Categories
ข่าวเด่น

รองนายก ฯ “สมศักดิ์” ลงตรวจชายแดนสตูลขับเคลื่อนนโยบายเมืองคู่แฝด ไทย-มาเลเซีย เน้นท่องเที่ยวนำเศรษฐกิจตั้งรายได้สะพัด เพิ่มเท่าตัว  5 แสนล้านบาท  เพื่อเสนอครม.สัญจรที่ จ.ระนองในวันพรุ่งนี้ 

รองนายก ฯ “สมศักดิ์” ลงตรวจชายแดนสตูลขับเคลื่อนนโยบายเมืองคู่แฝด ไทย-มาเลเซีย เน้นท่องเที่ยวนำเศรษฐกิจตั้งรายได้สะพัด เพิ่มเท่าตัว  5 แสนล้านบาท  เพื่อเสนอครม.สัญจรที่ จ.ระนองในวันพรุ่งนี้ 

          วันนี้ (22 ม.ค.67) นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการ และเข้าร่วมการประชุมการขับเคลื่อนงานตามมติคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนใต้ ในพื้นที่จังหวัดสตูล โดยมีนายชาตรี ณ ถลาง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล และหัวหน้าส่วนราชการ ให้การต้อนรับ

         

         จากนั้น รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังห้องประชุมอุทยานแห่งชาติทะเลบัน ตำบลวังประจัน อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล เพื่อเป็นประธานการประชุมร่วมกับส่วนราชการในพื้นที่ ในประเด็นการพัฒนาศักยภาพของด่านการค้าชายแดนวังประจัน ติดตามนโยบาย ทวิน-ซิตี้  รวมถึงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติทะเลบัน โดยมี ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ นายอำเภอ และผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เข้าร่วม

 

         โดยแนวทางการยกระดับทวิน-ซิตี้ ชายแดนไทย-มาเลเซีย นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ในฐานะ ประธาน กพต. ได้เห็นชอบกรอบแนวทางการยกระดับการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยกับรัฐติดชายแดน ไทย-มาเลเซีย สู่การเป็นเมืองคู่แฝด เมื่อวันที่  23 พฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา พร้อมกับวางแนวทางเพื่อความร่วมมือการพัฒนารัฐติดชายแดนไทย – มาเลเซีย ในทุกมิติ โดยเฉพาะการค้าขายการลงทุน การท่องเที่ยว โลจิสติกส์ และอุตสาหกรรมฮาลาล รวมไปถึงการศึกษาและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ เทคโนโลยี การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด และอื่นๆ ตั้งเป้าให้ประชาชนในพื้นที่ จชต. มีรายได้และความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นนำไปสู่การลดปัญหาและผลกระทบจากสถานการณ์ความไม่สงบ เกิดความร่วมมือ สร้างเครือข่ายระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชนและประชาชนทั้ง 2 ประเทศ

                       

         นอกจากนี้ ยังมีแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวระหว่างรัฐติดชายแดน โดยจังหวัดปัตตานี และ จังหวัดสงขลา และ 5 รัฐ ตอนเหนือของมาเลเซีย ที่จะมีการผลักดันสู่การเป็นเครือข่ายเมืองสร้างสรรค์ของยูเนสโกด้านอาหาร, เปิดสถานบันเทิงครบวงจรหาดใหญ่-สงขลา ร่วมกับ 5 รัฐตอนเหนือของมาเลเซีย  พร้อมจัดแสดงสินค้าและบริการ เพื่อเชื่อมสัมพันธ์ ระหว่างประเทศ กิจกรรมที่น่าสนใจอาทิเช่น กิจกรรมท่องเที่ยวขับขี่รถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ กิจกรรมวิ่งเทรลที่เบตง กิจกรรมแข่งขันตกปลาที่สตูล กิจกรรม OTOP 2 แผ่นดิน และส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เป็นต้น

                       

          จากนั้นภายหลังการประชุม รองนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ได้เดินทางไปยังด่านชายแดนวังประจัน พื้นที่อำเภอควนโดน เพื่อตรวจติดตามการพัฒนาพื้นที่บริเวณด่านให้เป็นด่านอัจฉริยะ (smart boarder) ยกระดับการบริหารจัดการด้านการท่องเที่ยวให้มีประสิทธิภาพ รองรับการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เชื่อมโยงการท่องเที่ยว ทั้งในระดับประเทศและระดับนานาชาติ

            นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) กล่าวว่า  ขณะนี้ตัวเลขจากนักท่องเที่ยวทั้งสองประเทศรวมกันแล้ว 4-5 แสนคน   สินค้าที่ส่งไปมาทางช่องทางนี้อาจจะยังไม่มากเนื่องจากเป็นพื้นที่เขาสูง   รถพ่วงอาจจะยังไม่สะดวกในการขนส่งขึ้นบนเขาเส้นทางนี้    ได้ซึ่งก็พบว่าทางมาเลเซียก็เตรียมแผนข้อมูลนี้ไว้หารือ และเตรียมส่งข้อมูลนี้ถึงนายกรัฐมนตรีเนื่องจากพบว่า   นายกมาเลเซียกับนายกไทย   ได้มีการพบปะหารือกันบ่อย  ก็เชื่อมั่นว่าการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกจังหวัดจะได้รับการดูแลจากรัฐบาล นายกเศรษฐา   ทวีสิน  เป็นอย่างดียิ่ง  จะกระตุ้นรายได้เข้าทั้งสองประเทศเพิ่มเป็นเท่าตัว  ตามชายแดนที่มาจับจ่ายหัวละ 1000 -10,000 บาท ( เป็นเงิน 500 – 5,000 ล้าน)   จากตัวเลข 5 แสนคน ได้จากการผ่านช่องทางหน้าด่านชายแดนนี้ที่เราจะต้องส่งเสริมให้เกิดการท่องเที่ยวตลอดทั้งปี   ส่วนจะขยายเวลาเปิดด่านจากเดิม  6  โมงเย็นจะขอเป็น 2 ทุ่มนั้น   ต้องให้นายกรัฐมนตรีไทยเป็นคนไปเจรจา ซึ่งเชื่อว่าสามารถเป็นไปได้หมดหากมีการพูดคุยกัน  โดยทั้งหมดนี้นั้น  จะนำเสนอครม.สัญจรที่จ.ระนองในวันพรุ่งนี้ 

