Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สตูล-สามีภรรยาสู้ชีวิต!  ขายส้มตำเลี้ยงชีพ  เก็บสวนหลังบ้านเป็นเครื่องเคียง ลูกค้าชมหวานกรอบไร้สารพิษ  กุ้งทะเลร้าตัวโตอร่อยแห่อุดหนุนให้กำลังใจ

สตูล-สองสามีภรรยาสู้ชีวิต!  ขายส้มตำเลี้ยงชีพ  เก็บสวนหลังบ้านเป็นเครื่องเคียง ลูกค้าชมหวานกรอบไร้สารพิษ  กุ้งทะเลร้าตัวโตอร่อยแห่อุดหนุนให้กำลังใจ

           ชีวิตไม่สิ้นก็ต้องดิ้นกันไป  ตราบใดที่ 2 มือสองเท้ายังมีขอเพียงไม่ยอมแพ้  เหมือนอย่างครอบครัวสองสามีภรรยาชาวสตูลนี้

 

          หลังรักษาตัวจนหายเจ็บป่วย จากโรค(ลิ้นหัวใจ และไทรอยด์ทั้งคู่)  ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา  ต้องหยุดรักษาตัว  สองสามีภรรยาก็สามารถออกทำมาหากินได้  เดินหน้าทำอาชีพที่รักและถนัด  ด้วยการเปิดร้านส้มตำไก่ย่าง  คอดียะห์  ร้านเพิงเล็กๆ  ริมถนน สายแยกควนสตอ-วังประจัน ตั้งอยู่หมู่ที่ 8  ตำบลควนสตอ  (เลยสามแยกควนสตอเพียง 1 กิโลเมตรซ้ายมือ) ก็จะพบกับร้านส้มตำของคอดียะห์  ร้านนี้ดูผิวเผินอาจจะเป็นร้านเล็กๆ ธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา

 

          เพราะผักและเครื่องเคียงเกือบทุกชนิดที่นี่   ใช้ปรุงเป็นเมนูส้มตำจะนำมาจากสวนครัวหลังบ้านที่ก๊ะคอดียะห์  ที่เป็นคนลงมือปลูกด้วยตัวเองพร้อมยืนยันว่าผักภายในสวนนี้ปลอดจากสารพิษ 100%   ไม่ว่าจะเป็น ถั่วฝักยาว มะเขือ พริกสด  ผักบุ้ง  คะน้า  และผักอื่นๆอีกมากมายที่ปลูกเป็นส่วนผสมและเป็นผักเครื่องเคียงสำหรับใช้ปรุงในการทำเมนูส้มตำขายเลี้ยงปากท้อง

 

          ลูกค้าที่มาทานส้มตำที่ร้านนี้  ยังสามารถที่จะเดินเก็บผักมารับประทานเองได้   หรือจะให้แม่ค้าไปเก็บผักในสวนมาเป็นผักเครื่องเคียงทานกับส้มตำ   ก็จะได้รสชาติที่หวานกรอบอร่อย  และเชื่อมั่นได้ว่ารับประทานผักที่ร้านส้มตำไก่ย่างนี้แล้วจะปลอดภัยจากสารพิษตกค้างอย่าง 100%   เพราะผักทุกชนิดคุณคอดียะห์ปลูกเองกับมือโดยมีสามีเป็นผู้ช่วย

 

          นอกจากนี้เมนูส้มตำปลาร้าของที่ร้านนี้ก็จะใช้กุ้งทะเลทำเป็นกุ้งร้าแทนปลา  เป็นสูตรใหม่ที่ก๊ะคอดียะห์คิดสูตรขึ้นมาเอง   ได้รสชาติกลมกล่อมอร่อยถูกใจลูกค้าไม่น้อย   และยังสร้างจุดขายให้กับทางร้านเล็กๆ ได้รับประทานกันด้วย

 

          นางบีเซาะ  เกปัน  ลูกค้าบอกว่า  มาทานครั้งแรกก็รู้สึกประทับใจกับร้านนี้   นอกจากรสชาติที่อร่อยเหมือนต้นตำรับมาจากอีสาน  เนื่องจากแม่ค้าเป็นคนพื้นเพจังหวัดบุรีรัมย์  แต่มาตั้งรกรากเป็นสะใภ้มุสลิมที่นี่  ยิ่งสร้างความมั่นใจและประทับใจกับผักที่ปลูกขึ้นมาเอง   ให้กับลูกค้าได้ทานอย่างปลอดภัยด้วยรสชาติหวานกรอบอร่อย  และยิ่งประทับใจในตัวแม่ค้าที่เป็นคนสู้ชีวิต  แม้จะเจอมรสุมเข้ามาก็ไม่ย่อท้อก็อยากจะสนับสนุนและอุดหนุนเชิญชวนให้คนมากินส้มตำที่นี่ที่อร่อยและมีผักปลอดภัยไว้บริการในราคาย่อมเยา

 

          นายมะอุเส็น แซะอามา   สมาชิกอบต.ควนสตอ บอกว่า จะมาอุดหนุนลูกบ้านรายนี้อยู่เป็นประจำถ้ามีโอกาส  เพราะอดีตเคยปลูกผักปลอดสารพิษขาย  เมื่อล้มป่วยลงทั้งสองคนสามีภรรยาก็หยุดไปพักใหญ่  และกลับมาค้าขายอีกก็อยากจะมาอุดหนุนและอดชื่นชมไม่ได้ถึงฝีมือการปรุงอาหารรวมทั้งผักที่ปลอดภัยนำมาขายให้กับลูกค้าอยากให้ทุกคนมาช่วยกันอุดหนุนให้เยอะๆเพื่อเป็นกำลังใจให้กับเขาทั้งสอง

         นอกจากผักที่สดหวานกรอบแล้ว  นางคอดียะห์   ยังมีกุ้งทะเลร้า  สูตรที่คิดขึ้นเองใช้แทนปลาร้า  สร้างความแปลกใหม่ให้กับสูตรส้มตำของที่นี่  โดยลูกค้าก็จะได้รับประทานกุ้งร้า ตัวโตในราคาย่อมเยา   โดยจะขายเป็นเมนูส้มตำกุ้งร้า เพียงจานละ 30 บาท และหากเป็นเมนูส้มตำไข่เค็มจานละ 40 บาทนอกจากนี้ยังมีเมนู ส้มตำไทย, ตำมะม่วงและตำซั่ว,  รวมทั้งไก่ย่างไม้ละ 10 บาท

