Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 แม่บ้านสตูลสร้างรายได้จากขนมโบราณ ‘โกยเปต’ สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นกว่า 20 ปี

แม่บ้านสตูลสร้างรายได้จากขนมโบราณ ‘โกยเปต’ สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นกว่า 20 ปี

          ที่หมู่บ้านเขาน้อยใต้ หมู่ 12 ตำบลฉลุง อำเภอเมือง จังหวัดสตูล นางฝาตีม๊ะ ดาหมาด อายุ 58 ปี พร้อมด้วยญาติพี่น้องในครอบครัวกำลังเร่งมือทำขนมโบราณที่เรียกว่า “โกยเปต” หรือ “ขนมทองพับ” เพื่อให้ทันต่อความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะในช่วงใกล้เทศกาลฮารีรายาของพี่น้องชาวไทยมุสลิม

         

         ขนมโกยเปตที่นี่มีเอกลักษณ์พิเศษด้วยการใช้สูตรโบราณและวิธีการทำแบบดั้งเดิม โดยใช้เตาถ่านในการย่าง ซึ่งช่วยเพิ่มความหอมให้กับขนม ทำให้มีรสชาติที่แตกต่างและน่ารับประทานยิ่งขึ้น

 

          “เริ่มจากทำกินในครอบครัว แล้วค่อยพัฒนามาเป็นอาชีพ” นางฝาตีม๊ะเล่าถึงจุดเริ่มต้นของธุรกิจขนมโกยเปตที่ดำเนินมากว่า 20 ปี จนเป็นที่รู้จักในนาม “โกยเปตมะหลง” 

 

          ส่วนผสมหลักของขนมโกยเปตประกอบด้วย แป้งข้าวเจ้า กะทิ น้ำตาล และไข่ไก่ โดยหนึ่งกระปุกจะบรรจุประมาณ 70 แผ่น กำลังการผลิตอยู่ที่วันละ 3-4 กิโลกรัม หรือประมาณ 7 กระปุก โดย 1 กิโลกรัมจะใช้มะพร้าวถึง 4 ลูกและไข่ไก่.  ซึ่งทางร้านเน้นทั้งคุณภาพและปริมาณ

 

          วิธีการทำขนมโกยเปตมีเคล็ดลับอยู่ที่การสังเกตสีของแป้ง หลังจากวางแท่นพิมพ์ลงบนเตาถ่าน ให้รอจนแป้งที่อยู่รอบขอบแท่นพิมพ์เปลี่ยนเป็นสีเหลือง แล้วจึงรีบยกขึ้นมาพับเป็นรูปสี่เหลี่ยมทันที จะได้ขนมที่มีสีเหลืองสวย แบน และง่ายต่อการบรรจุลงกล่อง

 

          ขนมโกยเปตของนางฝาตีม๊ะ  เป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงเทศกาลฮารีรายา  เนื่องจากทุกบ้านจะต้องซื้อไว้รับรองแขกที่มาเยี่ยมเยียน  แต่ทางร้านยังคงเปิดขายตลอดทั้งปี ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับของฝากหรือของขวัญในโอกาสพิเศษต่างๆ

          ด้านนายสุจริต  ยามาสา  นายก อบต.ฉลุง ยอมรับว่าขนมร้านของนางฝาตีม๊ะ  มีความอร่อยและรักษาคุณภาพของอาหารได้อย่างยอดเยี่ยมจนเป็นที่ขึ้นชื่อ แต่สิ่งที่ต้องการพัฒนาต่อไปคือเรื่องของตราสินค้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งทาง อบต. จะเข้ามาช่วยหนุนเสริมในส่วนนี้ เพื่อเพิ่มมูลค่าของสินค้า นอกจากนี้ ทางองค์การบริหารส่วนตำบลยังจะช่วยส่งเสริมการขายผ่านช่องทางต่างๆ และสนับสนุนให้มีการรวมกลุ่ม เพื่อให้ภาครัฐสามารถเข้ามาช่วยเหลือได้มากขึ้น

 

          สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสั่งซื้อขนมโกยเปตได้ในราคากระปุกใหญ่ และกระปุกเล็ก

 เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

สตูล- เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 11 ปีแห่งตำนานไก่ย่างกอและโบราณไม้ละ 5 บาท  อร่อยเท่าเดิม ราคาคงเดิม ท่ามกลางค่าครองชีพพุ่ง

11 ปีแห่งตำนานไก่ย่างกอและโบราณไม้ละ 5 บาท  อร่อยเท่าเดิม ราคาคงเดิม ท่ามกลางค่าครองชีพพุ่ง

          ในยุคที่ราคาอาหารถีบตัวสูงขึ้น มีร้านเล็กๆ ริมคลอง(เอวหัก)  ม.7 ซอยทรายทอง  ทต.คลองขุด อ.เมืองสตูล แห่งหนึ่งที่ยังคงยืนหยัดขายไก่ย่างไม้ละ 5 บาทมาเนิ่นนานถึง 11 ปี “ร้านสามพี่น้องริมคลองเอวหัก” ของคุณอัญชลี บิลเต๊ะ หรือที่ลูกค้ารู้จักกันในนาม “น้องกิ๊ก” วัย 38 ปี คือตัวอย่างของความมุ่งมั่นที่หาได้ยากในปัจจุบัน

 

         “ขายราคานี้ลูกค้าอยู่ได้ เราก็อยู่ได้” คือคำพูดติดปากของคุณอัญชลี ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาซื้อส่วนใหญ่ก็จะเป็นลูกค้าประจำ และนักเรียน อีกทั้งเป็นผู้ซึ่งใช้อาชีพขายไก่ย่างเลี้ยงดูครอบครัว 6 ชีวิต รวมลูกอีก 4 คน โดยทางร้านเปิดให้บริการวันละสองรอบ ช่วงเช้าตั้งแต่ 06.00-09.00 น. และช่วงบ่ายตั้งแต่ 15.00-18.00 น. (และหยุดทุกวันเสาร์)  ยกเว้นช่วงเดือนรอมฎอนที่จะเปิดขายตอน 14.00 น. ทุกวันไม่มีวันหยุด

 

          เมนูยอดนิยมของทางร้านคือ “ไก่ย่างสามรส” ในราคาเพียงไม้ละ 5 บาท และ “ไก่กอและ” หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ไก่แดงโบราณ” ในราคาไม้ละ 10 บาท พร้อมข้าวเหนียวห่อละ 5 บาท โดยทั้งหมดมีหอมกระเทียมเจียวโรยหน้าให้เพิ่มความหอม

             คุณอัญชลี  เล่าว่า น้ำราดไก่กอและสุดพิเศษใช้สูตรจากพี่เขยที่จังหวัดตรัง มีส่วนผสมของเครื่องแกง ถั่วลิสง พริกแห้ง ผสมแป้งข้าวโพดเล็กน้อย น้ำตาลทราย และเกลือ ทำให้ได้รสชาติที่หวาน มัน เค็ม และเผ็ดเล็กน้อย ที่สำคัญคือทำสดใหม่ทุกวัน

 

          ทางร้านปรับตัวเข้ากับเทศกาลรอมฎอนด้วยการเพิ่มเครื่องดื่มหลากหลายชนิด ทั้งน้ำพุทรา น้ำกระเจี๊ยบ โอเลี้ยง ชาดำเย็น และน้ำลิ้นจี่ ในราคาเพียงถุงละ 10 บาท

 

          ทุกวันคุณอัญชลีจะเตรียมไก่ย่างวันละประมาณ 10 กิโลกรัม แบ่งเป็นช่วงเช้า 5 กิโลกรัม (ซึ่ง 1 กิโลกรัมสามารถแบ่งได้ประมาณ 60 ไม้ ) โดยชิ้นส่วนที่ขายดีที่สุดคือหนังไก่และเนื้อสะโพก

 

           ป้ายิ้ม ลูกค้าประจำของร้าน กล่าวว่า “ซื้อที่ร้านนี้เป็นประจำเพราะรสชาติอร่อย ราคาถูก ซื้อประจำทั้งเช้าและเย็น”

 

           หากใครสนใจอยากลิ้มลองไก่ย่างราคาประหยัดที่คงราคาเดิมมานานถึง 11 ปี สามารถไปอุดหนุนได้ที่ “ร้านสามพี่น้องริมคลอง” ตั้งอยู่ที่ซอยเอวหัก ริมคลอง. หรือทรายทอง หมู่ 7 เขตเทศบาลตำบลคลองขุดอำเภอเมืองสตูล หรือติดต่อคุณอัญชลีได้ที่ 065-015-0955

…………

 เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

สตูล- เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 เกษตรกรสตูลปลูก “ขมิ้นแดงสยาม-ขมิ้นตรัง” แปรรูปด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ สร้างมูลค่าเพิ่มสมุนไพรไทย

เกษตรกรสตูลปลูก “ขมิ้นแดงสยาม-ขมิ้นตรัง” แปรรูปด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ สร้างมูลค่าเพิ่มสมุนไพรไทย

            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดสตูลยกระดับการเกษตรสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ส่งเสริมเกษตรกรในพื้นที่อำเภอควนโดนปลูกขมิ้นแดงสยามและขมิ้นตรัง พร้อมพัฒนาการแปรรูปด้วยเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสมุนไพรท้องถิ่น ตอบสนองความต้องการตลาดที่เพิ่มขึ้น

             นางวรรณนภา คงเคว็จ เกษตรอำเภอควนโดน พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอควนโดน และนายสมยศ จิตเที่ยง นายอำเภอควนโดน ร่วมกับ ผศ.กิติศักดิ์ ชุมทอง ได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมการปลูกขมิ้นแดงสยามของกลุ่มเกษตรกรในอำเภอควนโดน ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตเพื่อนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรหลากหลายชนิด

           นายเจ๊ะมูสอด สามารถ อายุ 73 ปี เจ้าของพื้นที่ปลูกขมิ้นแดงสยามในพื้นที่หมู่ที่ 10 ตำบลควนโดน เปิดเผยว่า ตนได้เริ่มปลูกขมิ้นในพื้นที่ 1 ไร่ 2 งาน ซึ่งสามารถจำหน่ายขมิ้นแดงสยามในราคา 21 บาทต่อกิโลกรัม โดยเมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวประมาณ 2-3 เดือน ขมิ้นจะถูกขุดขึ้นมาและทำความสะอาดเพื่อเตรียมแปรรูป ทั้งนี้ การปลูกในกระสอบปุ๋ยและวงล้อรถยนต์ช่วยให้เก็บเกี่ยวผลผลิตได้สะดวกมากขึ้น

          ด้านนางสายฝน นุ่งอาหลี อีกหนึ่งเกษตรกรผู้ปลูกขมิ้นในวงล้อ และลงดิน ที่ปลูกพื้นที่หมู่ที่ 8 ตำบลควนสะตอ ได้ขยายพื้นที่ปลูกขมิ้นถึง 5 ไร่ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น

         โดยนางสายฝน นุ่งอาหลี  กล่าวว่า  ปลูกขมิ้นทำรายได้เลี้ยงกลุ่มและครอบครัวได้ดี เป็นที่ต้องการที่จะนำไปเป็นสมุนไพรทางการแพทย์ จึงไม่เพียงพอต่อการผลิตแปรรูป รวมทั้งการปลูกขมิ้นใช้พื้นที่น้อยข้างบ้านก็ปลูกได้ ในกระสอบ วงล้อก็ทำได้

           ทางด้านนายฮูสรี  หีมมะหมัด นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร สำนักงานเกษตรอำเภอควนโดน กล่าวว่า  ได้ให้การสนับสนุนโดยส่งเสริมการแปรรูปขมิ้นด้วยเทคโนโลยีการตากแห้งด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิต และนำไปสู่การผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพรหลายชนิด เช่น ลูกประคบสมุนไพรราคา 60 บาท น้ำมันเหลืองราคา 80 บาท และยาดมราคา 35 บาท

           นายสมยศ จิตเที่ยง นายอำเภอควนโดน กล่าวว่า “การแปรรูปขมิ้นเป็นสมุนไพรถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเกษตรกรในพื้นที่ ซึ่งไม่เพียงแค่สร้างรายได้ แต่ยังเป็นการสนับสนุนการใช้สมุนไพรเพื่อสุขภาพ ขมิ้นที่ผลิตในพื้นที่มีคุณภาพสูงและส่งไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่เพื่อการรักษาผู้ป่วย แต่ขณะนี้ผลผลิตยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงอยากให้เกษตรกรหันมาปลูกขมิ้นเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับตลาดที่กำลังเติบโต”

          ทั้งนี้ โครงการส่งเสริมการปลูกขมิ้นแดงสยามและขมิ้นตรังในพื้นที่อำเภอควนโดน ถือเป็นตัวอย่างของการพัฒนาเกษตรกรรมที่ยั่งยืน ใช้ทรัพยากรท้องถิ่นและพลังงานสะอาด สร้างความมั่นคงทางอาชีพให้กับเกษตรกรในพื้นที่ และตอบสนองต่อความต้องการผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน

………………………………………………………

 เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

สตูล- เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

จังหวัดสตูลคัดเฟ้นสุดยอด OTOP เด่น 2568 ยกระดับผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นสู่ตลาดระดับประเทศ

สืบสานนวัฒนธรรมอาหารมุสลิมโบราณ  โรตีออลาย!! สามวัยพี่น้องฟื้นชีวิตขนมโบราณรอมฎอน บนเส้นทางสืบสานมรดกปู่ย่าตายาย

ในยุคที่อาหารฟาสต์ฟู้ดและขนมสมัยใหม่กำลังเป็นที่นิยม ยังมีกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มุ่งมั่นในการอนุรักษ์และสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมด้านอาหารของบรรพบุรุษ หนึ่งในนั้นคือ “ขนมโรตีออลาย” หรือ “โรตียาลอ” หรือ “โรตีเส้น” ขนมโบราณที่หาทานได้ง่ายในช่วงเดือนรอมฎอนของพี่น้องชาวไทยมุสลิม

รสชาติแห่งประวัติศาสตร์ที่ส่งต่อ   โรตีออลายเป็นขนมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยส่วนผสมที่เรียบง่ายแต่ทรงคุณค่า ประกอบด้วยแป้งหมี่ 1 กิโลกรัม ไข่ไก่ 2 ฟอง เกลือ 1 ช้อนชา และน้ำสะอาด 1 ลิตร ขนมนี้มีให้เลือกสองสี คือสีธรรมชาติของแป้งและสีเขียวจากใบเตย

กรรมวิธีการทำที่พิถีพิถันเริ่มจากการละเลงแป้งบนกระทะร้อนที่เคลือบน้ำมันเล็กน้อย หมุนวนเป็นลวดลายคล้ายดอกไม้อย่างสวยงาม จนแป้งเกาะตัวกันเป็นแผ่นบาง ก่อนนำขึ้นจากเตาและพับใส่กล่อง บรรจุ 8 ชิ้นต่อกล่อง

ด้วยรสชาติที่ลงตัวทำให้   โรตีออลายนิยมรับประทานคู่กับน้ำจิ้มสองแบบตามความชอบ คือ แกงถั่วผสมแกงตอแมะไก่ หรือกะทิหวาน ในขณะที่ลูกค้าวัยรุ่นมักนิยมรับประทานคู่กับนมข้นหวานมากกว่า แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวของขนมโบราณให้เข้ากับรสนิยมของคนรุ่นใหม่

นางสาวสุจิตรา  ชูแก้ว  อายุ 38 ปี พร้อมน้อง ๆ  นางสาวสุทารินทร์  ชูแก้ว อายุ 18 ปี ทายาทผู้สืบทอดขนมโบราณ บอกว่า  ชวนพี่น้องสามวัย  มาร่วมกันสืบสานสูตรขนมโบราณที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากรุ่นปู่ย่าตายาย พวกเขาไม่เพียงแค่รักษามรดกทางวัฒนธรรม แต่ยังชวนครอบครัวและญาติพี่น้องมาร่วมกันทำขนมเพื่อจำหน่าย สร้างงานและรายได้ในช่วงเดือนรอมฎอน

ทางร้านผลิตขนมโรตีออลายวันละประมาณ 2 กิโลกรัม และได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงเดือนรอมฎอน โดยยึดมั่นในการปรุงอาหารสดใหม่และเปิดโอกาสให้ลูกค้าโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ได้เห็นกรรมวิธีการทำขนมโบราณ เพื่อสืบสานต่อไป

แหล่งจำหน่าย  ผู้ที่สนใจสามารถหาซื้อขนมโรตีออลายได้ที่ตลาดรอมฎอน เทศบาลเมืองสตูล บริเวณรอบมัสยิดมำบัง ตำบลพิมาน อำเภอเมืองสตูล ในราคากล่องละ 20 บาท พร้อมน้ำจิ้มให้เลือกสองแบบ

นางสาวนุตเราะห์   ชัยยะวิริยะ  ลูกค้าข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ (ผอ.กองศึกษาอบจ.สตูล) ยอมรับว่า  ดูวิธีการทำแล้วน่าซื้อหาไปรับประทานในช่วงละศีลอดนี้  ทั้งแม่ค้าคนรุ่นใหม่มาช่วยกันสืบสานขนมโบราณยิ่งทำให้อยากช่วยกันอุดหนุน และที่ตลาดรอมฏอนแห่งนี้ก็ยังมีอาหารที่น่าสนใจซื้อหารับประทานได้อย่างหลากหลายด้วย

เรื่องราวของขนมโรตีออลายและเจ้าของร้านสามวัยพี่น้องนี้ เป็นตัวอย่างอันดีของการอนุรักษ์วัฒนธรรมอาหารโบราณ ควบคู่ไปกับการสร้างอาชีพและรายได้ พิสูจน์ให้เห็นว่าภูมิปัญญาท้องถิ่นและมรดกทางวัฒนธรรมยังคงมีคุณค่าและสามารถอยู่ร่วมกับยุคสมัยปัจจุบันได้อย่างกลมกลืน

……………………………………

อัพเดทล่าสุด

 เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

สตูล- เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

Categories
ข่าวทั่วไป

สืบสานนวัฒนธรรมอาหารมุสลิมโบราณ  โรตีออลาย! สามวัยพี่น้องฟื้นชีวิตขนมโบราณรอมฎอน บนเส้นทางสืบสานมรดกปู่ย่าตายาย

สืบสานนวัฒนธรรมอาหารมุสลิมโบราณ  โรตีออลาย!! สามวัยพี่น้องฟื้นชีวิตขนมโบราณรอมฎอน บนเส้นทางสืบสานมรดกปู่ย่าตายาย

ในยุคที่อาหารฟาสต์ฟู้ดและขนมสมัยใหม่กำลังเป็นที่นิยม ยังมีกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มุ่งมั่นในการอนุรักษ์และสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมด้านอาหารของบรรพบุรุษ หนึ่งในนั้นคือ “ขนมโรตีออลาย” หรือ “โรตียาลอ” หรือ “โรตีเส้น” ขนมโบราณที่หาทานได้ง่ายในช่วงเดือนรอมฎอนของพี่น้องชาวไทยมุสลิม

รสชาติแห่งประวัติศาสตร์ที่ส่งต่อ   โรตีออลายเป็นขนมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยส่วนผสมที่เรียบง่ายแต่ทรงคุณค่า ประกอบด้วยแป้งหมี่ 1 กิโลกรัม ไข่ไก่ 2 ฟอง เกลือ 1 ช้อนชา และน้ำสะอาด 1 ลิตร ขนมนี้มีให้เลือกสองสี คือสีธรรมชาติของแป้งและสีเขียวจากใบเตย

กรรมวิธีการทำที่พิถีพิถันเริ่มจากการละเลงแป้งบนกระทะร้อนที่เคลือบน้ำมันเล็กน้อย หมุนวนเป็นลวดลายคล้ายดอกไม้อย่างสวยงาม จนแป้งเกาะตัวกันเป็นแผ่นบาง ก่อนนำขึ้นจากเตาและพับใส่กล่อง บรรจุ 8 ชิ้นต่อกล่อง

ด้วยรสชาติที่ลงตัวทำให้   โรตีออลายนิยมรับประทานคู่กับน้ำจิ้มสองแบบตามความชอบ คือ แกงถั่วผสมแกงตอแมะไก่ หรือกะทิหวาน ในขณะที่ลูกค้าวัยรุ่นมักนิยมรับประทานคู่กับนมข้นหวานมากกว่า แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวของขนมโบราณให้เข้ากับรสนิยมของคนรุ่นใหม่

นางสาวสุจิตรา  ชูแก้ว  อายุ 38 ปี พร้อมน้อง ๆ  นางสาวสุทารินทร์  ชูแก้ว อายุ 18 ปี ทายาทผู้สืบทอดขนมโบราณ บอกว่า  ชวนพี่น้องสามวัย  มาร่วมกันสืบสานสูตรขนมโบราณที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากรุ่นปู่ย่าตายาย พวกเขาไม่เพียงแค่รักษามรดกทางวัฒนธรรม แต่ยังชวนครอบครัวและญาติพี่น้องมาร่วมกันทำขนมเพื่อจำหน่าย สร้างงานและรายได้ในช่วงเดือนรอมฎอน

ทางร้านผลิตขนมโรตีออลายวันละประมาณ 2 กิโลกรัม และได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงเดือนรอมฎอน โดยยึดมั่นในการปรุงอาหารสดใหม่และเปิดโอกาสให้ลูกค้าโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ได้เห็นกรรมวิธีการทำขนมโบราณ เพื่อสืบสานต่อไป

แหล่งจำหน่าย  ผู้ที่สนใจสามารถหาซื้อขนมโรตีออลายได้ที่ตลาดรอมฎอน เทศบาลเมืองสตูล บริเวณรอบมัสยิดมำบัง ตำบลพิมาน อำเภอเมืองสตูล ในราคากล่องละ 20 บาท พร้อมน้ำจิ้มให้เลือกสองแบบ

นางสาวนุตเราะห์   ชัยยะวิริยะ  ลูกค้าข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ (ผอ.กองศึกษาอบจ.สตูล) ยอมรับว่า  ดูวิธีการทำแล้วน่าซื้อหาไปรับประทานในช่วงละศีลอดนี้  ทั้งแม่ค้าคนรุ่นใหม่มาช่วยกันสืบสานขนมโบราณยิ่งทำให้อยากช่วยกันอุดหนุน และที่ตลาดรอมฏอนแห่งนี้ก็ยังมีอาหารที่น่าสนใจซื้อหารับประทานได้อย่างหลากหลายด้วย

เรื่องราวของขนมโรตีออลายและเจ้าของร้านสามวัยพี่น้องนี้ เป็นตัวอย่างอันดีของการอนุรักษ์วัฒนธรรมอาหารโบราณ ควบคู่ไปกับการสร้างอาชีพและรายได้ พิสูจน์ให้เห็นว่าภูมิปัญญาท้องถิ่นและมรดกทางวัฒนธรรมยังคงมีคุณค่าและสามารถอยู่ร่วมกับยุคสมัยปัจจุบันได้อย่างกลมกลืน

……………………………………

อัพเดทล่าสุด

 เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

สตูล- เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

Categories
ข่าวทั่วไป

สัญญาณแห่งความอุดมสมบูรณ์! ตะลึงพบฝูงโลมาอิรวดี 10 ตัว โชว์ตัวกลางคลองท่าจีนสตูล

สัญญาณแห่งความอุดมสมบูรณ์! ตะลึงพบฝูงโลมาอิรวดี 10 ตัว โชว์ตัวกลางคลองท่าจีนสตูล

วันที่ 10 มีนาคม 2568  ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า   ชาวสตูลและนักท่องเที่ยวต่างตื่นตาตื่นใจกับการพบฝูงโลมาอิรวดีกว่า 10 ตัว ว่ายน้ำและกระโดดโชว์ตัวอย่างไม่หวาดกลัวผู้คนในพื้นที่คลองท่าจีน ตำบลคลองขุด อำเภอเมือง จังหวัดสตูล สะท้อนความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศป่าชายเลนและทรัพยากรทางทะเลในพื้นที่

นายทรงเดชา วันทา ปลัดเทศบาลตำบลคลองขุด พร้อมด้วยกลุ่มประมงพื้นบ้านและกลุ่มท่องเที่ยวชุมชน ได้จัดกิจกรรมล่องเรือสำรวจเส้นทางคลองท่าจีน หมู่ที่ 1 ตำบลคลองขุด เพื่อพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในพื้นที่ ระหว่างการสำรวจได้พบเหตุการณ์น่าประทับใจเมื่อฝูงโลมาอิรวดีประมาณ 10 ตัว ว่ายน้ำและกระโดดแสดงความน่ารักให้ชม โดยไม่แสดงอาการตื่นกลัวต่อผู้คนแต่อย่างใด

“การพบโลมาอิรวดีในพื้นที่นี้เป็นสัญญาณที่ดีของความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ” นายทรงเดชากล่าว “โลมาอิรวดีจะเข้ามาในพื้นที่ที่มีแหล่งอาหารอุดมสมบูรณ์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทรัพยากรในพื้นที่นี้ยังคงสมบูรณ์และมีความสำคัญต่อสัตว์ทะเลหายากเหล่านี้”

พื้นที่คลองท่าจีนตั้งอยู่ใกล้กับภูเขาสูงที่ชาวบ้านเรียกว่า “โต๊ะกูเด็น โต๊ะตาบอด” เป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าชายเลน หอยขาว และสัตว์ทะเลนานาชนิด การพบฝูงโลมาอิรวดีซึ่งเป็นสัตว์ทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์ในครั้งนี้ จึงเป็นเครื่องยืนยันถึงความสำคัญของพื้นที่ที่ต้องได้รับการอนุรักษ์อย่างจริงจัง

ทางเทศบาลตำบลคลองขุดได้เรียกร้องให้ประชาชนในพื้นที่ร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อรักษาความอุดมสมบูรณ์และพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างยั่งยืน พร้อมเตรียมผลักดันเส้นทางล่องเรือคลองท่าจีนให้เป็นจุดหมายใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติและชมความน่ารักของฝูงโลมาอิรวดีในถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติ

…………………………………………..

คลิปพบฝูงโลมา    ขอบคุณภาพประทับใจจาก…ปลัดเทศบาลตำบลคลองขุด

อัพเดทล่าสุด

 เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

สตูล- เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

Categories
ข่าวเด่น

สตูล-เยียวยาหัวใจที่แตกสลาย! ครอบครัวที่ต้องต่อสู้กับโรคร้ายเมื่อลูกน้อยวัย 9เดือนป่วยโรคหัวใจรั่ว ไม่มีเงินซื้อยานอกระบบ และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน 4 ชีวิตด้วยความยากจน

เยียวยาหัวใจที่แตกสลาย! ครอบครัวที่ต้องต่อสู้กับโรคร้ายเมื่อลูกน้อยวัย 9เดือนป่วยโรคหัวใจรั่ว ไม่มีเงินซื้อยานอกระบบ และค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน 4 ชีวิตด้วยความยากจน

ความหวังยังคงเหลืออยู่ท่ามกลางความมืดมิด เมื่อสังคมยื่นมือช่วยเหลือครอบครัวที่กำลังเผชิญวิกฤตซ้ำซ้อน ทั้งโรคร้ายของลูกน้อยวัย 9 เดือนและความยากจนที่รุมเร้า

“ทุกวันนี้ผมไม่กล้าแม้แต่จะออกทะเล เพราะเท้าเคยเป็นบาดทะยัก สายตาก็มองไม่ค่อยเห็น” นายวาเหตุ สามาดี อายุ 59 ปี เล่าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ “มีแต่รายจ่าย ไม่มีรายได้ ลูกสาวตัวน้อยป่วยหนัก ต้องวิ่งเข้าออกโรงพยาบาลไม่รู้จบ และต้องเตรียมยานอกระบบด้วย “

นายวาเหตุ  เล่าว่าลูกสาววัย 9 เดือนป่วยด้วยโรคหัวใจขนาดใหญ่ผิดปกติ ปอดติดเชื้อ และผนังกั้นหัวใจห้องล่างรั่วทั้ง 2 ห้อง ต้องนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลสตูล 14 คืน ก่อนถูกส่งตัวไปโรงพยาบาลหาดใหญ่อีก 7 คืน กลับบ้านได้เพียงคืนเดียวก็ต้องกลับเข้าโรงพยาบาลอีกจนถึงปัจจุบัน โดยมีคิวผ่าตัดในเดือนมีนาคมหรือพฤษภาคม

“ผมตกงานมา 4-5 เดือนแล้ว ล่าสุดช่วยเพื่อนต่อเติมบ้านได้เงินมา 1,000 บาท” นายวาเหตุเล่า ขณะที่ภรรยาวัย 38 ปี ต้องเฝ้าลูกที่โรงพยาบาลทำให้ไม่มีรายได้เช่นกัน ส่วนลูกชายวัย 4 ขวบ ผมต้องขี่รถจยย.เดินทางไปส่งไปกลับโรงเรียนไกลถึง 50 กิโลเมตรจากโรงพยาบาลสตูล ไปตันหยงโป

คุณลุงกฤษฎา มะสมัน อายุ 75 ปี เพื่อนบ้านยืนยันว่า “ผมรู้จักครอบครัวนี้มานาน เห็นความยากลำบากมาตลอด ตัวสามีเคยได้รับบาดเจ็บจากบาดทะยัก เดินไม่สะดวก สายตาก็ไม่ดี ทำงานได้แค่ก่อสร้าง พอลูกป่วย ภรรยาไม่ได้ทำงาน ต้องเลี้ยงลูกสองคน เป็นครอบครัวที่ลำบากจริงๆ ผมก็ช่วยบ่อยครั้ง”

ด้านพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสตูล  หลังทราบข่าวได้ลงพื้นที่มอบความช่วยเหลือเบื้องต้น ทั้งนม แพมเพิส ขนมปัง และข้าวสาร พร้อมเตรียมนำเรื่องเข้าที่ประชุมเพื่อขออนุมัติค่าดูแลบุตร ส่วนเรื่องยานอกระบบได้ประสานกับสาธารณสุขจังหวัดและโรงพยาบาล

ขณะที่ อบต.ตันหยงโป และ อบจ.ได้มีการเดินเรื่องเพื่อขอสนับสนุนค่าเดินทางไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ให้กับทางครอบครัวผู้เดือดร้อนแล้ว

สำหรับผู้ที่สนใจร่วมบริจาคช่วยเหลือครอบครัวนี้ สามารถบริจาคผ่านเลขบัญชี 020-315-673-861 ธนาคารออมสิน ชื่อบัญชี นายวาเหตุ สามาดี

……………………………………….

อัพเดทล่าสุด

 เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

สตูล- เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

Categories
ข่าวเด่น

จับแล้ว! วัยรุ่น 16 ปี โจรใจกล้าปีนห้องน้ำลักทรัพย์ร้านก๋วยเตี๋ยวซ้ำหลายครั้ง หลังพบหลักฐานชัดกล้องวงจรปิด

สตูล..จับแล้ว! วัยรุ่น 16 ปี โจรใจกล้าปีนห้องน้ำลักทรัพย์ร้านก๋วยเตี๋ยวซ้ำหลายครั้ง หลังพบหลักฐานชัดกล้องวงจรปิด

          วันที่ 10 มีนาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจ  สภ.เมืองสตูล    ภายใต้การอำนวยการของ   พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ ปรากฎชื่อ  ผกก.สภ.เมืองสตูล   สั่งการให้  ร.ต.อ.ฮาซัน แหละหมัน   รอง สว.สส.ฯ   ร.ต.อ.รัฐศักดิ์ จีนหวั่น    รอง สว.สส.ฯ พร้อมชุดสืบสวน ร่วมกับ ชปข.ตชด.436, ตม.จว.สตูล, เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองฯ  ร่วมจับกุมเยาวชนชายวัย 16 ปี ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ร้านก๋วยเตี๋ยว “ร้านก๊ะสาวกลางนา” ได้สำเร็จหลังจากติดตามสืบสวนมาระยะหนึ่ง

            จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ ปรากฏชื่อ ผกก.เมืองสตูล ได้นำกำลังเข้าจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับเมื่อเวลา 05.30 น. หลังสืบทราบว่าผู้ต้องหาได้หลบหนีไปซ่อนตัวอยู่กับบิดามารดาซึ่งประกอบอาชีพกรีดยางพาราบนเขาที่บ้านทุ่งมะปรัง หมู่ 2 ต.วังประจัน อ.ควนโดน จ.สตูล ซึ่งมีระยะทางไปกลับประมาณ 4 กิโลเมตร บนเส้นทางที่สูงชัน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องวางแผนการจับกุมอย่างรัดกุมเพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ต้องหาหลบหนีเข้าป่า

          ผู้ต้องหาถูกระบุว่าเป็นเยาวชนชาย  อายุ 16 ปี  ชาวบ้านตำบลเกตรี  อ.เมือง จ.สตูล ซึ่งหลังก่อเหตุได้หลบหนีการจับกุมไปอยู่กับบิดามารดาที่ทำงานรับจ้างกรีดยางพารา

           กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นกับร้านก๋วยเตี๋ยว “ร้านก๊ะสาวกลางนา” ของนางไซหนาบ แก้วสลำ อายุ 51 ปี ตั้งอยู่หมู่ที่ 3 ตำบลเกตรี อำเภอเมือง จังหวัดสตูล โดยมีการลักทรัพย์เกิดขึ้นหลายครั้งตั้งแต่เดือนมกราคม 2568 เป็นต้นมา

           นางไซหนาบ เจ้าของร้านเล่าว่า ครั้งแรกที่เงินทอนหายไปไม่ได้เอะใจ คิดว่าอาจวางไว้ผิดที่ แต่เมื่อเกิดเหตุซ้ำในวันต่อๆ มา จึงได้ติดตั้งกล้องวงจรปิดเพิ่มเติมที่ห้องครัว ซึ่งสามารถบันทึกภาพคนร้ายขณะปีนเข้ามาทางห้องน้ำได้อย่างชัดเจน โดยมีลักษณะเป็นชายวัยรุ่น มีไฟฉายผูกที่หน้าผาก ใช้วิธีปีนข้ามกำแพงห้องน้ำเข้ามา ซึ่งห้องน้ำตั้งอยู่ใกล้กับห้องครัวและที่เก็บเงิน

            จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่า คนร้ายได้ปีนเข้ามาในร้านถึง 5 ครั้ง โดยลักเอาเงินทอนที่เตรียมไว้สำหรับลูกค้า เงินในกล่องบริจาคที่เก็บไว้ให้มัสยิด รวมทั้งขนมที่อยู่ในร้าน

         หลังถูกจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ได้ปีนเข้าร้านมาแล้ว 4 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อประมาณเดือนมกราคม ได้เงินไป 300 บาท ครั้งที่ 2 ได้ขนม 3 ห่อ ครั้งที่ 3 ได้เงิน 1,500 บาท และครั้งที่ 4 ซึ่งถูกบันทึกภาพได้จากกล้องวงจรปิด ได้เงินเหรียญไปเพียง 25 บาท โดยให้เหตุผลว่านำเงินที่ได้ไปซ่อมและตกแต่งรถ

        เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสตูล ได้แจ้งข้อหาลักทรัพย์ในเคหะสถานยามค่ำคืน โดยเข้าทางช่องทางซึ่งทำขึ้นโดยไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า และจะดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

………………………………………………………………………………….

อัพเดทล่าสุด

 เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

สตูล- เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

Categories
ข่าวทั่วไป

“น้ำถุง 10 บาท” ทางรอดธุรกิจเล็กยุคเศรษฐกิจฝืด เปิดสูตรความสำเร็จร้านฟาริสต้าในเดือนรอมฏอน

“น้ำถุง 10 บาท” ทางรอดธุรกิจเล็กยุคเศรษฐกิจฝืด เปิดสูตรความสำเร็จร้านฟาริสต้าในเดือนรอมฏอน

         พาชิมน้ำถุงราคาประหยัด แต่รสชาติเข้มข้น กว่า 20 เมนู ที่ขายดิบขายดีในเดือนรอมฏอน จ.สตูล สร้างรายได้วันละกว่า 500 ถุง

         ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง ผู้ประกอบการรายย่อยต่างต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด หนึ่งในนั้นคือร้านฟาริสต้า น้ำตู้ ในจังหวัดสตูล ที่ปรับกลยุทธ์ธุรกิจในช่วงเดือนรอมฏอน ด้วยการแปลงเครื่องดื่มจากตู้มาเป็นน้ำถุงราคาประหยัด ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคเศรษฐกิจฝืด

        ในช่วงเดือนถือศีลอดของพี่น้องมุสลิม ตลาดรอมฏอนตำบลฉลุง อำเภอเมือง จังหวัดสตูล คึกคักด้วยผู้คนที่มาเลือกซื้ออาหารและเครื่องดื่มเพื่อละศีลอด ร้านฟาริสต้า น้ำตู้ เป็นหนึ่งในร้านที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ด้วยเครื่องดื่มราคาเริ่มต้นเพียง 10-15 บาท ที่มีให้เลือกมากกว่า 20 เมนู

       “น้ำถุงของเราขายดีมาก เพราะราคาประหยัดแต่รสชาติเข้มข้น ช่วยให้ลูกค้าได้ดื่มน้ำหลากหลายรสชาติในราคาที่จับต้องได้ โดยเฉพาะในยุคที่ค่าครองชีพสูง” นายมะหะหมาด บิลังโหลด วัย 50 ปี เจ้าของร้านฟาริสต้า น้ำตู้ เล่าถึงกลยุทธ์การขายที่ประสบความสำเร็จ

          เมนูยอดนิยมราคาเพียง 10 บาท ได้แก่ น้ำกระเจี๊ยบ น้ำเขียว น้ำเม็ดแมงลัก น้ำลิ้นจี่ และน้ำเก๊กฮวย ส่วนเมนูพรีเมียมที่มีส่วนผสมของนม อย่างนมชมพู ชาเย็น ชาเขียว ข้าวโพด และกาแฟโบราณ ราคาเพียง 15 บาท ซึ่งถือว่าถูกกว่าท้องตลาดทั่วไปมาก

          “ผมทำธุรกิจนี้มานานกว่า 15 ปี แต่เมื่อถึงเดือนรอมฏอน ผมจะปรับรูปแบบจากน้ำตู้  มาเป็นน้ำถุงที่ลูกค้าสามารถซื้อกลับไปดื่มตอนละศีลอด สามารถทานได้ทั้งแบบเย็นหรือรอให้อุ่นขึ้นก็ได้ ทำให้ขายดีมาก วันหนึ่งผมทำน้ำกว่า 500 ถุง ขายหมดเกลี้ยงทุกวัน” นายมะหะหมาด กล่าวเพิ่มเติม

         ร้านฟาริสต้าเปิดขายทุกวันในช่วงเดือนรอมฏอน ตั้งแต่เวลา 15.00-18.00 น. หรือก่อนถึงเวลาละศีลอด และหลังจากสิ้นสุดเดือนรอมฏอน ร้านจะหมุนเวียนไปขายตามตลาดต่างๆ ในจังหวัดสตูล ได้แก่ วันเสาร์-อาทิตย์ที่ตลาดเปิดท้ายดูสน, วันพฤหัสบดีที่ตลาดเปิดท้ายฉลุง, วันอังคาร-ศุกร์ที่ตลาดเกตเวย์, วันจันทร์ที่ตลาดบายพาส และวันพุธที่ตลาดบ้านควน

         ธุรกิจเล็กๆ อย่างน้ำถุงของร้านฟาริสต้าสะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวของผู้ประกอบการในยุคเศรษฐกิจฝืด โดยการมอบสินค้าคุณภาพดีในราคาที่ประหยัด ซึ่งไม่เพียงช่วยให้ผู้บริโภคมีทางเลือกที่จับต้องได้ แต่ยังช่วยให้ธุรกิจอยู่รอดและเติบโตได้อย่างยั่งยืน

……………………………………

อัพเดทล่าสุด

 เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

สตูล- เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

Categories
ข่าวเด่น

สตูลด่วน! พบร่างชายหนุ่มละงูหลังพลัดตกทะเลขณะล่าแมงกะพรุน

สตูลด่วน! พบร่างชายหนุ่มละงูหลังพลัดตกทะเลขณะล่าแมงกะพรุน

พบแล้ว! ร่างหนุ่มละงูวัย 22 ปี ผู้ป่วยลมชักที่พลัดตกน้ำในทะเลขณะกลับจากล่าแมงกะพรุน หลังค้นหานาน 2 วัน

วันที่ 7 มีนาคม 2568 – เจ้าหน้าที่พบร่างของนายนัสรุต ดินนุ้ย อายุ 22 ปี ชายหนุ่มที่พลัดตกน้ำเมื่อเช้ามืดวานนี้ (6 มี.ค.) บริเวณร่องน้ำบากันโต๊ะทิด หมู่ 7 ต.ละงู อ.ละงู จ.สตูล หลังจากทีมค้นหาระดมกำลังติดตามเป็นวันที่ 2

เวลา 11 นาฬิกา 40 นาที ทีมค้นหาพบร่างของนายนัสรุตลอยขึ้นเหนือน้ำในสภาพนอนคว่ำหน้า ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 100 เมตร สวมใส่เสื้อสีดำ กางเกงปาเตะสีเหลือง และมือกำหมัดแน่น

ก่อนหน้านี้ทีมค้นหาประกอบด้วยชาวบ้าน ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น มูลนิธิกู้ภัยร่มไทรจังหวัดสตูล พร้อมชุดเจ้าหน้าที่ นำโดยนาวาตรีปรัชญ์ ขำเจริญ หัวหน้าสถานีเรือละงู/ผู้บังคับหน่วยรักษาความปลอดภัยทางทะเลเกาะหลีเป๊ะ ได้ระดมกำลังค้นหาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เกิดเหตุ

รายงานเบื้องต้นระบุว่า นายนัสรุต  ซึ่งเป็นผู้ป่วยโรคลมชัก พลัดตกน้ำขณะล้างเรือหลังกลับจากการไปตัก “บอบอ” หรือแมงกะพรุน เพื่อนำไปขายที่แพ โดยจุดเกิดเหตุเป็นร่องน้ำที่มีความลึกถึง 5 เมตรและมีกระแสน้ำไหลเชี่ยว

ทางนายจำรัส ฮ่องสาย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลละงู ได้จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยร่วมกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อประสานการค้นหา ท่ามกลางความหวังของครอบครัวที่รอคอยข่าวคราวด้วยความระทึก

ด้านนายกาเส็ม ดินนุ้ย บิดาของผู้เสียชีวิต เผยว่า บุตรชายเพิ่งออกจากโรงพยาบาลได้เพียง 3 เดือนหลังรักษาอาการลมชัก และเพิ่งกลับมาประกอบอาชีพตักแมงกะพรุนซึ่งกำลังมีราคาดีถึงตัวละ 15 บาท เพื่อหารายได้เลี้ยงตนเองและครอบครัว

ทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป หลังพบร่างของผู้เสียชีวิตแล้ว ขณะที่ครอบครัวและเพื่อนๆ ของนายนัสรุตต่างรับทราบข่าวด้วยความเศร้าโศก รับตัวกลับไปบำเพ็ญกุศลตามหลักศาสนาอิสลามต่อไป

……………………………………….

อัพเดทล่าสุด

 เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

สตูล- เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน