Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

ปลูกข่าตาแดง  อาชีพทำเงินรายได้งาม  ตลาดกว้างลงทุนครั้งเดียวเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ทั้งปี  

ปลูกข่าตาแดง  อาชีพทำเงินรายได้งาม  ตลาดกว้างลงทุนครั้งเดียวเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ทั้งปี  

         เมื่อยางพารามีราคาที่ผันผวนง่าย  การหันมาปลูกพืชสวนครัว  ที่ทุกครัวเรือนจะต้องรับประทานกันเกือบทุกวัน   จึงเป็นทางเลือกทางรอดของครอบครัวคุณสุนันท์  สาลิกาพงษ์  อายุ 59 ปี  สองคนสามีที่เปลี่ยนอาชีพหลักจากกรีดยางพารามาปลูกหัวข่าเสริมรายได้  บนพื้นที่   3  ไร่  ซอย ชุมชนสนามบิน 10  หมู่ 6  ต.คลองขุด อ.เมือง  จ.สตูล  จนถึงขณะนี้กลายเป็นรายได้หลักเลี้ยงครอบครัวได้อย่างสบายสไตล์พอเพียงไปแล้ว

         “ข่าตาแดง”  เป็นพันธุ์ข่าพื้นบ้านชอบดินร่วนซุย   ลงทุนปลูกเพียงครั้งเดียวเก็บเกี่ยวได้ยาวนาน   เพราะเป็นพืชหน่อ  ที่ขุดไปแล้วเหลือไว้ทำเชื้อ 2-3 ต้น  ก็จะแตกหน่อหมุนเวียนให้กลับมาเก็บใหม่ได้อีกครั้ง     การดูแลก็ต้องใส่ปุ๋ย   กำจัดวัชพืชบ้าง  เพื่อให้เขาเติบโตสวยงามและให้ผลผลิตเร็ว   การปลูกจะอิงธรรมชาติเป็นหลัก  หากเจอช่วงแล้งหนัก  ยาวนาน  ก็จะหยุดให้ผลผลิตได้ 

         การเก็บผลผลิตนั้น  ก็สามารถเก็บได้ทุกวัน  วันละ20 กิโลกรัม  ขายกิโลกรัมละ 40 บาทส่งพ่อค้า  ซึ่งในช่วงนี้ราคาดี  เคยมีราคาแตะไปถึงกิโลกรัมละ 50 บาทในข่าอ่อน   ส่วนข่าแก่ก็ส่งขายทำเครื่องแกงได้อีกด้วย    ใบข่าก็ยังสามารถนำไปทำปุ๋ย   ลำต้นก็สามารถนำไปแกะเปลือกนำมาแกงกินได้  เหมือนกับดอกของข่า  ก็เป็นผักสมุนไพรหลายคนชอบรับประทาน 

         เมื่อขุด “ข่าตาแดง” จากแปลงมาแล้ว    ก็ต้องเข้าสู่ขั้นตอนล้าง   ซึ่งทางสามีคุณสุนันท์  สาลิกาพงษ์   จะใช้เครื่องมือทุ่นแรง  เพิ่มแรงน้ำอัดฉีดเพื่อเอาดินออก  ร่นระยะเวลารวดเร็วในการล้าง  ให้  “ข่าตาแดง”   สะอาดสวยงามอมชมพู  และใช้มีดเก็บทำความสะอาดอีกครั้งเพิ่มความสวยก่อนส่งขาย

         นายเฉลิมพร   ศรีสวัสดิ์   เกษตรอำเภอเมืองสตูล  บอกว่า  เกษตรกรรายนี้เคยปลูกฝรั่งมาก่อน  แต่เจอปัญหาศัตรูพืชก่อนหันมาปลูกข่าตาแดง ได้ปีที่ 8 แล้ว ซึ่งข่านับเป็นพืชที่ตลาดยังมีความต้องการอีกเยอะ 

        มีการปลูกน้อยและสามารถให้ผลผลิตได้ตลอดทั้งปี  สร้างรายได้สม่ำเสมอ    โดยทางเกษตรอำเภอเองได้เข้ามาให้ความรู้เรื่องศัตรูพืช และการจัดการแปลงเพื่อให้ได้ผลผลิตที่ดี

………………….

