Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 สตูล – ชี้เป้าขนมในตำนานถูกอร่อย  อาปมแลงังแป้งสดเตาถ่าน  ของดีชุมชนขนมจีน

สตูล  ชี้เป้าขนมในตำนานถูกอร่อย  อาปมแลงังแป้งสดเตาถ่าน  ของดีชุมชนขนมจีน

         ทุก ๆ เช้าตั้งแต่เวลา 4 นาฬิกาเป็นต้นไปถึง 8 โมงเช้า  ในซอยขนมจีน  เทศบาลตำบลกำแพง  อำเภอละงู  จังหวัดสตูล ลูกค้าหลากหลายรุ่นจะมายืนรอซื้อขนมอาปมแลหงังแป้งสดเตาถ่าน  ของม๊ะหวันหรือ  นางสมพิศ องศารา อายุ  76 ปี  ที่ยังคงทำขนมในตำนานรสชาติดั้งเดิมที่ขายมานานกว่า 20 ปี ตั้งแต่ราคาชิ้นละ 2 บาท ปัจจุบันขายชิ้นละ 5 บาท พิเศษใส่ไข่เพิ่ม  10 บาท

        โดยขนมชิ้นนี้ม๊ะหวัน  จะเป็นคนทำแป้งข้าวจ้าวสดด้วยตัวเอง  โดยการนำข้าวสาร (ยี่ห้อลำไย) จำนวน 2 กิโลกรัมไปแช่น้ำหนึ่งและลุกขึ้นมาบดทำแป้งข้าวจ้าวสดๆ  วันต่อวันด้วยเครื่องบดโบราณ ก่อนนำมาปรุงด้วยน้ำตาล เกลือ  ไข่และกะทิ  นำกระทะขนาดเล็กตั้งไฟตักแป้งข้าวจ้าวที่ปรุงสำเร็จใส่กระทะที่ร้อนพอดีร่อนไปมาปิดฝาให้แป้งสุก   ส่งขายลูกค้าที่มารอหน้าบ้านอยู่อย่างนี้หลายสิบปีแล้ว   มีรายได้เฉลี่ยวันละ 700 บาท   จนเป็นที่คุ้นชินตาของลูกค้าในชุมชน 

       สูตรขนมอาปมแลหงังแป้งสดเตาถ่าน   สั่งได้ทั้งสูตรแป้งกรอบนอกนุ่มใน และ สูตรแป้งหนานุ่ม รสชาติหวานกำลังดีทานกับเครื่องดื่มร้อน ๆ อย่างโกปี้ หรือชาอ้อ เพิ่มความอร่อย    โดยเคล็ดไม่ลับม๊ะหวันบอกว่า  คอยดูไฟขณะลงแป้งในกระทะไม่ให้ร้อนเกินไปเพราะจะทำให้ขนมไหม้และเสียรูปทรงไม่สวยงาม   และหากใช้แป้งข้าวจ้าวสำเร็จรูปรสชาติความอร่อยก็จะไม่เหมือนเดิม  ม๊ะหวันจึงเลือกที่จะทำแป้งสดขึ้นมาเองเพื่อขายให้กับลูกค้า 

 

       นางดารารัตน์   ขวัญเมือง  ลูกค้าเจ้าประจำทานตั้งแต่เด็ก บอกว่า เป็นขนมโบราณที่มีรสชาติอร่อย  ทานมาตั้งแต่เด็ก  หอมเตาถ่าน ทุก ๆ เช้า ๆจะมาฝากท้องที่นี่และทานร้อน ๆ จะยิ่งอร่อย  

       นายพิสิษฐ์  แซ่จิ้ว   ปธ.ชุมชนซอยขนมจีน  ทต.กำแพง  อ.ละงู กล่าวว่า เป็นขนมอยู่คู่ชุมชนนี้มาอย่างยาวนาน  ม๊ะหวันเป็นคนขยันอยู่กับบุตรสาวที่พิการสองคน  ขายขนมอาปมแลหงันทุกวัน ยกเว้นวันที่ม๊ะหวันไม่สบาย  อยากให้นักท่องเที่ยวที่ลงไปเกาะหลีเป๊ะ หรือว่าเกาะตะรุเตา  แวะรับประทานอาหารเช้าก่อนลงเรือได้ที่ชุมชนซอยขนมจีน  และที่นี่ก็ยังมีสตรีทอาร์ต  ซึ่งเป็นรูปของม๊ะหวัน ที่กำลังทำขนมอาปมแลหงัง  ให้ได้เช็คอินถ่ายรูปเป็นที่ระลึก  พร้อมทั้งทานขนมอร่อย และขนมพื้นเมืองอีกมากมายที่ชาวบ้านในชุมชนมีจำหน่าย 

สนใจสอบถาม หรือสั่งขนม  โทร083-1863476

……………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 สตูล- ชี้เป้าสายสุขภาพอร่อยกับเมนูพื้นถิ่น ข้าวยำโบราณ  กว่า 30 ปี  เมนูของดี 4 ดาวโอทอป

สตูล.. ชี้เป้าสายสุขภาพอร่อยกับเมนูพื้นถิ่น ข้าวยำโบราณ  กว่า 30 ปี  เมนูของดี 4 ดาวโอทอป

          ช่วงนี้สายสุขภาพต้องไปชิม ข้าวยำโบราณที่ขายมานาน 30  กว่าปี ที่รวมสารพัดสมุนไพร  ขายยามฟ้ารุ่งสาง ที่บริเวณ สี่แยกไฟแดง  ตรงข้ามหน้าโรงเรียนอนุบาลควนโดน  อำเภอควนโดน  จังหวัดสตูล ที่นี่มีข้าวยำสีสันสวยงาม ปรุงแต่ง  ส่วนผสมล้วนเป็นสมุนไพรทั้งสิ้น  ตั้งแต่กระบวนการหุงข้าวที่ใช้ใบยอหุงผสม