          นางคอดียะห์  เหมสลาหมาด  อายุ 50 ปี  บอกว่า  เดิมทีตนมีอาชีพขายส้มตำไก่ย่างมานานกว่า 30 ปีหลังจากที่ล้มป่วยลงได้หยุดไป 5 ปีและพึ่งที่จะกลับมาขายเหมือนเดิมเพราะไม่รู้จะไปทำอาชีพอะไรและเห็นว่าตัวเองมีความถนัดในอาชีพนี้เลยตั้งใจกับสามีว่าจะช่วยกันขายส้มตำไก่ย่างและใช้ผักที่ชื่นชอบในการปลูกไว้หลังบ้านมาเป็นผักเครื่องเคียงให้กับลูกค้าที่มาใช้บริการ  ได้ทานกันอย่างจุใจในราคาย่อมเยา  โดยเริ่มต้นที่ราคา 30 บาท  ในเมนูส้มตำธรรมดาและ 40 บาท  ในเมนูส้มตำไข่เค็มและส้มตำมะม่วง รวมทั้งตำซั่ว  ไก่ย่างไม้ละ 10 บาทซึ่งเมนูมีไม่มากนักทำค้าขายพออยู่ได้กัน 2 คนสามีภรรยาเพราะผักส่วนใหญ่ก็จะใช้ผักในส่วนตัวมาปรุงเป็นเมนูส้มตำ

          ส่วนกุ้งทะเลที่นำมาเป็นกุ้งร้านั้น  ได้ที่สูตรขึ้นมาเองทำเหมือนกับปลาร้าแต่เปลี่ยนมาเป็นกุ้งทะเลแทนก็รสชาติอร่อยดีให้ลูกค้าได้ทาน  หลายคนก็ชื่นชอบในความหอมกลมกล่อม

          โดยทางร้านจะเปิดขายทุกวันตั้งแต่เที่ยงไปจนกว่าของจะหมด  โดยติดต่อสอบถามได้ที่โทร  080-608-2176 ,  090-229-9740

……………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สตูล – หอยกะพง สัตว์น้ำหาได้ทั้งปี  สร้างอาชีพเสริมผู้สูงวัยริมทะเลที่จังหวัดสตูล

หอยกะพง สัตว์น้ำหาได้ทั้งปี  สร้างอาชีพเสริมผู้สูงวัยริมทะเลที่จังหวัดสตูล

           ท้องทะเลในพื้นที่อำเภอละงู  จ.สตูล  นับเป็นท้องทะเลที่อุดมสมบูรณ์  ชาวบ้านในพื้นที่สามารถหาสัตว์น้ำได้อย่างต่อเนื่อง  ไม่ว่าจะเป็น  กุ้ง  หอย  ปู  ปลา  โดยเฉพาะหอย เรียกได้ว่ามีครบ ทั้งหอยหลอด  หอยเสียบ  รวมถึง หอยกาบง  หรือ หอยกะพง  ที่ชาวบ้านสามารถหาได้ตลอดทั้งปี  หากขยันก็สร้างรายได้ให้ชาวบ้านตลอดทั้งปีเช่นกัน 

 

          ที่บริเวณชายหาดหัวหิน  ต.ละงู  อ.ละงู  จ.สตูล   นายณรงชัย  อยู่ล่าย  อายุ 62 ปี และนางปราณี  อยู่ล่าย  หรือ มะลี อายุ 65 ปี  สองสามีภรรยาวัยเกษียรณช่วยกันลวกหอยกะพงที่ลูกสาวหามาให้ตั้งแต่เช้ามืด   โดยใช้เตาฟืนในการลวกหอยจำนวนมากนี้  ก่อนนำไปให้ชาวบ้าน 4-5 คน ที่มารับจ้างแกะเปลือกออกด้วยความชำนาญ

 

          นางรอฉ๊ะ  สายสว่าง  อายุ 65 ปี ชาวบ้านหัวหิน   กล่าวว่า  ทุกๆวันหลังเสร็จภารกิจงานบ้านก็จะนำมีดและกะละมังใส่หอย  มานั่งแกะหอยที่ผ่านการลวกแล้ว  โดยแกะเปลือกออกนำขนหอยออก  รับค่าจ้างกิโลกรัมละ 10 บาท  หนึ่งวันจะได้ประมาณ 50-100 บาท  แล้วแต่ปริมาณหอยที่มี 

 

          นางปราณี  อยู่ล่าย  หรือ มะลี อายุ 65 ปี  กล่าวว่า  ทุกๆวันจะได้หอยมาไม่เท่ากันหากน้ำลดก็หาได้เยอะ  เฉลี่ยอยู่ที่ 30-40 กิโลกรัม    หากไม่มีคลื่นลมจะหาได้ทุกวัน  สังเกตช่วงหอยผอมจะหยุดหา  โดยออกเรือไปหาหอยห่างจากฝั่งประมาณ 2 กิโลเมตร  เมื่อได้หอยมาแล้วจะลวกโดยใช้ไฟแรงให้น้ำเดือดก่อนจุ่มหอยลงไปประมาณ 2-3 นาที  อย่าให้มีฟองขาว  เมื่อหอยอ้าปากก็ยกขึ้นได้แล้ว  ในแต่ละวันจะมีรายได้หลังหักค่าจ้างวันละ 1,000  กว่าบาท

           ด้านนายจำรัส  ฮ่องสาย  นายกอบต.ละงู  กล่าวว่า  หอยกะพงมีรสชาติอร่อย  เพราะความสดเพิ่งขึ้นจากทะเลแล้วนำมาลวกเลย  หอยช่วงฤดูนี้จะอ้วนเพราะกินแพรงตอน  สามารถไปทำได้หลายเมนูอย่าง  ลวกจิ้ม  ยำ ผัด แกงต่างๆ  หากทำแกงก็ผ่าหอยสดๆก่อนนำไปแกงจะได้รสชาติที่อร่อย  สามารถเป็นรายได้เสริมเพราะหอยนี้มีตลอดทั้งปี  แต่จะมีช่วงฤดูหอยผอม  และหอยจะอ้วนในช่วงมรสุม  นับเป็นสิ่งที่ดีผู้สูงอายุก็สามารถรับจ้างแกะหอยโดยใช้เวลาวันละ 2-3 ชั่วโมง ได้เงินวันละ 100 กว่าบาท

 

