว    ไม่ให้ผลผลิตออกพร้อมกันทั้งแปลง ช่วยให้ขายได้ต่อเนื่องไม่กระทบราคา ทั้งยังเปิดหน้าร้านขายเองที่สวน ทำให้ไม่ต้องพึ่งพาพ่อค้าคนกลาง ปัจจุบันขายได้ลูกละ 15-30 บาท มีรายได้เฉลี่ยปีละกว่า 400,000 บาท โดยเฉพาะช่วงรอมฎอนที่ผ่านมา ขายได้ถึง 30,000 ลูกในเดือนเดียว

          นางสาวกำไลทิพย์ เศรษฐ์วิชัย เกษตรจังหวัดสตูล  บอกว่า “เกษตรกรรายนี้ถือเป็นตัวอย่างที่ดีในการใช้พื้นที่ว่างหลังโค่นยางพารา มาปรับปรุงดินและสร้างรายได้ เขามีการจัดการที่ดีมาก ทั้งในแปลงและการตลาด”

          นอกจากขายสด ยังมีการแปรรูปหลากหลายเมนู เช่น น้ำสับปะรดขวดละ 12 บาท สับปะรดกวน และนมสดสับปะรดขวดละ 20 บาท โดยมีครอบครัวช่วยกัน ทั้งแม่ หลานสาว และน้องสะใภ้ ดูแลการแปรรูปและหน้าร้าน

           เกษตรจังหวัดสตูล. บอกอีกว่า.  “อิสมาแอนเป็นเกษตรกรที่ได้รับมาตรฐาน GAP และ Q ซึ่งการันตีคุณภาพและความปลอดภัย อยากให้เกษตรกรคนอื่นที่ปลูกในพื้นที่ของญาติ   หรือพื้นที่เอกสารสิทธิ์ มาขึ้นทะเบียนเกษตรกรเพื่อรับสิทธิ์ช่วยเหลือหากเกิดภัยพิบัติ”

 

          แม้หน่อพันธุ์สับปะรดจะยังไม่พอแบ่งขาย   เพราะต้องใช้ขยายแปลงในอนาคต   แต่ของเหลือจากการแปรรูป   เช่น กากและเปลือก ก็ยังนำไปทำปุ๋ยหมักต่อได้   ถือเป็นการใช้ประโยชน์ครบทุกส่วน. สนใจสอบถาม. โทร. 082-376-2450

……………………………….

พลังเสื้อขาวสตูลยืนหยัด “ไม่เอาบ่อนกาสิโน” พร้อมยกระดับประท้วงหากรัฐบาลดันกฎหมายผ่าน

พลังเสื้อขาวสตูลยืนหยัด “ไม่เอาบ่อนกาสิโน” พร้อมยกระดับประท้วงหากรัฐบาลดันกฎหมายผ่าน กลุ่มประชาชนชาวสตูลกว่า 50

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

สตูล- ฝึกซ้อมการอพยพหนีไฟศาลากลางจังหวัด เสริมสร้างความปลอดภัยรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สตูล- ฝึกซ้อมการอพยพหนีไฟศาลากลางจังหวัด เสริมสร้างความปลอดภัยรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

         วันนี้ (27 มี.ค. 68) ที่ห้องประชุมโต๊ะพญาวัง ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสตูล นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล มอบหมายให้ นายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานการอบรมดับเพลิงและอพยพหนีไฟ ในพื้นที่ศาลากลางจังหวัด  เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการป้องกันและรับมือกับเหตุเพลิงไหม้ให้กับบุคลากรภายในศาลากลาง   โดยการฝึกอบรมในช่วงเช้า เริ่มต้นด้วยการให้ความรู้เกี่ยวกับหลักการดับเพลิงเบื้องต้น การใช้อุปกรณ์ดับเพลิงอย่างถูกต้อง และแนวทางปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น วิธีการแจ้งเหตุ การประเมินสถานการณ์ และการอพยพอย่างปลอดภัย โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้ความรู้  มีหัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้

 

