Categories
ข่าวเด่น

  ป.ป.ช.ลุยตรวจการ์ดเรลแขวงทางหลวงสตูล หลังพบประเด็นสร้างไม่ได้มาตรฐานในพัทลุง

ป.ป.ช.ลุยตรวจการ์ดเรลแขวงทางหลวงสตูล หลังพบประเด็นสร้างไม่ได้มาตรฐานในพัทลุง

        สตูล – วันที่ 4 กรกฎาคม 2568 สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ประจำจังหวัดสตูล ลงพื้นที่สุ่มตรวจสอบมาตรฐานการติดตั้ง การ์ดเรล หรือราวเหล็กริมทาง ภายใต้ความรับผิดชอบของแขวงทางหลวงจังหวัดสตูล หลังได้รับเบาะแสว่าอาจก่อสร้างไม่ได้ตามแบบแปลนคล้ายกรณีในจังหวัดพัทลุง

 

         การตรวจสอบครั้งนี้ครอบคลุมพื้นที่ ตำบลฉลุง อำเภอเมืองสตูล และตำบลท่าแพ อำเภอท่าแพ โดย นายธนกฤต เลิศวิริยวรางกูร ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.สตูล เปิดเผยว่า เบื้องต้นเป็นการตรวจสอบข้อเท็จจริงตามที่สำนักงาน ป.ป.ช.ภาค 9 มอบหมาย หลังประชาชนร้องเรียนเรื่องคุณภาพโครงการ ว่ามีข้อสงสัยความหนา ความยาว และวิธีติดตั้งไม่เป็นไปตามมาตรฐานกรมทางหลวง

 

       “จากการตรวจจุดแรก บริเวณสะพาน พบความหนาของราวเหล็กยังเป็นไปตามเกณฑ์ ส่วนจุดถัดไปจะตรวจความลึกของเสาที่ต้องฝังดิน 1.2 เมตร และเทคอนกรีตรัดรอบ  ความสูงเหนือพื้นดิน 80 ซ.ม. ความหนาเหล็กต้องไม่ต่ำกว่า 3.2  ส่วนตัวเสาหนา 4 มิลลิเมตรต่อแบบรายการ ทั้งนี้การตรวจเป็นการสุ่ม เพราะถ้าพบจุดใดมีปัญหา ส่วนอื่นๆ ก็มักจะเป็นลักษณะเดียวกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับความซื่อตรงของผู้รับจ้างและความละเอียดรอบคอบของผู้ควบคุมงาน” นายธนกฤตกล่าว

        ด้าน นายปิยะวัฒน์ คุระพูล ผู้อำนวยการกลุ่มประสานการป้องกันการทุจริตภาค 9 ระบุว่า การลงพื้นที่วันนี้เน้นตรวจวัดมิติต่างๆ เช่น ความหนา ความยาว ความสูง ซึ่งจากการสุ่มตรวจยังไม่พบสิ่งผิดปกติชัดเจน แต่มีข้อสังเกตสำคัญคือแผ่นราวเหล็กไม่มี สติกเกอร์รับรอง จากกรมทางหลวง ซึ่งเป็นหลักฐานยืนยันแหล่งที่มาของวัสดุ อาจเกิดจากความผิดพลาดช่วงขนย้ายหรือติดตั้ง จึงได้มอบหมายให้แขวงทางหลวงเร่งตรวจสอบและรายงานผลเพิ่มเติม

 

         ในส่วนของแขวงทางหลวงจังหวัดสตูล นายสมเกียรติ โมควงศ์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสตูล ชี้แจงว่า โครงการนี้ใช้งบประมาณกว่า 490,000 บาท ติดตั้งการ์ดเรลบริเวณคอสะพานรวม 7 แห่ง ระยะทางกว่า 212 เมตร แล้วเสร็จเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา โดยยืนยันว่าได้กำชับเจ้าหน้าที่ควบคุมงานให้ปฏิบัติตามรูปแบบและมาตรฐานกรมทางหลวงทุกขั้นตอน

         “การที่ ป.ป.ช.ลงมาตรวจสอบครั้งนี้ถือเป็นเรื่องดี ช่วยเพิ่มความรอบคอบโปร่งใส หากประชาชนพบข้อผิดสังเกตสามารถแจ้งแขวงทางหลวงหรือป.ป.ช.ได้โดยตรง เช่น หากเห็นเสาก่อนติดตั้งมีความยาวสั้นกว่ามาตรฐาน 2 เมตร อาจตั้งข้อสงสัยไว้ได้ แต่หากติดตั้งเรียบร้อยแล้วจะตรวจสอบด้วยสายตาค่อนข้างยาก” นายสมเกียรติกล่าว

 

