Categories
ข่าวทั่วไป

พสกนิกรสตูล ร่วมใจทำบุญตักบาตร ถวายพระราชกุศล ‘วันนวมินทรมหาราช’ อย่างพร้อมเพรียง

พสกนิกรสตูล ร่วมใจทำบุญตักบาตร ถวายพระราชกุศล ‘วันนวมินทรมหาราช’ อย่างพร้อมเพรียง

       สตูล – (13 ต.ค. 2568) – เช้าวันนี้ ที่บริเวณหน้าเทศบาลเมืองสตูล เต็มไปด้วยคลื่นมหาชนชาวสตูลที่พร้อมใจกันสวมเสื้อสีเหลืองอย่างพร้อมเพรียง เพื่อร่วมพิธีทำบุญตักบาตรข้าวสารอาหารแห้ง ถวายพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร เนื่องใน “วันนวมินทรมหาราช” (วันที่ 13 ตุลาคม)

  

         พิธีอันศักดิ์สิทธิ์นี้ได้รับเกียรติจาก นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานในพิธี นำคณะรองผู้ว่าราชการจังหวัด หัวหน้าส่วนราชการ ข้าราชการ พสกนิกรทุกหมู่เหล่า ตลอดจนสมาชิกชมรมคนรักในหลวงจังหวัดสตูล มารวมตัวกันด้วยความจงรักภักดีและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณ

       บรรยากาศเต็มไปด้วยความสงบและอิ่มบุญ ประชาชนต่างนำข้าวสารอาหารแห้งและปัจจัยมาถวายแด่พระสงฆ์ เพื่อแสดงความกตัญญูและรำลึกถึงพระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นที่รักยิ่งของปวงชนชาวไทยตลอดมา

       การรวมพลังสวมเสื้อเหลืองในวันนี้ แสดงให้เห็นถึงความแน่นแฟ้นและเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันของชาวสตูลในการแสดงความจงรักภักดีและร่วมกันสืบสานปณิธานความดีงามตามรอยเบื้องพระยุคลบาท

…………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

ไม่ทอดทิ้ง! ผู้ว่าฯ สตูล ควงนายกเหล่ากาชาดฯ รุดเยี่ยมให้กำลังใจ เหยื่อไฟไหม้

ไม่ทอดทิ้ง! ผู้ว่าฯ สตูล ควงนายกเหล่ากาชาดฯ รุดเยี่ยมให้กำลังใจ เหยื่อไฟไหม้เมืองสตูล

        วันที่ (10 ต.ค. 68) เวลา 10.30 น. ที่บ้านเลขที่ 96 หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านควน อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วยทันตแพทย์หญิงสุกีรติ กปิลกาญจน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสตูล ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ประสบเหตุอัคคีภัย พร้อมมอบสิ่งของช่วยเหลือเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนเบื้องต้นและเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบเหตุ โดยมีนายมานิต บริพันธ์ นายอำเภอเมืองสตูล นางสาววาสิฏฐี สาระพงศ์ หัวหน้าสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสตูล ผู้แทนสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสตูล ผู้นำท้องที่ และผู้นำท้องถิ่น ร่วมลงพื้นที่ให้กำลังใจและมอบสิ่งของช่วยเหลือด้วย

         สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2568 เวลาประมาณ 05.20 น. ได้เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่บ้านเลขที่ 96 หมู่ที่ 3 ตำบลบ้านควน อำเภอเมืองสตูล ซึ่งเป็นบ้านของนางสาวอินสน เส็นดากัน สาเหตุคาดว่ามาจากการจุดเทียนเพื่อให้แสงสว่างก่อนออกไปกรีดยางพาราแล้วลืมดับ ทำให้เกิดเพลิงลุกไหม้ขึ้น สร้างความเสียหายในส่วนห้องนอน โครงสร้างบ้านและทรัพย์สินภายในบ้าน เจ้าหน้าที่ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และผู้นำชุมชนในพื้นที่ได้เข้าช่วยควบคุมสถานการณ์ไว้ได้อย่างทันท่วงที

          ทั้งนี้ เหตุการณ์ดังกล่าวไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต โดยหน่วยงานภาครัฐและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันเร่งให้ความช่วยเหลือในทุกด้าน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประสบภัย และสร้างขวัญกำลังใจให้สามารถดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างเข้มแข็ง

ภาพข่าว-ปชส.สตูล

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

ทุเรียนจิ๋วฟีเวอร์! วิทยาลัยเทคนิคสตูลปั้น ‘ลูกชุบทุเรียน’ เหมือนจริงเป๊ะ!  เปิดเส้นทางรายได้ สู่ตลาดต่างประเทศ

