Categories
ข่าวเด่น

  คืบหน้าเศร้า – พบศพ “น้องจีรยุทธ” ใต้กอไผ่ ห่างจุดจมน้ำ 2 กม. พ่อแม่ไม่ติดใจการเสียชีวิต

สตูล-คืบหน้าเศร้า – พบศพ “น้องจีรยุทธ” ใต้กอไผ่ ห่างจุดจมน้ำ 2 กม. พ่อแม่ไม่ติดใจการเสียชีวิต

         สตูล – ความหวังที่เปล่งประกายดับลงอย่างเจ็บปวด หลังเจ้าหน้าที่พบร่างของ ด.ช.จีรยุทธ นางา อายุ 6 ปี ที่จมหายไปในคลองบ้านควน เมื่อสองวันก่อน โดยศพถูกพบช่วงเช้าวันนี้ (23 พ.ค.) บริเวณบ้านทุ่งวิมาน ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 2 กิโลเมตร

          น้องถูกกระแสน้ำพัดมาเกยใต้กอไผ่ ท่ามกลางเศษไม้และวัชพืชริมคลอง เจ้าหน้าที่กู้ภัยร่มไทรพร้อมชาวบ้านเร่งนำร่างขึ้นจากน้ำอย่างนุ่มนวล ท่ามกลางความโศกเศร้าของผู้เป็นพ่อแม่และชุมชนที่ร่วมค้นหาน้องตลอด 2 วันที่ผ่านมา

          แม้จะเต็มไปด้วยความเสียใจ แต่ครอบครัวของน้องยืนยันไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต โดยระบุว่าเข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุจากการพลัดตกน้ำ ประกอบกับการพบศพในสภาพสมบูรณ์ ไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยผิดปกติ

         หลังการชันสูตรเบื้องต้นเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่อนุญาตให้ครอบครัวนำศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาในทันที

          เหตุการณ์นี้กลายเป็นบทเรียนสะเทือนใจสำหรับชุมชนอีกครั้ง โดยเฉพาะผู้ปกครองและเยาวชนในพื้นที่ ซึ่งต่างตระหนักถึงอันตรายของแหล่งน้ำในช่วงหน้าฝน ที่แม้จะดูสงบ แต่ซ่อนความเชี่ยวกรากและอันตรายไว้เบื้องล่าง

………………………………..

อัพเดทล่าสุด

 “พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค สตูล

“พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค

Categories
ข่าวเด่น

สตูล-เด็ก 6 ขวบจมน้ำลึกคลองในหมู่บ้าน  ญาติขอปาฏิหาริย์มีจริง  ชุดกู้ภัย-ฝ่ายปกครอง ระดมกำลังเร่งค้นหาแม้น้ำจะเชี่ยวจะเป็นอุปสรรค

สตูล-เด็ก 6 ขวบจมน้ำลึกคลองในหมู่บ้าน  ญาติขอปาฏิหาริย์มีจริง  ชุดกู้ภัย-ฝ่ายปกครอง ระดมกำลังเร่งค้นหาแม้น้ำจะเชี่ยวจะเป็นอุปสรรค

สตูล – ปฏิบัติการค้นหาเด็กชายวัย 6 ขวบ “ด.ช.จีรยุทธ นางา” ที่จมหายกลางลำคลองบ้านควน อำเภอเมืองสตูล เข้าสู่วันที่ 2 แล้ว ท่ามกลางความหวัง ความห่วงใย และเสียงร่ำไห้ของครอบครัว รวมถึงชาวบ้านกว่า 100 คนที่เฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด

เหตุการณ์สะเทือนใจนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา เด็กชายจีรยุทธ สวมเสื้อพละสีแดงของโรงเรียน กลับจากเรียนหนังสือและเดินเล่นกับเพื่อนบริเวณบันไดริมลำคลองบ้านควน หมู่ที่ 3 ต.บ้านควน ก่อนจะพลัดตกลงไปในน้ำ ซึ่งไหลเชี่ยวและมีโพรงหินใต้น้ำจำนวนมาก

เพื่อนของน้องให้การเบื้องต้นว่าเห็นน้องลื่นและจมหายไปต่อหน้าต่อตา สร้างความตกใจและเศร้าสลดให้กับชุมชนในทันที

เจ้าหน้าที่กู้ภัยร่มไทร จ.สตูล พร้อมฝ่ายปกครอง อส. และทีมประดาน้ำกว่า 20 นาย เร่งค้นหาน้องตลอดทั้งวันทั้งคืน โดยใช้ทั้งเรือในการตีผิวน้ำเพื่อให้ร่างลอยขึ้น รวมถึงอุปกรณ์ค้นหาท่ามกลางสภาพน้ำเชี่ยว และสภาพใต้น้ำที่ซับซ้อน มีทั้งโพรงและโขดหินขนาดต่าง ๆ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญ

นายกูดานัน  หลังจิ นายก อบต.บ้านควน เผยว่า ชาวบ้านร่วมมือกันอย่างเต็มที่ ให้การสนับสนุนและส่งแรงใจแก่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย พร้อมภาวนาให้เกิดปาฏิหาริย์

 

ด้านนายฮามีดัน ตะวัน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ระบุว่า เด็ก ๆ ในชุมชนมักเล่นน้ำบริเวณนี้เป็นประจำ แต่ครั้งนี้อาจเกิดเหตุไม่คาดฝัน พร้อมย้ำว่าได้รับคำสั่งเร่งด่วนจากผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลให้เร่งค้นหาโดยไม่ลดละ

 

แม้ความหวังจะริบหรี่ แต่ภารกิจยังคงเดินหน้าด้วยพลังศรัทธา และคำภาวนา “ขอให้น้องกลับมาอย่างปลอดภัย” ท่ามกลางคำเตือนที่ดังกึกก้องในชุมชนว่า “น้ำใสไม่ใช่ว่าปลอดภัยเสมอไป”

เตือนภัย: ผู้ปกครองควรระวังเด็กเล็กใกล้แหล่งน้ำ และควรมีการรั้วกั้นหรือมาตรการป้องกันในพื้นที่เสี่ยง เพื่อป้องกันโศกนาฏกรรมซ้ำรอยในอนาคต.

……………………………………..

อัพเดทล่าสุด

 “พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค สตูล

“พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค

Categories
ข่าวเด่น

40 นักดำน้ำฝ่าคลื่นช่วยชีวิตปะการังสตูล  ร่วมแรงใจเพื่อสิ่งแวดล้อม ไม่หวั่นแม้ลมแรงฝนหนาว

ภารกิจเคลียร์อวนใต้ทะเลสุดโหด! 40 นักดำน้ำฝ่าคลื่นช่วยชีวิตปะการังสตูล  ร่วมแรงใจเพื่อสิ่งแวดล้อม… ไม่หวั่นแม้ลมแรงฝนหนาว

ท้องทะเลสตูลเต็มไปด้วยความหวังอีกครั้ง เมื่อทีมจิตอาสานักดำน้ำกว่า 40 ชีวิต จากหลายภาคส่วน รวมพลังฝ่าคลื่นลมแรง สายฝนหนาวเหน็บ ทำภารกิจเก็บกวาดอวนผืนใหญ่ที่ติดอยู่กับแนวปะการัง บริเวณ “กองหินขาว” ใกล้เกาะบุโหลนเล จังหวัดสตูล เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2568

 

ภารกิจครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่าง บริษัทหาดทิพย์ จำกัด (มหาชน), Reef Guardian Thailand, อุทยานแห่งชาติเภตรา, อุทยานแห่งชาติตะรุเตา, บริษัทเลตรังไดว์วิ้ง, กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, พร้อมผู้สนับสนุนอีกหลายราย โดยมี นายดินัน พัทลุง ประธานกลุ่มรีฟการ์เดี้ยน  หัวหน้าชุดเก็บกู้อวนในครั้งนี้  และ นายไรน่าน เด็นเบ็น จาก Reef Guardian Thailand เป็นหัวเรือใหญ่ในการประสานภารกิจครั้งนี้

 

ทีมงานออกปฏิบัติภารกิจด้วย เรือหางยาง 3 ลำ และ เรือสปีดโบ๊ท 1 ลำ มุ่งหน้าสู่จุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นแนวปะการังที่อวนพลาสติกขนาดยักษ์ กว้างกว่า 150 เมตร และสูง 8 เมตร พัวพันอยู่กับกองหินใต้ทะเล ลักษณะอวนเริ่มเสื่อมสภาพและอาจกลายเป็นกับดักสัตว์น้ำชนิดต่าง ๆ สร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศในระยะยาว

 

แม้จะเจอสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ  คลื่นลมแรง น้ำขุ่น และฝนตกโปรยปราย แต่ด้วยความทุ่มเท ทีมดำน้ำใช้ความชำนาญและประสบการณ์ ค่อย ๆ ตัด คลี่ และเก็บอวนออกจากแนวปะการังอย่างระมัดระวัง ไม่ให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติม

ภารกิจนี้สำเร็จลุล่วงด้วยดี  โดยสามารถนำอวนและเศษขยะใต้ท้องทะเลขึ้นฝั่งได้ รวมกว่า 550 กิโลกรัม เป็นอีกก้าวสำคัญของการอนุรักษ์ทะเลใต้และฟื้นฟูธรรมชาติสู่ความสมดุล

 

“นี่ไม่ใช่แค่การเก็บขยะ… แต่มันคือการคืนชีวิตให้ทะเล”  เสียงหนึ่งจากนักดำน้ำอาสาที่สะท้อนให้เห็นถึงหัวใจของคนรักทะเลได้อย่างลึกซึ้ง

 

การรวมพลังครั้งนี้ไม่เพียงเป็นแบบอย่างของความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และจิตอาสา แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้สังคมลุกขึ้นมาปกป้องท้องทะเลไทย ก่อนที่ธรรมชาติจะไม่เหลือโอกาสให้แก้ตัวอีกต่อไป

………………………………………………..

ขอบคุณภาพ  จากคุณไรน่าน  เด็นเบ็น

อัพเดทล่าสุด

 “พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค สตูล

“พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค

Categories
ข่าวเด่น

สะพานรอวันซ่อม… เสียงจากชาวเกาะสาหร่ายถึงใจผู้ว่าฯ สตูล

สะพานรอวันซ่อม… เสียงจากชาวเกาะสาหร่ายถึงใจผู้ว่าฯ สตูล

สตูล – บนเกาะสาหร่าย หมู่ที่ 5 และหมู่ที่ 6 ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมือง จังหวัดสตูล สะพานท่าเทียบเรือซึ่งเคยเป็นหัวใจของการเดินทางและขนส่งสินค้า ได้กลายเป็นเพียงโครงสร้างที่ผุพังมานานกว่า 5 ปี สภาพชำรุดทรุดโทรม ขาดการดูแล และไร้เจ้าภาพรับผิดชอบอย่างชัดเจน ทำให้ชาวประมงพื้นบ้านต้องเผชิญความลำบากทุกวัน

การขนถ่ายสินค้าทางทะเลกลายเป็นเรื่องยากลำบาก โดยเฉพาะในฤดูมรสุม ขณะเดียวกันก็ส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยว เพราะพื้นที่ดังกล่าวเคยเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่สวยงาม เสียโอกาสในการสร้างรายได้ให้กับชุมชนและผู้ประกอบการรายย่อย

จากความทุกข์นี้เอง ทำให้นายยุทธพงษ์ หมัดตุกัง ประธานกลุ่มประมงพื้นบ้านตำบลเกาะสาหร่าย พร้อมด้วยนายอดุลย์ ชนะบัณฑิต จากภาคประชาชน จ.สตูล (พลเมืองรักษ์สตูล) เป็นตัวแทนรวบรวมรายชื่อชาวบ้านนับร้อยคน ยื่นหนังสือผ่านศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสตูล เพื่อทวงถามแนวทางการซ่อมแซมสะพานแห่งนี้อย่างเร่งด่วน

ความเคลื่อนไหวนี้ได้รับความใส่ใจจาก นายธนพัฒน์  เด่นบูรณะ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสตูล ซึ่งได้ลงมารับเรื่องด้วยตนเอง พร้อมชี้แจงว่า นายศักระ  กปิลกาญจน์  ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ไม่ได้นิ่งนอนใจ และนายพิบูลย์  รัชกิจประการ ส.ส.ได้มีการเข้ามาทวงถามและหารือเรื่องนี้มาอย่างต่อเนื่อง

 

เบื้องต้น ทางองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะสาหร่าย ยินดีรับโอนทรัพย์สินสะพานมาอยู่ในความดูแล โดยหากวงเงินซ่อมแซมอยู่ในกรอบงบประมาณไม่เกิน 3 ล้านบาท ทาง อบต. จะสามารถดำเนินการได้ทันที แต่หากเกินขีดความสามารถ จังหวัดจะประสานกับองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เพื่อหาทางสนับสนุนงบเพิ่มเติม

 

ขั้นตอนต่อไปคือการให้ อบต. ออกมติเห็นชอบในการรับโอนสะพานเป็นทรัพย์สินของท้องถิ่น เพื่อให้มี “เจ้าภาพ” ดูแลระยะยาวหลังการซ่อมแซมเสร็จสิ้น

 

หัวหน้าสำนักงานจังหวัดกล่าวต่อว่า ผู้ว่าฯ สตูลมีความห่วงใย และต้องการให้เกาะสาหร่ายไม่ตกขบวนในการจัดทำ “แผนยุทธศาสตร์จังหวัด” ประจำปี 2570 หากไม่ทันในปีนี้ ก็จะผลักดันให้เข้าปี 2571 ซึ่งปัจจุบันมีสะพานหลายแห่งในสตูลที่อยู่ในภาวะวิกฤตเช่นกัน

 

ด้านนายยุทธพงษ์ หมัตตุกัง ตัวแทนชาวบ้าน กล่าวว่า หลังทราบความคืบหน้า รู้สึกคลายกังวล พร้อมขอบคุณผู้ว่าฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่รับฟังเสียงจากชาวบ้าน และแสดงเจตจำนงในการเร่งแก้ไขปัญหานี้ เพื่อให้สะพานแห่งนี้กลับมาเป็นจุดเชื่อมต่อของชีวิต เศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของเกาะสาหร่ายได้อีกครั้ง

 

“ขอบคุณที่เกาะสาหร่ายจะไม่ตกขบวน… เราหวังว่าจะได้เห็นสะพานกลับมาแข็งแรงสมศักดิ์ศรี และเป็นหน้าตาของจังหวัดอีกครั้งในเร็ววัน” – ตัวแทนชาวบ้านกล่าวทิ้งท้าย

……………………………………..