 

          สำหรับด่านชายแดนวังประจัน หรือ ศูนย์ราชการด่านวังประจัน สร้างตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 ธันวาคม 2524 ให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติทะเลบัน มีเนื้อที่ประมาณ 49 ไร่ สร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2529 ซึ่งขณะนั้นมีส่วนราชการเข้าไปปฏิบัติงานในศูนย์ราชการ 3 หน่วยงาน คือ ด่านศุลกากรวังประจัน สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอำเภอควนโดน และสถานีกักกันพืช จากนั้นได้มีการปรับปรุงที่สำคัญ 2 ครั้ง คือ การขยายอาคารด่านพรมแดนฯ เมื่อปี พ.ศ. 2560 โดยงบพัฒนาจังหวัดสตูล จำนวน 7 ล้านบาท และการปรับปรุงอาคารบ้านพักอาศัยเดิมจำนวน 12 ยูนิต โดยงบสนับสนุนภารกิจกรมศุลกากร จำนวน 6 ล้านบาท เมื่อปี พ.ศ. 2565

         

          ปัจจุบันพื้นที่ตั้งด่านศุลกากร และอาคารด่านพรมแดนฯ มีสภาพคับแคบประกอบกับสภาพอาคารต่าง ๆ มีสภาพทรุดโทรมเป็นผลให้การบริการในการขนถ่ายสินค้า และการบริการช่องทางรถส่วนบุคคล รถโดยสาร และรถสินค้า ไม่เพียงพอต่อปริมาณรถและการค้าที่เพิ่มขึ้น ดังนั้น จังหวัดสตูลได้ร่วมมือกับด่านศุลกากรวังประจัน และสำนักโยธาธิการและผังเมืองผลักดันโครงการพัฒนาด่านฯ ตามโครงการ Smart Border เพื่อรองรับการขยายตัวของนักท่องเที่ยว และการเติบโตด้านการค้า และการเติบโตการค้าของจังหวัดสตูล และเป็นการรองรับการสนองตอบโครงการไทยแลนด์ 4.0 ของรัฐบาล ต่อไป

……………..

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป ท่องเที่ยว-กีฬา

พ่อเมืองสตูลนำคณะ ต้อนรับ Datuk Armizan Bin Mohd Ali รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าภายในประเทศและค่าครองชีพมาเลเซีย และคณะ ในโอกาสเยือนจังหวัดสตูล

พ่อเมืองสตูลนำคณะ ต้อนรับ Datuk Armizan Bin Mohd Ali รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าภายในประเทศและค่าครองชีพมาเลเซีย และคณะ ในโอกาสเยือนจังหวัดสตูล

         วันที่ 20 ม.ค.2567  นายศักระ  กปิลกาญจน์  ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล  ให้การต้อนรับ Datuk Armizan Bin Mohd Ali รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าภายในประเทศและค่าครองชีพมาเลเซีย  และคณะ  ในโอกาสเยือนจังหวัดสตูล ณ ด่านวังประจัน ต.วังประจัน อ.ควนโดน จ.สตูล  เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการค้าชายแดนระหว่างจังหวัดสตูลและรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย  โดยมีนางสาวธัญรัศม์  ไตรพันธ์รัชตะ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดสตูล พร้อมด้วยพาณิชย์จังหวัดสตูล แรงงานจังหวัดสตูล นายด่านศุลกากรวังประจัน ผู้กำกับการตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสตูล นายอำเภอควนโดน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมให้การต้อนรับ

.

            ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าภายในประเทศและค่าครองชีพมาเลเซีย พร้อมด้วยผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล และคณะ ได้ลงพื้นที่พบปะพูดคุยกับพ่อค้าแม่ค้าบริเวณตลาดด่านชายแดนวังประจัน ซึ่งจำหน่ายสินค้าหลากหลายไม่ว่าจะเป็นสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าทางการเกษตร สินค้านำเข้าจากต่างประเทศ และขนมหลากหลายชนิด ซึ่งบรรยากาศในวันนี้พบนักท่องเที่ยวเดินทางเข้า-ออก เพื่อจับจ่ายซื้อของและท่องเที่ยวพักผ่อนอย่างคึกคัก นอกจากนี้ได้ร่วมพูดคุยหารือถึงความร่วมมือเรื่องการค้าชายแดนระหว่างจังหวัดสตูลและรัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย อีกด้วย

……………………..

ภาพ-ข่าว : ศุภาพิชญ์ ดวงไข / ส.ปชส.สตูล

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

สตูล-“หมอบ๊ะ แก้คุณไสย”  เชื่อมีขุนทรัพย์กลางทะเลสตูล  หลังพบฟอสซิลฮอลิคอร์ปเตอร์โบราณกลายเป็นหิน

“หมอบ๊ะ แก้คุณไสย”  เชื่อมีขุนทรัพย์กลางทะเลสตูล  หลังพบฟอสซิลฮอลิคอร์ปเตอร์โบราณกลายเป็นหิน

           ผู้สื่อข่าวรายงานว่า   ที่บ้านเลขที่  295 หมู่ที่ 2 ซอยเจริญทรัพย์  ตำบลคลองขุด  อำเภอเมือง จังหวัดสตูล  ซึ่งเป็นบ้านของ  นางสาวเจ๊ะบา  ปะหยังหลี   หรือ  หมอบ๊ะ  ได้ยกมือขอทวดในการนำซากเหล็กกลายเป็นหิน   ซึ่งอยู่ในกระบะพลาสติกมาให้สื่อได้ดู  โดยบอกกับสื่อว่าถึงเวลาแล้วที่ทุกคนจะได้รู้ว่านี่คือ  ซากเครื่องเฮลิปคอร์ปเตอร์โบราณ  ที่ตนเก็บไว้นานนับปี

 

          โดยชิ้นส่วนเหล็กที่กลายเป็นหินนับ 20 ชิ้นนำมาวางเรียงรายให้สื่อได้ดู  พร้อมกับรูปภาพพื้นที่จริงที่เจอในเกาะแหล่งหนึ่งของ  ต.เกาะสาหร่าย  อ.เมือง  จ.สตูล  ที่เข้าไปพบเมื่อปีที่แล้ว

 

          นางสาวเจ๊ะบา  ปะหยังหลี   หรือ  หมอบ๊ะ   เล่าว่า  “ตนเป็นหมอรักษาคุณไสยและเสริมดวง โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย หากใครอยากจะให้รับเป็นข้าวสารที่นำไว้ส่งต่อให้คนยากไร้  สำหรับการเจอชิ้นส่วนเหล็กกลายเป็นหินเมื่อปีที่แล้วมีชายผอมสูงวัย  พร้อมเหน็บดาบมา 2 ด้ามด้านหลัง  เข้าฝันตนว่า  “ถึงเวลาแล้วที่จะบอกว่ามีแหล่งขุมทรัพย์กลางทะเลให้ตนเข้าไปค้นหา”  ซึ่งในฝันนั้นตนได้ปฏิเสธ ไม่อยากได้ไม่อยากไป  แต่ก็เข้าฝันติดต่อกัน 3 วัน โดยวันที่สามขณะฝันตามเนื้อตัวร่างกายเจ็บปวดเหมือนมีอะไรมาทับและดึงไว้หากไม่ทำตามที่ทวดบอก 

 

          หลังตื่นจากฝันในวันที่ 4 จึงออกไปตามลายแทงที่ทวดบอก   นั่งเรือไปกลางทะเลเกาะสาหร่าย  ในพื้นที่ป่าโกงกาง และนำพระขันธ์  หรือมีดกริช  ไปด้วยจากนั้นให้ทิ่มลงบนพื้นผิวน้ำ

 

          จากนั้นก็เกิดปรากฏการณ์ขึ้นพบลานกว้างประมาณ 5 เมตร ยาว 20 เมตร ซากเฮลิคอร์ปเตอร์เหล็กที่กลายเป็นหินสมบูรณ์แบบมาก  (ขนาด 2 ที่นั่ง)   เชื่อว่าเกิดจากช่วงสงครามโลกในยุคที่ 1 จึงนำบางส่วนกลับมาไม่บอกใคร  จนทวดบอกว่าถึงเวลาแล้วจะต้องให้ทั่วโลกรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจึงเชิญนักข่าวมาร่วมพิสูจน์เพื่อให้นักธรณีวิทยา หรือหน่วยงานเกี่ยวข้องมาสำรวจ  เพื่อให้สตูลเป็นที่รู้จักของคนทั่วโลก

        นางวรัญญา  หมัดสา  หรือ คุณด๊ะ  อายุ 47 ปี หมู่ 5  ต.ฉลุง อ.เมือง  กล่าวว่า  หมอบ๊ะ  ตนรู้จักกันตอนไม่สบาย  มารักษาอาการที่หมอหลวงรักษาไม่ได้   ซึ่งไม่มีค่าใช้จ่ายเขาไม่ได้เรียกร้องอะไร  เอาข้าวสารเท่านั้นก็เอาไปเพื่อบริจาคต่อ     ส่วนการเจอซากเครื่องบิน  ครั้งแรกก็สะดุดตา   ปรึกษากันตลอด  เพราะหมอบ๊ะมีอาการเจ็บปวดเสมอเมื่อพูดถึง ซึ่งจำเป็นต้องบอกสื่อเพราะทวด สั่งไว้  สิ่งนี้เชื่อว่าจะช่วยเปิดเมืองสตูลให้โลกรู้  เมื่อมีหน่วยงานเข้าไปดูว่าเป็นฟอสซิลของเฮลิปคอรเตอร์  ใช้โอกาสตรงนี้ให้เขาได้รู้จักสตูล

          หมอบ๊ะ  ยังบอกทิ้งท้ายทวดยังเผยว่าชั้นใต้ซากของเฮลิคอร์ปเตอร์มีหีบทองแท่ง และทองรูปพรรณที่นำมาด้วย  ซึ่งตนไม่ได้สนใจหรือคิดจะไปเอา  เพราะเชื่อว่ามีคำสาปหากใครเข้าไปเอาโดยทวดไม่ได้อนุญาตก็จะมีอันเป็นไป   เหมือนกับคำสาปที่มีไว้ที่เกาะหินงาน    จังหวัดสตูลที่มีคำสาปแช่งคนที่หยิบไปครอบครอง  

…………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

ห่วงใยไม่สิ้นสุด ! กองทัพไทย ยังลงเยียวยาช่วยเหลือเยาวชนๆจากอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจัดแสดงรถสะพานเครื่องหนุนมั่นในงานวันเด็กแห่งชาติ หลังการรักษาตัวที่ รพ.สตูล กลับพักฟื้นที่บ้าน

ห่วงใยไม่สิ้นสุด ! กองทัพไทย ยังลงเยียวยาช่วยเหลือเยาวชนๆจากอุบัติเหตุได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจัดแสดงรถสะพานเครื่องหนุนมั่นในงานวันเด็กแห่งชาติ หลังการรักษาตัวที่ รพ.สตูล กลับพักฟื้นที่บ้าน

           วันที่ 20  มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บก.ทท.(นทพ.) โดย พล.ต.จตุรภัทร วงศ์ศรีเผือก ผอ.สนภ.4 นทพ. พร้อมด้วย น.อ.อาทิตย์ภากร สังขรัตน์ (ผบ.นพค.45)  ผบ.นพค.45 สนภ.4 นทพ.และ รอง ผบ.นพค.45 สนภ.4 นทพ.เข้าเยี่ยมเยาวชนที่ได้รับบาดเจ็บจากอุบัติเหตุจัดแสดงรถสะพานเครื่องหนุนมั่นในงานวันเด็กแห่งชาติ หลังการรักษาตัวที่ รพ.สตูล กลับพักฟื้นที่บ้าน เพื่อให้กำลังใจเยาวชนและครอบครัว ซึ่งอาการโดยทั่วไปเป็นปกติแล้ว พร้อมกันนี้ได้มอบเงินช่วยเหลือแก่ครอบครัว เพื่อเป็นค่าใช้จ่าย และไว้สำหรับการศึกษาของเยาวชน ณ บ้านสะพานเคียน ต.ควนโดน  อ.ควนโดน  จังหวัดสตูล

 

         ล่าสุดพบว่าผบ.นพค.45 สนภ.4 นทพ.  ลงช่วยเหลือเยียวยาเด็กและเยาวชนที่ได้รับอุบัติเหตุในงานวันเด็กแห่งชาติที่ทางอบต.ควนโดนจัดขึ้น  ขณะนี้ ได้ลงช่วยเหลือเยี่ยมเยียนให้กำลังใจ และเยียวยาค่ารักษาแล้ว ทั้ง 44 ราย ที่เป็นเด็กและเยาวชน ส่วนใหญ่พบบาดเจ็บเล็กน้อย ส่วนเยาวชนเด็กหญิงวัย 17 ปี ที่ยังนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลหาดใหญ่ ขณะนี้ได้ทำการผ่าตัดกระดูกด้านหลังหัก ขณะนี้ปลอดภัย อาการดีขึ้น โดยมีทีมทหารคอยช่วยเหลือดูแล และชดเชยค่ารักษาจนหาย ส่วนน้องเยาวชนเด็กหญิงวัย 17 ปี อีกหนึ่งรายหลังจากนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลสตูล หลังเคล็ด ล่าสุดกลับมารักษาตัวต่อที่บ้านอาการปลอดภัยดีขึ้น

 

          ด้านนางวานีดา  สาแล๊ะ  คุณแม่ของน้องเยาวชน 17 ปีรักษาตัวที่บ้าน    กล่าวว่า ขอบคุณน้ำใจที่ดีมาก ของทางทหาร นพค. 45 และผู้ใหญ่ทางทหารทีลงมาดูแลตลอดทุกวัน และจัดคนมาคอยดูแล เฝ้าอย่างใกล้ชิดตั้งแต่น้องประสบอุบัติเหตุ ไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล จนกลับมารักษาตัวต่อที่บ้าน แถมให้เงินเยียวยา ออกค่ารักษาทุกอย่าง

 

          ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่อยากให้มันเกิดขึ้น และเหตุการณ์ดังกล่าวก็ไม่มีใครอยากให้เกิดแล้ว เมื่อเกิดขึ้นมา ทางผู้ดูแลรับผิดชอบช่วยเหลือเยียวตลอดขอบพระคุณทางทหาร และซึ้งใจดังคำว่า ทหารไม่เคยทอดทิ้งประชาชน

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

กอ.รมน.ลงสตูล เดินหน้าสร้างหมู่บ้านปลอดยาเสพติด  ดึงผู้นำชุมชน กลุ่มสตรี มอบธงสัญลักษณ์ครัวเรือนปลอดยาเสพติด สร้างชุมชนอย่างยั่งยืน

กอ.รมน.ลงสตูล เดินหน้าสร้างหมู่บ้านปลอดยาเสพติด  ดึงผู้นำชุมชน กลุ่มสตรี มอบธงสัญลักษณ์ครัวเรือนปลอดยาเสพติด สร้างชุมชนอย่างยั่งยืน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า   พลตรี อภินันท์  แจ่มแจ้ง ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนแยก 1 มอบหมายให้ พันเอก ภูมิพัฒน์   บุญเรืองขาว รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนแยก 1 ให้การต้อนรับ พลตรี นวกร  สงวนศักดิ์โยธิน รองผู้อำนวยการศูนย์ประสานการปฏิบัติที่ 2 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ในโอกาสมาตรวจติดตามผลการปฏิบัติงานด้านยาเสพติด ตามโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ประจำปีงบประมาณ 2567 ในพื้นที่จังหวัดสตูล

           โดยมีการลงพื้นที่ร่วมประชุมกับส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ผู้นำ หมู่บ้าน/ชุมชน ณ ฐานปฏิบัติการชุดพัฒนาสัมพันธ์มวลชนที่ 4113 บ้านควนขัน ตำบลควนขัน    อำเภอเมือง   จังหวัดสตูล   หลังจากนั้นได้เข้าร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีมอบธงสัญลักษณ์ครัวเรือนปลอดยาเสพติด ของบ้านสะพานเคียน    ตำบลควนโดน    ซึ่งขับเคลื่อนโดยชุดพัฒนาสัมพันธ์มวลชนที่4114 และตรวจเยี่ยมการฝึกอบรมราษฎรอาสาป้องกันภัยยาเสพติด (รสปส.) ของชุดพัฒนาสัมพันธ์มวลชนที่ 4115 ณ บ้านย่านซื่อ ตำบลย่านซื่อ อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล

 

           สำหรับการลงพื้นที่ในครั้ง สิ่งหนึ่งที่ทาง กอ.รมน. เดินหน้าขับเคลื่อน โดยมีมวลชนสัมพันธ์ เพื่อขับเคลื่อนต้องการให้หมู่บ้าน ชุมชน ตำบล แม้กระทั้งผู้นำเป็นต้นแบบที่ดี และร่วมกันต่อต้านมิให้ยาเสพติดแพร่ระบาดเข้าถึง คน ลูกหลาน ร่วมกันปราบปรามทันที

          นอกจากนี้ยังสร้างมวลชนสัมพันธ์ที่ดี และจัดสร้างฐานปฏิบัติการชุดพัฒนาสัมพันธ์มวลชน เป็นพื้นที่การเรียนรู้ที่เดินรอยตามพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 ด้านการเกษตรพอเพียง เป็นการสร้างความยั่งยืนด้านคุณภาพอาหาร ไปต่อยอดการสร้างงานสร้างอาชีพด้วยการเกษตรตามแนวพระราชดำริพอเพียง สร้างเป็นศูนย์การเรียนรู้ สถานที่ศึกษาด้านการเกษตร

…………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

 สตูล – เปิดปฏิบัติการตรวจสกัดกลั่นกรอง  โรฮิงญาในฤดูอพยพ และแรงงานต่างด้าวในประมงผิดกฎหมาย

สตูล  เปิดปฏิบัติการตรวจสกัดกลั่นกรอง  โรฮิงญาในฤดูอพยพ และแรงงานต่างด้าวในประมงผิดกฎหมาย

            วันที่ 16 มกราคม 2567   หน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเกาะหลีเป๊ะ  บูรณาการการกำลังการตรวจร่วมเรือประมง (ซึ่งประกอบด้วย  จัดหางาน,สวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน,ตำรวจน้ำ,ตม.สตูล ,ศรชล,ประมงจังหวัดสตูล  ) โดยนำเรือตรวจประมงทะเล 614 พร้อมเรือยาง 14 ตรวจตามแผนงานยุทธศาสตร์จัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์โครงการจัดการปัญหาแรงงานต่างด้าวและการค้ามนุษย์ด้านการประมง ที่บริเวณปากร่องน้ำปากบารา  และหลังเขาใหญ่  เขตอุทยานแห่งชาติหมู่เกาะเภตรา   น่านน้ำติดอำเภอละงู  จังหวัดสตูล 

 

          หลังการข่าวกองทัพเรือพบว่าในห้วงเดือนธันวาคมไปจนถึงเดือนมีนาคม   เป็นห้วงที่มีการอพยพของชาวโรฮิงญา  จากรัฐยะไข่ ผ่านมาทางน่านน้ำชายแดนจังหวัดสตูล  ที่อาจจะมีการพลัดหลงเข้ามาตามเกาะแก่งได้  พร้อมกันนี้  การตรวจตราเฝ้าระวังแรงงานต่างด้าวที่ทำงานบนเรือประมงพาณิชย์ให้ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย

 

          โดยแผนปฏิบัติการในครั้งนี้ได้สุ่มตรวจเรือประมง 6 ลำ  เป็นเรือพาณิชย์ขนาดใหญ่ตั้งแต่ขนาด 10 ตันกอสขึ้นไป  ตรวจความพร้อมของเรือให้เป็นไปตามกฎหมาย  ตรวจใบอนุญาตใช้แรงงาน และแรงงานตรงตามที่ขออนุญาตหรือไม่ โดยมีการตรวจอุปกรณ์ในเรือ สัตว์น้ำ อุปกรณ์เพื่อความปลอดภัยกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินที่อาจเกิดกับเรือได้ 

        นายสุขเกษม ศรีงาม หัวหน้าหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเกาะหลีเป๊ะ(สตูล)  กล่าวว่า   การตรวจในครั้งนี้เป็นการบูรณาการร่วมกันของชุดสหวิชาชีพ  หลังการข่าวพบว่าช่วงนี้จะมีโรฮิงญาอาจพลัดหลงเข้ามาทางทะเลน่านน้ำจังหวัดสตูลได้  จึงมีการออกมาตรวจตราและกลั่นกรองจากนอกทะเล  และการตรวจรายงานต่างด้าว  ที่ทำงานในเรือประมงว่ามีเอกสารครบถ้วนหรือไม่ รายชื่อและสัตว์น้ำบนเรือตรงตามเอกสารที่รายงานหรือไม่    โดยเรือที่ตรวจจะเป็นเรือประมงพาณิชย์โดยเน้นขนาด 10 ตันกอสขึ้นไป

         หัวหน้าหน่วยป้องกันและปราบปรามประมงทะเลเกาะหลีเป๊ะ(สตูล)  กล่าวฝากผู้ที่ทำกิจการเรือประมงจะต้องมีเอกสารที่ถูกต้องตามกฎหมายและตรงตามที่ระบุไว้สำหรับพื้นที่ทำกิน ตามพิกัดที่ได้ระบุแจ้งไว้กับทางราชการ  ซึ่งเรือประมงขนาด 30 ตันกอสขึ้นไปจะมีระบบติดตามเรือประมงหากไม่เป็นไปตามที่ระบุแจ้งระวังโทษ

          ซึ่งการตรวจแรงงานผิดลำ มีโทษปรับ 400,000 ถึง 800,000 บาท  ปรับเจ้าของเรือ ตาม พรก.2558 การประมง ฉบับแก้ไข ฉบับ60

…………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

 สตูล – ลูกเรือประมงปลาเรือกระตัก ชาวเมียนมา ถูกสายสมอเรือพันขา หวิดขาด  ทัพเรือภาคที่  3 ช่วยชีวิตรอดหวุดหวิด

สตูล  ลูกเรือประมงปลาเรือกระตัก ชาวเมียนมา ถูกสายสมอเรือพันขา หวิดขาด  ทัพเรือภาคที่  3 ช่วยชีวิตรอดหวุดหวิด

           วันที่ 16 ม.ค.2567 พลเรือโท สุชาติ ธรรมพิทักษ์เวช ผู้บัญชาการ  ทัพเรือภาคที่ 3 สั่งการให้หน่วยรักษาความปลอดภัยทางทะเล กองทัพเรือ เกาะหลีเป๊ะ ( นรภ.ทร.เกาะหลีเป๊ะ ) เข้าช่วยเหลือ  ลูกเรือประมงที่ประสบอุบัติเหตุ  ขณะทอดสมอเรือ ส่งผลให้ข้อเท้าซ้ายเกือบขาด

  

          หลังจากที่ศูนย์รับแจ้งเหตุ ทรภ.3  1696 (สายด่วน ทรภ.๓) ได้รับแจ้งจากนายอรุณ  ชูประสิทธิ์  ไต๋เรือ ว่า นายเวร อายุ 56 ปี ลูกเรือประมงอวนครอบปลากะตัก   ซึ่งเป็นชาวเมียนมา  ขณะทำการประมงบริเวณเกาะตาใบและเกาะเภตรา   บนเรือประมงชื่อ  ณรงค์ชัยวารี 7 ประสบอุบัติเหตุถูกสายสมอเรือ  พันขาซ้าย  ขณะทิ้งสมอเรือลงน้ำ  โดยเชือกได้รัดขาซ้ายหวิดขาด   อาการสาหัส   

 

        หน่วยรักษาความปลอดภัยทางทะเล กองทัพเรือ เกาะหลีเป๊ะ   (นรภ.ทร.เกาะหลีเป๊ะ)  จึงได้จัดกำลังพล และเรือ RIB เดินทางเข้าให้การช่วยเหลือ  ทำการห้ามเลือด  ด้วยการใช้ผ้าก๊อซชุบน้ำเกลือ  ปิดบริเวณบาดแผล และดามกระดูกข้อเท้า  ให้อยู่นิ่ง  ป้องกันการฉีกขาด  และได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม  พร้อมกับนำผู้ป่วยขึ้นฝั่งที่สถานีเรือละงู  ส่งรถกู้ชีพฉุกเฉิน รพ.ละงู ทำการรักษาพยาบาลต่อไป

……….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ท้องถิ่น-การเมือง ท่องเที่ยว-กีฬา

  สตูล-แข่งกินหอยหลอดตัวโต  ชวนนักท่องเที่ยวยอนหอยลุยโคลนหาดบ้านหัวหิน  ในเทศกาลยอนหอยหลอดและวัฒนธรรมพื้นบ้านละงู ระหว่างวันที่ 13-17 ม.ค.2567

สตูล..แข่งกินหอยหลอดตัวโต  ชวนนักท่องเที่ยวยอนหอยลุยโคลนหาดบ้านหัวหิน  ในเทศกาลยอนหอยหลอดและวัฒนธรรมพื้นบ้านละงู ระหว่างวันที่ 13-17 ม.ค.2567

       ที่จังหวัดสตูล…จะชวนมาดูสีสันการจัดการแข่งขัน   ที่สร้างความสนุกสนานให้นักท่องเที่ยว  และชุมชน ในกิจกรรมการแข่งขันกินเร็วหอยหลอด  ที่องค์การบริหารส่วนตำบลละงู  อำเภอละงู  จังหวัดสตูล  จัดขึ้นเป็นปีแรก   ให้นักท่องเที่ยวและชาวบ้านได้ร่วมแข่งขัน  รวมทั้งนายธีระพงษ์  คุ่มเคี่ยม  นายอำเภอละงู  นายจำรัส  ฮ่องสาย  นายกอบต.ละงู  มาร่วมเชียร์กันอย่างสนุกสนาน  โดยกติกาคือ  ผู้ร่วมการแข่งขันจะต้องกินคนละ 1 กิโลกรัม หรือมากกว่านั้น  ภายในเวลา 5 นาที  ใครกินหมดก่อนคือผู้ชนะ  ได้เงินรางวัล 2,000 บาท  งานนี้มีทั้งความสนุกสนาน  และรอยยิ้ม  ได้ทั้งอิ่ม อร่อย และหากชนะได้รางวัลเงินสดติดมือกลับบ้านไปด้วย 

 

       ผลการแข่งกินหอยหลอด  ผู้ชนะเลิศ  นายธีรภัทร์ อาดำ น้ำหนัก  1.2 กก. ,  รองอันดับ1 นายบาหวี หวันสู น้ำหนัก 1 กก.  , รองอันดับ 2  นายอนุชา สอเหลบ น้ำหนัก 0.7 กก.  

 

         สำหรับหอยหลอด  เป็นสัตว์เศรษฐกิจที่ขึ้นชื่อของหาดหัวหิน  หมู่ที่ 1 ตำบลละงู  จังหวัดสตูล   ปีละหนึ่งครั้ง  ที่ชาวบ้านจะออกย่ำโคลน   เดินเท้าหาได้  ในช่วงน้ำทะเลลดลงมากที่สุด  เกือบ 3 กิโลเมตร  เพื่อไปยอนหอยหลอดโดยใช้อุปกรณ์ก้านมะพร้าว กับปูนขาว  ยอน   (หรือแหย่)  ลงไปในรูที่เล็งแล้วว่า  มีขี้หอยอยู่ด้านบนพื้นผิว โดยยอนไปทีละตัว  เป็นการอนุรักษ์การหาหอยหลอดด้วยมือ  ทำให้หอยที่นี่ตัวใหญ่มาก และราคาดีที่กิโลกรัมละ 150 ถึง 180 บาท  สร้างรายได้ให้ชาวบ้านเป็นอย่างดี

 

         หลอดละงู  ขึ้นชื่อถึงความสด  อร่อย ตัวใหญ่  จนถูกจัดให้เป็น  “เทศกาลยอนหอยหลอดและวัฒนธรรมพื้นบ้านละงู”  ซึ่งจัดเป็นครั้งที่ 15 แล้ว  โดยปีนี้จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 –  17 ม.ค.2567 ที่สนามหน้า  องค์การบริหารส่วนตำบลละงู  อำเภอละงู จังหวัดสตูล  ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวภายในและต่างพื้นที่มาร่วมกันคึกคัก

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

 ตม.สตูล ขานรับนโยบายตรวจสถานบริการ  รวบหมอนวดชาวลาวพร้อมนายจ้าง แอบลักลอบทำงานผิดกฎหมาย

ตม.สตูล ขานรับนโยบายตรวจสถานบริการ  รวบหมอนวดชาวลาวพร้อมนายจ้าง แอบลักลอบทำงานผิดกฎหมาย

วันที่ 11 ม.ค.2567  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า   ตามนโยบายของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. และ พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6 ให้ตรวจคนเข้าเมืองทุกจังหวัดออกตรวจสถานบริการในพื้นที่รับผิดชอบโดยเน้นการป้องกันและปราบปรามผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 และกฎหมายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการกวาดล้างอาชญากรรมและสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจของรัฐบาลโดยให้ดำเนินการอย่างต่อเนื่อง

 

          ล่าสุด   พ.ต.อ.เจริญพงษ์  ขันติโล ผกก.ตม.จว.สตูล และ พ.ต.ท.ระลึก อินทรัศมี รอง ผกก.ตม.จว.สตูล ขานรับนโยบาย สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนปราบปราม ตม.จว.สตูล  ทำการออกตรวจเพื่อสแกนสถานบริการในพื้นที่รับผิดชอบ รวมทั้งสืบสวนหาผู้กระทำความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522  ล่าสุดเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งเบาะแสจากพลเมืองดีว่ามีร้านนวด  เปิดบริการในช่วงเย็นถึงดึกอยู่ริมถนนสตูลธานี  ให้คนต่างด้าวลักลอบแอบทำงานผิดกฎหมาย  จึงได้ทำการสืบสวนจนทราบว่าร้านนวดใดและได้เข้าทำการตรวจสอบ 

 

          เมื่อวันที่ 10 ม.ค.2567 เวลาประมาณ 20.00 น. ฝ่ายสืบสวน ตม.จว.สตูล นำโดย ว่าที่ พ.ต.ท.ยงยุทธ เลิศปรีชาพงศ์ สว.ตม.จว.สตูล พร้อมเจ้ากำลังเจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้น ร้านนวด (ขอสงวนชื่อสถานที่) ตั้งอยู่ริมถนนสตูลธานี ต.คลองขุด อ.เมืองสตูล จ.สตูล พบ น.ส.เกตุแก้ว ขอสงวนนามสกุล หญิงชาวลาว อายุ 32 ปี ได้ลักลอบทำงานบริการนวดให้กับลูกค้าอยู่ภายในชั้น 2 ของร้าน เจ้าหน้าที่ขอตรวจสอบหนังสือเดินทางและใบอนุญาตทำงาน ปรากฏว่า น.ส.เกตุแก้ว ได้รับสิทธิให้อยู่ในราชอาณาจักรถูกต้องแต่ไม่มีใบอนุญาตทำงานและยอมรับว่าแอบลักลอบทำงานผิดกฎหมายจริง  โดยเพิ่งทำงานได้ไม่กี่วัน

 

            เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุม น.ส.เกตุแก้ว ดำเนินคดีโดยกล่าวหาว่า “เป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงาน” และได้ขยายผลไปถึงนายจ้าง คือ น.ส.สุนารี ขอสงวนนามสกุล ชาวไทย อายุ 28 ปี ที่ได้ว่าจ้างคนต่างด้าวทำงานโดย น.ส.สุนารีฯ ได้ยอมรับว่าเป็นนายจ้างจริง ตนเองเข้าใจว่าให้คนลาวทำงาน เจ้าหน้าที่จึงได้อธิบายข้อกฎหมายให้ทราบและแจ้งข้อกล่าวหาให้ น.ส.สุนารีฯ ทราบว่า “รับคนต่างด้าวทำงานโดยที่คนต่างด้าวไม่มีใบอนุญาตทำงาน” ส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดีตามกฎหมาย

 

          พ.ต.อ.เจริญพงษ์ ขันติโล ผกก.ตม.จว.สตูล กล่าวว่า  สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองมีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ โดยเฉพาะชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมหรือกระทำผิดกฎหมาย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิดในจังหวัดสตูล กรุณาแจ้งมายัง ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสตูล เลขที่ 6 ตำบลพิมาน อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล 91000 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 074711080 (ฝ่ายสืบสวนปราบปราม) หรือที่สายด่วน 1178 หรือที่ www.immigration.go.th

…………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
เยาวชน-การศึกษา

สตูล-สร้างความสุข “วันเด็กพิการ” ผู้ใหญ่ใจดีนำของขวัญ-ทำอาหารให้น้องกินอย่างจุใจ

สตูล-สร้างความสุข “วันเด็กพิการ” ผู้ใหญ่ใจดีนำของขวัญ-ทำอาหารให้น้องกินอย่างจุใจ

         วันที่ 11 มกราคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศูนย์การศึกษาพิเศษ ประจำจังหวัดสตูล เทศบาลตำบลคลองขุด อำเภอเมือง จังหวัดสตูล   พ่อแม่ผู้ปกครอง ทั้ง 7 อำเภอในจังหวัดสตูล ต่างนำพาลูกหลาน ในกลุ่มเด็กพิเศษ เด็กพิการ กว่า 270 คน  มาร่วมกิจกรรมในโครงการวันเด็กพิการจังหวัดสตูล ประจำปี  2567  ทำให้บรรยากาศภายในงาน น้องๆกลุ่มเด็กพิเศษ มีความสุข หน้าตาสดชื่น เสียงหัวเราะที่สนุกสนาน  โดยนายคณิต คงช่วย รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานเปิดงาน  และร่วมกับผู้ใหญ่ใจดีภาครัฐ  เอกชน  ร่วมแจกของรางวัลในครั้งนี้  

 

          พร้อมชมการแสดงความบันเทิงจากเด็กน้อย โชว์ลีลาสเต็บแดนซ์  ตามวัยอย่างสนุกสนาน  เรียกรอยยิ้มให้พ่อแม่ผู้ปกครอง  และแขกภายในงาน  แต่ภายใต้การแสดงที่พร้อมเพรียง  สวยงาม ตามจังหวะดนตรี  ด้านล่างเวที ก็จะได้เห็นความน่ารักของคุณครู ที่เต้นให้น้องๆดู   กลายเป็นสีสันน่ารักๆเรียกรอยยิ้มได้อีก 1 กรุบ

 

         ในโอกาสนี้  นายพรชัย  ก้างส่วย ผู้อำนวยการศูนย์การศึกษาเด็กพิเศษ จังหวัดสตูล ผู้จัดงานในครั้งนี้กล่าวรายงานการจัดโครงการวันเด็กพิการศูนย์การศึกษาพิเศษ  ประจำจังหวัดสตูล ประจำปี 2567 ซึ่งมีวัตถุประสงค์ให้เด็กพิการได้รับพัฒนาการทางด้านร่างกาย  จิตใจ  อารมณ์  สังคม  สติปัญญา  และมีคุณภาพที่ดี   ให้หน่วยงานภาครัฐ  และเอกชนมีส่วนร่วมสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพเด็กพิการ 

 

       สำหรับบรรยากาศภายในงานครึกครื้นด้วยการแสดง  และการลุ้นของขวัญจำนวนมากจากมีผู้ใหญ่ใจดีจากหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและเอกชน   ทางด้านผู้ประกอบการร้านค้า ร้านอาหาร  ต่างก็นำอาหารมาแจกจ่าย อย่างไอศกรีม หมี่ผัด  ผัดไทย เครื่องดื่มหวานเย็นมาแจกจ่าย  ข้าวหมก ข้าวเหนียวไก่ทอด และมีพี่ๆ คุณครู  แต่งกายในชุดแอลซ่า  อันนา  ตัวละครในการ์ตูนคอยเติมสีสันต์ต้อนรับเด็กๆภายในงาน ทำให้วันเด็กพิการพิเศษกว่าทุกวัน  

………

อัพเดทล่าสุด