ทุเรียนจิ๋วฟีเวอร์! วิทยาลัยเทคนิคสตูลปั้น ‘ลูกชุบทุเรียน’ เหมือนจริงเป๊ะ!  เปิดเส้นทางรายได้ สู่ตลาดต่างประเทศ

         วันที่ 6 ตุลาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วิทยาลัยเทคนิคสตูลเดินหน้าสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจ ส่งเสริมการเรียนรู้อาชีพให้ประชาชน เปิดอบรมการทำ “ลูกชุบผลไม้จิ๋ว” ขนมไทยสีสันสดใส โดยเฉพาะเมนูไฮไลต์อย่าง “ลูกทุเรียนชุบ” ที่มีกลิ่นและรสชาติคล้ายเนื้อทุเรียนจริง ถูกใจทั้งกลุ่มแม่บ้านและผู้บริโภคฝั่งประเทศมาเลเซียอย่างมาก จนเริ่มมีการสั่งซื้อเพื่อจำหน่าย  สร้างความหวังสู่ตลาดส่งออกขนมไทยในอนาคต

         ด้านนายวิเชียร บุญเตี่ยว ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคสตูล เปิดเผยว่า ทางวิทยาลัยได้จัดทำโครงการ “สร้างเส้นทางสู่อาชีพ” ภายใต้การสนับสนุนจากองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล เพื่อส่งเสริมทักษะและสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนในท้องถิ่น โดยเน้นการอบรมวิชาชีพทั้งในกลุ่มเยาวชน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป ซึ่งได้รับความสนใจอย่างมากจากกลุ่มแม่บ้านที่ต้องการอาชีพเสริมในยุคเศรษฐกิจซบเซา

        หนึ่งในหลักสูตรที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ การทำขนมลูกชุบ ขนมไทยโบราณที่ขึ้นชื่อเรื่องความประณีต สวยงาม และสามารถสร้างรายได้จริง โดยในเวิร์กช็อปครั้งนี้ มีไฮไลต์ที่น่าสนใจ คือการสอนทำ “ลูกชุบทรงลูกทุเรียน” ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ที่ผสานความคิดสร้างสรรค์และรสชาติที่สะท้อนความเป็นไทยได้อย่างลงตัว

           ลูกชุบทรงลูกทุเรียนนี้ ปั้นเป็นรูปผลทุเรียนขนาดจิ๋ว แต่งสีเหลืองนวลเลียนแบบเนื้อทุเรียนจริง และที่พิเศษคือ มีการผสมกลิ่นและรสไส้ทุเรียนเข้ากับถั่วเขียวกวน ทำให้ได้กลิ่นหอมอ่อน ๆ ของทุเรียนเมื่อกัดเข้าไป พร้อมเคลือบวุ้นบาง ๆ ให้ดูเงางาม เหมือนทุเรียนจำลองขนาดมินิ ที่ทั้งน่ารักและน่าทาน

         ด้านนางเย็นจิตต์ แต่งทอง อายุ 50 ปี แม่บ้านชาวสตูล ซึ่งเข้าร่วมการอบรม เผยว่า ตนเองมีอาชีพขายขนมอยู่แล้ว และสนใจการทำลูกชุบ เพราะสามารถทำที่บ้านได้ง่าย ใช้ต้นทุนต่ำ แต่ขายได้กำไรดี โดยเฉพาะ “ลูกชุบทุเรียน” ที่เป็นจุดขายใหม่ ตนได้นำตัวอย่างไปให้ญาติฝั่งประเทศมาเลเซียชิม และได้รับเสียงตอบรับที่ดีอย่างมาก

        “ญาติทางฝั่งโน้นบอกว่าไม่เคยเห็นขนมแบบนี้เลย รสชาติหอมเหมือนทุเรียนจริง และรูปร่างเหมือนของเล่นจิ๋ว เป็นเหมือนศิลปะที่กินได้ เขาติดใจเลยสั่งซื้อเรื่อย ๆ ค่ะ” นางเย็นจิตต์ กล่าว

           สำหรับ “ลูกชุบ” เป็นขนมไทยที่มีต้นกำเนิดจากวัฒนธรรมโปรตุเกสในสมัยกรุงศรีอยุธยา โดยมีลักษณะเด่นคือ ทำจากถั่วเขียวกวน ปั้นเป็นรูปร่างผลไม้ขนาดเล็ก เช่น มะม่วง พริก ชมพู่ มะเขือเทศ หรือแม้แต่ผลไม้ไทยที่ชาวต่างชาติชื่นชอบอย่าง “ทุเรียน” แล้วเคลือบด้วยวุ้นบาง ๆ ให้ดูเงางาม สีสันสดใส รสชาติหวาน มัน ละมุนลิ้น