อัพเดทล่าสุด

 “พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค สตูล

“พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค

Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

รองปลัดวธ.เยือนชุมชน ร่วมพิธีลอยเรือสะเดาะเคราะห์ ส่งวิญญาณกลับแดนบรรพชน

สตูล-รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรมเยือนชุมชน ร่วมพิธีลอยเรือสะเดาะเคราะห์ ส่งวิญญาณกลับแดนบรรพชน

เมื่อวันที่ 10–12 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา บนเกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล ได้มีการจัดงาน “มหกรรมวัฒนธรรมท้องถิ่น : วิถีชาวเล เสน่ห์หลีเป๊ะ” ขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ โดยได้รับการสนับสนุนจากนายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วยสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสตูล นำโดยนายกิตตพงษ์  แก้วยอดทอง วัฒนธรรมจังหวัดสตูล  ร่วมกับภาคีเครือข่ายและกลุ่มชาติพันธุ์อูรักลาโว้ย

 

พิธีเปิดได้รับเกียรติจาก  นางโชติกา อัครกิจโสภากุล  รองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม เป็นประธานเปิดงาน โดยมีนายชัยวุฒิ บัวทอง ปลัดจังหวัดสตูล ให้การต้อนรับ ณ ลานกิจกรรมโรงเรียนบ้านเกาะหลีเป๊ะ ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมือง จังหวัดสตูล

 

กิจกรรมสำคัญภายในงานสะท้อนวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาวเลอูรักลาโว้ย ซึ่งมีความผูกพันแน่นแฟ้นกับท้องทะเล ทั้งในมิติของการดำรงชีวิตและจิตวิญญาณ  โดยรองปลัดกระทรวงวัฒนธรรม พร้อมคณะ ได้เยี่ยมชมชุมชนสิเข่งและสุสานโต๊ะฆีรี สถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของชาวเล ซึ่งเปรียบเสมือนศูนย์รวมจิตใจ โดยมีโต๊ะหมอทำพิธีสื่อสารกับวิญญาณบรรพชน เพื่อขอพรให้ปกปักรักษาผู้มาเยือน

 

หนึ่งในไฮไลท์ของงานคือ **พิธีลอยเรือ “ปาจั๊ก” อันศักดิ์สิทธิ์ซึ่งชาวเลจัดขึ้น ปีละ 2 ครั้ง  ในคืนวันเพ็ญเดือน 6 และเดือน 11 ตามปฏิทินจันทรคติ เพื่อสะเดาะเคราะห์ ส่งวิญญาณบรรพชนกลับสู่ “ฆูนุงฌีรัย” และล้างความผิดที่อาจเกิดจากการล่าสัตว์ทะเลหรือการกระทำที่ส่งผลต่อธรรมชาติ โดยเรือปาจั๊กทำจากไม้ตีนเป็ดและไม้ระกำ ซึ่งถือว่าเป็นพาหนะวิญญาณ ช่วยพัดพาโรคภัยและความทุกข์ออกจากครอบครัว

 

เมื่อเรือปาจั๊กประกอบเสร็จ ผู้หญิงในชุมชนจะช่วยกันตกแต่งเรือด้วยดอกไม้สีสันสดใส เป็นการเริ่มพิธีเฉลิมฉลองยามค่ำคืน ซึ่งเต็มไปด้วยความสนุกสนาน  ทั้งการแสดงของเยาวชนชาวเล การขับกล่อมบทเพลงพื้นบ้าน และรำมะนาตามจังหวะดนตรีวัฒนธรรม  ก่อนจะร่วมกันอัญเชิญเรือไปยังทะเลเปิดในยามรุ่งสาง เพื่อปล่อยความทุกข์และโรคภัยให้ลอยไปกับคลื่น

 

ภายในงานยังมีการออกบูธจำหน่ายผลิตภัณฑ์ท้องถิ่น อาทิ ของที่ระลึกจากชาวเล อาหารพื้นบ้านหาทานยาก เช่น ยำไข่หอยเม่น แกงปลิงทะเล และนิทรรศการเครื่องเซ่นในพิธีลอยเรือ ถ่ายทอดองค์ความรู้และความเชื่อผ่านงานจัดแสดงรูปแบบสมัยใหม่

 

**ประเพณีลอยเรือของชาวอูรักลาโว้ย** ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมระดับชาติเมื่อปี 2566 และยังคงเป็นพิธีกรรมสำคัญที่สื่อถึงความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับธรรมชาติ การเคารพบรรพชน และการส่งผ่านอัตลักษณ์ของกลุ่มชาติพันธุ์จากรุ่นสู่รุ่น

 

นับเป็นอีกหนึ่งภาพสะท้อนอันงดงามของวัฒนธรรมชายฝั่ง ที่ไม่เพียงแต่ตราตรึงใจผู้มาเยือน แต่ยังบอกเล่าความหมายของการใช้ชีวิตร่วมกับท้องทะเลอย่างลึกซึ้ง

………………………………..