         ทั้งนี้ ป.ป.ช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องย้ำว่า การร่วมมือของประชาชนในการให้ข้อมูลเบาะแสเป็นกำลังสำคัญ เพราะยุคปัจจุบันสังคมตื่นตัวเรื่องการใช้งบประมาณและการตรวจสอบการทุจริตงานก่อสร้างมากขึ้น หากพบข้อพิรุธ สามารถแจ้งผ่านช่องทางสำนักงาน ปปช.สตูล หรือสายด่วน ป.ป.ช.ได้ตลอดเวลา

……………………………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

  สตูลเดินหน้าแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก! เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นศึกษาผลกระทบโครงการบรรเทาอุทกภัยควนโดน–เมืองสตูล

สตูลเดินหน้าแก้ปัญหาน้ำท่วมซ้ำซาก! เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นศึกษาผลกระทบโครงการบรรเทาอุทกภัยควนโดน–เมืองสตูล

          วันที่ 3 ก.ค. 68 ที่ห้องประชุมกาหลง ชั้น 2 อาคารศูนย์วิทยบริการ วิทยาลัยชุมชนสตูล ตำบลเกตรี อำเภอเมือง  จังหวัดสตูล  นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล มอบหมายให้ นายธนพัฒน์ เด่นบูรณะ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสตูล เป็นประธานเปิดการประชุมปฐมนิเทศ  โครงการศึกษาความเหมาะสมและผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น  เพื่อการบรรเทาอุทกภัยในพื้นที่อำเภอควนโดน  และอำเภอเมืองสตูล  โดยมีนายมิตร บุญจันทร์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานสตูล  พร้อมด้วยผู้แทนจากกรมชลประทาน หน่วยงานราชการ ภาคประชาชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมรับฟังข้อมูลและร่วมแสดงความคิดเห็นอย่างพร้อมเพรียง

        สำหรับโครงการดังกล่าว กรมชลประทานมอบหมายให้สำนักงานบริหารโครงการว่าจ้างกลุ่มบริษัทที่ปรึกษา ประกอบด้วย บริษัท คอนซัลแทนท์ ออฟ เทคโนโลยี จำกัด และมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ดำเนินการศึกษา โดยมีเป้าหมายเพื่อหาแนวทางบรรเทาปัญหาอุทกภัยในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบซ้ำซาก โดยเฉพาะบริเวณคลองดุสน คลองฉลุง และคลองตาลีไกล ซึ่งมีลักษณะภูมิประเทศที่ทำให้เกิดน้ำไหลหลากลงสู่พื้นที่ลุ่มอย่างรวดเร็ว และคลองระบายน้ำไม่สามารถรองรับปริมาณน้ำได้เพียงพอ

 

           การศึกษาครั้งนี้เป็นการพิจารณาทางเลือกในการพัฒนาโครงการที่เหมาะสมทั้งในด้านวิศวกรรม เศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ควบคู่ไปกับการออกแบบระบบระบายน้ำ การจัดการวัสดุก่อสร้าง การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำ ตลอดจนการคำนึงถึงผลกระทบต่อแหล่งโบราณคดีและระบบนิเวศชายฝั่งทะเล เพื่อรองรับการวางแผนออกแบบและการก่อสร้างในอนาคต

…………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ท้องถิ่น-การเมือง

อบต.ละงู เดินหน้ายกระดับตลาดนัด สร้างมาตรฐาน “ตลาดน่าซื้อ” ผู้สัมผัสอาหารรับความรู้-บัตรรับรอง

อบต.ละงู เดินหน้ายกระดับตลาดนัด สร้างมาตรฐาน “ตลาดน่าซื้อ” ผู้สัมผัสอาหารรับความรู้-บัตรรับรอง

         องค์การบริหารส่วนตำบลละงู จังหวัดสตูล จัดกิจกรรมอบรมผู้สัมผัสอาหาร ภายใต้โครงการ “พัฒนาตลาดสู่มาตรฐานตลาดน่าซื้อ” ประจำปีงบประมาณ 2568 ณ ตลาดนัดเพิ่มพูนสุข หมู่ที่ 4 ตำบลละงู โดยมีผู้เข้าร่วมอบรมจำนวน 60 คน. เมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568

        การอบรมครั้งนี้ มุ่งสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสุขาภิบาลอาหาร ความปลอดภัยของอาหารและน้ำ รวมถึงกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับผู้สัมผัสอาหาร โดยผู้เข้าอบรมจะได้รับ บัตรประจำตัวผู้สัมผัสอาหาร และ เกียรติบัตรผ่านการอบรม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งเครื่องมือรับรองคุณภาพและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้บริโภค

