Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

สตูลเตรียมจัดมหกรรมวิ่งระดับนานาชาติ “Satun Musical Run 2025”  กระตุ้นเศรษฐกิจท่องเที่ยว

สตูลเตรียมจัดมหกรรมวิ่งระดับนานาชาติ “Satun Musical Run 2025”  กระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการท่องเที่ยว

          วันที่ 27 มี.ค.68  ที่บริเวณสนามกีฬากลางจังหวัดสตูล อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล มอบหมายให้ นายธนพัฒน์ เด่นบุรณะหัวหน้าสำนักงานจังหวัดสตูล แถลงข่าวร่วมกับนางสาวภัชกุล ตรีพันธ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสตูล นายกิติศักดิ์ มูสิกสง นายกเทศมนตรีเมืองสตูล พร้อมด้วยผู้แทนผู้บังคับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสตูล ผู้แทนนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสตูล ผู้แทนนายกเทศมนตรีตำบลคลองขุด และผู้แทนนายกองค์การบริหารส่วนตำบลควนขัน เพื่อประชาสัมพันธ์การจัดกิจกรรม Satun Musical run 2025 ในวันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม 2568 ณ สนามบินกองทัพอากาศ ตำบลคลองขุด อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน คณะทำงานฯ และสื่อมวลชนเข้าร่วมงานแถลงข่าวเป็นจำนวนมาก

        สำหรับกิจกรรม Satun Musical run 2025 สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสตูล กำหนดจัดขึ้นตามโครงการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติกระตุ้นเศรษฐกิจจังหวัดสตูล ในวันเสาร์ที่ 24 พฤษภาคม 2568 ณ บริเวณสนามบินกองทัพอากาศสตูล ตำบลคลองขุด อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมรายได้ให้กับประชาชนในพื้นที่และสร้างภาพพจน์ที่ดีและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน อีกทั้งยังสามารถส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่จังหวัดสตูล โดยใช้กิจกรรมกีฬาและนันทนาการเป็นสื่อกลางในการนำนักท่องเที่ยวให้เข้ามาในจังหวัดสตูล อีกทั้งเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนได้ออกกำลังกาย มีสุขภาพร่างกายที่ สมบูรณ์แข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ

         ทั้งนี้ภายในกิจกรรมมีการแข่งขันวิ่ง ประเภท 1.มาราธอน ระยะทาง 42 กิโลเมตร , 2.ฮาล์ฟมาราธอน ระยะ 21 กิโลเมตร , 3.มินิมาราธอน ระยะ 10.5 กิโลมตร และ 4.ประเภทฟันรัน ระยะ 5 กิโลเมตร รับสมัครจำนวน 5,000 คน ทั่วประเทศ นอกจากนี้หลังจบการแข่งขันมีการจัดแสดงคอนเสิร์ตจากศิลปินนักร้องชื่อดัง ได้แก่ วงโปเตโต้ และ Jetset’er ไม่เสียค่าใช้จ่ายใดๆ

……………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

สตูล- ฝึกซ้อมการอพยพหนีไฟศาลากลางจังหวัด เสริมสร้างความปลอดภัยรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สตูล- ฝึกซ้อมการอพยพหนีไฟศาลากลางจังหวัด เสริมสร้างความปลอดภัยรับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

         วันนี้ (27 มี.ค. 68) ที่ห้องประชุมโต๊ะพญาวัง ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดสตูล นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล มอบหมายให้ นายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานการอบรมดับเพลิงและอพยพหนีไฟ ในพื้นที่ศาลากลางจังหวัด  เพื่อเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจในการป้องกันและรับมือกับเหตุเพลิงไหม้ให้กับบุคลากรภายในศาลากลาง   โดยการฝึกอบรมในช่วงเช้า เริ่มต้นด้วยการให้ความรู้เกี่ยวกับหลักการดับเพลิงเบื้องต้น การใช้อุปกรณ์ดับเพลิงอย่างถูกต้อง และแนวทางปฏิบัติเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน เช่น วิธีการแจ้งเหตุ การประเมินสถานการณ์ และการอพยพอย่างปลอดภัย โดยมีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมให้ความรู้  มีหัวหน้าส่วนราชการ ภาคเอกชน และผู้เกี่ยวข้องเข้าร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้

 