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

ผู้ว่าฯกระบี่ ให้การต้อนรับ กองถ่ายทำภาพยนตร์ ฟอร์มยักษ์ระดับโลก 

ผู้ว่าฯกระบี่ ให้การต้อนรับ กองถ่ายทำภาพยนตร์ ฟอร์มยักษ์ระดับโลก 

             วันที่ 10 มิถุนายน 2567 เวลา 09.00 น. ที่ห้องรับรองชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดกระบี่ หลังใหม่ นายสมชาย หาญภักดีปฏิมา ผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดห้องรับรองให้นายสุรัตน์ จรณโยธิน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกระบี่ พร้อมด้วยคณะผู้บริหารจากบริษัท เปสตัน ฟิล์ม จำกัด ซึ่งเป็นผู้บริหารการถ่ายทำภาพยนต์ เข้าเยี่ยมคารวะเพื่อแจ้งการถ่ายทำภาพยนต์ต่างประเทศฟอร์มยักษ์ระดับโลก ในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ตามที่คณะกรรมการพิจารณาภาพยนตร์และวีดิทัศน์ ได้อนุญาตให้ SAGA Production Limited สหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนเหนือ ถ่ายทำภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ระดับโลกในประเทศไทย ระหว่างวันที่ 13 มิ.ย. – ก.ค.67 โดยมีสถานที่ถ่ายทำคือ กรุงเทพมหานคร พังงา กระบี่ ภูเก็ต และตรัง โดยมีบริษัท เปสตัน ฟิล์ม จำกัด เป็นผู้ประสานงานการถ่ายทำภาพยนตร์ต่างประเทศในไทย จึงได้เข้าเยี่ยมคารวะผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่เพื่อชี้แจงรายละเอียดและกำหนดการถ่ายทำภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ระดับโลกในจังหวัดกระบี่ เพื่อเพิ่มความเชื่อมั่นว่าจังหวัดกระบี่มีศักยภาพและความพร้อมในการเป็นจุดศูนย์กลางของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ จะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจและสังคมในภาพกว้าง ก่อให้เกิดรายได้ต่อชุมชน และภาพลักษณะที่ดีของจังหวัด ซึ่งจะมีเงินจากการลงทุนของบริษัทภาพยนต์หมุนเวียนในเศรษฐกิจไทยเพิ่มขึ้น 900 – 1,200 ล้านบาทต่อปี

         โดยทางด้านของผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่  ได้เน้นย้ำกับทางคณะผู้บริหาร“เปสตัน ฟิล์ม“ ในเรื่องของการช่วยดูแลอนุรักษ์ธรรมชาติของจังหวัดกระบี่ เพราะเป็นสิ่งที่ชาวจังหวัดกระบี่ให้ความหวงแหนมากที่สุด ซึ่งทาง“เปสตัน ฟิล์ม“ได้แจ้งว่า ทางบริษัทฯเองได้ให้ความสำคัญเรื่องนี้เช่นกันได้มีฝ่ายดูแลด้านธรรมชาติโดยเฉพาะร่วมในการถ่ายทำภาพยนต์ในครั้งนี้ด้วย

………………

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ข่าวเด่น

หวิดขิต! หนุ่มสตูลเล่านาทีระทึกขณะจอดรถเฉยๆ เพื่อนร่วมทางพุ่งชนกระเด็นอัดก๊อปปี้เสาไฟฟ้า

หวิดขิต! หนุ่มสตูลเล่านาทีระทึกขณะจอดรถเฉยๆ เพื่อนร่วมทางพุ่งชนกระเด็นอัดก๊อปปี้เสาไฟฟ้า

            อุบัติเหตุย่อมเกิดขึ้นได้เสมอแม้คุณจะไม่ขับรถก็ตาม  กรณีนี้เจ้าของรถบอกว่าหวิดขิตเป็นเหยื่อบนถนนยนตรการกำธร  หน้าสหกรณ์อิสลามอิบนูเอาฟ   ตรงข้ามโรงเรียนอนุบาลเมืองสตูล  เขตเทศบาลตำบลฉลุงอำเภอเมือง  จังหวัดสตูล 

 

             ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ฉลุง  กำลังเร่งเก็บรวบรวมข้อมูลหลักฐานอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นระหว่างรถ Toyota Fortuner สีขาวทะเบียน  7641 สตูล และรถMG สีเหลืองทะเบียน   งธ 8527 สงขลา

 

          โดยก่อนเกิดเหตุนายรินทร์  เจ้าของรถ Toyota Fortuner สีขาวผู้อยู่ในเหตุการณ์เล่าว่า  เวลาประมาณ 7:30 น. ( วันที่ 9 มิ.ย 67)ตนได้ขับรถมาจอดดับเครื่องบริเวณไหล่ทางที่เกิดเหตุและลงไปเอาหลักฐานที่สำนักงานสหกรณ์อิสลามอิบนูเอาฟ จำกัด (สาขาฉลุง) เพียงไม่นานก็ได้ยินเสียงรถชนอย่างแรง  ถึงวิ่งออกมาดูเห็นว่ารถของตัวเองถูกอัดก๊อปปี้ไปติดกับเสาไฟฟ้าบนฟุตบาท  โดยมีรถMG สีเหลืองคันเกิดเหตุ ชนท้ายเข้าอย่างจัง  ภายในรถพบถุงลมนิรภัยทำงานและพบชายไทยวัย 35 ปี เป็นผู้ขับอยู่ในสภาพเจ็บหน้าอกแต่ยังสามารถเปิดประตูลงจากรถได้   ข้างคนขับพบชายไทยวัย 40 ปี ถูกอัดอยู่ภายในรถโดยหัวเข่าติดอัดก็อปปี้ภายในรถไม่สามารถออกมาเองได้ 

         จึงได้ขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิกู้ภัยร่มไทรจังหวัดสตูล  นำเครื่องตัดทางมาช่วยนำคนเจ็บออกจากรถส่งไปรักษาตัวต่ออย่างโรงพยาบาลจังหวัดสตูล 

 

          ผู้อยู่ในเหตุการณ์เจ้าของรถยังบอกด้วยว่าเส้นทางที่ผู้บาดเจ็บทั้งสองคนวิ่งมาเป็นเส้นทางตรง  ซึ่งไม่แน่ชัดว่าเกิดจากสาเหตุอะไรถึงได้ขับรถพุ่งชนรถของตนที่จอดอยู่ข้างทาง   ประเด็นการเสียหลักหรือหลับในนั้นยังไม่แน่ชัดต้องให้ทางตำรวจสอบสวนต่อไป

 

          ด้วยความเสียหายของรถยนต์ Toyota Fortuner เสียหายทางด้านหน้าที่อัดก๊อปปี้กับเสาไฟฟ้าและด้านหลังที่รถ mg พุ่งชนท้าย  โดยขณะนี้ทางตำรวจก็เร่งรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อดำเนินคดีกันต่อไป

…….