         นายจำรัส ฮ่องสาย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลละงู เปิดเผยว่า ตำบลละงูมีตลาดสด 1 แห่ง และตลาดนัดอีก 5 แห่ง โดย “ตลาดนัดเพิ่มพูนสุข” เป็นพื้นที่นำร่องในการยกระดับสู่ “ตลาดน่าซื้อ” อย่างแท้จริง

“เราต้องการให้ตลาดในพื้นที่ เป็นแหล่งค้าขายที่ปลอดภัย มีมาตรฐาน และสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้บริโภค ทั้งในเรื่องของสุขอนามัย และความเป็นระเบียบของตลาด” นายจำรัสกล่าว

          ปัจจุบัน ตลาดนัดเพิ่มพูนสุขมีแผงค้ากว่า 66 แผง มีผู้ประกอบการประมาณ 100 คน จำหน่ายทั้งอาหารสด อาหารพร้อมบริโภค เสื้อผ้า และของใช้ต่างๆ การส่งเสริมความรู้แก่ผู้สัมผัสอาหารจึงเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาอย่างยั่งยืน

         โครงการนี้จัดโดย กองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม อบต.ละงู ที่มุ่งมั่นสร้างพื้นที่ค้าขายที่ “น่าซื้อ” ทั้งในแง่ของคุณภาพ ความสะอาด และการมีส่วนร่วมของผู้ค้าและประชาชนในชุมชน โดยคาดว่าจะขยายผลไปยังตลาดอื่น ๆ ในพื้นที่ต่อไป

……..

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

อบต.ฉลุง  จัดใหญ่งานเทศกาลอาหารฮาลาลตำบลฉลุง ครั้งที่ 1 ส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวให้เป็นที่รู้จักสู่สากล

อบต.ฉลุง  จัดใหญ่งานเทศกาลอาหารฮาลาลตำบลฉลุง ครั้งที่ 1 ส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวให้เป็นที่รู้จักสู่สากล

         ที่บริเวณสระใหญ่ หลังที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลฉลุง อ.เมืองสตูล จ.สตูล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดงานเทศกาลอาหารฮาลาลตำบลฉลุง ครั้งที่ 1 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมี นายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล นายพิบูลย์ รัชกิจประการ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสตูล เขต 1  หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น และประชาชนเข้าร่วมงานจำนวนมาก

.

             โดยภายในงานประกอบด้วย การจำหน่ายสินค้าฮาลาลกว่า 100 ร้าน การจัดนิทรรศการจากหน่วยงานต่าง ๆ และออกบูทเพื่อสาธิตและชิมสินค้าขนมพื้นบ้าน ในพื้นที่จำนวน 14 หมู่บ้าน การแข่งขันการทำอาหาร(ข้าวเหนียวแกงแพะ) และยังมี การแสดงกิจกรรมต่างๆ บนเวทีตลอดทั้งการจัดงาน นอกจากนี้ยังได้มีโอกาสต้อนรับพี่น้องจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียในการมาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย

.

 

             งานเทศกาลอาหารฮาลาลตำบลฉลุง ประจำปี 2568 จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 27-29 มิถุนายน 2568 มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของตำบลฉลุงหวัดสตูลให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปอย่างแพร่หลาย เพื่อส่งเสริมให้มีกิจกรรมจำหน่ายอาหารฮาลาลและอาหารพื้นเมืองที่สะอาด ปลอดภัย เพื่อเป็นภาพลักษณ์ แก่นักท่องเที่ยว สร้างความเชื่อมั่นในการกระตุ้นเศรษฐกิจของเมือง สามารถสร้างงานสร้างรายได้ให้กับประชาชนจากการจำหน่ายอาหารและสินค้าพื้นเมือง ทั้งยังเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมและสร้างเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในกิจกรรมการท่องเที่ยวพื้นที่จังหวัดสตูลอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนอีกด้วย

………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
เยาวชน-การศึกษา

“28 ปี แห่งความภาคภูมิใจ วิทยาลัยการอาชีพละงู” คว้ารางวัลสถานศึกษารางวัลพระราชทาน ประจำปี 2566

สตูล “28 ปี แห่งความภาคภูมิใจ วิทยาลัยการอาชีพละงู” คว้ารางวัลสถานศึกษารางวัลพระราชทาน ประจำปี 2566

          วันที่ 28 มิถุนายน 2566  นายสะเทือน สรรพจักร ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพละงู  พร้อมคณะครู  นักศึกษา  กลุ่มแม่บ้าน  อัญเชิญรางวัล  “สถานศึกษารางวัลพระราชทาน” ประจำปีการศึกษา 2566   แห่รอบเมืองละงู  จ.สตูล  ก่อนเข้าสู่  พิธีอัญเชิญและเฉลิมฉลอง รางวัล  “สถานศึกษารางวัลพระราชทาน” ซึ่งได้ถูกจัดขึ้นอย่างสมเกียรติ เปี่ยมด้วยความปลื้มปีติ และความภาคภูมิใจสูงสุดของครอบครัวชาว วิทยาลัยการอาชีพละงู  ณ อาคารโดม วิทยาลัยการอาชีพละงู จังหวัดสตูล