         ช่วงเวลาประมาณ 10.30 น. เป็นการฝึกซ้อมเสมือนจริง โดยจำลองสถานการณ์ไฟไหม้ภายในอาคารศาลากลางจังหวัดสตูล  ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้จำลองเหตุการณ์เพลิงไหม้ ที่ห้องสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ชั้น 2 อาคารหลังเก่า โดยเจ้าหน้าที่ได้ทำการดับไฟเบื้องต้น แต่ไม่สามารถควบคุมสถานการณ์ได้ และเพลิงได้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว  จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่อพยพ พร้อมทั้งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คือ สถานีดับเพลิงเทศบาลเมืองสตูล   โรงพยาบาลสตูล   มูลนิธิธรรมรังสี   สถานีตำรวจภูธรเมืองสตูล   การประปาส่วนภูมิภาคสาขาสตูล   และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจังหวัดสตูล   ก่อนที่เจ้าหน้าที่จะเข้าควบคุมสถานการณ์ ได้ในเวลาประมาณ 11.30 น. โดยมีการสั่งอพยพบุคลากรออกจากอาคารอย่างเป็นระบบ รวมถึงการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยดับเพลิง หน่วยกู้ภัย และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทุกคนเกิดความคุ้นเคยและสามารถปฏิบัติตามแผนได้อย่างถูกต้อง

           ภายหลังการฝึกซ้อม นายคณิต  คงช่วย  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ได้กล่าวให้โอวาท พร้อมสรุปผลการฝึกซ้อม เพื่อประเมินความพร้อมและพัฒนาแนวทางการปฏิบัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉินในอนาคต ตลอดจนเสริมสร้างความปลอดภัยและความมั่นใจให้กับทุกคนที่เข้ามาใช้บริการภายในศาลากลางจังหวัดสตูลต่อไป

………………….

ภาพ-ข่าว  ประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล

Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 ขนม”จูจอ” สานสัมพันธ์ชุมชน ฟื้นชีวิตขนมโบราณควนสตอ

ขนม“จูจอ” สานสัมพันธ์ชุมชน ฟื้นชีวิตขนมโบราณควนสตอ

          ที่อบต.ควนสตอ อ.ควนโดน จ.สตูล  ความร่วมแรงร่วมใจของแม่บ้าน 30 คน  จากหลากหมู่บ้านใน ตำบลควนสตอ วันนี้ได้รวมตัวกันสืบสานวัฒนธรรมการทำขนมโบราณ  เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับงานบุญที่กำลังจะถึง โดยมี “นางฮาหยาด  เกปัน” วัย 67 ปี ปราชญ์ชาวบ้านผู้เป็นเจ้าของสูตรขนม “จูจอ” หรือ “ดอกบัว” นำทีมในการถ่ายทอดภูมิปัญญาท้องถิ่น

         การรวมตัวครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการทำขนมเพื่องานบุญ 300 โต๊ะ หากยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์และสานต่อวัฒนธรรมอันดีงามของชุมชน พวกเขาได้ร่วมกันผลิตขนมหลากชนิด อาทิ ขนมโค กล้วยหยำ และจูจอ รวมทั้งสิ้น 12 กิโลกรัม หรือประมาณ 1,200 ชิ้น

          สูตรลับของขนม “จูจอ” ประกอบด้วยแป้งสาลี 1 กิโลกรัม  แป้งข้าวเจ้าครึ่งกิโลกรัม  น้ำตาลทรายขาว 8 กรัม น้ำตาลอ้อย 2 กรัม และเกลือเล็กน้อย ขั้นตอนการทำต้องอาศัยความชำนาญ โดยเฉพาะการหยอดแป้งทอดให้เป็นรูปดอกไม้ และค่อยๆ ปรุงไฟให้สุกอย่างเป็นขั้นเป็นตอน

          ขนมจูจอกลายเป็นของขึ้นชื่อประจำตลาดเช้า นิยมทานคู่กับโกปี้อ้อและชาเย็น ราคาเริ่มต้นเพียง 3-5 บาท สะท้อนให้เห็นถึงวิถีชีวิตและวัฒนธรรมของชาวใต้มุสลิมที่เรียบง่ายแต่ทรงคุณค่า

         การอนุรักษ์และสืบสานมรดกทางวัฒนธรรมผ่านขนมโบราณเช่นนี้  นับเป็นพลังสำคัญในการเชื่อมโยงคนในชุมชน สร้างความภาคภูมิใจ และถ่ายทอดภูมิปัญญาสู่คนรุ่นต่อไป

……..