          ราคาขายสามารถเริ่มต้นได้ตั้งแต่ชิ้นละ 1-2 บาท แล้วแต่รูปแบบการบรรจุ สามารถจัดเป็นกล่องของฝาก ของชำร่วย หรือทำเป็นสินค้าในตลาดท่องเที่ยวก็ได้

          การต่อยอด “ลูกชุบทุเรียน” และผลไม้จิ๋วชนิดอื่น ๆ กำลังกลายเป็นความหวังใหม่ของกลุ่มแม่บ้านในพื้นที่ ที่ต้องการมีอาชีพเสริมจากฝีมือตัวเอง และยังมีโอกาสสร้างรายได้จากตลาดประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะมาเลเซีย ซึ่งมีรสนิยมชื่นชอบขนมไทยอย่างมากในปัจจุบัน

………………………………………………………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

“เทียนละลายกลายเป็นพญานาค!” วัดป่าช้าไทย จ.สตูล แปลงเทียนเก่าเป็นเรือพระน้ำหนักเกือบตัน เตรียมอวดโฉมประชันความงามชักพระ

“เทียนละลายกลายเป็นพญานาค!” วัดป่าช้าไทย จ.สตูล แปลงเทียนเก่าเป็นเรือพระน้ำหนักเกือบตัน เตรียมอวดโฉมประชันความงามชักพระ

วันที่ 4 ตุลาคม 2568 – ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศการเตรียมความพร้อมของวัดต่าง ๆ ทั่วจังหวัดสตูล ที่ต่างเร่งมือประดับตกแต่ง “เรือพระ” เพื่อนำเข้าร่วมกิจกรรมชักพระในวันออกพรรษา ซึ่งปีนี้ตรงกับวันที่ 7 ตุลาคม และจะมีการประกวดเรือพระในวันอังคารที่ 8 ตุลาคม 2568 บริเวณหน้าโรงเรียนสตูลวิทยา โดยเทศบาลตำบลคลองขุดเป็นเจ้าภาพจัดงาน

หนึ่งในไฮไลต์ที่น่าจับตามอง คือ วัดสตูลสันตยาราม (หรือที่ชาวบ้านเรียกว่าวัดป่าช้าไทย) ตำบลพิมาน อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ซึ่งมีไอเดียสุดสร้างสรรค์ไม่เหมือนใคร ด้วยการ “แปลงเทียนเก่า” จากวัด มาเนรมิตเป็น เศียรพญานาค และองค์ประกอบต่าง ๆ บนเรือพระทั้งลำ

เทียนเก่า ไม่ไร้ค่า!  พระสงฆ์และชาวบ้านที่วัด เล่าว่ามีการเก็บรวบรวมเศษเทียนไขจากจุดบูชาพระพุทธรูป เทียนพรรษาเก่าที่หยดลงพื้น หรือเหลือใช้จากปีที่ผ่านมา มาละลายใหม่ด้วยความร้อน แล้วเทใส่ บล็อกลวดลายไทย ที่ออกแบบมาเฉพาะกิจ โดยมี ใยแก้วรองด้านใน เพื่อกันหัก เมื่อเย็นตัว เทียนจะแข็งเป็นชิ้นงานประณีต ดึงออกจากพิมพ์ได้อย่างสวยงาม

พระเมืองแมน ป.ภโสร พระผู้มีบทบาทร่วมออกแบบและสร้างเรือพระ เผยว่า ปีนี้นับเป็นปีที่ 4 ที่วัดใช้เทียนไขสร้างสรรค์เรือพระทั้งลำ จุดเด่นอยู่ที่ เศียรพญานาค  7 เศียร และ ลำตัวพญานาค ที่มีน้ำหนักหัวละราว 20 กิโลกรัม รวมทั้งลำเรือหนักเกือบ 1 ตัน!