 “พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค สตูล

“พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค

อัพเดทล่าสุด
Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

สตูล-บ้านสาครเปิดประตูสู่การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ชวนนักเดินทางร่วมเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนแบบลงมือทำ

สตูล-บ้านสาครเปิดประตูสู่การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ ชวนนักเดินทางร่วมเรียนรู้วิถีชีวิตชุมชนแบบลงมือทำ

         วันที่ 6  พฤษภาคม 2568 – บรรยากาศคึกคักริมท่าเรือบ้านสาคร อำเภอท่าแพ จังหวัดสตูล เมื่อชาวบ้านร่วมต้อนรับนักท่องเที่ยวและแขกผู้มีเกียรติกว่า 300 คน ในพิธีเปิดโครงการ “D-HOPE” หรือ “กิจกรรมส่งเสริมการเรียนรู้ที่นักท่องเที่ยวลงมือปฏิบัติ” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 4-6 พฤษภาคม 2568 โดยมีนายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานในพิธี

 

        นายสุระชาติ พรหมดิเรก พัฒนาการจังหวัดสตูล เปิดเผยว่า โครงการนี้เป็นการต่อยอดจากการค้นหาผู้จัดโปรแกรมท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์ (Champ) และผลิตภัณฑ์เด่นของชุมชน ซึ่งจังหวัดสตูลได้คัดเลือกผู้ประกอบการชุมชนที่มีศักยภาพ 10 ราย ให้มาร่วมสาธิตและถ่ายทอดองค์ความรู้ผ่านกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวสามารถลงมือทำได้จริง

 

        “เราต้องการนำเสนอการท่องเที่ยวในมิติใหม่ ที่นักท่องเที่ยวไม่ใช่แค่มาชม แต่ได้มาเรียนรู้และลงมือทำ ซึ่งจะสร้างประสบการณ์ที่มีคุณค่าและความประทับใจ” นายสุระชาติกล่าว

         ไฮไลท์ของงานคือการจัดแสดงผลิตภัณฑ์ชุมชนที่มีเอกลักษณ์ 10 ผลิตภัณฑ์ ได้แก่ ปลาส้มสาคร น้ำพริกปลาส้ม ปลากรอบแก้ว น้ำพริกจิ้งจั้ง แมงกะพรุนแปรรูป ขนมปุยฝ้าย เครื่องแกง หอยสามรส กระเป๋าผ้ามัดย้อม และเบ็ดตกปลาชายฝั่ง โดยนักท่องเที่ยวจะได้เรียนรู้วิธีการทำผลิตภัณฑ์เหล่านี้จากผู้ผลิตโดยตรง

 

           นอกจากนี้ ยังมีการทดสอบเส้นทางการท่องเที่ยวโดยชุมชนบ้านสาคร ที่จะพานักท่องเที่ยวสัมผัสวิถีชีวิตริมทะเล การประมงพื้นบ้าน และธรรมชาติอันสวยงามของชุมชนชายฝั่ง

 

           ด้านนายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล กล่าวในพิธีเปิดว่า “การท่องเที่ยวเชิงสร้างสรรค์เป็นรูปแบบที่เปิดโอกาสให้ชุมชนได้นำเสนอเอกลักษณ์และภูมิปัญญาท้องถิ่น ขณะเดียวกัน นักท่องเที่ยวก็ได้รับประสบการณ์ที่แตกต่างและมีคุณค่า ผมหวังว่าโครงการนี้จะช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจชุมชนและสร้างความยั่งยืนให้กับการท่องเที่ยวของจังหวัดสตูล”

          โครงการ D-HOPE บ้านสาครเป็นความร่วมมือระหว่างกรมการพัฒนาชุมชน สำนักงานพัฒนาชุมชนจังหวัดสตูล และสำนักงานพัฒนาชุมชนอำเภอท่าแพ โดยมีเป้าหมายสำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชน และประชาสัมพันธ์ผู้ประกอบการชุมชนให้เป็นที่รู้จักแก่นักท่องเที่ยวและบุคคลทั่วไป

 

         นักท่องเที่ยวและผู้สนใจสามารถเข้าร่วมกิจกรรมได้ตลอดทั้ง 3 วัน ตั้งแต่วันที่ 4-6 พฤษภาคม 2568 ณ ท่าเรือบ้านสาคร ตำบลสาคร อำเภอท่าแพ จังหวัดสตูล