Categories
ข่าวเด่น

จับกุมชายวัย 44 ปี ครอบครองอาวุธปืนเถื่อนในบ้านพัก จ.สตูล

จับกุมชายวัย 44 ปี ครอบครองอาวุธปืนเถื่อนในบ้านพัก จ.สตูล

         21 มีนาคม 2568  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองสตูล ร่วมกับตำรวจตรวจคนเข้าเมืองและฝ่ายปกครอง บุกจับกุมชายวัย 44 ปี หลังพบอาวุธปืนไทยประดิษฐ์หลายกระบอกซุกซ่อนภายในบ้านพัก ต.คลองขุด อ.เมืองสตูล จ.สตูล

          เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 21 มี.ค. 68) พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ ปรากฎชื่อ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสตูล สั่งการให้ชุดปฏิบัติการพิเศษร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสตูล นำโดย พ.ต.ท.ยงยุทธ เลิศปรีชาพงศ์ และฝ่ายปกครองอำเภอเมืองสตูล นำโดย นายสิทธิวุฒิ ทรงสวัสดิ์ ปลัดอำเภอเมืองสตูล พร้อมด้วยกำนันตำบลคลองขุด เข้าตรวจค้นในพื้นที่หมู่ 1 ตำบลคลองขุด อำเภอเมืองสตูล

          จากการสืบทราบจากสายลับว่ามีการซุกซ่อนอาวุธปืนผิดกฎหมายไว้ในบ้านหลังดังกล่าว  เจ้าหน้าที่จึงขอหมายค้นจากศาลจังหวัดสตูล หมายเลข ค.21/2568 ลงวันที่ 20 มีนาคม 2568 เพื่อเข้าตรวจค้น

        เมื่อเดินทางถึงเวลาประมาณ 08.30 น. พบ นายประสิทธิชัย (สงวนนามสกุล)  อายุ 44 ปี เจ้าของบ้าน ซึ่งยินยอมให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นหลังจากเจ้าหน้าที่ได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ ผลการตรวจค้นพบของกลางประกอบด้วย:

  1. อาวุธปืนยาวไทยประดิษฐ์ ขนาด .22 จำนวน 1 กระบอก พร้อมชุดลูกเลื่อนลำกล้อง 2 ชุด ซึ่งวางอยู่บริเวณหลังบ้าน
  2. อาวุธปืนพกสั้นไทยประดิษฐ์ ขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก
  3. อาวุธปืนปากกา จำนวน 2 กระบอก
  4. กระสุนปืนขนาด 9 มม. จำนวน 3 นัด บรรจุในแม็กกาซีน 2 แม็ก ซุกซ่อนอยู่ในกระเป๋าสะพายแบบสานสีน้ำตาลภายในห้องครัว

          เมื่อสอบถาม นายประสิทธิชัย  ยอมรับว่าอาวุธปืนและเครื่องกระสุนทั้งหมดเป็นของตนเอง เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสตูล เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

 

          ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเผยว่า การจับกุมครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่งของมาตรการกวาดล้างอาวุธปืนผิดกฎหมายในพื้นที่ เพื่อป้องกันไม่ให้อาวุธปืนตกไปอยู่ในมือของผู้ไม่หวังดีและนำไปก่อเหตุอาชญากรรม ซึ่งจะยังคงเข้มงวดตรวจค้นในพื้นที่เสี่ยงอย่างต่อเนื่อง

……………………………………………

Categories
ข่าวทั่วไป ท่องเที่ยว-กีฬา

ย้อนเวลาสู่มนต์เสน่ห์แห่งอันดามัน! เชิญร่วมงาน “สไบ กะบาย่า ปาเต๊ะ” Andaman Retro 2025

ย้อนเวลาสู่มนต์เสน่ห์แห่งอันดามัน! เชิญร่วมงาน “สไบ กะบาย่า ปาเต๊ะ” Andaman Retro 2025

วันที่ (20 มี.ค.68) ที่สมาคมจงหัว จังหวัดสตูล นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล มอบหมายให้นายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ร่วมงานแถลงข่าวโครงการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสานสัมพันธ์ไทย จีน มลายู “สไบ กะบาย่า ปาเต๊ะ” Andaman Retro 2025 โดยมีนางสาวภัชกุล ตรีพันธ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสตูล นายกิติศักดิ์ มูสิกสง  นายกเทศมนตรีเมืองสตูล หัวหน้าส่วนราชการ สื่อมวลชน และประชาชนเข้าร่วมงาน

        การจัดงานโครงการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมสานสัมพันธ์ไทย จีน มลายู “สไบ กะบาย่า ปาเต๊ะ” Andaman Retro 2025  กำหนดจัดขึ้นที่จังหวัดสตูล ในวันที่ 2 – 4 เมษายน 2568 ณ บริเวณสนามบินกองทัพอากาศ และ ถนนบุรีวานิช ย่านเมืองเก่า โดยมุ่งเน้นไปที่การนำเสนอวัฒนธรรมไทย-จีน-มลายูผ่านชุดแต่งกายแบบดั้งเดิม อาทิ สไบ กะบาย่า และปาเต๊ะ ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการผสมผสานของวัฒนธรรมที่มีมาอย่างยาวนานของจังหวัดสตูล และการจัดงาน Andaman Retro 2025 นี้ ยังถือเป็นอีกหนึ่งกลยุทธ์สำคัญในการส่งเสริมการท่องเที่ยวให้เติบโตอย่างยั่งยืน และช่วยสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนท้องถิ่น พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้สัมผัสกับวัฒนธรรมที่สวยงามและเป็นเอกลักษณ์ของอันดามันอีกด้วย

