Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

  สตูล-ด่านชายแดนทางน้ำ ไทย-มาเลเซียคึกคัก  นักท่องเที่ยวและแรงงานแห่เดินทางกลับฉลองปีใหม่ ท่ามกลางรักษาความปลอดภัยอำนวยความสะดวก

สตูล..ด่านชายแดนทางน้ำ ไทย-มาเลเซียคึกคัก  นักท่องเที่ยวและแรงงานแห่เดินทางกลับฉลองปีใหม่ ท่ามกลางรักษาความปลอดภัยอำนวยความสะดวก

          วันที่ 30 ธ.ค.2566  ที่ท่าเทียบเรือตำมะลัง  อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ซึ่งเป็นท่าเรือด่านชายแดนทางน้ำ  มีนักท่องเที่ยวต่างชาติและแรงงานไทยในต่างแดน   ใช้เส้นทางนี้ในการเดินทางเข้าประเทศเพื่อกลับมาร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่กันอย่างคึกคัก 

          ซึ่งด่านชายแดนทางน้ำท่าเทียบเรือตำมะลัง  จังหวัดสตูล  มีเรือเฟอร์รี่ขนาดจุได้มากสุด 300 คน  เปิดให้บริการวันละ 1 เที่ยว  วิ่งจากเกาะลังกาวี  ประเทศมาเลเซีย  โดยส่วนใหญ่ที่เข้าช่องทางด่านชายแดนนี้พบว่าเป็นแรงงานไทยในมาเลเซีย และเพื่อนต้องการเดินทางกลับไปฉลองปีใหม่กับครอบครัว  และหลายคนที่ไปทำงานอยากนำเงินทองที่หามาได้กลับไปร่วมเฉลิมฉลองกัน

 

           ด้าน พ.ต.อ.เจริญพงษ์   ขันติโล ผกก.ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสตูล  กล่าวว่า  ได้เน้นย้ำให้ด่านชายแดนทั้ง 3 ด่านในจังหวัดสตูล ทั้งที่ ด่านวังประจัน อำเภอควนโดน ด่านเกาะหลีเป๊ะ ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมืองสตูล  และด่านท่าเทียบเรือตำมะลัง  อำเภอเมืองสตูล (ซึ่งเป็นด่านทางน้ำและทางบก) ให้ช่วยกันดูแลความเรียบร้อย  นักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ และตรวจสอบสกัดกั้นผู้มีหมายจับเข้าประเทศ  โดยวันนี้กำลังจิตอาสาออกหน่วยให้บริการนักท่องเที่ยวเพื่ออำนวยความสะดวก  และให้เกิดความประทับใจ  ในฐานะเจ้าบ้านที่ดีโดยวันนี้ได้นำน้ำดื่มและขนมพื้นเมืองมาร่วมมาต้อนรับสร้างความสุข และรอยยิ้ม ให้กับผู้เดินทาง ภายใต้หลัก  “สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ประทับใจ

…………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

  สตูล-ชายแดนสตูลรอยต่อประเทศมาเลเซียคึกคัก  นักท่องเที่ยวและแรงงานเดินทางฉลองปีใหม่วันละไม่น้อยกว่า  3,000 คน  ขณะที่ตม.ทำเก๋แจกไอติม และขนมพื้นเมืองสร้างความประทับใจในฐานะเจ้าบ้านที่ดี 

สตูล-ชายแดนสตูลรอยต่อประเทศมาเลเซียคึกคัก  นักท่องเที่ยวและแรงงานเดินทางฉลองปีใหม่วันละไม่น้อยกว่า  3,000 คน  ขณะที่ตม.ทำเก๋แจกไอติม และขนมพื้นเมืองสร้างความประทับใจในฐานะเจ้าบ้านที่ดี

          วันนี้ (29 ธ.ค.2566)  ที่ด่านชายแดนวังประจัน อำเภอควนโดน  จังหวัดสตูล  นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและต่างชาติชาวยุโรปรวมทั้ง แรงงานไทยในต่างแดนเดินทางกลับผ่านช่องทางด่านชายแดนจังหวัดสตูล ติดกับบ้านวังเกลียน   รัฐเปอร์ลิส   ประเทศมาเลเซีย  กันอย่างคึกคักในห้วงนี้เฉลี่ยววันละไม่น้อยกว่า 3,000 คนที่เข้ามาร่วมเฉลิมฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ไทย  พร้อมมอบนโยบายในการตรวจตราที่รวดเร็วภายใน 20 วินาทีต้องตรวจหนังสือเดินทางให้เสร็จต่อหนึ่งคน เพื่อลดความแออัด

         โดยนักท่องเที่ยวที่เข้ามาส่วนใหญ่จะเดินทางมากับรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์  และรถยนต์ส่วนตัวซึ่งลักษณะของการท่องเที่ยวมีทั้งมาเช้าเย็นกลับ ในแหล่งท่องเที่ยวภายในจังหวัดสตูล และลงตามเกาะหลีเป๊ะ และพื้นที่จังหวัดข้างเคียง 

         ซึ่งวันนี้ ผกก.ตม.จว.สตูล  พร้อมด้วยข้าราชการตำรวจตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสตูล ร่วมอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนและนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้า- ออก ราชอาณาจักร ในช่วงเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ 2567  ณ  ด่าน ตม.ควนโดน 

 

            ด้าน พ.ต.อ.เจริญพงษ์ ขันติโล ผกก.ตม.จว.สตูล ได้กล่าวว่า พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. และ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม. พร้อมผู้บังคับบัญชาได้ตระหนักถึงความสำคัญของนโยบายส่งเสริมการท่องเที่ยวของรัฐบาล จึงสั่งการให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองอำนวยความสะดวก ในการเดินทางเข้า – ออกราชอาณาจักรของท่องเที่ยว  ในช่วงเทศกาลวันขึ้นปีใหม่ 2567 ภายใต้หลัก  “สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ประทับใจ”

           โดยเตรียมความพร้อมทั้งด้านกำลังพล อุปกรณ์ เทคโนโลยี เพื่อรองรับการเดินทางเข้า -ออก ของคนไทยและคนต่างชาติในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567 รวมทั้งวิเคราะห์สถิติการเดินทางเข้าออกของพี่น้องประชาชนและนักท่องเที่ยวในช่วงเวลาเร่งด่วน เพื่อเพิ่มความ สะดวกรวดเร็วในการให้บริการ พร้อมทั้งให้บริการน้ำดื่ม ไอศกรีมและขนมผูกรัก ซึ่งเป็นของฝากที่ขึ้นชื่อของจังหวัดสตูล และมีความหมายสื่อถึงความสัมพันธ์ที่ดี  ทั้งนี้ขอฝากความห่วงใยไปยังพี่น้องประชาชน และนักท่องเที่ยว ให้เตรียมความพร้อมของยานพาหนะและพักผ่อนอย่างเพียงพอ รวมทั้งวางแผนการเดินทางในช่วงเทศกาลปีใหม่ 2567

…………………………..