         นอกจากนี้ วัดยังนำ ผ้าห่มเจดีย์เก่า ที่ไม่ได้ใช้แล้ว มาประยุกต์จับจีบตกแต่งเรือ สะท้อนแนวคิด “ใช้ซ้ำอย่างศรัทธา” ได้อย่างงดงาม

          เรือพระของวัดสตูลสันตยารามในปีนี้ ไม่ใช่แค่ศิลปะทางสายตา แต่ยังสื่อถึงจิตวิญญาณของพุทธศาสนา ที่เชื่อมโยงการใช้ทรัพยากรอย่างรู้คุณค่า ศรัทธาอย่างมีสติ และสืบสานประเพณีไทยใต้ได้อย่างน่าชื่นชม

………………………………………………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

น้ำใจหลั่งไหล! ผู้ว่าฯ สตูล มอบบ้านหลังใหม่ให้ผู้สูงอายุยากไร้ ที่ควนโดน พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตให้ยั่งยืน

น้ำใจหลั่งไหล! ผู้ว่าฯ สตูล มอบบ้านหลังใหม่ให้ผู้สูงอายุยากไร้ ที่ควนโดน พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตให้ยั่งยืน

วันที่ 2 ตุลาคม 2568 เวลา 14.30 น. นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วย ทันตแพทย์หญิงสุกีรติ กปิลกาญจน์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดสตูล และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ร่วมกันส่งมอบบ้านตามโครงการดี ๆ ที่มุ่งเสริมสร้างศักยภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนสตูลอย่างยั่งยืน ณ บ้านเลขที่ 212 หมู่ที่ 7 บ้านปากบาง ตำบลย่านซื่อ อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล

การส่งมอบบ้านครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของกิจกรรม “รวมพลังคนสตูลร่วมดูแลประชาชน” เพื่อซ่อมแซมและปรับปรุงที่อยู่อาศัยให้กับกลุ่มผู้ด้อยโอกาส ผู้สูงอายุ และผู้พิการ โดยได้ส่งมอบให้กับ นางสาวฮาซาน๊ะ ใบหมาดปันจอร์ อายุ 69 ปี ซึ่งเป็นผู้สูงอายุที่อาศัยอยู่เพียงลำพังและมีโรคประจำตัว โดยก่อนหน้านี้บ้านของนางสาวฮาซาน๊ะ มีสภาพทรุดโทรมและขาดความปลอดภัยอย่างมาก

 

ในพิธีส่งมอบบ้านเต็มไปด้วยความอบอุ่น นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และภาคีเครือข่าย ได้ร่วมมอบเงิน สิ่งของอุปโภคบริโภค และเครื่องใช้ที่จำเป็น เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนและยกระดับคุณภาพชีวิตให้กับผู้ที่ได้รับความช่วยเหลือ

โครงการนี้ไม่เพียงแต่สร้างโอกาสและมอบที่อยู่อาศัยที่ดีขึ้นให้กับผู้ยากไร้ ผู้สูงอายุ และผู้ด้อยโอกาสเท่านั้น แต่ยังเป็นแรงใจสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างขวัญและกำลังใจให้ประชาชนในพื้นที่สามารถดำเนินชีวิตได้อย่างมั่นคงและมีความสุขอย่างยั่งยืนสมกับชื่อโครงการ

………………………….

ภาพ/ข่าว : ศุภาพิชญ์ ดวงไข /ส.ปชส.สตูล

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

“ขยะปันสุข” สตูล สร้างรายได้กว่า 2.3 แสนบาท! ผู้ว่าฯ นำทีมบริจาค ขยะรีไซเคิล ช่วยเหลือสังคม

“ขยะปันสุข” สตูล สร้างรายได้กว่า 2.3 แสนบาท! ผู้ว่าฯ นำทีมบริจาค ขยะรีไซเคิล ช่วยเหลือสังคม

สตูล – ข้าราชการสตูลผนึกกำลัง! ผู้ว่าฯ “ศักระ กปิลกาญจน์” รับมอบขยะรีไซเคิล “ขยะปันสุข” จากหัวหน้าส่วนราชการและภาคีเครือข่าย แสดงพลังรักษ์โลก พร้อมแปลง “ขยะ” เป็น “บุญ” นำรายได้กว่า 230,000 บาท ช่วยเหลือผู้สูงอายุ ผู้พิการ และผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่แล้วกว่า 1,400 ราย!

 

วันที่ (30 ก.ย. 68) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ที่ศาลากลางจังหวัดสตูลหลังใหม่ บรรยากาศเต็มไปด้วยความมุ่งมั่นในการทำความดี เมื่อ นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ได้รับมอบการบริจาคขยะรีไซเคิลตาม โครงการ “ขยะปันสุข” จาก นายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วยปลัดจังหวัด นายอำเภอ หัวหน้าส่วนราชการ และภาคเอกชน ที่พร้อมใจนำขยะรีไซเคิลที่คัดแยกแล้วจากครัวเรือนและสำนักงานมาร่วมบริจาคอย่างล้นหลาม

 

โครงการ “ขยะปันสุข” ที่ริเริ่มโดยสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดสตูลนี้ ไม่เพียงแต่เป็นกิจกรรมที่ช่วย ลดปริมาณขยะ และ ส่งเสริมการคัดแยกขยะที่ต้นทาง ตามหลักวิชาการเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างสรรค์สังคมอย่างยั่งยืน โดยนำขยะที่ได้ไปจำหน่ายและ นำรายได้ทั้งหมดไปช่วยเหลือสังคม

 

ยอดบริจาคพุ่ง! ลดก๊าซเรือนกระจกได้กว่า 140 ตันคาร์บอน

ผลการดำเนินงานของโครงการฯ ตลอดปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 ตั้งแต่เดือนตุลาคม 2567 จนถึงเดือนสิงหาคม 2568 นั้นน่าประทับใจเป็นอย่างยิ่ง:  ขยะรีไซเคิลรวมทั้งสิ้น 50,917.63 กิโลกรัม  สร้างรายได้จากการจำหน่ายรวม 231,913.64 บาท 

รายได้เหล่านี้ถูกนำไปช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางในจังหวัดสตูลแล้วถึง 1,467 คน ไม่ว่าจะเป็นผู้สูงอายุ ผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาส หรือผู้ป่วยติดเตียง เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของพวกเขาให้ดีขึ้น นอกจากนี้ การคัดแยกและนำขยะไปใช้ประโยชน์ยังช่วย ลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้มากถึง 140,594.54 KgCO2eq เลยทีเดียว!

ผู้ว่าฯ สตูล จึงขอเชิญชวนประชาชนร่วมเป็นส่วนหนึ่งของขบวนการ “เปลี่ยนขยะเป็นบุญ” นี้ โดยสามารถนำขวดพลาสติก กระดาษลัง กระป๋อง หรือขวดแก้ว ไปบริจาคได้ ณ จุดรับบริจาคที่ บริเวณหน้าสำนักงานส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นจังหวัดสตูล ชั้น 1 ศาลากลางหลังใหม่ หรือจุดรับบริจาคที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่กำหนด

ขยะของคุณ…กำลังจะเปลี่ยนเป็นรอยยิ้มให้กับเพื่อนร่วมสังคม!

……………………………..

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

ไหว้ผีโบ๊ว  ประเพณีเก่าแก่ทุ่งหว้า สืบสานอัตลักษณ์ท้องถิ่น – เสน่ห์สตูลจีโอปาร์ค

สตูล  ไหว้ผีโบ๊ว  ประเพณีเก่าแก่ทุ่งหว้า สืบสานอัตลักษณ์ท้องถิ่น – เสน่ห์สตูลจีโอปาร์ค

อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล กลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้งในช่วง เดือน 7 ตามปฏิทินจีน เมื่อเสียงกลอง เสียงฉาบ และการเชิดสิงโตดังสะท้อนก้องไปทั่วบริเวณหน้าตลาดสดเทศบาลตำบลทุ่งหว้า กับงาน ประเพณีไหว้ผีโบ๊ว (ผีหมู่) ซึ่งถือเป็นพิธีกรรมโบราณที่บอกเล่าความเชื่อ วิถีชีวิต และความกตัญญูของผู้คนในชุมชนมายาวนานกว่าร้อยปี

 

วัฒนธรรมที่สะท้อนความกตัญญู คำว่า “โบ๊ว” ในภาษาถิ่นใต้หมายถึง “หมู่” หรือ “พวก” เดิมทีพิธีนี้แต่ละครอบครัวจะจัดขึ้นเพื่อตั้งเครื่องเซ่นไหว้บรรพบุรุษ แต่เมื่อชุมชนขยายใหญ่ขึ้น จึงมีการรวมตัวประกอบพิธีครั้งใหญ่ร่วมกัน กลายเป็น การไหว้ผีหมู่ เพื่อทำบุญอุทิศแก่ผู้ล่วงลับที่ไร้ญาติให้ได้รับกุศลไปด้วย

 

ความเชื่อดังกล่าวยังสอดคล้องกับคติชาวจีนว่า เดือน 7 เป็น “เดือนผี” ซึ่งวิญญาณที่ถูกกักขังจะถูกปลดปล่อยขึ้นมาบนโลกมนุษย์ ชาวบ้านจึงแก้เคล็ดด้วยการต้อนรับ เรียกผีเหล่านั้นว่า “ฮ้อเฮียตี๋” หรือพี่น้องที่ดี เปลี่ยนความน่ากลัวให้กลายเป็นมิตรภาพและความผูกพัน

 

