Categories
ข่าวทั่วไป

Tellscore จับมือ มูลนิธิเพื่อ“คนไทย” และ “ร้อยพลังสร้างสังคมดี”  จัดกิจกรรม Help You, HelpMe

กรุงเทพฯ Tellscore จับมือ มูลนิธิเพื่อ“คนไทย” และ “ร้อยพลังสร้างสังคมดี”  จัดกิจกรรม Help You, Help Me หนึ่งในโครงการ  Influencer for Change นับเป็นปีที่ 4 สนับสนุนสื่ออินฟลูเอนเซอร์ 300 คน สำหรับโครงการเพื่อสังคม 6 โครงการที่ได้รับรางวัล   

       ดังที่ทราบกันว่า หนึ่งในตัวช่วยสำคัญและนับเป็นทรัพยากรที่ภาคประชาสังคมผู้ขับเคลื่อนงานพัฒนาความยั่งยืนมีความต้องการก็คือ “สื่อ” เพื่อเป็นเครื่องมือระดมความช่วยเหลือจากประชาชนจำนวนมาก  “สื่อบุคคล” หรือ “อินฟลูเอนเซอร์” นับเป็นอีกตัวอย่างช่องทางการสื่อสารที่ทรงพลัง  นี่คือที่มาของกิจกรรม Help You, Help Me :  Influencer for Change โครงการสรรค์สร้างสังคมที่บริษัท เทลสกอร์ จำกัด (Tellscore) หนึ่งในผู้นำ Influencer Marketing ของประเทศไทยได้ก่อตั้งขึ้นร่วมกับมูลนิธิเพื่อ“คนไทย” และ“โครงการร้อยพลังสร้างสังคมดี” เพื่อเชิญชวนและสนับสนุนให้สื่ออินฟลูเอนเซอร์ในระบบเทลสกอร์ มาเป็นอาสาสมัครสื่อสารโครงการเพื่อสังคมของภาคีเครือข่าย โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดๆ

      กิจกรรม Help You, Help Me เริ่มครั้งแรกเมื่อปี 2563 สู่ปีที่4 ในปีนี้ มีหน่วยงานภาคสังคมส่งโครงการมารับการพิจารณารางวัลสื่ออินฟลูเอนเซอร์มากกว่า 50 โครงการ และมีโครงการที่ได้รับรางวัลแล้วมากกว่า 20 โครงการ โดยแต่ละปีเทลสกอร์ได้เชื่อมต่อและสนับสนุนอาสาสมัครสื่ออินฟลูเอนเซอร์ในระบบให้โครงการที่ได้รับรางวัลๆ ละ 50 คน ปีละ 6 โครงการ หรือ 300 คนต่อปี  รวมจำนวนทั้งสิ้นกว่า 1,000 คน ไม่รวมอีกกว่า 3,000 คนที่ได้อาสาเป็นกระบอกเสียงช่วงวิกฤติโควิด-19 นับเป็นความร่วมมือที่ขาดคนสำคัญอย่างอินฟลูเอนเซอร์ไม่ได้ และยังเป็นการสร้างกระบวนการที่ภาคสังคมสามารถเรียนรู้หลักการสื่อสารโดยการใช้สื่อบุคคล และเรียนรู้การใช้ระบบเทลสกอร์ ไว้สานต่อด้วยตัวเอง

       สำหรับโครงการ Help You, Help Me season 4 เพิ่งจัดไปเมื่อเร็วๆ นี้ นั้น ได้รับความสนใจจาก 21 องค์กรภาคสังคมร่วมนำเสนอโครงการ ทั้งนี้ โครงการที่ได้รับรางวัลสื่ออินฟลูเอนเซอร์ 6 โครงการ ได้แก่ 1) Dots Coffee ร้านกาแฟที่ให้บริการโดยคนพิการทางสายตาร้านแรกและร้านเดียวในโลก www.dotscoffee.com  2)  insKru Collection 2023 พื้นที่แบ่งปันไอเดียการสอนhttps://new.inskru.com/idea-library/ 3)โรงเรียนจิตศึกษาพัฒนาปัญญาภายใน หรือโรงเรียนนอกกะลา https://www.lamplaimat.ac.th/  4) Money Genius ปลดหนี้ 4 ภาค https://geniusschoolthailand.com/  5) หัวใจมีหู : สร้างพื้นที่ปลอดภัย สร้างพื้นที่รับฟังด้วยใจ https://www.satiapp.co/ 6) Local Heroes Funds ท่องเที่ยวชุมชน  https://localalike.com/

       คุณวิเชียร พงศธร ประธานกรรมการมูลนิธิเพื่อ “คนไทย”  กล่าวว่า งานครั้งนี้มีตัวแทนและหน่วยงานด้านสังคมที่ขับเคลื่อนงานหลากหลายประเด็นเข้าร่วม เช่น ประเด็นการศึกษา เด็กและเยาวชน โรงเรียน สิ่งแวดล้อม ทรัพยากรธรรมชาติ ธรรมาภิบาล แม้กระทั่งเรื่องสัตว์ ฯลฯ แต่ละประเด็นนับเป็นเรื่องสำคัญในสังคม ทั้งหมดเป็นเรื่องที่ใหญ่เกินกว่าที่ใครคนใดคนหนึ่งจะรับผิดชอบดูแลได้ ต้องอาศัยทุกคนช่วยกัน และต้องอาศัยคนอีกจำนวนมากมาช่วยกันดูแลสังคม สร้างสังคมของเราให้เข้มแข็ง เป็นสังคมที่ดี ที่น่าอยู่ ดังนั้น ในกระบวนการหนึ่งที่จะทำให้ความตั้งใจดีๆ สิ่งดีๆ สิ่งต่างๆ เหล่านี้เกิดขึ้น ต้องอาศัยกลไกการสื่อสารบอกกล่าวเชิญชวนเพื่อนอีกจำนวนมาก เพื่อจะมาทำสิ่งดีๆ เพื่อสังคมร่วมกัน

        คุณสุวิตา จรัญวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง บริษัท เทลสกอร์ จำกัด กล่าวว่า โครงการ Help You, Help Me จะได้เหล่าอินฟลูเอนเซอร์ซึ่งพลังสูงมากมาทำคอนเทนต์ และเทลสกอร์เป็นเอเจนซี่ที่มีความรู้ด้าน Digital Boosting Media สามารถช่วยใส่เขี้ยวเล็บให้กับแต่ละโพสต์ ช่วยสร้างเอ็นเกจเมนต์ และ เพอร์ฟอร์แมนซ์ให้ดียิ่งขึ้น เช่น ถ้ามีการระดมทุน หรืออยากได้สมาชิกไปทำอาสาสมัครต่างๆ เราหวังว่ากิจกรรมเหล่านี้จะบรรลุผลมากขึ้นจากการกระจายข่าว

      “ทั้ง 21 โครงการที่ร่วมงานนี้ทำให้เทลสกอร์มีความรู้เพิ่มขึ้น โดยความรู้เหล่านี้เราจะถ่ายทอดต่อให้น้องๆอินฟลูเอนเซอร์ ซึ่งหลังจากนี้จะเป็นกระบวนการทำซ้ำที่ไม่มีวันจบสิ้น กลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ก็จะได้รับแรงบันดาลใจจากโครงการของภาคสังคม เขาก็จะชักชวนเพื่อนๆ เข้ามาเป็นจิตอาสาเพิ่มเติมอีกเรื่อยๆ” คุณสุวิตากล่าว

        ด้านคุณมาวิน ทวีผล  Foodie Influencer ชื่อดัง ที่มีผู้ติดตามมากกว่า 3 ล้านคนบนโซเชียลมีเดีย ในฐานะแขกรับเชิญพิเศษที่ได้มาแบ่งปันประสบการณ์การทำคอนเทนต์ช่วยเหลือสังคม และเป็นกำลังใจให้กับภาคีเครือข่ายเพื่อสังคมในกิจกรรมนี้  ได้แสดงความคิดเห็นว่า คนไทยต้องช่วยกัน คนเดียวเป็นไปไม่ได้ ต้องไปด้วยกันทุกคน ทุกคนไม่ได้เก่งเหมือนกันหมด

       “ทุกร้านที่ผมไปกิน จริงๆ มันแค่หนึ่งมื้อธรรมดาของผมแต่เป็นมื้อพิเศษของร้านเขา เพราะผมจะทำคอนเทนต์ให้เขา ไม่มากก็น้อย คนจะตามไปหาเขา ผมว่ามันก่อเกิดประโยชน์ให้เขามาก โครงการดี ผมเป็นกระบอกเสียง ต้องช่วยกันเพื่อนำสังคม ทั้งอินฟลูเอ็นเซอร์ ทุกคนต้องช่วยกันหมด ทางเทลสกอร์มีอินฟลูเอนเซอร์ที่พร้อมซัพพอร์ตเยอะมาก เราต้องไปด้วยกันได้ ขอให้ทุกคนทำโครงการดีๆต่อไปทางเทลสกอร์จะซัพพอร์ตแน่นอน แล้วเดี๋ยวประชาชนจะเห็นกว้างมากขึ้น เป็นคลื่นที่กระเพื่อมแรงใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ ผมเชื่อแบบนั้น”  

กิจกรรม Help You, Help Me นอกจากจะเป็นการช่วยเหลือหน่วยงานเครือข่ายเพื่อสังคมประชาสัมพันธ์โครงการ และแคมเปญดีๆ ด้วยสื่ออินฟลูเอนเซอร์แล้ว ยังเป็นการสนับสนุนให้เกิดกระบวนการเรียนรู้การสร้างกระบอกเสียงได้ด้วยตัวเอง ช่วยขยายผล และต่อยอดแคมเปญอันหลากหลายนี้สู่การรับรู้ของสาธารณะในช่องทางดิจิทัล ช่วยนำเสนอแนวคิดการจัดกิจกรรมเพื่อสังคม โดยเฉพาะกับหน่วยงาน หรือองค์กร ทั้งภาครัฐ และเอกชน ที่ต้องการทำโครงการเพื่อสังคม และยังเป็นการพัฒนาสังคมในทุกด้านอย่างยั่งยืน

         สำหรับผู้สนใจร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกระบอกเสียงเพื่อช่วยเหลือหน่วยงานภาคสังคม แค่เพียงมีช่องทางในโซเชียลมีเดีย ไม่จำเป็นต้องเป็นอินฟลูเอนเซอร์ ก็สามารถร่วมเป็นหนึ่งในกระบอกเสียงที่มีความหมาย และต่ออายุให้ภาคสังคมได้มากกว่าที่คิด สามารถเริ่มได้ตั้งแต่วันนี้ ติดต่อ contact@tellscore ระบุ “โครงการ Help You, Help Me”

         สำหรับหน่วยงาน  หรือองค์ใดที่ต้องการต่อยอดแนวคิดการจัดกิจกรรมเพื่อสังคม สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://helpyouhelpme.tellscore.com/ หรือหากต้องการคำปรึกษาด้านการตลาดอินฟลูเอนเซอร์สำหรับโครงการต่างๆ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://tellscore.com

 

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

  สตูล-ลิงอันธพาลป่วนเมือง  ชาวบ้านสุดทนดึงสายไฟ สายสัญญาณเน็ต ทศจ.เปิดเวทีถกทางออกลั่นปีนี้ต้องทำหมันด่วน 200 ตัวเพื่อบรรเทาปัญหา   

สตูล-ลิงอันธพาลป่วนเมือง  ชาวบ้านสุดทนดึงสายไฟ สายสัญญาณเน็ต ทศจ.เปิดเวทีถกทางออกลั่นปีนี้ต้องทำหมันด่วน 200 ตัวเพื่อบรรเทาปัญหา

        ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  (วันที่ 8 ส.ค.2566)  ปัญหาลิงป่วนชุมชนเมืองสตูล   ขณะนี้นับเป็นปัญหาเร่งด่วนที่ชาวบ้านชุมชนเมือง   ตำบลพิมาน   อำเภอเมือง  จังหวัดสตูล  หวังจะให้ภาครัฐ และหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ไข  โดยปัญหาเริ่มตั้งแต่ปี 2565 มาจนถึงปัจจุบัน  ประกอบกับปริมาณลิงเสมที่เพิ่มขึ้น   ทำให้ไร้อาหาร  ไร้ที่อยู่อาศัย  ต่างพากันอพยพเข้ามาสร้างปัญหาในย่านเศรษฐกิจของตัวเมืองสตูล 

       ภาพลิงเสมเดินตามเสาไฟฟ้าแรงสูง   กระโดดไปมาอย่างสนุกสนาน   และปีนไต่ตามอาคารบ้านเรือนทำลายข้าวของหลังคาชำรุดเสียหาย  จนชาวบ้านชุมชนเมืองต่างรวมตัวกันร้องผ่านสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม จังหวัดสตูล  เป็นตัวกลางเร่งหาแนวทางการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน   เนื่องจากพบว่าลิงเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง  การบริหารจัดการแก้ปัญหาผู้บริหารระดับท้องถิ่นหรือจังหวัด  ไม่มีอำนาจแก้ปัญหาให้ได้ทันท่วงที   ต้องได้รับการอนุญาตจากหน่วยเหนือเท่านั้น

        ตัวแทนชาวบ้าน  ว่าที่ร้อยตรีหญิงภณิชา  จิ๊บวรภัทร  ประธานชุมชนโรงพระสามัคคี  บอกว่า   ปัญหาลิงถือว่าสร้างความเดือดร้อนชาวบ้านชุมชนเมืองเป็นอย่างมาก โดยทุกเช้าลิงจะเดินออกมาสร้างความเดือดร้อนดึงสายไฟสายอินเตอร์เน็ต สายเคเบิ้ลทำให้ชาวบ้านเดือดร้อน  เพราะต้องแก้ไขปัญหาอยู่ตลอดเวลา  ทำหลังคารั่วแตก  ปัญหาเริ่มมาจากช่วงโควิดเมื่อทุกคนออกมาอยู่นอกบ้านมากขึ้นก็จะเห็นว่าปริมาณลิง เพิ่มมากขึ้น  พบว่าลิงมาอยู่ในเมืองเป็นจำนวนมาก   จึงอยากให้มีการแก้ปัญหาลิง 200 ตัว ที่เข้ามาอยู่ในเมืองอยากให้จัดการปัญหาลิงชุดนี้ก่อน พร้อมส่งคืนสู่ธรรมชาติ

          จากปัญหาที่เกิดขึ้น  นายเทอดไทย   ขวัญทอง  ผอ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดสตูล  เปิดพื้นที่ประชุมหารือทุกส่วนที่เกี่ยวข้องและตัวแทนชาวบ้านชุมชนเมือง  พร้อมเชิญ นายพิบูลย์  รัชกิจประการ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์เขต 1 จังหวัดสตูล และนายวิเชียร   ตันติอาภรณ์   นายกเทศมนตรีเมืองสตูล ร่วมหารือและหาแนวทางออกแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ชาวบ้านในครั้งนี้  พร้อมกับนายสถาวิทย์  สุวรรณรัตน์  หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองปลักพระยาและเขาระยาบังสา  ตัวแทน  ผอ. สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่  5 (นครศรีธรรมราช)

       นายพิบูลย์  รัชกิจประการ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร์เขต 1 จังหวัดสตูล  กล่าวว่า   ปัญหาลิงอยากให้ทางจังหวัดแก้ไขกันเองก่อนตามลำดับขั้น  ส่วน ส.ส.เอง เข้าไปแก้โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  ว่าต้องการให้สื่อสารถึงใครกับปัญหานี้ อาทิ รัฐมนตรี หรือปลัดกระทรวง หรือให้สื่อถึงอธิบดี โดยส.ส. และผู้แทนของท่านได้ช่วยในขั้นตอนนี้ได้  ส่วนการยกเลิกให้ลิงออกจากสัตว์ป่าคุ้มครองนั้น  เห็นว่าไม่ใช่ทางออกของการแก้ปัญหานี้  

       นายสถาวิทย์  สุวรรณรัตน์  หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองปลักพระยาและเขาระยาบังสา ตัวแทน  ผอ. สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่  5 (นครศรีธรรมราช)  สรุปว่า  เบื้องต้นของการแก้ปัญหาจะเร่งทำโครงการทำหมันลิง เพื่อเสนอขออนุญาตจากอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติรักษาพันธุ์สัตว์ป่าและพันธุ์พืช  หลังได้รับงบอุดหนุนจากเทศบาลเมืองสตูล จำนวน 400,000 บาท  นอกจากนี้ในที่ประชุมได้เสนอให้ทางกรมอุทยานสนับสนุนการทำหมันลิงในปีต่อๆไป  เพื่อแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน ในพื้นที่เทศบาลเมืองสตูล

       ปัญหาลิงในจังหวัดสตูล ถือว่าเป็นปัญหาเร่งด่วนไม่ว่าจะเป็นจากหน่วยงานราชการและชาวบ้าน ค่อนข้างเยอะ กรมอุทยานเองมีความตั้งใจอยากจะแก้ไขปัญหาตรงนี้

       ซึ่งจะพยายามทำให้เร็วที่สุดในปี 2566 ชุดแรกจำนวน 200 ตัว ในพื้นที่เทศบาลเมืองสตูล ปัญหาอุปสรรคพบว่าลิงไม่ได้สร้างปัญหาเฉพาะในพื้นที่จังหวัดสตูล   หลายพื้นที่ในภาคใต้ก็ประสบปัญหาคล้ายกัน อาทิ  กระบี่   พังงา ประกอบกับสัตวแพทย์ของอุทยานมีอยู่อย่างจำกัด ทำให้ต้องจัดสรรเวลาในการมาทำหมันที่นี่

       ส่วนคำถามที่ว่าจะมีการบูรณาการร่วมกับปศุสัตว์จังหวัด  อันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งช่องทางเทคนิคสัตวแพทย์ของปศุสัตว์จังหวัด  มาร่วมกันต้องมีการพูดคุยอีกครั้ง

…………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สตูล-หนุ่มรัฐศาสตร์  เปิดกระทรวงเกษา รับรุนผมไม่หวั่นแม้วันมามาก  วัยรุ่นนักการเมืองจองคิวแน่น

สตูลหนุ่มรัฐศาสตร์  เปิดกระทรวงเกษา รับรุนผมไม่หวั่นแม้วันมามาก  วัยรุ่นนักการเมืองจองคิวแน่น

        กระทรวงเกษา  ป้ายชื่อร้านที่เขียนด้วยตัวอักษรสีทองดูโดดเด่นสดุดตา  จนต้องหาคำตอบว่า ร้านอะไร  หรือหน่วยงานราชการ สังกัดใดกัน  สำหรับ  “กระทรวงเกษา” เป็นร้านตัดผม ของนายจักรพงษ์  หมันเหตุ อายุ 39 ปี  ดีกรีปริญญาตรี รัฐศาสตร์ เป็นชาวจังหวัดสตูล  ที่แม้จะเรียนจบมา  ทำงานไม่ตรงกับสายที่เรียนเท่าไหร่    ก่อนค้นพบตัวเองว่าชื่นชอบการตัดผม  จึงไปศึกษาหาความรู้  ก่อนจะยึดเป็นอาชีพนี้มายาวนานถึง  10  ปีจนถึงปัจจุบัน

       สำหรับร้าน กระทรวงเกษา  ตั้งอยู่ในพื้นที่ถนนสายใน  ก่อนถึงเทศบาลตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล  ดำเนินงานภายใต้สโลแกน  “พร้อมรุน…แม้วันที่คุณจะมามาก!”

       เมื่อทีมข่าวเดินทางเข้าไปภายในร้าน  ซึ่งตกแต่งเก๋ๆสไตล์วัยรุ่น   บรรยากาศผ่อนคลาย    โดยมีกลุ่มวัยรุ่น  ลูกค้าแวะเวียนมานั่งเสวนา   และรับบริการตัดผม  ซึ่งลูกค้าที่จะมาตัดผมที่ร้าน  กระทรวงเกษา  ต้องจองคิวล่วงหน้าเท่านั้น  จะเดินเข้ามาตัดในร้านแบบสุ่มๆไม่ได้  เพราะทางร้านต้องตัดตามลำดับคิว  นับเป็นการบริหารจัดการร้านอย่างหนึ่ง  และลูกค้าก็ไม่ต้องมานั่งรอนาน ด้วย 

          ทางด้านลูกค้าบอกว่า  ตัดผมเดือนละครั้ง  โดยจะมาทุกเดือน  เพราะเจ้าของร้านเป็นกันเอง คุยสนุกสำหรับทรงผมนั้นก็เอาแบบมาให้ดู  มีบางครั้งช่างก็จะบอกว่าทรงนี้ไม่เหมาะกับโครงหน้า  ก็จะแนะนำให้  ส่วนราคาสู้ได้อยู่

         นายจักรพงษ์  หมันเหตุ เจ้าของร้านกระทรวงเกษา กล่าวว่า   โดยเฉพาะช่วงเทศกาล  จะมีลูกค้าเข้าคิวตัดผม  ยาวไปถึงเช้าก็เคยมีมาแล้ว   ส่วนวันธรรมดาลูกค้าก็จองคิวยาวไปจนถึงค่ำมืด  สำหรับลูกค้าก็มีหลากหลาย แม้กระทั่ง สส.ของจังหวัดสตูล ยังมาจองคิวตัดผมกันที่ร้านนี้ด้วย   การันตีฝีมือกันไปเลย

         ทางร้านรับลูกค้าเฉลี่ยวันละ20 คน  รายได้ตกเดือนละ  36,000 บาท อนาคตเตรียมปั้นช่างเพิ่ม

       สำหรับราคาบริการตัดผม  อยู่ที่  60-100 บาท  เด็ก 60  วัยรุ่น 80  ส่วนผู้ใหญ่ 100 บาท  ทุกทรง โดยลูกค้าสามารถ จองคิวได้ทางเพจของร้าน  กระทรวงเกษา  หรือโทรจองได้เบอร์ 089-653  4586 

  …………………………………….

จันทนา  กูรีกัน //รายงาน

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

ทันตแพทย์อาสา ลงพื้นที่ให้บริการด้านทันตกรรมแก่ประชาชน ผู้ประกอบการและลูกจ้างบนเกาะหลีเป๊ะ ภายใต้โครงการรณรงค์ทันตสาธารณสุข

สสจ.สตูล ร่วมกับ โรงพยาบาลสตูลและภาคีเครือข่าย นำทันตแพทย์อาสา ลงพื้นที่ให้บริการด้านทันตกรรมแก่ประชาชน ผู้ประกอบการและลูกจ้างในพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ ภายใต้โครงการรณรงค์ทันตสาธารณสุข ระหว่างวันที่ 7 – 11 สิงหาคม 2566 

       วันที่ 8 ส.ค.66  ที่บันดาหยารีสอร์ท เกาะหลีเป๊ะ  ต.เกาะสาหร่าย  อ.เมือง  จ.สตูล  นายแพทย์วิโรจน์ โยมเมือง รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์โรงพยาบาลสตูล นำทีมทันตแพทย์อาสาจังหวัดสตูลเดินทางลงพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ  เพื่อให้การดูแลด้านทันตกรรมแก่ประชาชนในพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ โดยมีประชาชน ผู้ประกอบการ ลูกจ้างและนักเรียนมาร่วมรับบริการจำนวนมาก

       สืบเนื่องจาก  โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเกาะหลีเป๊ะไม่มีบุคลากรอยู่ประจำและไม่มีคลินิกทันตกรรมเอกชน  ประชาชนจำเป็นต้องเข้ารับการรักษาทางทันตกรรมที่โรงพยาบาลละงู  ซึ่งเป็นศูนย์บริการทางทันตกรรมของรัฐที่ใกล้ที่สุด  แต่เนื่องด้วยการเดินทางที่ยากลำบาก  จึงทำให้ประชานบนเกาะหลีเป๊ะจำนวนมากขาดโอกาสในการเข้าถึงการบริการทันตกรรมอย่างสม่ำเสมอ  ส่งผลต่อสุขภาพช่องปากและสุขภาพโดยรวมเป็นอย่างมาก เนื่องจากเกาะหลีเป๊ะอยู่ห่างจากชายฝั่งต้องเดินทางโดยทางเรือและมีค่าใช้จ่ายจำนวนมาก

        สำหรับการให้บริการด้านทันตกรรมแก่ประชาชนในพื้นที่เกาะหลีเป๊ะ ในครั้งนี้ ภายใต้ความร่วมมือของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสตูล โรงพยาบาลสตูล โรงพยาบาลชุมชนทุกแห่ง และ service plan ทันตกรรม สสจ.สตูล เพื่อเพิ่มการเข้าถึงบริการที่ดีกับประชาชนในพื้นที่พิเศษและเพิ่มศักยภาพด้านการให้บริการทันตกรรม รพ.สต.บ้านเกาะหลีเป๊ะ มีกลุ่มเป้าหมายจำนวน 340 คน แบ่งเป็นการรักษาทางทันตกรรมอุดฟัน 80 คน ขูดหินน้ำลาย 80 คน ถอนฟัน 80 คน และให้บริการตรวจสุขภาพช่องปากและเคลือบฟลูออไรด์ให้กับเด็กนักเรียนโรงเรียนบ้านเกาะหลีเป๊ะจำนวน 100 คนอีกด้วย

…………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

ศาลจังหวัดสตูล จัดงาน “วันรพี” ประจำปี 2566 น้อมรำลึกถึง “พระบิดาแห่งกฎหมายไทย”

ศาลจังหวัดสตูล จัดงาน “วันรพี” ประจำปี 2566 น้อมรำลึกถึง “พระบิดาแห่งกฎหมายไทย”      

         วันที่ 7 ส.ค.66  ศาลจังหวัดสตูล ร่วมกับศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสตูล จัดกิจกรรมเนื่องในวันรพี ประจำปี 2566 เพื่อน้อมรำลึกถึงพระกรุณาธิคุณของ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ “พระบิดาแห่งกฎหมายไทย” มีการประกอบพิธีสงฆ์ และพิธีวางพวงมาลาถวายราชสักการะ โดยมีนายพิฑัต กองใจ ผู้พิพากษาหัวหน้าศาลจังหวัดสตูล เป็นประธานในพิธี พร้อมด้วยนายชาตรี ณ ถลาง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล หัวหน้าส่วนราชการและเจ้าหน้าที่ในสังกัดกระทรวงยุติธรรมต่าง ๆ ร่วมพิธีวางพวงมาลากันอย่างพร้อมเพรียง ณ บริเวณหน้าศาลจังหวัดสตูล อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูล

          วันรพีตรงกับวันที่ 7 สิงหาคมของทุกปี เป็นวันคล้ายวันสิ้นพระชนม์ของพระเจ้าบรมวงศ์เธอกรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ผู้ทรงได้รับการยกย่องให้เป็นพระบิดาแห่งกฎหมายไทย เนื่องจากพระองค์ทรงเป็นนักนิติศาสตร์ และทรงวางระบบแบบแผนศาลยุติธรรม รวมถึงทรงจัดตั้งโรงเรียนกฎหมาย ขึ้นเป็นครั้งแรกในประเทศไทย อันเป็นประโยชน์ใหญ่ยิ่งแก่ประเทศชาติ พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ มีพระนามเดิมว่า พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ ทรงเป็นพระราชโอรสองค์ที่ 14 ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว โดยประสูติจากเจ้าจอมมารดาตลับ เมื่อวันที่ 21 ตุลาคม 2417 ทรงสำเร็จการศึกษาวิซากฎหมาย

          หลังจากนั้นทรงเข้ารับราชการในกรมราชเลขานุการทรงปฏิบัติงานเป็นที่พอพระราชหฤทัยในสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว พระบรมชนกนาถเป็นอย่างยิ่ง และพระองค์ได้สิ้นพระชนม์ด้วยโรควัณโรคที่พระวักกะ ในวันที่ 7 สิงหาคม 2463 วงการนักกฎหมายจึงได้ถือเอาวันที่พระองค์สิ้นพระชนม์ เป็นวันรำลึกถึงคุณงามความดีของท่านที่มีต่อวงการกฎหมายไทย โดยใช้ชื่อว่า “วันรพี “

……………………

ภาพ-ข่าว : ศุภาพิชญ์ ดวงไข

 

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 ชี้เป้าของถูก ขนมจีนเจ้าอร่อยในตำนาน100 ปี  เมืองท่องเที่ยวใน อำเภอละงู จ.สตูล  

ชี้เป้าของถูก…ขนมจีนเจ้าอร่อยในตำนาน100 ปี  เมืองท่องเที่ยวใน อำเภอละงู จ.สตูล

         พูดถึงขนมจีน  หลายจังหวัดก็จะมีเจ้าดังเจ้าเด่นที่อร่อย  ที่อำเภอละงู  จังหวัดสตูลก็มีเช่นกัน  ร้านที่อยากจะแนะนำ  ก่อนนักท่องเที่ยวจะเดินทางลงไปยังเกาะหลีเป๊ะ  อยากให้แวะร้านนี้เลย   “ร้านขนมจีนเจ้าอร่อยในตำนานของอำเภอละงู” ชาวบ้านในพื้นที่เรียกว่า ร้านก๊ะแดง หรือว่า ร้านจ๊ะสาหนี   ซึ่งเป็นธุรกิจร้านขายอาหารกันในครอบครัว   โดยเฉพาะขนมจีนที่ส่งต่อมาสู่รุ่นที่ 3 แล้ว  ร้านตั้งอยู่สามแยกปากปิง (มุ่งหน้าไปบ่อเจ็ดลูกแหล่งท่องเที่ยว) ประมาณ 50 เมตร ในเขตเทศบาลตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล

        ที่ร้านนี้มีความโดดเด่นในเรื่องของผักเครื่องเคียงที่จัดมาแบบจุใจ  หลากหลายกับผักพื้นบ้าน  และผักดอง   นอกจากนี้  น้ำยาขนมจีนยังใช้ปลาสดจากท้องทะเลสตูล   ทำขายวันต่อวัน 60 ถึง 100 กิโลกรัม ขณะที่เส้นขนมจีนต้องสั่งเจ้าประจำที่ใช้เครื่องมือโบราณ  และพิถีพิถันกับการทำเส้นสด   มีลูกค้าติดใจและเป็นลูกค้าของทางร้านมายาวนานมาจนถึงทุกวันนี้

        น้ำยาขนมจีนแกงกะทิ  แกงไตปลา  และแกงหวาน  ที่ตักเสิร์ฟเติมชนิดจุใจ   ลูกค้าอิ่มชนิดร้องขอชีวิต   ด้วยราคาจานละ 25 บาท  ไข่ต้มฟองละ 6 บาท  นอกจากนี้ภายในร้าน    ไม่ได้มีขายเฉพาะขนมจีนเท่านั้น    ยังมีข้าวเหนียวไก่ทอด  ข้าวหมกไก่ทอด   หรือข้าวแกง   ชากาแฟไว้บริการด้วย   ลูกค้าส่วนใหญ่นอกจากนักท่องเที่ยวแล้ว  จะมีลูกค้าประจำจากรุ่นแรกๆและบอกต่อปากต่อปากมาทานกันที่นี่

         ร้านเปิดทุกวันตั้งแต่เวลา 6:00 น จนถึงบ่ายโมง  รับออเดอร์ซื้อเป็นกิโลกรัมไปทานที่บ้าน หรือรับทำเป็นชุด  จะขายที่ร้านแห่งนี้และในตลาดถนนคนเดิน 2 แห่งเท่านั้น

         ก๊ะแดง  นางจรรญา   อุโยบ  อายุ 63 ปี เจ้าของร้านบอกว่า  ที่ร้านแห่งนี้ทำเป็นธุรกิจในครอบครัวขายมาตั้งแต่รุ่นพ่อแม่และมาสืบทอดจนถึงรุ่นพวกตน รุ่นที่3  เราจะใส่ใจ  ในส่วนของวัตถุดิบตั้งแต่ผักเครื่องเคียง  ที่มาทานกับขนมจีน  รวมทั้งเส้นขนมจีนที่จะต้องเป็นเส้นสดเท่านั้น   อีกทางวัตถุดิบในการทำปลาและเครื่องแกงจะทำเองกับมือ  เพื่อให้ได้น้ำยาขนมจีนใหม่สดทุกวัน    ลูกค้า ถ้าเป็นวันธรรมดาจะขายวันละ 60 กิโลกรัม   หากเป็นวันตลาดนัดหรือถนนคนเดินขายวันละ 100 กิโลกรัม ลูกค้าที่สนใจสามารถติดต่อสอบถามหรือสั่งซื้อได้ทางหมายเลขโทร. 085  080  9311

อัพเดทล่าสุด
Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

สตูล-เปิดเทศกาล  ฮาลาลสตรีท 2023 ครั้งที่ 4  ระหว่าง 4-6 ส.ค.2566 หวังศูนย์กลางด้านอาหารและการท่องเที่ยวฮาลาลของประเทศไทย  ขณะที่พิธีเปิดอลังการ

สตูล-เปิดเทศกาล  ฮาลาลสตรีท 2023 ครั้งที่ 4  ระหว่างวันที่ 4-6 ส.ค.2566 หวังศูนย์กลางด้านอาหารและการท่องเที่ยวฮาลาลของประเทศไทย  ขณะที่พิธีเปิดอลังการ

        วันหยุดสุดสัปดาห์มีแหล่งท่องเที่ยวแหล่งจับจ่ายมาแนะนำ  นักท่องเที่ยวสายวัฒนธรรม  โดยทางอบจ.สตูล ได้จัดงาน  “สตูลฮาลาลสตรีท 2023” ครั้งที่ 4  ระหว่างวันที่ 4-6 ส.ค.2566 ขึ้นที่ บริเวณพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ (คฤหาสน์กูเด็น)  ตำบลพิมาน  อำเภอเมือง จังหวัดสตูล   โดยภายในงานมีการจัดนิทรรศการจากภาคส่วนต่าง ๆ การออกร้านจากผู้ประกอบการ  ที่มีทั้งอาหารคาว  หวาน  และอาหารซีฟู้ดที่ขึ้นชื่อในจังหวัดสตูล และจังหวัดข้างเคียง  โดยเฉพาะเมนูยอดฮิตของชาวสตูลคือโรตี  ในรูปแบบต่าง ๆ  อาหารทะเลซีฟู้ดสด ๆ จากทะเลสตูล และเมนูอาหารวัฒนธรรมท้องถิ่นมากมายมารวมภายในงานนี้  

        นอกจากนี้ยังมีการจัดกิจกรรมสาธิตเมนูอาหารและชิมฟรี  กิจกรรมการเสวนา “ฮาลาลเพื่อการท่องเที่ยว”  โดยสถาบันฮาลาล มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสตูล   การแสดงนาฏศิลป์มลายู ชุด Eid Mubarak จากคณะศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยทักษิณ  การแสดงอันนาชีด โดยวงนัจมี  จากโรงเรียนสามัคคีอิสสลามวิทยา

        ก่อนที่นายสัมฤทธิ์ เลียงประสิทธิ์  นายกอบจ.สตูล  และแขกผู้มีเกียรติ  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสตูล  การท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสตูล  และกงสุลอินโดนีเซีย ประจำประเทศไทย  จะทำพิธีเปิดอย่างอลังการ   โดยใช้โดรนบินเหนือน่านฟ้านำป้ายอาหารฮาลาลมามอบให้ประธาน  เปิด อาจจะมีผิดคิวการเสียบป้ายเปิดของประธานพิธีบ้าง สร้างความตื่นเต้นและยิ่งใหญ่ของผู้มาร่วมงานไม่น้อย   

       โดยตลอดวันจัดงานเริ่มบ่ายสามโมงเย็น  โดยพรุ่งนี้มีการสาธิตเมนูอาหารทาร์ตผลไม้  โดยน้องนาดา  สาธิตเมนูอาหาร Pempek โดยกงสุลอินโดนีเชีย  การเสวนา ช้างเผือกตัวใหม่ ในวงการกาแฟไทย  โดยสมาชิกเครือข่ายกาแฟสตูล และการแสดงแสงสีเสียงมากกมาย  ในงานนี้ทางผู้จัดคาดหวังว่า  จังหวัดสตูลจะเป็นศูนย์กลางด้านอาหารและการท่องเที่ยวฮาลาลของประเทศไทย  เพื่อพัฒนาขีดความสามารถด้านการจัดการอาหาร และการท่องเที่ยวฮาลาลให้สามารถรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติได้ในระดับสากล   เนื่องจากจังหวัดสตูลประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามและติดกับประเทศมาเลเซีย  ทำให้สภาพภูมิประเทศเอื้อต่อการท่องเที่ยวและรองรับธุรกิจด้านอาหารฮาลาลได้เป็นอย่างดี

……………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สตูล-ชี้เป้าของถูกอร่อย…ข้าวเหนียว-ไก่ทอด อาหารสุดฮิตชิ้นใหญ่จัมโบ้เพียง 15 บาท  ขายไม่กี่ชั่วโมงเกลี้ยง   เจ้าของเผยขายถูกต้องการช่วยเหลือสังคมยุคข้าวของแพง 

สตูลชี้เป้าของถูกอร่อย…ข้าวเหนียว-ไก่ทอด อาหารสุดฮิตชิ้นใหญ่จัมโบ้เพียง 15 บาท  ขายไม่กี่ชั่วโมงเกลี้ยง   เจ้าของเผยขายถูกต้องการช่วยเหลือสังคมยุคข้าวของแพง 

        อาหารเช้าในพื้นที่ของจังหวัดสตูล  นอกจากโรตี-ชาชักหรือชาร้อนๆแล้ว   เมนูยอดฮิตทั้งเด็กนักเรียนและคนวัยทำงานโปรดปรานคือ  “ข้าวเหนียวไก่ทอด”  อยู่ที่ไหนก็ฮิตได้รับความนิยมเช่นเดียวกันร้านนี้   ชื่อร้าน  “ไก่ทอดหาดใหญ่”  ตั้งอยู่ก่อนถึงสะพานข้ามคลองซอยทรายทอง (ซอยเอวหัก)  หมู่ที่ 7  ตำบลคลองขุด  อำเภอเมือง  จังหวัดสตูล  โดยมีสองสามีภรรยาเจ้าของร้านไก่ทอดซึ่งเป็นชาวหาดใหญ่   ก่อนหน้าเคยไปขายข้าวเหนียวไก่ทอดที่จังหวัดกระบี่และเป็นคนหนึ่งที่ได้รับผลกระทบจากโควิด 19  ก่อนมาตั้งรกรากกับญาติที่จังหวัดสตูลนานร่วม 3 ปี

       แล้วโดยเริ่มแรกขายชิ้นละ 10 บาทก่อนขยับขึ้นมาเป็นชิ้นละ 15 บาทเพราะราคาไก่แพงขึ้นปัจจุบันขายชุดละ 20 บาท (ข้าวเหนียว 5 บาท ไก่หนึ่งชิ้นใหญ่ 15 บาท) ได้รับการตอบรับจากลูกค้าทั่วไปและต่างหมู่บ้านมาซื้อกันคึกคักเพราะด้วยไก่ทอดชิ้นใหญ่ราคาถูกที่ชาวบ้านเข้าถึงได้ง่าย ข้าวเหนียวก็นิ่มอร่อยชุดเดียวก็อิ่มจุก อร่อยหาทานยากในข้าวยากหมากแพง  

       ทางร้านเปิดขายตั้งแต่เวลา 6 โมงเช้าถึง 10 โมงเช้าเท่านั้นทุกวันจันทร์ – ศุกร์ วันละ 50 กิโลกรัม  ส่วนวันเสาร์,อาทิตย์ ขาย 60 กิโลกรัม รายได้ยังไม่หักค่าใช้จ่ายวันละ 5,000-6,500 บาท

       นางฮาซานะ   หมานระโต๊ะ   เจ้าของร้านไก่ทอดหาดใหญ่ ที่จ.สตูล  บอกว่า  สูตรของทางร้านจะเป็นสูตรเฉพาะหมักไก่ไว้หนึ่งคืนในช่องฟิตแล้วเอามาทอด โดยมีชิ้นส่วนของ (อกไก่  สะโพกไก่  ปีก และน่องไก่ เพียงชิ้นละ 15 บาทและโคลงไก่ชิ้นละ 20 บาท ข้าวเหนียวห่อละ 5 บาท)  ขายในราคาถูกแบบนี้ไม่เคยคิดขึ้นราคาเลยสงสารลูกค้าที่มีลูกเยอะ ได้ทานกันทุกคน   สิ่งหนึ่งที่ขายราคาถูกเพราะ ใจอยากช่วยเหลือสังคมในยุคข้าวยากหมากแพง  ซื้อทานได้ในราคาถูก

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

  สตูล – บิ๊กโจ๊ก  สั่งเซ็ทซีโร่เกาะหลีเป๊ะใหม่  หลังแผนที่ดาวเทียมทางทหารชี้ชัดบุกรุก 42 แปลงเตรียมเพิกถอน  

สตูล  บิ๊กโจ๊ก  สั่งเซ็ทซีโร่เกาะหลีเป๊ะใหม่  หลังแผนที่ดาวเทียมทางทหารชี้ชัดบุกรุก 42 แปลงเตรียมเพิกถอน  

         พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (รอง ผบ.ตร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการ ตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทในที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเล เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล ลงพื้นที่ประชุมตรวจติดตามความคืบหน้าการบังคับใช้กฎหมายและแก้ไขข้อพิพาทในที่ดินที่เกี่ยวข้องในชุมชนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ และติดตามความคืบหน้าการบังคับใช้กฎหมายกรณีบุกรุกที่อุทยานฯ รุกล้ำที่ราชพัสดุ และความผิด พรบ.โรงแรมและ พรบ.ควบคุมอาคาร    โดยมีนายชาตรี ณ ถลาง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในครั้งนี้

           ซึ่งความคืบหน้า   ประธานคณะกรรมการ ตรวจสอบข้อมูลและข้อเท็จจริงกรณีปัญหาข้อพิพาทในที่ดินที่เกี่ยวข้องกับชุมชนชาวเล เกาะหลีเป๊ะ จังหวัดสตูล  กล่าวว่า  ขณะนี้การดำเนินคดีโรงแรมทั้งหมด 103 คดีเป็นโรงแรมทั้งหมดในพื้นที่ 100 กว่าโรงแรม ได้แจ้งดำเนินคดีแจ้งข้อกล่าวหาไปหมดแล้ว   ยกเว้นโรงแรมที่ เป็นไปตามคำสั่งคสช. ซึ่งส่วนนี้ต้องให้ความเป็นธรรมเขา จำนวนสามสิบกว่าโรงแรมในส่วนของสำนวนทั้งหมดประมาณ 103 สำนวนจะดำเนินการสั่งคดีให้เสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนนี้

        ส่วนของการบุกรุกตั้งแต่เรื่องการบุกรุกที่ดินของโรงแรม   การก่อสร้างโรงแรมไม่ได้รับอนุญาต  การต่อเติมสร้างอาคารต่าง ๆ โดยผิดกฎหมายไม่ได้รับอนุญาต    เพราะฉะนั้นวันนี้การดำเนินการของที่ดินบนเกาะหลีเป๊ะหลักการต้องดำเนินตามกฎหมายเพราะว่าการใช้กฎหมายฉบับเดียวกัน   จะสร้างความเป็นธรรมให้กับทุกคนบนเกาะหลีเป๊ะเพราะว่าทุกคนต้องอยู่ภายใต้กฎหมายฉบับเดียวกัน

          และจากนี้ไปก็เป็นเรื่องการเพิกถอน ที่ต้องใช้เวลา โดยอธิบดีกรมที่ดินได้ตั้งคณะกรรมการฯ มาพิจารณายกเลิกเพิกถอนกรณีมีการออกเอกสารสิทธิ์โดยไม่ชอบ   โดยอาศัยหลักฐานทั้งเอกสาร ดีเอสไอ  และเอกสารจากกรมอุทยานแห่งชาติ   ซึ่งวันนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณา  โดยวันนี้มาเพื่อเร่งกระบวนการต่าง ๆ ให้เร็วขึ้น   และในส่วนของหลักฐานก็เพิ่มความชัดเจนให้มากขึ้น   คือภาพถ่ายแผนที่ทางอากาศขณะนี้กรมแผนที่ทหารโดยเจ้ากรมแผนที่ทหารรับรองแล้ว  ว่าภาพถ่ายทางอากาศมีการรับรองโดยเอกสารราชการโดยถูกต้อง    ต้องกลับไปใช้พ.ศ. 2493 ถึง 2494   เพราะฉะนั้นมันจะชัดเจนว่าอันไหนควรเพิกถอน  อันไหนไม่ควรเพิกถอน   เพราะฉะนั้นในเอกสารทั้งหมดที่ทำรายงานทั้งหมดประมาณ 10,000 กว่าแผ่น  พิจารณาให้เพิกถอนทั้งหมด 42 แปลง   หมดทั้งเกาะ   ในส่วนนี้ก็จะเซ็ทซีโร่ใหม่   ในส่วนของชาวบ้านที่จะทำกินก็ให้ดำเนินการไป    ในส่วนของเอกชนที่จะเข้ามาเพื่อสร้างให้เกาะหลีเป๊ะมีความเจริญเป็นแหล่งท่องเที่ยวเอารายได้เข้าเกาะหลีเป๊ะก็ต้องว่าไป  ก็จะได้จัดสรรปันส่วนโดยส่วนนี้ก็จะเป็นของกรมอุทยานแห่งชาติในฐานะเจ้าของพื้นที่จากที่มีการ เพิกถอนหมดทั้งเกาะแล้วอันนี้ยึดหลักกฎหมาย

          พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล   กล่าวเพิ่มเติมว่า   ส่วนปัญหาทางเดินโรงเรียนและลงชายหาดที่เป็นข้อพิพาทนั้น  แม้ขณะนี้ยังไม่เปิดเส้นทาง   โดยในวันอังคารหน้านี้ตนจะลงพบเอกชน และติดตามปัญหาทางเดินสารธารณะพร้อมกับ กรมที่ดิน  กรมอุทยาน   กรมธนารักษ์  และในส่วนของนายอำเภอ   ลงไปชี้แนวเขตทั้งหมด เพื่อให้จบและได้ออกเอกสารสิทธิ์    คือวันนี้ถามว่าทำไมมันสั่งสมมานาน  อย่าลืมนะว่าผู้ว่าราชการจังหวัด  ก็หนักใจต่างคนต่างอยู่   กรมอุทยานก็กรมนึง   กรมที่ดินก็กรมนึง   กรมธนารักษ์ก็กรมหนึ่ง   เมื่อกรมธนารักษ์พร้อมแต่กรมที่ดินไม่พร้อม   ด้วยเหตุนี้ทางนายกจึงได้ตั้งคณะกรรมการกลางขึ้นมาเพื่อเอาทุกกรม  ไปดำเนินการได้มันจะได้เสร็จ

อัพเดทล่าสุด
Categories
ท้องถิ่น-การเมือง

การเมือง สตูล นักวิชาการชี้เสนอท่านเศรษฐานั่งนายกรัฐมนตรีแค่ตัวหลอก ตัวจริงคือคุณอุ้งอิ้ง คนที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้คนเดียวคืออดีตนายกทักษิณเท่านั้นเชื่อเดินทางกลับตามวันเวลาเดิม

การเมือง สตูล นักวิชาการชี้เสนอท่านเศรษฐานั่งนายกรัฐมนตรีแค่ตัวหลอก ตัวจริงคือคุณอุ้งอิ้ง คนที่จะจัดตั้งรัฐบาลได้คนเดียวคืออดีตนายกทักษิณเท่านั้นเชื่อเดินทางกลับตามวันเวลาเดิม

               วันที่ 3 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่หน้าห้องประชุมภายในกองกำกับภูธรจังหวัดสตูล รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล ผอ.สถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย เปิดเผย ขณะเดินทางปฏิบัติภารกิจติดตามความคืบหน้าแก้ปัญหาเกาะหลีเป๊ะ ถึงประเด็นการเมืองในขณะนี้โดยเชื่อว่าที่เพื่อไทยประกาศจะเสนอให้ท่านเศรษฐานั่งนายกรัฐมนตรีนั้นเป็นแค่ตัวหลอกเพราะมีประเด็นที่น่าสนสงสัยมากมาย

          เชื่อว่านายกฯตัวจริงคือ คุณอุ้งอิ้ง และวันที่ 10 ส.ค.นี้ยังเป็นกำหนดการเดิมของการเดินทางกลับของอดีตนายกทักษิณ เพื่อมาจัดการเรื่องตั้งคณะรัฐมนตรี

           ส่วนการฉีก MOU ร่วมกับพรรคก้าวไกลรศ.ดร.ธนพร ศรียากูล ผอ.สถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย มองว่าพรรคเพื่อไทยชอบเล่นท่ายากก็ต้องเหนื่อยหน่อยในการรวมเสียงจัดตั้งรัฐบาล

 

          รศ.ดร.ธนพร ศรียากูล ผอ.สถาบันวิเคราะห์การเมืองและนโยบาย เปิดเผย ถึงสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ หลังพรรค เพื่อไทยฉีก MOU. โดยยืนยันว่าอดีตนายกทักษิณกลับตามวันเวลาเดิมแน่นอน

        ประเด็นที่ 1 ยืนยันว่าไม่มีการเลื่อนเนื่องจากคุณภูมิธรรมยืนยันเองว่าวันที่ 10 สิงหาคมอดีตนายกทักษิณมาตามกำหนดการเดิม เนื่องจากลุงโทนี่การอยู่ในฮ่องกงมันมีส่วนเหลือเวลาถึง 2 ชั่วโมงขณะที่การจัดตั้งรัฐบาลโดยพรรคเพื่อไทยหลังจากฉีด MOUมันมีรายละเอียดที่จะต้องเจรจากับหลายฝ่าย หากอยู่ที่ฮ่องกงพูดตรงๆว่ามันไม่สะดวก การมาอยู่เมืองไทยเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างน้อยก็อยู่ในประเทศไทย

       ประเด็นที่ 2 ยืนยันว่าคุณอุ้งอิ้งคือนายกตัวจริงของพรรคเพื่อไทย เพราะว่าคือลูกสาวสิ่งที่เราพบเห็นคือคุณเศรษฐามีข้อถูกสงสัยมากมาย เมื่อช่วงบ่ายนี้ก็มีการตั้งคำถาม 1 2 3 4 5หลายอย่าง ฉะนั้นแล้วคุณอุ้งอิ๊งจะเป็นหลักประกันที่ดีที่สุด ของ 1 คุณทักษิณเอง หากลูกสาวเป็นนายกการเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมจะมีความสะดวกสบายตามสมควร ขณะเดียวกันฝ่ายผู้มีอำนาจเองขณะที่คุณอุ้งอิ้งเป็นนายกกำกับพฤติกรรมไม่ให้เครือข่ายในพรรคเพื่อไทยไปทำสิ่งหนึ่งสิ่งใดที่เรียกว่าล้ำเส้นเหมือนอย่างที่เคยทำมาแล้วช่วงของการระบายข้าว g2gหรือกรณีจำนำข้าว


ผมเรียนเลยว่าแม้วันนี้เครือข่ายผู้มีอำนาจจะไม่แฮปปี้กับก้าวไกลแต่ก็ไม่ไว้ใจพฤติกรรมในอดีตของพรรคเพื่อไทย เนื่องจากบริวารตัวเกร็งของรัฐมนตรีทั้งหลายในพรรคเพื่อไทยก็เริ่มไปอาละวาดโดยเฉพาะในกระทรวงที่มีผลประโยชน์อยู่บนถนนราชดำเนินกระทรวง 1 เครือข่ายของพรรคเพื่อไทยก็ออกไปกำชับผู้บริหารหลายๆคนว่า จะเข้ามาเป็นรัฐมนตรีนะอย่าได้กระดุกกระดิก อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ทางผู้มีอำนาจก็มีความกังวล ถ้าเกิดว่าพรรคเพื่อไทยเข้ามามีอำนาจมีพฤติกรรมทุจริตคอรัปชั่นอย่างที่เคยทำให้ประเทศเสียหาย 7 แสนล้านอันนี้ก็เป็นความเสี่ยงของผู้มีอำนาจถ้าเกิดจะปล่อยผ่านให้คาดิเดทพรรคเพื่อไทยให้เข้ามาดำรงตำแหน่งนายก โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าไม่ใช่เนื้อแท้อย่างคุณอุ้งอิ้ง

คุณทักษิณเองก็เคยมีประสบการณ์เคยให้ท่านนายกสมัคร แล้วสุดท้ายสิ่งที่คุณทักษิณได้คือภาพคุณเนวินไปกอดกับคุณอภิสิทธิ์ ตั้งรัฐบาล รอบนี้คุณทักษิณก็คงไม่อยากให้เกิดเหตุการณ์อย่างนั้น เครือข่ายผู้มีอำนาจเองก็รู้ว่าคุณเศรษฐาก็เป็นลูกน้องของคุณยิ่งลักษณ์ ก็ไม่ได้มีความหมายในการกำกับดูแลเครือข่ายพฤติกรรมบริวารทักษิณได้แต่อย่างใด


ยังคงยืนยันว่าอดีตนายกทักษิณจะเดินทางมาวันที่ 10 สิงหาคมนี้อย่างแน่นอนเพราะว่ายิ่งอยู่ไกลการตั้งรัฐบาลยิ่งยาก อย่างที่บอกคือศาลจะนัดฟังคำสั่งวันที่ 16 สิงหาคมนี้ถ้าวันที่ 17 โหวตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทยอาจจะทดลองเสนอท่านเศรษฐามาก่อน ซึ่งท่านเศรษฐาเชื่อว่าน่าจะไม่ผ่าน แต่สิ่งหนึ่งที่ลุงโทนี่จะได้รับคืนจะได้รู้ว่าเสียงสว.มีกี่เสียง ลุงโทนี่ก็จะได้รู้ว่าต้องออกแรงประสานสว.ประสานเครือข่ายอีกกี่คนเพื่อจะดันให้คุณอุ้งอิ้งเป็นนายกรัฐมนตรีให้ได้ ลุงโทนี่เชื่อว่าบนโลกนี้ไม่มีอะไรที่ท่านทำไม่ได้


ถ้าวันนี้พรรคเพื่อไทยมั่นใจว่าคะแนนเสียงถึง 376 บ่ายวันนี้ทำไมถึงเลื่อนการแถลงข่าวอันนี้เป็นสัญญาณที่เห็นชัดเจนอยู่แล้ว การตัดพับก้าวไกลออกพรรคเพื่อไทยบอกด้วยซ้ำว่า ขอโทษด้วยครับคือ (กูไม่ต้องการเสียงของมึงนะ เดี๋ยวจะมาทำให้สวระแวง) ถ้าอย่างนั้นวันนี้ 15:00 น พรรคเพื่อไทยก็ต้องพูดแล้วว่ามีพรรคไหนมีสวกี่เสียง สว.ปีกไหนจะมาโหวตให้ แต่นี่พูดไม่ได้เพราะตัวเองก็วืดแล้ว


ผมขอเรียนไปอย่างพรรคเพื่อไทยนะครับว่า “ชอบเล่นท่ายากก็ต้องเหนื่อยหน่อย”

…….


………………………………………….

อัพเดทล่าสุด