Categories
ข่าวเด่น

สตูล เปิดปฏิบัติการกวาดล้างแหล่งมั่วสุมยาเสพติด – จับกุมวัยรุ่นนักเสพ พร้อมเผาทำลายแหล่งมั่วสุม ใช้เสพยาให้สิ้นซาก

สตูล เปิดปฏิบัติการกวาดล้างแหล่งมั่วสุมยาเสพติด – จับกุมวัยรุ่นนักเสพ พร้อมเผาทำลายแหล่งมั่วสุม ใช้เสพยาให้สิ้นซาก

         หน่วยปฏิบัติการป้องกันยาเสพติดอำเภอควนโดน จังหวัดสตูล นำโดยว่าที่พันตรียุทธนา เจ้าดูรี ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอำเภอควนโดน ได้ดำเนินการบูรณาการกำลังร่วมกับหน่วยทหาร เพื่อสกัดกั้นปัญหายาเสพติดในพื้นที่ ได้เข้าตรวจสอบพื้นที่ตามข่าวกรอง  บริเวณสวนยางพารา หมู่ที่ 3 ตำบลวังประจัน  อ.ควนโดน  จ.สตูล  หลังพบเบาะแสการมั่วสุมของกลุ่มวัยรุ่น โดยมีสมาชิก อส.อ.ควนโดน และเจ้าหน้าที่ทหาร (หมวดปืนเล็กที่ 1 ) มว.ปล.ที่1 ร้อย ร.5021 ร่วมปฏิบัติภารกิจ

 

        เมื่อเข้าถึงพื้นที่ พบกลุ่มวัยรุ่นประมาณ 4-5 คน กำลังดื่มน้ำกระท่อมบริเวณขนำ ซึ่งเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ได้พยายามหลบหนี แต่เจ้าหน้าที่สามารถจับกุมได้ 2 ราย

           การตรวจค้นในครั้งนี้ แม้ไม่พบยาเสพติดหรือสิ่งผิดกฎหมาย แต่การตรวจปัสสาวะพบว่า  ทั้งสองรายมีสารเมทแอมเฟตามีนในร่างกาย และได้รับการส่งตัวเข้าบำบัดที่โรงพยาบาลควนโดน  ตามมาตรา 114  จากนั้นเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันรื้อและทำลายขนำที่ใช้เป็นแหล่งมั่วสุมเสพยา  ของวัยรุ่นนักเสพในพื้นที่ให้สิ้นซาก

 

           การปฏิบัติการครั้งนี้เป็นส่วนหนึ่ง  ของความพยายามในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด  ตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล โดยมุ่งเน้นการดูแล  และช่วยเหลือเยาวชนให้ห่างไกลยาเสพติด

…………………………………………………….

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ข่าวเด่น

ผบ.เรือนจำสตูล นำผู้ต้องขังชั้นดี ออกฟื้นฟูสถานการณ์หลังน้ำท่วม พร้อมแจกจ่ายถุงยังชีพช่วยเหลือชาวบ้าน 100 ชุด

ผบ.เรือนจำสตูล นำผู้ต้องขังชั้นดี ออกฟื้นฟูสถานการณฺน้ำท่วม เก็บกวาดล้างดินโคลนตามท้องถนนในหมู่บ้านพื้นที่น้ำท่วม พร้อมแจกจ่ายถุงยังชีพช่วยเหลือชาวบ้าน 100 ชุด

         (วันที่ 3 ธันวาคม 2567)  สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสตูลนั้นได้คลี่คลายแล้ว เหลือเพียงร่องรอยซากดินโคลนที่เปรอะเปื้อนตามท้องถนน สร้างปัญหาในการเดินทางสัญจรไปมา เพราะเศษขยะที่ลอยมากับสายน้ำยังคงติดค้างอยู่ตามไหล่ทาง  ทั้งนี้นายพีรพล น่วมศรี  ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสตูล พร้อมเจ้าหน้าที่เรือนจำสตูล ได้นำผู้ต้องขังในกลุ่มชั้นดี  10 คน พร้อมกับผู้คุมและเจ้าหน้าที่เรือนจำสตูล ลงพื้นที่หมู่ที่ 5 บ้านโต๊ะยูด๊ะ  ตำบลฉลุง อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ซึ่งเป็นจุดที่น้ำได้เข้าท่วมหนักที่สุดในพื้นที่ของตำบลฉลุง ผู้ต้องขังชั้นดี  10 คน ได้เข้าเก็บกวาดขยะ ดินโคลน และ อบต.ฉลุงได้นำรถดับเพลิงฉีดน้ำแรง เพื่อล้างทำความสะอาด ฟื้นฟูหลังน้ำท่วม  พร้อมกับได้นำน้ำดื่ม และถุงยังชีพที่มี ข้าวสาร ยารักษาโรค บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ปลากระป๋อง ขนมปัง 100 ชุด ลงไปแจกจ่ายผู้ให้ผู้ประสบภัยอีกด้วย

           นายพีรพล น่วมศรี  ผู้บัญชาการเรือนจำจังหวัดสตูล  กล่าวว่า  ได้ลงพื้นที่มาสนับสนุนช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมในพื้นที่ตำบลฉลุง แม้ว่าในพื้นที่น้ำจะลดระดับและบางพื้นที่ก็แห้งแล้วก็ตาม แต่ก็จะเดินหน้าช่วยเหลือบรรเทาภัยความเดือดร้อนให้กับพี่น้องประชาชน  และในโอกาสนี้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รวมทั้งกรมราชทัณฑ์  ก็มีห่วงใยและขอส่งกำลังใจให้พี่น้องประชาชนชาวใต้ที่กำลังประสบอุทกภัยน้ำท่วมในขณะนี้ รัฐบาลจะเร่งให้ความช่วยเหลือประชาชนอย่างรวดเร็ว  เพื่อลดความสูญเสียให้เกิดน้อยที่สุด และทาง เรือนจำสตูล พร้อมที่จะสนับสนุนช่วยเหลือพี่น้องชาวใต้”