          นายก อบต.ละงู  กล่าวอีกว่า  พื้นที่ตำบลละงู  มีชายหาดหัวหิน  ชายหาดบางศิลา  มีท้องทะเลที่อุดมสมบูรณ์เพราะชาวบ้านช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ    ชาวบ้านสามารถหาหอย หรือสัตว์น้ำชนิดอื่นๆได้อย่างต่อเนื่อง  หอยหลอดจะมีเยอะช่วง พฤศจิกายน – มีนาคม ของทุกปี  นอกจากนี้ยังมีหอยเสียบ  หอยแครง ส่วนหอยกะพงต้องออกเรือไปนิดหน่อยก็สามารถหาได้ทั้งปีอาจจะว่างแล้วบ้างในช่วงฤดูหอยผอม 

 

        สำหรับหอยสดขายในราคากิโลกรัมละ 15 บาท  หอยลวกแล้วขายทั่วไปกิโลกรัมละ 60 บาท  ส่งขายโรงงานในราคากิโลกรัมละ 50 บาท  ส่วนเปลือกหอยที่มีจำนวนมาก สามารถนำไปทำเป็นปุ๋ยใส่ต้นปาล์มได้ สนใจติดต่อสอบถาม หรือ สั่งซื้อหอย  โทร  065-8063285  มะลี   

…………………..

อัพเดทล่าสุด
Categories
ท้องถิ่น-การเมือง

สตูล – ผู้นำท้องถิ่นขับเคลื่อนสร้างสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อมสายน้ำ  ลำคลอง   หลังพบคุณภาพน้ำเปลี่ยนไป  ผ่านกิจกรรมคลองสวยน้ำใส 

สตูล-ผู้นำท้องถิ่นขับเคลื่อนสร้างสำนึกรักษ์สิ่งแวดล้อมสายน้ำ  ลำคลอง   หลังพบคุณภาพน้ำเปลี่ยนไป  ผ่านกิจกรรมคลองสวยน้ำใส 

            ที่ริมชายฝั่งคลองมำบัง  หมู่ที่ 7 ต.คลองขุด อ.เมือง จ.สตูล  เทศบาลตำบลคลองขุด ร่วมกับ องค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล  จัดกิจกรรมคลองสวยน้ำใสขึ้น  เพื่อรณรงค์ประชาสัมพันธ์สร้างจิตสำนึกและการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์  โดยมีชาวบ้านในชุมชนริมคลองมำบังเข้าร่วมกิจกรรมจำนวนมาก

 

           พร้อมกันนี้ได้มีการจัดฐานการเรียนรู้ชีวิตสัมพันธ์คนกับน้ำ โดยเชิญวิทยากรที่เชี่ยวชาญให้ความรู้การป้องกันตัวเองและบุตรหลานขณะเล่นน้ำ หรือเมื่อเกิดภัยจากน้ำ โดยเฉพาะการใช้ชูชีพที่ถูกต้องและเหมาะสม  เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายต่อทุกคนในครอบครัวและการช่วยเหลือผู้อื่นเบื้องต้นหากพบเห็นว่าเกิดภัยจากการตกน้ำ 

 

          หลังจากนั้นผู้เข้าร่วมกิจกรรมจะได้ร่วมปล่อยพันธุ์ปลาตะเพียน และปลาบ้า  จำนวน 11,000 ตัว  แล้ว ยังได้ร่วมนั่งเรือคายัค  สัมผัสธรรมชาติสองฝั่งข้างทางตลอดสายน้ำคลองมำบัง   ในพื้นที่เทศบาลตำบลคลองขุดที่มีระยะทางยาวประมาณ 2 กิโลเมตรแล้ว   ยังได้ร่วมกิจกรรมเก็บขยะ และร่วมกิจกรรมฐานเรียนรู้ต่าง ๆ ที่พร้อมจะให้ความรู้คือ  ฐานการเรียนรู้การตรวจสุขภาพน้ำเบื้องต้น  , ฐานการเรียนรู้ที่ระบบนิเวศของน้ำลำคลองและการดูแลรักษาแม่น้ำลำคลอง, ฐานการเรียนรู้ขยะและของเสียจากครัวเรือน 

           นายสุนทร พรหมเมศร์   นายกเทศมนตรีตำบลคลองขุด  กล่าวว่า  เจตนารมณ์ที่จัดโครงการนี้อยากให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของน้ำที่เราใช้อุปโภค บริโภค และแหล่งที่อยู่ของสัตว์น้ำ เพื่อให้ชาวบ้านได้หาปลาหากุ้งหาหอย ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้ ทางเทศบาลคลองขุดได้เข้าร่วมกับอบจ.สตูล และให้พี่น้องประชาชนได้ตระหนักถึงการบำบัดน้ำก่อนที่จะปล่อยลงคลอง 

 

           สำหรับคลองมำบัง   เป็นพื้นที่ไหลผ่านตั้งแต่ ต.ควนโดน อ.ควนโดน  ต.ฉลุง ต.ควนขัน ต.คลองขุด อ.เมืองสตูล   เป็นสายน้ำที่หล่อเลี้ยงชุมชนมา  ทต.คลองขุด ยังมีแนวคิดที่จะต่อยอดให้เกิดการท่องเที่ยวชุมชนในพื้นที่คลองขุดด้วย

 

          นายปรีชา  พูนสวัสดิ์   ประธานชุมชนบ้านเอื้ออาธร    กล่าวว่า   การเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ถือว่าเป็นโครงการที่ดีเนื่องจากว่าปัจจุบันแม่น้ำลำคลองขาดการดูแลเอาใจใส่   ธรรมชาติทำให้ตื้นเขิน   พันธุ์ปลาเกือบจะสูญพันธุ์ไปเยอะ  โครงการนี้เทศบาลตำบลคลองขุด  กับอบจ.สตูล   จัดเพื่อปลูกจิตสำนึกและกระตุ้นในการอนุรักษ์แม่น้ำลำคลอง     อนาคตที่อยากได้คือ   น้ำที่ใช้ประโยชน์ได้  เป็นที่อยู่ของพันธุ์ปลาที่เพิ่มขึ้นและหากสิ่งเสริมให้มีการท่องเที่ยวมาร่วมกันพัฒนาก็จะยิ่งดี

         