           ทั้งนี้เพื่อประชาสัมพันธ์ชุมชนเมืองเก่า ประเพณี วัฒนธรรม และวิถีชีวิตในจังหวัดสตูล ให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ รวมไปถึงการกระตุ้นเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยวและการบริการของจังหวัดสตูล พร้อมสร้างจุดขายและส่งเสริมการตลาดด้านการท่องเที่ยว เพื่อเพิ่มมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับพื้นที่ให้เป็นที่รู้จักสู่สากล

Categories
ข่าวเด่น

สตูลทลายเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ ยึดยาบ้ากว่า 3 หมื่นเม็ด พร้อมอาวุธปืน-ทรัพย์สินกว่า 1.5 ล้าน

สตูลทลายเครือข่ายค้ายาเสพติดรายใหญ่ ยึดยาบ้ากว่า 3 หมื่นเม็ด พร้อมอาวุธปืน-ทรัพย์สินกว่า 1.5 ล้าน

           (19 มี.ค.2568) นายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อม กอ.รมน.จว.สตูล และ พล.ต.ต.มารุต เรืองจินตนา ผบก.ภ.จว.สตูล, พ.ต.อ.ประสิทธิ์ ดำกระบี่ รอง ผบก.ภ.จว.สตูล พ.ต.อ.ปรีชา เพ็ชรรัตน์ ผกก.สภ.ท่าแพ จ.สตูล พร้อมด้วยฝ่ายปกครองอำเภอท่าแพ และคณะเจ้าหน้าที่ระดับสูง ร่วมแถลงข่าวการจับกุมผู้ต้องหารายสำคัญในคดียาเสพติด

          โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดปราบปรามยาเสพติด ภ.จว.สตูล ภายใต้การสั่งการของ พ.ต.ท.อภิสิทธิ์ ปะดุกา รอง ผกก.สืบสวนฯ ได้จับกุมตัว นายอนุสรณ์ หรือซีด (สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ต.แป-ระ อ.ท่าแพ จว.สตูล พร้อมของกลางยาบ้าจำนวนมหาศาลถึง 34,506 เม็ด อาวุธปืนพกสั้นขนาด 9 มม. จำนวน 1 กระบอก มูลค่าประมาณ 60,000 บาท กระสุนปืน 45 นัด และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง

          นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจยึดทรัพย์สินตามประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ.2564 ประกอบด้วย รถยนต์กระบะยี่ห้ออีซูซุ รุ่นดีแมค สีขาว จำนวน 1 คัน มูลค่าประมาณ 700,000 บาท, รถยนต์เก๋งยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซิตี้ สีเทา จำนวน 1 คัน มูลค่าประมาณ 500,000 บาท, รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นฟอร์ซา สีน้ำเงิน-ดำ จำนวน 1 คัน มูลค่าประมาณ 20,000 บาท, เครื่องประดับทองคำมูลค่ากว่า 120,000 บาท, สมุดบัญชีธนาคาร 3 เล่ม และเงินสด 4,190 บาท รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดทั้งสิ้นประมาณ 1,595,790 บาท

         จากการสอบสวนเบื้องต้น พบว่าผู้ต้องหารายนี้เป็นผู้ค้ายาเสพติดรายใหญ่ของจังหวัดสตูล มีการทำธุรกรรมทางการเงินสูงถึง 12 ล้านบาทในวันเดียว และจากคำให้การของผู้ต้องหาอ้างว่าได้ทำการค้ายาเสพติดมาแล้ว 5 ครั้ง โดยที่ผ่านมามีพี่ชายของผู้ต้องหาเคยถูกจับกุมพร้อมยาบ้ามากถึง 6 ล้านเม็ด แสดงให้เห็นถึงเครือข่ายการค้ายาเสพติดขนาดใหญ่ที่มีการดำเนินการมาอย่างต่อเนื่อง

          ทั้งนี้ ผู้ต้องหาถูกตั้งข้อหา “จำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (ยาบ้า) โดยมีไว้เพื่อจำหน่าย โดยกระทำเพื่อการค้า ก่อให้เกิดการแพร่กระจายในกลุ่มประชาชน โดยมีอาวุธปืนหรือใช้อาวุธปืน”, “เสพยาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เมทแอมเฟตามีน) โดยฝ่าฝืนต่อกฎหมาย” และ “มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต”

          โดยเหตุเกิดที่บ้านเลขที่ 57 ต่อเนื่องบ้านเลขที่ 127 หมู่ที่ 6 ตำบลแป-ระ อำเภอท่าแพ จังหวัดสตูล  โดยทางเจ้าหน้าที่จะขยายผลการจับกุมเพื่อติดตามเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญที่เกี่ยวข้องต่อไป

…………….

