Categories
เยาวชน-การศึกษา

19 โรงเรียนสตูล  เปิดเส้นทางอาชีพใหม่ จุดประกายความฝันนักเรียนสตูล  ผลักดันหนึ่งโรงเรียนหนึ่งอาชีพ เปิดโอกาสทุกกลุ่มวัยฝึกอาชีพระยะสั้น-ยาว

19 โรงเรียนสตูล  เปิดเส้นทางอาชีพใหม่ จุดประกายความฝันนักเรียนสตูล  ผลักดันหนึ่งโรงเรียนหนึ่งอาชีพ เปิดโอกาสทุกกลุ่มวัยฝึกอาชีพระยะสั้น-ยาว

       ที่วิทยาลัยเทคนิคสตูล  ต.พิมาน  อ.เมือง  จ.สตูล  นักเรียนจาก 19 โรงเรียนในพื้นที่จังหวัดสตูล  นำผลงานอาชีพที่ทางโรงเรียนสนับสนุนส่งเสริมเป็นอาชีพ  มาโชว์ภายในงาน โครงการเปิดโลกกว้างสร้างเส้นทางสู่อาชีพ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2568

          โรงเรียนธรรมศาสน์วิทยา ต.ควนสตอ อ.ควนโดน จ.สตูล  หนึ่งใน 19 โรงเรียนที่เข้าร่วมโครงการ  นำ ศิลปะบนผิวน้ำ (Water Marbling Art) หนึ่งในงานศิลป์แสนมหัศจรรย์ที่สามารถต่อยอดเป็นอาชีพได้จริง  โดยหนึ่งในผู้ถ่ายทอดความรู้ครั้งนี้คือ นายฮาฟิซ ณรงค์ตะคุ  นักเรียนโรงเรียนธรรมศาสน์วิทยา ได้แสดงความสามารถในการอธิบายขั้นตอนและเทคนิคการทำศิลปะบนผิวน้ำอย่างชัดเจน

         นายฮาฟิซ ณรงค์ตะคุ  นักเรียนโรงเรียนธรรมศาสน์วิทยา  กล่าวว่า “การทำน้ำเจลสำหรับใช้หยดสีเริ่มจากใช้น้ำสะอาด 1 ลิตร ผสมกับผงเจล 5 กรัม ตีด้วยตะกร้อมือประมาณ 5 นาที พักไว้ให้เจลดูดน้ำจนเข้าที่ จากนั้นนำมาใช้ภายใน 3-7 วัน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ สีที่ใช้เป็นสีเฉพาะสำหรับศิลปะผิวน้ำ ต้องเขย่าก่อนใช้งาน และหยดสีลงถาดอย่างเบามือ ก่อนนำวัสดุเช่น หมวกผ้า เสื้อ หรือกระเป๋าผ้าจุ่มลงไป แล้วตากให้แห้ง”

          นอกจากนี้นักเรียนจากโรงเรียนอื่นๆที่เข้าร่วม   ต่างนำผลงานออกมาโชว์ เช่น กระเป๋า  หมอนรองคอ ปกหนังสือ  หมวก  พวงกุญแจ  ที่ตัดเย็บอย่างปราณีตด้วยลายผ้าเพ้นท์ด้วยสีธรรมชาติจากใบไม้   รวมถึง ผลิตภัณฑ์จากผ้ามันย้อมด้วยสีจากไม้ป่าชายเลน  ผลิตภัณฑ์จากผ้าปาเตะลายพื้นเมืองสตูล  

และยังมีนักเรียนที่ถนัดทำขนม  ก็สาธิต การทำขนมจีบ  การทำขนมโดนัดจิ๋ว  การเพาะเห็ด  และอื่นๆอีกหลายเมนู

          นอกจากนี้ยังมีผลงานของนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคสตูล โดยเปิดศูนย์ซ่อมบำรุงกายอุปกรณ์และพัฒนานวัตกรรมการศึกษาพิเศษอาชีวศึกษา จังหวัดสตูล   พร้อมโชว์การบังคับการเคลื่อนย้ายวิลแชร์ด้วยตัวเองภายในงาน    

         กิจกรรมนี้ไม่เพียงเปิดโลกความคิดสร้างสรรค์ แต่ยังสามารถต่อยอดเป็นรายได้ระหว่างเรียน โดยมีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการแล้วกว่า 19 แห่งทั่วจังหวัด 

 

         นายสง่า แต่เชื้อสาย รองเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กล่าวในโอกาสเดินทางมาเปิดโครงการดังกล่าวว่า   “นี่คือต้นแบบการจัดการศึกษาที่มุ่งเน้นการสร้างอาชีพจริง มีวิภาคีเครือข่ายร่วมมือหลากหลาย ทั้งภาคการศึกษา ภาคประชาชน และหน่วยงานท้องถิ่น โดยเฉพาะองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูลที่ให้การสนับสนุนงบประมาณกว่า 1 ล้านบาท เพื่อส่งเสริมอาชีพระยะสั้นและระยะยาว ทั้งในระบบและนอกระบบ”

 

          นายสัมฤทธิ์ เลียงประสิทธิ์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล กล่าวเพิ่มเติมว่า   “พร้อมผลักดันงบประมาณอย่างเต็มที่ เห็นว่าโครงการนี้สามารถสร้างโอกาสให้นักเรียนและประชาชน โดยเฉพาะผู้ด้อยโอกาส ให้มีทักษะ สร้างรายได้ และลดผลกระทบในช่วงภาวะเศรษฐกิจฝืดเคือง”

……………………………………..

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 จากครูวิทย์…สู่เจ้าของสวนหมอนทอง!  “ภณ ลิ่มพรเจริญ” พลิกชีวิต ล้มสวนยาง ปั้นสวนทุเรียนคุณภาพแห่งสตูล พร้อมเปิดฤดูกาล 18 มิ.ย.นี้

จากครูวิทย์…สู่เจ้าของสวนหมอนทอง!  “ภณ ลิ่มพรเจริญ” พลิกชีวิต ล้มสวนยาง ปั้นสวนทุเรียนคุณภาพแห่งสตูล พร้อมเปิดฤดูกาล 18 มิ.ย.นี้

         ที่ 272 หมู่ 2 ต.ควนกาหลง อ.ควนกาหลง จ.สตูล มีชายคนหนึ่งที่กล้าฝัน และลงมือทำจริงจัง — นายภณ ลิ่มพรเจริญ วัย 52 ปี อดีตคุณครูวิทยาศาสตร์ที่ตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต ล้มสวนยางเก่าบนพื้นที่ 6 ไร่ของตัวเอง เพื่อเริ่มต้นใหม่กับ “ทุเรียนหมอนทองคุณภาพสูง”

 

         “จากการสอนในห้องเรียน ผมหันมาศึกษาวิชาชีวิตนอกตำรา ใช้ประสบการณ์+ความอดทน พัฒนาสวนเองทุกขั้นตอน” นายภณเล่าด้วยแววตามุ่งมั่น

 

          เขาเลือกปลูก “หมอนทองจันทบุรี” ซึ่งใช้เวลากว่า 8 ปีในการพัฒนาสวน ผลผลิตเพิ่มขึ้นทุกปี — ปีแรก 500 ลูกปีที่สอง 1,000 ลูก  ปีล่าสุดคาดทะลุ 1,500 ลูก!

           ความยากไม่ได้อยู่แค่การปลูก…แต่อยู่ที่การดูแล!  “ปลูกทุเรียนไม่ง่ายอย่างที่คิด ต้องแต่งกิ่ง คุมยอดอ่อน และรับมือศัตรูพืชเพียบ”  ทั้ง เพลี้ยไฟ เพลี้ยไก่แจ้ ไรแดง ฯลฯ  นายภณ ลงมือกำจัดศัตรูพืชเองทุกครั้ง เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ปลอดภัยและได้คุณภาพ

 

           จุดเด่นของสวนคือ  เนื้อแน่น เปลือกบาง กลิ่นหอมหวานมัน รสชาติกลมกล่อม จนลูกค้าประจำบอกว่า “กินแล้วหยุดไม่ได้ ต้องสั่งทุกปี!”

 

         สวนจำหน่ายทั้ง ขายปลีก-ส่ง และเปิดให้ สั่งจองล่วงหน้า ผ่าน   Facebook: Phon Limproncharoen   โทร: 065-995-1915   รับประกันคุณภาพ : หากลูกค้าพบเนื้อไม่สมบูรณ์ เคลมได้ทันที เพียงถ่ายวิดีโอส่งกลับมายืนยัน

          ฤดูกาลใหม่เริ่ม 18 มิถุนายน 2568 นี้!  ใครที่ยังไม่เคยลองทุเรียนคุณภาพจากควนกาหลง…ปีนี้อย่าพลาด

…………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

ควันที่หอม…แต่แฝงด้วยพิษร้าย ทำร้ายร่างกายเด็กและเยาวชน

ควันที่หอม…แต่แฝงด้วยพิษร้าย ทำร้ายร่างกายเด็กและเยาวชน

ควันที่หอม…แต่แฝงด้วยพิษร้าย ทำร้ายร่างกายเด็กและเยาวชน

 

“ดูดแล้วเท่ ดูดแล้วสบาย” คำชวนเชื่อที่พาเด็กหลงทางโดยไม่รู้ตัว

 

ในยุคที่กลิ่นหอมหวานจาก “บุหรี่ไฟฟ้า” กลายเป็นแฟชั่นในหมู่เยาวชน หลายคนไม่รู้ว่าเบื้องหลังควันนุ่ม ๆ กลับซ่อน “สารพิษกว่า 200 ชนิด” ที่ทำลายร่างกายอย่างช้า ๆ ตั้งแต่นิโคตินที่เสพติดง่าย ไปจนถึงโลหะหนักที่กระทบสมอง ปอด และหัวใจของเด็กที่ยังเติบโตไม่เต็มที่

 

เด็กและเยาวชนจำนวนมากถูกหลอกด้วยรูปลักษณ์ล้ำสมัย กลิ่นผลไม้ กลิ่นขนม หรือแม้แต่ชื่อแบรนด์ที่ฟังดูไร้พิษภัย แต่ในความเป็นจริง บุหรี่ไฟฟ้าเป็นประตูสู่การเสพติดสารนิโคติน และในหลายกรณียังพ่วงมาด้วยสารเสพติดชนิดอื่นแบบไม่รู้ตัว

 

**อันตรายของควันหอมนี้ไม่ได้หยุดแค่ในตัวผู้สูบ**

แต่ยังลามไปถึงคนรอบข้างผ่านควันมือสองและมือสาม โดยเฉพาะเด็กเล็กที่รับผลกระทบทางเดินหายใจโดยตรง

### แล้วจะป้องกันตัวเองได้อย่างไร?

 

✅ **อย่าอยากลองเพราะเพื่อนชวน** – การปฏิเสธด้วยเหตุผลชัดเจน เช่น “มันไม่ดีต่อสุขภาพ” จะทำให้เพื่อนยอมรับได้มากกว่าการพูดว่า “ไม่เอา ไม่อยาก”

✅ **รู้เท่าทันโฆษณา** – ไม่เชื่อคำชวนเชื่อในโซเชียลที่พยายามทำให้บุหรี่ไฟฟ้าดูปลอดภัย

✅ **เลือกคบเพื่อนที่เสริมพลังบวก** – เพื่อนที่ไม่ชักชวนไปในทางเสี่ยง เป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุด

✅ **เข้าร่วมกิจกรรมสร้างสรรค์** – กีฬา ดนตรี หรือกิจกรรมจิตอาสา ช่วยเบี่ยงเบนความสนใจจากสิ่งเสพติด

✅ **หากเริ่มใช้แล้ว อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือ** – โทรปรึกษาสายด่วนเลิกบุหรี่ 1600 ฟรี!

 

**บุหรี่ไฟฟ้าอาจดูทันสมัย แต่พิษภัยของมันย้อนยุคถึงอายุขัยเราทุกคน**

เด็กและเยาวชนควรได้รับการปกป้อง ไม่ใช่ถูกทดสอบด้วยควันอันตรายที่ไม่มีวันหอมจริง

…………………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 หรอยจังหู้  แกงส้มทุเรียนหมอนทอง จากเกษตกรที่ทิ้งยาง ปลูกหมอนทอง ปลูกด้วยใจ ใส่เทคนิคธรรมชาติ ลุยตลาดทุเรียนคุณภาพ ส่งขายได้กิโลละ 100 บาท

หรอยจังหู้  แกงส้มทุเรียนหมอนทอง จากเกษตกรที่ทิ้งยาง ปลูกหมอนทอง ปลูกด้วยใจ ใส่เทคนิคธรรมชาติ ลุยตลาดทุเรียนคุณภาพ ส่งขายได้กิโลละ 100 บาท

         ที่บ้านสงขลา หมู่ 5 ตำบลควนขัน อำเภอเมือง จังหวัดสตูล — ปีนี้นับเป็น “ฤดูกาลทอง” ของนายณัฐกร เอียดเหตุ หรือ “พี่อ๊อด” เกษตรกรผู้กล้าตัดสินใจโค่นต้นยางพาราอายุเพียง 5 ปีในสวน เพื่อเปลี่ยนมาเดินหน้าปลูก ทุเรียนหมอนทอง บนพื้นที่ 5 ไร่ จำนวน 200 ต้น ซึ่งในปีแรกนี้ มีต้นทุเรียนกว่า 40 ต้นเริ่มให้ผลผลิต สร้างความหวังใหม่ในการทำเกษตรของคนรุ่นใหม่ในท้องถิ่น

 

           “การปลูกทุเรียน ต้องเข้าใจธรรมชาติ ต้องใส่ใจตั้งแต่ดิน ปุ๋ย น้ำ และต้องรู้จักการโยงกิ่ง โยงลูก รับมือกับพายุด้วย” — พี่อ๊อด กล่าว

 

          การดูแลสวนทุเรียนหมอนทองของพี่อ๊อด เน้นการใช้ภูมิปัญญาชาวบ้าน เช่น การติดแผ่นซีดีไล่ค้างคาว การโยงกิ่งเพื่อไม่ให้หักเวลาลมแรง และโยงลูกไม่ให้หล่น นอกจากนี้ยังวางระบบน้ำแบบสปริงเกอร์ พร้อมเสริมด้วย การเลี้ยงผึ้งโพรง เพื่อส่งเสริมการผสมเกสรและเพิ่มรายได้เสริม

         

          นางสาวฮาบีบ๊ะ จายุพันธ์ หรือ “ก๊ะบ๊ะ” เกษตรตำบลควนขัน กล่าวว่า พี่อ๊อดเป็นหนึ่งในสมาชิกของ กลุ่มส่งเสริมอาชีพผู้ปลูกทุเรียน ต.ควนขัน และ ต.เจ๊ะบิลัง ซึ่งขณะนี้มีสมาชิกทั้งหมด 30 ราย ครอบคลุมพื้นที่รวม 130 ไร่ โดยมีเกษตรกร 8 รายที่กำลังเริ่มให้ผลผลิตรวมกว่า 20 ตัน และเตรียม ตัดขายล็อตแรกในช่วง 15-18 มิถุนายน นี้  ทุเรียนปีแรกต้องดูแลอย่างใกล้ชิด ห้ามให้เกิน 54 ลูกต่อต้น เพื่อรักษาคุณภาพ

 

          นอกจากนี้ ยังมีล้งจากจังหวัดชุมพรเข้ามาติดต่อรับซื้อถึงสวน โดยราคาที่เกษตรกรได้รับคือ 100 บาทต่อกิโลกรัม ซึ่งถือว่าสูงและน่าพอใจอย่างยิ่งในปีแรกของการผลิต

         

           ที่น่าสนใจคือ แม้ทุเรียนบางลูกจะร่วงจากพายุแรงก่อนเวลา แต่พี่อ๊อดก็ยังใช้โอกาสนี้ แปรรูปเป็นเมนูแกงส้มทุเรียนหมอนทองแก่ใส่ปลาทู ให้ทีมสื่อได้ชิม รสชาติแปลกใหม่ เข้มข้น อร่อยลงตัว เป็นอีกหนึ่งแนวทางแปรรูปเพิ่มมูลค่าที่ชาวสวนสามารถต่อยอดได้

          หากท่านสนใจเยี่ยมชมสวน หรือติดต่อซื้อผลผลิตทุเรียนหมอนทองจากสวนพี่อ๊อด  สามารถติดต่อได้ที่นายณัฐกร เอียดเหตุ โทร. 062-9516323 นางสาวฮาบีบ๊ะ จายุพันธ์ (เกษตรตำบลควนขัน) โทร. 095-0362258 > เกษตรไม่ใช่แค่เรื่องดินฟ้า แต่คือศิลปะของการใช้ชีวิตอย่างมีความหวัง

…………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 “กุ้งเคยเซมเบ้” สตูลฮือฮา! เกษตรกรยุคใหม่พลิกโฉม “ของดีบ้านเรา” สู่ของฝากสุดหรู ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

สตูล-“กุ้งเคยเซมเบ้” สตูลฮือฮา! เกษตรกรยุคใหม่พลิกโฉม “ของดีบ้านเรา” สู่ของฝากสุดหรู ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่

           สตูล-ชื่นชมไอเดียสุดปัง! ที่ศูนย์เรียนรู้บ้านท่าแลหลา ต.กำแพง อ.ละงู จ.สตูล กลุ่มแม่บ้านแปรรูปผลิตภัณฑ์จากอาหารทะเลและผู้นำชุมชน ผนึกกำลังนำ “กุ้งเคย” วัตถุดิบพื้นถิ่นที่อุดมสมบูรณ์ในท้องที่ มายกระดับด้วยนวัตกรรมการแปรรูป จากเดิมที่คุ้นเคยกับ “กะปิท่าแลหลา” สู่ผลิตภัณฑ์ใหม่สุดว้าวอย่าง “เซมเบ้กุ้งเคย” “ผงโรยข้าวกุ้งเคย” และ “กุ้งเคยหวาน” ชูภาพลักษณ์ “ของฝากสวยหรูดูแพง” ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรุ่นใหม่

          ต่อยอดภูมิปัญญา สู่สินค้าพรีเมียม โดยกรมประมง  โครงการนี้ได้รับความร่วมมือจากกองวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีอุตสาหกรรมสัตว์น้ำ กรมประมง ที่ได้นำความรู้และเทคโนโลยีการแปรรูปมาถ่ายทอดให้กับชาวบ้าน พร้อมเน้นย้ำถึงความสำคัญของ “แพ็กเกจจิ้งที่สวยงาม” เพื่อเพิ่มมูลค่าและสร้างความหลากหลายให้กับสินค้า โดยเฉพาะเมนู “เซมเบ้กุ้งเคย” ที่เป็นไฮไลต์ของการอบรมในครั้งนี้

          สูตรเด็ด “เซมเบ้กุ้งเคย” ทำง่าย ได้จริง  ภายในงาน ผู้เชี่ยวชาญได้สาธิตและเปิดโอกาสให้กลุ่มเกษตรกรได้ลงมือทำเอง สร้างความตื่นเต้นและประทับใจเป็นอย่างมาก ด้วยสูตรที่ทำง่ายและสามารถต่อยอดได้จริง “เซมเบ้กุ้งเคย” มีส่วนผสมหลักคือ กุ้งเคยล้างน้ำ 70 กรัม, แป้งสาลี 40 กรัม, แป้งมัน 20 กรัม, น้ำ 20 กรัม, น้ำตาล 4 กรัม, น้ำมันพืช 5 กรัม และผงฟู 10 กรัม

         

         ขั้นตอนการทำก็ง่ายแสนง่าย: เพียงนำกุ้งเคยแช่น้ำ 10 นาที เทน้ำออกแล้วล้างผ่านน้ำ ผสมกับส่วนผสมทั้งหมด นวดให้เข้ากัน ปั้นเป็นก้อนกลมขนาดประมาณ 5 กรัม ทับให้เป็นแผ่นด้วยเครื่องทำขนมอบกรอบแผ่น อบที่อุณหภูมิ 160-180 องศาเซลเซียส นาน 2 นาที ก็จะได้แผ่นเซมเบ้กุ้งเคยสีเหลืองทอง กรอบอร่อยน่ารับประทาน ที่สำคัญ กลุ่มแม่บ้านยังสามารถปรุงแต่งเพิ่มเติมด้วยสาหร่ายหรือส่วนผสมอื่นๆ เพื่อเพิ่มรสชาติและความสวยงามได้ตามใจชอบ

 

         “กุ้งเคยตาดำ” ท่าแลหลา วัตถุดิบคุณภาพ 73 ปีแห่งวิถีชีวิต  นายกัมพล รายา ประธานกลุ่มแปรรูปผลิตภัณฑ์จากอาหารทะเลบ้านท่าแลหลา (โทร. 086-969-2819) เล่าว่า ตลอด 73 ปีที่ผ่านมา ชาวบ้านท่าแลหลาสร้างอาชีพจากการออกหากุ้งเคยด้วยเรือขนาดเล็ก กุ้งเคยที่นี่มีมากตลอดทั้งปี โดยเฉพาะช่วงเดือนมกราคมถึงเมษายน แม้ปริมาณจะลดลง 50% แต่หลังจากนั้นก็จะมีกุ้งเคยตลอด ซึ่งกุ้งเคยที่นี่คือ “กุ้งเคยตาดำ” ที่สำคัญคือ “ไม่มีทรายเจือปน” เนื่องจากสภาพพื้นที่เป็นดินโคลน จึงหมดปัญหากังวลเรื่องทราย

         นายกัมพล  กล่าวด้วยความดีใจว่า การอบรมครั้งนี้เป็นการต่อยอดที่สำคัญ เพิ่มสินค้าให้กับเกษตรกร สร้างมูลค่าให้กับกุ้งเคยจากเดิมที่แปรรูปเป็นเพียง “กะปิ” เท่านั้น (กะปิท่าแลหลา เพจ: กะปิท่าแลหรา ราคาครึ่งกิโล 80 บาท, 1 กิโล 160 บาท ส่วนผสม: เคย 90%, น้ำตาล 4%, เกลือ 6%)

 

          การทำเป็นขนมที่ทำง่าย กินง่าย สามารถเป็นของฝากของขวัญได้ ถือเป็นโอกาสใหม่ๆ ที่น่าตื่นเต้น  ประมงจังหวัดสตูลชี้ “การตลาด” คือหัวใจ  ด้านนายนิพนธ์ เสนอินทร์  ประมงจังหวัดสตูล ระบุว่า การอบรมเพิ่มมูลค่าสินค้าประมงอย่างกุ้งเคยของชาวบ้านท่าแลหลา อ.ละงู ถือเป็นอีกหนึ่งกลุ่มที่น่าสนใจ ซึ่งจะเข้ามาช่วยเพิ่มมูลค่าสินค้าประมงให้มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น นอกจากความรู้ด้านการแปรรูปจากกรมประมงแล้ว ยังได้เชิญบริษัทประชารัฐ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งช่องทางการตลาดสำคัญ เพื่อให้ชาวบ้านสามารถนำสินค้าไปสู่ตลาดภายนอกได้ เป็นการจับคู่ระหว่างเกษตรกรผู้ผลิตกับบริษัทผู้ซื้อ เพื่อให้สินค้าท้องถิ่นเป็นที่รู้จักและตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมายได้กว้างขวางยิ่งขึ้น

……….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

  คืบหน้าเศร้า – พบศพ “น้องจีรยุทธ” ใต้กอไผ่ ห่างจุดจมน้ำ 2 กม. พ่อแม่ไม่ติดใจการเสียชีวิต

สตูล-คืบหน้าเศร้า – พบศพ “น้องจีรยุทธ” ใต้กอไผ่ ห่างจุดจมน้ำ 2 กม. พ่อแม่ไม่ติดใจการเสียชีวิต

         สตูล – ความหวังที่เปล่งประกายดับลงอย่างเจ็บปวด หลังเจ้าหน้าที่พบร่างของ ด.ช.จีรยุทธ นางา อายุ 6 ปี ที่จมหายไปในคลองบ้านควน เมื่อสองวันก่อน โดยศพถูกพบช่วงเช้าวันนี้ (23 พ.ค.) บริเวณบ้านทุ่งวิมาน ห่างจากจุดเกิดเหตุราว 2 กิโลเมตร

          น้องถูกกระแสน้ำพัดมาเกยใต้กอไผ่ ท่ามกลางเศษไม้และวัชพืชริมคลอง เจ้าหน้าที่กู้ภัยร่มไทรพร้อมชาวบ้านเร่งนำร่างขึ้นจากน้ำอย่างนุ่มนวล ท่ามกลางความโศกเศร้าของผู้เป็นพ่อแม่และชุมชนที่ร่วมค้นหาน้องตลอด 2 วันที่ผ่านมา

          แม้จะเต็มไปด้วยความเสียใจ แต่ครอบครัวของน้องยืนยันไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต โดยระบุว่าเข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุจากการพลัดตกน้ำ ประกอบกับการพบศพในสภาพสมบูรณ์ ไม่พบบาดแผลหรือร่องรอยผิดปกติ

         หลังการชันสูตรเบื้องต้นเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่อนุญาตให้ครอบครัวนำศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาในทันที

          เหตุการณ์นี้กลายเป็นบทเรียนสะเทือนใจสำหรับชุมชนอีกครั้ง โดยเฉพาะผู้ปกครองและเยาวชนในพื้นที่ ซึ่งต่างตระหนักถึงอันตรายของแหล่งน้ำในช่วงหน้าฝน ที่แม้จะดูสงบ แต่ซ่อนความเชี่ยวกรากและอันตรายไว้เบื้องล่าง

………………………………..

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

สตูล-เด็ก 6 ขวบจมน้ำลึกคลองในหมู่บ้าน  ญาติขอปาฏิหาริย์มีจริง  ชุดกู้ภัย-ฝ่ายปกครอง ระดมกำลังเร่งค้นหาแม้น้ำจะเชี่ยวจะเป็นอุปสรรค

สตูล-เด็ก 6 ขวบจมน้ำลึกคลองในหมู่บ้าน  ญาติขอปาฏิหาริย์มีจริง  ชุดกู้ภัย-ฝ่ายปกครอง ระดมกำลังเร่งค้นหาแม้น้ำจะเชี่ยวจะเป็นอุปสรรค

สตูล – ปฏิบัติการค้นหาเด็กชายวัย 6 ขวบ “ด.ช.จีรยุทธ นางา” ที่จมหายกลางลำคลองบ้านควน อำเภอเมืองสตูล เข้าสู่วันที่ 2 แล้ว ท่ามกลางความหวัง ความห่วงใย และเสียงร่ำไห้ของครอบครัว รวมถึงชาวบ้านกว่า 100 คนที่เฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด

เหตุการณ์สะเทือนใจนี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นของวันที่ 21 พฤษภาคมที่ผ่านมา เด็กชายจีรยุทธ สวมเสื้อพละสีแดงของโรงเรียน กลับจากเรียนหนังสือและเดินเล่นกับเพื่อนบริเวณบันไดริมลำคลองบ้านควน หมู่ที่ 3 ต.บ้านควน ก่อนจะพลัดตกลงไปในน้ำ ซึ่งไหลเชี่ยวและมีโพรงหินใต้น้ำจำนวนมาก

เพื่อนของน้องให้การเบื้องต้นว่าเห็นน้องลื่นและจมหายไปต่อหน้าต่อตา สร้างความตกใจและเศร้าสลดให้กับชุมชนในทันที

เจ้าหน้าที่กู้ภัยร่มไทร จ.สตูล พร้อมฝ่ายปกครอง อส. และทีมประดาน้ำกว่า 20 นาย เร่งค้นหาน้องตลอดทั้งวันทั้งคืน โดยใช้ทั้งเรือในการตีผิวน้ำเพื่อให้ร่างลอยขึ้น รวมถึงอุปกรณ์ค้นหาท่ามกลางสภาพน้ำเชี่ยว และสภาพใต้น้ำที่ซับซ้อน มีทั้งโพรงและโขดหินขนาดต่าง ๆ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญ

นายกูดานัน  หลังจิ นายก อบต.บ้านควน เผยว่า ชาวบ้านร่วมมือกันอย่างเต็มที่ ให้การสนับสนุนและส่งแรงใจแก่เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย พร้อมภาวนาให้เกิดปาฏิหาริย์

 

ด้านนายฮามีดัน ตะวัน ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 ระบุว่า เด็ก ๆ ในชุมชนมักเล่นน้ำบริเวณนี้เป็นประจำ แต่ครั้งนี้อาจเกิดเหตุไม่คาดฝัน พร้อมย้ำว่าได้รับคำสั่งเร่งด่วนจากผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลให้เร่งค้นหาโดยไม่ลดละ

 

แม้ความหวังจะริบหรี่ แต่ภารกิจยังคงเดินหน้าด้วยพลังศรัทธา และคำภาวนา “ขอให้น้องกลับมาอย่างปลอดภัย” ท่ามกลางคำเตือนที่ดังกึกก้องในชุมชนว่า “น้ำใสไม่ใช่ว่าปลอดภัยเสมอไป”

เตือนภัย: ผู้ปกครองควรระวังเด็กเล็กใกล้แหล่งน้ำ และควรมีการรั้วกั้นหรือมาตรการป้องกันในพื้นที่เสี่ยง เพื่อป้องกันโศกนาฏกรรมซ้ำรอยในอนาคต.

……………………………………..

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

40 นักดำน้ำฝ่าคลื่นช่วยชีวิตปะการังสตูล  ร่วมแรงใจเพื่อสิ่งแวดล้อม ไม่หวั่นแม้ลมแรงฝนหนาว

ภารกิจเคลียร์อวนใต้ทะเลสุดโหด! 40 นักดำน้ำฝ่าคลื่นช่วยชีวิตปะการังสตูล  ร่วมแรงใจเพื่อสิ่งแวดล้อม… ไม่หวั่นแม้ลมแรงฝนหนาว

ท้องทะเลสตูลเต็มไปด้วยความหวังอีกครั้ง เมื่อทีมจิตอาสานักดำน้ำกว่า 40 ชีวิต จากหลายภาคส่วน รวมพลังฝ่าคลื่นลมแรง สายฝนหนาวเหน็บ ทำภารกิจเก็บกวาดอวนผืนใหญ่ที่ติดอยู่กับแนวปะการัง บริเวณ “กองหินขาว” ใกล้เกาะบุโหลนเล จังหวัดสตูล เมื่อวันที่ 21 พฤษภาคม 2568

 

ภารกิจครั้งนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่าง บริษัทหาดทิพย์ จำกัด (มหาชน), Reef Guardian Thailand, อุทยานแห่งชาติเภตรา, อุทยานแห่งชาติตะรุเตา, บริษัทเลตรังไดว์วิ้ง, กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง, พร้อมผู้สนับสนุนอีกหลายราย โดยมี นายดินัน พัทลุง ประธานกลุ่มรีฟการ์เดี้ยน  หัวหน้าชุดเก็บกู้อวนในครั้งนี้  และ นายไรน่าน เด็นเบ็น จาก Reef Guardian Thailand เป็นหัวเรือใหญ่ในการประสานภารกิจครั้งนี้

 

ทีมงานออกปฏิบัติภารกิจด้วย เรือหางยาง 3 ลำ และ เรือสปีดโบ๊ท 1 ลำ มุ่งหน้าสู่จุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นแนวปะการังที่อวนพลาสติกขนาดยักษ์ กว้างกว่า 150 เมตร และสูง 8 เมตร พัวพันอยู่กับกองหินใต้ทะเล ลักษณะอวนเริ่มเสื่อมสภาพและอาจกลายเป็นกับดักสัตว์น้ำชนิดต่าง ๆ สร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศในระยะยาว

 

แม้จะเจอสภาพอากาศที่ไม่เป็นใจ  คลื่นลมแรง น้ำขุ่น และฝนตกโปรยปราย แต่ด้วยความทุ่มเท ทีมดำน้ำใช้ความชำนาญและประสบการณ์ ค่อย ๆ ตัด คลี่ และเก็บอวนออกจากแนวปะการังอย่างระมัดระวัง ไม่ให้เกิดความเสียหายเพิ่มเติม

ภารกิจนี้สำเร็จลุล่วงด้วยดี  โดยสามารถนำอวนและเศษขยะใต้ท้องทะเลขึ้นฝั่งได้ รวมกว่า 550 กิโลกรัม เป็นอีกก้าวสำคัญของการอนุรักษ์ทะเลใต้และฟื้นฟูธรรมชาติสู่ความสมดุล

 

“นี่ไม่ใช่แค่การเก็บขยะ… แต่มันคือการคืนชีวิตให้ทะเล”  เสียงหนึ่งจากนักดำน้ำอาสาที่สะท้อนให้เห็นถึงหัวใจของคนรักทะเลได้อย่างลึกซึ้ง

 

การรวมพลังครั้งนี้ไม่เพียงเป็นแบบอย่างของความร่วมมือระหว่างภาครัฐ เอกชน และจิตอาสา แต่ยังเป็นแรงบันดาลใจให้สังคมลุกขึ้นมาปกป้องท้องทะเลไทย ก่อนที่ธรรมชาติจะไม่เหลือโอกาสให้แก้ตัวอีกต่อไป

………………………………………………..

ขอบคุณภาพ  จากคุณไรน่าน  เด็นเบ็น

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 จัดเบรกให้ปัง! สตูลปั้นมืออาชีพสายจัดอาหารว่าง เติมเทคนิคโซเชียล สร้างอาชีพยุคใหม่

จัดเบรกให้ปัง! สตูลปั้นมืออาชีพสายจัดอาหารว่าง เติมเทคนิคโซเชียล สร้างอาชีพยุคใหม่

          วันที่ 21 พฤษภาคม 2568  ณ  ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล ชั้น 4 อำเภอเมือง จังหวัดสตูล  ได้จัดอบรม “กิจกรรมการเตรียมอาหารว่างและเครื่องดื่มสำหรับงานประชุม/อบรมอย่างมืออาชีพ” ภายใต้โครงการส่งเสริมและพัฒนากลุ่มอาชีพ ประจำปีงบประมาณ 2568 เพื่อยกระดับผู้ประกอบการท้องถิ่นให้ก้าวสู่ตลาดใหม่ ๆ อย่างมั่นใจ โดยเฉพาะการจับตลาด “งานอบรม – งานราชการ” ที่มีความต้องการสูงและต่อเนื่อง

 

          การอบรมครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก นายทวีศักดิ์  แก้วสลำ  รองนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล เป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยกลุ่มเป้าหมายที่เข้าร่วมกว่า 40 ราย ได้แก่ ผู้ประกอบการ OTOP วิสาหกิจชุมชน ร้านค้า และประชาชนผู้สนใจทั่วไป รวมถึงเจ้าหน้าที่จากเรือนจำและผู้มีบทบาทในการฝึกอาชีพแก่ผู้ต้องขัง โดยมี สถาบัน CDC Training Center และวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารว่างจาก มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ร่วมถ่ายทอดความรู้แบบจัดเต็ม

ตอบโจทย์อาชีพยุคโซเชียล – โอกาสใหม่หลังวิกฤตเศรษฐกิจ

ในยุคที่เศรษฐกิจชายแดนซบเซา การท่องเที่ยวไม่ฟื้นตัวเต็มที่ และกำลังซื้อของประชาชนลดลง อาชีพเล็ก ๆ อย่าง “จัดเบรกประชุม” จึงกลายเป็นอีกหนึ่งทางรอดที่มั่นคง เพราะกิจกรรมอบรม สัมมนา หรืออีเวนต์ราชการยังคงเกิดขึ้นต่อเนื่อง และมีงบสนับสนุนชัดเจน

 

นางสาวอินทิรา ไพรัตน์  (วิทยากร) ให้สัมภาษณ์ว่า “โฮมสเตย์ของเรามีบริการอาหารเช้าอยู่แล้ว  การมาฝึกอบรมครั้งนี้ช่วยให้เราเพิ่มมูลค่าด้วยการจัดจานสวยๆ แล้วโพสต์ลงโซเชียล เรียกลูกค้าได้มากขึ้นแน่นอน”

 

อีกมุมหนึ่งจากผู้ฝึกอาชีพในเรือนจำ นางสาวชนัญชิดา   พราหมแผลง  เจ้าพนักงานอบรมฯ จากเรือนจำสตูล เผยว่า “ได้เทคนิคใหม่ ๆ เพียบเลย จะนำกลับไปต่อยอดฝึกให้ผู้ต้องขังหญิง เพื่อให้พวกเขามีทักษะอาชีพติดตัวก่อนออกสู่สังคม”

 

ขณะที่ นางรัชนี  เด่นกาญจนศักดิ์ เจ้าของร้านชาชักเจ้าดัง  “เตอบิลัง”  ก็เสริมว่า “การทำอาหารให้น่ากินไม่ใช่แค่รสชาติ แต่ต้องสื่อสารผ่านภาพถ่ายให้ดูดีด้วย ยุคนี้ลูกค้าซื้อด้วยตา และแชร์ต่อในโซเชียล โครงการแบบนี้ดีมาก อยากให้มีต่อเนื่อง”

 

หลักสูตร “จัดเบรกให้ปัง” ยกระดับมืออาชีพ – เพิ่มยอดขายด้วยมือถือ

          การอบรมไม่เพียงสอนเรื่องความสะอาด มาตรฐานการบริการ และการเลือกอาหารว่างที่เหมาะสมเท่านั้น แต่ยังสอดแทรกกลยุทธ์การตลาดยุคใหม่ โดย อินทิรา ไพรัตน์ วิทยากรจาก CDC Training Center ได้เน้นย้ำว่า “เราสอนวิธีจัดเบรกให้น่าทาน ถ่ายรูปให้ออกมาดูน่ากิน เทคนิคถ่ายภาพง่าย ๆ ด้วยมือถือก็ช่วยเพิ่มยอดขายได้ พร้อมทั้งสอนเรื่องการจัดอุปกรณ์ตกแต่ง เพิ่มความหรูหราให้กับชุดเบรก โดยไม่ต้องลงทุนสูง”

 

 กิจกรรมในวันนี้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของการพัฒนาอาชีพที่ทันสมัยและตอบโจทย์ยุคโซเชียลอย่างแท้จริง ไม่ใช่แค่มีอาชีพ แต่ต้องรู้จักเพิ่มมูลค่าให้สินค้าด้วย “ทักษะการนำเสนอ” ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการขายในยุคนี้

 

ทั้งนี้ โครงการส่งเสริมและพัฒนากลุ่มอาชีพ ประจำปี 2568 ยังวางแผนขยายกิจกรรมในลักษณะเดียวกันไปยังกลุ่มอื่น ๆ เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่จังหวัดสตูลสามารถยืนหยัดได้ด้วยตนเอง มีรายได้ และเติบโตอย่างยั่งยืน

……………………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

สตูล- เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

             บ้านทางยาง หมู่ 7 ตำบลสาคร อำเภอท่าแพ จังหวัดสตูล พื้นที่ที่เงียบสงบถูกปลุกให้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง ด้วยแรงบันดาลใจของ “ครูจิสน  มัจฉา” อดีตครูผู้เบนเข็มชีวิตมาสู่การทำเกษตรเต็มตัว สร้าง ฟาร์มเห็ดนางฟ้า จากก้อนเชื้อ 85 ก้อนแรกในหม้อนึ่งลูกทุ่ง สู่วิสาหกิจชุมชนที่ผลิตก้อนเห็ดมากถึง 7,000 ก้อนต่อรอบ ก่อเกิดรายได้และการจ้างงานให้ชุมชนในทุกฤดูกาล

 

             ครูจิสน  มัจฉา  ประธานกลุ่มทางยางบ้านเห็ด บอกว่า  อยากหาทางเลือกให้ครอบครัวมีรายได้เสริม เห็นเห็ดนางฟ้าก็รู้สึกว่าใช่… เริ่มทำจากของเล็ก ๆ ที่เราชอบ พอทำจริง ๆ มันกลายเป็นรายได้หลักเลยค่ะ  สาเหตุที่เลือกเห็ดนางฟ้าเพราะสามารถขายได้ทั้งก้อนเห็ด  ดอกเห็ด และก้อนที่หมดอายุสามารถไปทำปุ๋ยได้

 

            ครูจิสน. เริ่มเพาะเห็ดจากความสนใจส่วนตัว ใช้หม้อนึ่งฟืนแบบพื้นบ้าน วันละ 6–8 ชั่วโมงต่อ 85 ก้อน ผ่านมาเกือบสิบปี เธอพัฒนาเทคนิคและเครื่องมือการผลิตจนกลายเป็นฟาร์มต้นแบบ ใช้หม้อนึ่งระบบไอน้ำที่รองรับได้มากถึง 780 ก้อนต่อครั้ง ลดการใช้ไม้ฟืน เพิ่มประสิทธิภาพ พร้อมตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชน “ทางยางบ้านเห็ด” อย่างเป็นทางการในปี 2560

 

ปัจจุบันกลุ่มมีสมาชิก 10 ราย ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรสวนยางพาราและปาล์มน้ำมันและประมงในพื้นที่. ที่หันมาปลูกเห็ดเสริมอาชีพ  โดย กลุ่มมีการใช้นวัตกรรม ได้แก่ เครื่องผสม, เครื่องอัดก้อน, เตานึ่งระบบไอน้ำ ช่วยให้การผลิตก้อนเชื้อเห็ดรวดเร็ว มีมาตรฐาน และปลอดภัยยิ่งขึ้น

 

สินค้าหลักของกลุ่ม ได้แก่

  • ก้อนเชื้อเห็ดนางฟ้า (10 บาท/ก้อน) ผลิตปีละ 4–5 รอบ รวมกว่า 28,000 ก้อน
  • ดอกเห็ดสด (60 บาท/กก.) ส่งตลาดละงู โรงเรียน และตัวแทนจำหน่าย
  • ผลิตภัณฑ์แปรรูป เช่น
  • น้ำพริกเห็ดนางฟ้า
  • เห็ดทอดกรอบรสลาบ
  • เห็ดปาปิก้า และสูตรดั้งเดิม

 

ขายดีทั้งตลาดสดและออนไลน์ สร้างรายได้เฉลี่ยเดือนละกว่า 30,000 บาท (ก่อนหักค่าใช้จ่าย) ไม่รวมแปรรูปเห็ด

           สำหรับ เห็ดก้อนเชื้อหนึ่งก้อนสามารถเก็บผลผลิตได้นานถึง 5 เดือน เมื่อหมดอายุยังสามารถนำไปทำปุ๋ยอินทรีย์ ใช้ในแปลงเกษตรของชุมชน

 

          “สำนักงานเกษตรอำเภอท่าแพ  ได้สนับสนุนกลุ่มนี้ตั้งแต่เริ่มต้น ตั้งแต่เรื่องเทคโนโลยี การจัดการ การหาตลาด จนกลายเป็นต้นแบบให้พื้นที่อื่น ๆ ได้เห็นว่า…ถ้าเราพร้อมลงมือทำ เกษตรก็สร้างอาชีพที่มั่นคงได้จริง ๆ”

 

          นายอารีย์  โส๊ะสันสะ  เกษตรอำเภอท่าแพ กล่าวอย่างภาคภูมิใจ ในอนาคตกลุ่มเตรียมขยายการเพาะเห็ดพันธุ์ใหม่ เช่น เห็ดมิลกี้ พร้อมวางระบบโรงเรือนควบคุมอุณหภูมิ สร้างแบรนด์ท้องถิ่น จดทะเบียนสินค้า และเพิ่มช่องทางตลาดในจังหวัดและจังหวัดใกล้เคียง เพื่อรองรับความต้องการที่เพิ่มขึ้น

 

          สำหรับเกษตรกรที่มองหาอาชีพเสริม  เดี๋ยวนี้ก็จะมีพืชเป็นพืชเศรษฐกิจอยู่หลายๆ ตัวอย่างเช่นสละ , กาแฟ.  แล้วก็เห็ด  เหมาะสำหรับผู้ที่มีเวลาน้อย แล้วถ้าสามารถ ทำได้ตั้งแต่ขั้นตอนในการผลิตก้อนเอง และก็ในการเปิดออกจำหน่ายเองตรงนี้เขาจะมีกำไรค่อนข้างดี

 

         ผู้สนใจสามารถเยี่ยมชมและศึกษาดูงานได้ที่ กลุ่มวิสาหกิจชุมชนทางยางบ้านเห็ด  เลขที่ 22 หมู่ 7 ตำบลสาคร อำเภอท่าแพ จังหวัดสตูล 91150. เพจ: บ้านไร่ภูภัทรโทร. 087-091-6176

 

         จากแรงบันดาลใจเล็ก ๆ ของอดีตครูท้องถิ่น… สู่วิสาหกิจชุมชนที่ยิ่งใหญ่ในหัวใจของคนบ้านทางยาง

…….

อัพเดทล่าสุด