          คลองมำบัง   เป็นคลองสำคัญในจังหวัดสตูล ที่เกิดจากลำน้ำสายเล็ก ๆ บริเวณเทือกเขา อำเภอควนกาหลง  เมืองสตูล ไหลผ่านอำเภอควนโดน อำเภอเมืองสตูล  ก่อนไหลออกทะเลนั้นในอดีตเราสามารถนำน้ำจากลำคลองมาใช้ประโยชน์ได้โดยตรง    ซึ่งต่างจากปัจจุบันที่เกิดปัญหาในด้านของคุณภาพน้ำ  ทำให้ต้องมีการอนุรักษ์ และสร้างความตระหนัก 

………………………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น ท่องเที่ยว-กีฬา

สตูล – นักโบราณคดีลงเก็บหลักฐาน  ถ้ำเขาค้อม  หลังเจอชุดกระดูกสภาพสมบูรณ์ในสุสานมนุษย์โบราณ   พร้อมยอมรับว่า   สตูลนับว่าเป็นแหล่งก่อนประวัติศาสตร์ที่สำคัญ

นักโบราณคดีลงเก็บหลักฐาน  ถ้ำเขาค้อม  หลังเจอชุดกระดูกสภาพสมบูรณ์ในสุสานมนุษย์โบราณ   พร้อมยอมรับว่า   สตูลนับว่าเป็นแหล่งก่อนประวัติศาสตร์ที่สำคัญ

         วันที่ 16 พ.ค.2567   นักโบราณคดี จากสำนักศิลปากรที่ 11 สงขลา พร้อมทีมงานและทีมนักศึกษากว่า 10 คน ลงเก็บร่องรอยและหลักฐานทางโบราณคดีภายในถ้ำเขาค้อม  หมู่ที่ 10 ต.ควนกาหลง  อ.ควนกาหลง  จ.สตูล ซึ่งมีทางที่ว่าการอำเภอควนกาหลง ประชาชนชาวควนกาหลง ร่วมสังเกตการณ์   สำหรับถ้ำแห่งนี้ตั้งอยู่ด้านหลังของวิทยาลักเกษตรและเทคโนโลยีสตูลติดกับอ่างเก็บน้ำหล่อเลี้ยงชาวบ้าน

         

          หลังได้รับแจ้งว่านายกำพลศักดิ์  สัสดี  นักสำรวจถ้ำและอาสากู้ภัยป่าภูเขา และคณะอาจารย์ของวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสตูลว่าหลังได้สำรวจร่องรอยภายในถ้ำเขาค้อม   ซึ่งห่างจากปากถ้ำไม่มากนัก พบโพรงถ้ำขนาดใหญ่คล้ายหลุมยุบและด้านในชั้นดินยังพบเศษโครงกระดูกมากมายคล้ายสุสาน  พบเครื่องมือยุคหิน และกระดูกหน้าแข้ง กระดูกซีโครง และที่สำคัญ กระดูกฟันกรามล่างที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ อยู่ปะปนกับเปลือกหอยทับถมในชั้นดินจำนวนมาก  ยิ่งขุดยิ่งเจอนั้น  เพื่อให้ทีมนักโบราณคดีเข้าตรวจสอบเพื่อที่จะได้พัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวหรือ สถานที่เรียนรู้ต่อไป หากเป็นแหล่งโบราณคดีที่สำคัญจริง ๆ

           ด้านน.ส.เพลงเมธา ขาวหนูนา นักโบราณคดีชำนาญการ สำนักศิลปากรที่ 11 สงขลา  กล่าวว่า  การเดินทางมาในครั้งนี้มาเพื่อเก็บข้อมูลในเบื้องต้นเพื่อนำมาวิเคราะห์ว่าเป็นอย่างไร   โดยวันนี้ได้มาเก็บสภาพแหล่งที่พบและหลักฐานทางโบราณคดีที่พบภายในถ้ำว่ามีอะไรบ้าง   แล้วนำไปวิเคราะห์ข้อมูลอีกครั้ง  การเจอโบราณวัตถุในช่วงสมัยนั้นก็สามารถที่จะบ่งบอกได้ว่าเป็นยุคไหน   อย่างเช่น  ขวานหิน  หรือ  เครื่องมือ ที่ใช้ที่เป็นภาชนะดินเผา

 

          สำหรับพื้นที่ตรงนี้เบื้องต้นอยากจะขอให้มีการปิดเพื่อป้องกันไม่ให้มีการเข้ามาทำลาย  สำหรับการตรวจสอบใช้เวลากี่วันนั้น   วันนี้เป็นเพียงเบื้องต้นในการตรวจสอบ  ต้องมีการประเมินว่าต้องทำขั้นตอนอะไรต่อไป  โดยวัตถุที่เก็บไปในครั้งนี้จะนำไปวิเคราะห์ที่ศิลปากรที่ 11 จังหวัดสงขลา

 

          สำหรับจังหวัดสตูลนับว่าเป็นแหล่งก่อนประวัติศาสตร์ที่สำคัญมาก ๆ มักจะพบเจอโบราณวัตถุค่อนข้างเยอะพร้อมขอฝากในส่วนของแหล่งโบราณคดี  หากพี่น้องประชาชนเจอโบราณวัตถุสามารถแจ้งได้ที่ศิลปากรที่ 11 สงขลายินดีที่จะเข้ามาตรวจสอบ  เพราะอยากให้ทุกคนช่วยกันอนุรักษ์รักษาเป็นมรดกของชาติต่อไป

 

…………………………………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สตูล – เอาใจสาวกข้าวเหนียวทุเรียนหมอนทองสามสี  เสิร์ฟแบบจุก ๆ ทั้งเนื้อสดและน้ำราด  ในราคาเบากระเป๋า ออเดอร์วันละ 200 ชุด

สตูล – เอาใจสาวกข้าวเหนียวทุเรียนหมอนทองสามสี  เสิร์ฟแบบจุก ๆ ทั้งเนื้อสดและน้ำราด  ในราคาเบากระเป๋า ออเดอร์วันละ 200 ชุด

         สาวกทุเรียนในยุคนี้  แม้จะกระทบกับภาวะเศรษฐกิจเงินฝืดเคืองไปบ้าง  แต่หลายร้านจำหน่ายทุเรียน  ก็มักจะหาทางออกให้กับลูกค้าได้เข้าถึงทุเรียน  ผลไม้ที่หลายคนชื่นชอบและโปรดปรานได้ง่าย

 

         เหมือนอย่างเช่นร้านนี้  ของคุณอลิษา  พันธุโยร์  หรือคุณฝน  ตั้งอยู่ใกล้ทางเข้าพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติคฤหาส์กูเด็น  ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตูล  ทันทีที่ถึงเวลา 4 โมงเย็นจนถึง 4 ทุ่มของทุกวัน  จะมีลูกค้ามายืนคอยคิวซื้อข้าวเหนียวทุเรียนสามสี  กันอย่างคึกคัก  ทำให้ทางร้านต้องจัดคิวเข้าแถว  เพื่อให้ทุกคนได้เข้าถึงข้าวเหนียวทุเรียนสามสี  ที่พร้อมจะเสิร์ฟให้กับทุกคนที่ชื่นชอบกินกันชนิดจุใจ  ทั้งเนื้อทุเรียนหมอนทองสด ๆ ชิ้นใหญ่ๆ    ข้าวเหนียวมูน (สามสีธรรมชาติ ทั้งอัญชัน,ใบเตยและสีขาวธรรมชาติ)  น้ำกะทิทุเรียน และ น้ำกะทิธรรมดาก็พร้อมเสิร์ฟกันไปเลยให้เลือกทั้ง 2 ชนิดในราคาเพียงชุดละ 60 บาท 

 

        คุณเกด  หนึ่งในลูกค้าทุเรียน  บอกว่า   มาซื้อเป็นครั้งที่ 2 แล้ว  ครั้งแรกซื้อไป 3 กล่อง  มาครั้งนี้ซื้อ 4 กล่อง  ชื่นชอบในน้ำกะทิทุเรียนเพราะเป็นเนื้อทุเรียนจริงๆ  มีเนื้อทุเรียนใส่มาให้เราด้วย  และในน้ำทุเรียนก็มีทุเรียนด้วย  ราคาก็ถูก ชื่นชอบตั้งแต่น้ำทุเรียนเพราะปกติการกินข้าวเหนียวทุเรียนก็จะกินกับน้ำกะทิ  แต่เจ้านี้ให้เนื้อทุเรียนมาด้วย  เหมือนกับว่าได้กินรสของทุเรียนจริงๆ  ที่บ้านก็ชื่นชอบวันก่อนซื้อไปให้ย่าและน้ากินวันนี้เขาติดใจเลยสั่งอีก  เพื่อนที่ทำงานก็ฝากซื้อ

            นางสาวอลิษา  พันธุโยร์  หรือน้องฝน  เจ้าของร้าน  บอกว่า   ทางร้านจะใช้เนื้อล้วนๆ ประมาณ 30 กิโลกรัม (หรือ 100 กิโลกรัมทั้งลูก ข้าวเหนียวก็ประมาณ 30 กิโลกรัม  วันละ 200 ชุดขึ้นไป  ทุเรียนที่ใช้เป็นทุเรียนจากจันทบุรีซึ่งเป็นของป้า  จะใช้เป็นทุเรียนหมอนทองที่สุก  ราคาขายก็ถือว่าอยู่ได้ด้วยลูกค้าก็จับต้องได้เราก็อยู่ได้ด้วย  ขายมา 1 อาทิตย์แล้วโดยเฉพาะหน้าทุเรียนจะขายเป็นประจำทุกปี     คิดว่าลูกค้าติดใจในน้ำกะทิพร้อมใส่เนื้อทุเรียนโดยทางร้านจะให้ลูกค้า 2 แบบทั้งแบบใส่เนื้อทุเรียนไปในน้ำกะทิและแบบไม่ใส่  ราคาขาย 60 บาท จะเริ่มขายตั้งแต่ 4 โมงเย็นจนถึง 4 ทุ่ม ขายทุกวัน เนื้อทุเรียนล้วน  ขายขีดละ 59 บาท (แต่ขึ้นอยู่ที่ราคาของทุเรียนแต่ละวันด้วย)

 

          นอกจากนี้คุณอลิษา  พันธุโยร์  ก็ยังเปิดขายขนมจีนบุฟเฟ่ต์ผักสด ๆ ซึ่งเป็นงานประจำอยู่ด้วยที่ซอยเขาจีน ต.คลองขุด อ.เมืองสตูล  โดยจะเปิดขายขนมจีน 9 โมงเช้าถึง 5 โมงเย็น ต่อจากนั้นเมื่อถึงหน้าทุเรียนก็พร้อมบริการขายให้สาวกทุเรียนกันจนหมดฤดูกาลไปเลย

……………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

สตูล-โลมาหัวโหนกนับ 20 ตัวว่ายขึ้นอวดโฉมความสมบูรณ์ทะเล อช.ตะรุเตา  

สตูล-โลมาหัวโหนกนับ 20 ตัวว่ายขึ้นอวดโฉมความสมบูรณ์ทะเล อช.ตะรุเตา  

         วันที่ 16 พ.ค.2567  มาชมธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ท้องทะเลอันดามัน  เมื่อนายมงคล  แดงกัน  หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตา  แจ้งว่า ในเขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา  บริเวณ หน้าอ่าวตะโละวาว  เจ้าหน้าที่ได้พบน้องโลมาหลังโหนก   ว่ายน้ำขึ้นมาอวดโฉมให้เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวน หน่วยพิทักษ์ฯที่ ตต.1 (อ่าวตะโละวาว)  ได้เห็นมากกว่า 20 ตัว  ให้เจ้าหน้าที่ได้บันทึกภาพนำมาฝากไว้ได้ ขณะออกลาดตระเวนในบริเวณดังกล่าวเมื่อ (วันที่ 15 พ.ค.67)   

          สำหรับโลมาหลังโหนก   โลมาสีชมพู   โลมาเผือก  เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พ.ร.บ. สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ. 2535  ขนาดตัวผู้ยาว 2.8 ม. ตัวเมีย 2.6 ม. หนักถึง 280 กก. ลูกแรกเกิดยาว 1 ม.  รูปร่างหัวกลมมน มีปากยาวเรียว ลักษณะเด่นคือส่วนหลังโหนกเป็นแนวยาว 1 ใน 3 ของความยาวลำตัว

         ลำตัวมีสีต่างกันมากตามอายุ วัยเด็กจะมีสีเทาดำ และจางลงเมื่อโตขึ้น ตัวเต็มวัยบาง ตัวมีสีเทาประขาว เมื่ออายุมากขึ้นจะมีสีออกขาวเผือกหรือชมพู   มีฟันจำนวน 28-38 คู่ บนขากรรไกรบนและล่าง (เฉลี่ย33-35 คู่)

          ครีบหลัง สั้น เล็ก ที่เด่นชัดคือ ส่วนของฐานครีบเป็นสันโหนกรับกับครีบหลัง 

        ตัวเมียเข้าสู่วัยเจริญพันธุ์เมื่ออายุ 9-10 ปี และตัวผู้อายุ 11-13 ปี ผสมพันธุ์ตลอดทั้งปี ตั้งท้องนาน 10-12 เดือน และหย่านมเมื่ออายุ 2 ปี อายุยืนมากกว่า 40 ปี   พฤติกรรม- ชอบรวมกลุ่มตั้งแต่ 10-40 ตัวและมักว่ายน้ำช้าๆเมื่ออยู่ใกล้ชายฝั่ง   กิน ปลา และปลาหมึกหลายชนิด  ตามชายฝั่งและแนวปะการัง

  

           อาศัยตามชายฝั่งแม่น้ำ ปากแม่น้ำ และป่าชายเลนในเขตร้อน มีการแพร่กระจายตั้งแต่ตอนใต้ของจีน อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย มหาสมุทรอินเดีย และตอนใต้ของแอฟริกา ประเทศไทยพบในธรรมชาติ เช่น จ.ตราด ระยอง เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช กระบี่ และตรัง

………………………………

ขอบคุณภาพจาก อช.ตะรุเตา

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

สตูล – ทัพเรือภาคที่ 3 และ ศรชล.จังหวัดสตูล ช่วยเหลือลูกเรือประมงป่วยฉุกเฉินกลางทะเล

ทัพเรือภาคที่ 3 และ ศรชล.จังหวัดสตูล ให้ความสำคัญทุกชีวิตด้วยมาตรฐานเดียวกัน หลังออกเรือช่วยเหลือลูกเรือประมงป่วยฉุกเฉินกลางทะเล

          (16 พ.ค.67) ศรชล.จังหวัดสตูล ได้รับแจ้งว่ามีลูกเรือประมงเรือปิยะนาวา ป่วยมีอาการหอบ แน่นหน้าอก หายใจไม่ออก ขณะเรืออยู่กลางทะเลบริเวณทิศใต้ของเกาะเขาใหญ่ เกรงว่าผู้ป่วยจะได้รับอันตรายจึงประสานขอความช่วยเหลือให้ช่วยรับผู้ป่วยส่งโรงพยาบาล

         ศรชล.จังหวัดสตูล จึงได้ประสาน ทีพเรือภาคที่ 3  ขอรับการสนับสนุนจัดหน่วยรักษาความปลอดภัยทางทะเล กองทัพเรือ เกาะหลีเป๊ะ (นรภ.ทร.เกาะหลีเป๊ะ) จัดกำลังพลพร้อมเรือ RIB เดินทางให้ความช่วยเหลือ เพื่อรับผู้ป่วยส่งเข้าฝั่งที่ปากบารา ผู้ป่วยชื่อ นายวาเหตุ  ขุนจง อายุ 56 ปี โรคประจำตัว หอบหืด แรกพบผู้ป่วยมีอาการ หายใจเหนื่อย หอบ  เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้นด้วยการให้อ๊อกซิเจนและพ่นยาแก้หอบหืด  ภายหลัง พ่นยาผู้ป่วยมีอาการดีขึ้น จึงได้นำผู้ป่วยกลับเข้าฝั่งที่ท่าเรือปากบารา  ส่งต่อให้ 1669 รพ.ละงู

…………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น ท่องเที่ยว-กีฬา

สตูล-นักสำรวจถ้ำพบสุสานโครงกระดูกมนุษย์ยุคหิน ชุดฟันกรามสมบูรณ์ที่สุด และเครื่องใช้ใบราณซ่อนใต้ชั้นดินหลุมยุบถ้ำเขาค้อม  คาดอายุเกิน 5,000 ปี

นักสำรวจถ้ำพบสุสานโครงกระดูกมนุษย์ยุคหิน ชุดฟันกรามสมบูรณ์ที่สุด และเครื่องใช้ใบราณซ่อนใต้ชั้นดินหลุมยุบถ้ำเขาค้อม  คาดอายุเกิน 5,000 ปี วิทยาลัยเกษตรฯ เจ้าของพื้นที่กั้นห้ามเข้า รอกรมศิลปกรขุดค้น  เต็มรูปแบบผลักดันเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์

        ที่ภูเขาหลังอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่หลังวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสตูล  ซึ่งติดกับถ้ำเขาค้อม หมู่ที่ 10  ต.ควนกาหลง  อ.ควนกาหลง  จ.สตูล   นายนาทชัย   เถื่อนทิม  อ.วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสตูลพร้อมเจ้าหน้าที่ และ นายกำพลศักดิ์  สัสดี นักสำรวจถ้ำ ,และอาสากู้ภัยป่าภูเขา (แห่งวีรบุรุษถ้ำหลวง) ,นายราเชนทร์   เบ็ญโกบ  ชาวบ้านชุมชนควนกาหลง , นายไพรัช  สุขงาม ผอ.ททท.สำนักงานสตูลร่วมสังเกตการณ์, และคณะนักข่าวเข้าสำรวจถ้ำป่าเขาค้อม ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นถ้ำที่สวยงามและมีเรื่องเล่า 

 

        ถ้ำเขาค้อม   ถูกนักสำรวจถ้ำในจังหวัดสตูลที่มีชื่อเสียงอย่างคุณกำพลศักดิ์  สัสดี  นักสำรวจถ้ำมือฉมังระดับแนวหน้าของจังหวัดและของประเทศ (ทีมช่วยหมูป่าที่ถ้ำขุนน้ำนางนอน) ได้ค้นพบว่าถ้ำแห่งนี้มีความหลากหลายทางระบบถ้ำมากที่สุด  และมีความยาวที่สุดแห่งหนึ่งในสตูล    

 

          นายกำพลศักดิ์  สัสดี  นักสำรวจถ้ำและอาสากู้ภัยป่าภูเขา (วีรบุรุษถ้ำหลวง) หลังขออนุญาติเจ้าของพื้นที่เข้าสำรวจหลายครั้ง  พบว่า  เขาค้อมเป็นเขาลูกใหญ่ลักษณะเขาหินปูนผสมป่าดงดิบ มีถ้ำที่เชิงเขา  อยู่ที่ชาวบ้านเรียกว่าถ้ำเขาค้อม  เบื้องต้นจากการสำรวจพบว่าเป็นถ้ำระบบแห้งประมาณ 500 เมตร และลึกเข้าไป 1 กิโลเมตรจะเป็นถ้ำลำธาร  ที่ยังไม่รู้ว่าลึกแค่ไหน  และยังพบว่าที่โซนปากถ้ำมีร่องรอยการอาศัยของยุคมนุษย์หิน โดยพบเครื่องมือเครื่องใช้ในยุคมนุษย์หิน  และยังเจอชิ้นส่วนของกระดูกมนุษย์ (กระดูกหน้าแข้ง ,กระดูกสันหลัง,เศษกะโหลกไม่น้อยกว่า 10 ชิ้น ) และชิ้นส่วนฟันกรามล่างที่ค่อนข้างสมบูรณ์   รวมทั้งเปลือกหอยจำนวนมาก ที่ทับถมปะปนกัน   เชื่อได้ว่าตรงจุดที่พบน่าจะเป็นสุสานเพราะยิ่งขุดดูยิ่งพบเศษชิ้นส่วนมนุษย์  ที่เชื่อว่ามีไม่น้อยกว่า 10 ชีวิตที่นำร่างมาฝังตรงนี้

 

          หลังจากที่ทางวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสตูลได้มาร่วมสังเกตการณ์และร่วมดูหลักฐานการพบเจอในครั้งนี้   เบื้องต้นเราได้แจ้งไปที่กรมศิลปากร เพื่อให้เข้ามาตรวจสอบเพื่อเป็นหลักฐานทางวิชาการอีกครั้ง 

 

         ซึ่งร่องรอยการพบชิ้นส่วนทั้งหมดนี้ได้ส่งตัวอย่างไปเปรียบเทียบทางโบราณคดีมีการยืนยันแล้วว่าใกล้เคียงกับยุคมนุษย์หิน เป็นฟันกรามของมนุษย์ยุคหินจริงๆ อายุน่าจะเกิน 5,000 ถึง 10,000  ปี ซึ่งหลังจากนี้ทางวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสตูล  คงจะมีการประสานไปทางกรมศิลปากรให้เข้ามาตรวจสอบอีกครั้งเพื่อเข้าสู่กระบวนการขุดค้นการดำเนินการตรวจสอบอย่างเต็มรูปแบบ   หลังจากนี้ทางวิทยาลัยและเทคโนโลยีสตูลจะมีการกันพื้นที่เพื่อไม่ให้มีการเข้าไปเหยียบย่ำ หรือ ขุดทำลาย  

 

        นักสำรวจถ้ำ และอาสากู้ภัยป่าภูเขา (วีรบุรุษถ้ำหลวง) หลังขออนุญาตเจ้าของพื้นที่เข้าสำรวจหลายครั้ง  บอกด้วยว่า   สิ่งที่มุ่งหวังอยากให้เกิดคือให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางโบราณคดีและประวัติศาสตร์ ธรณีวิทยาเพราะมีถ้ำระบบน้ำที่สามารถที่จะเรียนรู้ทางธรณีวิทยาได้  จะเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่พิเศษสักหน่อยสำหรับคนที่สนใจด้านนี้โดยเฉพาะ    พร้อมฝากชาวบ้านชุมชนคนที่เดินป่าเดินเขา  หากเจออะไรที่มีลักษณะพิเศษเกี่ยวกับกระดูก  คล้ายมนุษย์ขอให้รีบแจ้งกู้ภัยก็จะลงไปตรวจสอบว่าเป็นกระดูกของใครเพื่อที่จะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดู

        นายนาทชัย   เถื่อนทิม  อ.วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสตูล   กล่าวว่า   ในส่วนของวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสตูลหลังได้ทราบข่าวการค้นพบได้รีบแจ้งฝ่ายบริหารให้รับทราบ และได้มอบหมายให้มากันพื้นที่ ป้องกันบุคคลภายนอกจะเข้ามาเหยียบย่ำโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ได้  แล้วจะมีการประสานให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบในการจัดทำข้อมูลต่อไป  หรือผลักดันเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแหล่งหนึ่งภายในวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสตูล   สำหรับพื้นที่ตรงจุดนี้ปกติแล้วทางวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสตูลจัดการพื้นที่เป็นแหล่งน้ำใช้ภายในชุมชน  ปกติไม่ได้เปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยว แต่ชุมชนจะใช้น้ำจากแหล่งตรงนี้ แต่หากมีการค้นพบและสามารถเปิดเป็นแหล่งท่องเที่ยวก็คงจะต้องมีการผลักดันต่อไป

 

         นายราเชนทร์   เบ็ญโกบ  ชาวบ้านชุมชนควนกาหลง  บอกว่า  ที่ถ้ำเขาค้อมจะมีศาลเพียงตาด้านหน้า  ที่ชาวบ้านเรียกว่าทวดเขาค้อม  มีการมาตั้งศาลไว้ไม่นาน  หลังมีการบนบานศาลกล่าวและได้ตามผลที่ขอ  ได้โชคลาภตามที่ขอโดยใช้ไข่ไก่มาแก้บนไม่นานมานี้เอง   สำหรับเรื่องเล่าที่นี่ก็การบางกลุ่มที่มีความเชื่อและมีการมาแก้บน  และส่งผลกลับมาด้วยการแก้ด้วยไข่ต้ม    ไม่ได้มีการกราบไหว้ในวงกว้าง  แต่จะมีการทำในบางกลุ่มเท่านั้น  การเจอโครงกระดูกและอุปกรณ์เครืองใช้ของยุคโบราณในครั้งนี้   มองว่าเป็นเรื่องใหม่จากนักสำรวจเป็นสิ่งแปลกใหม่ มีอายุหลายหมื่นปียุคโบราณ และเป็นสิ่งที่ดีในพื้นที่ที่น่าสนใจ วิวทิวทัศน์สวยงามมากรอบบริเวณนี้

…………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

สตูล..อุทยานแห่งชาติตะรุเตาประกาศปิดการท่องเที่ยวและที่พักแรม ให้ทรัพยากรธรรมชาติได้ฟื้นตัว 

สตูล..อุทยานแห่งชาติตะรุเตาประกาศปิดการท่องเที่ยวและที่พักแรม ให้ทรัพยากรธรรมชาติได้ฟื้นตัว  รวมทั้งความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว  เพื่อให้การบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสอดคล้องกับสภาพอากาศในแต่ละฤดู 

        นายมงคล   แดงกัน  หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตา   ได้ลงประกาศเมื่อวันที่ 9 พฤษภาคม 2567   โดยประกาศกรมอุทยานแห่งชาติ  สัตว์ป่า  และพันธุ์พืช  ฉบับลงวันที่ 18 ธันวาคม 2566 เรื่องปิดการท่องเที่ยวและพักแรมในอุทยานแห่งชาติและวนอุทยานประจำปี 2567  เพื่อให้การบริหารจัดการแหล่งท่องเที่ยวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพสอดคล้องกับสภาพอากาศในแต่ละฤดู  และความสามารถในการรองรับของทรัพยากร  เปิดโอกาสให้ทรัพยากรธรรมชาติได้ฟื้นตัว  รวมทั้งมีความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวนั้น

 

       อุทยานแห่งชาติตะรุเตา  พิจารณาแล้วเพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองผู้ดูแลรักษาทรัพยากรธรรมชาติ  และความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว  อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 20 แห่ง   พระราชบัญญัติอุทยานแห่งชาติพุทธศักราช 2562 ประกอบระเบียบ  อุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

         จึงประกาศปิดการท่องเที่ยวและพักแรมในอุทยานแห่งชาติตะรุเตา   ระหว่าง 16 พฤษภาคม ถึง 30 กันยายน   บ้านพัก และลานกางเต็นท์  ZONE 1  อ่าวพันเตมะละกา เกาะตะรุเตา   ZONE 2  อ่าวเมาะและ เกาะตะรุเตา  ZONE 3  แหลมสน เกาะอาดัง

 

         ระหว่าง วันที่  1 มิถุนายน ถึง 31 กรกฎาคม  บริเวณ เกาะเหล็ก เกาะบิสสี เกาะตาลัง เกาะอาดังทิศเหนือ และเกาะอาดังทิศตะวันออก

 

          ระหว่างวันที่  1 สิงหาคม ถึง 30 กันยายน   ประกอบด้วย  เกาะยาง  ร่องน้ำจาบัง  เกาะราวี  เกาะดง เกาะหินซ้อน  เกาะรอ-กลอย เกาะอาดังทิศตะวันตก เกาะซาวัง  และเกาะไผ่

 

           ทั้งนี้อุทยานแห่งชาติตะรุเตา  ยังคงปฏิบัติงานตามภารกิจของกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืชได้ตามปกติ  สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ 074-783 485   จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกันประกาศวันที่ 9 พฤษภาคม 2567 

…………………………..

อัพเดทล่าสุด
Categories
ท้องถิ่น-การเมือง

สตูล-ขอรับใบสมัครเลือกตั้ง สว. 14 รายใน 7 อำเภอ ขณะที่กกต.เดินหน้าสร้างความเข้าใจ

สตูล ขอรับใบสมัครเลือกตั้ง ส.ว. 14 รายใน 7 อำเภอ ขณะที่กกต.เดินหน้าสร้างความเข้าใจ

         (วันที่ 13 พ.ค.67)  ทันทีที่กกต.เปิดให้ขอรับใบสมัครเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาได้ที่ว่าการอำเภอทุกแห่ง  ล่าสุดที่ว่าการอำเภอเมืองสตูล หลังเปิดขอรับใบสมัคร ตั้งแต่วันที่ 10 พ.ค.ที่ผ่านมา  จนถึงขณะนี้พบว่ามีมาขอรับใบสมัครเพียง 7 ราย

 

          ขณะที่ตัวเลขของผู้ขอรับใบสมัครเลือกตั้งสมาชิกวุฒิสภาทั้งจังหวัด 7 อำเภอมีตัวเลขขณะนี้ 14 รายเท่านั้น

 

          ด้านนายประสิทธิ์  เอียดคง ผอ.กกต.จังหวัดสตูล  ได้เดินหน้าเผยแพร่ความรู้   ผ่านโครงการบูรณาการความร่วมมือของทุกภาคส่วน   ผ่านกิจกรรมเผยแพร่ความรู้การดำเนินการให้ได้มา   ซึ่งสมาชิกวุฒิสภา   โดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสตูลได้จะจัดขึ้นวันที่ 18 พฤษภาคม 2567 โดยจะมีการอบรมให้ความรู้ในหัวข้อบทบาทหน้าที่ของสมาชิกวุฒิที่สภา    และหัวข้อ   ผู้สมัครและการสมัครรับเลือกสมาชิกวุฒิสภา   คุณสมบัติลักษณะต้องห้ามของผู้มีสิทธิ์สมัครรับเลือกสมาชิกวุฒิสภาและวิธีการเลือก   พร้อมทั้งการแนะนำตัวในการเลือกของสมาชิกวุฒิสภา

         ทั้งนี้ ที่ประชุมจะมีการพิจารณาข้อเสนอของทางสำนักงาน กกต.ที่ให้ประกาศกำหนดวันเปิดรับสมัคร ส.ว. ระหว่างวันที่ 20-24 พฤษภาคม 2567 และปฏิทินการเลือก สว.ตั้งแต่ระดับอำเภอ จังหวัด และระดับประเทศ   การสมัครรับเลือกเป็น สว.เมื่อ กกต.ประกาศวันรับสมัครแล้ว ผู้ประสงค์จะสมัครรับเลือกเป็น สว.ต้องยื่นเอกสารใบสมัครและหลักฐานประกอบการสมัครด้วยตนเอง ณ สถานที่สมัครที่ผู้อำนวยการเลือกตั้งระดับอำเภอที่ประสงค์จะสมัครกำหนดไว้ เมื่อผู้สมัครได้ยื่นสมัครรับเลือกแล้ว ผู้สมัครจะได้รับใบสมัครรับเลือกเป็น ส.ว.ไว้เป็นหลักฐาน

 

          อย่างไรก็ตาม ผู้สมัครสามารถสมัครได้เพียงกลุ่มเดียวและอำเภอเดียว และจะถอนการสมัครไม่ได้ และเมื่อ กกต.กำหนดวันรับสมัคร ส.ว.เรียบร้อยแล้ว ตามขั้นตอนของกฎหมายจะต้องดำเนินการตรวจสอบคุณสมบัติของผู้สมัคร จากนั้นกำหนดให้มีการเลือก ส.ว.ระดับอำเภอ ระดับจังหวัด และระดับประเทศ ตามลำดับ

………………………………………….

อัพเดทล่าสุด