 

Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 จากพนักงานบริษัทสู่เจ้าของกิจการ  “ขนมครกไส้โคตรทะลัก” สร้างรายได้วันละ 2,000 บาท

จากพนักงานบริษัทสู่เจ้าของกิจการ  “ขนมครกไส้โคตรทะลัก” สร้างรายได้วันละ 2,000 บาท

          ที่ตลาดรอมฎอน  ต.ฉลุง  อ.เมือง  จ.สตูล  นางสาวฐิติภัทร โลณะปาลวงษ์ อายุ 36 ปี เจ้าของร้าน “ขนมครกไส้โคตรทะลัก” เล่าให้ฟังถึงเส้นทางการเปลี่ยนชีวิตจากพนักงานบริษัทในแผนกซีพี สู่การเป็นผู้ประกอบการขนมไทยที่มีรายได้วันละ 2,000 บาท จากขนมครกเพียง 3 กิโลกรัมต่อวัน

 

          นางสาวฐิติภัทรเล่าว่า “เริ่มต้นจากการตั้งครรภ์ลูกคนที่สอง และความชอบส่วนตัวในการขายของ” “ดิฉันได้ศึกษาการทำขนมครกจากช่องทางออนไลน์ แล้วทดลองทำด้วยตัวเอง ลองผิดลองถูกจนได้สูตรที่ลงตัวอย่างทุกวันนี้”

 

          โดยความพิเศษของขนมครกร้านนี้อยู่ที่การใช้แป้งข้าวไรซ์เบอร์รี่ ผสมกับน้ำกะทิคุณภาพดี ทำให้ได้เนื้อขนมที่นุ่ม หอม ไม่แข็งกระด้าง โดยเมื่อทำแป้งเสร็จแล้วจะเติมหัวกะทิอีกครั้ง และตามด้วยไส้ที่หลากหลายถึง 4 ชนิด ได้แก่:  – ไส้ฟักทอง  – ไส้มันม่วง  – ไส้ข้าวโพด  – ไส้เผือก

 

         “ความลับอยู่ที่เราใส่ใจในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกวัตถุดิบ การผสมแป้ง และการทำไส้ที่สด ใหม่ทุกวัน หวานพอดี มันจากหัวกะทิ ไม่ใช้วัตถุกันเสีย” คุณฐิติภัทรกล่าว

 

         ด้วยประสบการณ์จากการทำงานในบริษัท คุณฐิติภัทรได้นำความรู้ด้านการตลาดมาปรับใช้กับธุรกิจขนมครก จัดแคมเปญ “ซื้อขนมครก 20 บาท แถมคูปอง 1 ใบ” เมื่อสะสมครบ 10 ใบ สามารถแลกขนมครกฟรี 1 กล่อง  

          “การทำแคมเปญนี้ช่วยเพิ่มยอดขายได้มากขึ้น เพราะลูกค้าอยากได้คูปองมากๆ จึงซื้อในปริมาณมากขึ้น และในเดือนนี้มีลูกค้าไม่น้อยกว่า 3 รายแล้วที่มาแลกขนมฟรีจากการสะสมแต้ม” คุณฐิติภัทรกล่าวด้วยรอยยิ้ม

              ความอร่อยของขนมครกไส้โคตรทะลักไม่เพียงเป็นที่ชื่นชอบของลูกค้าทั่วไป แต่ยังได้รับการยอมรับจากนายกเทศมนตรีตำบลฉลุง  และผู้รับสัมปทานตลาดที่ยอมรับว่า “ขนมครกเป็นอีกหนึ่งเมนูที่ได้รับความนิยม เป็นอาหารว่าง อาหารแก้บวชของพี่น้องชาวไทยมุสลิม”

 

           สำหรับเวลาเปิดให้บริการ  ในเดือนรอมฎอน  ตั้งแต่เวลา  13.00-18.00 น.  เดือนปกติ เริ่มตั้งแต่เวลา 10.00-18.00 น. ที่สามแยกฉลุง  สนใจสั่งขนมครกไส้โคตรทะลัก สามารถติดต่อได้ที่ 099-304-2659

 

     “จากความฝันเล็กๆ สู่ความสำเร็จวันนี้ ไม่ว่าคุณจะอยู่ในช่วงไหนของชีวิต ก็สามารถเริ่มต้นทำธุรกิจได้ ขอเพียงมีใจรัก ตั้งใจ และลงมือทำอย่างจริงจัง” คุณฐิติภัทรทิ้งท้าย

…………………………………..

Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 แม่บ้านสตูลสร้างรายได้จากขนมโบราณ ‘โกยเปต’ สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นกว่า 20 ปี

แม่บ้านสตูลสร้างรายได้จากขนมโบราณ ‘โกยเปต’ สืบสานภูมิปัญญาท้องถิ่นกว่า 20 ปี

          ที่หมู่บ้านเขาน้อยใต้ หมู่ 12 ตำบลฉลุง อำเภอเมือง จังหวัดสตูล นางฝาตีม๊ะ ดาหมาด อายุ 58 ปี พร้อมด้วยญาติพี่น้องในครอบครัวกำลังเร่งมือทำขนมโบราณที่เรียกว่า “โกยเปต” หรือ “ขนมทองพับ” เพื่อให้ทันต่อความต้องการของลูกค้า โดยเฉพาะในช่วงใกล้เทศกาลฮารีรายาของพี่น้องชาวไทยมุสลิม

         

         ขนมโกยเปตที่นี่มีเอกลักษณ์พิเศษด้วยการใช้สูตรโบราณและวิธีการทำแบบดั้งเดิม โดยใช้เตาถ่านในการย่าง ซึ่งช่วยเพิ่มความหอมให้กับขนม ทำให้มีรสชาติที่แตกต่างและน่ารับประทานยิ่งขึ้น

 

          “เริ่มจากทำกินในครอบครัว แล้วค่อยพัฒนามาเป็นอาชีพ” นางฝาตีม๊ะเล่าถึงจุดเริ่มต้นของธุรกิจขนมโกยเปตที่ดำเนินมากว่า 20 ปี จนเป็นที่รู้จักในนาม “โกยเปตมะหลง” 

 

          ส่วนผสมหลักของขนมโกยเปตประกอบด้วย แป้งข้าวเจ้า กะทิ น้ำตาล และไข่ไก่ โดยหนึ่งกระปุกจะบรรจุประมาณ 70 แผ่น กำลังการผลิตอยู่ที่วันละ 3-4 กิโลกรัม หรือประมาณ 7 กระปุก โดย 1 กิโลกรัมจะใช้มะพร้าวถึง 4 ลูกและไข่ไก่.  ซึ่งทางร้านเน้นทั้งคุณภาพและปริมาณ

 

          วิธีการทำขนมโกยเปตมีเคล็ดลับอยู่ที่การสังเกตสีของแป้ง หลังจากวางแท่นพิมพ์ลงบนเตาถ่าน ให้รอจนแป้งที่อยู่รอบขอบแท่นพิมพ์เปลี่ยนเป็นสีเหลือง แล้วจึงรีบยกขึ้นมาพับเป็นรูปสี่เหลี่ยมทันที จะได้ขนมที่มีสีเหลืองสวย แบน และง่ายต่อการบรรจุลงกล่อง

 

          ขนมโกยเปตของนางฝาตีม๊ะ  เป็นที่นิยมอย่างมากในช่วงเทศกาลฮารีรายา  เนื่องจากทุกบ้านจะต้องซื้อไว้รับรองแขกที่มาเยี่ยมเยียน  แต่ทางร้านยังคงเปิดขายตลอดทั้งปี ทำให้เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับของฝากหรือของขวัญในโอกาสพิเศษต่างๆ

          ด้านนายสุจริต  ยามาสา  นายก อบต.ฉลุง ยอมรับว่าขนมร้านของนางฝาตีม๊ะ  มีความอร่อยและรักษาคุณภาพของอาหารได้อย่างยอดเยี่ยมจนเป็นที่ขึ้นชื่อ แต่สิ่งที่ต้องการพัฒนาต่อไปคือเรื่องของตราสินค้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ซึ่งทาง อบต. จะเข้ามาช่วยหนุนเสริมในส่วนนี้ เพื่อเพิ่มมูลค่าของสินค้า นอกจากนี้ ทางองค์การบริหารส่วนตำบลยังจะช่วยส่งเสริมการขายผ่านช่องทางต่างๆ และสนับสนุนให้มีการรวมกลุ่ม เพื่อให้ภาครัฐสามารถเข้ามาช่วยเหลือได้มากขึ้น

 

          สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสั่งซื้อขนมโกยเปตได้ในราคากระปุกใหญ่ และกระปุกเล็ก

Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 11 ปีแห่งตำนานไก่ย่างกอและโบราณไม้ละ 5 บาท  อร่อยเท่าเดิม ราคาคงเดิม ท่ามกลางค่าครองชีพพุ่ง

11 ปีแห่งตำนานไก่ย่างกอและโบราณไม้ละ 5 บาท  อร่อยเท่าเดิม ราคาคงเดิม ท่ามกลางค่าครองชีพพุ่ง

          ในยุคที่ราคาอาหารถีบตัวสูงขึ้น มีร้านเล็กๆ ริมคลอง(เอวหัก)  ม.7 ซอยทรายทอง  ทต.คลองขุด อ.เมืองสตูล แห่งหนึ่งที่ยังคงยืนหยัดขายไก่ย่างไม้ละ 5 บาทมาเนิ่นนานถึง 11 ปี “ร้านสามพี่น้องริมคลองเอวหัก” ของคุณอัญชลี บิลเต๊ะ หรือที่ลูกค้ารู้จักกันในนาม “น้องกิ๊ก” วัย 38 ปี คือตัวอย่างของความมุ่งมั่นที่หาได้ยากในปัจจุบัน

 

         “ขายราคานี้ลูกค้าอยู่ได้ เราก็อยู่ได้” คือคำพูดติดปากของคุณอัญชลี ลูกค้าส่วนใหญ่ที่มาซื้อส่วนใหญ่ก็จะเป็นลูกค้าประจำ และนักเรียน อีกทั้งเป็นผู้ซึ่งใช้อาชีพขายไก่ย่างเลี้ยงดูครอบครัว 6 ชีวิต รวมลูกอีก 4 คน โดยทางร้านเปิดให้บริการวันละสองรอบ ช่วงเช้าตั้งแต่ 06.00-09.00 น. และช่วงบ่ายตั้งแต่ 15.00-18.00 น. (และหยุดทุกวันเสาร์)  ยกเว้นช่วงเดือนรอมฎอนที่จะเปิดขายตอน 14.00 น. ทุกวันไม่มีวันหยุด

 

          เมนูยอดนิยมของทางร้านคือ “ไก่ย่างสามรส” ในราคาเพียงไม้ละ 5 บาท และ “ไก่กอและ” หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ไก่แดงโบราณ” ในราคาไม้ละ 10 บาท พร้อมข้าวเหนียวห่อละ 5 บาท โดยทั้งหมดมีหอมกระเทียมเจียวโรยหน้าให้เพิ่มความหอม

             คุณอัญชลี  เล่าว่า น้ำราดไก่กอและสุดพิเศษใช้สูตรจากพี่เขยที่จังหวัดตรัง มีส่วนผสมของเครื่องแกง ถั่วลิสง พริกแห้ง ผสมแป้งข้าวโพดเล็กน้อย น้ำตาลทราย และเกลือ ทำให้ได้รสชาติที่หวาน มัน เค็ม และเผ็ดเล็กน้อย ที่สำคัญคือทำสดใหม่ทุกวัน

 

          ทางร้านปรับตัวเข้ากับเทศกาลรอมฎอนด้วยการเพิ่มเครื่องดื่มหลากหลายชนิด ทั้งน้ำพุทรา น้ำกระเจี๊ยบ โอเลี้ยง ชาดำเย็น และน้ำลิ้นจี่ ในราคาเพียงถุงละ 10 บาท

 

          ทุกวันคุณอัญชลีจะเตรียมไก่ย่างวันละประมาณ 10 กิโลกรัม แบ่งเป็นช่วงเช้า 5 กิโลกรัม (ซึ่ง 1 กิโลกรัมสามารถแบ่งได้ประมาณ 60 ไม้ ) โดยชิ้นส่วนที่ขายดีที่สุดคือหนังไก่และเนื้อสะโพก

 

           ป้ายิ้ม ลูกค้าประจำของร้าน กล่าวว่า “ซื้อที่ร้านนี้เป็นประจำเพราะรสชาติอร่อย ราคาถูก ซื้อประจำทั้งเช้าและเย็น”

 

           หากใครสนใจอยากลิ้มลองไก่ย่างราคาประหยัดที่คงราคาเดิมมานานถึง 11 ปี สามารถไปอุดหนุนได้ที่ “ร้านสามพี่น้องริมคลอง” ตั้งอยู่ที่ซอยเอวหัก ริมคลอง. หรือทรายทอง หมู่ 7 เขตเทศบาลตำบลคลองขุดอำเภอเมืองสตูล หรือติดต่อคุณอัญชลีได้ที่ 065-015-0955

…………

Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา สัมภาษณ์พิเศษ-คอลัมน์นิสต์

รุ่นใหม่ไฟแรง! บอสปีเตอร์ นายกสมาคมกีฬาสตูลคนล่าสุด พลิกโฉมวงการกีฬาจังหวัดเล็กด้วยวิสัยทัศน์ “กีฬาสร้างเมือง”

รุ่นใหม่ไฟแรง! บอสปีเตอร์ นายกสมาคมกีฬาสตูลคนล่าสุด พลิกโฉมวงการกีฬาจังหวัดเล็กด้วยวิสัยทัศน์ “กีฬาสร้างเมือง”

          นายพีรพัฒน์  รัชกิจประการ หรือ “บอสปีเตอร์” วัย 31 ปี ผู้จัดการทีม PT สตูล FC ได้รับความไว้วางใจให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดสตูล นับเป็นนายกสมาคมกีฬาจังหวัดที่อายุน้อยที่สุดในประเทศ พร้อมนำประสบการณ์จากวงการกีฬาและธุรกิจมาพัฒนาวงการกีฬาท้องถิ่น

           บอสปีเตอร์  ผู้บริหารรุ่นใหม่ไฟแรงที่ครองตำแหน่งผู้จัดการทีมสโมสร PT สตูล FC มาแล้ว 2 ปี และยังเป็นผู้บริหารตลาดแลจันทร์  ได้เล็งเห็นศักยภาพที่ซ่อนอยู่ในจังหวัดเล็กๆ อย่างสตูล พร้อมเปิดใจถึงความท้าทายและโอกาสในการพัฒนาวงการกีฬาของจังหวัด

           “จังหวัดสตูลของเราเป็นจังหวัดที่เล็กมาก งบประมาณพัฒนากีฬาจึงน้อยกว่าจังหวัดอื่นอย่างมาก แต่ผมเชื่อว่าพลังของการรวมตัวและการสร้างเครือข่ายจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้” บอสปีเตอร์กล่าว “เราจะดึงหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนเข้ามาร่วมสนับสนุน เพราะการทำงานคนเดียวไม่มีทางสำเร็จ แต่การทำงานเป็นทีมจะพาเราไปถึงเป้าหมาย”

 

          แม้เป็นจังหวัดขนาดเล็กที่ไม่มีมหาวิทยาลัย ทำให้นักกีฬาที่มีพรสวรรค์มักถูกดึงตัวไปจังหวัดอื่นหลังจบการศึกษาระดับมัธยม แต่สตูลก็มีชื่อเสียงในวงการกีฬาหลายประเภท โดยเฉพาะฟุตบอลที่รู้จักกันในนาม “หมอผีแดนใต้” นอกจากนี้ยังมีนักกีฬามวย ว่ายน้ำ และเทควันโดที่มีศักยภาพไม่น้อย

 

         วิสัยทัศน์เด่นที่ทำให้นายกคนใหม่แตกต่างคือแนวคิด “กีฬาสร้างเมือง” ที่มุ่งเชื่อมโยงการพัฒนากีฬาเข้ากับการพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่น “นอกจากกีฬาจะช่วยพัฒนาสุขภาพกายและใจ ห่างไกลยาเสพติดแล้ว ผมยังเห็นว่ากีฬาสามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจได้อย่างชัดเจน” บอสปีเตอร์อธิบาย “ทุกครั้งที่มีการแข่งขัน ผู้ชมจากต่างอำเภอ ต่างจังหวัด หรือแม้แต่ต่างประเทศ ต้องจับจ่ายใช้สอยในจังหวัดเรา สร้างรายได้ให้ประชาชนในพื้นที่”

        ด้วยประสบการณ์การบริหารทั้งในวงการกีฬาและธุรกิจ บอสปีเตอร์จึงมองเห็นโอกาสในการใช้กีฬาเป็นเครื่องมือพัฒนาเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างยั่งยืน แม้จะยอมรับว่ายังเป็น “น้องใหม่” ในวงการบริหารกีฬาระดับจังหวัด แต่เขาก็พร้อมเรียนรู้จากรุ่นพี่และพัฒนาตนเองอย่างไม่หยุดยั้ง

         “ผมยังต้องศึกษาอีกมากจากพี่ๆ ในสมาคม แต่ผมสัญญาว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด เพื่อพัฒนาวงการกีฬาสตูลให้ก้าวไกลและยั่งยืน” นายกสมาคมกีฬาแห่งจังหวัดสตูลคนล่าสุดทิ้งท้ายด้วยความมุ่งมั่น

……………………………………………………