Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 สตูล..ข้าวหมกไก่  10 บาทอร่อยและถูกมีอยู่จริง  

ชาวสวนสตูลรวมกลุ่มทำปาล์มน้ำมันคุณภาพ  ต่อรองกับลานเทอับราคาได้สูงกว่าหน้าร้าน พร้อมยอมรับการเมืองมีผลต่อการขึ้น ลง ของพืชเศรษฐกิจ

           วันที่ 16 ส.ค.2566  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  กลิ่นที่หอมกรุ่นด้วยเครื่องเทศสมุนไพรที่ลงตัว  กับเมนูวัฒนธรรมอาหารพื้นถิ่นชายแดนใต้จังหวัดสตูล  ต้องยกให้    “ข้าวหมกไก่”  โดยเฉพาะที่ร้านก๊ะโตน   ตั้งอยู่สี่แยก (เจ๊ะบิลัง) ติดไฟแดง  ฝั่งขาออกเมืองมุ่งหน้าไปตำมะลัง  เขตเทศบาลเมืองสตูล   ร้านข้าวหมกไก่ก๊ะโตน เจ้าอร่อยขวัญใจชาวบ้าน เด็กและทุกวัยทำงาน 

          โดยในแต่ละวันจะทำข้าวหมกไก่  วันละ 10 กิโลกรัม ขายตั้งแต่ตี 5 ถึงบ่าย 3 โมงเย็น ทำใหม่สดทุกวัน สูตรผสมคิดค้นขึ้นเองมีรางวัล อันดับ 1 การันตีในงานการประกวดอาหารสตูลฮาลาลสตรีท 2019  โดยเคล็ดไม่ลับความอร่อยคือ การเลือกสรรวัตถุดิบดีมีคุณภาพ   ที่มีนมสด ,น้ำตาลทรายขาว ,ผงกะหรี่,เกลือ,หอม,กระเทียม,ขิง ดอกจัน, ไม้หวาน เม็ดกะวาน, ตะไคร้ พริกเขียว  มะเขือและเครื่องเทศ ผัดรวมกันจนเครื่องสุกแล้วใส่ไก่ที่ล้างสะอาดลงไปผัดคลุกเคล้าจนไก่สุกและตักออก  จากนั้นใส่ข้าวสารอย่างดีลงไปผัด และอบจนความร้อนระอุทั่วทั้งกระทะ  เป็นอันเสร็จ

          ทางร้านทำขายข้าวหมกในราคาเพียงห่อละ 10 บาท เป็นอาหารเช้าให้เด็ก ๆ นักเรียน  ห่อละ 20 บาทสำหรับกลุ่มในวัยทำงาน  ส่วนกล่องละ 40 บาทรับตามออเดอร์  และยังทำเป็นออเดอร์หม้อละ 4,500 บาท ทานได้ 70 คน 

          ทางร้านยังมีเมนู แกงตอแม๊ะ  ที่ได้รับรางวัลด้วยเช่นกันขายทุกวัน และเมนูอาหารพื้นเมือง อย่าง  แกงมัสมั่น    แกงกูลุม่า  และอีกหลากหลายแกงที่ไว้ขายบริการลูกค้า  รวมทั้งขนมพื้นเมืองหลากหลายซึ่งเป็นเมนูฮาลาล 100 เปอร์เซ็นต์  

          นางสัยโตน   ปาดูลัง   เจ้าของร้าน  บอกว่า  ก่อนหน้านี้เคยขายแกงถุงละ 10 บาทในระยะหนึ่ง จู่ยอดขายตก จึงขายข้าวหมกไก่กล่องละ  10 บาท  20 บาทและ 40 บาทรวมทั้งทำรับตามออเดอร์ที่ร้านและที่อำเภอละงู  โดยสูตรข้าวหมกไก่ปรับสูตรคิดค้นขึ้นเองจนลูกค้าติดใจ

         โดยได้รับความสนใจจากลูกค้าหลากหลายกลุ่มทั้งเด็ก ผุ้ใหญ่ วัยทำงานรวมทั้งนักท่องเที่ยวมาเลเซียก็จะหมุนเวียนมาทานที่ร้านกันไม่ขายสาย  เพราะมีทั้ง ข้าวหมก ข้าวมันแกงตอแม๊ะ  และอีกหลากหลายแกงให้เลือกสรร รวมทั้งน้ำชากาแฟ ขนมพื้นเมืองไว้บริการ   สนใจติดต่อสอบถาม   ก๊ะสัยโตน   ปาดูลัง   โทร 062 424 0309

……………………………………..

พม.สตูล จัดโครงการเสริมสร้างเครือข่ายสื่อมวลชน เพื่อประชาสัมพันธ์ภารกิจกระทรวง พม. และ ศรส.

พม.สตูล จัดโครงการเสริมสร้างเครือข่ายสื่อมวลชน เพื่อประชาสัมพันธ์ภารกิจกระทรวง พม. และ

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 ชาวสวนสตูลรวมกลุ่มทำปาล์มน้ำมันคุณภาพ  ต่อรองกับลานเทอับราคาได้สูงกว่าหน้าร้าน พร้อมยอมรับการเมืองมีผลต่อการขึ้น ลง ของพืชเศรษฐกิจ  

ชาวสวนสตูลรวมกลุ่มทำปาล์มน้ำมันคุณภาพ  ต่อรองกับลานเทอับราคาได้สูงกว่าหน้าร้าน พร้อมยอมรับการเมืองมีผลต่อการขึ้น ลง ของพืชเศรษฐกิจ

        ปาล์มน้ำมันเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญของจังหวัด  แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าราคาผันผวนทำให้เกิดผลกระทบ  การรวมตัวเป็นแปลงใหญ่ของเกษตรกรปาล์มน้ำมัน  เป็นโอกาสดีในการต่อรองราคาให้สูง  ภายใต้ผลผลิตคุณภาพ   ซึ่งทางกรมส่งเสริมการเกษตร โดยสำนักงานเกษตรจังหวัดสตูล  ตั้งเป้าหมาย 5 ด้าน ลดต้นทุนการผลิต 20% เพิ่มผลผลิต 20%  พัฒนาคุณภาพ/พัฒนาให้ได้มาตรฐาน บริหารจัดการ และ การตลาด 

        ที่วิสาหกิจชุมชนปาล์มน้ำมันแปลงใหญ่อำเภอควนโดน มีสมาชิก 183 ราย พื้นที่ปลูกปาล์มรวม 1,111 ไร่  มีนายศุภเรศน์  แซะอามา  เป็นประธานฯ  ได้รับองค์ความรู้ด้านการดูแลสวน  การจัดการสวน  ตลอดจนการตลาด  กระทั่งสามา รถผลิตปาล์มคุณภาพ  และสามารถต่อรองราคาได้สูงกว่าราคาป้ายที่ผันผวนตลอดเวลา

         นายชาญณรงค์ วิรุณสาร เกษตรจังหวัดสตูล  พร้อมทีมเกษตรอำเภอควนโดนลงติดตามความก้าวหน้าการของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนปาล์มน้ำมันแปลงใหญ่อำเภอควนโดน ซึ่งเป็นหนึ่งใน 15 แปลงของจังหวัดสตูลโดยมีการบูรณาการจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของกระทรวงเกษตรเอง  และนอกกระทรวง  ทั้งภาคเอกชน   ให้การสนับสนุนเรื่ององค์ความรู้ทำอย่างไรให้พี่น้องเกษตรกรสามารถที่จะเพิ่มผลผลิตต่อไร่  โดยใช้หลักวิชาการเข้ามาเกี่ยวข้อง  ไม่ว่าจะเป็นการให้น้ำ  ให้ปุ๋ย  เรื่องพันธุ์ต่างๆ เพื่อให้เกษตรกรมีผลผลิต เพิ่มขึ้นการตรวจวิเคราะห์ดิน   การวิเคราะห์ใบปาล์ม  เพื่อที่จะให้ตอบสนองและสอดคล้องกับความต้องการจริงๆ   การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ร่วมเพื่อสนับสนุนให้การใช้ปุ๋ยเคมีมีประสิทธิภาพมากขึ้น

        ในเรื่องของมาตรฐานคุณภาพปาล์มที่ตัดทุกทะลายจะต้องมีคุณภาพเป็นปาล์มที่แก่จัด เกษตรกรก็จะสามารถอัพราคาขึ้นมาได้  แปลงใหญ่ทั้งหมดเราให้ความสำคัญโดยจะไม่ตัดปาล์มไม่มีคุณภาพส่งโรงงาน   ในอีกส่วนหนึ่งซึ่งเกี่ยวข้องกับสมาชิกแปลงใหญ่โดยตรงคือการรวมตัวกันเพื่อให้เกิดความเข้มแข็ง  พัฒนากลุ่มให้มีความเข้มแข็ง  เพื่อเชื่อมโยงด้านความร่วมมืออำนาจในการต่อรองการร่วมกันจัดการ   ไม่ว่าจะเรื่องการรับองค์ความรู้ใหม่ๆ ที่จะเข้ามา  ทั้งในเรื่องการต่อรองกับลานเทต่างๆ

       นายศุภเรศน์  แซะอามา  ประธานแปลงใหญ่ปาล์มน้ำมันอำเภอควนโดน  กล่าวว่า   กรมส่งเสริมฯได้อบรมให้ความรู้กับสมาชิกปาล์มแปลงใหญ่   ทุกคนมีองค์ความรู้สามารถที่จะปลูกปาล์มน้ำมัน  หรือพัฒนาปาล์มน้ำมันที่ปลูกเรื่องด้านการตลาดจะเห็นได้ว่า  เมื่อกลุ่มมีพลัง  สมาชิกเองมีระบบการจัดการที่ดี   กลุ่มเองก็มีการตกลงกับลานเท   เพื่อที่จะต่อรองว่าเรามีคุณภาพแล้ว  เราสามารถได้ราคาที่ดีกว่าเกษตรกรทั่วไป   นี่คือสิ่งที่เราให้การสนับสนุน  โดยความร่วมมือจากในหน่วยงานเกษตรทั้งหมด

      จากองค์ความรู้  ทางกลุ่มทำปาล์มคุณภาพโดยตัดปาล์มสุก  ซึ่งให้สังเกตดูที่พื้นถ้าใต้โคนมีลูกร่วงอยู่ประมาณ3- 4 เม็ด ถึง 10 เม็ด สามารถที่จะตัดปาล์มเอาไปขายได้   เพราะเป็นปาล์มมีคุณภาพ ซึ่งมีเปอร์เซ็นต์น้ำมันที่ 21% ขึ้นไป  เมื่อทางกลุ่มมีปาล์มที่มีคุณภาพ มากกว่า 90%    ก็ได้ทำ  MOU กับลานปาล์ม   เมื่อทางกลุ่มส่งปาล์มคุณภาพให้    กลุ่มฯจะได้ส่วนต่างเพิ่มราคาหน้าป้าย 20  สตางค์  เช่นวันนี้ราคาปาล์ม 5.60 บาททางกลุ่มฯ จะได้อย่างน้อย 5.80 บาท  บางคนบวกได้สูงถึง 40 สตางค์  อันนี้คือเป็นผลดีกับเกษตรกรที่ได้เข้าร่วมกลุ่มปาล์มแปลงใหญ่

       สำหรับผลผลิตโดยรวมของแปลงใหญ่  เริ่มจากตอนที่ยังไม่ได้เข้ากลุ่มฯ  ไม่มีองค์ความรู้ต่างคนต่างทำผลผลิตเฉลี่ยตอนนั้น 2,300 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี   แต่หลังจากที่เราได้รวมกลุ่มฯกัน  มีองค์ความรู้พัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ เป็น 2.5 ตัน ถึง 2.7 ตัน ในปีที่ผ่านมา 2565 เราได้ผลผลิต 3,245 กิโลกรัมต่อไร่ต่อปี เพิ่มขึ้นแตะ 3 ตันสูงกว่าระดับประเทศอยู่ตอนนี้

       ทางด้าน  ลานเทปาล์มครูเหม ซึ่งตั้งอยู่ บ้านควนบ่อทอง  ต.ทุ่งนุ้ย  อ.ควนกาหลง  จ.สตูล  เป็นลานเท ที่ทำ MOU กับ เกษตรกร แปลงใหญ่ปาล์มน้ำมันควนโดน  ทุกๆวันจะมีปาล์มคุณภาพจากเกษตรกรเข้ามาเฉลี่ยวันละ  1.8-2 ตัน   โดย  นายเจ๊ะบารอเหม   ยาหลี  เจ้าของลานปาล์มครูเหม  กล่าวถึงผลดีเมื่อได้ทำ MOU ร่วมกับ แปลงใหญ่ปาล์มน้ำมันควนโดน  ถึงข้อดีคือ   ลานเทมีปริมาณปาล์มเข้ามากขึ้น ลูกค้ามีแน่นอน   ผลดีของลานเทคือ  ได้ปาล์มที่มีคุณภาพ  ส่งเข้าโรงงาน   ทางลานเทก็สามารถที่จะอัพราคาให้กับปาล์มแปลงใหญ่ได้ เพิ่มถึง 20 สตางค์  หากมีแปลงปาล์มมากกว่า 50 ไร่ก็จะเพิ่มสูงถึง 25 สตางค์ต่อกิโลกรัม   ขึ้นอยู่กับช่วงราคาที่เราได้จากโรงงานด้วย  

      ส่วนการเมืองที่อยู่ระหว่างจัดตั้งรัฐบาล  นายเจ๊ะบารอเหม   ยาหลี  เจ้าของลานปาล์มครูเหม  กล่าวเพิ่มเติมว่า  การเมืองมีผลต่อพืชผลเศรษฐกิจหลายด้าน  ทั้งด้านการประกันราคา  ปริมาณสินค้าจากต่างประเทศไม่ให้ทะลักเข้าประเทศเพราะส่งผลต่อราคาที่ผันผวนได้  ทำให้มีการดีดกลับไปที่โรงงาน   และดีดกลับมาที่ลานเท  แม้ขณะนี้ราคายังทรงอยู่   หลายฝ่ายรอดูสถานกาณณ์ผู้นำจะทำอย่างไร อยากให้รัฐบาลมาดูแลทุกขั้นตอนทุกระดับ ให้ฐานะดีขึ้นทั้ง ปาล์มน้ำมัน และยางพารา

      สำหรับ  สถานการณ์ปาล์มน้ำมันของลานเท  ณ ปัจจุบันปริมาณคงที่  วันหนึ่งเฉลี่ย 20 ตันต่อวัน   โดยบางวันก็อาจจะแค่ 18  -19 ตัน แล้วแต่ช่วงจังหวะฝนตกหรือจังหวะที่ผลผลิตน้อย  

…………………………………………

พม.สตูล จัดโครงการเสริมสร้างเครือข่ายสื่อมวลชน เพื่อประชาสัมพันธ์ภารกิจกระทรวง พม. และ ศรส.

พม.สตูล จัดโครงการเสริมสร้างเครือข่ายสื่อมวลชน เพื่อประชาสัมพันธ์ภารกิจกระทรวง พม. และ

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

Tellscore จับมือ มูลนิธิเพื่อ“คนไทย” และ “ร้อยพลังสร้างสังคมดี”  จัดกิจกรรม Help You, HelpMe

กรุงเทพฯ Tellscore จับมือ มูลนิธิเพื่อ“คนไทย” และ “ร้อยพลังสร้างสังคมดี”  จัดกิจกรรม Help You, Help Me หนึ่งในโครงการ  Influencer for Change นับเป็นปีที่ 4 สนับสนุนสื่ออินฟลูเอนเซอร์ 300 คน สำหรับโครงการเพื่อสังคม 6 โครงการที่ได้รับรางวัล   

       ดังที่ทราบกันว่า หนึ่งในตัวช่วยสำคัญและนับเป็นทรัพยากรที่ภาคประชาสังคมผู้ขับเคลื่อนงานพัฒนาความยั่งยืนมีความต้องการก็คือ “สื่อ” เพื่อเป็นเครื่องมือระดมความช่วยเหลือจากประชาชนจำนวนมาก  “สื่อบุคคล” หรือ “อินฟลูเอนเซอร์” นับเป็นอีกตัวอย่างช่องทางการสื่อสารที่ทรงพลัง  นี่คือที่มาของกิจกรรม Help You, Help Me :  Influencer for Change โครงการสรรค์สร้างสังคมที่บริษัท เทลสกอร์ จำกัด (Tellscore) หนึ่งในผู้นำ Influencer Marketing ของประเทศไทยได้ก่อตั้งขึ้นร่วมกับมูลนิธิเพื่อ“คนไทย” และ“โครงการร้อยพลังสร้างสังคมดี” เพื่อเชิญชวนและสนับสนุนให้สื่ออินฟลูเอนเซอร์ในระบบเทลสกอร์ มาเป็นอาสาสมัครสื่อสารโครงการเพื่อสังคมของภาคีเครือข่าย โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ

      กิจกรรม Help You, Help Me เริ่มครั้งแรกเมื่อปี 2563 สู่ปีที่4 ในปีนี้ มีหน่วยงานภาคสังคมส่งโครงการมารับการพิจารณารางวัลสื่ออินฟลูเอนเซอร์มากกว่า 50 โครงการ และมีโครงการที่ได้รับรางวัลแล้วมากกว่า 20 โครงการ โดยแต่ละปีเทลสกอร์ได้เชื่อมต่อและสนับสนุนอาสาสมัครสื่ออินฟลูเอนเซอร์ในระบบให้โครงการที่ได้รับรางวัลๆ ละ 50 คน ปีละ 6 โครงการ หรือ 300 คนต่อปี  รวมจำนวนทั้งสิ้นกว่า 1,000 คน ไม่รวมอีกกว่า 3,000 คนที่ได้อาสาเป็นกระบอกเสียงช่วงวิกฤติโควิด-19 นับเป็นความร่วมมือที่ขาดคนสำคัญอย่างอินฟลูเอนเซอร์ไม่ได้ และยังเป็นการสร้างกระบวนการที่ภาคสังคมสามารถเรียนรู้หลักการสื่อสารโดยการใช้สื่อบุคคล และเรียนรู้การใช้ระบบเทลสกอร์ ไว้สานต่อด้วยตัวเอง

       สำหรับโครงการ Help You, Help Me season 4 เพิ่งจัดไปเมื่อเร็วๆ นี้ นั้น ได้รับความสนใจจาก 21 องค์กรภาคสังคมร่วมนำเสนอโครงการ ทั้งนี้ โครงการที่ได้รับรางวัลสื่ออินฟลูเอนเซอร์ 6 โครงการ ได้แก่ 1) Dots Coffee ร้านกาแฟที่ให้บริการโดยคนพิการทางสายตาร้านแรกและร้านเดียวในโลก www.dotscoffee.com  2)  insKru Collection 2023 พื้นที่แบ่งปันไอเดียการสอนhttps://new.inskru.com/idea-library/ 3)โรงเรียนจิตศึกษาพัฒนาปัญญาภายใน หรือโรงเรียนนอกกะลา https://www.lamplaimat.ac.th/  4) Money Genius ปลดหนี้ 4 ภาค https://geniusschoolthailand.com/  5) หัวใจมีหู : สร้างพื้นที่ปลอดภัย สร้างพื้นที่รับฟังด้วยใจ https://www.satiapp.co/ 6) Local Heroes Funds ท่องเที่ยวชุมชน  https://localalike.com/

       คุณวิเชียร พงศธร ประธานกรรมการมูลนิธิเพื่อ “คนไทย”  กล่าวว่า งานครั้งนี้มีตัวแทนและหน่วยงานด้านสังคมที่ขับเคลื่อนงานหลากหลายประเด็นเข้าร่วม เช่น ประเด็นการศึกษา เด็กและเยาวชน โรงเรียน สิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ ธรรมาภิบาล แม้กระทั่งเรื่องสัตว์ ฯลฯ แต่ละประเด็นนับเป็นเรื่องสำคัญในสังคม ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ใหญ่เกินกว่าที่ใครคนใดคนหนึ่งจะรับผิดชอบดูแลได้ ต้องอาศัยทุกคนช่วยกัน และต้องอาศัยคนอีกจำนวนมากมาช่วยกันดูแลสังคม สร้างสังคมของเราให้เข้มแข็ง เป็นสังคมที่ดี ที่น่าอยู่ ดังนั้น ในกระบวนการหนึ่งที่จะทำให้ความตั้งใจดีๆ สิ่งดีๆ สิ่งต่างๆ เหล่านี้เกิดขึ้น ต้องอาศัยกลไกการสื่อสารบอกกล่าวเชิญชวนเพื่อนอีกจำนวนมาก เพื่อจะมาทำสิ่งดีๆ เพื่อสังคมร่วมกัน

        คุณสุวิตา จรัญวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เทลสกอร์ จำกัด กล่าวว่า โครงการ Help You, Help Me จะได้เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ซึ่งพลังสูงมากมาทำคอนเทนต์ และเทลสกอร์เป็นเอเจนซี่ที่มีความรู้ด้าน Digital Boosting Media สามารถช่วยใส่เขี้ยวเล็บให้กับแต่ละโพสต์ ช่วยสร้างเอ็นเกจเมนต์ และ เพอร์ฟอร์แมนซ์ให้ดียิ่งขึ้น เช่น ถ้ามีการระดมทุน หรืออยากได้สมาชิกไปทำอาสาสมัครต่างๆ เราหวังว่ากิจกรรมเหล่านี้จะบรรลุผลมากขึ้นจากการกระจายข่าว

      “ทั้ง 21 โครงการที่ร่วมงานนี้ทำให้เทลสกอร์มีความรู้เพิ่มขึ้น โดยความรู้เหล่านี้เราจะถ่ายทอดต่อให้น้องๆอินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งหลังจากนี้จะเป็นกระบวนการทำซ้ำที่ไม่มีวันจบสิ้น กลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ก็จะได้รับแรงบันดาลใจจากโครงการของภาคสังคม เขาก็จะชักชวนเพื่อนๆ เข้ามาเป็นจิตอาสาเพิ่มเติมอีกเรื่อยๆ” คุณสุวิตากล่าว

        ด้านคุณมาวิน ทวีผล  Foodie Influencer ชื่อดัง ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 3 ล้านคนบนโซเชียลมีเดีย ในฐานะแขกรับเชิญพิเศษที่ได้มาแบ่งปันประสบการณ์การทำคอนเทนต์ช่วยเหลือสังคม และเป็นกำลังใจให้กับภาคีเครือข่ายเพื่อสังคมในกิจกรรมนี้  ได้แสดงความคิดเห็นว่า คนไทยต้องช่วยกัน คนเดียวเป็นไปไม่ได้ ต้องไปด้วยกันทุกคน ทุกคนไม่ได้เก่งเหมือนกันหมด

       “ทุกร้านที่ผมไปกิน จริงๆ มันแค่หนึ่งมื้อธรรมดาของผมแต่เป็นมื้อพิเศษของร้านเขา เพราะผมจะทำคอนเทนต์ให้เขา ไม่มากก็น้อย คนจะตามไปหาเขา ผมว่ามันก่อเกิดประโยชน์ให้เขามาก โครงการดี ผมเป็นกระบอกเสียง ต้องช่วยกันเพื่อนำสังคม ทั้งอินฟลูเอ็นเซอร์ ทุกคนต้องช่วยกันหมด ทางเทลสกอร์มีอินฟลูเอนเซอร์ที่พร้อมซัพพอร์ตเยอะมาก เราต้องไปด้วยกันได้ ขอให้ทุกคนทำโครงการดีๆต่อไปทางเทลสกอร์จะซัพพอร์ตแน่นอน แล้วเดี๋ยวประชาชนจะเห็นกว้างมากขึ้น เป็นคลื่นที่กระเพื่อมแรงใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ผมเชื่อแบบนั้น”  

กิจกรรม Help You, Help Me นอกจากจะเป็นการช่วยเหลือหน่วยงานเครือข่ายเพื่อสังคมประชาสัมพันธ์โครงการ และแคมเปญดีๆ ด้วยสื่ออินฟลูเอนเซอร์แล้ว ยังเป็นการสนับสนุนให้เกิดกระบวนการเรียนรู้การสร้างกระบอกเสียงได้ด้วยตัวเอง ช่วยขยายผล และต่อยอดแคมเปญอันหลากหลายนี้สู่การรับรู้ของสาธารณะในช่องทางดิจิทัล ช่วยนำเสนอแนวคิดการจัดกิจกรรมเพื่อสังคม โดยเฉพาะกับหน่วยงาน หรือองค์กร ทั้งภาครัฐ และเอกชน ที่ต้องการทำโครงการเพื่อสังคม และยังเป็นการพัฒนาสังคมในทุกด้านอย่างยั่งยืน

         สำหรับผู้สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกระบอกเสียงเพื่อช่วยเหลือหน่วยงานภาคสังคม แค่เพียงมีช่องทางในโซเชียลมีเดีย ไม่จำเป็นต้องเป็นอินฟลูเอนเซอร์ ก็สามารถร่วมเป็นหนึ่งในกระบอกเสียงที่มีความหมาย และต่ออายุให้ภาคสังคมได้มากกว่าที่คิด สามารถเริ่มได้ตั้งแต่วันนี้ ติดต่อ contact@tellscore ระบุ “โครงการ Help You, Help Me”

         สำหรับหน่วยงาน  หรือองค์ใดที่ต้องการต่อยอดแนวคิดการจัดกิจกรรมเพื่อสังคม สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://helpyouhelpme.tellscore.com/ หรือหากต้องการคำปรึกษาด้านการตลาดอินฟลูเอนเซอร์สำหรับโครงการต่างๆ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://tellscore.com

 

อัพเดทล่าสุด

พม.สตูล จัดโครงการเสริมสร้างเครือข่ายสื่อมวลชน เพื่อประชาสัมพันธ์ภารกิจกระทรวง พม. และ ศรส.

พม.สตูล จัดโครงการเสริมสร้างเครือข่ายสื่อมวลชน เพื่อประชาสัมพันธ์ภารกิจกระทรวง พม. และ

Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สตูล-หนุ่มรัฐศาสตร์  เปิดกระทรวงเกษา รับรุนผมไม่หวั่นแม้วันมามาก  วัยรุ่นนักการเมืองจองคิวแน่น

สตูลหนุ่มรัฐศาสตร์  เปิดกระทรวงเกษา รับรุนผมไม่หวั่นแม้วันมามาก  วัยรุ่นนักการเมืองจองคิวแน่น

        กระทรวงเกษา  ป้ายชื่อร้านที่เขียนด้วยตัวอักษรสีทองดูโดดเด่นสดุดตา  จนต้องหาคำตอบว่า ร้านอะไร  หรือหน่วยงานราชการ สังกัดใดกัน  สำหรับ  “กระทรวงเกษา” เป็นร้านตัดผม ของนายจักรพงษ์  หมันเหตุ อายุ 39 ปี  ดีกรีปริญญาตรี รัฐศาสตร์ เป็นชาวจังหวัดสตูล  ที่แม้จะเรียนจบมา  ทำงานไม่ตรงกับสายที่เรียนเท่าไหร่    ก่อนค้นพบตัวเองว่าชื่นชอบการตัดผม  จึงไปศึกษาหาความรู้  ก่อนจะยึดเป็นอาชีพนี้มายาวนานถึง  10  ปีจนถึงปัจจุบัน

       สำหรับร้าน กระทรวงเกษา  ตั้งอยู่ในพื้นที่ถนนสายใน  ก่อนถึงเทศบาลตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล  ดำเนินงานภายใต้สโลแกน  “พร้อมรุน…แม้วันที่คุณจะมามาก!”

       เมื่อทีมข่าวเดินทางเข้าไปภายในร้าน  ซึ่งตกแต่งเก๋ๆสไตล์วัยรุ่น   บรรยากาศผ่อนคลาย    โดยมีกลุ่มวัยรุ่น  ลูกค้าแวะเวียนมานั่งเสวนา   และรับบริการตัดผม  ซึ่งลูกค้าที่จะมาตัดผมที่ร้าน  กระทรวงเกษา  ต้องจองคิวล่วงหน้าเท่านั้น  จะเดินเข้ามาตัดในร้านแบบสุ่มๆไม่ได้  เพราะทางร้านต้องตัดตามลำดับคิว  นับเป็นการบริหารจัดการร้านอย่างหนึ่ง  และลูกค้าก็ไม่ต้องมานั่งรอนาน ด้วย 

          ทางด้านลูกค้าบอกว่า  ตัดผมเดือนละครั้ง  โดยจะมาทุกเดือน  เพราะเจ้าของร้านเป็นกันเอง คุยสนุกสำหรับทรงผมนั้นก็เอาแบบมาให้ดู  มีบางครั้งช่างก็จะบอกว่าทรงนี้ไม่เหมาะกับโครงหน้า  ก็จะแนะนำให้  ส่วนราคาสู้ได้อยู่

         นายจักรพงษ์  หมันเหตุ เจ้าของร้านกระทรวงเกษา กล่าวว่า   โดยเฉพาะช่วงเทศกาล  จะมีลูกค้าเข้าคิวตัดผม  ยาวไปถึงเช้าก็เคยมีมาแล้ว   ส่วนวันธรรมดาลูกค้าก็จองคิวยาวไปจนถึงค่ำมืด  สำหรับลูกค้าก็มีหลากหลาย แม้กระทั่ง สส.ของจังหวัดสตูล ยังมาจองคิวตัดผมกันที่ร้านนี้ด้วย   การันตีฝีมือกันไปเลย

         ทางร้านรับลูกค้าเฉลี่ยวันละ20 คน  รายได้ตกเดือนละ  36,000 บาท อนาคตเตรียมปั้นช่างเพิ่ม

       สำหรับราคาบริการตัดผม  อยู่ที่  60-100 บาท  เด็ก 60  วัยรุ่น 80  ส่วนผู้ใหญ่ 100 บาท  ทุกทรง โดยลูกค้าสามารถ จองคิวได้ทางเพจของร้าน  กระทรวงเกษา  หรือโทรจองได้เบอร์ 089-653  4586 

  …………………………………….

จันทนา  กูรีกัน //รายงาน

พม.สตูล จัดโครงการเสริมสร้างเครือข่ายสื่อมวลชน เพื่อประชาสัมพันธ์ภารกิจกระทรวง พม. และ ศรส.

พม.สตูล จัดโครงการเสริมสร้างเครือข่ายสื่อมวลชน เพื่อประชาสัมพันธ์ภารกิจกระทรวง พม. และ

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

ทันตแพทย์อาสา ลงพื้นที่ให้บริการด้านทันตกรรมแก่ประชาชน ผู้ประกอบการและลูกจ้างบนเกาะหลีเป๊ะ ภายใต้โครงการรณรงค์ทันตสาธารณสุข

สสจ.สตูล ร่วมกับ โรงพยาบาลสตูลและภาคีเครือข่าย นำทันตแพทย์อาสา ลงพื้นที่ให้บริการด้านทันตกรรมแก่ประชาชน ผู้ประกอบการและลูกจ้างในพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ ภายใต้โครงการรณรงค์ทันตสาธารณสุข ระหว่างวันที่ 7 – 11 สิงหาคม 2566 

       วันที่ 8 ส.ค.66  ที่บันดาหยารีสอร์ท เกาะหลีเป๊ะ  ต.เกาะสาหร่าย  อ.เมือง  จ.สตูล  นายแพทย์วิโรจน์ โยมเมือง รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลสตูล นำทีมทันตแพทย์อาสาจังหวัดสตูลเดินทางลงพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ  เพื่อให้การดูแลด้านทันตกรรมแก่ประชาชนในพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ โดยมีประชาชน ผู้ประกอบการ ลูกจ้างและนักเรียนมาร่วมรับบริการจำนวนมาก

       สืบเนื่องจาก  โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเกาะหลีเป๊ะไม่มีบุคลากรอยู่ประจำและไม่มีคลินิกทันตกรรมเอกชน  ประชาชนจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาทางทันตกรรมที่โรงพยาบาลละงู  ซึ่งเป็นศูนย์บริการทางทันตกรรมของรัฐที่ใกล้ที่สุด  แต่เนื่องด้วยการเดินทางที่ยากลำบาก  จึงทำให้ประชานบนเกาะหลีเป๊ะจำนวนมากขาดโอกาสในการเข้าถึงการบริการทันตกรรมอย่างสม่ำเสมอ  ส่งผลต่อสุขภาพช่องปากและสุขภาพโดยรวมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเกาะหลีเป๊ะอยู่ห่างจากชายฝั่งต้องเดินทางโดยทางเรือและมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก

        สำหรับการให้บริการด้านทันตกรรมแก่ประชาชนในพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ ในครั้งนี้ ภายใต้ความร่วมมือของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสตูล โรงพยาบาลสตูล โรงพยาบาลชุมชนทุกแห่ง และ service plan ทันตกรรม สสจ.สตูล เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการที่ดีกับประชาชนในพื้นที่พิเศษและเพิ่มศักยภาพด้านการให้บริการทันตกรรม รพ.สต.บ้านเกาะหลีเป๊ะ มีกลุ่มเป้าหมายจำนวน 340 คน แบ่งเป็นการรักษาทางทันตกรรมอุดฟัน 80 คน ขูดหินน้ำลาย 80 คน ถอนฟัน 80 คน และให้บริการตรวจสุขภาพช่องปากและเคลือบฟลูออไรด์ให้กับเด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านเกาะหลีเป๊ะจำนวน 100 คนอีกด้วย

…………………………

พม.สตูล จัดโครงการเสริมสร้างเครือข่ายสื่อมวลชน เพื่อประชาสัมพันธ์ภารกิจกระทรวง พม. และ ศรส.

พม.สตูล จัดโครงการเสริมสร้างเครือข่ายสื่อมวลชน เพื่อประชาสัมพันธ์ภารกิจกระทรวง พม. และ

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

ศาลจังหวัดสตูล จัดงาน “วันรพี” ประจำปี 2566 น้อมรำลึกถึง “พระบิดาแห่งกฎหมายไทย”

ศาลจังหวัดสตูล จัดงาน “วันรพี” ประจำปี 2566 น้อมรำลึกถึง “พระบิดาแห่งกฎหมายไทย”      

         วันที่ 7 ส.ค.66  ศาลจังหวัดสตูล ร่วมกับศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสตูล จัดกิจกรรมเนื่องในวันรพี ประจำปี 2566 เพื่อน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ “พระบิดาแห่งกฎหมายไทย” มีการประกอบพิธีสงฆ์ และพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ โดยมีนายพิฑัต กองใจ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดสตูล เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายชาตรี ณ ถลาง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล หัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงยุติธรรมต่าง ๆ ร่วมพิธีวางพวงมาลากันอย่างพร้อมเพรียง ณ บริเวณหน้าศาลจังหวัดสตูล อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล

          วันรพีตรงกับวันที่ 7 สิงหาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ผู้ทรงได้รับการยกย่องให้เป็นพระบิดาแห่งกฎหมายไทย เนื่องจากพระองค์ทรงเป็นนักนิติศาสตร์ และทรงวางระบบแบบแผนศาลยุติธรรม รวมถึงทรงจัดตั้งโรงเรียนกฎหมาย ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย อันเป็นประโยชน์ใหญ่ยิ่งแก่ประเทศชาติ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ มีพระนามเดิมว่า พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 14 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยประสูติจากเจ้าจอมมารดาตลับ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2417 ทรงสำเร็จการศึกษาวิซากฎหมาย

          หลังจากนั้นทรงเข้ารับราชการในกรมราชเลขานุการทรงปฏิบัติงานเป็นที่พอพระราชหฤทัยในสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมชนกนาถเป็นอย่างยิ่ง และพระองค์ได้สิ้นพระชนม์ด้วยโรควัณโรคที่พระวักกะ ในวันที่ 7 สิงหาคม 2463 วงการนักกฎหมายจึงได้ถือเอาวันที่พระองค์สิ้นพระชนม์ เป็นวันรำลึกถึงคุณงามความดีของท่านที่มีต่อวงการกฎหมายไทย โดยใช้ชื่อว่า “วันรพี “

……………………

ภาพ-ข่าว : ศุภาพิชญ์ ดวงไข

 

พม.สตูล จัดโครงการเสริมสร้างเครือข่ายสื่อมวลชน เพื่อประชาสัมพันธ์ภารกิจกระทรวง พม. และ ศรส.

พม.สตูล จัดโครงการเสริมสร้างเครือข่ายสื่อมวลชน เพื่อประชาสัมพันธ์ภารกิจกระทรวง พม. และ

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 ชี้เป้าของถูก ขนมจีนเจ้าอร่อยในตำนาน100 ปี  เมืองท่องเที่ยวใน อำเภอละงู จ.สตูล  

ชี้เป้าของถูก…ขนมจีนเจ้าอร่อยในตำนาน100 ปี  เมืองท่องเที่ยวใน อำเภอละงู จ.สตูล

         พูดถึงขนมจีน  หลายจังหวัดก็จะมีเจ้าดังเจ้าเด่นที่อร่อย  ที่อำเภอละงู  จังหวัดสตูลก็มีเช่นกัน  ร้านที่อยากจะแนะนำ  ก่อนนักท่องเที่ยวจะเดินทางลงไปยังเกาะหลีเป๊ะ  อยากให้แวะร้านนี้เลย   “ร้านขนมจีนเจ้าอร่อยในตำนานของอำเภอละงู” ชาวบ้านในพื้นที่เรียกว่า ร้านก๊ะแดง หรือว่า ร้านจ๊ะสาหนี   ซึ่งเป็นธุรกิจร้านขายอาหารกันในครอบครัว   โดยเฉพาะขนมจีนที่ส่งต่อมาสู่รุ่นที่ 3 แล้ว  ร้านตั้งอยู่สามแยกปากปิง (มุ่งหน้าไปบ่อเจ็ดลูกแหล่งท่องเที่ยว) ประมาณ 50 เมตร ในเขตเทศบาลตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล

        ที่ร้านนี้มีความโดดเด่นในเรื่องของผักเครื่องเคียงที่จัดมาแบบจุใจ  หลากหลายกับผักพื้นบ้าน  และผักดอง   นอกจากนี้  น้ำยาขนมจีนยังใช้ปลาสดจากท้องทะเลสตูล   ทำขายวันต่อวัน 60 ถึง 100 กิโลกรัม ขณะที่เส้นขนมจีนต้องสั่งเจ้าประจำที่ใช้เครื่องมือโบราณ  และพิถีพิถันกับการทำเส้นสด   มีลูกค้าติดใจและเป็นลูกค้าของทางร้านมายาวนานมาจนถึงทุกวันนี้

        น้ำยาขนมจีนแกงกะทิ  แกงไตปลา  และแกงหวาน  ที่ตักเสิร์ฟเติมชนิดจุใจ   ลูกค้าอิ่มชนิดร้องขอชีวิต   ด้วยราคาจานละ 25 บาท  ไข่ต้มฟองละ 6 บาท  นอกจากนี้ภายในร้าน    ไม่ได้มีขายเฉพาะขนมจีนเท่านั้น    ยังมีข้าวเหนียวไก่ทอด  ข้าวหมกไก่ทอด   หรือข้าวแกง   ชากาแฟไว้บริการด้วย   ลูกค้าส่วนใหญ่นอกจากนักท่องเที่ยวแล้ว  จะมีลูกค้าประจำจากรุ่นแรกๆและบอกต่อปากต่อปากมาทานกันที่นี่

         ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 6:00 น จนถึงบ่ายโมง  รับออเดอร์ซื้อเป็นกิโลกรัมไปทานที่บ้าน หรือรับทำเป็นชุด  จะขายที่ร้านแห่งนี้และในตลาดถนนคนเดิน 2 แห่งเท่านั้น

         ก๊ะแดง  นางจรรญา   อุโยบ  อายุ 63 ปี เจ้าของร้านบอกว่า  ที่ร้านแห่งนี้ทำเป็นธุรกิจในครอบครัวขายมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่และมาสืบทอดจนถึงรุ่นพวกตน รุ่นที่3  เราจะใส่ใจ  ในส่วนของวัตถุดิบตั้งแต่ผักเครื่องเคียง  ที่มาทานกับขนมจีน  รวมทั้งเส้นขนมจีนที่จะต้องเป็นเส้นสดเท่านั้น   อีกทางวัตถุดิบในการทำปลาและเครื่องแกงจะทำเองกับมือ  เพื่อให้ได้น้ำยาขนมจีนใหม่สดทุกวัน    ลูกค้า ถ้าเป็นวันธรรมดาจะขายวันละ 60 กิโลกรัม   หากเป็นวันตลาดนัดหรือถนนคนเดินขายวันละ 100 กิโลกรัม ลูกค้าที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามหรือสั่งซื้อได้ทางหมายเลขโทร. 085  080  9311

พม.สตูล จัดโครงการเสริมสร้างเครือข่ายสื่อมวลชน เพื่อประชาสัมพันธ์ภารกิจกระทรวง พม. และ ศรส.

พม.สตูล จัดโครงการเสริมสร้างเครือข่ายสื่อมวลชน เพื่อประชาสัมพันธ์ภารกิจกระทรวง พม. และ

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สตูล-ชี้เป้าของถูกอร่อย…ข้าวเหนียว-ไก่ทอด อาหารสุดฮิตชิ้นใหญ่จัมโบ้เพียง 15 บาท  ขายไม่กี่ชั่วโมงเกลี้ยง   เจ้าของเผยขายถูกต้องการช่วยเหลือสังคมยุคข้าวของแพง 

สตูลชี้เป้าของถูกอร่อย…ข้าวเหนียว-ไก่ทอด อาหารสุดฮิตชิ้นใหญ่จัมโบ้เพียง 15 บาท  ขายไม่กี่ชั่วโมงเกลี้ยง   เจ้าของเผยขายถูกต้องการช่วยเหลือสังคมยุคข้าวของแพง 

        อาหารเช้าในพื้นที่ของจังหวัดสตูล  นอกจากโรตี-ชาชักหรือชาร้อนๆแล้ว   เมนูยอดฮิตทั้งเด็กนักเรียนและคนวัยทำงานโปรดปรานคือ  “ข้าวเหนียวไก่ทอด”  อยู่ที่ไหนก็ฮิตได้รับความนิยมเช่นเดียวกันร้านนี้   ชื่อร้าน  “ไก่ทอดหาดใหญ่”  ตั้งอยู่ก่อนถึงสะพานข้ามคลองซอยทรายทอง (ซอยเอวหัก)  หมู่ที่ 7  ตำบลคลองขุด  อำเภอเมือง  จังหวัดสตูล  โดยมีสองสามีภรรยาเจ้าของร้านไก่ทอดซึ่งเป็นชาวหาดใหญ่   ก่อนหน้าเคยไปขายข้าวเหนียวไก่ทอดที่จังหวัดกระบี่และเป็นคนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19  ก่อนมาตั้งรกรากกับญาติที่จังหวัดสตูลนานร่วม 3 ปี

       แล้วโดยเริ่มแรกขายชิ้นละ 10 บาทก่อนขยับขึ้นมาเป็นชิ้นละ 15 บาทเพราะราคาไก่แพงขึ้นปัจจุบันขายชุดละ 20 บาท (ข้าวเหนียว 5 บาท ไก่หนึ่งชิ้นใหญ่ 15 บาท) ได้รับการตอบรับจากลูกค้าทั่วไปและต่างหมู่บ้านมาซื้อกันคึกคักเพราะด้วยไก่ทอดชิ้นใหญ่ราคาถูกที่ชาวบ้านเข้าถึงได้ง่าย ข้าวเหนียวก็นิ่มอร่อยชุดเดียวก็อิ่มจุก อร่อยหาทานยากในข้าวยากหมากแพง  

       ทางร้านเปิดขายตั้งแต่เวลา 6 โมงเช้าถึง 10 โมงเช้าเท่านั้นทุกวันจันทร์ – ศุกร์ วันละ 50 กิโลกรัม  ส่วนวันเสาร์,อาทิตย์ ขาย 60 กิโลกรัม รายได้ยังไม่หักค่าใช้จ่ายวันละ 5,000-6,500 บาท

       นางฮาซานะ   หมานระโต๊ะ   เจ้าของร้านไก่ทอดหาดใหญ่ ที่จ.สตูล  บอกว่า  สูตรของทางร้านจะเป็นสูตรเฉพาะหมักไก่ไว้หนึ่งคืนในช่องฟิตแล้วเอามาทอด โดยมีชิ้นส่วนของ (อกไก่  สะโพกไก่  ปีก และน่องไก่ เพียงชิ้นละ 15 บาทและโคลงไก่ชิ้นละ 20 บาท ข้าวเหนียวห่อละ 5 บาท)  ขายในราคาถูกแบบนี้ไม่เคยคิดขึ้นราคาเลยสงสารลูกค้าที่มีลูกเยอะ ได้ทานกันทุกคน   สิ่งหนึ่งที่ขายราคาถูกเพราะ ใจอยากช่วยเหลือสังคมในยุคข้าวยากหมากแพง  ซื้อทานได้ในราคาถูก

พม.สตูล จัดโครงการเสริมสร้างเครือข่ายสื่อมวลชน เพื่อประชาสัมพันธ์ภารกิจกระทรวง พม. และ ศรส.

พม.สตูล จัดโครงการเสริมสร้างเครือข่ายสื่อมวลชน เพื่อประชาสัมพันธ์ภารกิจกระทรวง พม. และ

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

ขนมหวานสไตล์โมเดิร์น  ตอบโจทย์ทุกวัย  ร้านบัวลอยจงเจริญสตูล  รวม  100 เมนู  เมนูแนะนำ “บัวลอยน้ำชาไทย” “ปังเย็นบัวลอยชาไทยภูเขาไฟ” จากดินแดนมลายูสตูล

ขนมหวานสไตล์โมเดิร์น  ตอบโจทย์ทุกวัย  ร้านบัวลอยจงเจริญสตูล  รวม  100 เมนู  เมนูแนะนำ “บัวลอยน้ำชาไทย” “ปังเย็นบัวลอยชาไทยภูเขาไฟ” จากดินแดนมลายูสตูล

       ถนนหัตถกรรมศึกษา  (ฝั่งเดียวกับรพ.สตูล)  ตำบลพิมาน  เขตเทศบาลเมือง  จังหวัดสตูล  ในเวลานี้หากไม่พูดถึงร้านนี้ไม่ได้เลย  “ร้านบัวลอยจงเจริญ”  ร้านที่รวบรวมเมนูขนมหวานมากกว่า 100 ชนิด  มาไว้ที่นี่ อาทิ  บัวลอยน้ำกะทิ น้ำขิง  บัวลอยน้ำชาไทย บัวลอยไข่หวาน ไข่เค็ม บัวลอยทรงเครื่อง   โดยเฉพาะเมนูแนะนำคือ  บัวลอยจงเจริญ  ของทางร้าน  และสายรักสุขภาพ ก็มีบัวลอยงาดำน้ำขิง นมสด น้ำเต้าหู้  และบัวลอยคัสตาร์ดไข่เค็มน้ำชาไทย  เฉาก็วย  ไอติมมะพร้าวอ่อน ไอติมกะทิโบราณทรงเครื่อง  ทับทิบกรอบ ซ่าหริ่มน้ำกะทิสด  ปังเย็นบัวลอยชาไทย ภูเขาไฟ   เพิ่มท็อปปิ้งได้ไม่อั้น

        นางสาวณิชากร   จินดานุ   หรือ คุณเตี๊ยบ  คุณครูวิทยาลัยชุมชน และ นักประชาสัมพันธ์ชำนาญการ เทศบาลตำบลคลองขุด  เปิดเผยว่า จากที่ชื่นชอบการทานบัวลอยและขนมทานเล่น  จึงคิดกับเพื่อนบ้านสนิทว่า  เราน่าจะลงหุ้นกัน  กับเพื่อน  3 คน  เปิดร้านรวบรวมขนมหวานในพื้นที่  จ.สตูล  สักหนึ่งแห่ง  จึงมาตกผลึกกันที่  ร้านบัวลอยจงเจริญ  โดยทางร้านเห็นว่าในย่านนี้จะมีแต่ร้านอาหารคาว  แต่ยังขาดร้านขนมหวาน  เมื่อตัดสินใจเปิดไม่คิดว่าจะได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี   โดยแรงงานที่มาช่วยขาย  ก็จะเป็นนักเรียนที่เรียนในวิทยาลัยชุมชน 10 คน ถือว่าเป็นการสร้างงานให้เด็ก ๆ ด้วย

 

        แต่ละเมนูของทางร้าน  จะเดินสายหวานกลาง ลูกค้ารักสุขภาพสามารถบอกระดับความหวานได้  และเป็นเมนูเพื่อสุขภาพหลากหลาย เหมาะกับเด็ก ผู้ใหญ่ และวัยรุ่น   ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีกับขนมหวานไทย   ทางร้านเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 11 นาฬิกาถึง 20 นาฬิกา 

       สำหรับบัวลอยจงเจริญ  เป็นขนมหวานสูตรโบราณกว่า 60 ปี ของคุณยายเขียน  โชคสมาน  อำเภอหาดใหญ่   จังหวัดสงขลา  มาปรับเป็นร้านขนมสไตล์โมเดริ์น  ต่างเป็นที่ชื่นชอบของคนรุ่นใหม่ตอบรับเป็นอย่างดี 

……………………………

พม.สตูล จัดโครงการเสริมสร้างเครือข่ายสื่อมวลชน เพื่อประชาสัมพันธ์ภารกิจกระทรวง พม. และ ศรส.

พม.สตูล จัดโครงการเสริมสร้างเครือข่ายสื่อมวลชน เพื่อประชาสัมพันธ์ภารกิจกระทรวง พม. และ

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สตูลร้านในตำนาน  ไก่ย่างสมุนไพร 5 บาทลูกค้าตรึมแบ่งขายวันละ 2 รอบหมดเกลี้ยงทุกวัน

สตูลร้านในตำนาน  ไก่ย่างสมุนไพร 5 บาทลูกค้าตรึมแบ่งขายวันละ 2 รอบหมดเกลี้ยงทุกวัน

       ที่บ้านเลขที่ 122/1 บนถนนปานชูรำลึก  (ซอยแม่เนียน)  ตำบลพิมาน  เขตเทศบาลเมือง  จังหวัดสตูลวันนี้ผู้สื่อข่าวพามารู้จักร้านที่เชื่อว่า    ตอบโจทย์ใครหลายคนในช่วงภาวะเศรษฐกิจฝืด  นั่นก็คือ “ร้านไก่ย่าง 5 บาท”  ซึ่งมีนางอำพร   อบทอง   อายุ 67 ปี   เจ้าของร้านที่ขายไก่ย่างมาเกือบตลอดชีวิต  โดยสูตรที่นำมาขายเป็นสูตรสมุนไพร  ซึ่งเป็นสูตรเดียวกันกับไก่ย่างอบโอ่งที่เคยขายในกรุงเทพมหานครฯ  เมื่อสามีเสียชีวิต จึงกลับมาอยู่จังหวัดสตูลกับลูก ๆ 3 คน  และทำอาชีพขายไก่ย่างเลี้ยงลูกมานานนับ 28 ปีจนถึงทุกวันนี้

        “ร้านไก่ย่าง 5 บาท” เป็นราคาที่ขายมาอย่างยาวนานและไม่คิดจะขึ้นราคาแม้ราคาไก่จะปรับตัวขึ้นตลอดเวลา  โดยคุณป้าอำพร  บอกว่าในภาวะเศรษฐกิจแบบนี้หลายคนมองหาอาหารอร่อยและราคาที่เข้าถึงได้ง่าย  และนี่คิดว่าจะช่วยให้เด็ก ผู้ใหญ่ แม้ข้าราชการ หรือคนทำงานทั่วไปซื้อง่าย ทานอิ่ม หลายคนเป็นลูกค้าร้านมาตั้งแต่เด็กจนทำงานก็ยังเป็นลูกค้าอยู่  ป้าเองก็มีทั้งแจกทำแถม ให้ลูกค้าประจำ 

       ทางร้านไก่ย่าง 5 บาท จะขายวันละ 2 รอบคือรอบเช้าตั้งแต่ตี 5 ถึง 11 โมงเช้า และรอบ่ายโมง ถึง 2 ทุ่ม  โดยในแต่ละวันใช้ไก่ 15 กิโลกรัมหรือวันละ 300 ไม้ มีตั้งเนื้ออกไก่,ตับ, (โครงไก่ย่าง 10 บาท) และข้าวเหนียวห่อละ 5 บาทด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ยังมีลูกชิ้นมาเพิ่มตัวเลือกให้ลูกค้าด้วย

      ด้านลูกค้าส่วนใหญ่ ขาประจำ  ยอมรับว่า ในยุคข้าวของแพงยอมรับว่าการมาซื้อไก่ย่างกิน  ช่วยลดค่าใช้จ่าย  โดยเฉพาะเด็ก ๆ จะชื่นชอบทานง่ายพร้อมข้าวเหนียวก็อยู่ท้อง และเป็นลูกค้าร้านนี้มานานเหมือนกัน

 ……………………………………

 

พม.สตูล จัดโครงการเสริมสร้างเครือข่ายสื่อมวลชน เพื่อประชาสัมพันธ์ภารกิจกระทรวง พม. และ ศรส.

พม.สตูล จัดโครงการเสริมสร้างเครือข่ายสื่อมวลชน เพื่อประชาสัมพันธ์ภารกิจกระทรวง พม. และ

อัพเดทล่าสุด