         

        บรรยากาศงานเต็มไปด้วยความอบอุ่นและซาบซึ้งใจ มีผู้บริหาร ข้าราชการ ชุมชนร่วมเป็นสักขีพยาน โดยมี  นายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ประธานในงาน   นายสะเทือน สรรพจักร ผู้อำนวยการวิทยาลัยการอาชีพละงู อัญเชิญรางวัลพระราชทานฯ ร่วมประกาศความภาคภูมิใจร่วมกัน  มีนายวิเชียร บุญเตี๋ยว ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคสตูล ประธานสำนักงานอาชีวศึกษาจังหวัด  ผู้นำทุกภาคส่วน สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ทั้งสองเขตการเลือกตั้ง  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล และแขกผู้มีเกียรติ จำนวนมากที่มาร่วม แสดงความยินดี

 

         28 ปีแห่งการสร้างคนดี คนเก่งสู่สังคม  วิทยาลัยการอาชีพละงู ก่อตั้งเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2540 บนพื้นที่กว่า 100 ไร่ ภายใต้สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา จากวันแรกที่มีนักเรียนเพียงไม่กี่สิบคน สู่วันนี้ที่เปิดสอนหลักสูตรหลากหลายกว่า 10 สาขา ตั้งแต่ ช่างยนต์ ช่างไฟฟ้า ช่างเชื่อมโลหะ อิเล็กทรอนิกส์ การบัญชี เทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล การโรงแรม การท่องเที่ยว โลจิสติกส์ และอื่นๆอีกมากมาย เพื่อผลิตกำลังคนที่มีคุณภาพ มาตรฐานสูง พร้อมก้าวสู่ตลาดแรงงานและสร้างชื่อเสียงให้กับจังหวัดสตูล

 

        แม้ในการประเมินรางวัลพระราชทานครั้งแรกเมื่อปี 2565 วิทยาลัยจะได้รับเพียงรางวัลชมเชย แต่ความไม่สมหวังวันนั้น กลับกลายเป็นแรงผลักดันมหาศาล ทุกคนร่วมแรงร่วมใจ พัฒนาทุกมิติ บนความศรัทธา ความมุ่งมั่น และหัวใจที่ไม่ยอมแพ้

 

        และวันนี้…ความเพียรพยายามตลอด 28 ปีได้ตอบแทนด้วยรางวัลสูงสุด  รางวัลสถานศึกษารางวัลพระราชทาน ประจำปี 2566 เกียรติยศสูงสุดที่เกิดจากพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้ทรงพระราชทานกำลังใจให้ครู นักเรียนและสถาบันการศึกษาได้เดินหน้าพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง

 

         นี่คือพลังแห่งหัวใจชาว วก.ละงู ที่ไม่ยอมแพ้ต่อทุกอุปสรรค นี่คือความสำเร็จของสถานศึกษาเล็กๆ ที่ยิ่งใหญ่ในหัวใจคนสตูล

…………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

  สตูลซ้อมอพยพสึนามิ…บทเรียนที่ไม่มีวันลืม   ชุมชนริมทะเลรวมพลังเรียนรู้เพื่อเอาชีวิตรอด

มวลชนชาวสตูลกว่า 500 คน รวมพลังสวมเสื้อเหลือง มอบช่อดอกไม้–ส่งกำลังใจแม่ทัพภาค 2 ถึงค่ายสมันตรัฐฯ 

         เสียงไซเรนเตือนภัยดังก้องริมชายฝั่งอันเงียบสงบของหมู่บ้านหาดทรายยาว จังหวัดสตูล ทำเอาหลายคนสะดุ้งเฮือก ภาพความทรงจำอันโหดร้ายเมื่อสองทศวรรษก่อนย้อนกลับมาในหัวทันที  สึนามิครั้งนั้นคร่าชีวิตผู้คนและทิ้งบาดแผลลึกไว้ในหัวใจคนไทย…และไม่มีใครอยากให้มันเกิดซ้ำอีก

 

        บ่ายวันนี้ นายศักระ   กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานเปิดการฝึกซ้อมแผนเตรียมความพร้อมรับมือภัยสึนามิที่โรงเรียนบ้านหาดทรายยาว ตำบลตันหยงโป โดยสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสตูลร่วมกับส่วนราชการ ทหาร และภาคประชาชน จัดกิจกรรมให้ความรู้เกี่ยวกับสัญญาณเตือนภัย วิธีการอพยพที่ถูกต้อง การสื่อสารฉุกเฉิน รวมถึงสาธิตการใช้โดรนสำรวจพื้นที่เสี่ยงภัย

 

        การฝึกซ้อมครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันทางใจ ลดความตื่นตระหนกเมื่อเกิดเหตุการณ์จริง และปลูกฝังทักษะเอาตัวรอดให้ชาวบ้านทุกวัย โดยเฉพาะเด็กนักเรียนที่อาจไม่เคยเห็นภัยพิบัติร้ายแรงด้วยตาตนเอง การเรียนรู้เช่นนี้อาจเป็นกุญแจสำคัญในการปกป้องชีวิตคนรุ่นใหม่

       นางรอนี แซะอุหมาก วัย 71 ปี เล่าด้วยน้ำเสียงเมื่อคิดถึงวันนั้นแล้วยังกลัวไม่หาย เธอบอกว่าการซ้อมอพยพครั้งนี้ช่วยให้ทุกคนตื่นตัวและเตรียมใจเสมอว่า สึนามิอาจกลับมาอีกเมื่อไรก็ได้

        เช่นเดียวกับนายยะหยา ฮะยีบิลัง อายุ 63 ปี ที่มองว่านี่ไม่ใช่แค่กิจกรรมตามหน้าที่ แต่คือโอกาสให้คนเฒ่าคนแก่ได้เล่าบทเรียนชีวิตให้ลูกหลานได้เรียนรู้เส้นทางอพยพ และเข้าใจว่าทุกวินาทีมีค่าต่อความอยู่รอด

          “คนรุ่นใหม่บางคนไม่เคยเห็นความรุนแรงของสึนามิ การได้ซ้อม ได้เห็นขั้นตอนชัดๆ จะช่วยให้เขาไม่ประมาท” เขากล่าว

          แม้วันนี้เพียงแค่การจำลอง แต่บรรยากาศจริงจังและเปี่ยมไปด้วยความรู้สึกตระหนักถึงความเปราะบางของชีวิต ทุกคนต่างรู้ดีว่าเมื่อภัยธรรมชาติถาโถมเข้ามา เราไม่มีทางสู้มันได้เลย หากไม่รู้จักเตรียมตัว

          ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลย้ำว่าการซักซ้อมและเฝ้าระวังต้องทำต่อเนื่อง เพราะความเสียหายจากสึนามิอาจเกิดขึ้นทุกเมื่อ การเข้าใจสัญญาณเตือนภัย ฝึกความพร้อมทั้งร่างกายและจิตใจ และช่วยเหลือกันในชุมชน คือหัวใจสำคัญที่อาจหมายถึง “ความอยู่รอด” หรือ “การสูญเสีย”

        “เราไม่รู้หรอกว่าสึนามิจะมาเมื่อไหร่ แต่เราเลือกได้ว่าจะรับมืออย่างไร” เสียงเตือนใจนี้ยังคงก้องในหัวของชาวบ้านทุกคนที่ร่วมซ้อมอพยพในวันนี้

       และนี่คือบทเรียนที่ไม่มีวันลืม…บทเรียนที่ต้องส่งต่อไปถึงรุ่นลูกหลาน ให้จดจำว่าธรรมชาติยิ่งใหญ่เพียงใด และมนุษย์ต้องเตรียมพร้อมทุกลมหายใจ

………………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 สมูทตี้จำปาดะ เมนูชวนลิ้มลอง ที่สวนจูหอดตัวอย่างเกษตรกรต้นแบบ บ้านโคกมุดพัฒนา สวนจำปาดะพันธุ์ดี กำลังผลิดอกออกผล พร้อมเดินหน้าสู่พืช GI เมืองสตูล

สมูทตี้จำปาดะ เมนูชวนลิ้มลอง ที่สวนจูหอดตัวอย่างเกษตรกรต้นแบบ บ้านโคกมุดพัฒนา สวนจำปาดะพันธุ์ดี กำลังผลิดอกออกผล พร้อมเดินหน้าสู่พืช GI เมืองสตูล

         บ้านสวนจูหอด ม.6 บ้านโคกมุดพัฒนา ตำบลเกตรี (อ่านว่า  เกด-ตรี)  อำเภอเมือง จังหวัดสตูล พื้นที่ 6 ไร่ของ “นายหอด แดสา” วัย 74 ปี กำลังกลายเป็นความหวังของชุมชนและวงการเกษตรในพื้นที่ เมื่อสวนผสมของเขาซึ่งประกอบด้วย จำปาดะพันธุ์ทองเกษตร ขวัญสตูล และไร้เมล็ด กว่า 160 ต้น เริ่มให้ผลผลิตอย่างต่อเนื่อง เตรียมพร้อมเข้าสู่กระบวนการขึ้นทะเบียนพืชเศรษฐกิจ GI (Geographical Indication) หรือสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของจังหวัดสตูล

          นายหอด  เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า  สวนแห่งนี้แต่เดิมเคยเป็นสวนยางพารา ก่อนจะตัดสินใจโค่นยางเมื่อราว 4 ปีก่อน เพื่อเปลี่ยนมาเป็นสวนผสมโดยปลูกพืชหมุนเวียนหลากหลายทั้งทุเรียนหมอนทอง 140 ต้น จำปาดะ 160 ต้น รวมถึงอ้อย กระเจี๊ยบ และพืชผักฤดูกาล เช่น แตงกวา ที่สามารถเก็บเกี่ยวขายได้วันละ 600-800 บาทในช่วงฤดูกาล

          “ปีที่แล้วจำปาดะ 5 ต้นให้ผลผลิตรวม 35 ลูก ปีนี้นับเฉพาะต้นเดียวได้ถึง 50 ลูกแล้ว” เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม

          จำปาดะจากสวนจูหอดมี 3 สายพันธุ์หลัก ได้แก่  พันธุ์ขวัญสตูล เนื้อหนา กลิ่นหอมเฉพาะ  พันธุ์ทองเกษตร สีเหลืองสวย หวานละมุน  พันธุ์ไร้เมล็ด หายาก นิยมนำมาทอดหรือแปรรูป

          นางสาวนิลุบล เชื้อศรีชัย เจ้าหน้าที่เกษตรตำบลเกตรี สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองสตูล ให้ข้อมูลว่า นายหอดเป็นหนึ่งในเกษตรกรรายใหญ่ที่สุดของอำเภอเมืองสตูลที่มีการปลูกจำปาดะมากที่สุด  ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเตรียมเอกสารขอขึ้นทะเบียน GI ผลไม้ประจำถิ่น  อำเภอเมืองสตูล  เพื่อยกระดับผลิตผลให้มีมูลค่าเพิ่มในตลาดระดับประเทศ โดยก่อนหน้านี้สวนได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP แล้ว

          ทางเกษตรตำบลยังได้แนะนำการแปรรูปจำปาดะเพื่อเพิ่มมูลค่า เช่น การทำ “สมูทตี้จำปาดะ”  ซึ่งให้รสชาติคล้ายไอศกรีม เมื่อผ่านการแช่แข็ง เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้บริโภครุ่นใหม่ และช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรในท้องถิ่น

          นายการียา  เดชสมัน  ผู้ใหญ่บ้าน ม.6 บ้านโคกมุดพัฒนา กล่าวย้ำว่า นายหอด  คือเกษตรกรต้นแบบของชุมชน ด้วยความขยัน อดทน และมีการบริหารจัดการสวนผสมอย่างเป็นระบบ จนกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่ชาวบ้าน พร้อมเผยแผนต่อไปคือการรณรงค์ให้ชาวบ้านปลูกจำปาดะเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็น “พืชเศรษฐกิจประจำถิ่น” และสร้างรายได้อย่างยั่งยืน

          สำหรับผู้ที่สนใจผลผลิตจำปาดะแท้จากสวนจูหอด สามารถติดต่อได้ที่  หมาดกอเฉ็ม ลูกชายของนายหอด โทร. 085-117-4338  หรือสอบถามเพิ่มเติมที่ เกษตรอำเภอเมืองสตูล

          จำปาดะเป็นผลไม้เนื้อสีเหลือง มีรสหวาน กลิ่นหอมเฉพาะตัว คล้ายขนุนผสมกับทุเรียน นิยมนำมาทานสด ทอด หรือแปรรูปเป็นขนมและเครื่องดื่ม เป็นอีกหนึ่งอัตลักษณ์ที่สะท้อนความอุดมสมบูรณ์ของจังหวัดชายแดนภาคใต้แห่งนี้  “การเกษตรไม่ใช่แค่เพาะปลูก แต่คือการเพาะความหวังให้แก่ชุมชน”

……………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
เยาวชน-การศึกษา

ทุนแห่งโอกาส เครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล มอบทุนการศึกษาให้นักเรียนยากจน

ทุนแห่งโอกาส  เครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล มอบทุนการศึกษาให้นักเรียนยากจน

          ณ โรงเรียนบ้านท่าแลหลา ต.กำแพง อ.เมือง จ.สตูล เครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล นำโดย นางสาวพัชรี เกิดพรม ประธานเครือข่าย พร้อมคณะกรรมการและสมาชิก ได้จัดกิจกรรมมอบทุนการศึกษาให้กับนักเรียนที่ทำกิจกรรมดีเด่นและมีฐานะยากจน จำนวน 10 ทุน เพื่อสร้างโอกาสทางการศึกษาและบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายของผู้ปกครอง

 

          นายมูฮอฟฟัล ยาหมาย ผู้อำนวยการโรงเรียนบ้านท่าแลหลา พร้อมด้วยคณะครูและประธานกรรมการสถานศึกษา ให้การต้อนรับคณะด้วยความอบอุ่น โดยโรงเรียนแห่งนี้มีนักเรียน 160 คน ตั้งแต่ระดับอนุบาลถึงมัธยมศึกษาตอนต้น ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยอยู่กับปู่ย่าตายาย เนื่องจากพ่อแม่ต้องออกไปทำงานต่างถิ่น

 

นางสาวพัชรี  กล่าวว่า เครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูลเห็นความสำคัญของการส่งเสริมโอกาสทางการศึกษา จึงมอบทุนการศึกษาให้เด็กนักเรียนที่มีความจำเป็น

“เด็กเหล่านี้คืออนาคตของสังคม การช่วยเหลือในวันนี้คือการลงทุนเพื่ออนาคต เราหวังว่าน้องๆ จะเติบโตเป็นคนดี มีความรู้ และกลับมาช่วยเหลือสังคมต่อไป” นางสาวพัชรีกล่าว

 

ทางโรงเรียนบ้านท่าแลหลาได้กล่าวขอบคุณเครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูลที่ไม่เพียงแต่นำความช่วยเหลือมาสู่เด็กนักเรียน แต่ยังสร้างแรงบันดาลใจให้ชุมชนมองเห็นคุณค่าของการร่วมมือช่วยเหลือซึ่งกันและกัน

 …………………………………..

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

  มวลชนชาวสตูลกว่า 500 คน รวมพลังสวมเสื้อเหลือง มอบช่อดอกไม้–ส่งกำลังใจแม่ทัพภาค 2 ถึงค่ายสมันตรัฐฯ

มวลชนชาวสตูลกว่า 500 คน รวมพลังสวมเสื้อเหลือง มอบช่อดอกไม้–ส่งกำลังใจแม่ทัพภาค 2 ถึงค่ายสมันตรัฐฯ 

สตูล – เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2568 ประชาชนชาวจังหวัดสตูลกว่า 500 คน นำโดยนางอุดมศรี จันทรัศมี ประธานชมรมคนรักในหลวงจังหวัดสตูล พร้อมด้วยสมาชิกชมรมทหารผ่านศึก และพี่น้องประชาชนในพื้นที่ ร่วมกันจัดกิจกรรมแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ ณ ค่ายสมันตรัฐบุรินทร์ ตำบลคลองขุด อำเภอเมือง จังหวัดสตูล เพื่อแสดงความจงรักภักดีต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และส่งกำลังใจถึงกำลังพลในพื้นที่ชายแดน

ผู้ร่วมกิจกรรมต่างพร้อมใจกันสวมเสื้อสีเหลือง ถือธงชาติไทยและพระบรมฉายาลักษณ์ ร่วมขับร้องเพลงชาติไทยและเพลงสรรเสริญพระบารมีอย่างพร้อมเพรียง โดยตัวแทนจากชมรมคนรักในหลวงได้อ่านแถลงการณ์แสดงเจตจำนงในการรวมพลังรักชาติ และขอบคุณทหารทุกนายที่เสียสละปกป้องแผ่นดิน โดยเฉพาะแม่ทัพภาคที่ 2 ซึ่งปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งขณะนี้กำลังเผชิญกับสถานการณ์ความตึงเครียดบริเวณแนวชายแดน

ไฮไลต์ของกิจกรรมคือพิธีมอบช่อดอกไม้แทนความรัก ความห่วงใย และกำลังใจจากพี่น้องชาวสตูล โดยมีร้อยโทสุรวุฒิ หนูเอียด ตัวแทนผู้บังคับกองร้อย ร.5 พัน.2 เป็นผู้รับมอบช่อดอกไม้ในนามแม่ทัพภาคที่ 2 ท่ามกลางเสียงปรบมือของประชาชนที่เข้าร่วมงานอย่างคึกคัก

นางรัตติยา มนูญดาหวี ตัวแทนจากชมรมคนรักในหลวงจังหวัดสตูล กล่าวว่า การรวมตัวในครั้งนี้ไม่เกี่ยวข้องกับการเมือง แต่เป็นการรวมพลังจากหัวใจของประชาชนที่ห่วงใยประเทศชาติ และต้องการส่งกำลังใจให้ทหารที่เสียสละปกป้องแผ่นดินมาอย่างต่อเนื่อง

…………………………..

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 “พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค สตูล

“พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค สตูล

สตูล – จากพนักงานขายเครื่องสำอางในห้างฯ เมื่อสิบปีก่อน “นางนุชติยา ใจดี” หรือ “พี่นุช” วัย 50 ปี และสามี ได้ร่วมกันพลิกชีวิตด้วยสองมือและแรงใจ กลับคืนถิ่นบ้านเกิด ณ บ้านนาแค หมู่ 5 ตำบลคลองขุด อำเภอเมือง จังหวัดสตูล เปลี่ยนพื้นที่สวนยาง 3 ไร่ครึ่งให้กลายเป็นแหล่งผลิตพืชอินทรีย์และพลังชีวิตที่หล่อเลี้ยงครอบครัวมาอย่างมั่นคง

 

ชีวิตหลังแต่งงานทำให้พี่นุชเริ่มมองหาสิ่งที่มั่นคงกว่าเงินเดือน เขาและสามีจึงตัดสินใจหันหลังให้ชีวิตในเมือง หยิบจอบจับเสียม เรียนรู้เกษตรผสมผสานจากศูนย์ฝึกในชุมชนและจากประสบการณ์จริง จนสามารถออกแบบพื้นที่สวนได้อย่างลงตัว

 

ในสวนนี้ มีทั้งยางพาราอ่อนที่กำลังเติบโต พริกเดือยไก่ครึ่งไร่ ข้าวโพดครึ่งไร่ โหระพา แมงลัก และไผ่หวานกินชุง พร้อมแนวคิดอินทรีย์เต็มรูปแบบ ใช้น้ำหมักจากปลากับเศษกุ้ง ตามทฤษฎีนากุ้ง ไม่มีเคมี ไม่มีหนี้

 

“เราช่วยกันปลูก ช่วยกันเก็บ ตื่นเช้ามาด้วยกัน เหนื่อยด้วยกัน มันอาจไม่หวือหวา แต่เรามีอิสระ มีความสุข และที่สำคัญ เราเลี้ยงลูกจนเรียนจบกฎหมาย ทำงานรับราชการได้ด้วยผักพื้นบ้านพวกนี้” พี่นุชเล่าพลางยิ้ม

พริกเดือยไก่ที่ปลูกปีละครั้ง เก็บได้เกือบ 2 ตันต่อรอบ ราคาขายส่งอยู่ที่ราว 100 บาท ปลีก 150 บาท หากช่วงราคาดี เคยแตะถึง 220 บาทต่อกิโล รายได้เสริมมาจากหน่อไม้หวาน โหระพา แมงลัก ซึ่งลูกค้าหลักเป็นทั้งชาวบ้านและผู้สั่งซื้อออนไลน์ผ่าน Facebook “นุชติยา ใจดี”

 

ความได้เปรียบอีกอย่างของสวนนี้คือ ตั้งอยู่ใกล้แนวสันเขาการาคีรี พื้นที่อุดมสมบูรณ์ พืชผักเติบโตดีโดยไม่ต้องพึ่งสารเคมี ช่วยลดต้นทุนและปลอดภัยทั้งคนกินและคนปลูก

 

พี่นุชและสามีเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของ “คู่ชีวิตนักสู้” ที่ไม่ยอมแพ้ต่อวิถีเมืองใหญ่ กลับมาสร้างรากฐานจากผืนดินบ้านเกิด จนกลายเป็นครอบครัวเกษตรกรที่มั่นคง

 

“เราสองคนไม่เคยคิดจะรวย แต่อยากอยู่แบบไม่ลำบาก อยากให้ลูกเห็นว่าพ่อแม่ใช้แรงตัวเองเลี้ยงเขามา ทุกหยดเหงื่อมีคุณค่า” พี่นุชกล่าวทิ้งท้าย

 

หากคุณกำลังท้อแท้ อยากเริ่มต้นใหม่ หรือยังไม่รู้ว่าความสุขอยู่ที่ไหน ลองกลับมามองดินที่ปลายเท้า แล้วคุณอาจพบคำตอบเหมือน “สองคนสามีภรรยา” คู่นี้

สนใจพริกพื้นบ้าน ผักอินทรีย์ หรือต้องการคำแนะนำด้านเกษตรผสมผสาน  ติดต่อ: นางนุชติยา ใจดี โทร. 084-858-4060   Facebook: นุชติยา ใจดี

         

พริกเดือยไก่ เป็นพริกพันธุ์พื้นบ้าน มีคุณลักษณะพิเศษคือ. เม็ดยาวพอประมาณ รสชาติเผ็ดร้อน และมีความหอม จึงเหมาะกับการทำเป็นเครื่องแกง

อัพเดทล่าสุด