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ข่าวเด่น

น้ำท่วมสตูล! ทัพภาค 4 ระดมพลช่วยฉุกเฉินสู้วิกฤต กู้ภัยครอบคลุม 5 อำเภอ

น้ำท่วมสตูล! ทัพภาค 4 ระดมพลช่วยฉุกเฉินสู้วิกฤต กู้ภัยครอบคลุม 5 อำเภอ

          วันที่ 30 พ.ย. 67 พันเอกชัยวุฒิ  พรมทอง ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 5  นำกำลังพลทหาร ลงพื้นที่ประจำการจุด ณ ที่เกิดอุทกภัย ซึ่งได้จัดกำลังพล  เข้าช่วยเหลือประชาชน ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในพื้นที่ ต.ปาล์มพัฒนา อ.มะนัง จ.สตูล และได้ดำเนินการดำเนินการลงพื้นที่ช่วยประชาชนในพื้นที่ตรวจสอบระดับน้ำ พร้อมทั้งเข้าแจกจ่ายน้ำดื่มแก่ชาวบ้าน ที่เดือดร้อน และติดตามสถานการณ์อุทกภัยในท้องที่  อำเภอมะนัง จังหวัดสตูลในจุดอื่นๆ  และสำรวจพื้นที่ครัวเรือนที่ได้รับความเสียหายในเบื้องต้น

         พันเอกชัยวุฒิ  พรมทอง ผู้บังคับกองพันทหารราบที่ 2 กรมทหารราบที่ 5   กล่าวว่า ทางท่านพลโท ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ได้สั่งการให้หน่วยทหารในทุกพื้นที่ ที่มีเหตุประสบอุทกภัยได้ลงพื้นที่ช่วยพี่น้องประชาชนอย่างเร่งด่วน ฝากเน้นย้ำกำลังพลทหาร อย่าท้อแท้ เห็นความเดือดร้อนของชาวบ้านเป็นที่ตั้ง ต้องช่วยเหลืออย่างทันท่วงที และฝากให้กำลังใจ กำลังผลทหารทุกนาย ดูแลตนเอง หากเหนื่อย พัก กินข้าวอาหารให้อิ่ม แล้วลุยช่วยเหลือต่อ

           สำหรับสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดสตูล  โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอควนโดน และอำเภอเมืองสตูล มวลน้ำลดระดับลง บางจุดแห้ง ชาวบ้านยังไม่มั่นใจในสภาพอากาศและติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด และในพื้นที่ อำเภอมะนัง และอำเภอละงู ระดับน้ำที่ไหลมาจากเทือกเขาบรรทัด เขตรอยต่อจากพัทลุง ระดับที่เข้าท่วมในบางตำบล เช่น ตำบลปาล์มพัฒนา และ ตำบลน้ำผุด ระดับน้ำยังไหลเข้าท่วม

 

          ส่วนภาพรวมน้ำท่วมแล้ว 5 อำเภอได้แก่ ได้แก่ อำเภอเมืองสตูล อำเภอควนโดน อำเภอท่าแพ อำเภอมะนัง  และ อำเภอละงู  9 ตำบล  42 หมู่บ้าน 2,584  ครัวเรือน 2,796 คน ( และอยู่ในระหว่างสำรวจเพิ่มเติม )

 

          ส่วนพื้นที่ประกาศเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย/เขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน อุทกภัย ในพื้นที่จังหวัดสตูล ตั้งแต่วันที่ 27 – 28 พฤศจิกายน 2567 จำนวน 4 อำเภอ 8 ตำบล 40 หมู่บ้าน และ.แนวโน้มสถานการณ์ต่อไป ยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ ทั้งนี้หน่วยได้ติดตามสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง 

……………………………………………………………………

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ข่าวเด่น

วิกฤตน้ำท่วมสตูล เพิ่มเป็น 5 อำเภอแล้ว   ขณะที่จังหวัดประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติ 4  อำเภอเบื้องต้น เด็ก ๆ ดีใจกินหมี่ผัดกลางน้ำหลังตำรวจลุยน้ำไปแจก

วิกฤตน้ำท่วมสตูล เพิ่มเป็น 5 อำเภอแล้ว   ขณะที่จังหวัดประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติ 4  อำเภอเบื้องต้น เด็ก ๆ ดีใจกินหมี่ผัดกลางน้ำหลังตำรวจลุยน้ำไปแจก

           ที่จ.สตูล ขณะที่จังหวัดได้ประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติเบื้องต้น  4  อำเภอ ได้แก่อำเภอควนโดน อำเภอท่าแพ อำเภอเมืองและอำเภอมะนัง  8 ตำบล 40 หมู่บ้าน ประกาศเป็นพื้นที่ประสบภัยพิบัติและเป็นเขตให้ความช่วยเหลือกรณีฉุกเฉิน

           ล่าสุดขณะนี้สถานการณ์น้ำท่วมได้กระจายวงกว้างเพิ่มแล้วเป็นอำเภอที่ 5  ได้แก่ อ.ควนโดน อ.ท่าแพ อ.เมือง อ.มะนัง และล่าสุด  อ.ละงู   มวลน้ำจำนวนมากจากเขาบรรทัด ถ้ำเจ็ดคต ได้ไหลทะลักล้นคลองลำโลน  เข้าท่วมชาวบ้านในพื้นที่บ้านวังนาใน ตำบลน้ำผุด อำเภอละงู  ซึ่งเป็นแนวเขตป่าต้นน้ำ  จากความเร็วและความแรงของกระแสน้ำ   ส่งผลให้กระจายวงกว้างอย่างรวดเร็ว

          ล่าสุด  ทหารชุดร.5 พัน.2 จัดกำลังพล  เข้าช่วยเหลือประชาชน ผู้ประสบภัยน้ำท่วม ในพื้นที่ ต.น้ำผุด อ.ละงู จ.สตูล  ดำเนินการลงพื้นที่ช่วยประชาชนในพื้นที่ตรวจสอบระดับน้ำ  พร้อมทั้งเข้าช่วยเหลือประชาชนโดยการเคลื่อนย้ายประชาชนออกจากพื้นที่น้ำท่วม   และติดตามสถานการณ์อุทกภัย อำเภอละงู จังหวัดสตูล และสำรวจพื้นที่ครัวเรือนที่ได้รับความเสียหาย   แนวโน้มสถานการณ์ ยังมีฝนตกอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ ทั้งนี้หน่วยได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

        ขณะที่วันนี้ทางอบต.ฉลุงพร้อมกลุ่มแม่บ้าน และทางพ.ต.อ.บุญเลิศ  ตรัสศิริ  ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรฉลุง  พร้อมด้วยทาง พ.ต.ท.เกษม พูลสวัสดิ์ สารวัตรอำนวยการ สถานีตำรวจภูธรฉลุง พร้อมตำรวจจิตอาสาสภ.ฉลุง สนับสนุนเงินส่วนตัวผัดหมี่กะทิ บรรจุใส่กล่อง 100 กว่ากล่อง ให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจิตอาสาพระราชทาน ลุยน้ำไหลแรงไปตามหมู่บ้านในพื้นที่สามแยกกุบังจามัง นำไปมอบให้ชาวบ้าน และเด็ก ๆ ที่บ้านเรือนถูกน้ำท่วม  สร้างความดีใจให้ผู้ปกครอง โดยเฉพาะเด็ก  ๆ ที่ไม่สามารถออกไปหาขนมกินในยามสถานการณ์น้ำท่วมได้ 

………………………………………

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ข่าวเด่น

สตูลเร่งรับมือน้ำท่วม! รองผู้ว่าฯ นำทัพหน่วยงานลุยตรวจพื้นที่ เคลียร์ทางน้ำ ช่วยเหลือประชาชน ทหารนำหมอดูแลผู้ป่วยติดเตียง

สตูลเร่งรับมือน้ำท่วม! รองผู้ว่าฯ นำทัพหน่วยงานลุยตรวจพื้นที่ เคลียร์ทางน้ำ ช่วยเหลือประชาชน ทหารนำหมอดูแลผู้ป่วยติดเตียง

           วันที่ 28 พ.ย.67 ที่จังหวัดสตูลสถานการณ์ น้ำป่าไหลหลาก ได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ตั้งแต่เมื่อวานนี้ จนถึงขณะนี้มีรายงาน กระแสน้ำกระจายวงกว้างแล้ว 3 อำเภอ ได้แก่อำเภอควนโดน อำเภอท่าแพ และอำเภอเมืองสตูล

 

           ล่าสุดกระแสน้ำจำนวนมากได้ไหลผ่านทำให้มีการปิดถนนสายเอเชีย เส้น ตำบลฉลุง มุ่งหน้าไปอำเภอละงู ระยะทางประมาณ 1 กิโลเมตร ทำให้ต้องมีการปิดช่องจราจร ขาเข้า 1 ช่อง ส่งผลให้การสัญจรไปมาไม่คล่องตัว

 

          ขณะที่ย่านเศรษฐกิจเขตเทศบาลตำบลฉลุง  มวลน้ำได้ไหลทะลักเข้าท่วม ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมาทำให้มีการปิดเส้นทางสัญจรภายใน ย่านตลาดส่งผลให้พ่อค้าแม่ค้าต้องนำสินค้ามาวางขาย ด้านหน้าทางเข้าตัวตลาดแทน

 

        ฝนที่ตกหนักและกระจายในระยะนี้ ทำให้ทางจังหวัดสตูลได้มีการประกาศเตือน สาธารณภัย วันที่ 27 ไปจนถึงวันที่ 4 ธันวาคม 2567

 

          นายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง อาทิโครงการชลประทานจังหวัดสตูล  ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสตูล  ที่ว่าการอำเภอเมืองสตูล   เกษตรจังหวัดสตูล ตำรวจ สภ.ฉลุง. ทหาร  ผู้นำท้องที่ท้องถิ่นและนายพิบูลย์  รัชกิจประการ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดสตูล เขต 1 ได้ลงตรวจพื้นที่สภาพน้ำในลำคลองสายสำคัญ ซึ่งเป็นจุดรับน้ำ พร้อมเร่งประสาน ให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล นำเครื่องจักรกลขนาดใหญ่ มาเคลียร์สิ่งกีดขวางทางน้ำออก เพื่อให้การไหลของน้ำได้สะดวก รวดเร็วยิ่งขึ้น

 

           ด้าน เรือโท สุโภชน์ ทองย้อย รองผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยานรักษาฝั่งที่ 452  ทัพเรือภาคที่ 3 นำแพทย์ทหาร ตรวจเยี่ยมผู้ป่วยติดเตียงที่อยู่ในพื้นที่ประสบภัยน้ำท่วม ในตำบลฉลุง  อำเภอเมืองสตูล  เพื่อสร้างขวัญกำลังใจและ ให้คำแนะนำในการดูแลสุขภาพในช่วงสถานการณ์ภัยพิบัติทางน้ำ

