Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 เกษตรกรสตูลปลูก “ขมิ้นแดงสยาม-ขมิ้นตรัง” แปรรูปด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ สร้างมูลค่าเพิ่มสมุนไพรไทย

เกษตรกรสตูลปลูก “ขมิ้นแดงสยาม-ขมิ้นตรัง” แปรรูปด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ สร้างมูลค่าเพิ่มสมุนไพรไทย

            ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จังหวัดสตูลยกระดับการเกษตรสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ ส่งเสริมเกษตรกรในพื้นที่อำเภอควนโดนปลูกขมิ้นแดงสยามและขมิ้นตรัง พร้อมพัฒนาการแปรรูปด้วยเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสมุนไพรท้องถิ่น ตอบสนองความต้องการตลาดที่เพิ่มขึ้น

             นางวรรณนภา คงเคว็จ เกษตรอำเภอควนโดน พร้อมเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอควนโดน และนายสมยศ จิตเที่ยง นายอำเภอควนโดน ร่วมกับ ผศ.กิติศักดิ์ ชุมทอง ได้ลงพื้นที่เยี่ยมชมการปลูกขมิ้นแดงสยามของกลุ่มเกษตรกรในอำเภอควนโดน ซึ่งกำลังอยู่ในช่วงเก็บเกี่ยวผลผลิตเพื่อนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์สมุนไพรหลากหลายชนิด

           นายเจ๊ะมูสอด สามารถ อายุ 73 ปี เจ้าของพื้นที่ปลูกขมิ้นแดงสยามในพื้นที่หมู่ที่ 10 ตำบลควนโดน เปิดเผยว่า ตนได้เริ่มปลูกขมิ้นในพื้นที่ 1 ไร่ 2 งาน ซึ่งสามารถจำหน่ายขมิ้นแดงสยามในราคา 21 บาทต่อกิโลกรัม โดยเมื่อถึงฤดูเก็บเกี่ยวประมาณ 2-3 เดือน ขมิ้นจะถูกขุดขึ้นมาและทำความสะอาดเพื่อเตรียมแปรรูป ทั้งนี้ การปลูกในกระสอบปุ๋ยและวงล้อรถยนต์ช่วยให้เก็บเกี่ยวผลผลิตได้สะดวกมากขึ้น

          ด้านนางสายฝน นุ่งอาหลี อีกหนึ่งเกษตรกรผู้ปลูกขมิ้นในวงล้อ และลงดิน ที่ปลูกพื้นที่หมู่ที่ 8 ตำบลควนสะตอ ได้ขยายพื้นที่ปลูกขมิ้นถึง 5 ไร่ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดที่เพิ่มขึ้น

         โดยนางสายฝน นุ่งอาหลี  กล่าวว่า  ปลูกขมิ้นทำรายได้เลี้ยงกลุ่มและครอบครัวได้ดี เป็นที่ต้องการที่จะนำไปเป็นสมุนไพรทางการแพทย์ จึงไม่เพียงพอต่อการผลิตแปรรูป รวมทั้งการปลูกขมิ้นใช้พื้นที่น้อยข้างบ้านก็ปลูกได้ ในกระสอบ วงล้อก็ทำได้

           ทางด้านนายฮูสรี  หีมมะหมัด นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร สำนักงานเกษตรอำเภอควนโดน กล่าวว่า  ได้ให้การสนับสนุนโดยส่งเสริมการแปรรูปขมิ้นด้วยเทคโนโลยีการตากแห้งด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งช่วยเพิ่มมูลค่าให้กับผลผลิต และนำไปสู่การผลิตผลิตภัณฑ์สมุนไพรหลายชนิด เช่น ลูกประคบสมุนไพรราคา 60 บาท น้ำมันเหลืองราคา 80 บาท และยาดมราคา 35 บาท

           นายสมยศ จิตเที่ยง นายอำเภอควนโดน กล่าวว่า “การแปรรูปขมิ้นเป็นสมุนไพรถือเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับเกษตรกรในพื้นที่ ซึ่งไม่เพียงแค่สร้างรายได้ แต่ยังเป็นการสนับสนุนการใช้สมุนไพรเพื่อสุขภาพ ขมิ้นที่ผลิตในพื้นที่มีคุณภาพสูงและส่งไปยังโรงพยาบาลในพื้นที่เพื่อการรักษาผู้ป่วย แต่ขณะนี้ผลผลิตยังไม่เพียงพอต่อความต้องการ จึงอยากให้เกษตรกรหันมาปลูกขมิ้นเพิ่มขึ้นเพื่อรองรับตลาดที่กำลังเติบโต”

          ทั้งนี้ โครงการส่งเสริมการปลูกขมิ้นแดงสยามและขมิ้นตรังในพื้นที่อำเภอควนโดน ถือเป็นตัวอย่างของการพัฒนาเกษตรกรรมที่ยั่งยืน ใช้ทรัพยากรท้องถิ่นและพลังงานสะอาด สร้างความมั่นคงทางอาชีพให้กับเกษตรกรในพื้นที่ และตอบสนองต่อความต้องการผลิตภัณฑ์สมุนไพรที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน

………………………………………………………

 เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

สตูล- เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

จังหวัดสตูลคัดเฟ้นสุดยอด OTOP เด่น 2568 ยกระดับผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นสู่ตลาดระดับประเทศ

สืบสานนวัฒนธรรมอาหารมุสลิมโบราณ  โรตีออลาย!! สามวัยพี่น้องฟื้นชีวิตขนมโบราณรอมฎอน บนเส้นทางสืบสานมรดกปู่ย่าตายาย

ในยุคที่อาหารฟาสต์ฟู้ดและขนมสมัยใหม่กำลังเป็นที่นิยม ยังมีกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มุ่งมั่นในการอนุรักษ์และสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมด้านอาหารของบรรพบุรุษ หนึ่งในนั้นคือ “ขนมโรตีออลาย” หรือ “โรตียาลอ” หรือ “โรตีเส้น” ขนมโบราณที่หาทานได้ง่ายในช่วงเดือนรอมฎอนของพี่น้องชาวไทยมุสลิม

รสชาติแห่งประวัติศาสตร์ที่ส่งต่อ   โรตีออลายเป็นขนมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยส่วนผสมที่เรียบง่ายแต่ทรงคุณค่า ประกอบด้วยแป้งหมี่ 1 กิโลกรัม ไข่ไก่ 2 ฟอง เกลือ 1 ช้อนชา และน้ำสะอาด 1 ลิตร ขนมนี้มีให้เลือกสองสี คือสีธรรมชาติของแป้งและสีเขียวจากใบเตย

กรรมวิธีการทำที่พิถีพิถันเริ่มจากการละเลงแป้งบนกระทะร้อนที่เคลือบน้ำมันเล็กน้อย หมุนวนเป็นลวดลายคล้ายดอกไม้อย่างสวยงาม จนแป้งเกาะตัวกันเป็นแผ่นบาง ก่อนนำขึ้นจากเตาและพับใส่กล่อง บรรจุ 8 ชิ้นต่อกล่อง

ด้วยรสชาติที่ลงตัวทำให้   โรตีออลายนิยมรับประทานคู่กับน้ำจิ้มสองแบบตามความชอบ คือ แกงถั่วผสมแกงตอแมะไก่ หรือกะทิหวาน ในขณะที่ลูกค้าวัยรุ่นมักนิยมรับประทานคู่กับนมข้นหวานมากกว่า แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวของขนมโบราณให้เข้ากับรสนิยมของคนรุ่นใหม่

นางสาวสุจิตรา  ชูแก้ว  อายุ 38 ปี พร้อมน้อง ๆ  นางสาวสุทารินทร์  ชูแก้ว อายุ 18 ปี ทายาทผู้สืบทอดขนมโบราณ บอกว่า  ชวนพี่น้องสามวัย  มาร่วมกันสืบสานสูตรขนมโบราณที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากรุ่นปู่ย่าตายาย พวกเขาไม่เพียงแค่รักษามรดกทางวัฒนธรรม แต่ยังชวนครอบครัวและญาติพี่น้องมาร่วมกันทำขนมเพื่อจำหน่าย สร้างงานและรายได้ในช่วงเดือนรอมฎอน

ทางร้านผลิตขนมโรตีออลายวันละประมาณ 2 กิโลกรัม และได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงเดือนรอมฎอน โดยยึดมั่นในการปรุงอาหารสดใหม่และเปิดโอกาสให้ลูกค้าโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ได้เห็นกรรมวิธีการทำขนมโบราณ เพื่อสืบสานต่อไป

แหล่งจำหน่าย  ผู้ที่สนใจสามารถหาซื้อขนมโรตีออลายได้ที่ตลาดรอมฎอน เทศบาลเมืองสตูล บริเวณรอบมัสยิดมำบัง ตำบลพิมาน อำเภอเมืองสตูล ในราคากล่องละ 20 บาท พร้อมน้ำจิ้มให้เลือกสองแบบ

นางสาวนุตเราะห์   ชัยยะวิริยะ  ลูกค้าข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ (ผอ.กองศึกษาอบจ.สตูล) ยอมรับว่า  ดูวิธีการทำแล้วน่าซื้อหาไปรับประทานในช่วงละศีลอดนี้  ทั้งแม่ค้าคนรุ่นใหม่มาช่วยกันสืบสานขนมโบราณยิ่งทำให้อยากช่วยกันอุดหนุน และที่ตลาดรอมฏอนแห่งนี้ก็ยังมีอาหารที่น่าสนใจซื้อหารับประทานได้อย่างหลากหลายด้วย

เรื่องราวของขนมโรตีออลายและเจ้าของร้านสามวัยพี่น้องนี้ เป็นตัวอย่างอันดีของการอนุรักษ์วัฒนธรรมอาหารโบราณ ควบคู่ไปกับการสร้างอาชีพและรายได้ พิสูจน์ให้เห็นว่าภูมิปัญญาท้องถิ่นและมรดกทางวัฒนธรรมยังคงมีคุณค่าและสามารถอยู่ร่วมกับยุคสมัยปัจจุบันได้อย่างกลมกลืน

……………………………………

อัพเดทล่าสุด

 เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

สตูล- เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

Categories
ข่าวทั่วไป

สืบสานนวัฒนธรรมอาหารมุสลิมโบราณ  โรตีออลาย! สามวัยพี่น้องฟื้นชีวิตขนมโบราณรอมฎอน บนเส้นทางสืบสานมรดกปู่ย่าตายาย