มากกว่าพิธีกรรม คือแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม นอกจากพิธีไหว้ผีโบ๊วแล้ว บริเวณชุมชนทุ่งหว้ายังซ่อนเสน่ห์อีกมากมาย นักท่องเที่ยวสามารถเดินชม สตรีทอาร์ตที่วาดอยู่ตามผนังบ้านเรือน สะท้อนเรื่องเล่าและวิถีท้องถิ่น พร้อมมุมถ่ายรูปสวย ๆ ที่เชื่อมโยงอดีตกับปัจจุบันได้อย่างลงตัว

 

ด้วยที่ตั้งซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของ สตูลยูเนสโกจีโอปาร์ค นักท่องเที่ยวสามารถต่อยอดการเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติอื่น ๆ ได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็น ถ้ำภูผาเพชร เกาะเขาใหญ่ น้ำตกวังสายทอง หรือชุมชนท่องเที่ยวในอำเภอใกล้เคียง ถือเป็นการเชื่อมโยงมิติของ “วัฒนธรรมกับธรรมชาติ” ได้อย่างกลมกลืน

 

           นายกิตตพงษ์ แก้วยอดทอง  หัวหน้าสนง.วัฒนธรรมจังหวัดสตูล กล่าวว่า > “การจัดงานไหว้ผีโบ๊วไม่ใช่เพียงการสืบสานพิธีกรรมเก่าแก่ แต่ยังเป็นการสร้างพื้นที่เรียนรู้ทางวัฒนธรรม เชื่อมโยงให้คนรุ่นใหม่เห็นคุณค่า และยังเป็นโอกาสพัฒนาไปสู่การท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ยั่งยืน โดยจังหวัดสตูลและเทศบาลตำบลทุ่งหว้าพร้อมสนับสนุนเต็มที่ เพื่อให้ประเพณีนี้อยู่คู่บ้านคู่เมืองตลอดไป”

ขณะเดียวกัน นายธงชัย สารอักษร ผู้เชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์ท้องถิ่น อดีตวัฒนธรรมจังหวัดสตูล ได้เล่าถึงตำนานว่า > “ในสมัยสุไหงอุเปเคยเป็นเขตหนึ่งของไทรบุรี การไหว้ผีโบ๊วถือเป็นพิธีใหญ่ที่ทุกตระกูลร่วมมือกัน เพราะเชื่อว่าผีไม่มีญาติจะเร่ร่อน หากไม่มีใครทำบุญอุทิศไปให้ก็จะเกิดความเดือดร้อนแก่ชุมชน จึงต้องรวมใจทำพิธีครั้งเดียว เพื่อเป็นทั้งการปกป้องคุ้มครองและแสดงความกตัญญูต่อบรรพบุรุษผ่านหน้ากากผี”

 

รากเหง้าที่ไม่ควรเลือนหาย ปีนี้ เทศบาลตำบลทุ่งหว้า ร่วมกับสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสตูล จัดงานขึ้นระหว่างวันที่ 15–16 กันยายน 2568 ในงานมีนักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสทั้งบรรยากาศประเพณีโบราณ ร่วมกิจกรรมของชุมชน และเปิดประสบการณ์ใหม่ในการเรียนรู้วัฒนธรรมที่เชื่อมโยงกับธรรมชาติของสตูลจีโอปาร์ค

 

ประเพณีไหว้ผีโบ๊ว จึงไม่เพียงเป็นพิธีกรรม หากแต่คือรากเหง้าของชุมชนที่สะท้อนคุณค่าความกตัญญู ความผูกพัน และความร่วมแรงร่วมใจ ซึ่งหากไม่ได้รับการสืบสานอย่างจริงจัง ก็อาจเลือนหายไปพร้อมกับกาลเวลา

…………………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

อบต.ควนโพธิ์ ดันโครงการเยาวชนรู้เท่าทันภัย “บุหรี่ไฟฟ้า” จุดประกายสำนึกต้านภัยเงียบในชุมชน

อบต.ควนโพธิ์ ดันโครงการเยาวชนรู้เท่าทันภัย “บุหรี่ไฟฟ้า” จุดประกายสำนึกต้านภัยเงียบในชุมชน

           สตูล – 19-20 ก.ค. 68 องค์การบริหารส่วนตำบลควนโพธิ์ อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ร่วมกับ สภาเด็กและเยาวชนตำบลควนโพธิ์ จัดโครงการ “เยาวชนรุ่นใหม่ รู้เท่าทันภัยบุหรี่ไฟฟ้า” ณ อุทยานแห่งชาติทะเลบัน มีเยาวชนเข้าร่วมกิจกรรมกว่า 50 คน เพื่อส่งเสริมความรู้เท่าทัน ลดพฤติกรรมเสี่ยงการใช้สารเสพติดในกลุ่มวัยรุ่น และควบคู่ไปกับการสร้างความเข้มแข็งให้กับชุมชนในการควบคุมร้านค้าที่ฝ่าฝืนกฎหมายจำหน่ายผลิตภัณฑ์ยาสูบแก่เด็กและเยาวชน

 

          โครงการได้รับการสนับสนุนงบประมาณจาก กองทุนหลักประกันสุขภาพตำบลควนโพธิ์ โดยมี นายบุญมา โดยพิลา นายก อบต.ควนโพธิ์ เป็นประธานเปิดกิจกรรม พร้อมกล่าวย้ำว่า

 

         “บุหรี่ไฟฟ้าคือภัยเงียบที่กำลังซึมลึกสู่กลุ่มเยาวชน เราต้องร่วมกันสร้างเกราะป้องกันให้เด็ก ๆ รู้เท่าทันก่อนจะสายเกินไป”

         กิจกรรมในครั้งนี้มีทั้งการให้ความรู้โดยวิทยากรเฉพาะทาง กิจกรรมกลุ่มสัมพันธ์ เวิร์กช็อปสื่อสร้างสรรค์ และบทบาทสมมุติเพื่อเสริมทักษะการปฏิเสธอย่างมั่นใจ ให้เยาวชนมีพลังในการส่งเสียงและปกป้องตนเองจากภัยใกล้ตัว

 

         การขับเคลื่อนอย่างต่อเนื่องของ อบต.และเครือข่ายสภาเด็กและเยาวชนตำบลควนโพธิ์ สะท้อนให้เห็นถึงพลังของท้องถิ่นในการเฝ้าระวังภัยบุหรี่ไฟฟ้า ลดการเข้าถึง ลดการใช้ และลดผลกระทบต่อสุขภาพของคนในชุมชน

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

รู้เท่าทันสื่อ ..หากคุณสั่งของมาแล้วไม่ตรงปก…อย่าปล่อยผ่าน! มารู้วิธีเอาคืนแบบผู้รู้ทัน

รู้เท่าทันสื่อ ..หากคุณสั่งของมาแล้วไม่ตรงปก…อย่าปล่อยผ่าน! มารู้วิธีเอาคืนแบบผู้รู้ทัน

“หากเราสั่งของออนไลน์…เปิดกล่องมา ‘โป๊ะ!’ ของไม่ตรงปก!

 

หน้าแตก เสียเงิน เสียอารมณ์… แล้วจะทำยังไง?

👉 คลิปนี้มีคำตอบ ..อย่าปล่อยผ่านเด็ดขาด! เพราะยิ่งเงียบ = มิจฉาชีพยิ่งได้ใจ

 

นี่คือ ‘4 วิธีรับมือ – เอาคืน – ป้องกัน’ แบบคนรู้ทัน 👇

 

1️⃣ แคปรูปสินค้ากับของจริงไว้เป็นหลักฐาน

2️⃣ แจ้งเรื่องผ่านแพลตฟอร์มที่ซื้อ (เลือกซื้อที่มีระบบคืนเงิน)

3️⃣ รีวิวความจริง เตือนผู้บริโภคคนอื่น พร้อมแฮชแท็ก #ของไม่ตรงปก

4️⃣ แจ้งความออนไลน์ได้ ผ่าน www.thaipolice online.com หรือสายด่วน 1441

 

👉 ยิ่งคนร้องเรียนเยอะ ระบบยิ่งจัดการมิจฉาชีพง่ายขึ้น

 

จำไว้! เราอาจเสียเงิน แต่ อย่าเสียสิทธิ์

รวมพลังคนไม่ยอมโดนหลอก แชร์โพสต์นี้…เพื่อหยุดวงจรมิจฉาชีพบนโซเชียล!”

 

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 สตูล..วิถีประมงแปรรูป สร้างอาชีพริมคลองเจ๊ะบิลัง “ปลาเส้นแคลเซียมสูง” เสริมรายได้จากเรือเล็กสู่ครัวเรือน

สตูล..วิถีประมงแปรรูป สร้างอาชีพริมคลองเจ๊ะบิลัง “ปลาเส้นแคลเซียมสูง” เสริมรายได้จากเรือเล็กสู่ครัวเรือน

สตูล – ใต้ชายคาบ้านไม้ริมน้ำในชุมชนชาวประมงเล็ก ๆ หมู่ 2 ตำบลเจ๊ะบิลัง อำเภอเมืองสตูล เสียงทอดปลาแห้งดังกรอบเบาๆ เคล้าไปกับกลิ่นหอมของแดดทะเล กลายเป็นบรรยากาศอบอุ่นของครัวเรือนที่เปลี่ยนปลาท้องถิ่น ให้กลายเป็น “ปลาเส้นแคลเซียมสูง” อาหารพื้นถิ่นที่กำลังกลายเป็นรายได้หลักให้ครอบครัว

 

นางสุนิตา เรืองเดช วัย 42 ปี คือหนึ่งในคนต้นแบบของการแปรรูปอาหารจากวิถีประมงพื้นบ้าน เธอเริ่มแปรรูปปลามานานกว่า 6 ปีแล้ว   โดยใช้ปลาโคก หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ปลาบาสี” ซึ่งหาได้ง่ายจากเรือประมงพื้นบ้านที่ออกหาปลาในคลองใกล้บ้าน

 

“ปลาชนิดนี้มีเกล็ดเยอะ ขนาดเล็ก คนทั่วไปไม่ค่อยเอาไปทำอะไร แต่เรามองว่ามีคุณค่า จึงแปรรูปเป็นปลาแห้ง แล้วมาตัดซอยเป็นเส้น บางคนนำไปย่าง บางคนชอบทอดกรอบ ทานกับข้าวต้ม หรือจะเอาไปยำมะม่วงก็อร่อยค่ะ” สุนิตาเล่าอย่างภูมิใจ

 ปลาบาสี   หลังแปรรูปแล้ว มีรสชาติกลมกล่อม เคี้ยวง่าย ถูกใจทุกกลุ่มวัย และที่สำคัญคืออุดมด้วยแคลเซียมสูง โดยเฉพาะกลุ่มคนตั้งครรภ์ที่ต้องการสารอาหารบำรุงกระดูก ซึ่งสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานนับเดือน จึงกลายเป็นของฝากจากสตูล  ที่ลูกค้าต่างจังหวัดนิยมสั่งซื้อผ่าน   เพจ “ปลาเส้นแคลเซียมเจ๊ะบิลัง”  ออเดอร์ต่อเดือนรับได้ครั้งละ 30-50 กิโลกรัมเลยทีเดียว

 

นอกจากปลาเส้นแล้ว เธอยังคิดต่อยอดด้วยการทำปลาผ่าหลัง และวางแผนพัฒนาเป็นปลาหวาน หรือ “ปลากลม” ในอนาคต ขึ้นอยู่กับชนิดปลาที่ได้มาในแต่ละวัน

วิถีชุมชนของที่นี่แตกต่างจากเมืองใหญ่ ด้านหลังบ้านของชาวประมงทุกหลัง  จะติดคลองน้ำเค็มที่ไหลสู่ทะเล เปิดโอกาสให้เรือประมงลำเล็กออกหาวัตถุดิบสดใหม่ได้ทุกเช้า   สุนิตาบอกว่า สามีของเธอก็ทำอาชีพขับเรือนำเที่ยวในต่างจังหวัด ช่วงที่ว่างจากงาน เธอก็ใช้เวลาที่บ้าน  ทำปลาเส้น ควบคู่กับการเลี้ยงลูก และมีลูก ๆมาช่วยแปรรูปในครัวเรือนอีกแรง

แม้ขั้นตอนการทำจะยุ่งยาก ต้องล้าง ขูดเกล็ด ตากแดด ตัดเป็นเส้น และควบคุมความแห้งให้พอดี แต่เธอบอกว่า คุ้มค่าทุกหยาดเหงื่อ เพราะสามารถสร้างรายได้เดือนละหลายพันบาทถึงหลักหมื่น โดยไม่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน

 

 “เราไม่ได้ทำโรงงานใหญ่ ทำแค่ในครัวหลังบ้าน แต่ก็มีคนติดใจจนสั่งซ้ำ ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายในครอบครัว และเรายังได้ดูแลลูกไปด้วยค่ะ”

 

ปลาเส้นแคลเซียมสูงจากเจ๊ะบิลัง จึงไม่ใช่แค่ของกินพื้นบ้าน แต่เป็นเครื่องมือสำคัญ  ที่สร้างรายได้จากวิถีชีวิตเล็กๆ ในครัวเรือนชาวประมง   และเป็นตัวอย่างของการ “กินอยู่กับธรรมชาติ” อย่างยั่งยืน   ที่น่าเอาเป็นแบบอย่างในยุคเศรษฐกิจปัจจุบัน

……

 

อัพเดทล่าสุด