          นางเจ๊ะรอมา  แมเร๊าะ  อายุ 55 ปี เจ้าของร้านข้าวยำสมุนไพร  มามิง  ข้าวยำโอทอป 4 ดาว เมนูชูสุขภาพ  กล่าวว่า  ทางร้านขายมา 30 ปี โดยได้สูตรทำข้าวยำมาจากจังหวัดนราธิวาส และมาต่อยอดขายที่จังหวัดสตูล ซึ่งส่วนผสมของข้าวยำได้แก่ ดอกดาหลาสีชมพู สีแดง สีขาว  สรรพคุณ ขับลมในกระเพาะ และ จันหอม สรรพคุณ เป็นยา   ใบชะพลู ยอดจิก มันปู พริกไทยอ่อน ขมิ้นขาว ดอกอันชัญ ถั่วงอก น้ำบูดู ปลาป่น มะพร้าว ขายจานละ 25 บาท  (เพิ่มไข่เป็ดยางมะตูมชุดละ 35 บาท)   มีรายได้ต่อวัน 1,500  ถึง 2,000 บาท

          เจ้าของร้านข้าวยำสมุนไพร  มามิง   บอกอีกว่า  เมื่อก่อนข้าวยำที่ตนเองทำจัดว่าเป็นเมนูพื้นถิ่น  หลังนำออกไปโชว์ขาย ที่เมืองทองธานี   กลุ่มลูกค้าผู้บริโภคต่างติดใจ  และที่สำคัญ  ได้รางวัลจาก สนง.สาธารณสุข มอบให้เป็นข้าวยำด้านสุขภาพ 4 ดาว ขึ้นเป็นสินค้าโอทอปที่ขึ้นชื่อทุกวันนี้

          ด้านลูกค้า การันตีถึงความ อร่อย  เข้าถึงสมุนไพร ทานแล้วรู้สึกสุขภาพดี  และราคาเข้าถึงง่าย

          นอกจากข้าวยำสมุนไพร ที่เปิดขายวันทุกวัน (หยุดทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี) แล้ว  ทางร้านยังมีเมนู  ละแซ  (ขนมจีน), นาซิดาแฆ (ข้าวมันปลาจิงจัง)  , อาหารพื้นบ้าน 3 จังหวัด (ขายเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์)  โดยทางร้านเปิดตั้งแต่เวลา 6  นาฬิกาถึง 10 นาฬิกา ติดต่อสอบถาม โทร  062  527  3631

…………………………………………………..

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 สตูล-ชวนลองแลน้ำพริกกั้งสินค้าโฮมเมด  สูตรฆอแร่งเฉพาะถิ่นมลายู 

สตูล ชวนลองแลน้ำพริกกั้งสินค้าโฮมเมด  สูตรฆอแร่งเฉพาะถิ่นมลายู

         ชี้เป้าแหล่งผลิตน้ำพริกพื้นเมือง  ที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นรสชาติเฉพาะถิ่น  ต้องที่นี่ที่วิสาหกิจชุมชน  ลองแลน้ำพริกสตูล  ตั้งอยู่หมู่ที่ 4  บ้านตะโล๊ะใส  ตำบลปากน้ำ  อำเภอละงู  จังหวัดสตูล  ที่นี่มีกลุ่มสตรีมารวมตัวกัน  เพื่อทำน้ำพริกหลากหลายชนิด  อาทิ น้ำพริกกั้ง , น้ำพริกปูม้า , น้ำพริกไข่ปู , น้ำพริกมันปู

        โดยเฉพาะ   น้ำพริกกั้ง   ที่ถือว่าเป็นเมนูดั้งเดิม  ที่ปรุงแบบคั่วแห้งตามแบบฉบับของกลุ่ม  มาจากเมนู ฆอแร่ง (รสมือม๊ะ) หรือ (รสมือแม่)  เป็นเมนูอาหารพื้นถิ่นของจังหวัดสตูล ที่ได้รับอิทธิพลมาจากฝั่งมลายู อินโดนีเซีย  เป็นวิธีการถนอมอาหารเนื้อสัตว์ทะเล  ที่มีอย่างอุดมสมบูรณ์ในสมัยก่อน  ไม่ให้เน่าเสียง่าย   ซึ่งสมัยนั้น (แม่) จะเอากั้งสดๆ  แกะเอาเฉพาะส่วนเนื้อมาผสมกับเครื่องแกงสมุนไพรรสจัด 

       ส่วนผสมน้ำพริกกั้ง ประกอบด้วย  พริกแห้ง หอม  กระเทียม ตะไคร้ เกลือ  น้ำมะขามเปียก กะปิและน้ำตาลปี๊บ  และที่สำคัญที่สุดก็คือกั้งต้มสุก  ที่ผ่านการแกะเปลือกพร้อมปรุงแล้ว   นำมาบดให้ละเอียด  จากนั้นนำทั้งหมดมาคั่วในน้ำมันโดยใช้ไฟจากเตาถ่าน  คั่วไฟอ่อนนานมาก ๆ จนแห้งดี สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้หลายเดือน 

 

          ด้าน  นางสาวฮัซวานี   ปากบารา   ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนลองแลน้ำพริกสตูล   บอกว่า ทางกลุ่มนำกั้งมาทำน้ำพริก  เพราะเป็นสัตว์น้ำขึ้นชื่อของจังหวัดสตูล  นอกจากนี้ยังมีน้ำพริกปูม้า  ไข่ปูม้า  มันปู น้ำพริกเผา  ที่พร้อมรับประทาน  นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ภูมิใจนำเสนอคือ   จ๊อปูฮาลาล   ที่อัดแน่นไปด้วยเนื้อปู กรรเชียงปู  จุกๆ บริการส่งทั่วไทย

          นางสาวศุภวรรณ   บุญรอด  นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ  เกษตรอำเภอละงู  กล่าวว่า   ความพิเศษของกลุ่มนี้เป็นการสืบสานวิถีชีวิตบรรพบุรุษ  ที่อพยพมาจากอินโดนีเซีย  กระบวนการทำเมนูอาหารจะเป็นการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมภาคใต้  ผนวกกับอินโดนีเซีย  ทำให้รสชาติการันตีได้ว่าไม่เหมือนใคร นี่คือจุดเด่นของสินค้าที่นี่  เกษตรอำเภอได้เข้ามาช่วยดูแลในเรื่องของการจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชน  และการประชาสัมพันธ์   ให้สังคมภายนอกได้รู้จักกลุ่มมากขึ้น  ได้ลงมาเพื่อเยี่ยมเยียนติดตามการดำเนินงาน ให้คำแนะนำต่าง ๆ ทั้งที่เป็นอุปสรรค  และเรื่องดีๆเพื่อบอกต่อให้เครือข่ายวิสาหกิจชุมชนในอำเภอให้รู้จักมากขึ้น   สัดส่วนการตลาดมีทั้งออนไลน์และออฟไลน์  ภายใต้ชื่อเพจ ลองแล น้ำพริกกั้ง satun homemade  

          ส่วนน้ำพริกกั้ง 100 กรัม  ราคา 150 บาท   น้ำพริกปูม้า 100 กรัม 150 บาท  จ๊อปูฮาลาล 149 บาท  สามารถสั่งซื้อได้ทาง  เพจลองแล น้ำพริกกั้ง satun homemade   หรือ   ทาง tiktokลองแล.สตูล โทร 094  593 2849

………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 สตูล-ชำชุดดีน โคขุนเนื้อวัวเกรดพรีเมี่ยม ปลอดสาร 100%  ตอบทุกโจทย์สายเนื้อ  ที่วิสาหกิจชุมชนฯเลี้ยงโคแปลงใหญ่ตำบลกำแพง 

สตูล..ชำชุดดีน โคขุนเนื้อวัวเกรดพรีเมี่ยม ปลอดสาร 100%  ตอบทุกโจทย์สายเนื้อ  ที่วิสาหกิจชุมชนฯเลี้ยงโคแปลงใหญ่ตำบลกำแพง 

         ที่วิสาหกิจชุมชนกลุ่มส่งเสริมอาชีพเกษตรกรเลี้ยงโคแบบแปลงใหญ่  จังหวัดสตูล หมู่ที่ 4 ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล   ที่นี่มีผลิตภัณฑ์จากเนื้อโคขุนแปรรูปมากมาย  ได้แก่ เนื้อแปรรูป   เนื้อสไลด์   กระดูก  และส่วนอื่น ๆ  ที่พร้อมรับประทาน  ทั้งแบบเสียบไม้พร้อมปิ้งย่าง   นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูป  อาทิ ใบพายวัว สันคอวัว สามชั้นวัว  ลิ้นวัว หรือเนื้อที่สำหรับทำสเต็กสะดวกสบายสำหรับผู้บริโภคในราคาเกษตรกร

        ที่วิสาหกิจชุมชนฯ เกิดจากการรวมตัวของเกษตรกรที่ประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจตั้งแต่ปี 2559 ร่วม 9 ปีของการเติบโตจากสมาชิก 10 คน  ปัจจุบันมีสมาชิก 118 คน  ที่แห่งนี้ยังเป็น  ศูนย์เครือข่ายจุดเรียนรู้  การเลี้ยงสัตว์แบบลดต้นทุน  โดยโคขุนทุกตัวจากเกษตรกรที่เป็นสมาชิก  ก่อนส่งชำแหละจากต้นน้ำ กลางน้ำ สู่ปลายน้ำ ทุกคนต้องมีความรู้ในการปรับคุณภาพ   ให้โคขุนกินอาหารคุณภาพ ทั้งอาหารหมัก  อาหารที่เป็นธัญญาพืชและอาหารเสริม  เพื่อให้ได้เนื้อที่มีคุณภาพเท่ากัน ไม่มีกลิ่นคาว ระดับพรีเมียมทุกตัว เกษตรกรจะได้ราคาดีกว่าตลาดทั่วไป โดยประกันราคาที่ 95-100 บาท (ในขณะที่ตลาดทั่วไปอยู่ที่ 70 บาท)  ผู้บริโภคจึงไว้ใจได้ถึงคุณภาพ  และราคาจำหน่ายเพียงกิโลกรัมละ 300 บาท  โดยทุกเดือนจะมีการชำแหละไม่น้อยกว่าเดือนละ 6 ตัว   ในรอบปีประมาณ 100 ตัว   ที่ต้องสต็อกโคขุนไว้

 

          นางสาวมนัสนันท์  นุ่นแก้ว เกษตรอำเภอละงู  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตร  ลงพื้นที่ติดตามและเยี่ยมแปลงใหญ่โคตำบลกำแพง  โดยมีสำนักงานเกษตรอำเภอละงูมาคอยให้คำปรึกษา  แนะนำช่องทางการตลาด และแนวทางการดำเนินการของกลุ่ม  เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และในอนาคตทางกลุ่มบอกว่า   มีแนวคิดที่จะผลิตลูกชิ้นเนื้อ และมีการรับซื้อมูลวัวจากสมาชิก  เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ให้สมาชิกอีกทางหนึ่ง

 

          สำหรับ นายชำชุดดีน  เล่งเจะ   ประธานแปลงใหญ่โคตำบลกำแพง (หรือผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 )   ยังปรับตัวเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจแบบสมัยใหม่ด้วยการไลฟ์สด (ชื่อเพจสิงห์ตะวัน  โคขุน)  ขายสินค้าเองทางออนไลน์  นอกจากลูกค้าประจำแล้ว   เพื่อสร้างภาพจำ  และอัตลักษณ์เฉพาะกับสินค้า  เพื่อตอบโจทย์ชาวสตูลที่ชื่นชอบสายเนื้อ     

 

         โดยราคาเนื้อวัวสันในเกรด A กก.ละ 400 บาท เนื้อวัวเกรด A กก.ละ 350 บาท , (เนื้อเกรดรวมงานนูหรี งานแต่ง 100 กก.ขึ้นไป 280 บาท) เนื้อสันในสไลด์ 500 กรัม 250 บาท,เนื้อริปอาย สไลด์ 500 กรัม 250 บาท ,เนื้อสเต็กทีโบน ขีดละ 60 บาท เนื้อสเต็กโทมาฮอก ขีดละ 100 บาท เนื้อแดดเดียว 500 กรัม แพ็คละ 350 บาท เนื้อหมักหม่าล่า 500 กรัมแพ็คละ 300 บาท เป็นต้น 

ติดต่อสอบถามได้ที่ โทร. 089-733-7771

 

…………………………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 สตูล – ปีใหม่อุดหนุนสินค้าชุมชนผ่านตลาดนัดเกษตร ก้าวสู่ปีที่9 มากกว่า50 ผลิตภัณฑ์ชุมชนเด่นปลอดภัยมาร่วมที่นี่

สตูล ปีใหม่อุดหนุนสินค้าชุมชนผ่านตลาดนัดเกษตร ก้าวสู่ปีที่9 มากกว่า50 ผลิตภัณฑ์ชุมชนเด่นปลอดภัยมาร่วมที่นี่

            วันที่ 27 ธันวาคม 2566 เกษตรกรสตูล รวมตัวกันนำผลผลิต  ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร  มากกว่า 50  ผลิตภัณฑ์ชุมชนเด่นที่ปลอดภัยจาก 7 อำเภอ  มาร่วมจำหน่ายสินค้า  อาทิ  ขนมผูกรัก  โรตีกรอบจิ๋ว  ปลาเค็ม  อาหารแปรรูป  ผลไม้ และผักสดปลอดสารพิษ จากกลุ่มชุมชนโดยมีสำนักงานเกษตรการันตีผ่านการคัดเลือกก่อนมาวางจำหน่าย

           โดยสำหรับวันนี้ได้มีการจัดเป็นปีที่ 9  ก้าวที่ยิ่งใหญ่  “๙ ปี ตลาดเกษตรกรจังหวัดสตูลก้าวหน้าก้าวไปสู่ความยั่งยืน”  ซึ่งจัดขึ้นเพื่อพัฒนาตลาดเกษตรกรให้มีอัตลักษณ์  เป็นแหล่งรวบรวมและจำหน่ายสินค้าของเกษตรกรที่มีศักยภาพ ตลอดจนประชาสัมพันธ์การดำเนินงานของตลาดเกษตรกรจังหวัดสตูล   โดยจะมีนัดกันที่ตลาดเกษตรกรจังหวัดสตูล (ลานจอดรถกลางแจ้งศาลากลางจังหวัดสตูล) อำเภอเมืองสตูล  จังหวัดสตูล   ทุกวันพุธของสัปดาห์ 

          ซึ่งวันนี้ เป็นการนัดรวมพลเกษตรกรพิเศษส่งท้ายปี   มีสินค้าเกษตรและสินค้าแปรรูปจากเกษตรกรจำหน่ายตรงถึงผู้บริโภคโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง  และยังเป็นทั้งของฝากและของขวัญให้จับจ่ายมารวมภายในงานแห่งนี้ที่จะเป็นแหล่งรวบรวมของสตูล และกระจายสินค้าปลอดภัย โดยในแต่ละวันสามารถสร้างเม็ดเงินให้เกษตรกรวันละไม่น้อยกว่า 50,000 บาท  ที่จะเป็นทุนให้เกษตรกรผลิตสินค้าดีออกสู่ตลาดผู้บริโภค

         สำหรับกิจกรรมตลาดเกษตรกรวันนี้พิเศษครบรอบ 9 ปีมีการจัดอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีกิจกรรมตลาดเกษตรอำเภอ, ตลาดภาคี, ตลาดเกษตรกรออนไลน์ , นิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับมาตรฐานสินค้าเกษตร , กิจกรรมสาธิตสร้างรายได้ , กิจกรรมฟังดนตรี สีเทาแดง , กิจกรรมลุ้นรับโชค   และ  กิจกรรมสวัสดีปีใหม่ กระเช้าปีใหม่จากใจสำนักงานเกษตรจังหวัดสตูล  การจำหน่ายสินค้าราคาประหยัดจากสนง.พาณิชย์จังหวัดที่นำไข่ไก่ และน้ำมันมาให้ชาวบ้านได้จับจ่ายซื้อสินค้าด้วย

         นายชาญณรงค์   วิรุณสาร  เกษตรจังหวัดสตูล  กล่าวว่า  สินค้าที่จะมาวางขายที่ตลาดเกษตรกรจังหวัดสตูล จะต้องเป็น สินค้าที่มีความปลอดภัย มีความยุติธรรมกับผู้บริโภค เป็นหลัก  เกษตรกรจะได้พบปะกับผู้บริโภคโดยตรง หรืออาจจะสั่งออนไลน์ได้ในครั้งต่อไป   สำหรับตลาดนัดเกษตรกร  เปิดขายทุกวันพุธของสัปดาห์  ตั้งแต่เวลา  07.00 น. ถึงเที่ยงของทุกวัน   สินค้ามีหลากหลายทั้งพืชผัก  ผลไม้  พันธุ์ไม้ต่างๆ  ขนม  ข้าวสาร สินค้าแปรรูป  ทั้งสดและแห้ง 

………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา เกษตร - อาชีพ

  สตูล – อาหารฮาลาลสุดชิค  นักท่องเที่ยวและสายคอนเทนต์ไม่ควรพลาด! กับเมนูในตำนานข้าวต้มบ้านหยังเครื่องอัดแน่น ส่งต่อรุ่นที่ 3 ตกแต่งร้านสไตล์อบอุ่น

สตูล – อาหารฮาลาลสุดชิค  นักท่องเที่ยวและสายคอนเทนต์ไม่ควรพลาด! กับเมนูในตำนานข้าวต้มบ้านหยังเครื่องอัดแน่น ส่งต่อรุ่นที่ 3 ตกแต่งร้านสไตล์อบอุ่น

        เมนูสุดชิคทั้งเครื่องดื่มและอาหารทานเล่นที่   บ้านหยัง คาเฟ่  บรรยากาศอบอุ่นเสมือนมานั่งทานที่บ้านญาติ  กับเมนูคุ้นเคย  ข้าวต้มบ้านหยัง  เครื่องแน่นอิ่มจุกๆ  ปอเปี๊ยะกรอบอร่อยสไตล์บ้านหยังและอีกหลากหลายเมนูสากลฮาลาล  ตอบโจทย์สายคอนเทนต์ และนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่ไม่ควรพลาด

 

          บ้านหยังคาเฟ่   (เป็นภาษามลายู  ที่แปลว่า บ้านคุณอา  หรือญาติผู้ใหญ่)  ตั้งอยู่ตรงข้าม รพ.สต.ย่านซื่อ  ถนนยนตรการกำธร  หมู่ที่ 2 ตำบลย่านซื่อ  อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล  ที่ร้านนี้  อดีตเป็นร้านประจำของใครหลายคนในหมู่บ้าน  ที่ขึ้นชื่อเรื่องข้าวต้มทรงเครื่อง  และมักจะมีการเรียกติดปากว่า  ไปกินข้าวต้มบ้านหยัง  จากวันนั้นถึงวันนี้  เข้าสู่รุ่นที่ 3  กว่า 15 ปีแล้ว  มีการปรับปรุงร้านให้เข้ากับยุคสมัย  แต่ยังคงกลิ่นไอความอบอุ่นเสมือนไปนั่งเล่นทานอาหารที่บ้านญาติผู้ใหญ่  ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมาเลเซีย  และสายทำคอนเทนต์มาแวะถ่ายรูป และอิ่มอร่อยกันไม่ขายสาย

 

          ภายในร้านตกแต่งสไตล์โมเดิลกึ่งไทยมาเลเซีย   มีเมนูหลากหลายทั้งไทยและสากล โดยเมนูเด่นคือ  ข้าวต้มไก่ และปลาบ้านหยัง  เครื่องอัดแน่น เป็นที่ถูกใจทุกวัย  โดยเฉพาะกลุ่มคนสูงวัยมักชื่นชอบเมนูนี้   และเมนูปอเปี๊ยะบ้านหยัง  ที่ทำเอง  ใหม่สดทุกวัน  ตามแบบฉบับของร้าน  ที่อยากให้ทุกคนมาลิ้มลอง

 

           นางสาวฟิรดาวส์   หลีเส็น   อายุ 28  ปี  ผู้บริหารร้านรุ่นที่ 3 บ้านหยังคาเฟ่  บอกว่า  เมนูที่หลากหลายให้อารมณ์เหมือนมาทานอาหารที่บ้านญาติผู้ใหญ่  กับ  เมนูข้าวเนื้อตุ๋น  ข้าวไก่ย่างเทอริยากิ   สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า  ผัดไทยไข่ข้น  ยำไก่ยอข้าวโพดและอีกหลากหลายเมนู  รวมทั้งเมนูเครื่องดื่มที่ชื่นใจ อาทิ มัทฉะน้ำดอกมะพร้าว  ,  ชาเย็นที่ขึ้นชื่อของเมืองสตูลที่รสชาติไม่เหมือนใคร , แอสเปสโซ่น้ำดอกมะพร้าว ,อเมริกาโน่ส้ม   ทานกับขนมเค้กแสนอร่อย

 

          ร้านเปิดทุกวันเว้นวันจันทร์ ตั้งแต่เวลา 11 นาฬิกาถึง 21 นาฬิกา  โปรโมรชั่นพิเศษ   รับปีใหม่   1) ซื้อกาแฟ 2 แก้ว แถม!! โรตีธรรมดานมน้ำตาล 1 ชุด ตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 15  ม.ค. 67    และอีก 1 โปรโมรชั่นปีใหม่  เริ่ม 29 ธ.ค. 66 – 1 ม.ค. 67   สั่ง ครบ 599 บาท แถมฟรี!! ปอเปี๊ยะ 1 ชุด   ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมทางเพจร้าน  BAAN YANG อาหารฮาลาล กาแฟสด อาหารทานเล่น หรือโทร.086-320  3009,

 

อัพเดทล่าสุด
Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา เกษตร - อาชีพ

สตูล – ชวนนักท่องเที่ยวทำกระดาษสาจากใบเมล่อน  ที่วิสาหกิจชุมชน ฉิมเมล่อน  แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

สตูล-ชวนนักท่องเที่ยวทำกระดาษสาจากใบเมล่อน  ที่วิสาหกิจชุมชน ฉิมเมล่อน  แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

            นายไพรัช  สุขงาม  ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสตูล  พร้อมเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่  หมู่ที่ 4  ตำบลทุ่งหว้า อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล  ซึ่งเป็นวิสาหกิจชุมชน ฉิมเมล่อน แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร    ที่พร้อมรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย และต่างชาติ เช่น กลุ่มชาวจีน เกาหลี และกลุ่มประเทศมาเลเซีย ที่เข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดสตูล   ก่อนมุ่งหน้าลงทะเลอันดามัน  สามารถแวะเที่ยวชม  ชิม ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเมล่อน และกิจกรรมที่เสริมเข้ามาให้นักท่องเที่ยวได้ทำ  เพื่อสันทนาการที่สวนเกษตร ฉิมเมล่อน

 

              วิสาหกิจชุมชน ฉิมเมล่อน เริ่มกิจการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน  2556 ด้วยความใส่ใจ ในการผลิตเป็นอย่างดีทุกขั้นตอน ตั้งแต่วันเพาะปลูก จนเก็บเกี่ยว ทำให้เมล่อนมีรสชาติหวาน ฉ่ำ จนปัจจุบันนี้เจ้าของสวน  หันมาทำประโยชน์จากส่วนต่างๆ โดยเฉพาะใบเมล่อน คือ นำไปทำแปรรูปเป็น กระดาษสาใบเมล่อน  โดยการทำ กระดาษสาจากใบเมล่อน  นำ-ใบเมล่อน 3 กิโลกรับ + โพแทสเซียมไฮด๊อกไซด์ 90 กรัม นำไปต้ม 6 ชั่วโมง จากนั้นนำไปปั่นละเอียด จนได้เนื้อยุ่ยๆ หลังจากนั้นนำไปกรองกับผ้าขาว – นำเนื้อยุ่ย 300 กรัม + น้ำ 23 ลิตร + สาร cmc 5 ช้อนโต๊ะ คนๆให้เข้ากันจะได้ เป็นน้ำ   ที่ผสมเสร็จพร้อมทำกระดาษสา

 

              นำแผ่นกรองสี่เหลี่ยมขนาดเท่ากับ กระดาษ A4  จุ่มลงไปในน้ำที่ผสมเสร็จแล้ว ค่อยๆยกให้สะเด็ดน้ำ ก่อนนำไปตากแดด เมื่อแห้งได้ที่ ก็จะได้กระดาษสาจากใบเมล่อน สามารถนำไปใช้ตกแต่งประดับเป็นของชำร่วย หรือการ์ดงานแต่ง  หรือนำไปตกแต่งอย่างอื่นได้

            นายชยพัทธ์ หล่อสุพรรณพร วิสาหกิจชุมชน ฉิมเมล่อน  ท่องเที่ยวเชิงเกษตร  กล่าวว่า ฉิมเมล่อน เป็นแหล่งเรียนรู้การท่องเที่ยวเชิงเกษตร  การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน (ไฮโดรโปนิกส์) การผสมเกษรของเมล่อน มีร้านกาแฟ จำหน่ายผลิตภัณฑ์เมล่อนแปรรูป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมล่อนจีโอปาร์ค (อัตลักษณ์หนึ่งเดียวในโลก) อันหมายถึงการสลักลายจีโอปาร์คลงบนผิวผลเมล่อน

 

               ด้าน นายไพรัช  สุขงาม   ผู้อำนวยการ  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสตูล   กล่าวว่า ที่นี่มีสินค้าการเกษตรที่ทำมาจาก เมล่อน มีโรงเรือนที่เพาะพันธุ์เมล่อน  และผลผลิตเมล่อน ที่น่ากิน มีทั้งเครื่องดื่มที่ทำจากเนื้อเมล่อน จนมาเป็นกิจกรรมการ  การสร้างการอนุรักษ์ สิ่งแวดล้อม โดยเชื่อมโยงเรื่องการท่องเที่ยวได้ดี

           

          สำหรับนักท่องเที่ยวทั้งใน และต่างจังหวัดที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในจังหวัดสตูล   ต้องการที่จะมาร่วมกิจกรรมทำกระดาษสาใบเมล่อน หรือมาถ่ายรูปชมเมล่อน ซื้อของฝากจากสวนเมล่อน โทรติดต่อ 081 -839  8022 หรือ เพจ ททท.สำนักงานสตูล : TAT Satun Office   โทร 074-740 724

…………………………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สตูล-ครูเกษียณปลูก  ฝรั่งสาลี่ทองไร้เมล็ดพืชทำเงินยอดนิยม  ปลูกครั้งเดียวเก็บผลผลิตได้ตลอดทั้งปี  

สตูล-ครูเกษียณปลูก  ฝรั่งสาลี่ทองไร้เมล็ดพืชทำเงินยอดนิยม  ปลูกครั้งเดียวเก็บผลผลิตได้ตลอดทั้งปี

           ที่สวนของคุณครูสุนทร   บุญชูประภา  อายุ 71 ปี ข้าราชการครูเกษียณ ตั้งอยู่เลขที่ 176  หมู่ที่ 2 ตำบลคลองขุด อำเภอเมือง จังหวัดสตูล  บนพื้นที่ไร่ครึ่ง   หลังได้เกษียณอายุราชการได้ไปเดินงานเกษตรที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เห็นฝรั่งสาลี่ทองไร้เมล็ดก็เกิดไอเดียว่าน่าจะนำมาปลูกในพื้นที่สตูล เพราะเห็นว่ายังไม่มีใครนำมาปลูกจึงเป็นจุดประกายจากวันนั้นถึงวันนี้นับ 10 ปี  ฝรั่งสาลี่ทองไร้เมล็ดยังคงให้ผลผลิตไม่ขาดสาย

 

          จากจุดเริ่มต้นการปลูก 200 ต้นเหลือเพียง 100 ต้นที่ลองผิดลองถูก  รอดมาจนปัจจุบันนี้   ต้องหมั่นดูแลตัดแต่งกิ่งใส่ปุ๋ยเป็นอย่างดี   ยังคงให้ผลผลิตดกตลอด โดยการปลูกฝรั่งในครั้งนี้คืนทุนในปีเดียว  เพราะมีเพื่อนเกษตรด้วยกันมาขอแบ่งปันซื้อกิ่งฝรั่ง  50-100 กิ่งละ 100 บาท ทุกวันนี้ 2-3 วันเก็บผลผลิตครั้งในช่วงผลดกออกชุกครั้งละ 70-80 กิโลกรัม (ราคากิโลกรัมละ 40-50 บาท)

          มีลูกค้าประจำจะมารับและหากมีผลิตมากจะส่งขายโรงพยาบาล และอนามัยชุมชน เพราะลูกค้ามั่นใจเพราะตนไม่ใส่ปุ๋ยเคมี ปลอดภัยแน่นอน หลังเก็บผลผลิตก็จะตัดแต่งกิ่งให้และใส่ปุ๋ย

          นายเฉลิมพร  ศรีสวัสดิ์  เกษตรอำเภอเมืองสตูล   ฝรั่งสาลี่ทองไร้เมล็ด  พบว่าเกษตรกรปลูกน้อยในพื้นที่จังหวัดสตูล  คุณครูสุนทรได้ทำเป็นอาชีพเสริมปลูกบนพื้นที่ไร่เศษปลูกเป็นรายได้เสริม  สำหรับฝรั่งสาลี่ทองไร้เมล็ดเป็นผลไม้ที่ตลาดต้องการให้ผลผลิตได้ตลอดทั้งปี   เน้นการจัดการสวน  การเอาใจใส่  เมื่อเก็บผลผลิตเสร็จเกษตรกรต้องตัดแต่งกิ่ง  แล้วจะให้ดอกออกผลผลิต เกษตรกรต้องเอาใจใส่ด้วยการห่อเพื่อป้องกันศัตรูพืชเจาะผลผลิต 

………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สตูล-อดีตนายกท้องถิ่น ผันตัวเป็นเกษตรกร  เลี้ยงปูหน้าขาว  สัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่  

สตูล-อดีตนายกท้องถิ่น ผันตัวเป็นเกษตรกร  เลี้ยงปูหน้าขาว  สัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่

        จะอาชีพไหน ๆ แม้แต่นักการเมืองท้องถิ่นอย่างอดีตนายกองค์การส่วนตำบล  อำเภอทุ่งหว้า  จังหวัดสตูล   ได้ผันตัวเป็นเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ  และ สิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน หรือ  ทสม. และเป็นเกษตรกรในช่วงบั้นปลายชีวิต    เพื่อสร้างคลังอาหารในครอบครัว  พร้อมกับเสริมรายได้สร้างความสุขกับครอบครัวที่ได้อยู่กับธรรมชาติ    ด้วยการเลี้ยงปูหน้าขาว  สัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ด้วยวิธีการเลี้ยงแบบห่วงโซ่อาหาร   

        นายสมยศ  ฤทธิ์ธรรมนารถ  อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบล  และสมาชิก  ทสม.  หลังพักเรื่องการเมืองได้หันหน้าทำเกษตรอยู่บ้าน   ด้วยการปรับเปลี่ยนพื้นที่บ่อกุ้งร้าง  บนพื้นที่ 3 ไร่ เป็นบ่อเลี้ยงปูและปลา   โดยเฉพาะการเลี้ยงปูหน้าขาวสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่   ที่เชื่อว่า  จะเป็นที่ต้องการของตลาดด้วยคุณสมบัติเลี้ยงง่าย  โตไว  เปลือกไม่แข็งหนา  เนื้อแน่นทานอร่อยกว่าปูดำ

       สำหรับการเลี้ยงปูหน้าขาวได้  นายวรุตม์  หลงสะ   ประธานกลุ่มผู้เลี้ยงปูหน้าขาวจังหวัดตรัง  มาเป็นพี่เลี้ยงและเครือข่าย จากคุณสมบัติของปูหน้าขาวที่เลี้ยงง่ายโตเร็วเพียง  3 เดือน  สามารถทำน้ำหนักได้ถึงครึ่งกิโลกรัม  ซึ่งเป็นขนาดกำลังดีเนื้อหวาน  ปอกง่ายกว่าปูดำ   นับเป็นสัตว์เศรษฐกิจตัวใหม่ในฝั่งอันดามัน   โดยราคาปูหน้าขาวไข่กิโลกรัมละ 800 บาท ขณะที่ปูดำกิโลกรัมละ 350 บาท    อีกทั้งปูหน้าขาวกำลังเป็นที่ต้องการของตลาดจีนและมาเลเซียเพื่อนบ้าน   ร้านอาหารในประเทศก็รับจำนวนมาก    เหมาะกับการเลี้ยงในบ่อกุ้งร้าง 

 

         นายสมยศ  ฤทธิ์ธรรมนารถ  อดีตนายกองค์การบริหารส่วนตำบล  และสมาชิก  ทสม.  ในตำบลขอนคลาน  อำเภอทุ่งหว้า  มีบ่อกุ้งร้างจำนวนมากจึงเห็นว่าหากมาปรับเปลี่ยนเป็นบ่อเลี้ยงปูและปลา  ซึ่งภายในบ่อจะทำเป็น (โรงแรมปลา ศาลาปู)  และเลี้ยงแบบห่วงโซ่อาหารเริ่มตั้งแต่ใช้มูลแพะ  มูลวัว  ใส่ในผักที่ปลูกรอบบ่ออย่าง  ผักบุ้งเม็กซิโก หรือที่รู้จักคือผักผงชูรส   เมื่อเติบโตเต็มที่   ผักเหล่านี้จะเป็นอาหารของปลาภายในบ่อ  และปลาเองก็จะเป็นอาหารของปูได้อีกทอดหนึ่ง   เป็นการลดต้นทุนให้ธรรมชาติเชื่อมร้อย

 

          การเลี้ยงปูหน้าขาว  จะเลี้ยงตามธรรมชาติเกินไปไม่ได้  เพราะต้องดูค่า PH ของน้ำด้วย สำหรับอาหารปูหน้าขาวใช้เนื้อ  ปลา 5 กก/1000 ตัว   สำหรับผู้ที่สนใจจะใช้บ่อกุ้งร้างปรับมาเป็นบ่อเลี้ยงปู  สามารถติดต่อสอบถามและปรึกษาการเลี้ยงผ่านนายวรุตม์  หลงสะ   ประธานกลุ่มผู้เลี้ยงปูหน้าขาวจังหวัดตรัง ได้ที่เบอร์โทร.065   -046  4925

………………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

ทะเลสตูล ปูม้าอุดมสมบูรณ์จากการต่อยอดช่วยกันอนุรักษ์  จนมามีอาชีพที่ยังยืนของคนในชุมชน 

ทะเลสตูล ปูม้าอุดมสมบูรณ์จากการต่อยอดช่วยกันอนุรักษ์  จนมามีอาชีพที่ยังยืนของคนในชุมชน

     ปูม้า  กลายเป็นตัวชี้วัดความสมบูรณ์ของท้องทะเลจังหวัดสตูล  หลังพบว่ามีปริมาณเพิ่มขึ้น  โดยจากการร่วมกันอนุรักษ์ ฟื้นฟู จนมาสู่การเพาะเลี้ยงปูไข่ ก่อนนำไปปล่อยสู่ธรรมชาติ  จากกิจกรรมโครงการ การเสริมสร้างความเข้มแข็งของธนาคารปูม้าจังหวัดสตูล ตามแนวทางการพัฒนาโมเดลเศรษฐกิจ BCG   

 

โดยเป็นการสร้างความเข้มแข็งในกลุ่มหมู่บ้านชายฝั่งแห่งนี้  ซึ่งโครงการดังกล่าวนำร่องโดย ผศ.ดร.ทัศนภา ว่องสนั่นศิลป์ หัวหน้าโครงการ  ผศ.พาสนา เอกอุดมพงษ์ ผศ.สุภาพร เจริญสุข ผู้ร่วมโครงการ จาก มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง    โดยมีวัตถุประสงค์  เพื่อหนุนเสริมการทำธนาคารปูม้าชุมชนให้ดำเนินงานได้อย่างต่อเนื่องและยั่งยืน   พัฒนาชุมชนชายฝั่งที่มีศักยภาพในการเพิ่มมูลค่าตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG    เพื่อสร้างการรับรู้และจิตสำนึกของสังคมในการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรปูม้า  และเพื่อเป็นแหล่งเรียนรู้การจัดการธนาคารปูม้าอย่างยั่งยืนให้กับนักเรียน นักศึกษา ประชาชนทั่วไป  สิ่งที่สำคัญโครงการดีๆนี้ได้สนับสนุนโดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)  

 

ผศ.ดร.ทัศนภา ว่องสนั่นศิลป์ หัวหน้าโครงการฯ  กล่าวว่า   การลงมาส่งเสริมในพื้นที่จังหวัดสตูล เรามีแผนการดูแล ทั้งพื้นที่ชายฝั่ง และตามเกาะแก่ง ของธนาคารปูม้านี้ เพื่อต้องการสร้างความเข็มแข็งในกลุ่มสู่ความยั่งยืน  พร้อมทั้งสนับสนุนการสร้างชุมชน สู่อาชีพที่ยั่งยืน รายได้ดี และที่สำคัญการสร้างให้ชาวบ้าน ที่ร่วมทำนี้ มีใจที่อนุรักษ์ปูม้าไปด้วย 

       สำหรับสถานนการณ์ปูม้าในจังหวัดสตูลนี้ พบปูม้ามีเพิ่มมากขึ้น แหล่งอาหารอุดมสมบูรณ์ ดูจากที่ประชาชน ชาวประมงนำมาทำเป็นเมนูอาหารแปลรูปเป็นจำนวนมาก  และสิ่งที่เรานำลูกปูม้าไปปล่อยคืนสู่แหล่งธรรมชาติ จุดตรงไหน ตรงนั้นก็อุดมสมบูรณ์เห็นได้ชัดเจน

ส่วนกิจกรรมที่เกาะสาหร่าย อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ก็จะทำเส้นทางการท่องเที่ยวเชื่อมโยงการดูธนาคารปูม้าอีกด้วย ทั้งอนุรักษ์ ทั้งเป็นเส้นทางท่องเที่ยวทางธรรมชาติในครั้งต่อไป และทางมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย วิทยาเขตตรัง   พร้อมเป็นพี่เลี้ยงคอยดูแล การสร้างธนาคารปูม้าในจังหวัดสตูล แบบยั่งยืนต่อไป

อัพเดทล่าสุด