สืบสานนวัฒนธรรมอาหารมุสลิมโบราณ  โรตีออลาย!! สามวัยพี่น้องฟื้นชีวิตขนมโบราณรอมฎอน บนเส้นทางสืบสานมรดกปู่ย่าตายาย

ในยุคที่อาหารฟาสต์ฟู้ดและขนมสมัยใหม่กำลังเป็นที่นิยม ยังมีกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มุ่งมั่นในการอนุรักษ์และสืบทอดมรดกทางวัฒนธรรมด้านอาหารของบรรพบุรุษ หนึ่งในนั้นคือ “ขนมโรตีออลาย” หรือ “โรตียาลอ” หรือ “โรตีเส้น” ขนมโบราณที่หาทานได้ง่ายในช่วงเดือนรอมฎอนของพี่น้องชาวไทยมุสลิม

รสชาติแห่งประวัติศาสตร์ที่ส่งต่อ   โรตีออลายเป็นขนมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ด้วยส่วนผสมที่เรียบง่ายแต่ทรงคุณค่า ประกอบด้วยแป้งหมี่ 1 กิโลกรัม ไข่ไก่ 2 ฟอง เกลือ 1 ช้อนชา และน้ำสะอาด 1 ลิตร ขนมนี้มีให้เลือกสองสี คือสีธรรมชาติของแป้งและสีเขียวจากใบเตย

กรรมวิธีการทำที่พิถีพิถันเริ่มจากการละเลงแป้งบนกระทะร้อนที่เคลือบน้ำมันเล็กน้อย หมุนวนเป็นลวดลายคล้ายดอกไม้อย่างสวยงาม จนแป้งเกาะตัวกันเป็นแผ่นบาง ก่อนนำขึ้นจากเตาและพับใส่กล่อง บรรจุ 8 ชิ้นต่อกล่อง

ด้วยรสชาติที่ลงตัวทำให้   โรตีออลายนิยมรับประทานคู่กับน้ำจิ้มสองแบบตามความชอบ คือ แกงถั่วผสมแกงตอแมะไก่ หรือกะทิหวาน ในขณะที่ลูกค้าวัยรุ่นมักนิยมรับประทานคู่กับนมข้นหวานมากกว่า แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวของขนมโบราณให้เข้ากับรสนิยมของคนรุ่นใหม่

นางสาวสุจิตรา  ชูแก้ว  อายุ 38 ปี พร้อมน้อง ๆ  นางสาวสุทารินทร์  ชูแก้ว อายุ 18 ปี ทายาทผู้สืบทอดขนมโบราณ บอกว่า  ชวนพี่น้องสามวัย  มาร่วมกันสืบสานสูตรขนมโบราณที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากรุ่นปู่ย่าตายาย พวกเขาไม่เพียงแค่รักษามรดกทางวัฒนธรรม แต่ยังชวนครอบครัวและญาติพี่น้องมาร่วมกันทำขนมเพื่อจำหน่าย สร้างงานและรายได้ในช่วงเดือนรอมฎอน

ทางร้านผลิตขนมโรตีออลายวันละประมาณ 2 กิโลกรัม และได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงเดือนรอมฎอน โดยยึดมั่นในการปรุงอาหารสดใหม่และเปิดโอกาสให้ลูกค้าโดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ได้เห็นกรรมวิธีการทำขนมโบราณ เพื่อสืบสานต่อไป

แหล่งจำหน่าย  ผู้ที่สนใจสามารถหาซื้อขนมโรตีออลายได้ที่ตลาดรอมฎอน เทศบาลเมืองสตูล บริเวณรอบมัสยิดมำบัง ตำบลพิมาน อำเภอเมืองสตูล ในราคากล่องละ 20 บาท พร้อมน้ำจิ้มให้เลือกสองแบบ

นางสาวนุตเราะห์   ชัยยะวิริยะ  ลูกค้าข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ (ผอ.กองศึกษาอบจ.สตูล) ยอมรับว่า  ดูวิธีการทำแล้วน่าซื้อหาไปรับประทานในช่วงละศีลอดนี้  ทั้งแม่ค้าคนรุ่นใหม่มาช่วยกันสืบสานขนมโบราณยิ่งทำให้อยากช่วยกันอุดหนุน และที่ตลาดรอมฏอนแห่งนี้ก็ยังมีอาหารที่น่าสนใจซื้อหารับประทานได้อย่างหลากหลายด้วย

เรื่องราวของขนมโรตีออลายและเจ้าของร้านสามวัยพี่น้องนี้ เป็นตัวอย่างอันดีของการอนุรักษ์วัฒนธรรมอาหารโบราณ ควบคู่ไปกับการสร้างอาชีพและรายได้ พิสูจน์ให้เห็นว่าภูมิปัญญาท้องถิ่นและมรดกทางวัฒนธรรมยังคงมีคุณค่าและสามารถอยู่ร่วมกับยุคสมัยปัจจุบันได้อย่างกลมกลืน

……………………………………

อัพเดทล่าสุด

 เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

สตูล- เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

Categories
ข่าวทั่วไป

สัญญาณแห่งความอุดมสมบูรณ์! ตะลึงพบฝูงโลมาอิรวดี 10 ตัว โชว์ตัวกลางคลองท่าจีนสตูล

สัญญาณแห่งความอุดมสมบูรณ์! ตะลึงพบฝูงโลมาอิรวดี 10 ตัว โชว์ตัวกลางคลองท่าจีนสตูล

วันที่ 10 มีนาคม 2568  ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่า   ชาวสตูลและนักท่องเที่ยวต่างตื่นตาตื่นใจกับการพบฝูงโลมาอิรวดีกว่า 10 ตัว ว่ายน้ำและกระโดดโชว์ตัวอย่างไม่หวาดกลัวผู้คนในพื้นที่คลองท่าจีน ตำบลคลองขุด อำเภอเมือง จังหวัดสตูล สะท้อนความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศป่าชายเลนและทรัพยากรทางทะเลในพื้นที่

นายทรงเดชา วันทา ปลัดเทศบาลตำบลคลองขุด พร้อมด้วยกลุ่มประมงพื้นบ้านและกลุ่มท่องเที่ยวชุมชน ได้จัดกิจกรรมล่องเรือสำรวจเส้นทางคลองท่าจีน หมู่ที่ 1 ตำบลคลองขุด เพื่อพัฒนาเส้นทางท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ในพื้นที่ ระหว่างการสำรวจได้พบเหตุการณ์น่าประทับใจเมื่อฝูงโลมาอิรวดีประมาณ 10 ตัว ว่ายน้ำและกระโดดแสดงความน่ารักให้ชม โดยไม่แสดงอาการตื่นกลัวต่อผู้คนแต่อย่างใด

“การพบโลมาอิรวดีในพื้นที่นี้เป็นสัญญาณที่ดีของความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ” นายทรงเดชากล่าว “โลมาอิรวดีจะเข้ามาในพื้นที่ที่มีแหล่งอาหารอุดมสมบูรณ์ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าทรัพยากรในพื้นที่นี้ยังคงสมบูรณ์และมีความสำคัญต่อสัตว์ทะเลหายากเหล่านี้”

พื้นที่คลองท่าจีนตั้งอยู่ใกล้กับภูเขาสูงที่ชาวบ้านเรียกว่า “โต๊ะกูเด็น โต๊ะตาบอด” เป็นพื้นที่ที่อุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าชายเลน หอยขาว และสัตว์ทะเลนานาชนิด การพบฝูงโลมาอิรวดีซึ่งเป็นสัตว์ทะเลที่ใกล้สูญพันธุ์ในครั้งนี้ จึงเป็นเครื่องยืนยันถึงความสำคัญของพื้นที่ที่ต้องได้รับการอนุรักษ์อย่างจริงจัง

ทางเทศบาลตำบลคลองขุดได้เรียกร้องให้ประชาชนในพื้นที่ร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อรักษาความอุดมสมบูรณ์และพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์อย่างยั่งยืน พร้อมเตรียมผลักดันเส้นทางล่องเรือคลองท่าจีนให้เป็นจุดหมายใหม่สำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสธรรมชาติและชมความน่ารักของฝูงโลมาอิรวดีในถิ่นที่อยู่ตามธรรมชาติ

…………………………………………..

คลิปพบฝูงโลมา    ขอบคุณภาพประทับใจจาก…ปลัดเทศบาลตำบลคลองขุด

อัพเดทล่าสุด

 เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

สตูล- เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

Categories
ข่าวทั่วไป

“น้ำถุง 10 บาท” ทางรอดธุรกิจเล็กยุคเศรษฐกิจฝืด เปิดสูตรความสำเร็จร้านฟาริสต้าในเดือนรอมฏอน

“น้ำถุง 10 บาท” ทางรอดธุรกิจเล็กยุคเศรษฐกิจฝืด เปิดสูตรความสำเร็จร้านฟาริสต้าในเดือนรอมฏอน

         พาชิมน้ำถุงราคาประหยัด แต่รสชาติเข้มข้น กว่า 20 เมนู ที่ขายดิบขายดีในเดือนรอมฏอน จ.สตูล สร้างรายได้วันละกว่า 500 ถุง

         ท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจที่ฝืดเคือง ผู้ประกอบการรายย่อยต่างต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด หนึ่งในนั้นคือร้านฟาริสต้า น้ำตู้ ในจังหวัดสตูล ที่ปรับกลยุทธ์ธุรกิจในช่วงเดือนรอมฏอน ด้วยการแปลงเครื่องดื่มจากตู้มาเป็นน้ำถุงราคาประหยัด ตอบโจทย์ผู้บริโภคยุคเศรษฐกิจฝืด

        ในช่วงเดือนถือศีลอดของพี่น้องมุสลิม ตลาดรอมฏอนตำบลฉลุง อำเภอเมือง จังหวัดสตูล คึกคักด้วยผู้คนที่มาเลือกซื้ออาหารและเครื่องดื่มเพื่อละศีลอด ร้านฟาริสต้า น้ำตู้ เป็นหนึ่งในร้านที่ได้รับความนิยมอย่างล้นหลาม ด้วยเครื่องดื่มราคาเริ่มต้นเพียง 10-15 บาท ที่มีให้เลือกมากกว่า 20 เมนู

       “น้ำถุงของเราขายดีมาก เพราะราคาประหยัดแต่รสชาติเข้มข้น ช่วยให้ลูกค้าได้ดื่มน้ำหลากหลายรสชาติในราคาที่จับต้องได้ โดยเฉพาะในยุคที่ค่าครองชีพสูง” นายมะหะหมาด บิลังโหลด วัย 50 ปี เจ้าของร้านฟาริสต้า น้ำตู้ เล่าถึงกลยุทธ์การขายที่ประสบความสำเร็จ

          เมนูยอดนิยมราคาเพียง 10 บาท ได้แก่ น้ำกระเจี๊ยบ น้ำเขียว น้ำเม็ดแมงลัก น้ำลิ้นจี่ และน้ำเก๊กฮวย ส่วนเมนูพรีเมียมที่มีส่วนผสมของนม อย่างนมชมพู ชาเย็น ชาเขียว ข้าวโพด และกาแฟโบราณ ราคาเพียง 15 บาท ซึ่งถือว่าถูกกว่าท้องตลาดทั่วไปมาก

          “ผมทำธุรกิจนี้มานานกว่า 15 ปี แต่เมื่อถึงเดือนรอมฏอน ผมจะปรับรูปแบบจากน้ำตู้  มาเป็นน้ำถุงที่ลูกค้าสามารถซื้อกลับไปดื่มตอนละศีลอด สามารถทานได้ทั้งแบบเย็นหรือรอให้อุ่นขึ้นก็ได้ ทำให้ขายดีมาก วันหนึ่งผมทำน้ำกว่า 500 ถุง ขายหมดเกลี้ยงทุกวัน” นายมะหะหมาด กล่าวเพิ่มเติม

         ร้านฟาริสต้าเปิดขายทุกวันในช่วงเดือนรอมฏอน ตั้งแต่เวลา 15.00-18.00 น. หรือก่อนถึงเวลาละศีลอด และหลังจากสิ้นสุดเดือนรอมฏอน ร้านจะหมุนเวียนไปขายตามตลาดต่างๆ ในจังหวัดสตูล ได้แก่ วันเสาร์-อาทิตย์ที่ตลาดเปิดท้ายดูสน, วันพฤหัสบดีที่ตลาดเปิดท้ายฉลุง, วันอังคาร-ศุกร์ที่ตลาดเกตเวย์, วันจันทร์ที่ตลาดบายพาส และวันพุธที่ตลาดบ้านควน

         ธุรกิจเล็กๆ อย่างน้ำถุงของร้านฟาริสต้าสะท้อนให้เห็นถึงการปรับตัวของผู้ประกอบการในยุคเศรษฐกิจฝืด โดยการมอบสินค้าคุณภาพดีในราคาที่ประหยัด ซึ่งไม่เพียงช่วยให้ผู้บริโภคมีทางเลือกที่จับต้องได้ แต่ยังช่วยให้ธุรกิจอยู่รอดและเติบโตได้อย่างยั่งยืน

……………………………………

อัพเดทล่าสุด

 เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

สตูล- เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

Categories
ข่าวทั่วไป

อบต.กำแพง จัดโครงการรอมฏอนสัมพันธ์ เสริมสร้างความรักและสามัคคี   เปิดพื้นที่แห่งความปรองดอง สานใจในเดือนแห่งความศรัทธา

อบต.กำแพง จัดโครงการรอมฏอนสัมพันธ์ เสริมสร้างความรักและสามัคคี   เปิดพื้นที่แห่งความปรองดอง สานใจในเดือนแห่งความศรัทธา

          วันที่ 5 มี.ค.2568  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ค่ำวานนี้  องค์การบริหารส่วนตำบลกำแพง โดยนางสำลี  ลัคนาวงศ์  นายก อบต.กำแพง  จัดโครงการ “รอมฏอนสัมพันธ์” ประจำปี 2568  มุ่งเน้นการสร้างความเข้าใจและความสามัคคีในชุมชน   ส่งเสริมการถือศีลอดที่ถูกต้องตามหลักศาสนา  สืบสานประเพณีวัฒนธรรมอันดีงาม  เสริมสร้างศีลธรรมอันดีให้กับสังคม

 

          โดยนายธีระพงษ์ คุ่มเคี่ยม นายอำเภอละงู เป็นประธานในพิธีเปิด พร้อมกล่าวในการนี้ว่า เดือนรอมฏอนเป็นช่วงเวลาอันศักดิ์สิทธิ์ที่มุสลิมทุกคนจะได้ขัดเกลาจิตใจ ฝึกความอดทน และละวางสิ่งไม่ดีทั้งปวง  เดือนนี้ไม่เพียงแต่เป็นช่วงเวลาแห่งการอดอาหารเท่านั้น หากแต่ยังเป็นโอกาสในการชำระจิตวิญญาณ เรียนรู้ความอดทน และแบ่งปันความรักให้กับเพื่อนมนุษย์

 

           นายอิสรา ละประเสริฐ รองนายก อบต.กำแพง เปิดเผยว่า มีประชาชนเข้าร่วมโครงการกว่า 500 คน แสดงให้เห็นถึงพลังชุมชนที่เข้มแข็งและความร่วมมือร่วมใจ  บรรยากาศภายในงานเป็นไปอย่างอบอุ่น ผู้ร่วมงานละศิลอดอย่างพร้อมเพรียงกัน  

 

          โครงการรอมฏอนสัมพันธ์ครั้งนี้ได้พิสูจน์ให้เห็นว่า ความแตกต่างไม่ใช่อุปสรรคในการอยู่ร่วมกัน หากแต่เป็นโอกาสในการเรียนรู้และเข้าใจซึ่งกันและกัน

…………………………….

 

อัพเดทล่าสุด

 เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

สตูล- เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

Categories
ข่าวทั่วไป ท่องเที่ยว-กีฬา

สื่อสตูลรวมพลัง จัดกีฬาสร้างสัมพันธ์วันนักข่าว เน้นย้ำจรรยาบรรณวิชาชีพ

สื่อสตูลรวมพลัง จัดกีฬาสร้างสัมพันธ์วันนักข่าว เน้นย้ำจรรยาบรรณวิชาชีพ

         เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 บรรยากาศคึกคักเต็มไปด้วยเสียงเชียร์และรอยยิ้มได้ปกคลุมทั่วสนามหญ้าเทียม สตูลพาวเวอร์สเตเดี้ยม อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ในงานแข่งขันฟุตบอลกระชับมิตรและกีฬามหาสนุก  เนื่องในวันนักข่าวแห่งชาติ  ซึ่งเครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูลจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่

        นายศักระ กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน พร้อมด้วยนายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการคับคั่ง ท่ามกลางสื่อมวลชนและผู้เข้าร่วมงานจำนวนมาก

        จุดเด่นที่สร้างเสียงฮือฮาและรอยยิ้มให้กับงานคือเหตุการณ์ในพิธีเปิด เมื่อผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ได้สลับบทบาทจากผู้ถูกถ่าย มาเป็นผู้กดชัตเตอร์ถ่ายภาพให้กับเหล่าสื่อมวลชน พร้อมกล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า “วันนี้ต้องถ่ายให้นักข่าวบ้าง จากที่ถูกถ่ายมาตลอด” สร้างบรรยากาศแห่งความเป็นกันเองและมิตรภาพอันดีระหว่างผู้บริหารจังหวัดและสื่อมวลชนท้องถิ่น

“กิจกรรมนี้ไม่ใช่แค่การแข่งขันกีฬา แต่เป็นการสร้างพื้นที่แห่งความสัมพันธ์อันดีระหว่างสื่อมวลชนกับทุกภาคส่วนในจังหวัด เพื่อฉลองวันสำคัญของคนข่าวที่จะมาถึงในวันที่ 5 มีนาคมนี้” นางสาวพัชรี เกิดพรม ประธานเครือข่ายผู้ผลิตข่าวสตูล กล่าวถึงแนวคิดการจัดงาน ที่รวมพลังทั้งสื่อโทรทัศน์ สิ่งพิมพ์ วิทยุ และออนไลน์ ในจังหวัดสตูล

         ไฮไลท์ของงานคือการแข่งขันฟุตบอลนัดพิเศษระหว่างทีมสื่อมวลชนและหัวหน้าส่วนราชการ ที่แม้จะเล่นอย่างเข้มข้นแต่เต็มไปด้วยรอยยิ้มและมิตรภาพ นอกจากนี้ยังมีกีฬาพื้นบ้านสุดสนุกอย่าง “ชักเย่อ” ระหว่างทีมผู้ผลิตข่าวกับภาครัฐและเอกชน ซึ่งสร้างเสียงเชียร์และเสียงหัวเราะกึกก้องทั่วสนาม

            ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลกล่าวให้โอวาทและอวยพรแก่นักข่าวทุกท่าน โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการทำงานภายใต้กรอบคุณธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพสื่อมวลชน “ขอให้ทุกท่านประกอบวิชาชีพอย่างถูกต้อง มีจรรยาบรรณ และคำนึงถึงผลประโยชน์ของสังคมเป็นหลัก” ผู้ว่าฯ กล่าวทิ้งท้าย

 

        งานในครั้งนี้นับเป็นกิจกรรมอุ่นเครื่องที่มีความหมาย ก่อนถึงวันนักข่าวแห่งชาติที่จะมาถึงในวันที่ 5 มีนาคม ซึ่งเป็นวันที่สื่อมวลชนทั่วประเทศร่วมรำลึกถึงความสำคัญของวิชาชีพสื่อและความรับผิดชอบต่อสังคม ไม่เพียงสร้างความสนุกสนานและสานสัมพันธ์ แต่ยังตอกย้ำถึงความสำคัญของบทบาทสื่อมวลชนที่มีต่อการพัฒนาจังหวัดสตูลอย่างยั่งยืน​​​​​​​​​​​​​​​​

…………………………

 เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

สตูล- เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป ท่องเที่ยว-กีฬา

สาวงามมิสสตูลร่วมใจ ชวนเที่ยวเมืองประวัติศาสตร์ พหุวัฒนธรรม

สาวงามมิสสตูลร่วมใจ ชวนเที่ยวเมืองประวัติศาสตร์ พหุวัฒนธรรม

ผู้สื่อข่าวรายงานจากจังหวัดสตูลว่า กลุ่มสาวงามผู้เข้าประกวด “มิสสตูล 2025” จำนวน 25 คน ได้ร่วมกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวในงานมหกรรมว่าวประเพณีนานาชาติและว่าวไทย 4 ภาค ครั้งที่ 44 โดยเป็นตัวแทนคนรุ่นใหม่ในการประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวสำคัญของจังหวัด

 

           น้องปีใหม่  หนึ่งในผู้เข้าประกวดเปิดเผยว่า “การได้มาเยี่ยมชมคฤหาสน์กูเด็น ทำให้หนูได้เรียนรู้ประวัติศาสตร์อันทรงคุณค่าของจังหวัดสตูล ซึ่งมีความหลากหลายทางวัฒนธรรมที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว หนูรู้สึกภูมิใจที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งในการเผยแพร่เรื่องราวเหล่านี้ผ่านสื่อสังคมออนไลน์”

 

         ด้านน้องเกรซ  อีกหนึ่งผู้เข้าประกวดกล่าวว่า “ถนนสตรีทอาร์ตในตัวเมืองสตูลสะท้อนให้เห็นถึงความสร้างสรรค์ของศิลปินท้องถิ่น ที่นำเสนอเรื่องราวผ่านภาพวาดสวยงาม เป็นจุดถ่ายภาพที่น่าสนใจสำหรับนักท่องเที่ยวยุคใหม่”

          องค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล ได้จัดให้สาวงามทั้ง 25 คน เยี่ยมชมสถานที่สำคัญหลายแห่ง อาทิ บ่อน้ำพุร้อน จีโอปาร์ค เกตเวย์ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติคฤหาสน์กูเด็น และถนนสตรีทอาร์ต เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในมิติใหม่ผ่านมุมมองของคนรุ่นใหม่ ตอกย้ำภาพลักษณ์เมืองสตูลที่สงบ สะอาด และมีธรรมชาติอันบริสุทธิ์

……………………………………

 เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

สตูล- เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป ท่องเที่ยว-กีฬา

สุดอลังการ! มหกรรมว่าวนานาชาติ สตูล ครั้งที่ 44 ตระการตากับว่าวแปลกตาจาก 44 ประเทศทั่วโลก

สุดอลังการ! มหกรรมว่าวนานาชาติ สตูล ครั้งที่ 44 ตระการตากับว่าวแปลกตาจาก 44 ประเทศทั่วโลก

         เริ่มแล้ว…งานมหกรรมงานว่าวประเพณี ว่าวนานาชาติ และว่าวไทย 4 ภาค ครั้งที่ 44 ระหว่างวันที่ 20-23 ก.พ.2568  ที่มีการจัดขึ้นที่สนามบินชั่วคราวกองทัพอากาศ  ตำบลคลองขุด อำเภอเมือง จังหวัดสตูล  โดยปีนี้มีว่าวแฟนซีจากนานาชาติมาโชว์อวดโฉมให้ผู้ปกครองนำเด็ก ๆ เยาวชน และนักท่องเที่ยว  ได้ตื่นตาตื่นใจกันเต็มท้องฟ้าสตูล  ทั้งว่าวฉลาม ว่าวปลาหมึก ว่าวแมงกะพรุน  ว่าวหัวใจ 

         ปีนี้มีนักแสดงว่าวชาวไทยและชาวต่างชาติ  เข้าร่วมไม่น้อยกว่า 44 ประเทศ 170 คน อาทิ ประเทศจีน มาเลเซีย อินโดนีเซีย  เวียดนาม  เกาหลีใต้  เป็นต้น   พิเศษสุด! ภายในงานยังมีการประกวดแข่งขันว่าว 8 ประเภท ชิงถ้วยพระราชทานจากสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี รวม 4 ถ้วยรางวัลเกียรติยศ

         นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมมากมายให้ร่วมสนุก ทั้งการชมนิทรรศการว่าวไทย 4 ภาค สาธิตการทำว่าวแบบดั้งเดิม ลานไฟเล่นลมสุดโรแมนติก เพลิดเพลินกับเทศกาลอาหารสยามอันดามัน การแสดงศิลปวัฒนธรรม ดนตรี และศิลปิน พร้อมเลือกซื้อสินค้าและผลิตภัณฑ์พื้นเมืองจากร้านค้ามากมาย

 

         มหกรรมว่าวประเพณีและว่าวนานาชาติ จังหวัดสตูล ได้สืบสานวัฒนธรรมอันงดงามนี้มาตั้งแต่ปี 2539 จนถึงปัจจุบัน  โดยองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล  ได้เชิญนายศักระ  กปิลกาญจน์  ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล  เป็นประธานเปิดงานร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน  เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและอนุรักษ์ประเพณีอันดีงามของจังหวัดสตูล

           ขอเชิญชวนนักท่องเที่ยวและผู้สนใจทุกท่าน มาร่วมสัมผัสความมหัศจรรย์ของว่าวหลากสีสันบนท้องฟ้าสตูล ในงานมหกรรมว่าวประเพณีและว่าวนานาชาติ จังหวัดสตูล ครั้งที่ 44 ตั้งแต่วันที่ 20-23 กุมภาพันธ์ 2568 ณ สนามบินกองทัพอากาศจังหวัดสตูล เข้าชมฟรี! ไม่มีค่าใช้จ่าย

 เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

สตูล- เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

ทม.สตูล เดินหน้ารณรงค์ “ตลาดสดปลอดภัย ไร้ควันบุหรี่” หวังสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีเพื่อสุขภาพประชาชน

ทม.สตูล เดินหน้ารณรงค์ “ตลาดสดปลอดภัย ไร้ควันบุหรี่” หวังสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีเพื่อสุขภาพประชาชน

            (20 ก.พ. 68) – เวลา 10.00 น. ณ ตลาดเทศบาลเมืองสตูล นายสมศักดิ์ เหมรา ผู้อำนวยการกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม เทศบาลเมืองสตูล นำทีมเจ้าหน้าที่กองสาธารณสุขฯ พร้อมด้วยภาคีเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง จัดกิจกรรมรณรงค์ “ตลาดสดปลอดภัย ไร้ควันบุหรี่” เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ปลอดควันบุหรี่ ตามพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 และประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดประเภทหรือชื่อของสถานที่สาธารณะ สถานที่ทำงาน และยานพาหนะให้เป็นเขตปลอดบุหรี่ พ.ศ. 2561

 

          นายสมศักดิ์  เปิดเผยว่า กิจกรรมรณรงค์ครั้งนี้มุ่งเน้นการสร้างความตระหนักและให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการและประชาชนผู้ใช้บริการตลาดสด  โดยได้รับความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสตูล คณะกรรมการชุมชน และอาสาสมัครสาธารณสุข (อสม.) ร่วมกันรณรงค์งดสูบบุหรี่ และติดป้ายเตือนห้ามสูบบุหรี่ให้ครอบคลุมพื้นที่ตลาดสด 100%

 

“นโยบายนี้เป็นส่วนหนึ่งของการคุ้มครองผู้บริโภค โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง เช่น ผู้สูงอายุ ผู้มีโรคประจำตัว และเด็ก นอกจากนี้ เทศบาลเมืองสตูลยังได้กำหนดให้อาคารของเทศบาลเป็นเขตปลอดบุหรี่ และขยายมาตรการนี้สู่พื้นที่สาธารณะอย่างตลาดสด โดยใช้ข้อระเบียบและกฎหมายเป็นกรอบในการดำเนินงาน” นายสมศักดิ์กล่าว

 

         ด้านนางไซร่าบานู ทองสุข แม่ค้าขายเนื้อในตลาดเทศบาลเมืองสตูล แสดงความคิดเห็นสนับสนุนโครงการว่า การรณรงค์ครั้งนี้จะช่วยให้ความรู้แก่เยาวชนรุ่นใหม่ที่อาจเข้าใจผิดว่าการสูบบุหรี่ไฟฟ้าเป็นเรื่องทันสมัย ทั้งยังเป็นการสร้างความตระหนักแก่พ่อแม่มือใหม่ถึงอันตรายของควันบุหรี่มือสองที่มีต่อเด็กเล็ก

 

        “ควันบุหรี่ไม่เพียงส่งผลต่อผู้สูบเท่านั้น แต่สารพิษจากควันบุหรี่ยังติดอยู่ตามเสื้อผ้า เมื่อพ่อแม่อุ้มหรือสัมผัสเด็ก อาจทำให้เด็กหายใจลำบากและส่งผลเสียต่อปอด การจะทำให้ตลาดปลอดบุหรี่ได้ต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งผู้ค้าและผู้บริโภค” นางไซร่าบานู กล่าว

 

        ตลาดสดถือเป็นหนึ่งในสถานที่สาธารณะที่กฎหมายกำหนดให้ปลอดจากควันบุหรี่ทุกประเภท ทั้งบุหรี่ธรรมดา บุหรี่ไฟฟ้า และผลิตภัณฑ์ยาสูบจากใบจาก 100% เนื่องจากเป็นศูนย์กลางชุมชนที่มีประชาชนมาจับจ่ายใช้สอยเป็นจำนวนมาก การรณรงค์ครั้งนี้จึงมุ่งหวังให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ดี เพื่อให้ตลาดสดเป็นพื้นที่สะอาด ปลอดภัย และปราศจากควันบุหรี่อย่างแท้จริง โดยอาศัยพลังความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการขับเคลื่อนนโยบายสาธารณสุขที่สำคัญนี้ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม

 

         ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างสภาพแวดล้อมที่ดีในตลาดสด ด้วยการงดสูบบุหรี่ในบริเวณตลาด และช่วยกันสอดส่องดูแลให้พื้นที่ตลาดสดปลอดควันบุหรี่อย่างยั่งยืน เพื่อสุขภาพที่ดีของทุกคนในชุมชน

………………………….

อัพเดทล่าสุด

 เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน

สตูล- เห็ดนางฟ้า…พาเปลี่ยนชีวิต จากครูสู่วิสาหกิจชุมชน บ้านทางยางสตูล สร้างรายได้มั่นคง–แบ่งปันโอกาสให้ชุมชน