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 สตูล – ปีใหม่อุดหนุนสินค้าชุมชนผ่านตลาดนัดเกษตร ก้าวสู่ปีที่9 มากกว่า50 ผลิตภัณฑ์ชุมชนเด่นปลอดภัยมาร่วมที่นี่

สตูล ปีใหม่อุดหนุนสินค้าชุมชนผ่านตลาดนัดเกษตร ก้าวสู่ปีที่9 มากกว่า50 ผลิตภัณฑ์ชุมชนเด่นปลอดภัยมาร่วมที่นี่

            วันที่ 27 ธันวาคม 2566 เกษตรกรสตูล รวมตัวกันนำผลผลิต  ผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร  มากกว่า 50  ผลิตภัณฑ์ชุมชนเด่นที่ปลอดภัยจาก 7 อำเภอ  มาร่วมจำหน่ายสินค้า  อาทิ  ขนมผูกรัก  โรตีกรอบจิ๋ว  ปลาเค็ม  อาหารแปรรูป  ผลไม้ และผักสดปลอดสารพิษ จากกลุ่มชุมชนโดยมีสำนักงานเกษตรการันตีผ่านการคัดเลือกก่อนมาวางจำหน่าย

           โดยสำหรับวันนี้ได้มีการจัดเป็นปีที่ 9  ก้าวที่ยิ่งใหญ่  “๙ ปี ตลาดเกษตรกรจังหวัดสตูลก้าวหน้าก้าวไปสู่ความยั่งยืน”  ซึ่งจัดขึ้นเพื่อพัฒนาตลาดเกษตรกรให้มีอัตลักษณ์  เป็นแหล่งรวบรวมและจำหน่ายสินค้าของเกษตรกรที่มีศักยภาพ ตลอดจนประชาสัมพันธ์การดำเนินงานของตลาดเกษตรกรจังหวัดสตูล   โดยจะมีนัดกันที่ตลาดเกษตรกรจังหวัดสตูล (ลานจอดรถกลางแจ้งศาลากลางจังหวัดสตูล) อำเภอเมืองสตูล  จังหวัดสตูล   ทุกวันพุธของสัปดาห์ 

          ซึ่งวันนี้ เป็นการนัดรวมพลเกษตรกรพิเศษส่งท้ายปี   มีสินค้าเกษตรและสินค้าแปรรูปจากเกษตรกรจำหน่ายตรงถึงผู้บริโภคโดยไม่ผ่านพ่อค้าคนกลาง  และยังเป็นทั้งของฝากและของขวัญให้จับจ่ายมารวมภายในงานแห่งนี้ที่จะเป็นแหล่งรวบรวมของสตูล และกระจายสินค้าปลอดภัย โดยในแต่ละวันสามารถสร้างเม็ดเงินให้เกษตรกรวันละไม่น้อยกว่า 50,000 บาท  ที่จะเป็นทุนให้เกษตรกรผลิตสินค้าดีออกสู่ตลาดผู้บริโภค

         สำหรับกิจกรรมตลาดเกษตรกรวันนี้พิเศษครบรอบ 9 ปีมีการจัดอย่างยิ่งใหญ่ โดยมีกิจกรรมตลาดเกษตรอำเภอ, ตลาดภาคี, ตลาดเกษตรกรออนไลน์ , นิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับมาตรฐานสินค้าเกษตร , กิจกรรมสาธิตสร้างรายได้ , กิจกรรมฟังดนตรี สีเทาแดง , กิจกรรมลุ้นรับโชค   และ  กิจกรรมสวัสดีปีใหม่ กระเช้าปีใหม่จากใจสำนักงานเกษตรจังหวัดสตูล  การจำหน่ายสินค้าราคาประหยัดจากสนง.พาณิชย์จังหวัดที่นำไข่ไก่ และน้ำมันมาให้ชาวบ้านได้จับจ่ายซื้อสินค้าด้วย

         นายชาญณรงค์   วิรุณสาร  เกษตรจังหวัดสตูล  กล่าวว่า  สินค้าที่จะมาวางขายที่ตลาดเกษตรกรจังหวัดสตูล จะต้องเป็น สินค้าที่มีความปลอดภัย มีความยุติธรรมกับผู้บริโภค เป็นหลัก  เกษตรกรจะได้พบปะกับผู้บริโภคโดยตรง หรืออาจจะสั่งออนไลน์ได้ในครั้งต่อไป   สำหรับตลาดนัดเกษตรกร  เปิดขายทุกวันพุธของสัปดาห์  ตั้งแต่เวลา  07.00 น. ถึงเที่ยงของทุกวัน   สินค้ามีหลากหลายทั้งพืชผัก  ผลไม้  พันธุ์ไม้ต่างๆ  ขนม  ข้าวสาร สินค้าแปรรูป  ทั้งสดและแห้ง 

………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

สตูล – ยังปักธงแดงเตือนภัย!  แม้หลายพื้นที่ลดสู่สภาวะปกติ  มัสยิด บ้านเรือนเร่งทำความสะอาด  ชาวบ้านโอดครวญน้ำปีนี้แรงมาเร็ววอนแก้ปัญหาน้ำให้ยั่งยืน

สตูลยังปักธงแดงเตือนภัย !!  แม้หลายพื้นที่ลดสู่สภาวะปกติ  ศาสนสถานอย่างมัสยิด บ้านเรือนเร่งทำความสะอาด  ชาวบ้านโอดครวญน้ำปีนี้แรงมาเร็ววอนแก้ปัญหาน้ำให้ยั่งยืน

            วันที่ 26 ธ.ค. 2566  ทันทีที่สถานการณ์น้ำท่วมพื้นที่ต้นน้ำลดลง   และไหลไปกองที่จุดปลายน้ำอำเภอเมืองสตูลก่อนออกสู่ทะเลนั้น   ทางด้านมัสยิดอะมาดียะห์  ปันจอร์  หมู่ที่ 6 ตำบลย่านซื่อ  อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล  พี่น้องชาวมุสลิมได้ช่วยกันเร่งทำความสะอาดมัสยิดเพื่อให้กลับคืนสู่สภาวะปกติเพื่อประกอบพิธีกรรมทางศาสนา  หลังน้ำได้ท่วมขังและไหลผ่านเพียงวันเดียวแต่สร้างความเสียหายให้ศาสนสถาน และบ้านเรือนหลายร้อยหลังคาเรือนรวมทั้งถนนหนทาง

          ขณะที่พื้นที่ปลายน้ำอย่างอำเภอเมืองสตูล ยังคงปักธงสีแดงเพื่อเตือนภัย  แม้มวลน้ำจะลดลงแต่สภาพอากาศท้องฟ้ายังคงมืดครึ้ม และน้ำอาจมาเติมให้เกิดน้ำท่วมต่อได้

         นางสาววิภารัตน์   อร่ามเรือง  รักษาการแทน หน.ป้องกันบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสตูล  (รรท.หน.ปภ.สตูล)   กล่าวว่า   สถานการณ์น้ำหลายพื้นที่คลี่คลายแล้วจนเข้าสู่สภาวะปกติ  ส่วนพื้นที่ราบลุ่มต่ำยังคงมีน้ำท่วมขังบางแห่ง หากปริมาณน้ำฝนไม่เติมลงมาเชื่อว่าจะเข้าสู่สภาวะปกติในเร็ววันนี้    เนื่องจากมวลน้ำได้ไหลจากพื้นที่ต้นน้ำลงมายังพื้นที่ปลายน้ำ คลองฉลุง   และกำลังจะไหลออกสู่ทะเล   แต่ยังไม่สามารถไว้วางใจได้เนื่องจากสภาพอากาศในระยะนี้ และมวลน้ำยังคงอยู่ในระดับเตือนภัย (ธงแดง) ส่วนพื้นที่น้ำลดขณะนี้ได้มีการเข้าช่วยเหลือจากหลายภาคส่วนแล้ว   

 

         ขณะที่ชาวบ้านที่ประสบภัยยอมรับว่า น้ำมาเร็วและแรงมากเก็บข้าวของไม่ทันและได้รับความเสียหาย  เครื่องใช้ไฟฟ้าข้าวของที่ต้องจมในกระแสน้ำหลายรายการ  แม้จะนำกระสอบทราบมากั้นก็บรรเทาได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น

         นางสาวอารีย์  จิตรณรงค์  ชาวบ้าน หมู่ที่ 6 ตำบลย่านซื่อ อำเภอควนโดน กล่าวว่า  ปีนี้น้ำมาเร็วและมาแรงมากเก็บของหนีน้ำกันไม่ทัน  เฉพาะปีนี้น้ำท่วม 2-3 ครั้งแล้ว อยากให้มีการแก้ปัญหาทำคลองให้กว้างมากขึ้น ระบายน้ำให้ดี และอยากให้เวลาน้ำท่วม ทหารและหน่วยงานที่รับผิดชอบออกมาช่วยชาวบ้านให้เร็วหน่อย  บ้านของตนข้าวของเสียหายหนีน้ำกันไม่ทัน 

 ……………………………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

  สตูล-พบฝูงวาฬบรูด้า  8-10 ตัว โผล่กระโดดเล่นน้ำทะเล  อวดโฉม เป็นของขวัญส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

สตูล-พบฝูงวาฬบรูด้า  8-10 ตัว โผล่กระโดดเล่นน้ำทะเล  อวดโฉม เป็นของขวัญส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่

         วันที่ 21 ธ.ค.2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เพจของอุทยานแห่งชาติตะรุเตา จ.สตูล  โพสต์คลิปพบฝูงวาฬบรูด้าโผล่เล่นน้ำ   อวดโฉมความน่ารัก กระโดดบนผิวน้ำทะเล  จำนวน 8-10  ตัว  สร้างความฮือฮาให้กับผู้พบเห็น   โดยเฉพาะเจ้าหน้าที่  ขณะที่ออกตรวจลาดตระเวนบริเวณหน้าเกาะอาดัง เขตอุทยานแห่งชาติตะรุเตา  จ.สตูล

 

          นายมงคล  แดงกัน  หน.อุทยานฯตะรุเตา จ.สตูล  เปิดเผยกับทีมข่าวว่า  ทางเจ้าหน้าที่ประจำพื้นที่ แจ้งว่า  จนท.ชุดลาดตระเวนที่006 (ส่วนกลาง) ที่ออกลาดตระเวนในพื้นที่ ขณะลาดตระเวนอยู่บริเวณหน้าเกาะอาดัง หน่วยพิทักษ์ฯที่ตต.5 (แหลมสน เกาะอาดัง) ได้พบวาฬบรูด้าจำนวน  2  ฝูง นับได้ 8-10  ตัว  ดำผุดดำว่ายอวดโฉม สร้างความตื่นตาตื่นใจแก่จนท.เป็นอย่างมาก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกภาพความสวยงามของธรรมชาติไว้ได้หลายมุม

 

          สำหรับทะเลอันดามันในจังหวัดสตูล มีความสวยงาม สมบูรณ์  จึงมักพบสัตว์ทะเลตัวใหญ่มากมาย ทั้ง เต่าตนุ  พะยูน  โลมาหลากหลายสายพันธุ์ รวมทั้งวันนี้พบ  วาฬบรูด้า และถือว่าเป็นสิ่งบ่งชี้ความอุดมสมบูรณ์ของท้องทะเลสตูลได้ชัดเจน  ซึ่งโดยปกติในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว  วาฬบรูด้าจะโผล่ขึ้นมาอวดโฉมให้  นทท.ได้ถ่ายรูป

 

          สำหรับวาฬบรูด้า   มักจะอยู่รวมกันเป็นฝูง ปกติจะพบแค่ 2-3  ตัว แต่ครั้งนี้พบ 2 ฝูงประมาณ 8-10 ตัว ถือว่าเป็นจำนวนมากที่สุดเท่าที่เคยบันทึกไว้ได้   ทั้งนี้  วาฬบรูด้า ยังเป็นสัตว์ที่ใกล้สูญพันธุ์จำเป็นต้องสงวนและอนุรักษ์ไว้อย่างเข้มงวด    ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562 อีกด้วย

……………………………………………..

ขอบคุณภาพจากอุทยานแห่งชาติตะรุเตา

อัพเดทล่าสุด
Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา เกษตร - อาชีพ

  สตูล – อาหารฮาลาลสุดชิค  นักท่องเที่ยวและสายคอนเทนต์ไม่ควรพลาด! กับเมนูในตำนานข้าวต้มบ้านหยังเครื่องอัดแน่น ส่งต่อรุ่นที่ 3 ตกแต่งร้านสไตล์อบอุ่น

สตูล – อาหารฮาลาลสุดชิค  นักท่องเที่ยวและสายคอนเทนต์ไม่ควรพลาด! กับเมนูในตำนานข้าวต้มบ้านหยังเครื่องอัดแน่น ส่งต่อรุ่นที่ 3 ตกแต่งร้านสไตล์อบอุ่น

        เมนูสุดชิคทั้งเครื่องดื่มและอาหารทานเล่นที่   บ้านหยัง คาเฟ่  บรรยากาศอบอุ่นเสมือนมานั่งทานที่บ้านญาติ  กับเมนูคุ้นเคย  ข้าวต้มบ้านหยัง  เครื่องแน่นอิ่มจุกๆ  ปอเปี๊ยะกรอบอร่อยสไตล์บ้านหยังและอีกหลากหลายเมนูสากลฮาลาล  ตอบโจทย์สายคอนเทนต์ และนักท่องเที่ยวมาเลเซียที่ไม่ควรพลาด

 

          บ้านหยังคาเฟ่   (เป็นภาษามลายู  ที่แปลว่า บ้านคุณอา  หรือญาติผู้ใหญ่)  ตั้งอยู่ตรงข้าม รพ.สต.ย่านซื่อ  ถนนยนตรการกำธร  หมู่ที่ 2 ตำบลย่านซื่อ  อำเภอควนโดน จังหวัดสตูล  ที่ร้านนี้  อดีตเป็นร้านประจำของใครหลายคนในหมู่บ้าน  ที่ขึ้นชื่อเรื่องข้าวต้มทรงเครื่อง  และมักจะมีการเรียกติดปากว่า  ไปกินข้าวต้มบ้านหยัง  จากวันนั้นถึงวันนี้  เข้าสู่รุ่นที่ 3  กว่า 15 ปีแล้ว  มีการปรับปรุงร้านให้เข้ากับยุคสมัย  แต่ยังคงกลิ่นไอความอบอุ่นเสมือนไปนั่งเล่นทานอาหารที่บ้านญาติผู้ใหญ่  ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวมาเลเซีย  และสายทำคอนเทนต์มาแวะถ่ายรูป และอิ่มอร่อยกันไม่ขายสาย

 

          ภายในร้านตกแต่งสไตล์โมเดิลกึ่งไทยมาเลเซีย   มีเมนูหลากหลายทั้งไทยและสากล โดยเมนูเด่นคือ  ข้าวต้มไก่ และปลาบ้านหยัง  เครื่องอัดแน่น เป็นที่ถูกใจทุกวัย  โดยเฉพาะกลุ่มคนสูงวัยมักชื่นชอบเมนูนี้   และเมนูปอเปี๊ยะบ้านหยัง  ที่ทำเอง  ใหม่สดทุกวัน  ตามแบบฉบับของร้าน  ที่อยากให้ทุกคนมาลิ้มลอง

 

           นางสาวฟิรดาวส์   หลีเส็น   อายุ 28  ปี  ผู้บริหารร้านรุ่นที่ 3 บ้านหยังคาเฟ่  บอกว่า  เมนูที่หลากหลายให้อารมณ์เหมือนมาทานอาหารที่บ้านญาติผู้ใหญ่  กับ  เมนูข้าวเนื้อตุ๋น  ข้าวไก่ย่างเทอริยากิ   สปาเก็ตตี้คาโบนาร่า  ผัดไทยไข่ข้น  ยำไก่ยอข้าวโพดและอีกหลากหลายเมนู  รวมทั้งเมนูเครื่องดื่มที่ชื่นใจ อาทิ มัทฉะน้ำดอกมะพร้าว  ,  ชาเย็นที่ขึ้นชื่อของเมืองสตูลที่รสชาติไม่เหมือนใคร , แอสเปสโซ่น้ำดอกมะพร้าว ,อเมริกาโน่ส้ม   ทานกับขนมเค้กแสนอร่อย

 

          ร้านเปิดทุกวันเว้นวันจันทร์ ตั้งแต่เวลา 11 นาฬิกาถึง 21 นาฬิกา  โปรโมรชั่นพิเศษ   รับปีใหม่   1) ซื้อกาแฟ 2 แก้ว แถม!! โรตีธรรมดานมน้ำตาล 1 ชุด ตั้งแต่วันที่ 1 ถึง 15  ม.ค. 67    และอีก 1 โปรโมรชั่นปีใหม่  เริ่ม 29 ธ.ค. 66 – 1 ม.ค. 67   สั่ง ครบ 599 บาท แถมฟรี!! ปอเปี๊ยะ 1 ชุด   ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมทางเพจร้าน  BAAN YANG อาหารฮาลาล กาแฟสด อาหารทานเล่น หรือโทร.086-320  3009,

 

อัพเดทล่าสุด
Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

สตูล – ดันประเพณีลอยเรือชาวเลอูรักลาโว้ย  สู่  ซอฟต์พาวเวอร์ หลังถูกขึ้นบัญชีให้เป็นมรดกภูมิปัญญา  ทางวัฒนธรรม ระดับชาติ ประจำปี 2566

สตูล-ดันประเพณีลอยเรือชาวเลอูรักลาโว้ย  สู่  ซอฟต์พาวเวอร์ หลังถูกขึ้นบัญชีให้เป็นมรดกภูมิปัญญา  ทางวัฒนธรรม ระดับชาติ ประจำปี 2566

          ประเพณีลอยเรือชาวเลอูรักลาโว้ย  เป็นหนึ่งใน 18  บัญชี  ประกาศให้เป็นมรดกภูมิปัญญา  ทางวัฒนธรรม ระดับชาติ ประจำปี 2566  ด้านแนวปฏิบัติทางสังคม พิธีกรรม ประเพณี และเทศกาล 

          จากการเสนอของคณะกรรมการส่งเสริม  และรักษามรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม และผ่านการพิจารณาคัดเลือก  จากคณะอนุกรรมการกลั่นกรอง  ตามลักษณะมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรม  ที่”เสี่ยงต่อการสูญหาย” ต้องได้รับการส่งเสริมและรักษาอย่างเร่งด่วน

           นางแสงโสม  หาญทะเล  รักษาการแทน ผอ.โรงเรียนบ้านเกาะหลีเป๊ะ  กล่าวว่า   ในนามชาวเลอูรักลาโว้ย  รู้สึกภาคภูมิใจและ ดีใจที่มีภาครัฐ โดยเฉพาะกระทรวงวัฒนธรรม  ได้เห็นความสำคัญของงานประเพณีที่มีการสืบทอดกันมาร่วม  300 ปี  งานประเพณีนี้ยังมีคุณค่าทางจิตใจ อีกทั้งยังเป็นงานที่ช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยวทั่วโลกได้เข้ามามีส่วนร่วมสัมผัส   และศึกษาความงดงาม  ของงานประเพณีลอยเรือชาวเล  บนเกาะหลีเป๊ะ ที่มีขึ้นเป็นประจำปีละ 2 ครั้ง

 

          นางสาวอาซีซ๊ะ  สะมะแอ นักวิชาการวัฒนธรรมชำนาญการพิเศษ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสตูล  กล่าวว่า การขับเคลื่อนประเพณีลอยเรือชาวเลอูรักลาโว้ยของจังหวัดสตูล  เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการจัดประเพณีลอยเรืออูรักลาโว้ยของจังหวัดสตูล  ร่วมกับชุมชนชาวเลอูรักลาโว้ยสตูล ประชาสัมพันธ์การจัดประเพณีลอยเรือของจังหวัดสตูล  ส่งเสริมการท่องเที่ยว  สนับสนุนข้อมูลองค์ความรู้  เกี่ยวกับประเพณีลอยเรืออูรักลาโว้ย  สำหรับต่อยอดงานวิชาการ การวิจัย และพัฒนาเพื่อการเรียนรู้ สืบสานและต่อยอด  ให้คงอยู่ต่อไป  อีกทั้ง   เห็นว่างานประเพณีนี้เป็นหนึ่งในซอฟต์พาวเวอร์ของจังหวัดสตูล

 

          การจัดพิธีลอยเรือของชาวเลอูรักลาโว้ยมีความเชื่อว่า เพื่อเป็นการเริ่มต้นชีวิตใหม่ โดยการสะเดาะเคราะห์ร้าย  และโรคภัยไข้เจ็บให้หมดสิ้นไป เป็นการแสดงความเคารพบรรพบุรุษ  ส่งวิญญาณกลับสู่แดนฆูนุงฌีรัย และล้างบาปอันเกิดจากการฆ่าสัตว์ตัดชีวิตที่แล้วมา  นอกจากนี้  ยังเป็นพิธีการเสี่ยงทาย  การทำมาหากินของชาวเลตลอดทั้งปี   ชาวเลอุรักลาโว้ยสตูล มีความเชื่อว่า  ผู้ที่ผ่านพิธีลอยเรือ  จะเป็นผู้ที่ผ่านทุกข์โศกโรคภัยไข้เจ็บไปหมดแล้ว ชีวิตต่อไปข้างหน้าจะประสบแต่ความสุข  และโชคดีในการทำมาหากิน

 

          ประเพณีลอยเรือเป็นประเพณีของชาวเล หรือว่า ชาวน้ำ ซึ่งเป็นกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ในบริเวณหมู่เกาะแถบทะเลอันดามัน เป็นประเพณีที่สืบทอดกันมาตั้งแต่ครั้งบรรพบุรุษ  อันเกี่ยวเนื่องกับตำนาน ความเชื่อ ความเป็นมา วิถีชีวิต และทุกอย่างของชาวเลอูรักลาโว้ย

 

          พิธีลอยเรือ   จัดขึ้น 2 ครั้งต่อปีในวันพระจันทร์เต็มดวง  ของเดือน 6 และเดือน 11 ตามปฏิทินจันทรคติ จัดครั้งละ 3 วัน  เรือที่ใช้ในพิธีเรียกว่า ปลาจั๊ก หรือ เปอลาจั๊ก ทำจากไม้ตีนเป็ดและไม้ระกำ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของ “ยาน” ที่จะนำวิญญาณของคนและสัตว์ไปอีกภพหนึ่ง   ไม้ระกำทำหน้าที่นำเคราะห์โศกโรคภัยของสมาชิกในแต่ละครอบครัว  เดินทางไปกับเรือ  และเครื่องเซ่นไหว้ต่างๆ ที่จะให้วิญญาณบรรพบุรุษนำไปยังถิ่นฐานเดิม  ที่เรียกว่า ฆูนุงฌีรัย  บุคคลสำคัญที่สุดในพิธีลอยเรือ คือ โต๊ะหมอ เป็นผู้นำทั้งทางโลกและทางธรรม เป็นบุคคลที่ชาวเลศรัทธา มีความแม่นยำในพิธีการ และสื่อสารกับวิญญาณบรรพบุรุษได้

 

          ทั้งนี้ทางกรมส่งเสริมวัฒนธรรม จะดำเนินการประกาศในราชกิจจานุเบกษา และเผยแพร่คุณค่าสาระความสำคัญ รวมทั้งให้การส่งเสริมสนับสนุนในด้านต่าง ๆ เพื่อให้เกิดการดำรงรักษาต่อไป

………………………………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

สื่อมวลชนเพื่อเสริมทักษะยุคดิจิทัล ภายใต้หัวข้อ “ความสำคัญของ MarTech กับอุตสาหกรรมสื่อดิจิทัล ในยุค Digital Era”    

สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ จับมือ สมาคมเทคโนโลยีเพื่อการตลาด โดยความร่วมมือกับกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จัดอบรมสื่อมวลชนเพื่อเสริมทักษะยุคดิจิทัล ภายใต้หัวข้อ “ความสำคัญของ MarTech กับอุตสาหกรรมสื่อดิจิทัล ในยุค Digital Era”    

เมื่อวันที่ 13 ธ.ค. 2566  ณ ห้องแมนดาริน ซี ชั้น 1 โรงแรมแมนดาริน สามย่าน กรุงเทพฯ สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ (SONP) ร่วมกับกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ในโครงการความร่วมมือองค์กรสื่อขับเคลื่อนพัฒนาวิชาชีพและส่งเสริมจริยธรรมสื่อเพื่อสร้างระบบนิเวศสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ จัดให้มีการฝึกอบรม One Day Training แลกเปลี่ยน – เรียนรู้กับกูรูออนไลน์ ประจำปี 2566 ครั้งที่ 2  หัวข้อ “ความสำคัญของ MarTech กับอุตสาหกรรมสื่อดิจิทัล ในยุค Digital Era” โดยได้รับความร่วมมือจากสมาคมเทคโนโลยีเพื่อการตลาด (MerTech)  ในการจัดอบรมในครั้งนี้ วัตถุประสงค์ เพื่อเสริมสร้างพัฒนาทักษะให้แก่บุคลากรด้านการผลิตข่าว การตลาด รวมทั้งการสร้างรายได้ ให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์สื่อในยุคดิจิทัล มีสมาชิกผู้เข้าอบรม จำนวน 58 ท่าน

การอบรมครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก คุณชุตินธรา วัฒนกุล ที่ปรึกษาสมาคมฯ และบรรณาธิการบริหารข่าวออนไลน์ องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทย (ไทยพีบีเอส) กล่าวต้อนรับวิทยากร และผู้เข้ารับการอบรม

 

คุณชุตินธรา กล่าวว่า “ในยุคที่เทคโนโลยีสื่อสารเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เรามีข้อมูลขนาดมหาศาลที่เรียกว่า Big Data เกิดขึ้น การตลาดดิจิทัลก็พัฒนาไปอย่างรวดเร็วแล้ว โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มีเครื่องมือมากมายเลยสำหรับการทำการตลาด สามารถจะเอามาใช้ในการวิเคราะห์ในการวางกลยุทธ์ เราจะนำคอนเท้นท์ไปถึงกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างไร จะหากลุ่มเป้าหมาย อย่างไร และจะนำเสนอผ่านแพลตฟอร์มอะไร เราจะปรับปรุงพัฒนาตัวคอนเท้นท์ของเราให้มีประสิทธิภาพอย่างไร เครื่องมือการตลาดสามารถช่วยตอบคำถามเหล่านี้ได้ หวังว่าความรู้และทักษะที่ผู้อบรมจะได้รับจากผู้บรรยาย จะสามารถที่นำไปประยุกต์ พัฒนา ปรับปรุงเนื้อหาของเราให้มีคุณภาพ วางแผนกลยุทธ์ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นพร้อมรับมือ AI ที่กำลังจะมา”

 

ด้าน คุณนันทสิทธิ์ นิตย์เมธา นายกสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ กล่าวว่า “นับว่าเป็นโอกาสดีที่ผู้บริหารคนรุ่นใหม่กลุ่ม Start up ในสมาคมเทคโนโลยีเพื่อการตลาดได้มาแชร์ความรู้ ประสบการณ์ทำงาน ในด้าน MerTech เพื่อตอบคำถามของสื่อมวลชนว่า เป้าหมายการทำงานต่อจากนี้จะเป็นไปในทิศทางไหน แกนหนึ่งที่สำคัญคือ  “เรื่องของข้อมูล” เป็นสิ่งสำคัญในยุคนี้อย่างยิ่ง สามารถไปต่อยอดในด้านกลยุทธ์หรือการขายก็ได้  เช่น  ข้อมูลของเพจ “ส่องสื่อ” ที่รวมรวม Engagementโดยจัดเรียงอันดับ ทำให้เราเห็น ความสัมพันธ์ของจำนวนการโพสต์ กับจำนวนผู้ติดตามในแต่ละเพจอย่างชัดเจน ”  

 

        การอบรมครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก คุณจิตติพงศ์ เลิศประดิษฐ์ นายกสมาคมเทคโนโลยีเพื่อการตลาด หรือ MarTech มาบรรยายถึงความสำคัญของการใช้เทคโนโลยีด้านการตลาดมาช่วยในการปรับปรุง หรือ สร้างวิธีการทำงานแบบใหม่ เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด  “MarTech คือ เครื่องมือที่ทำให้การทำการตลาดยุคใหม่ไม่ต้องใช้วิธี Manual เราสามารถทำแบบ Automation ได้ ซึ่ง MarTech มาจากการความก้าวหน้าของการใช้  Software ที่อยู่บนคลาวด์ SAAS (Software AS A Services)  ใช้ประโยชน์ได้มากมาย อาทิเช่น การเก็บข้อมูลจาก Social การช่วยตัดสินใจในธุรกิจ (Data Driven Business) ช่วยในการเก็บข้อมูลลูกค้า การบริหารความสัมพันธ์กับลูกค้า (CRM) การทำการตลาดอัตโนมัติ (Marketing Automation)”

 

คุณกล้า ตั้งสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Wisesight ให้มุมมองเรื่องการทำงานที่ท้าทายในปัจจุบัน Trend ของ Social media ไม่ได้หยุดแค่ Social Media  เพราะบริบทของ Social Media หมายถึง ผู้บริโภคทั้งหมด What Next 2024 มาดูกันว่า ผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้าง และคอนเท้นท์บน Social media มีการปรับเปลี่ยนไปอย่างไร บริบทของสังคมในภาพใหญ่ ปรับเปลี่ยนอย่างไร เพื่อให้เราสามารถวางแผนกลยุทธ์ หรือวาง Tactic ได้ว่าในปี 2024  เราควรจะปรับตัวเรื่องอะไรบ้าง การเปลี่ยนแปลงในเชิงปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI Disruption ถ้าใครปรับตัวใช้งานปัญญาประดิษฐ์ได้ก่อน ก็จะสามารถสร้างความได้เปรียบในปี 2024 ค่อนข้างมาก “ในอนาคต งานจะเหมือนเดิม แต่วิธีการทำงานจะเปลี่ยน ถ้าเราทำเหมือนเดิม เราจะตกยุค”

 

คุณณัฐกรณ์ รัตนชัยสิทธิ์  ผู้บริหารและหนึ่งในผู้ก่อตั้งบริษัท พรีดิกทีฟ  (Predictive) ผู้ให้บริการด้าน Data Intelligent กล่าวถึง “การนำเครื่องมือ เทคโนโลยีการตลาดมาใช้ ทั้งในด้าน กระบวนการ วิธีคิด และกลยุทธ์ ในฐานะสื่อจะสามารถสร้างรายได้มากขึ้นจากการใช้ข้อมูล ไม่ว่าจากการวิเคราะห์ Segmentation ต่างๆ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่เข้ามาบนเว็บไซต์ ว่าเขาต้องการอะไรบ้าง ทั้งในแกนของ นักการตลาดและแกนของผู้ใช้งาน  พวกเขามีความคาดหวังอย่างไรบ้าง เราสามารถนำข้อมูล มาสร้างมูลค่าเพิ่มในการหารายได้อย่างไร ซึ่งกระบวนการคิดจะเริ่มจาก ต้องรู้ว่าปัจจุบันข้อมูลที่มีอยู่ในองค์กร ที่จัดเก็บมาเป็นสิบๆ ปีมีตรงไหนบ้าง นำมาสร้างมูลค่าให้เราได้ การนำข้อมูลไปสร้างธุรกิจใหม่ๆ หรือสามารถ Monetized เพื่อเพิ่มรายได้ให้เกิดขึ้น เช่น การทำ CPM ถ้าเรานำข้อมูลมาวิเคราะห์แยกแยะประเภทของข้อมูลให้ละเอียดมากขึ้น เราก็จะอาจจะขายได้ในมูลค่าที่มากกว่าเดิม ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับข้อมูลที่เราวางกลยุทธ์ไว้ สามารถนำไปสร้างรายได้อย่างไรบ้าง ข้อมูลไม่ได้มาฟรี ๆ คุณต้องลงทุนเพื่อให้สามารถเข้าถึงข้อมูลและพฤติกรรมของลูกค้า ”

 

คุณภาวัต พุฒิดาวัฒน์  ผู้บริหาร บริษัท โกเซล  (Gosell) สตาร์ทอัพผู้ให้บริการด้าน ระบบจัดการคำสั่งซื้อและการจัดส่งสินค้าออนไลน์ กล่าวถึงการทำการตลาด  Ecommerce & Affiliated Marketing ว่า สื่อทุกค่ายมี Follower หรือผู้ติดตามจำนวนมากอยู่แล้ว แต่สิ่งที่ยังขาดไปคือ การเพิ่มช่องทางการขาย เช่นการทำ Affiliate การเพิ่มรายได้จากฝั่ง E commerce นำไปปรับใช้กับธุรกิจสามารถสร้างรายได้ให้เติบโตมากขึ้น และแพลตฟอร์มที่น่าสนใจที่สุดในเวลานี้คือ TikTok ที่ Disruption วิธีการขาย Affiliate แบบเก่า กลายมาเป็นรูปแบบของคลิปวีดีโอ ซึ่งสามารถสร้างรายได้เป็นจำนวนมากให้กับกลุ่ม Influencer

 

คุณชนกานต์ ชินชัชวาล ผู้บริหาร บริษัท Robolingo (ZWIZ.AI) ผู้ให้บริการระบบ AI Chat Bot และการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึก บรรยายในหัวข้อ “ Social Commerce” แนะการหารายได้ บนช่องทาง Social Media เช่น Facebook  Line, IG, TikTok และ การนำ Automation Tool  มาช่วยในการขาย เช่น ออกรายการทีวีแล้วปิดการขายผ่าน Line ผ่าน Chat Facebook มีตัวช่วยเยอะมาก ถ้าสื่อบวกกับ MarTech ในเชิงการใช้เครื่องมือต่าง ๆ จะช่วย Brand และผู้ประกอบการ เรื่องยอดขายได้มากขึ้น เพิ่ม Reach การเข้าถึงได้มากขึ้น การออกแบบโครงสร้าง Chatbot ให้ดี ช่วยสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า และนำไปสู่การเพิ่มยอดขายได้

 

คุณอัจฉริยะ ดาโรจน์ ผู้บริหารบริษัท AIYA บรรยายในหัวข้อ Proximity Marketing หรือการทำการตลาดแบบใกล้ชิด โดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วย เช่น  การทำ Location base Marketing ใน Line Application เป็นการตลาดที่น่าสนใจ มุ่งเน้นไปที่การเจาะกลุ่มลูกค้าตามโลเคชั่นเฉพาะจุดใดจุดหนึ่ง สามารถวัดสถิติได้ เป็นการสื่อสารที่ไม่มีค่าใช้จ่าย และสามารถสร้างผู้ติดตามใน Line

กล่าวโดยสรุป การใช้เทคโนโลยีในการทำการตลาดยุคใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการบริหารจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดกับธุรกิจ มีความสำคัญต่อการปรับตัวขององค์กรสื่อ เพื่อมองหาโอกาสในการหารายได้เพิ่ม และเรียนรู้เพื่อนำมาพัฒนาปรับปรุงเนื้อหา เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ เล็งเห็นถึงความจำเป็นอย่างยิ่ง ในการพัฒนาบุคคลากรองค์กรสื่อให้มีความรู้ความสามารถเพิ่มขึ้น และโครงการ One Day Training เป็นหนึ่งในโครงการที่จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพดังกล่าวให้เกิดขึ้น

 

 

#สมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ #SONP #Onedaytraining #Influencermarketing #tellscore #กองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์

………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา เกษตร - อาชีพ

สตูล – ชวนนักท่องเที่ยวทำกระดาษสาจากใบเมล่อน  ที่วิสาหกิจชุมชน ฉิมเมล่อน  แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

สตูล-ชวนนักท่องเที่ยวทำกระดาษสาจากใบเมล่อน  ที่วิสาหกิจชุมชน ฉิมเมล่อน  แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร

            นายไพรัช  สุขงาม  ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสตูล  พร้อมเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่  หมู่ที่ 4  ตำบลทุ่งหว้า อำเภอทุ่งหว้า จังหวัดสตูล  ซึ่งเป็นวิสาหกิจชุมชน ฉิมเมล่อน แหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตร    ที่พร้อมรองรับกลุ่มนักท่องเที่ยว ทั้งชาวไทย และต่างชาติ เช่น กลุ่มชาวจีน เกาหลี และกลุ่มประเทศมาเลเซีย ที่เข้ามาท่องเที่ยวในจังหวัดสตูล   ก่อนมุ่งหน้าลงทะเลอันดามัน  สามารถแวะเที่ยวชม  ชิม ผลิตภัณฑ์แปรรูปจากเมล่อน และกิจกรรมที่เสริมเข้ามาให้นักท่องเที่ยวได้ทำ  เพื่อสันทนาการที่สวนเกษตร ฉิมเมล่อน

 

              วิสาหกิจชุมชน ฉิมเมล่อน เริ่มกิจการตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน  2556 ด้วยความใส่ใจ ในการผลิตเป็นอย่างดีทุกขั้นตอน ตั้งแต่วันเพาะปลูก จนเก็บเกี่ยว ทำให้เมล่อนมีรสชาติหวาน ฉ่ำ จนปัจจุบันนี้เจ้าของสวน  หันมาทำประโยชน์จากส่วนต่างๆ โดยเฉพาะใบเมล่อน คือ นำไปทำแปรรูปเป็น กระดาษสาใบเมล่อน  โดยการทำ กระดาษสาจากใบเมล่อน  นำ-ใบเมล่อน 3 กิโลกรับ + โพแทสเซียมไฮด๊อกไซด์ 90 กรัม นำไปต้ม 6 ชั่วโมง จากนั้นนำไปปั่นละเอียด จนได้เนื้อยุ่ยๆ หลังจากนั้นนำไปกรองกับผ้าขาว – นำเนื้อยุ่ย 300 กรัม + น้ำ 23 ลิตร + สาร cmc 5 ช้อนโต๊ะ คนๆให้เข้ากันจะได้ เป็นน้ำ   ที่ผสมเสร็จพร้อมทำกระดาษสา

 

              นำแผ่นกรองสี่เหลี่ยมขนาดเท่ากับ กระดาษ A4  จุ่มลงไปในน้ำที่ผสมเสร็จแล้ว ค่อยๆยกให้สะเด็ดน้ำ ก่อนนำไปตากแดด เมื่อแห้งได้ที่ ก็จะได้กระดาษสาจากใบเมล่อน สามารถนำไปใช้ตกแต่งประดับเป็นของชำร่วย หรือการ์ดงานแต่ง  หรือนำไปตกแต่งอย่างอื่นได้

            นายชยพัทธ์ หล่อสุพรรณพร วิสาหกิจชุมชน ฉิมเมล่อน  ท่องเที่ยวเชิงเกษตร  กล่าวว่า ฉิมเมล่อน เป็นแหล่งเรียนรู้การท่องเที่ยวเชิงเกษตร  การปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน (ไฮโดรโปนิกส์) การผสมเกษรของเมล่อน มีร้านกาแฟ จำหน่ายผลิตภัณฑ์เมล่อนแปรรูป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมล่อนจีโอปาร์ค (อัตลักษณ์หนึ่งเดียวในโลก) อันหมายถึงการสลักลายจีโอปาร์คลงบนผิวผลเมล่อน

 

               ด้าน นายไพรัช  สุขงาม   ผู้อำนวยการ  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสตูล   กล่าวว่า ที่นี่มีสินค้าการเกษตรที่ทำมาจาก เมล่อน มีโรงเรือนที่เพาะพันธุ์เมล่อน  และผลผลิตเมล่อน ที่น่ากิน มีทั้งเครื่องดื่มที่ทำจากเนื้อเมล่อน จนมาเป็นกิจกรรมการ  การสร้างการอนุรักษ์ สิ่งแวดล้อม โดยเชื่อมโยงเรื่องการท่องเที่ยวได้ดี

           

          สำหรับนักท่องเที่ยวทั้งใน และต่างจังหวัดที่เดินทางเข้ามาเที่ยวในจังหวัดสตูล   ต้องการที่จะมาร่วมกิจกรรมทำกระดาษสาใบเมล่อน หรือมาถ่ายรูปชมเมล่อน ซื้อของฝากจากสวนเมล่อน โทรติดต่อ 081 -839  8022 หรือ เพจ ททท.สำนักงานสตูล : TAT Satun Office   โทร 074-740 724

…………………………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สตูล-ครูเกษียณปลูก  ฝรั่งสาลี่ทองไร้เมล็ดพืชทำเงินยอดนิยม  ปลูกครั้งเดียวเก็บผลผลิตได้ตลอดทั้งปี  

สตูล-ครูเกษียณปลูก  ฝรั่งสาลี่ทองไร้เมล็ดพืชทำเงินยอดนิยม  ปลูกครั้งเดียวเก็บผลผลิตได้ตลอดทั้งปี

           ที่สวนของคุณครูสุนทร   บุญชูประภา  อายุ 71 ปี ข้าราชการครูเกษียณ ตั้งอยู่เลขที่ 176  หมู่ที่ 2 ตำบลคลองขุด อำเภอเมือง จังหวัดสตูล  บนพื้นที่ไร่ครึ่ง   หลังได้เกษียณอายุราชการได้ไปเดินงานเกษตรที่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ เห็นฝรั่งสาลี่ทองไร้เมล็ดก็เกิดไอเดียว่าน่าจะนำมาปลูกในพื้นที่สตูล เพราะเห็นว่ายังไม่มีใครนำมาปลูกจึงเป็นจุดประกายจากวันนั้นถึงวันนี้นับ 10 ปี  ฝรั่งสาลี่ทองไร้เมล็ดยังคงให้ผลผลิตไม่ขาดสาย

 

          จากจุดเริ่มต้นการปลูก 200 ต้นเหลือเพียง 100 ต้นที่ลองผิดลองถูก  รอดมาจนปัจจุบันนี้   ต้องหมั่นดูแลตัดแต่งกิ่งใส่ปุ๋ยเป็นอย่างดี   ยังคงให้ผลผลิตดกตลอด โดยการปลูกฝรั่งในครั้งนี้คืนทุนในปีเดียว  เพราะมีเพื่อนเกษตรด้วยกันมาขอแบ่งปันซื้อกิ่งฝรั่ง  50-100 กิ่งละ 100 บาท ทุกวันนี้ 2-3 วันเก็บผลผลิตครั้งในช่วงผลดกออกชุกครั้งละ 70-80 กิโลกรัม (ราคากิโลกรัมละ 40-50 บาท)

          มีลูกค้าประจำจะมารับและหากมีผลิตมากจะส่งขายโรงพยาบาล และอนามัยชุมชน เพราะลูกค้ามั่นใจเพราะตนไม่ใส่ปุ๋ยเคมี ปลอดภัยแน่นอน หลังเก็บผลผลิตก็จะตัดแต่งกิ่งให้และใส่ปุ๋ย

          นายเฉลิมพร  ศรีสวัสดิ์  เกษตรอำเภอเมืองสตูล   ฝรั่งสาลี่ทองไร้เมล็ด  พบว่าเกษตรกรปลูกน้อยในพื้นที่จังหวัดสตูล  คุณครูสุนทรได้ทำเป็นอาชีพเสริมปลูกบนพื้นที่ไร่เศษปลูกเป็นรายได้เสริม  สำหรับฝรั่งสาลี่ทองไร้เมล็ดเป็นผลไม้ที่ตลาดต้องการให้ผลผลิตได้ตลอดทั้งปี   เน้นการจัดการสวน  การเอาใจใส่  เมื่อเก็บผลผลิตเสร็จเกษตรกรต้องตัดแต่งกิ่ง  แล้วจะให้ดอกออกผลผลิต เกษตรกรต้องเอาใจใส่ด้วยการห่อเพื่อป้องกันศัตรูพืชเจาะผลผลิต 

………………………………

อัพเดทล่าสุด