………………………………………………

 “พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค สตูล

“พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

ผู้ว่าฯ สตูลนำทีมเยียวยาครอบครัวผู้สูงอายุวัย 72 ปี หลังบ้านถูกไฟไหม้วอด สูญเสียทรัพย์สินกว่า 6 หมื่นบาท

ผู้ว่าฯ สตูลนำทีมเยียวยาครอบครัวผู้สูงอายุวัย 72 ปี หลังบ้านถูกไฟไหม้วอด สูญเสียทรัพย์สินกว่า 6 หมื่นบาท

      วันที่ (30 เม.ย.68) ที่บ้านเลขที่ 130 หมู่ที่ 6 บ้านคลองบัน ตำบลสาคร อำเภอท่าแพ จังหวัดสตูล นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วย ทพญ.สุกีรติ กปิลกาญจน์ นายกเหล่ากชาดจังหวัดสตูล นายอาทิตย์ วงมุสิก ปลัดอำเภออาวุโสอำเภอท่าแพ นางสาววาสิฏฐี สาระพงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสตูล  ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้แทนสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสตูล  ร่วมลงพื้นที่ให้กำลังใจผู้ประสบเหตุอัคคีภัย มอบสิ่งของช่วยเหลือ เพื่อเป็นขวัญกำลังใจ

         เมื่อวันที่ 17 เมษายน 2568  เวลาประมาณ 16.00 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ ณ บ้านเลขที่ 130 หมู่ที่ 6 บ้านคลองบัน ตำบลสาคร อำเภอท่าแพ จังหวัดสตูล โดยผู้อยู่อาศัย ชื่อนางสะแอด๊ะ นาปาเลน อายุ 72 ปี เป็นมารดาของเจ้าของบ้าน ชื่อนางสาวฮาบีบ๊ะ น่าฮู อายุ 39 ปี จากเหตุเพลิงไหม้ดังกล่าว ขณะเกิดเหตุไม่มีผู้ใดอาศัยอยู่ที่บ้าน ทั้งนี้องค์การบริหารส่วนตำบลสาคร  ได้ดำเนินการเข้าระงับเหตุเพลิงไหม้ และให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น  ทั้งนี้มีทรัพย์สินที่เสียหาย คือ อาคารปลูกสร้าง 1 หลัง ประมาณการความเสียหายเบื้องต้น 60,000 บาท

……………………………

ภาพ/ข่าว : ขนิษฐา เดิมหลิ่ม / ส.ปชส.สตูล

อัพเดทล่าสุด

 “พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค สตูล

“พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค

Categories
ข่าวทั่วไป ท่องเที่ยว-กีฬา

สตูล-ลังกาวีเชื่อมสัมพันธ์ผ่านการแข่งขันตกปลานานาชาติ “Satun Langkawi Fishing thru Andaman 2025”

สตูล-ลังกาวีเชื่อมสัมพันธ์ผ่านการแข่งขันตกปลานานาชาติ “Satun Langkawi Fishing thru Andaman 2025”

วันที่ 25 เมษายน 2568 ที่ท่าเทียบเรือท่องเที่ยว ตำบลปากน้ำ อำเภอละงู จังหวัดสตูล — นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขันตกปลา “Satun Fishing thru Andaman 2025” โดยมี Dato Haslina binti Abdul Hamid ประธานเจ้าหน้าที่บริหารหน่วยงานพัฒนาลังกาวี (LADA) และ Dr. Azmil Munif Bin Mohd Bukhari ผู้จัดการฝ่ายการท่องเที่ยว พร้อมด้วยนางสาวภัชกุล ตรีพันธ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสตูล ร่วมในพิธีปล่อยเรือนักตกปลา

การแข่งขันครั้งนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 25-27 เมษายน 2568 ภายใต้โครงการการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจจังหวัดสตูล ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาในการส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงกีฬา และผลักดัน Soft Power ในมิติด้านกีฬาควบคู่การท่องเที่ยว

นายศักระ กปิลกาญจน์ กล่าวว่า “จังหวัดสตูลมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวสูง มีทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ทั้งภูเขา ทะเล ป่าธรรมชาติ และป่าชายเลน อีกทั้งยังมีหมู่เกาะที่สวยงาม และมีพรมแดนติดต่อกับประเทศมาเลเซีย นอกจากนี้ สตูลยังได้รับการรับรองเป็นอุทยานธรณีโลก ซึ่งเป็นจุดเด่นที่สามารถพัฒนาให้เป็นจุดหมายปลายทางที่น่าสนใจของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ”

การแข่งขันตกปลาประเภทเรือทัวร์เบ็ดครั้งนี้มีทีมเข้าร่วมทั้งสิ้น 27 ทีม ชิงเงินรางวัลรวม 497,000 บาท แบ่งออกเป็น 51 รางวัล ประกอบด้วย ประเภทปลาทีมน้ำหนักสูงสุด 10 รางวัล ประเภทปลาตัวเดียวน้ำหนักสูงสุด 3 รางวัล ประเภทปลาเกม 12 ชนิด น้ำหนักสูงสุด 36 รางวัล และรางวัลพิเศษอีก 2 รางวัล ได้แก่ รางวัลกัปตันดีเด่น และคลิปวิดีโอดีเด่น

นอกจากการแข่งขันตกปลา ภายในงานยังมีกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย อาทิ การแสดงบนเวที การแสดงศิลปวัฒนธรรม และการแสดงของศิลปินนักร้องที่มีชื่อเสียง บูธขายสินค้าและอาหารพื้นถิ่นจากพ่อค้าแม่ค้าในชุมชนกว่า 30 ร้าน รวมถึงการประมูลปลาเพื่อนำรายได้ไปบริจาคให้กับงานสาธารณประโยชน์

นางสาวภัชกุล ตรีพันธ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสตูล กล่าวว่า “การจัดงานครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในจังหวัดสตูลเท่านั้น แต่ยังเป็นการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวและส่งเสริมรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่อีกด้วย”

การแข่งขันตกปลา “Satun Fishing thru Andaman 2025” นับเป็นกิจกรรมสำคัญที่ช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างไทยและมาเลเซีย ผ่านความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวและกีฬา ซึ่งจะสร้างเครือข่ายการท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างสตูลและลังกาวี ตามแนวทางการพัฒนาเศรษฐกิจร่วมกันของทั้งสองประเทศ​​​​​​​​​​​​​​​​

……………………………

 “พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค สตูล

“พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป ท่องเที่ยว-กีฬา

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด!

“เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” งานยิ่งใหญ่แห่งปีที่คอการท่องเที่ยวเชิงอาหารห้ามพลาด!

18 เมษายน 2568* – จังหวัดสตูลเตรียมจัดงานเทศกาลสุดยิ่งใหญ่ “เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14” ภายใต้แนวคิด “14th Satun Sweet Corn and Tasty Food Festival 2025” เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรและกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่น โดยวันนี้ได้มีการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ณ ห้องประชุมเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ที่ว่าการอำเภอท่าแพ จังหวัดสตูล

ในงานแถลงข่าว นายหร่ออ๊บ มุเส็มสะเดา นายอำเภอท่าแพ เปิดเผยว่า “ข้าวโพดหวานถือเป็นสินค้าเกษตรที่เป็นเอกลักษณ์ของอำเภอท่าแพและจังหวัดสตูล เทศกาลนี้จะช่วยส่งเสริมภาคการเกษตร สร้างความมั่นคงทางอาหาร และเพิ่มรายได้ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่ ซึ่งถือเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนอย่างยั่งยืน”

นางสาวภัชกุล ตรีพันธ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสตูล กล่าวถึง   การขับเคลื่อนโครงการว่า “สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสตูลได้บูรณาการความร่วมมือกับทุกภาคส่วนในการสนับสนุนการจัดงานครั้งนี้   โดยมุ่งเน้นการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าเกษตรท้องถิ่นผ่านการท่องเที่ยวเชิงอาหาร ซึ่งปีนี้เราได้พัฒนารูปแบบกิจกรรมให้น่าสนใจมากขึ้น รวมถึงการจัดทำแพ็คเกจท่องเที่ยวที่เชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวในจังหวัดกับเทศกาลข้าวโพดหวาน  สำหรับในครั้งถัดไป เรามีแผนที่จะยกระดับงานสู่มาตรฐานระดับนานาชาติ ด้วยการเพิ่มกิจกรรมการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมอาหารกับประเทศเพื่อนบ้าน และสร้างเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวเชิงอาหารในระดับภูมิภาค”

ด้านนายประดิษฐ์ เปรมใจ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าแพ กล่าวถึงความเป็นมาของงานว่า “เทศกาลนี้เกิดจากความร่วมมือของหลายภาคส่วน โดยเฉพาะกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพดหวานในพื้นที่ ซึ่งสามารถสร้างชื่อเสียงให้กับชุมชนและกลายเป็นจุดขายสำคัญของการท่องเที่ยวในอำเภอท่าแพและจังหวัดสตูล”

นางสาวสุชาดา เทพสุวรรณ ผู้แทนจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสตูล เสริมว่า “เรามีแผนประชาสัมพันธ์เชิงรุกผ่านสื่อต่างๆ เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวทั้งในและต่างประเทศ มาสัมผัสกับเสน่ห์ของข้าวโพดหวานสตูลและอาหารพื้นเมืองที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว”

ทางด้านนายธนพัฒน์ เด่นบูรณะ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสตูล กล่าวถึง   ภาพรวมการท่องเที่ยวว่า “จังหวัดสตูลมีศักยภาพด้านการท่องเที่ยวที่หลากหลาย ทั้งการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เชิงวัฒนธรรม และเชิงอาหาร เทศกาลนี้จะเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมสำคัญที่ช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับภาคการท่องเที่ยวและเศรษฐกิจโดยรวมของจังหวัด”

          สำหรับไฮไลท์ของงานในปีนี้ประกอบด้วย การจัดแสดงและจำหน่ายข้าวโพดหวานคุณภาพเยี่ยมจากเกษตรกรในพื้นที่ บูธอาหารพื้นเมืองรสเด็ด การแสดงศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น และกิจกรรมสันทนาการสำหรับครอบครัว นอกจากนี้ยังมีการประกวดผลผลิตข้าวโพดหวานและการแข่งขันทำอาหารจากข้าวโพดหวานที่จะสร้างความตื่นเต้นให้กับผู้เข้าร่วมงาน

          เทศกาลข้าวโพดหวานและอาหารอร่อยจังหวัดสตูล ครั้งที่ 14 นับเป็นหนึ่งในกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวที่สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว มุ่งส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงเกษตรที่มีเอกลักษณ์โดดเด่น สร้างรายได้ให้แก่ชุมชนและท้องถิ่นอย่างยั่งยืน

          ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปร่วมสัมผัสกับความอร่อยของข้าวโพดหวานและอาหารพื้นเมืองรสเลิศของจังหวัดสตูล พร้อมชมการแสดงทางวัฒนธรรมที่น่าประทับใจ ตลอดระยะเวลาการจัดงาน ระหว่างวันที่  25-27 เม.ย.2568  ที่่บริเวณสนามหน้าที่ว่าการอำเภอท่าแพ  จ.สตูล

……………………………

 “พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค สตูล

“พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป ท่องเที่ยว-กีฬา

คึกคักส่งท้ายสงกรานต์! นักท่องเที่ยวแห่กลับจากเกาะหลีเป๊ะ-ตะรุเตา ททท.สตูลเผยเงินสะพัดกว่า 30 ล้าน

คึกคักส่งท้ายสงกรานต์! นักท่องเที่ยวแห่กลับจากเกาะหลีเป๊ะ-ตะรุเตา ททท.สตูลเผยเงินสะพัดกว่า 30 ล้าน

            วันที่ 15 เมษายน 2568 บรรยากาศการเดินทางกลับของนักท่องเที่ยวช่วงโค้งสุดท้ายวันหยุดยาวเทศกาลสงกรานต์ที่ท่าเทียบเรือปากบารา  อำเภอละงู จังหวัดสตูล เป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีทั้งนักท่องเที่ยวชาวไทยและชาวต่างชาติทยอยเดินทางกลับขึ้นฝั่งหลังพักผ่อนที่เกาะหลีเป๊ะ และอุทยานแห่งชาติตะรุเตา

 

          กลุ่มนักท่องเที่ยวที่เดินทางกลับส่วนใหญ่เป็นครอบครัว คู่รัก และกลุ่มเพื่อนจากทั่วประเทศ ทั้งภาคเหนือ กลาง และอีสาน โดยมุ่งหน้าไปยังสนามบินหาดใหญ่เพื่อเตรียมกลับเข้าสู่การทำงานในวันถัดไป

 

          ตั้งแต่ช่วงเช้า ท่าเรือปากบาราแน่นขนัดไปด้วยผู้โดยสารที่เดินทางด้วยเรือสปีดโบ๊ทจากเกาะหลีเป๊ะ ขึ้นฝั่งสู่ตำบลปากน้ำ ซึ่งเป็นจุดหลักในการรับ-ส่งนักท่องเที่ยวสู่หมู่เกาะชื่อดังของจังหวัด

        นายไพรัช สุขงาม ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานสตูล ได้ลงพื้นที่ติดตามความเรียบร้อย พร้อมกล่าวว่า ช่วงสงกรานต์ปีนี้ จังหวัดสตูลได้รับความนิยมจากนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยมีนักท่องเที่ยวเข้าออกพื้นที่ไม่ต่ำกว่าวันละ 2,000 คน

 

            “ไม่เพียงแค่เกาะหลีเป๊ะและอุทยานฯ ตะรุเตาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงหมู่เกาะเภตรา เกาะบุโหลน รวมถึงแหล่งท่องเที่ยวชายแดนวังประจัน ซึ่งนักท่องเที่ยวทั้งจากยุโรป มาเลเซีย จีน และอินโดนีเซีย ต่างให้ความสนใจอย่างมาก” นายไพรัชกล่าว

        ทั้งนี้ ททท.สตูลคาดการณ์ว่า ตลอดช่วงหยุดยาว 5 วัน จะมีเม็ดเงินหมุนเวียนในพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 30 ล้านบาท แม้สตูลจะเป็นจังหวัดเมืองรอง แต่ยังคงดึงดูดนักท่องเที่ยวได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยเสน่ห์ทางธรรมชาติที่งดงามและความสงบที่หาได้ยาก

 “พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค สตูล

“พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค

อัพเดทล่าสุด