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ข่าวทั่วไป

ผู้ช่วย รมว.กก. พลภูมิ ลงพื้นที่ตรวจแหล่งท่องเที่ยวท่าเรือเกาะลันตาใหญ่ และแหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อนเค็มคลองท่อม

ผู้ช่วย รมว.กก. พลภูมิ ลงพื้นที่ตรวจแหล่งท่องเที่ยวท่าเรือเกาะลันตาใหญ่ และแหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อนเค็มคลองท่อม

           วันที่ 7 มิ.ย.67 เวลา 10.20 น. ณ ท่าเรือเกาะลันตาใหญ่ เกาะลันตา จ.กระบี่ นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมด้วย นายคุณากร ปรีชาชนะชัย คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และคณะ ลงพื้นที่ตรวจบริเวณแหล่งท่องเที่ยวท่าเรือเกาะลันตาใหญ่ และ ตรวจสอบสภาพห้องน้ำ เพื่อเตรียมปรับปรุงให้สะอาด เหมาะสม รองรับนักท่องเที่ยวมาใช้บริการ โดยมีนายสุรัตน์ จรณโยธิน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกระบี่ให้การต้อนรับและ ชี้แจงข้อมูลในพื้นที่ทั้ง 2 สถานที่ให้ทางคณะทราบ

              จากนั้นได้เดินทางต่อมาที่แหล่งท่องเที่ยวน้ำพุร้อนเค็มคลองท่อม เพื่อตรวจสอบความเรียบร้อยและการดูแลความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวที่มาเข้าใช้บริการ โดยบ่อน้ำพุร้อนแห่งนี้ มีลักษณะเป็นบ่อน้ำผุดมาจากชั้นใต้ดินตามธรรมชาติ สาเหตุที่มีรสชาติเค็มนั้นเกิดจากการผสมกันของน้ำร้อนและน้ำทะเลในระดับลึกก่อนโพล่พ้นพื้นดิน เกิดเป็นน้ำพุร้อน จัดอยู่ในประเภทน้ำพุร้อนเกลือ (salt spring) ในบริเวณรอบๆ น้ำพุร้อนเค็ม หรือบ่อน้ำพุร้อนเกลือ เป็นพื้นที่ป่าชายเลนตามธรรมชาติ มีบ่อน้ำพุร้อนเค็มกระจายอยู่รอบบริเวณพื้นที่ จำนวน 14 บ่อ, สำหรับความมหัศจรรย์ของบ่อน้ำพุร้อนเค็มนั้นอยู่ที่อุณหภูมิของน้ำในบ่อไม่ร้อนมากจนเกินไป มีอุณหภูมิสูงประมาณ 40-47 องศาเซลเซียส ลักษณะน้ำใสสะอาดสะท้อนกับท้องฟ้าเป็นสีมรกตสวยงาม ภายในมีศาลานวดแผนไทยและเส้นทางเดินชมศึกษาธรรมชาติป่าชายเลน นับเป็นแหล่งท่องเที่ยว Unseen ที่น่าสนใจสำหรับคนที่ชอบการผ่อนคลายด้วยสปาธรรมชาติแบบนี้ เหมาะสำหรับการอาบชำระร่างกายแบบ บรรเทาการปวดกล้ามเนื้อ และปวดข้อต่างๆ เพื่อกระตุ้นให้มีการไหลเวียนของเลือดให้ดีขึ้น หรือช่วยผ่อนคลาย เพื่อรักษาสุขภาพโดยวิธีธาราบำบัดแบบธรรมชาติ

………………

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

สตูล-สวยแล้วยังมีประโยชน์ด้วย   ปอเทือง  ปุ๋ยพืชสดบานสะพรั่งเหลืองอร่ามเต็มท้องนาข้าวพื้นเมืองอัลฮัมดูลิลละห์  กว่า 10 ไร่  เรียกแขกเชยชมเช็คอินพักผ่อนหย่อนใจ  ผู้นำท้องที่ท้องถิ่นเตรียมดันทุ่งนาข้าวเป็นแลนมาร์คบ้านนา

สตูล-สวยแล้วยังมีประโยชน์ด้วย   ปอเทือง  ปุ๋ยพืชสดบานสะพรั่งเหลืองอร่ามเต็มท้องนาข้าวพื้นเมืองอัลฮัมดูลิลละห์  กว่า 10 ไร่  เรียกแขกเชยชมเช็คอินพักผ่อนหย่อนใจ  ผู้นำท้องที่ท้องถิ่นเตรียมดันทุ่งนาข้าวเป็นแลนมาร์คบ้านนา

            ปอเทืองบานสะพรั่งเหลืองอร่ามเต็มท้องนาสองฝั่งข้างทาง  ในบ้านสะพานเคียน  หมู่ที่ 2 ต.ควนโดน  อ.ควนโดน จ.สตูล  ที่ชาวนาในพื้นที่ปลูกขึ้น  เพื่อเป็นปุ๋ยพืชสดบำรุงดิน  ตามโครงการส่งเสริมอาชีพ  ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง  กิจกรรมการไถ่กลบตอซังข้าว  แล้วส่งเสริมการปลูกปุ๋ยพืชสดปอเทืองให้เหลืองอร่ามเต็มท้องนาบนพื้นที่ 10 ไร่

 

           โดยในวันนี้ความสวยงามของต้นปอเทือง  นอกจากกจะเป็นการบำรุงดินให้กับพี่น้องเกษตรกรชาวนาแล้ว  ยังเป็นการลดรายจ่ายให้เกษตรกรอีกด้วย  และที่สำคัญความสวยงามของต้นปอเทืองยังบานสะพรั่งในห้วง 3 เดือนนี้  ทำให้สถานที่แห่งนี้ได้กลายเป็นจุดเช็คอินของนักท่องเที่ยวใกล้ไกลหมู่บ้าน  มาเที่ยวชมพักผ่อนหย่อนใจ และส่งเสริมการท่องเที่ยวในหมู่บ้านไปในตัวด้วย 

           ช่างภาพนักท่องเที่ยวรายหนึ่งในอำเภอข้างเคียง   บอกว่า   ความสวยงามของดอกไม้ชนิดนี้   ที่ตัดกับสีท้องฟ้ากว้าง   ทำให้ตนพร้อมนางแบบ   อยากจะมาถ่ายภาพเก็บไว้โพสต์แชร์ในโลกโซเซียล   ว่าสถานที่แห่งนี้เหมาะกับการท่องเที่ยวและมาเช็คอิน   สำหรับคนที่หลงใหลธรรมชาติของดอกไม้  โดยเฉพาะแสงยามเช้าและยามเย็นทำให้ถ่ายรูปออกมาสวยงามมาก

 

         นางวรรณนภา คงเคว็จ   เกษตรอำเภอควนโดน  บอกว่า  ทางเกษตรอำเภอควนโดนร่วมกับศูนย์วิจัย   และพัฒนาการเกษตรสตูล  ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 2 ต.ควนโดน และองค์การบริหารส่วนตำบลควนโดน  ได้ส่งเสริมการปลูกปอเทืองในกลุ่มเกษตรกรชาวนา   เป็นหนึ่งในโครงการส่งเสริมอาชีพตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง  กิจจกรรมการไถ่กลบ  ตอซังข้าว   แล้วส่งเสริมการปลูกปุ๋ยพืชสดปอเทืองนั้น  เป็นการเพิ่มไนโตรเจนช่วยปรับสภาพดินให้มีความร่วนซุย มีความอุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น  ในส่วนของดอกสามารถที่จะนำไปประกอบอาหารได้ เมล็ดพันธุ์ได้จากพัฒนาที่ดินสตูล ซึ่งปลายเดือนมิถุนายนนี้ก็จะมีการไถลกลบหน้าดินเพิ่มปุ๋ยให้กับนาข้าวพื้นเมืองอัลอัมดูลิลละห์ อนาคตจะขยายพื้นที่ปลูกปอเทืองให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น

 

……………………………………..

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สตูล-กลุ่มวิสาหกิจชุมชนควนขันบาติก สกัดสีจากเปลือกไม้ ผลไม้  วาดลวยลายอัตลักษณ์บนผืนผ้ายอดสั่งสุดปัง สร้างรายได้อย่างงาม

สตูล-กลุ่มวิสาหกิจชุมชนควนขันบาติก สกัดสีจากเปลือกไม้ ผลไม้  วาดลวยลายอัตลักษณ์บนผืนผ้ายอดสั่งสุดปัง สร้างรายได้อย่างงาม

          หลังมีการรณรงค์ ส่งเสริมให้สวมใส่ผ้าไทย ผ้าอัตลักษณ์   ลายผ้าที่ผ่านการตัดเย็บอย่างประณีตจึงถูกหยิบมาสวมใส่  ด้านกลุ่มวิสาหกิจผลิตผ้าหลายๆกลุ่มในจังหวัดสตูล  ต่างดึงเสน่ห์ความเป็นอัตลักษณ์ในพื้นที่ออกมาใช้  ออกแบบให้สวยงามควรค่าแก่การสวมใส่ 

 

          อย่างที่วิสาหกิจชุมชนควนขันบาติกปาเต๊ะ ซึ่งมี นางสาวพรพรรณ รักนิยม เป็นประธานกลุ่ม  ก็ดึงเอาอัตลักษณ์ในพื้นที่ ทั้งความเป็นอุทยานธรณีโลกสตูล  สีจากเปลือกไม้  ใบไม้  และผลไม้ในพื้นที่ มาต่อยอดสกัดเป็นสีย้อมผ้า  และลวดลายบนผืนผ้า  เพื่อเพิ่มมูลค่าและได้รับความนิยมจากผู้สวมใส่

         

        ล่าสุดทางกลุ่ม  มีโอกาสนำผ้าเข้าร่วมประกวดผ้าจากสีธรรมชาติ  ในกิจกรรมการประกวดสุดยอดผ้าจังหวัดสตูล ประจำปี 2567 ซึ่ง ทางวิสาหกิจชุมชนควนขันบาติกปาเต๊ะ  ได้รับรางวัลชนะเลิศ ประเภทสีธรรมชาติ  และยังได้ในส่วนของรางวัลชนะเลิศอันดับที่ 2  ประเภทสีเคมี

 

          สมาชิกกลุ่ม วิสาหกิจชุมชนควนขันบาติกปาเต๊ะ นำสีจากเปลือกและแกนไม้แสมดำ  ขนุน เปลือกมังคุด  ที่ถูกสกัดมาเป็นสีทาบนผืนผ้าที่วาดลวดลายแล้วทั้ง 2 ด้าน เพื่อเพิ่มสีสันให้สมบูรณ์ สวยงาม

 

       ส่วนลายผ้านั้น  มีทั้งลายดอกกาหลง ซึ่งเป็นดอกไม้ประจำจังหวัดสตูล   ลายช่องลมของพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติ  คฤหาสน์กูเด็น   ลายฟอสซิลชนิดต่างๆที่ถูกค้นพบในจังหวัดสตูล  ว่าวควาย  รวมถึงลายขอ  ซึ่งเป็นลายพระราชทาน  ทำให้สีและลายผ้าของกลุ่มฯมีมากมายให้เลือก ทั้งสีจากธรรมชาติ  และสีเคมี  ซึ่งทำให้ราคาแตกต่างกันมาก

         นางสาวพรพรรณ รักนิยม ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนควนขันบาติกปาเต๊ะ  บอกว่า  ผ้าแต่ละลวดลายที่ทำมาจากสีธรรมชาติ   ทางกลุ่มจะขายอยู่ที่ผืนละ 2 เมตร ราคา 2,500 บาท  ส่วนที่ทำจากสีเคมี เริ่มต้นราคาผืนละ 650 บาท โดยผ้าที่ทำจากสีธรรมชาตินั้น ขายได้ดีกว่า มียอดสั่งซื้อจำนวนมาก ส่วนใหญ่จะซื้อเพื่อนำไปตัดเป็นเสื้อ และผ้าถุง หรือตัดเป็นชุดสวมใส่  ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในจังหวัดสตูล และต่างจังหวัด  มียอดสั่งซื้อไกลถึงกรุงเทพฯ เฉลี่ยแล้วเดือนหนึ่งขายผ้าได้ 30 ผืน มีรายได้เดือนละประมาณ  40,000 กว่าบาท  นอกจากผ้าชิ้นแล้ว  ยังมีชุดเสื้อผ้าบาติก กระเป๋า หมวก และผลิตภัณฑ์จากผ้าบาติกอื่นๆอีกด้วย

 

          ด้านนายเฉลิมพร ศรีสวัสดิ์ เกษตรอำเภอเมืองสตูล มอบหมายให้เจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองสตูล  ลงพื้นที่กลุ่ม วิสาหกิจชุมชนควนขันบาติกปาเต๊ะ  เพื่อติดตามการดำเนินงาน  และการบริหารจัดการกลุ่ม

           

         โดยนางฮาบีบ๊ะ  จารุพันธ์  นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองสตูล    กล่าวว่า สำหรับกลุ่ม  วิสาหกิจชุมชนควนขันบาติกปาเต๊ะ  ได้จดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชนเมื่อปี 2556  มีสมาชิก 16 คน โดยส่วนใหญ่เป็นกลุ่มสตรีทำผ้ามานานกว่า 20 ปีแล้ว ได้เรียนรู้นำเปลือกไม้จากธรรมชาติมาสกัด และทำเป็นสีได้อย่างสวยงาม  มีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของกลุ่ม

……………………………………………………………………..

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

สตูล – ร้านลับๆของบาริสต้าซุปตาร์ลูกหนังระดับชาติ  แฟนคลับแห่อุดหนุน

ร้านลับๆของบาริสต้าซุปตาร์ลูกหนังระดับชาติ  แฟนคลับแห่อุดหนุน

         [ Kanu Craft Bar ]  ร้านกาแฟเล็กๆ กับบาริสต้าซุปตาร์ระดับชาติ  นายอดิศักดิ์ กานู นักฟุตบอลกองกลางทีม PT สตูลยูไนเต็ด (หรือ ทีมหมอผีสตูล)   วัย 38 ปี (ดีกรีนักฟุตบอลอาชีพ 10 สโมสร)    เปิดร้านกาแฟเล็กๆ ที่บ้านโต๊ะซ๊ะ ตำบลควนสตอ  อำเภอควนโดน  จังหวัดสตูล (รอยต่อติดกับโรงเรียนบ้านเกตตรี  อำเภอเมืองสตูล)

 

        จากจุดเริ่มต้น  ชอบดื่มกาแฟและชอบการตั้งแคมป์ปิ้ง  จึงสร้างเครื่องมือชงกาแฟมากมาย  ประกอบกับช่วงสถานการณ์โควิดที่ผ่านมา  ทำให้หยุดเล่นฟุตบอลไประยะหนึ่ง  จึงทดลองเปิดร้านกาแฟที่จังหวัดยะลา (ซึ่งเป็นบ้านแฟน) ขณะนั้นยอมรับว่ากระแสตอบรับดีมาก  โดยสโลแกนขายกาแฟตอนนั้น  คือ  ลีกปิดร้านเปิด

 

        นายอดิศักดิ์  กานู  นักฟุตบอลอาชีพคนสำคัญของทีม PT สตูลยูไนเต็ด   ยอมรับว่าอยากกลับมาดูแลพ่อแม่ที่จังหวัดสตูล สโลแกนนั้นจึงต้องพับไว้  เพราะตอนนี้ร้านเปิดทุกวันโดยมีแฟนช่วยดูแลร้าน   ที่เปิดตั้งแต่เวลา 14:00 น. ไปจนถึง 22:00 น. โดยแบ่งเวลาไปฝึกซ้อมในช่วงเย็น

           ลูกค้าประจำรายหนึ่งบอกว่า  ปกติตัวเองชื่นชอบกาแฟอยู่แล้วโดยเฉพาะกาแฟดำ  ดื่มกาแฟมาตั้งแต่มัธยมปลาย ติดในรสชาติของกาแฟ รสชาติที่ตนทานปกติจะเป็นสายกาแฟ special   ซึ่งที่ร้านนี้ก็มีตอบโจทย์ตัวเองอย่างมาก  อีกทั้งเจ้าของร้านก็มีส่วนอย่างมากทำให้อยากมานั่งทานเพราะเป็น FC เจ้าของร้านตั้งแต่สมัยมัธยมปลาย  ชอบสไตล์การเล่นฟุตบอลของพี่เขาเก่งและติดตามมานาน   ยิ่งชงกาแฟได้เก่งก็ยิ่งชอบ  จนกลายมาเป็นลูกค้าประจำ

 

          จากความชื่นชอบ  ใส่ใจและหมั่นฝึกฝนเป็นทักษะพื้นฐานเหมือนกันระหว่าง  ในการเล่นฟุตบอลอาชีพและ  การชงกาแฟในทัศนคติของนายอดิศักดิ์  กานู  กองหน้าทีม PT สตูล ยูไนเต็ด หากเราจับจุดได้  หมั่นฝึกฝน  และพัฒนาอุปกรณ์ ฝีมือรสชาติให้ชำนาญต่อเนื่อง ก็สามารถที่จะไปอยู่กับสโมสรใหญ่ๆหรือทีมใหญ่ๆได้  เช่นเดียวกับการชงกาแฟที่ทำให้ลูกค้าติดใจในฝีมือการชงได้

 

          สิ่งที่อยากพัฒนาร้านต่อไปคือ  ไม่ได้ต้องการให้เป็นคาเฟ่  แต่อยากให้เป็นสภากาแฟมานั่งพบปะพูดคุยของคนทุกวัยและดื่มกาแฟที่ทุกคนชื่นชอบและโปรดปราน   โดยสามารถพูดคุยกับทางร้านได้ว่าชื่นชอบรสชาติไหน  นอกจากนี้ทางร้านก็ยังมีเมนูสำหรับสายสุขภาพ  หรืออาหารทานเล่นไว้บริการด้วย

 

          ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา  14:00 น.  เป็นต้นไปจนถึง 22:00 น. ครัวปิดแต่สามารถนั่งต่อได้  สอบถามเพิ่มเติมทางเพจและ IG : kanucratbar  ,หรือโทร  063 2638914

 

          สำหรับอดิศักดิ์  กานู  เป็นนักฟุตบอลอาชีพ 10 สโมสร สโมสรเยาวชนจุฬาฯยูไนเต็ด , สโมสรอาชีพ BBC FC,สุพรรณบุรีเป็นต้น และ ปัจจุบันอยู่กับสโมสร PT สตูลยูไนเต็ด หมายเลข 14

…..

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สตูล-อาชีพทำเงิน   ดองปูเปี้ยวหรือปูเค็ม  หนุ่มสตูลสานต่ออาชีพครอบครัวส่งออกสร้างรายได้กระจายในชุมชน

สตูล-อาชีพทำเงิน   ดองปูเปี้ยวหรือปูเค็ม  หนุ่มสตูลสานต่ออาชีพครอบครัวส่งออกสร้างรายได้กระจายในชุมชน

           ทุก ๆ วัน ชาวบ้านจะนำปูเปี้ยว  หรือ ปูแสม  ที่หาได้จากป่าชายเลน  มาขายยังแพปูเปี้ยว  ในพื้นที่บ้านไร่ทอน  หมู่ที่ 3 ต.ท่าเรือ  อ.ท่าแพ  จ.สตูล  โดยทางแพปูเปี้ยวจะรับซื้อในราคากิโลกรัมละ 35 – 45 บาท แล้วแต่ขนาดของปู  เพื่อนำไปดองส่งขายตลาดต่างจังหวัดทั่วไทย  และส่งออกไปยังประเทศสิงคโปร์  สร้างรายได้รอบด้าน  ตั้งแต่คนหาปูเปี้ยว  พนักงานคัดแยก  ดอง ปู    โดยปูเปี้ยวที่มีมากถึง  200  กก.ถึง 1  ตัน (1000 กก.) ต่อวัน  ถูกน็อคน้ำแข็งก่อนนำมาคัดแยกไซต์ แล้วนำไปล้าง 2 น้ำ  ดองเกลือนาน 2 วัน ก็ได้ปูเปี้ยวพร้อมส่งขาย  

 

          โดยนายวัชรินทร์  คงหนู (อาร์ม) อายุ 25 ปี ทายาทเจ้าของแพปูเปี้ยว  เปิดเผยว่า  กว่า 30 ปีแล้วที่แพเปิดรับซื้อปูเปี้ยวมาดองขาย  สร้างรายได้ให้กับครอบครัว  รวมถึงชาวบ้านที่ไปหาปูมาขาย  และชาวบ้านที่มาดองปู  โดยทางแพจะรับซื้อปูเปี้ยวจากชาวบ้านในราคากิโลกรัมละ 35 บาท   หากเป็นปูตัวใหญ่ก็จะรับซื้อในราคา 40-45 บาท  ก่อนดองขายแยกเป็น 3 ขนาด   ปูใหญ่ราคา 85 บาท  ปูกลาง 60  บาท  และเล็ก 35 บาท  ปูดองปี๊บละ 7 กิโลกรัม  ราคา 580 บาท  ปูดองปี๊บละ 10 กิโลกรัมราคา 700  บาท   ส่งขายหาดใหญ่วันละ 300 – 500 กิโลกรัม  ส่งเชียงใหม่สัปดาห์ละ 220 ปี๊บ    ส่งกทม.สัปดาห์ละ  200-300 ปี๊บ  และส่งออกไปประเทศสิงคโปร์สัปดาห์ละ 150-200 ปี๊บ 

 

          นางจีหนา  ไชยยัน  อายุ 44 ปี พนักงานแพปูเปี้ยว   กล่าวว่า  หลังจากกรีดยางพาราในตอนเช้า  ก็มารับจ้างดองปูที่แพ  สร้างรายได้วัน 300 – 400 บาท  แล้วแต่ปริมาณของปู  โดยทางแพจะจ้างดองกิโลกรัมละ 2 บาทนำมาหารแบ่งกัน  โดยทำมา 20 ปีแล้ว  เป็นอีกอาชีพหนึ่งที่สามารถเลี้ยงตัวเองและครอบครัวได้  สำหรับกระบวนการดอกปูเปี้ยวนั้น  ก่อนอื่นต้องคัดแยกไซต์  ก่อนดองเกลือนาน 1-2 วัน แล้วแต่ความชอบ  

   

           ด้านนางรอม  เจริญฤทธิ์  อายุ 65 ปี  ชาวบ้านจากอำเภอทุ่งหว้า จ.สตูล  กล่าวว่า  ตนรับซื้อปูเปี้ยวตัวใหญ่จากชาวบ้านในพื้นที่อำเภอทุ่งหว้า  ในราคากิโลกรัมละ 35 บาท  มาขายยังแพปูเปี้ยวในอำเภอท่าแพ  วันนึงจะนำมาขาย 150 – 200 กิโลกรัม เพราะพื้นที่อำเภอทุ่งหว้ามีป่าชายเลนสมบูรณ์  ปูเปี้ยวที่อยู่ในป่าชายเลนจึงมาเยอะ

 

           ด้านนายดนรอสัก  เปรมใจ  นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าเรือ  กล่าวว่า ปูเปี้ยวในพื้นที่ตำบลท่าเรือ ถือว่ามีเยอะ เพราะป่าชายเลนสมบูรณ์  สามารถจับขายได้  ที่นี่มีการดองปูเปี้ยว นับเป็นธุรกิจที่สร้างเงิน  และสร้างงานให้กับชาวบ้าน   ซึ่งปูเปี้ยวนี้สามารถทำอาหารได้อย่างเมนู ส้มตำ พร้อมกันนี้อบต.ท่าเรือก็ได้แนะนำให้มีการจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชน      

 

  สนใจติดต่อสอบถาม  ซื้อ ขาย  ปูเปี้ยว โทร  062-0639844   (คุณอาร์ม) 

…………………………….

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สตูล-ร้านโรตีเจ้าเก่าแก่  ปรับตัวตัวตามภาวะเศรษฐกิจ   จากโรตีมะตะบะเมนูพื้นถิ่น เพิ่มทางเลือกลูกค้าสายรักผลไม้  สู่เมนูโรตีสับปะรด  โรตีมะพร้าวอ่อนขายยกลูก  และโรตีขนุน โรตีลูกชิด ให้ลิ้มลอง

สตูล-ร้านโรตีเจ้าเก่าแก่  ปรับตัวตัวตามภาวะเศรษฐกิจ   จากโรตีมะตะบะเมนูพื้นถิ่น เพิ่มทางเลือกลูกค้าสายรักผลไม้  สู่เมนูโรตีสับปะรด  โรตีมะพร้าวอ่อนขายยกลูก  และโรตีขนุน โรตีลูกชิด ให้ลิ้มลอง

             จากภาวะเศรษฐกิจส่งผลให้หลายร้านต้องมีการปรับตัว  เพื่อสร้างความแปลกใหม่และจูงใจลูกค้าให้มากยิ่งขึ้น  การสร้างสรรค์เมนูพื้นถิ่นให้มีความหลากหลาย  เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าที่เปลี่ยนไปตามยุคสมัย  ได้เข้ามาลิ้มลอง

            แต่ก็ไม่ทิ้งเมนูดั้งเดิม  อย่างที่ร้านโรตีมะตะบะ  (หน้าพ.ส.) ริมถนนสตูลธานี  (ตั้งตรงข้ามโรงเรียนพิมานพิทยาสรรค์)   ตำบลพิมาน  อำเภอเมือง  จังหวัดสตูล ร้านเก่าแก่กว่า 26 ปี  ที่มีเมนูขึ้นชื่ออย่างโรตีมะตะบะ  มาวันนี้ได้มีการสร้างสรรค์เมนูโรตี  ให้มีความหลากหลายเพื่อตอบโจทย์ลูกค้ามากยิ่งขึ้น 

          โดยล่าสุดทางร้านได้มีการรังสรรค์เมนู  โรตีสับปะรด  ที่ยกมาทั้งลูกให้ลูกค้ารับประทานกันอย่างจุใจ  จะได้รสชาติของสับปะรดอย่างแท้จริง   โดยการผสมผสานเนื้อโรตีกับเนื้อสับปะรดได้อย่างลงตัว   ซึ่งทางร้านได้นำสับปะรดมาเป็นส่วนผสมคลุกเคล้าเข้ากับนมข้นหวานให้เข้ากัน  ราดไปบนเนื้อโรตีแผ่นบางบนกระทะ  จากนั้นห่อเนื้อสับปะรดเข้าไปด้วยกัน  ทำให้ความเปรี้ยวของสับปะรดตัดความมันแก้เลี่ยนได้

           นอกจากนี้ยังมีเมนู  โรตีลูกชิด  ผลไม้พื้นถิ่นที่นำมาปรุงเป็นส่วนผสมกินกับโรตีได้อย่างลงตัว  และยังมีอีกหลากหลายเมนูอย่างโรตีขนุน  และที่เป็นไฮไลท์ของทางร้านอีก 1 ชนิด  คือโรตีมะพร้าวอ่อนที่ยกเสิร์ฟกันทั้งลูกเช่นกัน

          นายอัมรินทร์   บินอับดุลรามาน   อายุ 50 ปี  เจ้าของร้านรุ่นที่2  บอกว่า  เมนูที่ลูกค้าชอบเป็นประจำและขายดียืนหนึ่งมาตลอดก็คือโรตีมะตะบะที่ขายมานานกว่า 26 ปี  แต่เพื่อเป็นการสร้างความหลากหลายจึงนำผลไม้พื้นถิ่นในพื้นที่มาเป็นส่วนผสม  เพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้า  ทั้งโรตีมะพร้าวอ่อนที่ยกทั้งลูก  โรตีสับปะรดที่ยกทั้งลูกเช่นกัน  โรตีลูกชิดที่มีความอร่อยลงตัว  โรตีขนุน  และอีกหลากหลายเมนูนอกจากนี้ทางร้านก็ยังมีเมนูอื่นๆให้เลือกทานอีกมากมาย กว่า 70 เมนู  ทั้งขนมจีน  ข้าวต้ม  ลูกชิ้น  เป็นต้น

         ลูกค้าบอกว่า   ชอบโรตีสับปะรดและโรตีลุูกจากมาก  เพราะได้รสชาติของผลไม้ที่แท้จริงและตัดเลี่ยนได้อย่างลงตัว   ซึ่งก่อนหน้านี้เดิมๆจะชอบโรตีมะตะบะเป็นขาประจำที่ร้านนี้อยู่แล้ว  เมื่อมีทางเลือกอื่นมาเพิ่มก็ชื่นชอบมากขึ้น  ราคาย่อมเยา 

         สำหรับลูกค้าที่ร้านโรตีมะตะบะ  หน้าพ.ส. ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นลูกค้าดั้งเดิม  ที่ทานกันมาตั้งแต่เด็กจนโต  ด้วยเจ้าของร้านใจดีชอบแถมอาหารทานเล่นให้บ่อยครั้ง   และเจ้าของร้านมีความเป็นกันเองกับลูกค้าด้วย  ซึ่งเจ้าของร้านบอกว่า  จะเน้นลูกค้าขาประจำภายในจังหวัดมากกว่านักท่องเที่ยว  หลายคนที่เป็นลูกค้าก็มาทานตั้งแต่เด็กจนโต 

          สำหรับ  โรตีมะตะบะราคา 40 บาท , โรตีสัปปะรด  60 บาท โรตีมะพร้าวอ่อน 60 บาท, โรตีขนุน 35 บาท  ,  และ โรตีลูกชิด 50 บาท ,

นอกจากนี้ทางร้านยังเคลมว่าร้านนี้ไม่ใส่ผงชูรส  และผงปรุงรสทุกชนิดด้วย  เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้า สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม  ทางเพจ : โรตีมะตะบะ หรือ โทร.096 – 651 -5977

………..

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต