Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

แม่ค้าทุเรียนใจดี    แจกฟรีหมอนทอง ชะนี 3000 กิโล แก่ชาวบ้าน หลังบนบานตาหลวงไข่ วัดเจดีย์   ยอดขายส่งออกทุเรียนได้กำไรทะลุเป้า

แม่ค้าทุเรียนใจดี    แจกฟรีหมอนทอง ชะนี 3000 กิโล แก่ชาวบ้าน หลังบนบานตาหลวงไข่ วัดเจดีย์   ยอดขายส่งออกทุเรียนได้กำไรทะลุเป้า

        เมื่อวันที่ 12  กันยายน 2566  ชาวจังหวัดสตูล ทั้งเด็กเล็ก  จนไปถึงผู้ใหญ่ คนเฒ่าคนแก่ กว่า 500 คน มายืนรอ รับทุเรียนสายพันธุชะนี หมอนทอง  ของนางสาวจุฑาพร   สุดสวย  อายุ 26 ปี  หรือ เจ๊เมย์  ที่ขายทุเรียนผ่านเพจร้านของตนเอง  ชื่อว่า พรรณารา  เด็กใต้ทุเรียนซิ่ง  โดยโพสต์ก่อนหน้านี้ว่า ( พรุ่งนี้เจอกันที่สตูล  แจกทุเรียนฟรี ช่วยแชร์กันเยอะๆ  จะนำไปแจกกินฟรี ยกให้ทั้งลูก ให้ชาวบ้าน โดยทำการแจกจ่ายบริเวณตรงข้าม ศาลากลางจังหวัดสตูล ใกล้ร้านข้าวมันไก่บังโกบ ตำบลพิมาน อำเภอเมือง จังหวัดสตูล )

      ทางทีมข่าวได้พูดคุยสอบถาม  นางสาวจุฑาพร   สุดสวย  อายุ 26 ปี (เจ๊เมย์) เจ้าของทุเรียน ซึ่งได้เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ที่ได้นำทุเรียนมาแจกให้กับชาวบ้านในครั้งนี้ คือได้บนบานสานกล่าวไว้กับตาหลวงไข่ วัดเจดีย์ ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช  โดยบนไว้ว่า  ให้แผงทุเรียนของตนที่่ทำการขายส่งออก ถึงเป้าหมายรายได้ที่กำหนดไว้ ให้มีกำไรสุดปัง  ยอดขายเป็นหมื่นเป็นแสน    และถ้าสำเร็จดังที่ขอ  จะรีบไปแก้บนโดยนำทุเรียน สายพันธุ์หมอนทอง สายพันธุ์ชะนี  ลูกใหญ่ๆ ไปแจกให้กับชาวบ้านที่ยากจน ผู้มีรายได้น้อยและเด็กๆ ได้กิน 

     นางสาวจุฑาพร   เจ้าของทุเรียน ยังกล่าวอีกว่า  ในวันนี้สิ่งที่บนบานสานกล่าวไว้   เป็นผลสำเร็จบรรลุยอดถึงเป้าหมาย  จึงรีบมาแก้บนทันที  โดยได้นำทุเรียนหมอนทอง และชะนี จำนวน 3000 กิโลกรัม ประมาณ 1,000 ลูก และเมื่อแก้บนตามที่ขอไว้แล้ว ก็จะเดินทางไปกราบตาหลวงไข่   วัดเจดีย์   ที่จังหวัดนครศรีธรรมราชอีกครั้ง  เพราะเชื่อว่า หากบนบานสานกล่าวอะไรไว้ เมื่อท่านรับสิ่งที่เราบนบาน เราต้องรีบมาแก้ หากช้ากลัวท่านจะไม่ให้พรอีก

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

  ปลาเค็มกางมุ้งพลิกชีวิต  ด้วยความยากจนวัยเด็กเติบโตมากับปลาเค็ม  ก้าวสู่อาณาจักรครบวงจร  

ปลาเค็มกางมุ้งพลิกชีวิต  ด้วยความยากจนวัยเด็กเติบโตมากับปลาเค็ม  ก้าวสู่อาณาจักรครบวงจร

             ที่บ้านควนไสน  หมู่ที่ 9 ตำบลควนสตอ  อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล   ที่นี่มีปลาเค็มแดดเดียวจำนวนมากมายหลากหลายชนิดนับ 1000 กก.  ตากเพื่อรอเวลาในการเก็บไปขายยังตลาดนัดในหมู่บ้าน   เหมือนกับปลาเค็มทั่วไป  โดยก๊ะบ๊ะ  หรือนางสุไวบ๊ะ  ดาแลหมัน อายุ 44 ปี เป็นเจ้าของปลาเค็มกางมุ้งก๊ะบ๊ะแห่งนี้  

             แต่! ปลาเค็มที่นี่มีความพิเศษคือ  เป็นปลาเค็มในมุ้ง  หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า  ปลาเค็มกางมุ้งก๊ะบ๊ะ  แม่ค้าปลาเค็มที่นี่จะทำปลาเค็มเอง ขายเองมานานกว่า 16 ปีแล้ว งานนี้การันตีเต็มร้อยว่าปลาเค็มที่นี่ปลอดจากสารพิษ และเป็นปลาที่ไม่เค็มเกินไป

             ที่นี่มีปลาหลากหลายชนิดที่นำมาทำปลาเค็ม  ไม่ว่าจะเป็นปลาจวด  ปลาหลังเขียว  ปลาหลังแข็ง  นอกจากนี้ยังมีปลาสละ  หรือ  ปลาสีเสียดขาว  ตัวโตแบบผ่าหลังจำหน่ายด้วย  ปลาเนื้อแดดเดียว  ปลาเนื้อนิ่ม   โดยเฉพาะปลาเนื้อส้ม  กล้าพูดเต็มปากเลยว่ามีที่ตนทำเพียงรายเดียวในจังหวัดสตูล   ราคาก็จะแตกต่างกันไป

            โดยปลาหลังเขียวขายดีสุด กิโลกรัมละ 70 บาท ปลาหลังแข็งกิโลกรัมละ 80 บาทอันนี้ก็ขายดี  ปลาจวดกิโลกรัมละ 100-120 บาท  ส่วนปลาสีเสียดกิโลกรัมละ 100 บาท และปลาสละ  หรือปลาสีเสียดขาว ตัวโตกิโลกรัมละ 200 บาท

           ทางร้านจะทำปลาสองอาทิตย์ประมาณ 2,000 กิโลกรัม  โดยเป็นปลาของชาวประมงในพื้นที่จังหวัดสตูลที่นำมาส่งให้ถึงที่  ปลาก็จะทำกันเองสองคนสามีเพราะเป็นธุรกิจในครัวเรือน  และออกไปขายกันเองที่ตลาดนัดดุสน  ตลาดนัดควนโดน และตลาดนัดฉลุง ซึ่งเป็นตลาดในชุมชนหมู่บ้าน  นอกจากนี้ยังมีลูกค้าสั่งมาจากต่างจังหวัด รวมทั้งประเทศมาเลเซียเพื่อนบ้านก็จะหิ้วกลับไปคนละ 50 – 100 กิโลกรัมก็มี

           อนาคตวางแผนว่า   จะให้บุตรสาวที่กำลังเรียนใกล้จะจบการศึกษามาต่อยอด  ทำการค้าผ่านธุรกิจออนไลน์  เพราะรุ่นตนยอมรับว่าไม่ค่อยถนัด

            

         ก๊ะบ๊ะ  หรือนางสุไวบ๊ะ  ดาแลหมัน อายุ 44 ปี เจ้าของปลาเค็มกางมุ้งก๊ะบ๊ะ  บอกว่า  จุดเริ่มต้นของอาชีพนี้ด้วยพ่อแม่ยากจนมาก เลี้ยงลูก  6 คน ด้วยปลาเค็ม ทานไปทานมาแพ้ปลาเค็มจนปากเจ่อ  จึงเกิดแนวคิดที่จะทำปลาเค็มเอง จึงทดลองทำจาก 20-30 กิโลกรัม   แรกๆ ให้เพื่อนบ้านทดลองทานบ้าง หลายคนว่าอร่อยจนมั่นใจจึงยึดเป็นอาชีพ ทำสองคนสามี มาวันนี้สามารถเลี้ยงบุตร 3 คนได้อย่างสบาย และมีที่ดิน 2 ไร่ที่ขยายกิจการ  ทำกางมุ้ง  เพื่อหวังให้คนบริโภคได้ทานอย่างมั่นใจ   รายได้ต่อเดือนไม่หักค่าใช้จ่าย 200,000 บาท

         มาวันนี้บวกกับได้คู่ชีวิตที่ดีมีชัยไปกว่าครึ่ง  ช่วยกันทำปลาเค็มกางเค็มกางมุ้งบนพื้นที่ 2 ไร่  เพื่อป้องกันแมลงวัน และแมลงหลากหลายชนิดโดยไม่ต้องพึ่งยา   บนพื้นที่นี้ยังมีน้องสามีมาทำช่วยอีกแรง  นอกจากนี้ยังทำแบบครบวงจร คือมีบ่อบำบัดน้ำเสีย   ไหลสู่แปลงผักบุ้งเป็นปุ๋ย  ที่โตเก็บไปให้อาหารปลาดุก และแพะ เป็นรายได้อีกช่องทางหนึ่งด้วย

           สำหรับท่านใดที่สนใจปลาเค็มกางมุ้งสูตรต่าง ๆ สามารถโทรติดต่อได้ที่ 065-057-4781 หรือที่เบอร์ 062-359-9674 หรือที่เฟส สุไวบ๊ะ  ดาแลหมัน

 …………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

ชาวเลเกาะหลีเป๊ะยังคงเดือดร้อน แม้บางจุดน้ำจะลดเกือบแห้งแล้ว แต่ยังคงมีบางจุดที่น้ำยังท่วมขัง หลังน้ำยังคงระบายลงทะเลไม่หมด

ชาวเลเกาะหลีเป๊ะยังคงเดือดร้อน แม้บางจุดน้ำจะลดเกือบแห้งแล้ว แต่ยังคงมีบางจุดที่น้ำยังท่วมขัง หลังน้ำยังคงระบายลงทะเลไม่หมด

      วันที่ 12 กันยายน 2566 ระดับน้ำในหลายจุดที่ท่วมขังติดต่อมากันหลายวันบนเกาะหลีเป๊ ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ขณะนี้ลดระดับลงเรื่อย ๆ หลายจุดเริ่มแห้งแล้ว หลังทางด้านนายพีรพัฒน์ เงินเจริญ นายอำเภอเมืองสตูลสั่งการให้มีการเร่งระดมเครื่อสูบน้ำออกจากพื้นที่ชั้นในที่ท่วมชังบ้านเรือนชาวเลออก อย่างเร่งด่วน ใน 5 ชุมชน

         แต่ยังคงมีบางชุมชนอย่าง ชุมชนกรือโป๊ะ ของชาวเลเกาะหลีเป๊ะ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งชุมชนที่เป็นทางผ่าน ไปมาของนักท่องเที่ยวอยู่ด้านในกลางเกาะ และเป็นหมู่บ้านชาวเล ก็ยังพบมีน้ำที่ยังท่วมขัง รอการช่วยเหลือด้วยเช่นกัน โดยชาวบ้านบอกว่า ลักษณ์ปัญหาของเกาะหลีเป๊ะ เมื่อฝนตกหนักติดต่อกันอย่างวัน ปริมาณน้ำที่ท่วมขังไม่สามารถจะออกจากเกาะได้เพราะไม่มีช่องทางระบายน้ำออก เนื่องจากลำรางถูกปิดทับก่อสร้าง โดยมีการอ้างกรรมสิทธิ์ครอบครองที่ดิน ซึ่งเป็นปัญหาที่หลายฝ่ายเร่งดำเนินคดีในชั้นศาลถึงการได้มาและการครอบครองสิทธิ์ ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมซ้ำซากต่อเนื่องยาวนาน จากน้ำฝนเป็นน้ำเน่าในที่สุดหากไม่ช่วยกันสูบน้ำที่อยู่กลางเกาะออก

………………………………………………………..

     

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

ด่วน  น้ำท่วมชุมชนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ   เร่งขอเครื่องสูบน้ำเพิ่มหลังฝนไม่มีท่าทีจะหยุดตก

ด่วน  น้ำท่วมชุมชนชาวเลเกาะหลีเป๊ะ   เร่งขอเครื่องสูบน้ำเพิ่มหลังฝนไม่มีท่าทีจะหยุดตก

        วันที่ 10 .. 66  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า   นาทีที่ฝนตกหนักและปริมาณน้ำไหลเข้าท่วมหลายชุมชนชาวเลบนเกาะหลีเป๊ะขณะนี้กำลังสร้างความเดือดร้อน  หลังฝนยังไม่มีท่าทีจะหยุดตก

      ซึ่งฝนที่ตกหนักและต่อเนื่องในหลายพื้นที่จังหวัดสตูลขณะนี้ได้ส่งผลกระทบแล้ว  โดยเฉพาะชาวบ้าน  (ชาวเลอูรักลาโว้ย) ที่อาศัยอยู่  หมู่ที่ 7 และหมู่ที่ 8  บนเกาะหลีเป๊ะ  ตำบลเกาะสาหร่าย   อำเภอเมืองสตูล  ขณะนี้กำลังได้รับความเดือดร้อนจากปริมาณน้ำฝนที่ตกหนักและต่อเนื่องจนไม่สามารถจะระบายน้ำลงสู่ทะเลได้ทัน  ส่งผลให้เกิดน้ำท่วมชุมชนชาวเลอูรักลาโว้ย  อาทิ  ชุมชนอุเส็น  ชุมชนสิเข่ง   และชุมชนตุโป๊ะซึ่งพบว่าได้รับความเดือดร้อนหนักสุดบางจุดระดับน้ำลึกถึงเอวนั้น

         นายเดชณรงค์   อยู่กลาง    ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 7 ตำบลเกาะสาหร่าย .สตูล    เปิดเผยว่า   ฝนได้ตกหนักขณะนี้ส่งผลให้น้ำท่วมหลายชุมชนบนเกาะหลีเป๊ะซึ่งสถานการณ์ขณะนี้ยังไม่มีทีท่าว่าฝนจะหยุดตก  ซึ่งทางนายพีรพัฒน์    เงินเจริญ    นายอำเภอเมืองสตูล  ได้สั่งการให้ผู้ใหญ่บ้านและฝ่ายปกครองได้ช่วยกันนำเครื่องสูบน้ำมาระบายน้ำออกลงสู่ทะเล   จาก 3 เครื่องพบว่าเครื่องได้เสียจำนวน 1 เครื่องได้ประสานผ่านทางอบต.เกาะสาหร่ายในการจัดหาเครื่องสูบน้ำเพิ่มไปแล้ว   โดยชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบหนักสุดจะเป็นชุมชนตุโป๊ะ  เนื่องจากเป็นพื้นที่กว้างระดับน้ำบางจุดลึกถึงเอว  ขณะที่ชุมชนอุเส็นและสิเข่ง หลายจุดลึกระดับเข่าการสัญจรไปมายากลำบาก

      ขณะที่ตามเส้นทางถนนคนเดินหลายจุดระดับน้ำได้ตัดผ่านรวมทั้งที่พักของผู้ประกอบการบางรายได้รับผลกระทบจากฝนที่ตกหนักและน้ำท่วมขังในขณะนี้ด้วยเช่นกัน

…………………………..

  (ขอบคุณภาพ  จาก ผุ้ใหญ่บ้านฝ่ายปกครอง

     

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

เปิดแล้วเซเว่นอีเลฟเว่นสปป.ลาวสาขาแรกอยู่ในนครหลวงเวียงจันทน์

เปิดแล้วเซเว่น อีเลฟเว่น สปป.ลาว สาขาแรกอยู่ในนครหลวงเวียงจันทน์

          ท่านบุญเถิง ดวงสะหวัน รองรัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรม และการค้า แห่ง สปป.ลาว นางสาวมรกต ศรีสวัสดิ์เอกอัครราชทูตไทย เวียงจันทน์ ให้เกียรติเป็นประธานตัดริบบิ้นในพิธีเปิดให้บริการร้านเซเว่น อีเลฟเว่น สาขาแรกในสปป. ลาว อย่างเป็นทางการ ร่วมกับนายชัยโรจน์ ทิวัตถ์มั่นเจริญ รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส และ Managing Director International Business บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารเซเว่น อีเลฟเว่น และเซเว่น เดลิเวอรี่เมื่อช่วงเช้าวันพฤหัสบดีที่ 7 กันยายน 2566 ที่ผ่านมา

        โดย เซเว่น อีเลฟเว่น สาขาแรกนี้ ตั้งอยู่ที่ถนนสุพานุวง บ้านหนองปาใน เมืองสีโคดตะบอง ในนครหลวงเวียงจันทน์บริหารโดย บริษัท ซีพี ออลล์ ลาว จำกัด ในกลุ่มซีพี ออลล์ ซึ่งจะเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง นำเสนอสินค้ากว่า 5,000 SKUs เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่ม มุ่งเน้นคุณภาพมาตรฐาน ทั้งสินค้าอุปโภคบริโภค อาหารพร้อมทาน รวมถึงสินค้าเอกลักษณ์ที่มีเฉพาะที่ร้านเซเว่น อีเลฟเว่น อาทิ สินค้ายอดนิยมตลอดกาลในอย่าง Slurpee หรือเครื่องดื่มชงสด All Café นอกจากนี้ ยังมีสินค้าในกลุ่มผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นของ สปป.ลาว ซึ่งเป็นที่นิยมในกลุ่มผู้บริโภคภายในประเทศ และผู้ที่มาเยือน สปป. ลาว ซึ่งเพิ่มขึ้นตั้งแต่สถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย และการเปิดให้บริการรถไฟความเร็วสูงทำให้การคมนาคมขนส่งสะดวกสบายรวดเร็วยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในปี 2567 นี้ รัฐบาล สปป. ลาวกำหนดให้เป็นปีท่องเที่ยวลาว ซึ่งจะตรงกับวาระที่สปป.ลาว จะดำรงตำแหน่งประธานอาเซียน ก็จะทำให้บรรยากาศภายในประเทศคึกคักมากยิ่งขึ้นด้วย    

………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

 สตูลท่วม 4 ตำบล สวนผลไม้จมใต้น้ำ  ทั้งที่กำลังให้ผลผลิต   ด้านทหารเข้าช่วยเหลือฟาร์มหอยจากคลื่นลมแรง   

สตูลท่วม 4 ตำบล สวนผลไม้จมใต้น้ำ  ทั้งที่กำลังให้ผลผลิต   ด้านทหารเข้าช่วยเหลือฟาร์มหอยจากคลื่นลมแรง 

        วันที่ 5 ก.ย.2566  สถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดสตูลยังคงทรงตัว  เนื่องจากปริมาณน้ำฝนที่เข้ามาเติมเป็นระยะ  ล่าสุดกระทบแล้วพื้นที่  ต.ละงู  ต.เขาขาว  ต.แหลมสน และ ต.ปากน้ำ   4 ตำบลในอำเภอละงู   โดยขณะนี้น้ำได้ส่งผลให้พืชสวนไร่นาของเกษตรกรที่กำลังให้ผลผลิต  อย่างเงาะ  ลองกอง  มังคุด สวนผสมของเกษตรกรที่กำลังรอเก็บผลผลิตออก  ได้ต้องจมอยู่ใต้น้ำ  การเก็บเกี่ยวมีความยากลำบาก  ทำให้ได้รับผลกระทบทั้งตัวต้นไม้ผล  และรายได้ของเกษตรกรแล้ว

      เหมือนอย่างเช่นเกษตรกรในพื้นที่ หมู่ที่ 11 บ้านห้วยพร้าว อำเภอละงู  ที่กำลังได้รับผลกระทบอยู่ในขณะนี้

        ส่วนด้านทหารหน่วยรักษาความปลอดภัยทางทะเลเกาะหลีเป๊ะ  ได้เข้าช่วยเหลือกระชังหอยแมลงภู่ของเกษตรกรหมู่ที่ 2 ตำบลแหลมสน  อำเภอละงู  ที่ถูกความแรงลมและคลื่นพัดให้เสาสมอขาดหลุดลอย  เพื่อลดความเสียหายให้เกษตรกรผู้เลี้ยงฟาร์มหอยแมลงภู่

       ขณะที่ระดับน้ำที่ท่วมในโรงเรียนบ้านดาหลำ  ต.เขาขาว  และโรงเรียนบ้านท่ายาง  ต.ปากน้ำ อ.ละงู  ขณะนี้ระดับน้ำยังทรงตัว  ขณะที่ฝนยังคงตกกระจายไปทุกพื้นที่    

……………..

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

 ด่วน! สตูล  ดินหินภูเขากลางทะเลเกาะอาดัง   สไลด์ทับบ้านพักนักท่องเที่ยว และบ้านพักเจ้าหน้าที่ โชคดีไร้คนเจ็บ 

ด่วน! สตูล  ดินหินภูเขากลางทะเลเกาะอาดัง   สไลด์ทับบ้านพักนักท่องเที่ยว และบ้านพักเจ้าหน้าที่ โชคดีไร้คนเจ็บ 

         วันที่ 5  กันยายน  2566  สถาณการณ์น้ำในพื้นที่ของอำเภอละงู   จังหวัดสตูล   ประชาชนยังคงได้รับผลกระทบฝนตกตลอด  รวมทั้งวันนี้   โดยได้รับผลกระทบแล้ว  5 ตำบล คือ ต.กำแพง ต.ละงู  ต.เขาขาว ต.ปากน้ำ และ ต.แหลมสน 

         น้ำยังคงไหลเข้าท่วมในบางพื้นที่  ซึ่งเป็นพื้นที่ราบลุ่มต่ำได้แก่  บริเวณถ้ำจระเข้ หมู่ที่ 10 บ้านปากปิง  ตำบลกำแพง   โดยในพื้นที่ตรงนี้  ใช้เรือท้องแบนที่ทางอบต.เตรียมไว้ในการใช้สัญจรเข้าออก มีชาวบ้านอาศัยอยู่ประมาณ  7 ครัวเรือน ทีมทางป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย  อบต.กำแพง ต้องล่องเรือนำน้ำดื่ม เอาอาหารไปส่ง

         ขณะที่บนเกาะอาดัง  กลางทะเล   ตั้งอยู่ในพื้นที่ของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา   จากฝนตกหนักติดหนักติดต่อกันหลายวัน   ส่งผลให้เกิดดินสไลด์  โดยก้อนหินขนาดใหญ่  จากผาชะโด  ดินโคลนสไลน์ไหลลงมาทับบ้านพักของเจ้าหน้าที่เสียหาย 1 หลัง และ บ้านพักนักท่อเที่ยว 1 หลัง    โดยดินโคลนและก้อนหินมหึมา  สไลด์ทับ พังประตูกระจก  โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ   ซึ่งช่วงวันอาทิตย์ที่ผ่านมา  ทางสำนักงานอุทยานแห่งชาติตะรุเตา ได้ประกาศปิดอุทยานที่พักบนเกาะอาดัง มาหลายวันแล้ว  จึงไม่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวชม   

          ด้านนายนเคนทร์   กวีธนาธรรม   ผู้ช่วยหัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตา เปิดเผยว่า   ทางนายมงคล  แดงกัน  หัวหน้าอุทยานแห่งชาติตะรุเตา สั่งกำชับและเป็นห่วงเป็นใย  เจ้าหน้าที่ที่อาศัยอยู่บ้านพักบริเวณเชิงตีนเขา ให้หาที่อยู่ห่างไกล และเฝ้าระวังดูแลตนเอง ยามฝนตกหนักต้องออกห่างพื้นที่ใกล้บริเวณดังกล่าวทันที  ส่วนภาพรวมความเสียหาย ทางหัวหน้าชุดปฏิบัติการบนเกาะอาดัง กำลังเร่งประเมินความเสียหายอยู่ในขณะนี้ 

………………………………………………..

ขอบคุณภาพ : อช.ตะรุเตา

อัพเดทล่าสุด
Categories
เยาวชน-การศึกษา

มติชาวอาชีวะค้านการหลอมรวม  แต่หนุนตั้งมหาวิทยาลัยสตูล 

มติชาวอาชีวะค้านการหลอมรวม  แต่หนุนตั้งมหาวิทยาลัยสตูล 

     ประเด็นการตั้งมหาวิทยาลัยสตูลได้กลับมาเป็นที่วิพากษ์อีกครั้ง   เมื่อคณะกรรมการยุทธศาสตร์จังหวัดชายแดนภาคใต้  ได้มีแนวคิดที่จะหลอมรวม  3  อาชีวะในจังหวัดสตูล   ทั้งวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีสตูล  มีนักศึกษาประมาณ 600 คน ,  วิทยาลัยเทคนิคสตูล 2,000 คน, วิทยาลัยการอาชีพละงู  1,000 คน  และมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา วิทยาเขตสตูล  ซึ่งนักศึกษา  200 คน  มาหลอมรวมกันเพื่อตั้งมหาวิทยาลัยสตูล

     ในประเด็นนี้ได้มีกระแสการต่อต้าน ว่าจะดีกว่าไหม หากมหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา วิทยาเขตสตูล  จะผลักดันตัวเองเป็นมหาวิทยาลัย โดยไม่จำเป็นต้องหลอมรวม  เพื่อโอกาสทางการศึกษาที่สูงกว่าระดับ ปวช.ปวส.  เพื่อความหลากหลายของการศึกษาอย่างแท้จริง ที่ผู้เรียนมีโอกาสได้เลือกตามความสมัครใจ  ตามความต้องการ ตามกำลังทุนทรัพย์ ตามวิชาชีพที่ต้องการ  ว่าเรียนที่ไหน เพื่อให้เหมาะกับตัวเอง

     และเพื่อเป็นการรับฟังความคิดเห็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย  กับการจัดการศึกษาที่อาชีวศึกษาในจังหวัดสตูล  มีความเห็นด้วยหรือไม่  ในการหลอมรวมวิทยาลัยเทคนิคสตูลในการจัดตั้ง  มหาวิทยาลัยสตูล   3  ส่วน  คือ 1 กรรมการบริหารสถานศึกษา (วิทยาลัยเทคนิคสตูล 100 เปอร์เซ็นต์ไม่เห็นด้วย) 2 ผู้บริหารครู บุคลากร 97.8 เปอร์เซ็นต์ ไม่เห็นด้วย) 3.นักเรียน นักศึกษา ศิษย์ปัจจุบัน 95.93 เปอร์เซ็นต์ไม่เห็นด้วย)  และสัปดาห์ต่อไป จะเป็นการทำประชามติในผู้ปกครอง สมาคมศิษย์เก่าและศิษย์เก่า ต่อด้วยผู้ได้รับบริการวิชาชีพ เครือข่ายความร่วมมือ สถานประกอบการ ภาคประชาชน และพี่น้องชาวอาชีวะทั่วประเทศ

       คุณครูธิษณา  บำรุงเมือง  คุณครู ว.เทคนิคสตูล   เปิดเผยว่า บริบทของมหาวิทยาลัยและวิทยาลัยเทคนิคต่างกันมาก ตนเป็นครูอยู่อาชีวะมา 30 ปี  จะเห็นว่าเด็กอาชีวะเป็นอย่างไร  1 มีฐานะยากจน 2 ทักษะการเรียนเข้าระดับมหาลัยไม่ได้  เด็กอาชีวะอาจจะไม่เก่งทางด้านทางวิชาการ  แต่สิ่งที่เจอมาตลอดคือซ่อมไปได้เปิดบริษัทเป็นของตัวเองได้ บางครั้งทางวิชาการก็ไม่ได้ตอบโจทย์ชีวิต 

        คุณครู ว.เทคนิคสตูล  เปิดเผยเพิ่มเติมว่า ในความคิดของตนคนเดียวมองว่า  ผู้ที่จะจัดตั้งให้มีการหลอมรวมอาชีวะไม่มั่นใจว่ามีผลประโยชน์อื่นใดแอบแฝงอยู่   แต่พวกเราจะยินดีมากๆที่จะมีมหาวิทยาลัยสตูลเกิดขึ้นในจังหวัดสตูล   แต่เราควรจะแยกกันจัดการศึกษากัน  แต่มาพูดคุยกันในการเอาหลักสูตรมารวมกัน วิธีการนี้เชื่อว่าเด็กเราไปไกลหากมีการมาเขียนหลักสูตรด้วยกัน  แต่หากจะหลอมรวมกันจริงผลกระทบเกิดขึ้นกับเด็ก ๆ และครอบครัวอย่างแน่นอนเพราะนั่นหมายถึงค่าเทอมที่สูงขึ้น และเด็กไม่มีโอกาสเลือกเรียนในสายอาชีพที่ตนถนัด

        นายวิเชียร  บุญเตี่ยว  ผอ.วิทยาลัยเทคนิคสตูล  กล่าวว่า  สถานการณ์การจัดตั้งมหาวิทยาลัยสตูลโดยใช้วิธีการหลอมรวม ด้วยความเป็นบริบทการจัดการศึกษาเชิงพื้นที่ อาชีวศึกษาที่ตั้งขึ้นเพื่อผลิตและพัฒนากำลังคน ตอบโจทย์ประเทศที่ต้องการแรงงานที่มีฝีมือ คือ ปวช.และปวส. ขณะนี้วิทยาลัยเทคนิคสตูลได้ผลิตเด็กในระบบอยู่ที่ 2,000 คน หากเทียบในประเภทเดียวกันกับอาชีวศึกษาถือว่าเป็นขนาดกลาง  

         แต่เรายังมีนอกระบบซึ่งเกิดจากความร่วมมือของโรงเรียนและความต้องการของชุมชนเป็นโมเดลเด็กเข้ามาสัมผัสโลกของอาชีพจริงๆ  ทุกวันพฤหัสบดีจะมีเด็กเข้ามาเรียนและฝึกอบรมในช่วงวันเสาร์อาทิตย์ฟรี 100% อยู่ประมาณ 2,100 คนในปีการศึกษาที่ผ่านมา

         ผอ.วิทยาลัยเทคนิคสตูล  กล่าวด้วยว่า  ขอพูดในฐานะคนสตูลถอดหมวกผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคออกไปวันนี้   ที่ทำประชามติเกิดขึ้นด้วยการจัดตั้งหลอมรวม ทำให้อาชีวะเสียบริบทที่มีวัตถุประสงค์ของสำนักงานกลางอาชีวศึกษาที่ผลิตกำลังคนสมรรถนะสูง  เพื่อตอบโจทย์การต้องการแรงงานให้กับประเทศหลังได้หนังสือเมื่อวันที่ 25 ที่ผ่านมา  ก็รู้สึกตกใจหลังทางคณะกรรมการที่จะจัดตั้ง  ใช้คำว่าหลอมรวมแล้วเอาโมเดลของของมหาวิทยาลัย  ซึ่งขออนุญาตเอยถึงคือ  มหาลัยนราธิวาส   เป็นโมเดลในการขับเคลื่อนและที่มาของการหลอมรวม  ทำให้เกิดผลกระทบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย  คณะกรรมการที่ส่งต่อให้คณะกรรมการยุทธศาสตร์จังหวัดชายแดนภาคใต้  โดยสำนักงานที่ดูแลในพื้นที่  คือ  ศอบต.  ทำให้เกิดคำถามเพราะเราไม่สามารถตัดสินใจคนเดียวได้และเราก็ไม่ใช่นิติบุคคล 

         ขั้นตอนแรกของเราทำคือการคุยกับกรรมการสถานศึกษา กรรมการศึกษาไม่เห็นด้วยในการหลอมรวมแต่  เห็นชอบที่จะมีการจัดตั้งมหาวิทยาลัยในจังหวัดสตูล   เราไม่ได้ขัดแย้ง  หลังจากนั้นได้ขอมติเพื่อที่จะไปทำกับผู้บริหาร  ครู  บุคลากร  ที่มีผลกระทบเนื่องจาก  ม.นรา มีคนที่ไม่ประสงค์อยู่ต่อเกินกว่าร้อยละ 80 ที่จะต้องเดินออกจากบ้านหลังนี้  และหาสถานที่ใหม่  จำเป็นจะต้องให้พวกเขารู้ เมื่อมีมติเห็นชอบ  ขอมติของครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งหมดที่ไม่เห็นด้วยในการหลอมรวม

         ชี้แจงให้พวกเขาได้รับทราบผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับเขา  และคนรุ่นๆต่อไปว่า   ถ้าหลอมรวมแล้วจะไม่มีความเป็นตัวตนของอาชีวะ  ตามบริบทของการจัดตั้งอยู่เลย  และจะมีผลกระทบหากเปรียบเทียบข้อมูลจาก  ม.นราธิวาส  ปวช.อาจจะต้องจ่ายเงินจากที่วิทยาลัยเทคนิคเก็บอยู่ไม่เกิน 800 บาท หากเป็นมหาวิทยาลัย  2,000 เปรียบเทียบกับ  ม.นราธิวาส  ผู้ปกครองเดือดร้อนแน่นอน   ส่วน ปวส.วิทยาลัยเทคนิคเก็บ อยู่ที่ประมาณ 2000  ถึง  2040 เทียบเคียงกับ ม.นราธิวาส  ขั้นต่ำ 6,000 บาท 

       หากถามว่า วิทยาลัยเทคนิคมีความพร้อมในการเปิดปริญญาตรีหรือไม่  เรามีความพร้อมอยู่แล้ว 2 สาขา  คือ   เทคโนโลยียานยนต์ และ  ภาควิชาการตลาด มีเด็กเรียนและจบมาแล้วไม่น้อยกว่า 7 รุ่น 

         ผอ.วิทยาลัยเทคนิคสตูล  กล่าวต่อว่า  จากบริบทของอาชีวะเห็นได้จากตัวผม   ก็เป็นส่วนหนึ่งที่เมื่อก่อนก็ไม่มีรายได้   ทำงานและก็เรียนไปด้วย   โดยตลอดมาตั้งแต่ปวช.   ปวส.  จนถึงระดับเทียบเท่าปริญญาตรีผมเรียนที่อาชีวะมาตลอด   อาชีวะเป็นช่องทางที่ตอบโจทย์ผู้ปกครองในกลุ่มที่มีรายได้น้อย ถึงปานกลาง  ที่หาเช้ากินค่ำ  ทำงานไปด้วยเรียนไปด้วย 

          พร้อมจะสอบถามกลับไปว่า  หากมองเห็นศักยภาพของสถานศึกษาแห่งนี้ว่ามีคุณภาพ ก็อยากให้เติมงบประมาณมาที่นี่ แล้วเราจะทำให้ดูว่ามันมีคุณภาพอย่างไร  เพราะจาก 400 แห่งอาชีวะ  วิทยาลัยเทคนิคสตูลสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศมาแล้ว  แม้เด็กเราไม่มีตัวเลือกมากแต่ก็สามารถคว้าการแข่งขันทักษะชนะเลิศมาแล้วหลายรายการ…ผอ.วิทยาลัยเทคนิค  กล่าวทิ้งท้าย 

         วันนี้เกิดคำถามมากมาย  ถึงอาชีวศึกษาทั้ง 3 วิทยาลัยไม่มีศักยภาพพอ  ที่จะพัฒนาฝีมือให้ผู้เรียนมีความรู้ ความสามารถในการประกอบอาชีพเท่ามหาวิทยาลัยได้ หรือ จังหวัดสตูล พัฒนาได้โดยไม่ต้องสูญเสียความเป็นตัวตนของการจัดการศึกษาอาชีวศึกษาที่จัดให้คนทุกช่วงวัย

……………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ร่วมกับ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จัด “โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการผู้ผลิตข่าวดิจิทัลรุ่นเยาว์” หรือ “Young Digital News Providers” รุ่นที่ 7 ประจำปี 2566

สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ร่วมกับ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จัด “โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการผู้ผลิตข่าวดิจิทัลรุ่นเยาว์” หรือ “Young Digital News Providers” รุ่นที่ 7 ประจำปี 2566

      สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ร่วมกับ กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จัด “โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการผู้ผลิตข่าวดิจิทัลรุ่นเยาว์” หรือ “Young Digital News Providers” รุ่นที่ 7 ประจำปี 2566 ภายใต้ โครงการความร่วมมือองค์กรสื่อขับเคลื่อนพัฒนาวิชาชีพและส่งเสริมจริยธรรมสื่อเพื่อสร้างระบบนิเวศสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ในวันที่ 22-24 กันยายน 2566 ณ ศูนย์ประชุมอุทยานวิทยาศาสตร์ประเทศไทย จังหวัดปทุมธานี บริหารจัดการหลักสูตรโดย สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ได้รับทุนสนับสนุนจาก กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดความรู้ในทุกมิติของการผลิตข่าวบนโลกดิจิทัล อาทิ ทิศทางในการนำเสนอข่าวสารและพฤติกรรมของผู้บริโภคยุคดิจิทัล, การใช้เครื่องมือบนเครือข่ายสังคมออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ, การนำเสนอในรูปแบบมัลติมีเดีย, เรียนรู้จริยธรรมการนำเสนอข่าวที่ถูกต้องและเหมาะสม, การวางแผนการตลาดและประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ข่าว และสื่อสังคมออนไลน์ อีกทั้งจัดให้มีการประกวด “เว็บไซต์ข่าวฝึกปฏิบัติยอดเยี่ยมระดับอุดมศึกษา” โดย นิสิต นักศึกษาส่งผลงานจริงเข้าประกวดหลังจากได้รับการฝึกอบรมไปแล้ว เพื่อสร้างผู้ผลิตข่าวรุ่นใหม่ให้มีคุณภาพ ถูกต้อง และมีความเข้าใจบทบาทภารกิจที่แท้จริงของผู้ผลิตข่าวออนไลน์ ก่อนที่จะก้าวไปสู่การทำงานอย่างมืออาชีพ

        เนื้อหา และวิทยากรร่วมโครงการ ดังนี้ SPARK YOURSELF คุณกิตติ สิงหาปัด ผู้ดำเนินรายการข่าว 3 มิติ, จริยธรรมและกฎหมายที่ควรรู้ในการผลิตข่าวออนไลน์ อ. ไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ อาจารย์พิเศษด้านกฎหมายเทคโนโลยี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และที่ปรึกษากฎหมายสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์, Data Journalism คุณสันติชัย อาภาร์ศรี บรรณาธิการ Rocket Media Lab, Content Strategy คุณชุตินธรา วัฒนกุล บรรณาธิการบริหารข่าวออนไลน์ สถานีโทรทัศน์ไทยพีบีเอส, Creative Marketing คุณรัฐโรจน์ จิตรพนาCreative Marketing, THE STANDARD , UX / UI Design คุณณัฐพล เกียรติกอบชัย Lead UX/UI Designer, CLEVERSE

         เปิดรับ นิสิต นักศึกษา สาขานิเทศศาสตร์ หรือวารสารศาสตร์ สาขาประชาสัมพันธ์หรือสื่อสารการตลาด, สาขาการออกแบบสื่อดิจิทัล, สาขาเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือสาขาที่เกี่ยวข้อง ในชั้นปีที่ 2 เป็นต้นไป รวม 30 คน จากสถาบันการศึกษาระดับอุดมศึกษาทั่วประเทศ โดยต้องมีคุณสมบัติ 3 ด้าน ๆ ละ 1 คนดังนี้
1. ด้านการบรรณาธิกรณ์ (Editorial)  
2. ด้านการออกแบบกราฟฟิกและมัลติมีเดีย (UX/UI Design)
3. ด้านการตลาดเนื้อหาและการสร้างรายได้ (Content Marketing & Monetization)
 
            การรับสมัครผู้เข้าร่วมโครงการมีทั้งแบบ “โควตา” ตัวแทนจากสถาบันอุดมศึกษา จำนวน 15 คน โดยสถาบันการศึกษาต้องเป็นผู้คัดเลือกและส่งรายชื่อ สถาบันละ 3 คน (ตามความถนัดในแต่ละด้าน) และ รับสมัครผู้เข้าร่วมแบบ “ทั่วไป” อีก 15 คน โดยนักศึกษาต้องสมัครเป็นทีม รายชื่อทีมละ 3 คน (ตามความถนัดในแต่ละด้าน) ซึ่งมีอาจารย์ที่ปรึกษาเซ็นชื่อรับรอง ทั้งนี้นักศึกษาที่เข้าร่วมอบรมต้องส่งรายละเอียดเข้าร่วมประกวด “เว็บไซต์ฝึกปฏิบัติยอดเยี่ยม” ระดับอุดมศึกษา อาทิ ชื่อเว็บไซต์ ระยะเวลาการผลิต ชื่ออาจารย์ที่ปรึกษา รายชื่อนักศึกษาพร้อมหน้าที่ในการดำเนินงาน เพื่อประกอบการพิจารณาด้วย
 
สนใจสมัครร่วมโครงการได้ที่ https://forms.gle/QFBUEK6UNaZQJzhv8

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

  ร้านขนมจีนทำเก๋เปิดซุ้มบุพเฟ่ต์ผักสดพื้นบ้านทานแบบจุก ๆ  คนตกงาน คนยากไร้ทานฟรี  

ร้านขนมจีนทำเก๋เปิดซุ้มบุพเฟ่ต์ผักสดพื้นบ้านทานแบบจุก ๆ  คนตกงาน คนยากไร้ทานฟรี

       ผู้สื่อข่าวจังหวัดสตูล  แนะนำสำหรับคนที่ชื่นชอบการทานขนมจีน   แบบร้านค้าไม่ขี้เหนียวผัก  ต้องร้านนี้เลย  ตั้งอยู่ที่บ้านเขาจีน  ซอยคลองขุด 18 ตำบลคลองขุด  อำเภอเมือง  จังหวัดสตูล ร้านอยู่ในซอยติดกับโรงเรียนบ้านเขาจีน  ชื่อว่า   ร้านขนมจีนคุณฝน  บุฟเฟ่ต์ผัก กิน@สตูล

       ความพิเศษของร้านนี้มีการจัดซุ้มสำหรับผักที่รับประทานกับขนมจีน กันมากกว่า 30 ชนิด  ให้ลูกค้าได้เลือกช็อปหยิบตามใจชอบ  กันแบบบุฟเฟ่ต์ผัก  โดยเฉพาะผักพื้นบ้าน ผักตามฤดูกาล อย่างลูกฉิ่ง  ยอดหัวครก  มันปู  ยอดหมุย  ผักชีล้อมและสะตอ  และผักดอง ผักต้มกะทิ  มากันยกโหลให้ลูกค้าได้เลือกสรรกันอย่างจุใจ  แต่มีข้อแม้คือ   ผักที่หยิบไปต้องทานให้หมด  หากไม่หมดต้องถูกปรับขีดละ 15 บาท เป็นกติกาให้สำหรับคนที่หยิบเฉพาะที่ทานเท่านั้น

        นอกจากจัดซุ้มสำหรับผักให้ลูกค้าช็อปเลือกกันแบบบุฟเฟ่ต์ผักแล้ว  น้ำแกงขนมจีนก็มีหลากหลายมากถึง 6 หม้อ  แกงกะทิ  น้ำยาป่าตีนไก่   แกงไตปลา  แกงส้ม  แกงเขียวหวานไก่ แกงหวาน  โดยใช้สูตรคนนครฯที่ขึ้นชื่อเรื่องขนมจีนมาเสิร์ฟชาวสตูล

        คุณแนน  ลูกค้าประจำ  ยอมรับว่า  ร้านนี้ถูกใจทุกอย่างทั้งขนมจีน ผัก และขนมหวาน  โดยเฉพาะแม่ค้าพูดจาอัธยาศัยดีชอบมาทานบ่อยมาก  ชอบทุกเมนูมีให้เลือกเยอะมาก

         นางสาวอลิษา   พันธุโยร์  หรือคุณฝน   เจ้าของร้านขนมจีนคุณฝนบุฟเฟ่ต์ผัก กิน@สตูล   บอกว่า  ร้านนี้เปิดขึ้นมาด้วยเป็นคนที่ชื่นชอบทานขนมจีนที่มีผักเยอะ ๆ มีน้ำแกงที่หลากหลาย และคิดว่าหากเราเปิดร้านแบบนี้น่าจะมีคนชื่นชอบจึงเปิดแม้ไม่กี่เดือนได้รับกระแสตอบรับอย่างดี  และได้เพจไปในสื่อโซเซียลที่ตนเคยดูแล ชื่อ  เพจกิน@สตูล   ซึ่งมีพ่อค้าแม่ค้าและคนที่อยากซื้อของกินในสตูลมาเข้าดูมากกถึง 1 แสนคน เชื่อว่าช่วยให้ร้านเป็นที่รู้จักเร็วขึ้น

        นอกจากนี้ทางร้านยังให้ทานฟรี  ในกลุ่มคนตกงาน   คนยากไร้   ทานฟรีไม่คิดเงินเลยสักบาทเดียวเพราะอยากช่วยเหลือสังคมให้พวกเขาเหล่านั้นได้ทานอิ่ม มีกำลังใจสู้ต่อไปด้วยอาหารขนมจีนของเรา

        ทางร้านขนมจีนคุณฝนมีขายเป็นชุดเล็ก 89 บาททานได้สองท่าน ชุดใหญ่  199 บาท  ทานได้สี่ถึง 5  ท่านพร้อมท็อปปิ้ง ไก่ทอดและลูกชิ้นแดงทอด  ไข่ต้ม  ปลาจิ้งจั้ง  ผักเติมไม่อั้น  หรือจะแยกจานราคาเริ่มต้น 25 บาท 

        ร้านเปิดขายทุกวัน เว้นวันอาทิตย์ ตั้งแต่เวลา  9 โมงเช้าถึง 6 โมงเย็น ขายขนมจีนวันละ 50 กก.  ผักใหม่สดทุกวันจากชาวบ้านในชุมชนส่วนใหญ่เป็นผักพื้นบ้าน  รับมาอย่างละ 50 มัด ถั่วงอกวันละ 10 กก.  โดยผักจะหมุนเวียนไปตามฤดูกาล และยังมีของหวาน และน้ำใบเตยให้ทานฟรีอีกด้วย สำรองจองโต๊ะที่  โทร  0951201299

…………………………

อัพเดทล่าสุด