         ช่วงเวลาประมาณ 10.30 น. เป็นการฝึกซ้อมเสมือนจริง โดยจำลองสถานการณ์ไฟไหม้ภายในอาคารศาลากลางจังหวัดสตูล  ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จำลองเหตุการณ์เพลิงไหม้ ที่ห้องสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ชั้น 2 อาคารหลังเก่า โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการดับไฟเบื้องต้น แต่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และเพลิงได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว  จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อพยพ พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ สถานีดับเพลิงเทศบาลเมืองสตูล   โรงพยาบาลสตูล   มูลนิธิธรรมรังสี   สถานีตำรวจภูธรเมืองสตูล   การประปาส่วนภูมิภาคสาขาสตูล   และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดสตูล   ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าควบคุมสถานการณ์ ได้ในเวลาประมาณ 11.30 น. โดยมีการสั่งอพยพบุคลากรออกจากอาคารอย่างเป็นระบบ รวมถึงการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยดับเพลิง หน่วยกู้ภัย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทุกคนเกิดความคุ้นเคยและสามารถปฏิบัติตามแผนได้อย่างถูกต้อง

           ภายหลังการฝึกซ้อม นายคณิต  คงช่วย  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ได้กล่าวให้โอวาท พร้อมสรุปผลการฝึกซ้อม เพื่อประเมินความพร้อมและพัฒนาแนวทางการปฏิบัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินในอนาคต ตลอดจนเสริมสร้างความปลอดภัยและความมั่นใจให้กับทุกคนที่เข้ามาใช้บริการภายในศาลากลางจังหวัดสตูลต่อไป

………………….

ภาพ-ข่าว  ประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล

อัพเดทล่าสุด

พลังเสื้อขาวสตูลยืนหยัด “ไม่เอาบ่อนกาสิโน” พร้อมยกระดับประท้วงหากรัฐบาลดันกฎหมายผ่าน

พลังเสื้อขาวสตูลยืนหยัด “ไม่เอาบ่อนกาสิโน” พร้อมยกระดับประท้วงหากรัฐบาลดันกฎหมายผ่าน กลุ่มประชาชนชาวสตูลกว่า 50

Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 ขนม”จูจอ” สานสัมพันธ์ชุมชน ฟื้นชีวิตขนมโบราณควนสตอ

ขนม“จูจอ” สานสัมพันธ์ชุมชน ฟื้นชีวิตขนมโบราณควนสตอ

          ที่อบต.ควนสตอ อ.ควนโดน จ.สตูล  ความร่วมแรงร่วมใจของแม่บ้าน 30 คน  จากหลากหมู่บ้านใน ตำบลควนสตอ วันนี้ได้รวมตัวกันสืบสานวัฒนธรรมการทำขนมโบราณ  เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับงานบุญที่กำลังจะถึง โดยมี “นางฮาหยาด  เกปัน” วัย 67 ปี ปราชญ์ชาวบ้านผู้เป็นเจ้าของสูตรขนม “จูจอ” หรือ “ดอกบัว” นำทีมในการถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น

         การรวมตัวครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการทำขนมเพื่องานบุญ 300 โต๊ะ หากยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์และสานต่อวัฒนธรรมอันดีงามของชุมชน พวกเขาได้ร่วมกันผลิตขนมหลากชนิด อาทิ ขนมโค กล้วยหยำ และจูจอ รวมทั้งสิ้น 12 กิโลกรัม หรือประมาณ 1,200 ชิ้น

          สูตรลับของขนม “จูจอ” ประกอบด้วยแป้งสาลี 1 กิโลกรัม  แป้งข้าวเจ้าครึ่งกิโลกรัม  น้ำตาลทรายขาว 8 กรัม น้ำตาลอ้อย 2 กรัม และเกลือเล็กน้อย ขั้นตอนการทำต้องอาศัยความชำนาญ โดยเฉพาะการหยอดแป้งทอดให้เป็นรูปดอกไม้ และค่อยๆ ปรุงไฟให้สุกอย่างเป็นขั้นเป็นตอน

          ขนมจูจอกลายเป็นของขึ้นชื่อประจำตลาดเช้า นิยมทานคู่กับโกปี้อ้อและชาเย็น ราคาเริ่มต้นเพียง 3-5 บาท สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวใต้มุสลิมที่เรียบง่ายแต่ทรงคุณค่า

         การอนุรักษ์และสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมผ่านขนมโบราณเช่นนี้  นับเป็นพลังสำคัญในการเชื่อมโยงคนในชุมชน สร้างความภาคภูมิใจ และถ่ายทอดภูมิปัญญาสู่คนรุ่นต่อไป

……..

พลังเสื้อขาวสตูลยืนหยัด “ไม่เอาบ่อนกาสิโน” พร้อมยกระดับประท้วงหากรัฐบาลดันกฎหมายผ่าน

พลังเสื้อขาวสตูลยืนหยัด “ไม่เอาบ่อนกาสิโน” พร้อมยกระดับประท้วงหากรัฐบาลดันกฎหมายผ่าน กลุ่มประชาชนชาวสตูลกว่า 50

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

จับกุมชายวัย 44 ปี ครอบครองอาวุธปืนเถื่อนในบ้านพัก จ.สตูล

จับกุมชายวัย 44 ปี ครอบครองอาวุธปืนเถื่อนในบ้านพัก จ.สตูล

         21 มีนาคม 2568  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสตูล ร่วมกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและฝ่ายปกครอง บุกจับกุมชายวัย 44 ปี หลังพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์หลายกระบอกซุกซ่อนภายในบ้านพัก ต.คลองขุด อ.เมืองสตูล จ.สตูล

          เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 มี.ค. 68) พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ ปรากฎชื่อ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสตูล สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสตูล นำโดย พ.ต.ท.ยงยุทธ เลิศปรีชาพงศ์ และฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสตูล นำโดย นายสิทธิวุฒิ ทรงสวัสดิ์ ปลัดอำเภอเมืองสตูล พร้อมด้วยกำนันตำบลคลองขุด เข้าตรวจค้นในพื้นที่หมู่ 1 ตำบลคลองขุด อำเภอเมืองสตูล

          จากการสืบทราบจากสายลับว่ามีการซุกซ่อนอาวุธปืนผิดกฎหมายไว้ในบ้านหลังดังกล่าว  เจ้าหน้าที่จึงขอหมายค้นจากศาลจังหวัดสตูล หมายเลข ค.21/2568 ลงวันที่ 20 มีนาคม 2568 เพื่อเข้าตรวจค้น

        เมื่อเดินทางถึงเวลาประมาณ 08.30 น. พบ นายประสิทธิชัย (สงวนนามสกุล)  อายุ 44 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นหลังจากเจ้าหน้าที่ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ ผลการตรวจค้นพบของกลางประกอบด้วย:

  1. อาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก พร้อมชุดลูกเลื่อนลำกล้อง 2 ชุด ซึ่งวางอยู่บริเวณหลังบ้าน
  2. อาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก
  3. อาวุธปืนปากกา จำนวน 2 กระบอก
  4. กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 3 นัด บรรจุในแม็กกาซีน 2 แม็ก ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายแบบสานสีน้ำตาลภายในห้องครัว

          เมื่อสอบถาม นายประสิทธิชัย  ยอมรับว่าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนทั้งหมดเป็นของตนเอง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสตูล เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

          ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกวาดล้างอาวุธปืนผิดกฎหมายในพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้อาวุธปืนตกไปอยู่ในมือของผู้ไม่หวังดีและนำไปก่อเหตุอาชญากรรม ซึ่งจะยังคงเข้มงวดตรวจค้นในพื้นที่เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง

……………………………………………

อัพเดทล่าสุด

พลังเสื้อขาวสตูลยืนหยัด “ไม่เอาบ่อนกาสิโน” พร้อมยกระดับประท้วงหากรัฐบาลดันกฎหมายผ่าน

พลังเสื้อขาวสตูลยืนหยัด “ไม่เอาบ่อนกาสิโน” พร้อมยกระดับประท้วงหากรัฐบาลดันกฎหมายผ่าน กลุ่มประชาชนชาวสตูลกว่า 50

Categories
ข่าวเด่น

สตูลทลายเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ ยึดยาบ้ากว่า 3 หมื่นเม็ด พร้อมอาวุธปืน-ทรัพย์สินกว่า 1.5 ล้าน

สตูลทลายเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ ยึดยาบ้ากว่า 3 หมื่นเม็ด พร้อมอาวุธปืน-ทรัพย์สินกว่า 1.5 ล้าน

           (19 มี.ค.2568) นายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อม กอ.รมน.จว.สตูล และ พล.ต.ต.มารุต เรืองจินตนา ผบก.ภ.จว.สตูล, พ.ต.อ.ประสิทธิ์ ดำกระบี่ รอง ผบก.ภ.จว.สตูล พ.ต.อ.ปรีชา เพ็ชรรัตน์ ผกก.สภ.ท่าแพ จ.สตูล พร้อมด้วยฝ่ายปกครองอำเภอท่าแพ และคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูง ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญในคดียาเสพติด

          โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.สตูล ภายใต้การสั่งการของ พ.ต.ท.อภิสิทธิ์ ปะดุกา รอง ผกก.สืบสวนฯ ได้จับกุมตัว นายอนุสรณ์ หรือซีด (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ต.แป-ระ อ.ท่าแพ จว.สตูล พร้อมของกลางยาบ้าจำนวนมหาศาลถึง 34,506 เม็ด อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก มูลค่าประมาณ 60,000 บาท กระสุนปืน 45 นัด และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง

          นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจยึดทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 ประกอบด้วย รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมค สีขาว จำนวน 1 คัน มูลค่าประมาณ 700,000 บาท, รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีเทา จำนวน 1 คัน มูลค่าประมาณ 500,000 บาท, รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นฟอร์ซา สีน้ำเงิน-ดำ จำนวน 1 คัน มูลค่าประมาณ 20,000 บาท, เครื่องประดับทองคำมูลค่ากว่า 120,000 บาท, สมุดบัญชีธนาคาร 3 เล่ม และเงินสด 4,190 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดทั้งสิ้นประมาณ 1,595,790 บาท

         จากการสอบสวนเบื้องต้น พบว่าผู้ต้องหารายนี้เป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ของจังหวัดสตูล มีการทำธุรกรรมทางการเงินสูงถึง 12 ล้านบาทในวันเดียว และจากคำให้การของผู้ต้องหาอ้างว่าได้ทำการค้ายาเสพติดมาแล้ว 5 ครั้ง โดยที่ผ่านมามีพี่ชายของผู้ต้องหาเคยถูกจับกุมพร้อมยาบ้ามากถึง 6 ล้านเม็ด แสดงให้เห็นถึงเครือข่ายการค้ายาเสพติดขนาดใหญ่ที่มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

          ทั้งนี้ ผู้ต้องหาถูกตั้งข้อหา “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน โดยมีอาวุธปืนหรือใช้อาวุธปืน”, “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย” และ “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”

          โดยเหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 57 ต่อเนื่องบ้านเลขที่ 127 หมู่ที่ 6 ตำบลแป-ระ อำเภอท่าแพ จังหวัดสตูล  โดยทางเจ้าหน้าที่จะขยายผลการจับกุมเพื่อติดตามเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญที่เกี่ยวข้องต่อไป

…………….

 

อัพเดทล่าสุด

พลังเสื้อขาวสตูลยืนหยัด “ไม่เอาบ่อนกาสิโน” พร้อมยกระดับประท้วงหากรัฐบาลดันกฎหมายผ่าน

พลังเสื้อขาวสตูลยืนหยัด “ไม่เอาบ่อนกาสิโน” พร้อมยกระดับประท้วงหากรัฐบาลดันกฎหมายผ่าน กลุ่มประชาชนชาวสตูลกว่า 50

Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 จากพนักงานบริษัทสู่เจ้าของกิจการ  “ขนมครกไส้โคตรทะลัก” สร้างรายได้วันละ 2,000 บาท

จากพนักงานบริษัทสู่เจ้าของกิจการ  “ขนมครกไส้โคตรทะลัก” สร้างรายได้วันละ 2,000 บาท

          ที่ตลาดรอมฎอน  ต.ฉลุง  อ.เมือง  จ.สตูล  นางสาวฐิติภัทร โลณะปาลวงษ์ อายุ 36 ปี เจ้าของร้าน “ขนมครกไส้โคตรทะลัก” เล่าให้ฟังถึงเส้นทางการเปลี่ยนชีวิตจากพนักงานบริษัทในแผนกซีพี สู่การเป็นผู้ประกอบการขนมไทยที่มีรายได้วันละ 2,000 บาท จากขนมครกเพียง 3 กิโลกรัมต่อวัน

 

          นางสาวฐิติภัทรเล่าว่า “เริ่มต้นจากการตั้งครรภ์ลูกคนที่สอง และความชอบส่วนตัวในการขายของ” “ดิฉันได้ศึกษาการทำขนมครกจากช่องทางออนไลน์ แล้วทดลองทำด้วยตัวเอง ลองผิดลองถูกจนได้สูตรที่ลงตัวอย่างทุกวันนี้”

 

          โดยความพิเศษของขนมครกร้านนี้อยู่ที่การใช้แป้งข้าวไรซ์เบอร์รี่ ผสมกับน้ำกะทิคุณภาพดี ทำให้ได้เนื้อขนมที่นุ่ม หอม ไม่แข็งกระด้าง โดยเมื่อทำแป้งเสร็จแล้วจะเติมหัวกะทิอีกครั้ง และตามด้วยไส้ที่หลากหลายถึง 4 ชนิด ได้แก่:  – ไส้ฟักทอง  – ไส้มันม่วง  – ไส้ข้าวโพด  – ไส้เผือก

 

         “ความลับอยู่ที่เราใส่ใจในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ การผสมแป้ง และการทำไส้ที่สด ใหม่ทุกวัน หวานพอดี มันจากหัวกะทิ ไม่ใช้วัตถุกันเสีย” คุณฐิติภัทรกล่าว

 

         ด้วยประสบการณ์จากการทำงานในบริษัท คุณฐิติภัทรได้นำความรู้ด้านการตลาดมาปรับใช้กับธุรกิจขนมครก จัดแคมเปญ “ซื้อขนมครก 20 บาท แถมคูปอง 1 ใบ” เมื่อสะสมครบ 10 ใบ สามารถแลกขนมครกฟรี 1 กล่อง  

          “การทำแคมเปญนี้ช่วยเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น เพราะลูกค้าอยากได้คูปองมากๆ จึงซื้อในปริมาณมากขึ้น และในเดือนนี้มีลูกค้าไม่น้อยกว่า 3 รายแล้วที่มาแลกขนมฟรีจากการสะสมแต้ม” คุณฐิติภัทรกล่าวด้วยรอยยิ้ม

              ความอร่อยของขนมครกไส้โคตรทะลักไม่เพียงเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าทั่วไป แต่ยังได้รับการยอมรับจากนายกเทศมนตรีตำบลฉลุง  และผู้รับสัมปทานตลาดที่ยอมรับว่า “ขนมครกเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ได้รับความนิยม เป็นอาหารว่าง อาหารแก้บวชของพี่น้องชาวไทยมุสลิม”

 

           สำหรับเวลาเปิดให้บริการ  ในเดือนรอมฎอน  ตั้งแต่เวลา  13.00-18.00 น.  เดือนปกติ เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. ที่สามแยกฉลุง  สนใจสั่งขนมครกไส้โคตรทะลัก สามารถติดต่อได้ที่ 099-304-2659

 

     “จากความฝันเล็กๆ สู่ความสำเร็จวันนี้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงไหนของชีวิต ก็สามารถเริ่มต้นทำธุรกิจได้ ขอเพียงมีใจรัก ตั้งใจ และลงมือทำอย่างจริงจัง” คุณฐิติภัทรทิ้งท้าย

…………………………………..

พลังเสื้อขาวสตูลยืนหยัด “ไม่เอาบ่อนกาสิโน” พร้อมยกระดับประท้วงหากรัฐบาลดันกฎหมายผ่าน

พลังเสื้อขาวสตูลยืนหยัด “ไม่เอาบ่อนกาสิโน” พร้อมยกระดับประท้วงหากรัฐบาลดันกฎหมายผ่าน กลุ่มประชาชนชาวสตูลกว่า 50

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 แม่บ้านสตูลสร้างรายได้จากขนมโบราณ ‘โกยเปต’ สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นกว่า 20 ปี

แม่บ้านสตูลสร้างรายได้จากขนมโบราณ ‘โกยเปต’ สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นกว่า 20 ปี

          ที่หมู่บ้านเขาน้อยใต้ หมู่ 12 ตำบลฉลุง อำเภอเมือง จังหวัดสตูล นางฝาตีม๊ะ ดาหมาด อายุ 58 ปี พร้อมด้วยญาติพี่น้องในครอบครัวกำลังเร่งมือทำขนมโบราณที่เรียกว่า “โกยเปต” หรือ “ขนมทองพับ” เพื่อให้ทันต่อความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะในช่วงใกล้เทศกาลฮารีรายาของพี่น้องชาวไทยมุสลิม

         

         ขนมโกยเปตที่นี่มีเอกลักษณ์พิเศษด้วยการใช้สูตรโบราณและวิธีการทำแบบดั้งเดิม โดยใช้เตาถ่านในการย่าง ซึ่งช่วยเพิ่มความหอมให้กับขนม ทำให้มีรสชาติที่แตกต่างและน่ารับประทานยิ่งขึ้น

 

          “เริ่มจากทำกินในครอบครัว แล้วค่อยพัฒนามาเป็นอาชีพ” นางฝาตีม๊ะเล่าถึงจุดเริ่มต้นของธุรกิจขนมโกยเปตที่ดำเนินมากว่า 20 ปี จนเป็นที่รู้จักในนาม “โกยเปตมะหลง” 

 

          ส่วนผสมหลักของขนมโกยเปตประกอบด้วย แป้งข้าวเจ้า กะทิ น้ำตาล และไข่ไก่ โดยหนึ่งกระปุกจะบรรจุประมาณ 70 แผ่น กำลังการผลิตอยู่ที่วันละ 3-4 กิโลกรัม หรือประมาณ 7 กระปุก โดย 1 กิโลกรัมจะใช้มะพร้าวถึง 4 ลูกและไข่ไก่.  ซึ่งทางร้านเน้นทั้งคุณภาพและปริมาณ

 

          วิธีการทำขนมโกยเปตมีเคล็ดลับอยู่ที่การสังเกตสีของแป้ง หลังจากวางแท่นพิมพ์ลงบนเตาถ่าน ให้รอจนแป้งที่อยู่รอบขอบแท่นพิมพ์เปลี่ยนเป็นสีเหลือง แล้วจึงรีบยกขึ้นมาพับเป็นรูปสี่เหลี่ยมทันที จะได้ขนมที่มีสีเหลืองสวย แบน และง่ายต่อการบรรจุลงกล่อง

 

          ขนมโกยเปตของนางฝาตีม๊ะ  เป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงเทศกาลฮารีรายา  เนื่องจากทุกบ้านจะต้องซื้อไว้รับรองแขกที่มาเยี่ยมเยียน  แต่ทางร้านยังคงเปิดขายตลอดทั้งปี ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับของฝากหรือของขวัญในโอกาสพิเศษต่างๆ

          ด้านนายสุจริต  ยามาสา  นายก อบต.ฉลุง ยอมรับว่าขนมร้านของนางฝาตีม๊ะ  มีความอร่อยและรักษาคุณภาพของอาหารได้อย่างยอดเยี่ยมจนเป็นที่ขึ้นชื่อ แต่สิ่งที่ต้องการพัฒนาต่อไปคือเรื่องของตราสินค้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งทาง อบต. จะเข้ามาช่วยหนุนเสริมในส่วนนี้ เพื่อเพิ่มมูลค่าของสินค้า นอกจากนี้ ทางองค์การบริหารส่วนตำบลยังจะช่วยส่งเสริมการขายผ่านช่องทางต่างๆ และสนับสนุนให้มีการรวมกลุ่ม เพื่อให้ภาครัฐสามารถเข้ามาช่วยเหลือได้มากขึ้น

 

          สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสั่งซื้อขนมโกยเปตได้ในราคากระปุกใหญ่ และกระปุกเล็ก

พลังเสื้อขาวสตูลยืนหยัด “ไม่เอาบ่อนกาสิโน” พร้อมยกระดับประท้วงหากรัฐบาลดันกฎหมายผ่าน

พลังเสื้อขาวสตูลยืนหยัด “ไม่เอาบ่อนกาสิโน” พร้อมยกระดับประท้วงหากรัฐบาลดันกฎหมายผ่าน กลุ่มประชาชนชาวสตูลกว่า 50

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 11 ปีแห่งตำนานไก่ย่างกอและโบราณไม้ละ 5 บาท  อร่อยเท่าเดิม ราคาคงเดิม ท่ามกลางค่าครองชีพพุ่ง

11 ปีแห่งตำนานไก่ย่างกอและโบราณไม้ละ 5 บาท  อร่อยเท่าเดิม ราคาคงเดิม ท่ามกลางค่าครองชีพพุ่ง

          ในยุคที่ราคาอาหารถีบตัวสูงขึ้น มีร้านเล็กๆ ริมคลอง(เอวหัก)  ม.7 ซอยทรายทอง  ทต.คลองขุด อ.เมืองสตูล แห่งหนึ่งที่ยังคงยืนหยัดขายไก่ย่างไม้ละ 5 บาทมาเนิ่นนานถึง 11 ปี “ร้านสามพี่น้องริมคลองเอวหัก” ของคุณอัญชลี บิลเต๊ะ หรือที่ลูกค้ารู้จักกันในนาม “น้องกิ๊ก” วัย 38 ปี คือตัวอย่างของความมุ่งมั่นที่หาได้ยากในปัจจุบัน

 

         “ขายราคานี้ลูกค้าอยู่ได้ เราก็อยู่ได้” คือคำพูดติดปากของคุณอัญชลี ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาซื้อส่วนใหญ่ก็จะเป็นลูกค้าประจำ และนักเรียน อีกทั้งเป็นผู้ซึ่งใช้อาชีพขายไก่ย่างเลี้ยงดูครอบครัว 6 ชีวิต รวมลูกอีก 4 คน โดยทางร้านเปิดให้บริการวันละสองรอบ ช่วงเช้าตั้งแต่ 06.00-09.00 น. และช่วงบ่ายตั้งแต่ 15.00-18.00 น. (และหยุดทุกวันเสาร์)  ยกเว้นช่วงเดือนรอมฎอนที่จะเปิดขายตอน 14.00 น. ทุกวันไม่มีวันหยุด

 

          เมนูยอดนิยมของทางร้านคือ “ไก่ย่างสามรส” ในราคาเพียงไม้ละ 5 บาท และ “ไก่กอและ” หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ไก่แดงโบราณ” ในราคาไม้ละ 10 บาท พร้อมข้าวเหนียวห่อละ 5 บาท โดยทั้งหมดมีหอมกระเทียมเจียวโรยหน้าให้เพิ่มความหอม

             คุณอัญชลี  เล่าว่า น้ำราดไก่กอและสุดพิเศษใช้สูตรจากพี่เขยที่จังหวัดตรัง มีส่วนผสมของเครื่องแกง ถั่วลิสง พริกแห้ง ผสมแป้งข้าวโพดเล็กน้อย น้ำตาลทราย และเกลือ ทำให้ได้รสชาติที่หวาน มัน เค็ม และเผ็ดเล็กน้อย ที่สำคัญคือทำสดใหม่ทุกวัน

 

          ทางร้านปรับตัวเข้ากับเทศกาลรอมฎอนด้วยการเพิ่มเครื่องดื่มหลากหลายชนิด ทั้งน้ำพุทรา น้ำกระเจี๊ยบ โอเลี้ยง ชาดำเย็น และน้ำลิ้นจี่ ในราคาเพียงถุงละ 10 บาท

 

          ทุกวันคุณอัญชลีจะเตรียมไก่ย่างวันละประมาณ 10 กิโลกรัม แบ่งเป็นช่วงเช้า 5 กิโลกรัม (ซึ่ง 1 กิโลกรัมสามารถแบ่งได้ประมาณ 60 ไม้ ) โดยชิ้นส่วนที่ขายดีที่สุดคือหนังไก่และเนื้อสะโพก

 

           ป้ายิ้ม ลูกค้าประจำของร้าน กล่าวว่า “ซื้อที่ร้านนี้เป็นประจำเพราะรสชาติอร่อย ราคาถูก ซื้อประจำทั้งเช้าและเย็น”

 

           หากใครสนใจอยากลิ้มลองไก่ย่างราคาประหยัดที่คงราคาเดิมมานานถึง 11 ปี สามารถไปอุดหนุนได้ที่ “ร้านสามพี่น้องริมคลอง” ตั้งอยู่ที่ซอยเอวหัก ริมคลอง. หรือทรายทอง หมู่ 7 เขตเทศบาลตำบลคลองขุดอำเภอเมืองสตูล หรือติดต่อคุณอัญชลีได้ที่ 065-015-0955

…………

พลังเสื้อขาวสตูลยืนหยัด “ไม่เอาบ่อนกาสิโน” พร้อมยกระดับประท้วงหากรัฐบาลดันกฎหมายผ่าน

พลังเสื้อขาวสตูลยืนหยัด “ไม่เอาบ่อนกาสิโน” พร้อมยกระดับประท้วงหากรัฐบาลดันกฎหมายผ่าน กลุ่มประชาชนชาวสตูลกว่า 50

อัพเดทล่าสุด