Categories
ข่าวทั่วไป

รู้เท่าทันสื่อ ..หากคุณสั่งของมาแล้วไม่ตรงปก…อย่าปล่อยผ่าน! มารู้วิธีเอาคืนแบบผู้รู้ทัน

รู้เท่าทันสื่อ ..หากคุณสั่งของมาแล้วไม่ตรงปก…อย่าปล่อยผ่าน! มารู้วิธีเอาคืนแบบผู้รู้ทัน

“หากเราสั่งของออนไลน์…เปิดกล่องมา ‘โป๊ะ!’ ของไม่ตรงปก!

 

หน้าแตก เสียเงิน เสียอารมณ์… แล้วจะทำยังไง?

👉 คลิปนี้มีคำตอบ ..อย่าปล่อยผ่านเด็ดขาด! เพราะยิ่งเงียบ = มิจฉาชีพยิ่งได้ใจ

 

นี่คือ ‘4 วิธีรับมือ – เอาคืน – ป้องกัน’ แบบคนรู้ทัน 👇

 

1️⃣ แคปรูปสินค้ากับของจริงไว้เป็นหลักฐาน

2️⃣ แจ้งเรื่องผ่านแพลตฟอร์มที่ซื้อ (เลือกซื้อที่มีระบบคืนเงิน)

3️⃣ รีวิวความจริง เตือนผู้บริโภคคนอื่น พร้อมแฮชแท็ก #ของไม่ตรงปก

4️⃣ แจ้งความออนไลน์ได้ ผ่าน www.thaipolice online.com หรือสายด่วน 1441

 

👉 ยิ่งคนร้องเรียนเยอะ ระบบยิ่งจัดการมิจฉาชีพง่ายขึ้น

 

จำไว้! เราอาจเสียเงิน แต่ อย่าเสียสิทธิ์

รวมพลังคนไม่ยอมโดนหลอก แชร์โพสต์นี้…เพื่อหยุดวงจรมิจฉาชีพบนโซเชียล!”

 

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 สตูล..วิถีประมงแปรรูป สร้างอาชีพริมคลองเจ๊ะบิลัง “ปลาเส้นแคลเซียมสูง” เสริมรายได้จากเรือเล็กสู่ครัวเรือน

สตูล..วิถีประมงแปรรูป สร้างอาชีพริมคลองเจ๊ะบิลัง “ปลาเส้นแคลเซียมสูง” เสริมรายได้จากเรือเล็กสู่ครัวเรือน

สตูล – ใต้ชายคาบ้านไม้ริมน้ำในชุมชนชาวประมงเล็ก ๆ หมู่ 2 ตำบลเจ๊ะบิลัง อำเภอเมืองสตูล เสียงทอดปลาแห้งดังกรอบเบาๆ เคล้าไปกับกลิ่นหอมของแดดทะเล กลายเป็นบรรยากาศอบอุ่นของครัวเรือนที่เปลี่ยนปลาท้องถิ่น ให้กลายเป็น “ปลาเส้นแคลเซียมสูง” อาหารพื้นถิ่นที่กำลังกลายเป็นรายได้หลักให้ครอบครัว

 

นางสุนิตา เรืองเดช วัย 42 ปี คือหนึ่งในคนต้นแบบของการแปรรูปอาหารจากวิถีประมงพื้นบ้าน เธอเริ่มแปรรูปปลามานานกว่า 6 ปีแล้ว   โดยใช้ปลาโคก หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า “ปลาบาสี” ซึ่งหาได้ง่ายจากเรือประมงพื้นบ้านที่ออกหาปลาในคลองใกล้บ้าน

 

“ปลาชนิดนี้มีเกล็ดเยอะ ขนาดเล็ก คนทั่วไปไม่ค่อยเอาไปทำอะไร แต่เรามองว่ามีคุณค่า จึงแปรรูปเป็นปลาแห้ง แล้วมาตัดซอยเป็นเส้น บางคนนำไปย่าง บางคนชอบทอดกรอบ ทานกับข้าวต้ม หรือจะเอาไปยำมะม่วงก็อร่อยค่ะ” สุนิตาเล่าอย่างภูมิใจ

 ปลาบาสี   หลังแปรรูปแล้ว มีรสชาติกลมกล่อม เคี้ยวง่าย ถูกใจทุกกลุ่มวัย และที่สำคัญคืออุดมด้วยแคลเซียมสูง โดยเฉพาะกลุ่มคนตั้งครรภ์ที่ต้องการสารอาหารบำรุงกระดูก ซึ่งสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้นานนับเดือน จึงกลายเป็นของฝากจากสตูล  ที่ลูกค้าต่างจังหวัดนิยมสั่งซื้อผ่าน   เพจ “ปลาเส้นแคลเซียมเจ๊ะบิลัง”  ออเดอร์ต่อเดือนรับได้ครั้งละ 30-50 กิโลกรัมเลยทีเดียว

 

นอกจากปลาเส้นแล้ว เธอยังคิดต่อยอดด้วยการทำปลาผ่าหลัง และวางแผนพัฒนาเป็นปลาหวาน หรือ “ปลากลม” ในอนาคต ขึ้นอยู่กับชนิดปลาที่ได้มาในแต่ละวัน

วิถีชุมชนของที่นี่แตกต่างจากเมืองใหญ่ ด้านหลังบ้านของชาวประมงทุกหลัง  จะติดคลองน้ำเค็มที่ไหลสู่ทะเล เปิดโอกาสให้เรือประมงลำเล็กออกหาวัตถุดิบสดใหม่ได้ทุกเช้า   สุนิตาบอกว่า สามีของเธอก็ทำอาชีพขับเรือนำเที่ยวในต่างจังหวัด ช่วงที่ว่างจากงาน เธอก็ใช้เวลาที่บ้าน  ทำปลาเส้น ควบคู่กับการเลี้ยงลูก และมีลูก ๆมาช่วยแปรรูปในครัวเรือนอีกแรง

แม้ขั้นตอนการทำจะยุ่งยาก ต้องล้าง ขูดเกล็ด ตากแดด ตัดเป็นเส้น และควบคุมความแห้งให้พอดี แต่เธอบอกว่า คุ้มค่าทุกหยาดเหงื่อ เพราะสามารถสร้างรายได้เดือนละหลายพันบาทถึงหลักหมื่น โดยไม่ต้องออกไปทำงานนอกบ้าน

 

 “เราไม่ได้ทำโรงงานใหญ่ ทำแค่ในครัวหลังบ้าน แต่ก็มีคนติดใจจนสั่งซ้ำ ช่วยแบ่งเบาค่าใช้จ่ายในครอบครัว และเรายังได้ดูแลลูกไปด้วยค่ะ”

 

ปลาเส้นแคลเซียมสูงจากเจ๊ะบิลัง จึงไม่ใช่แค่ของกินพื้นบ้าน แต่เป็นเครื่องมือสำคัญ  ที่สร้างรายได้จากวิถีชีวิตเล็กๆ ในครัวเรือนชาวประมง   และเป็นตัวอย่างของการ “กินอยู่กับธรรมชาติ” อย่างยั่งยืน   ที่น่าเอาเป็นแบบอย่างในยุคเศรษฐกิจปัจจุบัน

……

 

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

เฟคนิวส์ที่คนไทยถูกหลอกมากที่สุด! อย่าแชร์ ถ้ายังไม่แน่ใจ

เฟคนิวส์ที่คนไทยถูกหลอกมากที่สุด!  

อย่าแชร์ ถ้ายังไม่แน่ใจ

5 ประเภทเฟคนิวส์ที่แพร่หนักในไทย

  1. 🩺 ข่าวสุขภาพปลอม

“น้ำสมุนไพรรักษามะเร็งได้!” หรือ “ฉีดวัคซีนแล้วเสียชีวิต”

หลอกง่าย เพราะคนกลัวโรค และอยากได้ทางลัดรักษา

  1. 💸 ข่าวหลอกลงทุน / เงินด่วน

“กู้ฟรีไม่มีดอก!” หรือ “ลงทุน 1,000 ได้คืน 10,000”

ใช้ชื่อหน่วยงาน-ดาราดังปลอม หลอกคนกำลังลำบาก

  1. 🗳️ ข่าวการเมืองบิดเบือน

“ฝ่ายตรงข้ามโกงอีกแล้ว!” หรือ “คลิปนี้พูดแรงมาก!”

กระตุ้นอารมณ์ สร้างความเกลียดชัง แบ่งฝักฝ่าย

  1. 🌟 ข่าวปลอมเกี่ยวกับดารา คนดัง

“เสียชีวิตแล้ว!” “ท้องกับ…” “เลิกกันจริงเหรอ?”

คนชอบเสพดราม่า แชร์ก่อนอ่านจริง

  1. 🌪️ ข่าวภัยพิบัติ-ฉุกเฉินปลอม

“แผ่นดินไหวครั้งใหญ่คืนนี้” “น้ำท่วมตายยกหมู่บ้าน”

สร้างความตื่นกลัวจากข่าวปลอม ภาพเก่า คลิปบิดเบือน

________________________________________

🤔 ทำไมคนไทยถึงหลงเชื่อ?

  • เพราะข่าวพวกนี้ “โดนใจ-น่าตกใจ-เหมือนจริง”
  • แชร์จากเพื่อน/ญาติ ทำให้ดูน่าเชื่อ
  • ขาดทักษะตรวจสอบข่าว (Media Literacy)

________________________________________

วิธีรับมือเฟคนิวส์

  1. 🔍 อย่าเพิ่งแชร์! ตรวจสอบแหล่งข่าวก่อน
  2. 📌 เช็กกับเว็บจริง เช่น ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม www.antifakenewscenter.com
  3. 🧠 ใช้สติ อย่าใช้อารมณ์
  4. 📱 รู้เท่าทันสื่อ อย่าเชื่อข่าวที่ “ดีเกินจริง-ร้ายเกินไป”

________________________________________

📢 แชร์ความรู้ ดีกว่าแชร์ข่าวปลอม

หยุดวงจรเฟคนิวส์ เริ่มที่คุณวันนี้!

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 สตูล  เกษตรกรหัวใจนักสู้! เปลี่ยนทลายปาล์มเหลือใช้ สู่เห็ดฟางคุณภาพ  ส่งขายตลาด-โรงพยาบาล สร้างรายได้มั่นคง พร้อมต่อยอดแปรรูปครบวงจร

สตูล  เกษตรกรหัวใจนักสู้! เปลี่ยนทลายปาล์มเหลือใช้ สู่เห็ดฟางคุณภาพ  ส่งขายตลาด-โรงพยาบาล สร้างรายได้มั่นคง พร้อมต่อยอดแปรรูปครบวงจร

สตูล – จากสวนยางว่างเปล่า สู่ฟาร์มเห็ดฟางรายได้ดี “สุริยา อาดำ” หนุ่มวัย 38 ปี ชาวบ้านลูโบ๊ะบาตู หมู่ 1 ตำบลบ้านควน อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ไม่ยอมจำนนต่อเศรษฐกิจที่ผันผวน ต่อยอดจากอาชีพหลักอย่างการกรีดยาง ด้วยการนำ “ทลายปาล์มเหลือใช้” มาแปรรูปเป็นแหล่งเพาะเห็ดฟาง สร้างรายได้เสริมมั่นคงให้กับครอบครัวตลอดทั้งปี

แรงบันดาลใจของเขาเริ่มจาก “การไม่อยู่นิ่ง” เปิดรับความรู้จากทุกช่องทาง ทั้งยูทูป เฟซบุ๊ก และที่สำคัญคือการลงพื้นที่เรียนรู้จริงกับสำนักงานเกษตรอำเภอเมืองสตูล จนสามารถพลิกสวนผสมและสวนยางที่เคยรกร้าง มาเป็นฟาร์มเพาะเห็ดระบบปิดถึง 5 โรงเรือน สร้างรายได้อย่างยั่งยืน

เคล็ดลับอยู่ที่ “ทลายปาล์ม” เศษเหลือจากโรงงานสกัดน้ำมันปาล์มที่คนทั่วไปมองข้าม แต่สำหรับสุริยา นี่คือขุมทรัพย์ทางการเกษตร เขานำทลายปาล์มผ่านกระบวนการหมักด้วย EM และปูนขาว  จนเกิดความร้อน-กลิ่นหอม พร้อมเป็นวัสดุเพาะเห็ดคุณภาพดี แล้วจึงนำเข้าฟาร์มระบบปิด ควบคุมอุณหภูมิและความชื้นอย่างมีประสิทธิภาพ

“เริ่มจาก 0 ไม่ได้เรียนจบเกษตร แต่ใจมันสู้ และผมเชื่อในพลังของการเรียนรู้” สุริยาเล่าด้วยรอยยิ้ม เขายังเปิดเผยว่า   ตอนนี้เริ่มเข้าสู่ปีที่ 5 ของการเพาะเห็ด และยื่นขอการรับรองมาตรฐาน GAP มาแล้ว 4 ปี เพื่อยืนยันคุณภาพเห็ดฟางให้เป็นที่ยอมรับของตลาด

เห็ดฟางของสุริยา ขายดีทั้งในตลาดสด โรงพยาบาล และห้างสรรพสินค้าในสตูล ราคากิโลกรัมละ 80 บาท วันละไม่ต่ำกว่า 10-30 กิโลกรัม และมีแผนจะขยายโรงเรือนเพิ่มในอนาคต

ด้าน นายวรนิตย์ นิลวัตร นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร จากสำนักงานเกษตรอำเภอเมืองสตูล กล่าวชื่นชมว่า “สุริยาเป็นตัวอย่างของเกษตรกรยุคใหม่ที่ไม่หยุดพัฒนาตนเอง และเปิดรับเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทางเกษตรฯ จึงเข้ามาสนับสนุนในด้านการป้องกันโรคในเห็ด และร่วมส่งเสริมการแปรรูปเห็ด เช่น เห็ดย่างซอสหม่าล่า เพิ่มมูลค่าและช่องทางตลาดที่ทันสมัย”

อนาคตของสุริยาไม่หยุดแค่เห็ดสด เขากำลังวางแผนต่อยอดด้วยการทำ “เห็ดฟางกระป๋อง” และขยายฟาร์มให้ได้ผลผลิตมากขึ้น โดยย้ำว่า “เกษตรไทยไปได้ไกล ถ้าเราไม่หยุดเรียนรู้” สนใจโทร. 089-4635075

 

แรงบันดาลใจจากสวนเล็กๆ ที่สตูลวันนี้ อาจกลายเป็นโมเดลเกษตรสร้างรายได้ของคนทั้งประเทศในวันหน้า

………………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 อาหารโบราณราคาหลัก10 “ปัสมอส”  สลัดแขกสูตรโบราณ ขายดีสวนกระแสเศรษฐกิจฝืด

อาหารโบราณราคาหลัก10 “ปัสมอส”  สลัดแขกสูตรโบราณ ขายดีสวนกระแสเศรษฐกิจฝืด

สตูล – แม่ค้าชาวบ้านเกตรี สืบสานสูตรอาหารโบราณ “ปัสมอส” หรือสลัดแขก รสชาติดั้งเดิมที่เด็กทานง่าย ผู้ใหญ่ทานดี ขายในราคาเพียงถุงละ 10 บาท หวังให้คนในชุมชนได้อิ่มท้อง   โดยไม่ลำบากกระเป๋าสตางค์ในยุคเศรษฐกิจฝืดเคือง

 

นางสาวยามิตา หมาดมานัง อายุ 42 ปี ชาวบ้านเกตรี อำเภอเมืองสตูล เปิดเผยว่า ตนทำปัสมอสขายมาตั้งแต่วัยเด็ก เพราะเคยช่วยน้าขายตามตลาด จนซึมซับสูตรโบราณติดตัวมานานหลายสิบปี

 

 “หัวใจสำคัญของปัสมอสคือน้ำราด ต้องใช้ถั่วลิสงคั่วตำใหม่ๆ  เคี่ยวไม่ให้นาน  เพราะจะแตกเป็นน้ำกะทิ ต้องมีรสหอมมัน เค็มหวานกลมกล่อม” นางสาวยามิตากล่าว

 

ปัสมอสสูตรดั้งเดิมของร้าน ประกอบด้วย หมี่ลวกหรือหมี่เหลือง แตงกวาซอย กุ้งผสมแป้งทอดกรอบ และไข่ต้มแบ่งสี่ส่วน ราดน้ำถั่วเข้มข้น ใส่ถุงละ 10 บาทเท่านั้น โดยมีลูกค้านำไปเติมพริก มะนาว หรือเนื้อไก่ตามชอบ

 

 “สมัยก่อนขายถุงละ 5 บาท พอของแพงขึ้นก็ขยับเป็น 10 บาท แต่ยังขายในราคานี้ เพราะอยากให้ครอบครัวใหญ่ที่มีลูกหลายคนได้ทานอิ่มทุกคน วันดีๆ เคยขายได้วันละ 150–200 ถุง บางวันตลาดเงียบก็ยังต้องสู้ต่อไป” แม่ค้ากล่าว

 

นอกจากนี้ หากลูกค้าต้องการจัดชุดใหญ่เพิ่มไก่ทอดหรือกุ้งทอด ทางร้านก็สามารถทำได้ในราคาชุดละ 30 บาท แต่ต้องโทรสั่งล่วงหน้า

แม่ค้ารายหนึ่งซึ่งเป็นลูกค้าประจำกล่าวว่า “ราคาแค่สิบบาท แต่อิ่มอร่อยเกินคุ้ม น้ำราดเข้มข้นไม่เหมือนใคร ทุกครั้งที่มาซื้อ จะรู้สึกดีใจที่ยังมีอาหารราคานี้ให้คนธรรมดาได้ทาน”

 

ผู้สนใจสามารถติดต่อสั่งซื้อหรือสอบถามได้ที่ โทร. 087-391  5501 (นางสาวยามิตา หมาดมานัง)

ตารางขายปัสมอส ตลาดชุมชนสตูล มีดังนี้

วันจันทร์และศุกร์ : ตลาดเช้า หัวสะพานเกตรี

วันพุธและเสาร์ : ตลาดเย็น บ้านดุ

วันพฤหัสบดี : ตลาดเช้า กาเนะ

วันอาทิตย์ : ตลาดเย็น ซอยเอวหัก คลองขุด

ลูกค้าที่ต้องการนั่งรับประทานที่ร้านก็สามารถใช้บริการ

 

“ปัสมอส” สลัดแขกโบราณถุงละสิบบาท จึงไม่เพียงเป็นอาหารอิ่มท้อง แต่ยังเป็นรสชาติของความทรงจำ และความเอื้ออาทรในยุคข้าวยากหมากแพง

………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

อบต.ฉลุง  จัดใหญ่งานเทศกาลอาหารฮาลาลตำบลฉลุง ครั้งที่ 1 ส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวให้เป็นที่รู้จักสู่สากล

อบต.ฉลุง  จัดใหญ่งานเทศกาลอาหารฮาลาลตำบลฉลุง ครั้งที่ 1 ส่งเสริมและกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวให้เป็นที่รู้จักสู่สากล

         ที่บริเวณสระใหญ่ หลังที่ทำการองค์การบริหารส่วนตำบลฉลุง อ.เมืองสตูล จ.สตูล นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานเปิดงานเทศกาลอาหารฮาลาลตำบลฉลุง ครั้งที่ 1 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2568 โดยมี นายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล นายพิบูลย์ รัชกิจประการ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสตูล เขต 1  หัวหน้าส่วนราชการ ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น และประชาชนเข้าร่วมงานจำนวนมาก

.

             โดยภายในงานประกอบด้วย การจำหน่ายสินค้าฮาลาลกว่า 100 ร้าน การจัดนิทรรศการจากหน่วยงานต่าง ๆ และออกบูทเพื่อสาธิตและชิมสินค้าขนมพื้นบ้าน ในพื้นที่จำนวน 14 หมู่บ้าน การแข่งขันการทำอาหาร(ข้าวเหนียวแกงแพะ) และยังมี การแสดงกิจกรรมต่างๆ บนเวทีตลอดทั้งการจัดงาน นอกจากนี้ยังได้มีโอกาสต้อนรับพี่น้องจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซียในการมาร่วมงานในครั้งนี้ด้วย

.

 

             งานเทศกาลอาหารฮาลาลตำบลฉลุง ประจำปี 2568 จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 27-29 มิถุนายน 2568 มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวของตำบลฉลุงหวัดสตูลให้เป็นที่รู้จักของนักท่องเที่ยวและประชาชนทั่วไปอย่างแพร่หลาย เพื่อส่งเสริมให้มีกิจกรรมจำหน่ายอาหารฮาลาลและอาหารพื้นเมืองที่สะอาด ปลอดภัย เพื่อเป็นภาพลักษณ์ แก่นักท่องเที่ยว สร้างความเชื่อมั่นในการกระตุ้นเศรษฐกิจของเมือง สามารถสร้างงานสร้างรายได้ให้กับประชาชนจากการจำหน่ายอาหารและสินค้าพื้นเมือง ทั้งยังเป็นการส่งเสริมการมีส่วนร่วมและสร้างเครือข่ายภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน ในกิจกรรมการท่องเที่ยวพื้นที่จังหวัดสตูลอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนอีกด้วย

………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 สมูทตี้จำปาดะ เมนูชวนลิ้มลอง ที่สวนจูหอดตัวอย่างเกษตรกรต้นแบบ บ้านโคกมุดพัฒนา สวนจำปาดะพันธุ์ดี กำลังผลิดอกออกผล พร้อมเดินหน้าสู่พืช GI เมืองสตูล

สมูทตี้จำปาดะ เมนูชวนลิ้มลอง ที่สวนจูหอดตัวอย่างเกษตรกรต้นแบบ บ้านโคกมุดพัฒนา สวนจำปาดะพันธุ์ดี กำลังผลิดอกออกผล พร้อมเดินหน้าสู่พืช GI เมืองสตูล

         บ้านสวนจูหอด ม.6 บ้านโคกมุดพัฒนา ตำบลเกตรี (อ่านว่า  เกด-ตรี)  อำเภอเมือง จังหวัดสตูล พื้นที่ 6 ไร่ของ “นายหอด แดสา” วัย 74 ปี กำลังกลายเป็นความหวังของชุมชนและวงการเกษตรในพื้นที่ เมื่อสวนผสมของเขาซึ่งประกอบด้วย จำปาดะพันธุ์ทองเกษตร ขวัญสตูล และไร้เมล็ด กว่า 160 ต้น เริ่มให้ผลผลิตอย่างต่อเนื่อง เตรียมพร้อมเข้าสู่กระบวนการขึ้นทะเบียนพืชเศรษฐกิจ GI (Geographical Indication) หรือสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของจังหวัดสตูล

          นายหอด  เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า  สวนแห่งนี้แต่เดิมเคยเป็นสวนยางพารา ก่อนจะตัดสินใจโค่นยางเมื่อราว 4 ปีก่อน เพื่อเปลี่ยนมาเป็นสวนผสมโดยปลูกพืชหมุนเวียนหลากหลายทั้งทุเรียนหมอนทอง 140 ต้น จำปาดะ 160 ต้น รวมถึงอ้อย กระเจี๊ยบ และพืชผักฤดูกาล เช่น แตงกวา ที่สามารถเก็บเกี่ยวขายได้วันละ 600-800 บาทในช่วงฤดูกาล

          “ปีที่แล้วจำปาดะ 5 ต้นให้ผลผลิตรวม 35 ลูก ปีนี้นับเฉพาะต้นเดียวได้ถึง 50 ลูกแล้ว” เขากล่าวด้วยรอยยิ้ม

          จำปาดะจากสวนจูหอดมี 3 สายพันธุ์หลัก ได้แก่  พันธุ์ขวัญสตูล เนื้อหนา กลิ่นหอมเฉพาะ  พันธุ์ทองเกษตร สีเหลืองสวย หวานละมุน  พันธุ์ไร้เมล็ด หายาก นิยมนำมาทอดหรือแปรรูป

          นางสาวนิลุบล เชื้อศรีชัย เจ้าหน้าที่เกษตรตำบลเกตรี สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองสตูล ให้ข้อมูลว่า นายหอดเป็นหนึ่งในเกษตรกรรายใหญ่ที่สุดของอำเภอเมืองสตูลที่มีการปลูกจำปาดะมากที่สุด  ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างการเตรียมเอกสารขอขึ้นทะเบียน GI ผลไม้ประจำถิ่น  อำเภอเมืองสตูล  เพื่อยกระดับผลิตผลให้มีมูลค่าเพิ่มในตลาดระดับประเทศ โดยก่อนหน้านี้สวนได้รับการรับรองมาตรฐาน GAP แล้ว

          ทางเกษตรตำบลยังได้แนะนำการแปรรูปจำปาดะเพื่อเพิ่มมูลค่า เช่น การทำ “สมูทตี้จำปาดะ”  ซึ่งให้รสชาติคล้ายไอศกรีม เมื่อผ่านการแช่แข็ง เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของผู้บริโภครุ่นใหม่ และช่วยเพิ่มรายได้ให้เกษตรกรในท้องถิ่น

          นายการียา  เดชสมัน  ผู้ใหญ่บ้าน ม.6 บ้านโคกมุดพัฒนา กล่าวย้ำว่า นายหอด  คือเกษตรกรต้นแบบของชุมชน ด้วยความขยัน อดทน และมีการบริหารจัดการสวนผสมอย่างเป็นระบบ จนกลายเป็นแหล่งเรียนรู้ให้แก่ชาวบ้าน พร้อมเผยแผนต่อไปคือการรณรงค์ให้ชาวบ้านปลูกจำปาดะเพิ่มมากขึ้น เพื่อเป็น “พืชเศรษฐกิจประจำถิ่น” และสร้างรายได้อย่างยั่งยืน

          สำหรับผู้ที่สนใจผลผลิตจำปาดะแท้จากสวนจูหอด สามารถติดต่อได้ที่  หมาดกอเฉ็ม ลูกชายของนายหอด โทร. 085-117-4338  หรือสอบถามเพิ่มเติมที่ เกษตรอำเภอเมืองสตูล

          จำปาดะเป็นผลไม้เนื้อสีเหลือง มีรสหวาน กลิ่นหอมเฉพาะตัว คล้ายขนุนผสมกับทุเรียน นิยมนำมาทานสด ทอด หรือแปรรูปเป็นขนมและเครื่องดื่ม เป็นอีกหนึ่งอัตลักษณ์ที่สะท้อนความอุดมสมบูรณ์ของจังหวัดชายแดนภาคใต้แห่งนี้  “การเกษตรไม่ใช่แค่เพาะปลูก แต่คือการเพาะความหวังให้แก่ชุมชน”

……………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 “พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค สตูล

“พริกเดือยไก่ปลายสวน” ปลูกไว้ได้ลูกจบรับราชการ  อดีตสาวร้านเครื่องสำอางจับมือคู่ชีวิต ลุยเกษตรอินทรีย์ สร้างรายได้มั่นคงที่บ้านนาแค สตูล

สตูล – จากพนักงานขายเครื่องสำอางในห้างฯ เมื่อสิบปีก่อน “นางนุชติยา ใจดี” หรือ “พี่นุช” วัย 50 ปี และสามี ได้ร่วมกันพลิกชีวิตด้วยสองมือและแรงใจ กลับคืนถิ่นบ้านเกิด ณ บ้านนาแค หมู่ 5 ตำบลคลองขุด อำเภอเมือง จังหวัดสตูล เปลี่ยนพื้นที่สวนยาง 3 ไร่ครึ่งให้กลายเป็นแหล่งผลิตพืชอินทรีย์และพลังชีวิตที่หล่อเลี้ยงครอบครัวมาอย่างมั่นคง

 

ชีวิตหลังแต่งงานทำให้พี่นุชเริ่มมองหาสิ่งที่มั่นคงกว่าเงินเดือน เขาและสามีจึงตัดสินใจหันหลังให้ชีวิตในเมือง หยิบจอบจับเสียม เรียนรู้เกษตรผสมผสานจากศูนย์ฝึกในชุมชนและจากประสบการณ์จริง จนสามารถออกแบบพื้นที่สวนได้อย่างลงตัว

 

ในสวนนี้ มีทั้งยางพาราอ่อนที่กำลังเติบโต พริกเดือยไก่ครึ่งไร่ ข้าวโพดครึ่งไร่ โหระพา แมงลัก และไผ่หวานกินชุง พร้อมแนวคิดอินทรีย์เต็มรูปแบบ ใช้น้ำหมักจากปลากับเศษกุ้ง ตามทฤษฎีนากุ้ง ไม่มีเคมี ไม่มีหนี้

 

“เราช่วยกันปลูก ช่วยกันเก็บ ตื่นเช้ามาด้วยกัน เหนื่อยด้วยกัน มันอาจไม่หวือหวา แต่เรามีอิสระ มีความสุข และที่สำคัญ เราเลี้ยงลูกจนเรียนจบกฎหมาย ทำงานรับราชการได้ด้วยผักพื้นบ้านพวกนี้” พี่นุชเล่าพลางยิ้ม

พริกเดือยไก่ที่ปลูกปีละครั้ง เก็บได้เกือบ 2 ตันต่อรอบ ราคาขายส่งอยู่ที่ราว 100 บาท ปลีก 150 บาท หากช่วงราคาดี เคยแตะถึง 220 บาทต่อกิโล รายได้เสริมมาจากหน่อไม้หวาน โหระพา แมงลัก ซึ่งลูกค้าหลักเป็นทั้งชาวบ้านและผู้สั่งซื้อออนไลน์ผ่าน Facebook “นุชติยา ใจดี”

 

ความได้เปรียบอีกอย่างของสวนนี้คือ ตั้งอยู่ใกล้แนวสันเขาการาคีรี พื้นที่อุดมสมบูรณ์ พืชผักเติบโตดีโดยไม่ต้องพึ่งสารเคมี ช่วยลดต้นทุนและปลอดภัยทั้งคนกินและคนปลูก

 

พี่นุชและสามีเป็นอีกหนึ่งตัวอย่างของ “คู่ชีวิตนักสู้” ที่ไม่ยอมแพ้ต่อวิถีเมืองใหญ่ กลับมาสร้างรากฐานจากผืนดินบ้านเกิด จนกลายเป็นครอบครัวเกษตรกรที่มั่นคง

 

“เราสองคนไม่เคยคิดจะรวย แต่อยากอยู่แบบไม่ลำบาก อยากให้ลูกเห็นว่าพ่อแม่ใช้แรงตัวเองเลี้ยงเขามา ทุกหยดเหงื่อมีคุณค่า” พี่นุชกล่าวทิ้งท้าย

 

หากคุณกำลังท้อแท้ อยากเริ่มต้นใหม่ หรือยังไม่รู้ว่าความสุขอยู่ที่ไหน ลองกลับมามองดินที่ปลายเท้า แล้วคุณอาจพบคำตอบเหมือน “สองคนสามีภรรยา” คู่นี้

สนใจพริกพื้นบ้าน ผักอินทรีย์ หรือต้องการคำแนะนำด้านเกษตรผสมผสาน  ติดต่อ: นางนุชติยา ใจดี โทร. 084-858-4060   Facebook: นุชติยา ใจดี

         

พริกเดือยไก่ เป็นพริกพันธุ์พื้นบ้าน มีคุณลักษณะพิเศษคือ. เม็ดยาวพอประมาณ รสชาติเผ็ดร้อน และมีความหอม จึงเหมาะกับการทำเป็นเครื่องแกง

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 จากครูวิทย์…สู่เจ้าของสวนหมอนทอง!  “ภณ ลิ่มพรเจริญ” พลิกชีวิต ล้มสวนยาง ปั้นสวนทุเรียนคุณภาพแห่งสตูล พร้อมเปิดฤดูกาล 18 มิ.ย.นี้

จากครูวิทย์…สู่เจ้าของสวนหมอนทอง!  “ภณ ลิ่มพรเจริญ” พลิกชีวิต ล้มสวนยาง ปั้นสวนทุเรียนคุณภาพแห่งสตูล พร้อมเปิดฤดูกาล 18 มิ.ย.นี้

         ที่ 272 หมู่ 2 ต.ควนกาหลง อ.ควนกาหลง จ.สตูล มีชายคนหนึ่งที่กล้าฝัน และลงมือทำจริงจัง — นายภณ ลิ่มพรเจริญ วัย 52 ปี อดีตคุณครูวิทยาศาสตร์ที่ตัดสินใจครั้งสำคัญในชีวิต ล้มสวนยางเก่าบนพื้นที่ 6 ไร่ของตัวเอง เพื่อเริ่มต้นใหม่กับ “ทุเรียนหมอนทองคุณภาพสูง”

 

         “จากการสอนในห้องเรียน ผมหันมาศึกษาวิชาชีวิตนอกตำรา ใช้ประสบการณ์+ความอดทน พัฒนาสวนเองทุกขั้นตอน” นายภณเล่าด้วยแววตามุ่งมั่น

 

          เขาเลือกปลูก “หมอนทองจันทบุรี” ซึ่งใช้เวลากว่า 8 ปีในการพัฒนาสวน ผลผลิตเพิ่มขึ้นทุกปี — ปีแรก 500 ลูกปีที่สอง 1,000 ลูก  ปีล่าสุดคาดทะลุ 1,500 ลูก!

           ความยากไม่ได้อยู่แค่การปลูก…แต่อยู่ที่การดูแล!  “ปลูกทุเรียนไม่ง่ายอย่างที่คิด ต้องแต่งกิ่ง คุมยอดอ่อน และรับมือศัตรูพืชเพียบ”  ทั้ง เพลี้ยไฟ เพลี้ยไก่แจ้ ไรแดง ฯลฯ  นายภณ ลงมือกำจัดศัตรูพืชเองทุกครั้ง เพื่อให้ได้ผลผลิตที่ปลอดภัยและได้คุณภาพ

 

           จุดเด่นของสวนคือ  เนื้อแน่น เปลือกบาง กลิ่นหอมหวานมัน รสชาติกลมกล่อม จนลูกค้าประจำบอกว่า “กินแล้วหยุดไม่ได้ ต้องสั่งทุกปี!”

 

         สวนจำหน่ายทั้ง ขายปลีก-ส่ง และเปิดให้ สั่งจองล่วงหน้า ผ่าน   Facebook: Phon Limproncharoen   โทร: 065-995-1915   รับประกันคุณภาพ : หากลูกค้าพบเนื้อไม่สมบูรณ์ เคลมได้ทันที เพียงถ่ายวิดีโอส่งกลับมายืนยัน

          ฤดูกาลใหม่เริ่ม 18 มิถุนายน 2568 นี้!  ใครที่ยังไม่เคยลองทุเรียนคุณภาพจากควนกาหลง…ปีนี้อย่าพลาด

…………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

ควันที่หอม…แต่แฝงด้วยพิษร้าย ทำร้ายร่างกายเด็กและเยาวชน

ควันที่หอม…แต่แฝงด้วยพิษร้าย ทำร้ายร่างกายเด็กและเยาวชน

ควันที่หอม…แต่แฝงด้วยพิษร้าย ทำร้ายร่างกายเด็กและเยาวชน

 

“ดูดแล้วเท่ ดูดแล้วสบาย” คำชวนเชื่อที่พาเด็กหลงทางโดยไม่รู้ตัว

 

ในยุคที่กลิ่นหอมหวานจาก “บุหรี่ไฟฟ้า” กลายเป็นแฟชั่นในหมู่เยาวชน หลายคนไม่รู้ว่าเบื้องหลังควันนุ่ม ๆ กลับซ่อน “สารพิษกว่า 200 ชนิด” ที่ทำลายร่างกายอย่างช้า ๆ ตั้งแต่นิโคตินที่เสพติดง่าย ไปจนถึงโลหะหนักที่กระทบสมอง ปอด และหัวใจของเด็กที่ยังเติบโตไม่เต็มที่

 

เด็กและเยาวชนจำนวนมากถูกหลอกด้วยรูปลักษณ์ล้ำสมัย กลิ่นผลไม้ กลิ่นขนม หรือแม้แต่ชื่อแบรนด์ที่ฟังดูไร้พิษภัย แต่ในความเป็นจริง บุหรี่ไฟฟ้าเป็นประตูสู่การเสพติดสารนิโคติน และในหลายกรณียังพ่วงมาด้วยสารเสพติดชนิดอื่นแบบไม่รู้ตัว

 

**อันตรายของควันหอมนี้ไม่ได้หยุดแค่ในตัวผู้สูบ**

แต่ยังลามไปถึงคนรอบข้างผ่านควันมือสองและมือสาม โดยเฉพาะเด็กเล็กที่รับผลกระทบทางเดินหายใจโดยตรง

### แล้วจะป้องกันตัวเองได้อย่างไร?

 

✅ **อย่าอยากลองเพราะเพื่อนชวน** – การปฏิเสธด้วยเหตุผลชัดเจน เช่น “มันไม่ดีต่อสุขภาพ” จะทำให้เพื่อนยอมรับได้มากกว่าการพูดว่า “ไม่เอา ไม่อยาก”

✅ **รู้เท่าทันโฆษณา** – ไม่เชื่อคำชวนเชื่อในโซเชียลที่พยายามทำให้บุหรี่ไฟฟ้าดูปลอดภัย

✅ **เลือกคบเพื่อนที่เสริมพลังบวก** – เพื่อนที่ไม่ชักชวนไปในทางเสี่ยง เป็นเกราะป้องกันที่ดีที่สุด

✅ **เข้าร่วมกิจกรรมสร้างสรรค์** – กีฬา ดนตรี หรือกิจกรรมจิตอาสา ช่วยเบี่ยงเบนความสนใจจากสิ่งเสพติด

✅ **หากเริ่มใช้แล้ว อย่าลังเลที่จะขอความช่วยเหลือ** – โทรปรึกษาสายด่วนเลิกบุหรี่ 1600 ฟรี!

 

**บุหรี่ไฟฟ้าอาจดูทันสมัย แต่พิษภัยของมันย้อนยุคถึงอายุขัยเราทุกคน**

เด็กและเยาวชนควรได้รับการปกป้อง ไม่ใช่ถูกทดสอบด้วยควันอันตรายที่ไม่มีวันหอมจริง

…………………………………………

อัพเดทล่าสุด