…………

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ข่าวเด่น

ทัพเรือภาคที่ 3 เร่งช่วยเหลือชาวสตูล หลังน้ำป่าท่วมบ้านเรือน คลองควนโดนเอ่อล้น ถนนถูกน้ำตัดขาด

ทัพเรือภาคที่ 3 เร่งช่วยเหลือชาวสตูล หลังน้ำป่าท่วมบ้านเรือน คลองควนโดนเอ่อล้น ถนนถูกน้ำตัดขาด

         วันที่ 27 พ.ย.2567 เรือโทสุโภชน์ ทองย้อย รองผู้บังคับหน่วยปฏิบัติการต่อสู้อากาศยานและรักษาฝั่งที่ 452 ทัพเรือภาคที่ 3 นำกำลังทหารเข้าช่วยเหลือเคลื่อนย้ายสิ่งของขึ้นบนที่สูง ให้กับชาวบ้านพื้นที่หมู่ที่ 7 ตำบลย่านซื่อ. อำเภอควนโดน. จังหวัดสตูล เพื่อหนีน้ำ  หลังเกิดฝนตกต่อเนื่องตลอดทั้งวันที่ผ่านมา. พร้อมกระจายกำลังเข้าช่วยเหลือตามที่ชาวบ้านร้องขอ

 

         โดยสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสตูลขณะนี้ ระดับน้ำได้เอ่อล้นขึ้นจากคลองควนโดนเข้าท่วมหลายหมู่บ้าน ของอำเภอควนโดน ส่งผลให้บ้านเรือนที่อาศัยติดริมคลอง ถนนหนทาง ถูกตัดขาด บางจุดมีระดับน้ำท่วมสูงถึงหัวเข่า

 

        ชาวบ้านที่อาศัยริมคลองควนโดน อ.ควนโดน ยอมรับว่า ปริมาณน้ำครั้งนี้มาเร็วและมีปริมาณมาก หลังทราบข่าวจากกลุ่มไลน์ในหมู่บ้านก็รีบกลับมาดูบ้านเรือนของตัวเอง  พร้อมเตรียมเคลื่อนย้ายสิ่งของไว้บนที่สูง ซึ่งก็ไม่มั่นใจว่าปีนี้น้ำจะเยอะกว่าครั้งที่ผ่านมาหรือไม่ เนื่องจากฝนยังคง มีตกอย่างต่อเนื่อง

          ด้านโรงเรียนบ้านปันจอร์  อำเภอควนโดน ได้รีบแจ้งให้ผู้ปกครอง รีบมารับบุตรหลานกลับบ้านในช่วงบ่ายวันนี้ หลังพบว่าปริมาณน้ำในลำคลองใกล้โรงเรียนและบ้านเรือนของผู้ปกครองหลายพื้นที่น้ำท่วมขัง

 

          ระดับน้ำที่กระจายวงกว้างเริ่มไหลลงสู่ด้านล่าง อย่างรวดเร็ว ทำให้องค์การบริหารส่วนตําบนฉลุงอำเภอเมืองสตูล ให้ชุดเคลื่อนที่เร็วกระจายเสียง ประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านเร่งเก็บของขึ้น ที่สูงเพื่อหนีน้ำ โดยเฉพาะชาวบ้านที่อาศัยอยู่ติดริมคลองพื้นที่ลุ่มต่ำ โดยขณะนี้มีการติดธงแดงเตือนภัย น้ำป่าที่ไหลหลาก ในขณะนี้แล้ว

 

          โดยอุตุนิยมวิทยายังคงประกาศเตือนเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมขังและน้ำป่าไหลหลากไปวันนี้ไปจนถึงวันที่ 30 พฤศจิกายนนี้ โดยชาวบ้าน พื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมขัง และพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซากให้เตรียมความพร้อมในการรับสถานการณ์

………………………………..

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ข่าวเด่น

สตูล-จิตอาสากู้ภัยภาคใต้เตรียมพร้อมรับมือ  ทบทวนเสริมความรู้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย  น้ำท่วมและน้ำป่า  ภายใต้หลักสูตร Swift Water and Flood Rescue ยกระดับการกู้ภัยสู่มาตรฐานสากล

สตูล-จิตอาสากู้ภัยภาคใต้เตรียมพร้อมรับมือ  ทบทวนเสริมความรู้การช่วยเหลือผู้ประสบภัย  น้ำท่วมและน้ำป่า  ภายใต้หลักสูตร Swift Water and Flood Rescue ยกระดับการกู้ภัยสู่มาตรฐานสากล

           จังหวัดสตูล – วันนี้สำนักงานป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสตูลได้แจ้งเตือนภัยเฝ้าระวังสถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก  น้ำท่วมขัง  ดินถล่ม   ระหว่างวันที่ 20 – 26  พฤศจิกายน 2567  โดยปริมาณน้ำฝนวันนี้เยอะสุดที่อำเภอท่าแพ 16.6  ลูกบาศก์เมตร รองลงมาคือที่อำเภอควนกาหลง 8.4  ลูกบาศก์เมตรปริมาณน้ำในคลองดุสน เพิ่มขึ้นเล็กน้อย   ขณะที่คลองละงูปริมาณน้ำลดลง

 

         ขณะที่คลองฉลุง ตำบลฉลุง อำเภอเมือง จังหวัดสตูล  ขณะนี้ปริมาณน้ำในคลองกำลังไหลเชี่ยวปริมาณน้ำไม่สูงมากนัก   โดยวันนี้เป็นอีกหนึ่งภารกิจที่กลุ่มจิตอาสากู้ภัยจากภาคใต้ตอนล่างรวมตัวฝึกซ้อมรับมือสถานการณ์น้ำป่าไหลหลากและน้ำไหลเชี่ยวกราด ในหลักสูตร Swift Water and Flood Rescue เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำ

 

        นายสาโรจน์ ศรีน้อย จากมูลนิธิกู้ภัยร่มไทรสตูล เปิดเผยว่า การฝึกอบรมครั้งนี้จัดขึ้นเป็นรุ่นที่ 3 มีผู้เข้าร่วมจาก 5 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส และกระบี่ โดยใช้เวลาฝึก 3 วัน เน้นการเรียนรู้เทคนิคการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำโดยเฉพาะ เพื่อรองรับสถานการณ์น้ำท่วมที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปีในพื้นที่ภาคใต้ตอนล่าง

 

         “การฝึกอบรมจัดขึ้นทุก 1-2 ปี เพื่อเตรียมความพร้อมและสร้างความปลอดภัยให้ผู้ปฏิบัติงาน เจ้าหน้าที่กู้ภัยจำเป็นต้องเรียนรู้หลักสูตรการช่วยเหลือที่ถูกต้องตามมาตรฐาน เพื่อลดความสูญเสียและเพิ่มประสิทธิภาพในการช่วยเหลือผู้ประสบภัย” นายสาโรจน์กล่าว

           ด้านนายนฤภัทร วัฒนกุล ประธานชมรมตอบโต้ภัยพิบัติ RRVT อธิบายว่า หลักสูตรกู้ภัยประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่ การกู้ภัยทางน้ำ กู้ภัยในที่สูง และกู้ภัยทางทะเล โดยใช้หลักสูตรมาตรฐานสากลที่ปรับให้เหมาะสมกับบริบทประเทศไทย มีการจัดอบรมไม่เกิน 6 รุ่นต่อปี โดยมีศูนย์กลางการฝึกอยู่ที่จังหวัดนครนายก  และจะทำการฝึกให้กับอาสากู้ภัยในพื้นที่ที่ต้องการความรู้เพิ่มเติม ใน รูปแบบของการเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัย ที่มีเทคนิค มากขึ้น  การที่ทุกพื้นที่มีความรู้เบื้องต้นจะทำให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้รับความช่วยเหลือ รวดเร็วยิ่งขึ้น

……………………………………

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ข่าวเด่น

ตำรวจสตูลรวบแล้วหัวขโมยลูกมะพร้าว 10 ลูก  ฉกไปพร้อมไข่ไก่ นมและข้าวราดแกง แม่ค้าเจ้าทุกข์ไม่แจ้งเอาความแต่ขอให้สาบานสัญญาว่าจะไม่ไปทำกับใครอีก!

ตำรวจสตูลรวบแล้วหัวขโมยลูกมะพร้าว 10 ลูก  ฉกไปพร้อมไข่ไก่ นมและข้าวราดแกง แม่ค้าเจ้าทุกข์ไม่แจ้งเอาความแต่ขอให้สาบานสัญญาว่าจะไม่ไปทำกับใครอีก!

         วันที่ 21 พฤศจิกายน 2567   ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  ภาพนาทีที่ตำรวจชุด สภ.เมืองสตูลเข้าจับหัวขโมยพร้อมของกลางลูกมะพร้าวจำนวน 10 ลูก เมื่อวานนี้ เวลาประมาณ 21.30 น. พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ ปรากฎชื่อ  ผกก.สภ.เมืองสตูล   มอบหมายให้พ.ต.ท.สำเร็จ  ใจเอื้อ  รอง ผกก.สส.ฯ พ.ต.ท.เฉลิมรัฐ แก้วเนียม  สว.สส.ฯ  สั่งการให้ ร.ต.อ.ฮาซัน แหละหมัน  รอง สว.สส.ฯ  ร.ต.อ.รัฐศักดิ์ จีนหวั่น  รอง สว.สส.ฯ พร้อมชุดสืบสวน ร่วมกับ ชปข.ร้อย ตชด.436, เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองจังหวัดสตูล

         สืบสวนและจับกุมผู้ก่อเหตุขโมยมะพร้าวของแม่ค้าขายกะทิสดหายไปจำนวน 10 ลูก และยังหยิบไข่ไก่จำนวน 15 ฟองในตู้เย็นไปพร้อมกับยาคูลย์ 6 ขวด และตักข้าวพร้อมราดแกงไปอีกจานใหญ่  โดยกล้องวงจรปิดของแม่ค้าขายกะทิสดจับภาพไว้ได้คาหนังคาเขา

          แม้แม่ค้าขายกะทิสดจะไม่แจ้งความดำเนินคดี  เมื่อตำรวจทราบเรื่องได้ให้ชุดสืบสวนติดตามจับกุม   หนุ่มเร่รอนดังกล่าวไว้ได้ซึ่งอาศัยอยู่ใกล้กับจุดก่อเหตุ  คือที่ที่บริเวณสี่แยกคอกเป็ด ถ.สถิตยุติธรรม ต.พิมาน อ.เมือง จ.สตูล 

          ทราบภายหลังว่า  ชื่อว่าเป็นนายอาทิตย์ หรือดี้ อายุ 36 ปี  ได้ก่อเหตุลักทรัพย์ขโมยมะพร้าว ที่ร้านขายกะทิสดสี่แยกเจ๊ะบิลัง ต.พิมาน อ.เมืองสตูล เมื่อคืนวันที่ 16 พ.ย.67 เวลาประมาณ 23.30 น.

          แม้แม่ค้ากะทิสดผู้เสียหาย   ไม่ประสงค์จะแจ้งความดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุดังกล่าว  เพียงแค่ต้องการให้มาขอโทษและสัญญาสาบานต่อหน้าเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าจะไม่ลักทรัพย์ของผู้ใดอีก

          หลังได้ตัวและของกลางเป็นมะพร้าวแล้วจำนวน 10 ลูก ตำรวจได้เชิญผู้เสียหายมารับทราบยัง  สภ.เมืองสตูล พร้อมให้ผู้ก่อเหตุ  คืนมะพร้าวให้แก่ผู้เสียหายและได้รับปากว่าจะไม่กระทำความผิดลักทรัพย์อีก

          แต่ทางเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนฯ ได้ถ่ายรูปจัดทำประวัติและดำเนินการตามกฎหมาย  จึงทำได้ว่ากล่าวตักเตือน และติดต่อญาติให้ทราบช่วยดูแลพฤติกรรมไม่ให้ไปก่อเหตุที่ไหนอีก  นอกจากนี้ผู้ก่อเหตุยังพบประวัติเป็นบุคคลไม่สมประกอบทางด้านสมองอีกด้วย 

…………………………………………………………………

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ข่าวเด่น

สตูลไขน็อตปัญหาโจรกรรมหม้อแปลง และอุปกรณ์ไฟฟ้าส่องสว่าง  พุ่งเป้าร้านรับซื้อของเก่าพบผิดยึดใบอนุญาตทันที

สตูลไขน็อตปัญหาโจรกรรมหม้อแปลง และอุปกรณ์ไฟฟ้าส่องสว่าง  พุ่งเป้าร้านรับซื้อของเก่าพบผิดยึดใบอนุญาตทันที

         ที่ห้องประชุมแขวงทางหลวงสตูล ชั้น 3 นางสาวดุษฎี  พฤกษเศรษฐ  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล  เป็นประธานในการประชุมเพื่อบูรณาการร่วมกันในการแก้ไขปัญหาการโจรกรรมทรัพย์สินในเขตทางหลวง โดยมีนายณรงค์ศักดิ์ นันทคำภิรา ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสตูล พร้อมผู้อำนวยการทางหลวงชนบทสตูล และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมโดยพร้อมเพรียงกัน

 

        ด้วยที่ผ่านมา แขวงทางหลวงสตูล และแขวงทางหลวงชนบทสตูล ได้ประสบกับปัญหาทรัพย์สินในเขตทางหลวงถูกโจรกรรม ซึ่งสินทรัพย์ส่วนใหญ่ที่ถูกโจรกรรมเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า สายไฟ หม้อแปลงไฟฟ้า ป้ายจราจร และอุปกรณ์อำนวยความปลอดภัยต่าง ๆ และยังมีแนวโน้มที่สูงขึ้นอีกในอนาคต โดยพื้นที่ที่ทรัพย์สินถูกโจรกรรมของแขวงทางหลวงสตูลอยู่ในท้องที่ ตำบลบ้านควน ตำบลควนโพธิ์ ตำบลควนขัน ตำบลคลองขุด ตำบลตำมะลัง ตำบลทุ่งนุ้ย และพื้นที่ที่ทรัพย์สินถูกโจรกรรมของแขวงทางหลวงชนบทสตูล อยู่ในท้องที่ ตำบลตันหยงโป ตำบลคลองขุด ตำบลฉลุง และตำบลละงู ซึ่งแต่ละปีส่งผลให้ภาครัฐต้องสูญเสียงบประมาณในจัดซื้อ จัดหา มาติดตั้งทดแทน อีกทั้งยังมีผลกระทบต่อความปลอดภัย และอาจทำให้เกิด อุบัติเหตุเป็นอันตรายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนผู้ใช้เส้นทางได้

 

         จากนั้น  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล และนายณรงค์ศักดิ์ นันทคำภิรา ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสตูล ได้ลงพื้นที่ที่ทรัพย์สินถูกโจรกรรมของแขวงทางหลวงชนบทสตูลบริเวณตำบลตำมะลัง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการโจรกรรมทรัพย์สินในเขตทางหลวง

 

         ชาวบ้านผู้ใช้เส้นทาง  บอกว่า  ผู้ใช้เส้นทางรายหนึ่งบอกว่าทุกครั้งที่ไฟดับยอมรับว่ามีความหวาดกลัวมากเนื่องจากไม่รู้เลยว่า 2 ข้างทางมีอะไรอยู่ ยิ่งเป็นผู้หญิงแบบเราขี่รถไปทำงานในตัวเมืองและเปลี่ยนกะเข้าทำงานกลางคืน ทั้งเส้นทางมืดหมดเลยทำให้น่ากลัวเป็นอย่างมาก  เมื่อรู้ว่าเส้นทางที่ใช้อยู่เป็นประจำได้มีการซ่อมแซมและเร่งติดตั้งไฟให้ส่องสว่างกลับมาเหมือนเดิมส่วนตัวรู้สึกอบอุ่นใจ มองเห็นข้างทางได้ชัดเจนยิ่งขึ้นว่ามีอะไรอยู่ระหว่างทางทำให้ขับขี่ได้อย่างสบายใจ มากยิ่งขึ้นขอขอบคุณหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ช่วยแก้ปัญหาให้กับชาวบ้าน

         นางสาวดุษฎี  พฤกษเศรษฐ  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล  กล่าวว่า  แนวทางการแก้ปัญหาคือการบูรณาการร่วมกันทุกฝ่ายทั้งตำรวจฝ่ายปกครองท้องถิ่นแล้วเจ้าของสวนราชการเองที่เป็นเจ้าของทรัพย์สิน โดยอันดับแรกของการแก้ปัญหาอยากให้มีการตรวจสอบร้านค้าของเก่าก่อนเป็นอันดับแรก เพื่อป้องปรามเพราะเห็นว่าสถานที่ดังกล่าวมีความสำคัญที่จะช่วยแก้ปัญหา  แม้ดูเหมือนจะเป็นปลายเหตุแต่หากไม่มีคนรับซื้อ ทำให้ปัจจัยการก่อเหตุน้อยลง

 

          ส่วนการติดกล้อง CCTV จะมีปัจจัยเรื่องงบประมาณเข้ามาเกี่ยวข้อง องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นอยากให้มีการบูรณาการร่วมกับฝ่ายความมั่นคง ในการติดตั้งกล้องในพื้นที่เสี่ยง โดยมีเจ้าของพื้นที่อย่างทางหลวงชนบทและแขวงทางหลวงให้มีอนุญาตด้วย

 

          การขโมยทรัพย์สินของทางราชการไม่ได้เป็นเพียงแค่ทำลายทรัพย์สินนั้นๆ  มันมี มูลค่าทางเศรษฐกิจ จังหวัดสตูลเป็นจังหวัดท่องเที่ยวการดูแลทรัพย์สินเป็นสิ่งสำคัญ  ที่ทางจังหวัดคำนึงถึง รวมทั้งความปลอดภัยด้านอุบัติเหตุ เราก็ให้ความสำคัญอยากจะขอความร่วมมือ ช่วยสอดส่องตรวจตราดูทรัพย์สินของทางราชการ  ที่มีผลต่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของท่าน

 

          นายณรงค์ศักดิ์ นันทคำภิรา ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงสตูล กล่าวว่า  ตั้งแต่ปี 2564-2567 ได้เก็บข้อมูลความเสียหายของทรัพย์สินภาพรวมพบว่าอยู่ที่ 1,500,000 บาท  ซึ่งปัจจุบันแขวงทางสตูลได้ดูแลทางหลวงจังหวัดสตูลตรังและสงขลา    แนวทางการแก้ปัญหาอันดับแรกคือการแจ้งผู้ประกอบการที่รับซื้อของเก่า ให้ทราบถึงโทษและรูปแบบของทรัพย์สินของทางราชการ ที่ผู้โจรกรรมจะนำไปขายเพื่อให้ทราบชัดเจนว่าหากท่านรับซื้อจะผิดกฎหมายรับซื้อของหลวง

 

         ในส่วนการนำนวัตกรรมมาใช้ในการป้องปรามได้มีการหารือกับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เนื่องจากหม้อแปลงไฟฟ้ามีราคาสูงถึง 200,000 กว่าบาท ปัจจุบันทางการไฟฟ้าได้มีการใช้นวัตกรรมใหม่ในเรื่องของน็อตที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นมาจากหม้อแปลงเดิมอีก 3,000 กว่าบาท โดยในปี 2569 เราจะนำนวัตกรรมนี้มาใช้เพื่อป้องกันการโจรกรรมทรัพย์สินของทางราชการโดยการขโมยหม้อแปลงไฟฟ้า   ในส่วนพื้นที่ที่ถูกโจรกรรมหม้อแปลงไฟฟ้าและอุปกรณ์โดยเฉพาะในพื้นที่ตำบลตำมะลังระยะทางกว่า 5 กิโลเมตรขณะนี้ทางแขวงทางหลวงสตูลได้แก้ปัญหาจนสามารถเปิดจ่ายไฟให้กับผู้ใช้เส้นทางได้แล้ว 100%   พร้อมฝากประชาชนที่พบเห็นผู้ที่ส่อเจตนาในการที่จะขโมยทรัพย์สินของทางราชการ  ให้แจ้งทางแขวง 1586 หรือทาง facebook แขวงทางหลวงสตูลกรมทางหลวง

…………………………….

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ข่าวเด่น

คืบหน้า..ตำรวจทางหลวงชะอำสกัดจับ พ่อกับปู่  สองผู้ต้องหาตามหมายจับ จ.สตูล  ได้หลังก่อเหตุตระเวนลักหม้อแปลงไฟฟ้าส่องสว่างริมทาง  แผนการโจรกรรมมาโป๊ะเมื่อจับลูกชายได้ขณะปีนเสาไฟซึ่งกำลังก่อเหตุ

คืบหน้า..ตำรวจทางหลวงชะอำสกัดจับ พ่อกับปู่  สองผู้ต้องหาตามหมายจับ จ.สตูล  ได้หลังก่อเหตุตระเวนลักหม้อแปลงไฟฟ้าส่องสว่างริมทาง  แผนการโจรกรรมมาโป๊ะเมื่อจับลูกชายได้ขณะปีนเสาไฟซึ่งกำลังก่อเหตุ

         วันที่ 8 พ.ย.2567   หลังตำรวจ สภ.เมืองสตูล  ได้มีการออกหมายจับผู้ต้องหาคดีโจรกรรมทรัพย์สินของทางราชการ  เป็นชุดหม้อแปลงไฟฟ้าส่องสว่างริมทางสาธารณะ  เพิ่มเติมเป็นพ่อและปู่ ของ (นายเอ  นามสมมุติ ชายก่อเหตุวัย 16 ปี) ได้ขณะกำลังปีนเสาไฟฟ้าเพื่อลงมือลักสายไฟและลวดทองแดง  ที่ริมถนนสายตันหยงโป อำเภอเมืองสตูล  แต่โชคร้ายที่มีพลเมืองดีมาเห็นและแจ้งฝ่ายปกครอง และตำรวจสกัดจับไว้ได้พร้อมของกลางหลายรายการ

 

         ก่อนที่จะมีการสอบสวนพบว่ามีผู้ร่วมขบวนการเป็นคนในครอบครัว ที่คอยดูต้นทางให้  โดยให้บุตรชายเป็นคนลงมือก่อเหตุ   จากนั้นตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานและออกหมายจับเพิ่มอีก 2 คน เป็นพ่อและปู่  โดยพ่อชื่อนายศักดิ์สิทธิ์  (สงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี (ทำหน้าที่ขับรถและให้การช่วยเหลือ)  ส่วนนายสมจิตร  (สงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี ปู่ (ทำหน้าที่สนับสนุนและดูต้นทาง) 

 

        แม้คนร้ายซึ่งเป็นพ่อและปู่ พยายามจะหลบหนีหลังบุตรชายถูกจับ แต่ก็ไม่รอดน้ำมือตำรวจ ซึ่งภายใต้การนำของ พล.ต.ต.จารุต   ศรุตยาพร  ผบก.ภาพ.จว.สตูล  พร้อมด้วยพ.ต.อ.เสกสิทธิ์  ปรากฏชื่อ  ผกกก.สภ.เมืองสตูล โดยได้ประสานตำรวจให้สกัดทุกเส้นทางก่อนจะได้รับแจ้งจากหน่วยบริการทางหลวงชะอำ จ.เพชรบุรี  ว่า พบพ่อและปู่ตามหมายจับสตูล  ขับรถยนต์กระบะที่มีความพยายามเปลี่ยนป้ายทะเบียนรถยนต์กระบะ อีซูซุ (จาก บท.7079 ชลบุรี)  มาเป็น บห 7079 ชลบุรี เพื่อตบตาเจ้าหนี่แต่ไม่รอด

          สำหรับพฤติกรรมของผู้ต้องหารายนี้มีนายเอ  นามสมมุติ อายุ 16 ปี และพวกรวม 4 คน ได้แก่ 1.นายศักดิ์สิทธิ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 38 ปี ต.ควนขัน อ.เมือง จ.สตูล ซึ่งเป็นบิดาของผู้ต้องหา  2.นายสมจิตร (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 65 ปี ต.ควนขัน อ.เมือง จ.สตูล ซึ่งเป็นปู่  ได้ตระเวนโจรกรรมทรัพย์ของทางราชการ  เมื่อถึงถนนบ้านตันหยงโป ต.ตันหยงโป อ.เมือง จ.สตูล เมื่อไปถึงบริเวณเสาไฟฟ้าซึ่งมีหม้อแปลงไฟฟ้าติดตั้งอยู่และเป็นเส้นทางเปลี่ยว ไม่มีบ้านเรือนผู้คน ผู้ต้องหาจึงได้นำอุปกรณ์ที่เตรียมมาเพื่อใช้ในการขึ้นไปถอดหม้อแปลงไฟฟ้า โดยศึกษาหาความรู้มาจากยูทูป โดยมีนายศักดิ์สิทธิ์ฯ คอยให้การช่วยเหลือและรอรับหม้อแปลงไฟฟ้าอยู่บริเวณด้านล่าง โดยมีนายสมจิตรฯ คอยดูต้นทางให้หลังจากถอดหม้อแปลงไฟฟ้ามาได้แล้วก็จะนำกลับมาเพื่อถอดแยกชิ้นส่วนอุปกรณ์ เพื่อนำไปขายให้กับร้านรับซื้อของเก่าในพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา โดยจะใช้รถยนต์กะบะ ยี่ห้อ อีซูซุ รุ่น ดีแม็ก สีเทา หมายเลขทะเบียน บท 7079 ชลบุรี ซึ่งเป็นของนายศักดิ์สิทธิ์ฯ โดยมีนายศักดิ์สิทธิ์ฯ เป็นผู้ขับขี่ และมีผู้ต้องหา ร่วมทางไปด้วยทุกครั้ง  เมื่อได้หม้อแปลงไฟฟ้ามาครั้งนึงก็จะนำไปทันที โดยในแต่ละครั้งจะขายได้ราคาประมาณ 8,000-10,000 บาท ต่อลูก/ต่อครั้ง

 

          หลังจากได้เงินมาแล้วก็จะนำมาแบ่งกันและใช้จ่ายภายในครอบครัว โดยผู้ต้องหาก่อเหตุลักทรัพย์หม้อแปลงไฟฟ้ามาแล้ว จำนวน 4 ครั้ง ก่อนมาถูกจับ  เงินจากการขายหม้อแปลงไฟฟ้าที่ขโมยมาได้ประมาณ 40,000 บาท โดยผู้ต้องหาได้ศึกษาหาความรู้เกี่ยวกับหม้อแปลงไฟฟ้าทางยูทูป และดูวิธีการขึ้นไปถอดเปลี่ยนแปลง และร่วมกันสร้างอุปกรณ์ที่ใช้การลักทรัพย์หม้อแปลงไฟฟ้าดังกล่าวเอง

 

          พล.ต.ต.จารุต   ศรุตยาพร  ผบก.ภาพ.จว.สตูล สั่งการให้มีการขยายผลไปที่ร้านรับซื้อของเก่า   เนื่องจากมีมูลค่าความเสียหายที่คนร้ายก่อเหตุหลายแสนบาท   ประชาชนเดือดร้อนจากการใช้เส้นทาง อุบัติเหตุ     แต่เมื่อขโมยมาขายร้านของเก่ามีค่าเพียงแค่ 8,000 – 10,000 บาทเท่านั้น   นับว่าไม่คุ้มกับพี่น้องประชาชนผู้ใช้เส้นทางเสี่ยงอันตรายจากอุบัติเหตุ   และฝากให้พี่น้องประชาชนผู้ใช้เส้นทางช่วยเป็นหูเป็นตาหากพบบุคคลต้องสงสัยในการก่อเหตุโจรกรรมสามารถโทรมาแจ้งได้ที่ 191  ตลอด 24 ชม.

…………………………………….

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต