Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

กินคู่! เกษตรกรสตูลปลูกเตยหอมในสวนมะพร้าว รับรายได้ 2 ทาง  เกษตรอำเภอแนะปลูกพืชเสริมคู่พืชหลัก

กินคู่! เกษตรกรสตูลปลูกเตยหอมในสวนมะพร้าว รับรายได้ 2 ทาง  เกษตรอำเภอแนะปลูกพืชเสริมคู่พืชหลัก

             บนพื้นที่สวนมะพร้าว 6 ไร่กว่า  ตั้งอยู่หมู่ที่ 6  ต.คลองขุด อ.เมือง  จ.สตูล   ดูร่มรื่นสดชื่นเขียวขจีด้วยต้นเตยหอม ที่เจ้าของสวนปลูกแซมสวนมะพร้าว  สร้างรายได้ 2 ทางให้เกษตรกรเป็นกอบเป็นกำ  ด้านเกษตรอำเภอแนะเกษตรกรไม่ควรปลูกพืชชนิดเดียว

         

          ด้านนางวรันณ์ธร  ทองหวั่น  อายุ  50 ปี  เกษตรกรสวนมะพร้าว  และครอบครัว  นำเกษตรอำเภอเมืองสตูล เข้าชมต้นเตยหอมที่ขึ้นอย่างหนาแน่นภายในสวนมะพร้าวที่ปลูกนานกว่า 30 ปี  โดยทางสวนได้ขุดคูน้ำเล็กๆเก็บไว้ใช้น้ำในช่วงหน้าแล้ง  เพราะต้นเตยหอมจะโตสวยงามในพื้นที่ซับน้ำ 

 

         ในส่วนของมะพร้าวที่มีมากกว่า 100 ต้น ทั้งมะพร้าวน้ำหอม  และมะพร้าวน้ำหวาน  จะตัดเดือนละ  2 ครั้ง ครั้งละ 500-700 ลูก  ขายในราคาลูกละ 15 บาท  ส่วนหนึ่งจะขายน้ำถุงละ 15 บาท  สร้างรายได้เดือนละ 20,000  บาท  ส่วนเตยหอมนั้นนับเป็นรายได้ที่ 2 ของทางสวน  จะเก็บขาย  100 ใบ ราคา 15 บาท  สร้างรายได้ 5,000-6,000 บาทต่อเดือน

 

         ด้านนางวรันณ์ธร  ทองหวั่น  เกษตรกรสวนมะพร้าว  บอกว่า  สวนมะพร้าวพื้นที่ 6 ไร่กว่า ทั้งมะพร้าวน้ำหอม  มะพร้าวน้ำหวาน   ที่สวนนี้ปลูกมะพร้าวมากกว่า 30 ปีแล้ว  รายได้ต่อเดือนประมาณ 20,000 บาท  เป็นพื้นที่เล็กๆให้คนแก่คอยเก็บขาย   ตอนนี้เพิ่มมูลค่าโดยการปลูกใบเตยเพิ่มขึ้นมา   เพราะพื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่มีน้ำท่วมอยู่ตลอดเลยเอาใบเตยมาปลูกเสริม   ทำให้มีรายได้เพิ่มขึ้นอีกประมาณ 5,000 ถึง 6,000 บาทต่อเดือน  โดยจะส่งขายที่ร้านดอกไม้  จะมีแม่ค้าที่ทำขนมมาขอซื้อ  ต่อเดือนสามารถขายได้หลายหมื่นใบ โดยทางสวนจะตัดขายเป็นใบไม่ได้ตัดเป็นต้น

 

         เกษตรกรสวนมะพร้าว  บอกอีกว่า  ทางสวนปลูก เตยหอม คู่กับมะพร้าว ทำให้มะพร้าวซึ่งมีน้ำที่หอมอยู่แล้วเมื่อมีใบเตยเสริมความหอมของมะพร้าวขึ้นมาอีก  มะพร้าวที่เราขายจะขายทั้งเป็นลูก  แล้วก็เป็นน้ำ 

 

        หากตัดเจอมะพร้าวลูกแก่ก็จะแยกส่งให้กับแม่ค้าที่ทำขนมขาย   ลูกอ่อนเหมาะกับการทำเป็นน้ำก็จะทำน้ำขายแพ็คถุงส่งขายเอง    ในส่วนของปัญหาตอนนี้เป็นเรื่องของอากาศ   อากาศแล้งทำให้มะพร้าวเป็นลูกน้อยลง   พอเริ่มมีฝนก็กลับมาให้ลูกเหมือนเดิม   แต่ปีนี้ยอมรับว่าแล้งจัด

 

         สวนที่นี่ได้รับการสนับสนุนจากเกษตรอำเภอมากๆ   มีหมอดิน   มีนักวิชาการมาตรวจดินให้เรา  จะบอกว่าดินของเรามีปัญหาอะไร   ให้เสริมแต่งอะไรบ้าง  เพราะเราไม่รู้ว่าดินขาดสารอาหารอะไร   เราเติมแต่งไม่ถูก    เมื่อท่านได้มาก็ได้รู้ว่าดินขาดเกลือก็ต้องเอาเกลือลง   ขาดปุ๋ยอะไรก็เสริมลงไป    ดินก็ออกมาดี   มะพร้าวก็ออกมาดี

          ด้านนายเฉลิมพร  ศรีสวัสดิ์  เกษตรอำเภอเมืองสตูล  กล่าวว่า   สำหรับแปลงปลูกมะพร้าวของลุงเจริญ  จะปลูกมะพร้าวน้ำหอมและมะพร้าวน้ำหวานผสมกัน  ได้เสริมด้วยใบเตยซึ่งเป็นรายได้เสริมจากมะพร้าวอีกที่หนึ่งเพราะว่าในพื้นที่สวนนี้เป็นพื้นที่ซับน้ำ  จึงนำใบเตยมาปลูกเป็นรายได้เสริมซึ่งเหมาะกับพื้นที่

 

          ในเรื่องความหอมจากใบเตยจะส่งผลให้น้ำมะพร้าวหอมนั้น   เกษตรอำเภอ  บอกว่า อันนั้นเป็นส่วนหนึ่งของความเชื่อของผู้บริโภคและเกษตรกรทั่วไปว่าใบเตยมีผลต่อความหอมของมะพร้าว  แต่จริงๆแล้วกลิ่นของมะพร้าวน้ำหอม  กับกลิ่นของใบเตยใกล้เคียงกันมาก

 

        สำหรับสวนนี้  ทางสำนักงานเกษตรอำเภอเมือง  ร่วมกับสำนักงานเกษตรจังหวัด  ก็ได้จัดตั้งเป็นแปลงเรียนรู้ให้กับเกษตรกรทั่วไปที่สนใจในเรื่องของการบริหารจัดการสวนมะพร้าวอย่างมีประสิทธิภาพ

 

ทั้งนี้ทางเกษตรอำเภอเมืองสตูล  ได้ฝากถึงเกษตรกรทั่วไปว่า การทำการเกษตร  1.เราอย่ามุ่งแค่พืชหลักอย่างเดียว   ต้องหารายได้จากพืชเสริม  ที่ผสมกันอย่างลงตัวเพื่อเป็นรายได้เสริม   เพราะบางครั้งบางช่วง  พืชหลักผลผลิตอาจตกต่ำเราก็จะได้มีรายได้จากพืชเสริมด้วยอีกช่องทางหนึ่ง

          หากเกษตรกรท่านใดต้องการเรียนรู้  หรือ สั่งซื้อมะพร้าวน้ำหอม  หรือ ใบเตยหอม  ติดต่อสอบถาม โทร  086 – 958 4983

…………………………….

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
สัมภาษณ์พิเศษ-คอลัมน์นิสต์

ปฏิบัติหน้าที่เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต แม้ไม่ละเมิดแต่รัฐยังต้องรับผิด !

ปฏิบัติหน้าที่เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต แม้ไม่ละเมิดแต่รัฐยังต้องรับผิด !

ดย ลุงถูกต้อง

          “หลักความรับผิดโดยปราศจากความผิด อาจไม่ค่อยคุ้นหูมากนัก แต่หลักการนี้สำคัญ
และคุ้มครองประชาชนที่ได้รับความเสียหายหรือรับผลกระทบจากการจัดทำบริการสาธารณะหรือการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ ทั้งการรับภาระสาธารณะเกินสมควรกว่าบุคคลทั่วไป และการรับความเสี่ยงภัย
เป็นกรณีพิเศษ ซึ่งวันนี้ … จะมาคุยกันถึงเรื่องการรับความเสี่ยงภัยจากการปฏิบัติหน้าที่ในการจับกุมผู้ร้าย

 

            ทั้งนี้ หลักความรับผิดโดยปราศจากความผิดและทฤษฎีเสี่ยงภัยมาจากแนวคิดที่ว่า รัฐมีอำนาจในการดำเนินงานต่าง ๆ ตามกฎหมาย แต่หากการดำเนินกิจกรรมบางลักษณะก่อให้เกิดความเสี่ยงภัย
หรืออันตรายซึ่งทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน และประชาชนบุคคลใดบุคคลหนึ่งได้รับภัยนั้น
เป็นกรณีพิเศษ แม้รัฐจะไม่ได้กระทำความผิดใด ๆ ก็ตาม รัฐก็ต้องรับผลในการกระทำนั้น รวมทั้งต้องเยียวยา
ความเสียหายอันเกิดจากการดำเนินกิจกรรมที่ก่อให้เกิดความเสี่ยงภัยนั้นด้วย

 

            ลุงถูกต้องได้นำคดีตัวอย่างที่รัฐต้องรับผลในการกระทำของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเป็นไปตามหลักการข้างต้นมาให้ศึกษากันครับ !  

             ประเด็นปัญหา : บุตรชายของผู้ฟ้องคดีทั้งสอง (บิดา-มารดา) ถูกชุดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นพิสูจน์และจับกุมบุคคลตามหมายจับ (เจ้าหน้าที่ตำรวจและทหารซึ่งปฏิบัติหน้าที่ในภารกิจของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน. สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี) ยิงจนถึงแก่ความตาย ผู้ฟ้องคดีเห็นว่า บุตรของตนมิใช่บุคคลตามหมายจับและมิได้กระทำความผิด (นายบีเป็นบุคคลตามหมายจับในข้อหาร่วมกันก่อการร้าย) จึงฟ้องคดีต่อศาลปกครอง เพื่อขอให้สำนักนายกรัฐมนตรี (ผู้ถูกฟ้องคดี) ในฐานะหน่วยงาน
ต้นสังกัดชดใช้ค่าเสียหาย ซึ่งเป็นคดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดหรือความรับผิดอย่างอื่นของหน่วยงาน
ทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐ อันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมายที่อยู่ในอำนาจพิจารณาของศาลปกครอง

              ศาลปกครองสูงสุดพิจารณาว่า : เมื่อบุตรของผู้ฟ้องคดีถูกยิงเสียชีวิตเป็นผลมาจากการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการปิดล้อมตรวจค้นพิสูจน์และจับกุม โดยขณะปฏิบัติหน้าที่ได้พบกลุ่มของผู้ตาย
ซึ่งต้มน้ำกระท่อมในพื้นที่ป่า และเกิดการปะทะกันระหว่างหลบหนี ทั้งนี้ จากผลการตรวจพิสูจน์และพยานหลักฐานต่าง ๆ ฟังได้ว่าผู้ตายมิได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับขบวนการก่อการร้าย ไม่มีประวัติอาชญากร ไม่พบ
สารเสพติด โดยพบอาวุธปืนเล็กกล จำนวน 1 กระบอก และพบลูกระเบิด 1 ลูก (ด้านใช้งานไม่ได้) อยู่ในกระเป๋ากางเกง แต่ไม่พบ DNA ของผู้ตายที่อาวุธปืน ทั้งผู้ตายเป็นเพียงเยาวชนอายุ 18 ปี จึงยังไม่มีน้ำหนักพอที่จะ
รับฟังได้ว่าผู้ตายยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ

              อย่างไรก็ตาม เมื่อบริเวณที่เกิดเหตุเป็นป่าละเมาะ โดยเจ้าหน้าที่ได้รับรายงานว่าบุคคล
ตามหมายจับมีการเคลื่อนไหวเข้ามาในพื้นที่ดังกล่าว ซึ่งแม้จะฟังได้ว่าผู้ตายมิได้ยิงปะทะกับเจ้าหน้าที่
แต่ในสถานการณ์เช่นว่านี้ เจ้าหน้าที่ย่อมชอบที่จะใช้สิทธิป้องกันตัวโดยการยิงต่อสู้ กรณีจึงไม่อาจถือได้ว่า
เป็นการกระทำละเมิด
โดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อต่อผู้ตาย ทั้งนี้ แม้การปฏิบัติหน้าที่จะเป็นไป
เพื่อปฏิบัติให้เป็นไปตามหมายจับโดยชอบด้วยกฎหมายก็ตาม แต่สำนักนายกรัฐมนตรียังต้องรับผิด
จากการใช้อาวุธปืนของเจ้าหน้าที่ผู้ก่อให้เกิดความเสี่ยงภัยหรืออันตรายแก่ราษฎรคือผู้ตาย อันถือเป็นความรับผิดอย่างอื่นของรัฐ (รับผิดโดยปราศจากความผิด) อันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย สำนักนายกรัฐมนตรี
จึงต้องเยียวยาความเสียหายให้แก่ผู้ฟ้องคดีทั้งสอง (คำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดที่ อ. 969/2566)

            สรุปได้ว่า : กรณีที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐได้ใช้อำนาจตามกฎหมายอันมีลักษณะก่อให้ความเสี่ยงภัยหรืออันตรายแก่ประชาชน แม้จะดำเนินการโดยชอบหรือไม่เข้าลักษณะการกระทำละเมิด แต่หน่วยงานของรัฐต้นสังกัดของเจ้าหน้าที่ยังต้องรับผิดในผลที่เกิดขึ้น ทั้งนี้เป็นไป
ตามหลัก “ความรับผิดโดยปราศจากความผิดและทฤษฎีเสี่ยงภัย” นั่นเองครับ

             

          (ปรึกษาการฟ้องคดีปกครองได้ที่ “สายด่วนศาลปกครอง 1355”)

 

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

อัพเดทล่าสุด
Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

   สตูล- ปูนับล้านๆๆตัวโผล่หน้าหาดทะเลดาว  อวดโฉมความสมบูรณ์ของธรรมชาติ  ท่องเที่ยวชุมชนฯ  ชวนชมปูทหารพระราชา  ที่มีขึ้นทุกวันหลังน้ำลด ความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติมอบให้

สตูลฮือฮา!  ปูนับล้านๆๆตัวโผล่หน้าหาดทะเลดาว  อวดโฉมความสมบูรณ์ของธรรมชาติ  ท่องเที่ยวชุมชนฯ  ชวนชมปูทหารพระราชา  ที่มีขึ้นทุกวันหลังน้ำลด ความมหัศจรรย์ที่ธรรมชาติมอบให้

          ทันทีที่น้ำลด  ปูทหารหลายล้านตัวต่างออกมาวิ่งเล่น คุ้ยเขี่ยหาอาหาร  จะเห็นได้ชัดที่ชายหาดกาสิง  โซนหน้ารีสอร์ททะเลดาว  บ้านบ่อเจ็ดลูก  หมู่ที่ 1  ต.ปากน้ำ  อ.ละงู  จ.สตูล  เป็นภาพประทับใจสร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวที่มาสัมผัส  ด้านท่องเที่ยวชุมชนเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวชมปูทหารพระราชา  อีกหนึ่งความสมบูรณ์ของท้องทะเลจังหวัดสตูล     

 

           ห่างจากฝั่งเพียง 100 เมตรก็จะเจอปูทหารพระราชา  ที่ออกมาคุ้ยเขี่ยหาอาหารทันทีที่น้ำลด  บนพื้นที่ชายหาดกาสิงตลอดแนวร่วม 4 กิโลเมตร  ขณะที่ชาวบ้านก็หาปู ปลา  อาหารทะเล  โดยไม่รบกวนปูทหารแต่อย่างใด  โดยชาวบ้านที่ออกมาหาปู  บอกว่า  ช่วงน้ำแห้งปูตัวเล็กๆจะขึ้นมาเยอะมาก เต็มชายหาดโดยปูจะหากินอยู่บนชายหาดนี้  ไม่ไปไหน   ส่วนตัวเวลาเดินไปหาอาหารทะเลก็ไม่กล้าเหยียบ  เอ็นดูเมื่อเห็นมันวิ่ง  สำหรับปูจะมีตัวเล็กๆใหญ่สุดก็จะประมาณหัวแม่มือ

 

          นายนัสรูน  หลงสมัน  กลุ่มท่องเที่ยวชุมชนบ้านบ่อเจ็ดลูก  กล่าวว่า    ชายหาดตรงนี้เรียกชายหาดกาสิง มีความยาวนี่โดยรวมก็เกือบ 4  กิโลเมตร  บริเวณที่ปูทหารมันขึ้นเยอะ  ก็จะอยู่ตรงชายหาดทะเลดาวรีสอร์ท  ถ้าเราขับรถเข้ามาชุมชนบ้านบ่อลูกก็เจอซอยแรกขวามือก็เลี้ยวได้เลย   หลังจากที่เลี้ยวเข้ามาตามซอยมาจอดตรงด้านหน้ารีสอร์ททะเลดาว   หลังจากนั้นก็เดินไปยังชายหาดประมาณ  100 เมตร  ก็จะเจอกองทัพทหารที่มีอยู่มากกว่าเป็น 1,000,000 ตัว  เพราะว่ามันเยอะมาก

 

       ปูทหารพระราชาเป็นปูที่มีมานานแล้ว   ผมเคยเห็นมาตั้งแต่เด็ก  ขอให้น้ำลดปุ๊บเค้าจะปั้นดินเป็นก้อนกลมๆ  เพื่อที่จะหาอาหารในดินที่เป็นอินทรีย์วัตถุ  สาเหตุที่จุดนี้มีปูทหารเยอะเพราะว่าน้ำจืดมันไหลลงมาบรรจบกับน้ำทะเล   เลยทำให้น้ำทะเลกับน้ำจืดมันกร่อย จึงเกิดอินทรีย์วัตถุที่มันอยู่ในดิน  กลายเป็นอาหารให้พวกปูทหาร   เค้าก็เลยมาอาศัยอยู่บริเวณนี้นี่แบบเยอะมาก   จะเห็นในช่วงน้ำลดทุกวัน   แต่ละวันมันก็จะไม่เหมือนกัน  จะต่างกันไปวันละชั่วโมงขึ้นอยู่กับข้างขึ้นข้างแรม  โดยดูน้ำขึ้นน้ำลง   แต่ถ้ามาเที่ยวชุมชนก็สอบถามกับชุมชนได้เลยว่าสามารถไปดูได้ตอนไหนเวลาไหน ที่น่าดูที่สุด

          นายนัสรูน  หลงสมัน  กลุ่มท่องเที่ยวชุมชนบ้านบ่อเจ็ดลูก  กล่าวอีกว่า  สำหรับ  ปูทหารนี้กินไม่ได้  เพราะมันตัวเล็กมาก ใหญ่สุดไม่เกิน 4-5 ซม.  ไม่เกินนี้  เนื้อที่จะให้เรารับประทานมันก็ไม่มี   แล้วปูนี้มันบ่งบอกถึงความอุดมสมบูรณ์ของพื้นที่ว่าที่นี่ยังมันอุดมสมบูรณ์โดยเฉพาะเรื่องของอากาศ ถ้าอากาศดีปูก็เต็มอย่างที่เห็น  แต่ถ้าอากาศมีมลพิษปูอาจจะไม่อยู่เยอะอย่างนี้  ซึ่งจังหวัดสตูลอากาศบริสุทธิ์  มันก็มาอาศัยอยู่เต็มชายหาด

 

        จริงๆแล้วผมเคยเห็นมาตั้งแต่เด็ก   มันขึ้นมาตั้งนานแล้ว   แต่บางคนเค้าเข้าใจว่าบางทีอาจจะเกิดจากภาวะโลกร้อนบ้างอะไรบ้าง  ถ้าเคยได้ยิน   แต่จริงๆแล้วผมว่าไม่ใช่นะ   เพราะว่ามันขึ้นมานานแล้ว  ปูมดแดงกับปูทหารผมว่าชนิดเดียวกันนะ  เพราะว่าชาวบ้านบางทีเค้าเรียกกันแบบบ้าน  เมื่อก่อน คนแก่คนที่บ้านเค้าก็เรียกปูมดแดง

 

         สำหรับท่านที่มาท่องเที่ยวชุมชนบ้านบ่อเจ็ดลูก  นอกจากเราลงเรือไปเที่ยวปราสาทหินพันยอดแล้ว  ขากลับขึ้นฝั่งมาสามารถขึ้นมาชมกองทัพปูทหารพระราชาได้  สามารถติดต่อได้ที่ชุมชนบ่อเจ็ดลูก เบอร์โทร 081-542 0071 หรือ  098-695-6461

…………………………

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สตูล-น้ำผึ้งโพรงเดือน 5 สุดยอดสรรพคุณทางยา กลุ่มผู้เลี้ยงผึ้งพร้อมส่งต่อ

สตูล-น้ำผึ้งโพรงเดือน 5 สุดยอดสรรพคุณทางยา กลุ่มผู้เลี้ยงผึ้งพร้อมส่งต่อ

         เข้าสู่ปีที่ 5 แล้วสำหรับการรวมตัวกันเลี้ยงผึ้งโพรง  ของชาวบ้าน  20 คน ในชื่อกลุ่ม วิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงสัตว์ บ้านแประใต้  สร้างรายได้เสริมให้สมาชิกอย่างต่อเนื่อง

 

          ที่สวนผลไม้ผสมและสวนยางพารา หมู่ที่ 4   ตำบลท่าเรือ  อำเภอท่าแพ  จังหวัดสตูล  มีการนำบ้านผึ้ง  ประมาณ 10 หลัง   ไปวางตามจุดที่มีความชื้นเพื่อให้ผึ้งได้มาทำรัง  โดยทางวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงสัตว์ บ้านแประใต้   ซึ่งเกิดจากการรวมกลุ่มกันเลี้ยงผึ้งโพรง  เพื่อเป็นรายได้เสริมของเกษตรกร   หลังจากทำสวนผลไม้และสวนยางพารา   โดยทันทีที่ผึ้งสร้างน้ำผึ้งจนเต็มรัง  เกษตรกรชุดนี้ซึ่งนำโดยผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4  ก็จะออกมาช่วยกันเก็บน้ำผึ้งเพื่อมาแปรรูปขาย

 

        การเก็บน้ำผึ้งทุกขั้นตอนต้องใช้ความระมัดระวัง   และมีอุปกรณ์ในการป้องกันไม่ให้ผึ้งมาต่อยหรือไชได้   เพราะในกลุ่มที่แพ้   อาจมีอาการหนัก   จนต้องหามส่งโรงพยาบาล  แต่เพื่อไม่ประมาททางกลุ่มก็จะใช้อุปกรณ์ทุกครั้งในการเก็บน้ำผึ้งเพื่อป้องกัน 

 

          ดูแล้วไม่ง่ายกว่าที่จะได้น้ำผึ้งมา   แม้ขั้นตอนการทำรังอาจจะดูง่าย  เพียงซื้อลังและหัวเชื้อเรียกผึ้งมาทำรัง  แต่ขั้นตอนการเก็บต้องใช้ความระมัดระวัง  เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายขณะที่เก็บน้ำผึ้งได้

 

          โดยในช่วงนี้  ผึ้งจะทำรังและได้น้ำผึ้งที่มีคุณสมบัติดี  ตามหลักความเชื่อที่ว่า  น้ำผึ้งเดือนห้าจะมีสรรพคุณทางยามากกว่าน้ำผึ้งในเดือนอื่นๆ  จึงทำให้น้ำผึ้งเดือน 5 เป็นที่ต้องการของตลาดเพราะด้วยสรรพคุณดังกล่าว

 

            นายฮาหรูน   ชะยานัย   ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มเลี้ยงสัตว์ บ้านแประใต้ (ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ตำบลท่าเรือ)  กล่าวว่า   ผึ้งโพรงส่วนใหญ่จะเก็บในช่วงเดือน 5  มีมาตรฐานมีความเข้มข้นมากกว่าช่วงอื่นๆ เหมาะกับการใช้ปรุงยา สมุนไพรชนิดอื่นๆ  เพราะมีส่วนผสมของเกสรดอกไม้ 99 ชนิด เพื่อรักษาโรคไอเจ็บคอ  ก่อนจะเอามาทำเป็นยาลูกกลอน  

 

            ทางสมาชิกกลุ่มมีบ้านผึ้งกว่า 100 หลัง  โดยลงทุนเพียงครั้งเดียวสามารถสร้างรายได้ตลอด 4 ปี   ทางกลุ่มมีสินค้าอยู่ 2 ชนิด  คือ  น้ำผึ้ง ปริมาณ 450 ml  ขายขวดละ 400 บาท  ส่วนรังผึ้งสด จะขาย 4 ขีด 150 บาท  โดยสามารถสั่งซื้อได้ทางกลุ่ม  โทร  081-896-9863 

          ทั้งนี้ทางกลุ่มมีการปันผลให้กับสมาชิกปีละ 3,000 บาทต่อคน ซึ่งสร้างรายได้เสริมให้กับครัวเรือนและยังมีน้ำผึ้งไว้ทาน  และเพื่อรักษาโรคและเป็นยาสามัญประจำบ้าน

 

          นายอารีย์ โส๊ะสันสะ  เกษตรอำเภอท่าแพ  เป็นกลุ่มเกษตรกรที่สนใจเลี้ยงแมลงเศรษฐกิจได้ส่งเข้าอบรมการเลี้ยงผึ้งโพรง  ส่วนหนึ่งได้รับการสนับสนุนจากศูนย์แมลงเศรษฐกิจ  ชุมพร โดยงบประมาณส่วนหนึ่งของเกษตรอำเภอท่าแพได้เริ่มต้นให้  แล้วจะความตั้งใจของกลุ่มเดิมที่มีอยู่แล้ว  ทางสมาชิกเองได้มีการต่อยอด  จึงเป็นที่มาของการรวมกลุ่มและจดทะเบียน  เริ่มจากกลุ่มส่งเสริมอาชีพการเกษตร   มันมีความเข้มแข็งมากขึ้นก็ได้มีการจดทะเบียนเป็นวิสาหกิจชุมชน 

 

          สำหรับความพิเศษของกลุ่มนี้  นอกจากจะรวมกลุ่มเพื่อเลี้ยงผึ้งแล้ว  ยังมีการรวมกลุ่มเพื่อเลี้ยงแพะเลี้ยงโคและเลี้ยงปลาเป็นรายได้เสริมด้วย  

……..

 

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ข่าวทั่วไป

สสจ.สตูล ลงพื้นที่กระบี่ร่วมกับภาคการท่องเที่ยวกระบี่เตรียมจัดประชุมBHGCM ครั้งที่ 35 ปี 68

สสจ.สตูล ลงพื้นที่กระบี่ร่วมกับภาคการท่องเที่ยวกระบี่เตรียมจัดประชุมBHGCM ครั้งที่ 35 ปี 68

          วันที่ 2 พฤษภาคม 2567  เวลา 14.30 น.  ณ ห้องประชุมชั้น 2 สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกระบี่    นายแพทย์ชัยรัตน์ ลำโป นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสตูล มอบหมายให้ นายเอกพล เหมรา นักวิชาการสาธารณสุขเชี่ยวชาญ (ด้านส่งเสริมพัฒนา) รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสตูล และนายภาษิต พิศาลสุทธิกุล เภสัชกรเชี่ยวชาญ (ด้านเภสัชสาธารณสุข)  รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสตูล พร้อมคณะ เข้าพบ นายสุรัตน์ จรณโยธิน ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดกระบี่ และนางสาวศศิธร กิตติธรกุล รักษาการนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดกระบี่ เพื่อสำรวจพื้นที่สำหรับการเตรียมความพร้อมการประชุมความร่วมมือด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศไทยและประเทศมาเลเซีย ในช่วงเดือนกรกฎาคม 2568 ซึ่งมีเป้าหมาย คือ 4 รัฐของมาเลเซีย ได้แก่ รัฐเปอร์ลิส รัฐกลันตัน รัฐเกอดะฮ์ และรัฐเประ และ 4 จังหวัดภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดยะลา จังหวัดนราธิวาส จังหวัดสงขลา และจังหวัดสตูล โดยมีการศึกษาประเด็นด้านสาธารณสุขเพื่อแก้ปัญหาร่วมกันและสามารถส่งต่อแต่ละจังหวัดได้ ทั้งนี้ได้มีการสำรวจพื้นที่ทั้งโรงพยาบาลรัฐและเอกชน ศูนย์ wellness ที่มีในจังหวัดกระบี่ รวมถึงโรงงานที่ผลิตอาหารหรือสมุนไพรเพื่อสุขภาพในพื้นที่จังหวัดกระบี่ ซึ่งส่งผลต่อการสนับสนุนการท่องเที่ยวในจังหวัดกระบี่ เป็นการเชิญชวนให้นักท่องเที่ยวเดินทางมาเยี่ยมเยือนจังหวัดกระบี่เพิ่มขึ้นอีกด้วย

……………………..

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สตูล-บุตรสาวนายกฯสตูลหลงรักอาชีพเกษตร..ทันทีที่เรียนจบแม่โจ้ลุยปลูกแตงโมพืชทนแล้ง อายุสั้นทำเงินไว  แซมสวนยางพารา 65 วัน  รับเงินครึ่งล้าน

สตูล-บุตรสาวนายกฯสตูลหลงรักอาชีพเกษตร..ทันทีที่เรียนจบแม่โจ้ลุยปลูกแตงโมพืชทนแล้ง อายุสั้นทำเงินไว  แซมสวนยางพารา 65 วัน  รับเงินครึ่งล้านส่งขายมาเลย์  เผยจะทำอะไรต้องมีความรู้ก่อนจึงจะประสบความสำเร็จ 

         ที่บ้านบูโล๊ะ   หมู่ 4 ตำบลท่าแพ อำเภอท่าแพ  จังหวัดสตูล บนพื้นที่ 16 ไร่  กลางสวนยางพาราต้นใหญ่ที่ล้อมรอบ  เกษตรกรรุ่นใหม่ยังสมาร์ทประจำอำเภอท่าแพ  ได้ลงมือปลูกแตงโมพันธุ์ตอปิโดแซมสวนยางกล้าอ่อน  โดยขณะนี้ได้ให้ผลผลิตขนาดใหญ่พร้อมเก็บเกี่ยว  หลังลงมือปลูกเพียง 65 วัน ก็สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้แล้ว

          การปลูกแตงโมบนพื้นที่ขนาดใหญ่   ด้วยการใช้ระบบการปลูกโดยใช้พลาสติกคลุมดิน /ให้น้ำ  ปุ๋ย ผ่านระบบน้ำใต้ผ้ายางพลาสติก เป็นชุดความรู้ที่น้องด๊ะ   หรือนางสาววิลาวรรณ  เปรมใจ  อายุ 26 ปี (บุตรสาวคนที่ 3 ของนายกอบต.ท่าเรือ ที่หลงใหลในอาชีพเกษตรจบ ป.ตรี ม.แม่โจ้ วิชาเอกพืชผัก)  ได้เรียนรู้และศึกษาจนนำมาซึ่งการลงมือทำ 

          น้องด๊ะ  หรือนางสาววิลาวรรณ  เปรมใจ  อายุ 26 ปี เกษตรกรรุ่นใหม่ หรือ ยังสมาร์ทฟาร์มอำเภอท่าแพ  หลังจบการศึกษาจากแม่โจ้กลับบ้านลงมือทำการเกษตรทันทีที่โค่นยางพาราแก่  เพื่อปลูกแตงโมบนพื้นที่ 16 ไร่แซมต้นยางพาราที่ปลูกใหม่  เพื่อใช้พื้นที่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด   จากที่เกษตรกรหลายคนไม่กล้าปลูกเพราะกลัวปัญหานานาและในอำเภอท่าแพนับเป็นเจ้าแรกที่ปลูกแตงโมแปลงใหญ่สุด ด้วยเกษตรกรรุ่นใหม่จนประสบความสำเร็จ

        น้องด๊ะ  ยังสมาร์ทฟาร์มอำเภอท่าแพ  กล่าวเพิ่มว่า   การปลูกแตงโมครั้งนี้   เป็นการปลูกแบบสมัยใหม่ จากเมื่อก่อนรุ่นพ่อรุ่นแม่ปลูกก็คือใช้จอบขุดและน้ำหยอด  มาเปลี่ยนเป็นให้น้ำให้ปุ๋ยผ่านระบบสายน้ำฝน  ปูผ้ายางคลุมวัชพืช  จากเมื่อก่อนปลูกยางพาราเดียวมาเป็นปลูกพืชแซม  ที่เลือกแตงโมเพราะตรงกับช่วงแล้งอีกทั้งเป็นพืชเศรษฐกิจก็จะได้ราคาดี  อนาคตตั้งใจจะมีศูนย์เรียนรู้แลกเปลี่ยนถ่ายทอดความรู้ ภายใต้ชื่อ  สวนเปรมปัญญา    สนใจติดต่อสอบถามแลกเปลี่ยนความรู้  089-6545850  

         น้องด๊ะ  ยังเห็นว่าการทำเกษตรให้ประสบความสำเร็จ  เกษตรกรเองต้องมีความรู้ ก่อนลงมือทำเพราะทำให้เราประสบความสำเร็จไปแล้วครึ่งหนึ่ง  มาวันนี้แตงโมพันธุ์ตอปิโด   ให้ผลผลิตลูกละ 5-6 กก.ขายที่กิโลกรัมละ 10 บาท โดยมีพ่อค้ามารับซื้อไปยังประเทศมาเลเซียเพราะจะนิยมลูกโตซึ่งผลผลิตการปลูกเป็นไปตามแผนที่วางไว้คือ  6,000 กก.  สร้างรายได้ไม่น้อยกว่า 600,000 บาทที่ยังไม่หักค่าใช้จ่าย 

 

          นายอารีย์  โส๊ะสันสะ  เกษตรอำเภอท่าแพ  กล่าวว่า  น้องยังสมาร์ทฟาร์มเมอร์เป็นเกษตรกรรุ่นใหม่มีความรู้รอบ  ด้านการเกษตรเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว   ทางสำนักงานเกษตรอำเภอท่าแพเองมีการติดต่อกันเป็นประจำ   เจ้าหน้าที่ประสานงานกันอยู่ตลอด   มันมาแลกเปลี่ยนเรียนรู้ให้คำแนะนำเพิ่มเติม  จัดการสวน   เป็นคนตั้งใจและมีความมุ่งมั่นในการปฏิบัติ  ใช้ความรู้เดิมเข้ามากับการดูแลสวนทำให้ประสบความสำเร็จ

         นอกจากจะเป็นเกษตรกรเจ้าแรกในอำเภอท่าแพที่ลงมือปลูกแตงโมแปลงใหญ่แล้ว  และหลังการเก็บเกี่ยวแตงโมครบกำหนด 20 วัน พักหน้าดินแล้ว   น้องด๊ะ   ได้วางแผนเตรียมพื้นที่นี้ปลูกฟักทองพันธุ์ใหญ่ ซึ่งเป็นพืชอายุสั้นที่ให้รอบเร็วและเป็นที่ต้องการของตลาดต่อเลย

……………………………………….

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ข่าวทั่วไป

สตูล-ช่วยแม่วัวขึ้นจากสระน้ำลึกที่แห้งขอดหลังหาน้ำกิน 

สตูล..ช่วยแม่วัวขึ้นจากสระน้ำลึกที่แห้งขอดหลังหาน้ำกิน

         วันที่ 2 พฤษภาคม 2567   สภาพอากาศที่ร้อนและแล้งจัดทำให้แหล่งน้ำหลายแหล่งแห้งขอด   โดยที่จังหวัดสตูล  นางสำลี   ลัคนาวงศ์  นายกองค์การบริหารส่วนตำบลกำแพง  ได้เร่งประสานให้ เจ้าหน้าที่กองช่าง  อบต.กำแพง อำเภอละงู  จังหวัดสตูล  รีบเข้าช่วยเหลือ แม่วัวที่ตกน้ำ  หลังได้รับแจ้งจากชาวบ้านหมู่ที่ 8 บ้านอุไร ต.กำแพง อ.ละงู จ.สตูล  ว่ามีแม่วัวได้ตกไปในสระน้ำลึก หลังถ้ำอุไร จึงรีบนำกำลังเดินทางเข้าช่วยเหลือพร้อมรถเครนขนาดใหญ่

           นายฮาสัน  บกติง  เจ้าหน้าที่กองช่างหนึ่งในทีมช่วยเหลือของอบต.กำแพง  เล่าว่า  แม่วัวขนาดใหญ่ชาวบ้านบอกว่าได้ลงไปหาน้ำกินเชื่อว่าน่าจะพลัดหลงจากฝูง  เพื่อหาน้ำกินที่สระน้ำขนาดใหญ่ที่ขณะนี้แห้งขอดมีความลึกประมาณ 6 เมตร  ในเมื่อถึงที่เกิดเหตุ  พบว่าแม่วัวตัวดังกล่าวจมอยู่ในโคลนตมไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองขึ้นมาได้  อีกทั้งชาวบ้านก็ไม่สามารถที่จะนำวัวดังกล่าวขึ้นมาจากสระได้  จำเป็นต้องใช้เครื่องจักรกลขนาดใหญ่  จึงได้ประสานให้ทางอบต.นำรถเครนมาช่วยดึงแม่วัวขึ้นจากสระโดยใช้เวลานานถึงครึ่งชั่วโมง กว่าจะนำแม่วัวขึ้นจากสระน้ำที่แห้งขอดได้สำเร็จ  โดยมีชาวบ้านช่วยคล้องเชือกที่ลำตัวแม่วัวขึ้นมาจากสระน้ำได้สำเร็จ

………….

ขอบคุณภาพจากอบต.กำแพง

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ท้องถิ่น-การเมือง ท่องเที่ยว-กีฬา

สตูล – จัดเทศกาลงานข้าวโพดหวานและของดีอำเภอท่าแพ  ครั้งที่ 13  ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเชิงเกษตร

สตูล – จัดเทศกาลงานข้าวโพดหวานและของดีอำเภอท่าแพ  ครั้งที่ 13  ประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเชิงเกษตร

          องค์การบริหารส่วนตำบลท่าแพ   พร้อมภาคีเครือข่ายร่วม   จัดเทศกาลงานข้าวโพดหวานและของดีอำเภอท่าแพ  ครั้งที่ 13 ประจำปี 2567   ขึ้น ณ สนามหน้าที่ว่าการอำเภอท่าแพ จังหวัดสตูล   ระหว่าง 27 – 28 เมษายน 2567  โดยนายสัมฤทธิ์  เลียงประสิทธิ์  นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสตูล   เป็นประธานในพิธีเปิด  นายประดิษฐ์ เปรมใจ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลท่าแพ  กล่าวรายงานวัตถุประสงค์  เพื่อส่งเสริมและประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวเชิงเกษตรขององค์การบริหารส่วนตำบลท่าแพและจังหวัดสตูลให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย  ส่งเสริมและฟื้นฟูเศรษฐกิจของท้องถิ่น สร้างความมั่นคงทางอาหาร และส่งเสริมการสร้างรายได้ให้กับประชาชนเกษตรกรในท้องถิ่น   และพัฒนาองค์ความรู้การประกอบอาชีพเกษตรกรแบบยั่งยืนและสร้างรายได้ให้แก่ประชาชนทั่วไป  

 

           ตลอด 2 วัน มีกิจกรรมมากมายประกอบด้วย  คลินิกเกษตรเคลื่อนที่ , การจัดนิทรรศการให้ความรู้จากกลุ่มอาชีพ และหน่วยงานต่างๆ , การสาธิตอาหารเมนูข้าวโพดชวนชิมกว่า 10 เมนู , การจำหน่ายสินค้าผลิตภัณฑ์ชุมชน, การประกวดฝักข้าวโพด  ,  การแข่งขันกินข้าวโพด ,  การแข่งขันประกอบอาหารเมนูข้าวโพดและเมนูแพะ  ,  การแข่งขันแทงต้ม, การแข่งขันขูดมะพร้าว, การแสดงของเด็กนักเรียน, การแสดงของสภาเยาวชนตำบลท่าแพ การแสดงดนตรี และการประกวดหนูน้อยข้าวโพดหวาน

        บรรยากาศมีประชาชนทั้งในและนอกพื้นที่  รวมถึงนักท่องเที่ยว ร่วมงานกันอย่างคึกคัก 

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

Categories
ข่าวทั่วไป เยาวชน-การศึกษา

 อบต.ฉลุง ดึงเยาวชนช่วงปิดภาคเรียน จัดฝึกอาชีพการทำก๋วยเตี๋ยวลุยสวน สลัดโรลและบลูเบอรี่ชีสพาย  

อบต.ฉลุง ดึงเยาวชนช่วงปิดภาคเรียน จัดฝึกอาชีพการทำก๋วยเตี๋ยวลุยสวน สลัดโรลและบลูเบอรี่ชีสพาย

           นายสุจริต ยามาสา นายกองค์การบริหารส่วนตำบลฉลุง เป็นประธานเปิดโครงการฝึกอาชีพ เด็กและเยาวชน หลักสูตรการทำก๋วยเตี๋ยวลุยสวน สลัดโรล และบลูเบอรี่ชีสพาย ประจำปีงบประมาณ 2567  พร้อมด้วย นายสาและ เส็นโกบ รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบลฉลุง  หัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วม ดำเนินโครงการโดยกองสวัสดิการสังคม ณ อาคารเอนกประสงค์ (อบต.ฉลุง) มีกลุ่มเป้าหมายเด็กและเยาวชนในพื้นที่เข้าร่วมจำนวน 30 คน โดยมีนางสาวพัชรี  พรหมพุด วิทยากรจากวิทยาลัยเทคนิคสตูล  และนางสาวปรียาภรณ์  จำนงพันธ์ ผู้ช่วยวิทยากร เป็นผู้ให้ความรู้ เพื่อให้เด็กและเยาวชนที่สนใจมีความรู้เกี่ยวกับอาชีพเสริมเป็นช่องทางสร้างรายได้ แก่ตนเองและครอบครัว ส่งเสริมสนับสนุนให้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์สนับสนุนให้เด็กและเยาวชนมีกิจกรรมในการพัฒนาตน

 

          นายสุจริต ยามาสา กล่าวว่า ในการฝึกอาชีพแก่เด็กและเยาวชนในวันนี้ ถือเป็นสิ่งที่ดีในการสร้างองค์ความรู้ และเพิ่มทักษะด้านอาชีพให้แก่เด็กและเยาวชน ได้ใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์กับตนเองในช่วงปิดเทอม เด็กและเยาวชนสามารถเยาวชนสามารถนำองค์ความรู้ไปสร้างอาชีพเสริม เพื่อเป็นช่องทางสร้างรายได้ให้แก่ตนเองและครอบครัว พร้อมทั้งเป็นการส่งเสริมสนับสนุนให้เครือข่ายเด็กและเยาวชนในพื้นที่ได้มีกิจกรรมในการพัฒนาเด็กและเยาวชนอย่างต่อเนื่อง เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มเด็กและเยาวชนในตำบลฉลุง 

 

             นางสาวจัลวาตีย์ บังคม สมาชิกฝ่ายสวัสดิการ สภาเด็กและเยาวชนตำบลฉลุง กล่าวว่า   รู้สึกสนุก ได้ความรู้ สามารถไปถ่ายทอดได้เปิดร้านได้และคิดว่าอยากเข้าร่วมโครงการทุกปี

 

            นายซอฟรี  ดาราหมาน  ประธานสภาเด็กและเยวชตำบลฉลุง และนายตอฟิก  วัฒนะ รองประธานสภาเด็กและเยาวชนตำบลฉลุง กล่าวว่า สิ่งที่ได้รับสามารถนำไปต่อยอดได้ในชีวิตประจำวันในครอบครัวไม่มีเตาอบก็สามารถทำได้ และสามมารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ ทำกินได้เป็นการลดน้ำหนัก และต่อยอดในอนาคต

……………………….

ศิริรัตน์ ทองอินทร์ / ถ่ายภาพ
อรุณี หลงหัน / ข่าว

อัพเดทล่าสุด

  รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต

รมว.ศึกษา เปิดงาน TJ-SIF 2024 ผลักดันเยาวชนไทย-ญี่ปุ่นพัฒนานวัตกรรมไอซีทีสู่การขับเคลื่อนประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต