Categories
ข่าวเด่น ท้องถิ่น-การเมือง

สตูล – บิ๊กโจ๊กลั่น! ล่าตัวโกดังพลุระเบิดนราธิวาสพบซ่อนตัวในมาเลเซีย สั่งเร่งดำเนินคดีตั้งแต่ต้นทางอย่างรัดกุมคืนความเป็นธรรมผู้เสียชีวิต และเอาคนผิดทั้งกระบวนการลงโทษ

สตูล บิ๊กโจ๊กลั่น! ล่าตัวโกดังพลุระเบิดนราธิวาสพบซ่อนตัวในมาเลเซีย สั่งเร่งดำเนินคดีตั้งแต่ต้นทางอย่างรัดกุมคืนความเป็นธรรมผู้เสียชีวิต และเอาคนผิดทั้งกระบวนการลงโทษ

         วันที่ 3 ส.ค.2566 ที่กองกำกับการตำรวจภูธรจังหวัดสตูล พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวขณะลงปฏิบัติหน้าที่ในจังหวัดสตูล โดยกรณีความคืบหน้าการออกหมายจับเจ้าของโกดังพลุที่เป็นต้นเหตุของการเกิดโศกนาฏกรรมที่จังหวัดนราธิวาส ว่าขณะนี้ผู้ต้องหาดังกล่าวอยู่ระหว่างหลบหนีอยู่ที่ประเทศมาเลเซีย และติดต่อขอเข้ามอบตัวไม่ได้หมายความว่าจะให้ประกัน หรือไม่ให้ประกัน ตอนนี้ก็อยู่ระหว่างการติดต่อ ซึ่งระหว่างนี้ประสานกับทางผบ.ตร. มาเลเซียประจำรัฐแล้ว ทราบแล้วว่าอยู่รัฐไหนขณะนี้

          พร้อมกำชับให้ชุดสืบสวนหาเส้นทางการเข้ามาตั้งแต่ท่าเทียบเรือแหลมฉบัง รวมทั้งเรื่องของการจดแจ้งการสำแดงต่าง ๆ ว่ามีการสำแดงเท็จหรือไม่ ถ้ามีการสำแดงเท็จก็ว่าไป รวมถึงการพักไว้ ในส่วนของการดูแลต่าง ๆ เจ้าหน้าที่ทั้งหมดก็ต้องไล่ในเรื่องนี้ ตอนนี้ให้เวลาดำเนินงานไว้สองสัปดาห์ เพื่อจะทำสำนวนสอบสวนให้รัดกุมรอบคอบ และไล่ไปถึงส่วนของผู้รับผิดชอบทั้งหมด

           ส่วนการเยียวยาความ สูญเสียของเค้าเกิดจากความบกพร่องของเจ้าหน้าที่รัฐ ก็จะได้เพิ่มศพละ 500,000 บาท แต่ไม่ได้หมายความว่า 500,000 มันเพียงพอ แต่อย่างน้อยก็เป็นการคืนความเป็นธรรมให้เขาส่วนนึง กับความเป็นธรรมอีกส่วนหนึ่งคือ เอาคนผิดทั้งกระบวนการมาลงโทษให้ได้ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐหรือส่วนไหนก็ตาม
………………………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

  สตูล-ยอมรับข้อเสนอประมงพื้นบ้านหลังสอนมวย  แก้ปัญหาต้องนำเข้าคณะกรรมการประมงจังหวัดแทนการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น

จังหวัดสตูลยอมรับข้อเสนอประมงพื้นบ้านหลังสอนมวย  แก้ปัญหาต้องนำเข้าคณะกรรมการประมงจังหวัดแทนการเปิดเวทีรับฟังความคิดเห็น  

         เครือข่ายประมงพื้นบ้าน จ.สตูล  ยอมสลายการชุมนุมประท้วงแล้วเย็นเมื่อวานนี้ (25 ก.ค.2566)   หลังภาครัฐรับข้อเสนอนำเรื่องเข้าที่ประชุมคณะกรรมการประมงจังหวัด  เพื่อหารือแก้ปัญหาความขัดแย้งในกลุ่มประมงต่างๆ เรื่องปัญหาแนวเขตประมงชายฝั่งให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

          ที่ศาลกลางจังหวัดสตูล  นายชาตรี  ณ  ถลาง  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เชิญเครือข่ายประมงพื้นบ้านในจังหวัดสตูล ที่มารวมตัวกันนอนปักหลักคัดค้าน “ขอให้ยกเลิกการทบทวนแนวเขตประมงชายฝั่ง”  เพราะไม่เห็นถึงประโยชน์   และเชื่อว่ากระบวนการที่ได้มามีความเข้มข้นมากพอแล้วนั้น   มาประชุมหารือเพื่อหาทางออกร่วมกัน

          โดยนายสมบูรณ์  คำแหง  และนายวิโชคศักดิ์  รณรงค์ไพรี  นายกสมาคมรักษ์ทะเลไทย   และนายกสมาคมประมงพื้นบ้านจังหวัดสตูล ได้ขอโอกาสชี้แจงถึงเจตนาที่มาคัดค้านการยกเลิกการทบทวนแนวเขตประมงชายฝั่งในครั้งนี้  โดยเสนอว่าขอให้มีการนำเรื่องดังกล่าวเข้าแก้ปัญหาในเวทีของคณะกรรมการประมงจังหวัด  โดยเชื่อว่ากระบวนการดังกล่าวสามารถหาทางออกร่วมกันได้ 

          ซึ่งทางด้านรองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล  เป็นประธาน(รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล)  ยืนยันว่า กับแกนนำชาวประมงพื้นบ้านว่า  คำสั่งจังหวัดไม่มีผบกระทบกับประมงพื้นบ้านเป็นเพียงวิธีการทำงานอย่างหนึ่งของทางจังหวัด  เพื่อแก้ปัญหาหลังมีการประท้วงของทุกฝ่าย  ซึ่งในวันนี้ทำให้จังหวัดได้รู้ความคิดเห็นของชาวประมง  (ทั้งประมงพื้นบ้าน  และชาวประมงพื้นบ้านเครื่องมือพานิชย์) โดยจะนำไปสู่การแก้ปัญหา

           นายสมบูรณ์  คำแหง  อดีตคณะกรรมการประมงจังหวัดสตูล/ประธานคณะกรรมการประสานงานองค์กรพัฒนาเอกชนระดับชาติ (กป.อพช.)  เห็นว่าวันนี้ในตัวเขตชายฝั่งที่มีการประกาศไปแล้วไม่ใช่ประเด็น   ซึ่งวันนี้ทางกระทรวงได้เสนอคณะอนุมัติให้ทางรัฐมนตรีทราบแล้ว   ได้มีการอนุมัติเขตที่คณะกรรมการประมงจังหวัดสตูลได้เสนอไปเมื่อปี 2565  เห็นว่าเป็นที่สิ้นสุดแล้ว   กระบวนการรับฟังค่อนข้างชัดเจนมากและมีการรับฟังทุกภาคส่วน

          ในเรื่องนี้เห็นว่าต้องมาคุยกันมาหาข้อตกลงกันว่าอะไรที่จะทำได้  แค่นั้นเอง  ไม่จำเป็นจะต้องมานั่งรับฟังเพื่อกำหนดเขตกันใหม่   ถึงแม้จะมีการรับฟังใหม่   ถึงแนวเขตทะเลชายฝั่งก็จะไม่น้อยไปกว่าเดิม  หรืออาจจะมากกว่าเดิมด้วยซ้ำ   หลักๆ ก็จะมีกลุ่มประมงอยู่ 2 กลุ่ม  กลุ่มเรือใหญ่กับกลุ่มเรือพื้นบ้าน  ซึ่งกลุ่มเรือประมงพื้นบ้านก็ย่อมจะมากกว่าเรือประมงพาณิชย์  หากจัดเวทีเสียงก็จะชนะแน่นอน

          ซึ่งสรุปความในการพูดคุยในครั้งนี้ทางจังหวัดสตูล   ยอมนำเรื่องเข้าวาระประชุมหารือชุดคณะกรรมการจังหวัดสตูล  ถึงแนวทางปัญหาที่เกิดขึ้นตามที่เครือข่ายประมงพื้นบ้านเสนอ  ก่อนที่จะให้คณะกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหากำหนดเขตทะเลชายฝั่งในบริเวณจังหวัดสตูล  พุทธศักราช 2565  เบื้องต้นทำให้ผู้ชุมนุมยอมรับในข้อเสนอดังกล่าว  จนยอมสลายการชุมนุมเมื่อเย็นวานพร้อมยอมรื้อที่พักชั่วคราวคืนพื้นที่ด้านหน้าศาลากลางกลับสู่สภาวะปกติ

………………………………

Categories
ข่าวเด่น

  สตูล-นายกสมาคมรักษ์ทะเลไทย  เชื่อว่าแนวเขตประมงชายฝั่งจังหวัดสตูลฉบับล่าสุดมีคุณสำหรับชาวประมงมากกว่า  แต่หากจะแก้ปัญหาจริงมีช่องทางอยู่ไม่ใช่จะมายกเลิก 

สตูล-นายกสมาคมรักษ์ทะเลไทย  เชื่อว่าแนวเขตประมงชายฝั่งจังหวัดสตูลฉบับล่าสุดมีคุณสำหรับชาวประมงมากกว่า  แต่หากจะแก้ปัญหาจริงมีช่องทางอยู่ไม่ใช่จะมายกเลิก 

            ที่ศาลากลางจังหวัดสตูลตลอดทั้งคืนที่ผ่านมา  กลุ่มเครือข่ายชาวประมงพื้นบ้านจังหวัดสตูลนัดพักแรม   ปักหลักเพื่อรอฟังคำตอบ  หลังมีการยื่นหนังสือเปิดผนึกส่งถึงผู้ว่าราชการจังหวัด   ขอให้ยกเลิกการทบทวนแนวเขตประมงชายฝั่ง   เพราะไม่เห็นถึงประโยชน์   และเชื่อว่ากระบวนการที่ได้มามีความเข้มข้นมากพอแล้ว 

           ส่วนแนวทางในการแก้ปัญหากรณีประมงปลากะตัก  ที่ออกมาเรียกร้องด้วยปิดอ่าวปากบาราเมื่อช่วงเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา  เห็นว่ามีช่องทางในการแก้ปัญหาร่วมกัน   นั่นคือการพูดคุยในส่วนของกรรมการประมงจังหวัด  ไม่ใช่การตั้งคณะกรรมการเปิดเวทีทบทวนเพื่อรับฟังปัญหา

       นายวิโชคศักดิ์  รณรงค์ไพรี   นายกสมาคมรักษ์ทะเลไทย  บอกว่า  แนวทางการแก้ปัญหาในเรื่องนี้มีวงถกคือ  คณะกรรมการประมงจังหวัดควรจะเรียกประชุมตรงนั้น  ดูว่ามีช่องทางในการแก้ไขหรือไม่  พบว่ามีซึ่งเป็นประกาศระดับกระทรวงไม่ใช่กฎกระทรวง  ถ้าหากอยากจะแก้ให้ประมงพื้นบ้านบางชนิด  ต้องมาแก้ประกาศกระทรวง ซึ่งเป็นกฎหมายคนละฉบับ   จากปัญหาดังกล่าวทำให้แอบคิดได้ว่าอาจมีอะไรแอบแฝงเพื่อที่จะเอื้อประมงพาณิชย์ตัวจริง ที่ยังไม่แสดงตัวออกมา โดยใช้ประมงพื้นบ้าน 20 ลำนี้มาเป็นตัวประกัน

        โดยแนวทางการต่อสู้ของเครือข่ายประมงพื้นบ้านจังหวัดสตูล  เพื่อไม่ให้มีการทบทวนหรือยกเลิกเขตทะเลชายฝั่งจังหวัดสตูล   พร้อมยื่นข้อเสนอ 2 ข้อคือ 1 ขอให้เคารพการทำงานของคณะกรรมการประมงจังหวัดชุดที่แล้ว ที่ได้สร้างกระบวนการรับฟังความคิดเห็นอย่างเข้มข้นจนทำให้ได้ข้อสรุปนำไปสู่การประกาศกฎกระทรวงเขตทะเลชายฝั่งสตูลเมื่อปลายปีพุทธศักราช 2565    และ 2 ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องยกเลิกคำสั่งและแนวคิดที่จะทบทวนการประกาศกฎกระทรวงเรื่องเขตทะเลชายฝั่งจังหวัดสตูลในทันที 

        โดยยืนยันจะขอปักหลักรอคำตอบอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดแห่งนี้จนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย

………………………….

Categories
ข่าวเด่น

  เครือข่ายชาวประมงพื้นบ้าน ขนเต็นท์หม้อข้าวปักหลักศาลากลางจังหวัด   ฟังคำตอบหลังยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงผู้ว่า  เรื่องขอให้ยกเลิกการทบทวนเขตทะเลชายฝั่งจังหวัดสตูล

เครือข่ายชาวประมงพื้นบ้าน ขนเต็นท์หม้อข้าวปักหลักศาลากลางจังหวัด   ฟังคำตอบหลังยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงผู้ว่า  เรื่องขอให้ยกเลิกการทบทวนเขตทะเลชายฝั่งจังหวัดสตูล

        วันที่ 24 กรกฎาคม 2566 เวลาประมาณ 11:00 น.   ที่ศาลากลางจังหวัดสตูล  กลุ่มตัวแทนสมาคมประมงพื้นบ้านจังหวัดสตูลและชมรมประมงพื้นบ้าน 4 อำเภอ สมาคมรักษ์ทะเลไทย และหลากหลายภาคีเครือข่ายรวมตัวกันบริเวณด้านหน้าศาลากลางจังหวัด  ด้วยการตั้งเต็นท์และโรงครัวเพื่อเตรียมพร้อมในการปักหลักในการรอฟังคำตอบ

        หลังตัวแทนเครือข่ายประมงพื้นบ้านร่วมกันยื่นจดหมายเปิดผนึกถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเรื่องขอให้ยกเลิกการทบทวนเขตทะเลชายฝั่งจังหวัดสตูล  พร้อมยื่นข้อเสนอ 2 ข้อคือ 1 ขอให้เคารพการทำงานของคณะกรรมการประมงจังหวัดชุดที่แล้ว ที่ได้สร้างกระบวนการรับฟังความคิดเห็นอย่างเข้มข้นจนทำให้ได้ข้อสรุปนำไปสู่การประกาศกฎกระทรวงเขตทะเลชายฝั่งสตูลเมื่อปลายปีพุทธศักราช 2565

        และ 2 ผู้ว่าราชการจังหวัดต้องยกเลิกคำสั่งและแนวคิดที่จะทบทวนการประกาศกฎกระทรวงเรื่องเขตทะเลชายฝั่งจังหวัดสตูลในทันที  มิฉะนั้นพวกเราจะขอปักหลักรอคำตอบอยู่ที่ศาลากลางจังหวัดแห่งนี้  จนกว่าจะบรรลุเป้าหมาย

        ซึ่งการยื่นหนังสือในครั้งนี้นายชาตรี  ณ  ถลาง  รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล  รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดเข้ารับหนังสือ  โดยกล่าวกับผู้ชุมนุมที่มายื่นหนังสือว่าจะนำเรื่องนี้ไปพูดคุยหารือพร้อมกับประมงจังหวัดอีกครั้ง  โดยพยายามชี้แจงถึงกรณี  การตั้งคณะกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหากำหนดเขตทะเลชายฝั่งในบริเวณจังหวัดสตูล  พุทธศักราช 2565 ว่า เป็นทางออกของการนำมาซึ่งการแก้ปัญหาในพื้นที่ประมงระหว่าง 2 กลุ่มที่มีความเห็นไม่ตรงกันขณะนี้

        ซึ่งในเรื่องนี้ทางด้านนายอับดุลรอสัก  เกมหวัง   นายกสมาคมประมงพื้นบ้านจังหวัดสตูล  ตั้งข้อสังเกตว่า  การตั้งคณะกรรมการขึ้นมารับฟังข้อคิดเห็นใหม่ในครั้งนี้นั้น  เป็นผลมากับการปิดอ่าวในครั้งนั้น   พบว่ามีเพียงเรือไม่กี่ลำที่มาเป็นเงื่อนไขเพื่อเปิดเวทีรับฟังใหม่และยกเลิกแนวเขต   ทำให้มีการตั้งข้อสังเกตว่า    หน่วยงานของรัฐไปรับคำสั่งมาจากใคร   ถ้าถามกลับว่าประมงพื้นบ้านเดือดร้อนไหม  ยืนยันว่าพวกเราเดือดร้อนมากหากเป็นปัญหาการจัดการทรัพยากรทางทะเล   เพราะพื้นที่ที่มีการประกาศคุ้มครองชายฝั่งถือเป็นพื้นที่สำคัญในการฟื้นฟูสัตว์น้ำ เมื่อสัตว์น้ำโตเต็มวัยก็ออกไปฐานทะเลข้างนอก ทุกคนก็มีสิทธิ์ที่จะจับปลาได้ไม่ว่าจะเป็นประมงพื้นบ้านหรือประมงพาณิชย์ทุกคนมีสิทธิ์เท่าเทียมกัน /การประกาศเขตชายฝั่งถือเป็นการประกาศเขตอำนาจให้กับเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติ

 

         ขณะที่ด้าน  นายนิพนธ์  เสนอินทร์  ประมงจังหวัดสตูล  ยังคงยืนยันว่า   อยากจะทำความเข้าใจกับทุกฝ่ายไม่ว่าจะเป็นประมงพาณิชย์และประมงพื้นบ้าน ว่าจะต้องใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน มีใช้จนถึงรุ่นลูกรุ่นหลาน การแก้ปัญหาทุกฝ่ายต้องมีส่วน เพราะมีการยื่นหนังสือร้องทุกข์เข้ามาของทุกฝ่ายก็ต้องมาพิจารณาด้วยความเป็นธรรม  จึงเป็นที่มาของการตั้งคณะกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนในการแก้ไขปัญหาการกำหนดเขตทะเลชายฝั่งในบริเวณจังหวัดสตูลพุทธประวัติ 2565 นั้น  เพื่อรวบรวมข้อเท็จจริง 

 

        ที่มาของการแก้ปัญหาประมงในจังหวัดสตูล   (ทำให้ประมงพื้นบ้านตั้งข้อสังเกตว่าเป็นการแก้ปัญหาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับคุณนายทุนหรือไม่ )  หลังมีการแต่งตั้งคณะกรรมการรับฟังความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาการกำหนดเขตทะเลชายฝั่งในบริเวณจังหวัดสตูลพุทธศักราช 2565  นั้น  สืบเนื่องจาก   ประมงปลากะตัก ได้รวมตัวกันเรียกร้องถึงปัญหาของแนวเขตประมงชายฝั่งจนเป็นที่มาของการปิดร่องน้ำปากบารา เมื่อเดือนมิถุนายน 2566  สร้างผลกระทบด้านเศรษฐกิจและการท่องเที่ยว 

……………………………

Categories
ข่าวเด่น

  ฮือฮาพบพญาวัวตามตำราโบราณสายพันธุ์วัวชนที่สตูล  เซียนวัวเสนอครึ่งแสนกลับถูกปฏิเสธ

ฮือฮาพบพญาวัวตามตำราโบราณสายพันธุ์วัวชนที่สตูล  เซียนวัวเสนอครึ่งแสนกลับถูกปฏิเสธ

          วันที่ 18 ก.ค. 2566  กลายเป็นที่ฮือฮาของชาวบ้านทุ่งนางแก้ว   หมู่ที่ 5 ตำบลน้ำผุด  อำเภอละงู  จังหวัดสตูล  หลังพบว่าสองสามีภรรยาที่ประกอบอาชีพช่างตัดผม   และเป็นจิตอาสาของมูลนิธิกู้ภัยร่มไทร  จังหวัดสตูล  หลังเลี้ยงแม่พันธุ์วัวชนไว้  เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 14 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมาในช่วงเวลา  21.00 นาฬิกา ได้คลอดลูกวัวเพศเมียตัวแรก   พบลักษณะแปลกประหลาดพบว่าตามตัวที่หัว  เท้าและที่หางด่าง   มีสีขาว สีดำ และสีแดง  เข้าตามตำราโบราณที่เชื่อว่าเป็น   พญาวัว  

       นายปิยะณัฐ   กาฬศรี   อายุ  33  ปี และนางสาวสุนิสา ขวัญแก้ว   อายุ 30 ปี สองสามีภรรยา อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 543 ม.5 ต.น้ำผุด อ.ละงู จ.สตูล เจ้าของพญาวัวดังกล่าว  เล่าว่า  ส่วนตัวมองว่าลูกวัวตัวนี้แปลกมาก จนเพื่อนบ้าน และคนผ่านไปต่างฮือฮาสอบถามกูรูที่รู้เรื่องสายพันธุ์วัวในพื้นที่ ส่วนใหญ่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่านี่มัน   “พญาวัว”   เข้าตามตำราโบราณเลย   โดยลักษณะ   “พญาวัว” (7 ข้อคือ) 1.รูปใบโพธิ์สีขาวตรงศีรษะ 2.มีกำไลสีขาวในข้อเท้าทั้ง 4 ข้าง 3.มีลักษณะปากคาบแก้ว 4 .กีบเท้าทั้ง 4 ขาเป็นสีขาวด่าง  5. ดวงตาเป็นสีฟ้า 6.สะโพกทั้งสองข้างเป็นสีด่าง  7. หางดอกสีขาว 

 

          โดยกูรูเรื่องวัวต่างแนะนำให้ตนเลี้ยงเขาให้ดี อย่าขายกิน  เพราะจะส่งผลให้การทำมาค้าขายดี  ทำธุรกิจหรืองานใด ๆ จะมีแต่สิ่งดี ๆเฮงๆ  ซึ่งตนก็ไม่คิดจะขายไปอย่างแน่นอน  โดยตั้งชื่อว่า  “เจ้านำโชค”   เพราะสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปกับชีวิตครอบครัวภายใน 3 วันที่ผ่านมา   เรื่องราวในครอบครัวซึ่งตนเองเปิดร้านตัดผม และเป็นร้านในชนบท ห่างไกลตัวเมือง แต่กลับ ช่วง 2-3 วันนี้ ลูกค้ามาตัดผมคิวแน่น  อาจจะเป็นไปได้ว่า  เจ้านำโชค  ช่วยดลบันดาลให้ ลูกค้าเข้ามาก็เป็นได้ (ตามความเชื่อส่วนบุคคล )

        นายปิยะณัฐ  เจ้าของพญาวัว  บอกอีกว่า  พ่อพันธุ์ของ เจ้านำโชค  เป็นวัวชนตัวใหญ่  ตัวสีดำ  ส่วนแม่พันธุ์เป็นวัวชนลำตัวสีแดง   แต่!! เจ้านำโชค   เป็นเพศเมียสายพันธุ์วัวชนตัวนี้  เกิดมามีลายสีเข้าตามตำราโบราณ  ที่หน้าผากวัว  และจุดที่หางเป็นดอก  ส่วนที่กีบเท้าเป็นด่าง    ส่วนที่หนอกพาดผ้า  หน้าใบโพธิ์   ทุกอย่างมีลักษณะเข้าตามตำราโบราณ  หากใครสนใจจะมาดูตัว สอบถามเส้นได้  โทร 082 6621 777 และ  092 547 0164

         ขณะนี้ก็เริ่มมีเพื่อนบ้านมาเสนอราคาให้กับลูกวัวเกิดใหม่  เจ้านำโชค  สายพันธุ์วัวชนตามตำราแล้วโดยเสนอให้ 4 หมื่นบาทไปเลี้ยงเพื่อทำแม่พันธุ์  ซึ่งทางเจ้าของวัวยืนยันว่าไม่ขาย  

         นางสาวสุนิสา แฟนสาวหนุ่มเจ้าของ  (เจ้านำโชค)  บอกว่า เลขหวยงวดนี้ผ่านไปแล้ว ซื้อไม่ทัน และยังไม่ได้คิด ยังตะลึงในความแปลกลวดลายน้องวัวตัวนี้มี สีขาว สีดำ และสีแดงลวดลาย ตามตัวหน้าตา พร้อมกับงวดหน้าไม่พลาดแน่นอน ขอซื้อบ้านเลขที่ตนเอง คือร้านตัดผม เลข  543 ไปลุ้นในงวดต่อไป

…………………………………………

Categories
ข่าวเด่น

 ศรชล.สตูลยึดเรือลักลอบขน  ลูกหอยแครงนำเข้าต่างประเทศ 1,375 กิโลกรัม 

ศรชล.สตูลยึดเรือลักลอบขน  ลูกหอยแครงนำเข้าต่างประเทศ 1,375 กิโลกรัม

        วันที่ 14 กรกฎาคม 2566  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา  หน่วยเฉพาะกิจพื้นที่ตอนใต้ จว.สตูล ศรชล.ภาค 3 (นก.พตต.ศรชล.ภาค 3) โดย น.อ.แสนย์ไท  บัวเนียม ผบ.นก.พตต.ศรชล.ภาค 3 พร้อมด้วย น.อ.รัฐพล  แก้วกระจาย หน.ศคท.จว.สต.ศรชล.ภาค 3  ได้บูรณาการกำลัง ประกอบด้วย ศรชล.จว.สต., ดำ, สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสตูล และชุดปฏิบัติการพิเศษ นก.พตต.ศรชล.ภาค 3

         ได้นำเรือ ศรชล.2906 และเรือเจ้าท่า 188  ออกตรวจพื้นที่และเรือที่มีพฤติกรรมน่าสงสัยทางทะเลบริเวณ เกาะปูยู เกาะยาว และแนวเขตชายแดนทางทะเลไทย – มาเลเซีย   พบเรือหางยาวทำด้วยไม้เครื่องติดท้าย จอดลอยลำอยู่ จำนวน 2 ลำ อยู่  บริเวณระหว่างเกาะยาวและเกาะกุรับ ซึ่งอยู่ในเขตน่านน้ำภายในราชอาณาจักรไทย  ซึ่งมีพฤติกรรมที่น่าสงสัย จึงได้เข้าไปตรวจสอบและแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่

        ขอตรวจค้นเรือทั้ง 2 ลำ โดยให้เจ้าของเรือทั้ง  2 ลำ เป็นผู้นำการตรวจค้นพร้อมกับสอบถามเจ้าของเรือทราบว่า       เรือกำลังทำการพ่วงจูง เนื่องจากเรือเสีย ผลการตรวจค้นเรือลำที่เสียซึ่งมีสินค้าอยู่ในระวางเรือ พบว่าเป็นลูกพันธุ์หอยแครง ตรวจนับได้จำนวน 55 กระสอบ น้ำหนักกระสอบละ ๆ 25 กิโลกรัม รวม 1,375 กิโลกรัม  มูลค่าประมาณ 400,000 บาท  พร้อมลูกเรือคนไทย 2 คน ไม่มีเอกสารประจำเรือและเอกสารแสดงสินค้า

        แจ้งข้อกล่าวหากับเรือที่ขนลูกพันธุ์หอยแครงว่ามีความผิดจะต้องถูกควบคุม/จับกุมตามกฎหมาย ในข้อหา   ห้ามมิให้ผู้ใดนำเข้าสัตว์น้ำหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่    ห้ามมิให้ผู้ใดนำเข้า ส่งออก นำผ่าน เพาะเลี้ยง หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์น้ำ  เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากอธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย ประกอบประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดชนิดสัตว์น้ำที่ห้ามนำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๖๔ บทกำหนดโทษ มาตรา ๑๔๔

     และ “ผู้ใดนำเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกอาณาจักร ซึ่งของยังไม่ผ่านพิธีศุลกากร ตาม ม.๒๔๒ (ม.๒๔๖)    และพ.ร.บ. การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.๒๔๕๖ มาตรา ๒๘๒

       เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมผู้ต้องหาและตรวจยึดเรือพร้อมของกลาง  นำมาจอดที่ท่าเทียบเรือสถานีตำรวจน้ำสตูล และได้ทำการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าผู้ถูกควบคุมตัว จำนวน 2 คน ชื่อ นายสุชาติ  (ขอสงวนนามสกุล) เป็น ผู้ควบคุมเรือ และนายสมภพ  (ขอสงวนนามสกุล) เป็นลูกเรือ   ได้นำเรือไปรับลูกพันธุ์หอยแครงจากฝั่งมาเลเซีย ซึ่งได้รับว่าจ้างจากโกแดง (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ภูมิลำเนาอยู่จังหวัดเพชรบุรี  ซึ่งเป็นคนไทยที่อยู่ฝั่งมาเลเซีย ได้ค่าจ้างเที่ยวละ 1,000 บาท พอรับสินค้าเรียบร้อยจึงได้นำเรือวิ่งกลับเข้ามาในน่านน้ำไทยเพื่อนำของไปส่งบริเวณตำมะลัง ท่าแพบังแอล

        จนกระทั่งเวลาประมาณเวลา 20.00  น. เรือเกิดขัดข้องไม่สามารถเดินทางต่อไปได้  จึงได้โทรหา น้าชายให้ช่วยเอาเรือมาลากเรือของตนเข้าฝั่งบริเวณตำมะลัง ท่าแพบังแอล เรือของ นายนาราเฮม ฯ ก็มาถึงพร้อมกับลูกเรือจำนวน 3 คน ได้ช่วยกันทำการพ่วงเรือ แต่ในขณะกำลังจะลากจูงได้มีเรือซึ่งแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ ศรชล.จว.สตูล เข้ามาเทียบและขอทำการตรวจค้นจนพบลูกพันธุ์หอยแครง  เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุมพร้อมกับตรวจยึดเรือและลูกพันธุ์หอยแครงดังกล่าว

        จึงได้นำผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พร้อมบันทึกการจับกุมส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสตูล    เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ได้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้สูญหาย     พ.ศ.2565 การปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

………

Categories
ข่าวเด่น

 สตูลน้ำเริ่มลดแล้ว หลังฝนไม่ตกมาซ้ำ ทหารเรือยังคงเข้าสำรวจจุดพื้นที่น้ำขังช่วยระบายน้ำลงคูคลอง ขณะทะเลมมีคลื่นลม ชาวประมงยังไม่มั่นใจสภาพอากาศในทะเล 

สตูลน้ำเริ่มลดแล้ว หลังฝนไม่ตกมาซ้ำ ทหารเรือยังคงเข้าสำรวจจุดพื้นที่น้ำขังช่วยระบายน้ำลงคูคลอง ขณะทะเลมมีคลื่นลม ชาวประมงยังไม่มั่นใจสภาพอากาศในทะเล

       วันที่ 3 .. 66  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถาการณ์น้ำท่วมใน 7 อำเภอหลายพื้นที่น้ำลดระดับคลี่คลายลงแล้ว บ้านเรือนที่ถูกน้ำท่วม แห้งลง บางบ้านมีเศษดินโคลนเปื้อนดิน ขณะบางจุดบ้านเรือนที่เป็นแอ่งน้ำ ยังคงมีน้ำขัง ไหลไม่ทัน

ล่าสุดทัพเรือภาคที่ 3 สั่งการให้หน่วยรักษาความปลอดภัยทางทะเล กองทัพเรือ เกาะหลีเป๊ะ .สตูล จัดส่งกำลังพลบางส่วนลงพื้นที่ ให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่ประสพปัญหาอุทุกภัย และเข้าช่วยในการยกสิ่งช่วยชาวบ้าน ทำความสะอาดบ้านเรือน และยกสิ่งของหนีน้ำท่วมในบางจุดที่ท่วมขัง  ให้กับประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่บริเวณที่ลุ่มต่ำริมคลองละงู ในพื้นที่เขตเทศบาลตำบลกำแพง และชุมชนบ้านนาโต๊ะพ่อ .4 .กำแพง .ละงู จว.สตูล

       และใช้เครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่ทำการสูบน้ำที่ท่วมขังภายในบริเวณวัดอาทรรังสฤษฏ์ หลังน้ำลดระดับลง แต่ยังคงมีน้ำท่วมขังระบายออกไม่ทัน พร้อมตรวจสอบพื้นที่ตามแนวชายฝั่งทะเลบ้านอ่าวนุ่น .ปากน้ำ .ละงู เพื่อเตรียมให้ความช่วยเหลือกู้เรือประมงพื้นบ้านที่ถูกคลื่นลมแรงซัดจมลง

      ด้านชาวประมงพื้นบ้านในอำเภอละงูหลังคลื่นลมสงบในวันนี้และน้ำลดตามมาดูเรือของตนให้อยู่ในสภาพพร้อมใช้งาน หลังก่อนหน้านี้คลื่นลมได้ผมกระหน่ำพัดให้เรือที่จอดบริเวณริมชายฝั่งกระแทกกันไปมาสร้างความเสียหายให้กับเรือประมงหลายลำรวมทั้งมีรายงานในวันเกิดเหตุของเรือประมงจมขนาดจอดไม่น้อยกว่า 5 ลำ

        นายปาตี  โซ๊ะยา  อายุ 56 ปี ชาวประมงพื้นบ้านอ่าวนุ่น กล่าวว่า ทะเลยังคงมีคลื่นลม และในช่วงนี้ยังอยู่ในช่วงเฝ้าระวังคลื่นลม และเมื่อวานที่ผ่านมา คลื่นแรงซัดเรือประมงที่จอดริมชายหาดบริเวณอ่าวนุ่นตรงนี้จมลงประมาณ 5 ลำและตอนนี้กู้ขึ้นมาสำเร็จแล้ว ถึงอย่างไรก็จอติดตามสถานการณ์คลื่นลมยังไม่ออกทะเล ในวันนี้

……………………………………………………………………………………………………….

Categories
ข่าวเด่น

 สตูล-ศรชล.ภาค 3 เปิดปฏิบัติการปกป้องน่านน้ำ สกัดภัยคุกคามทะเลชายแดน จังหวัดสตูล

สตูล-ศรชล.ภาค 3 เปิดปฏิบัติการปกป้องน่านน้ำ สกัดภัยคุกคามทะเลชายแดน จังหวัดสตูล

            พล.ร.ท.อาภากร   อยู่คงแก้ว  ผอ.ศรชล.ภาค 3 พร้อมด้วย พล.ร.ต.สุชาติ เปรมประเสริฐ รอง ผอ.ศรชล.ภาค 3 และคณะฯ   ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมการปฏิบัติการตรวจสอบพื้นที่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ พื้นที่ จว.สตูล  โดยการปฏิบัติในครั้งนี้ เป็นการจัดกำลังทางเรือออกตรวจสอบพื้นที่ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการ ป้องกัน ปราบปราม รวมถึงการตรวจสอบและประเมินสถานการณ์การกระทำผิดกฎหมายในทะเล ใน  พื้นที่รับผิดชอบของ ศรชล.ภาค 3

         การออกปฏิบัติการครั้งนี้ เป็นการบูรณาการกำลังทางเรือและกำลังพลจาก ศรชล.ภาค 3 ร่วมกับ ศรชล.จว.สตูล และหน่วยที่สนับสนุน ศรชล.จว.สตูล ประกอบด้วยหน่วยงานใน จว.สตูลที่สังกัด กองทัพเรือ กรมเจ้าท่า กรมประมง กรมศุลกากร กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กองบังคับการตำรวจน้ำ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กรมพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมจัดหางาน และฝ่ายปกครอง ทั้งนี้เพื่อเป็นการให้หน่วยต่าง ๆ มีความพร้อมในการปฏิบัติภารกิจในเรือ ทั้งด้านองค์บุคคล องค์วัตถุ และองค์ยุทธวิธี เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานร่วมกันของหน่วยงานภาครัฐให้ดียิ่งขึ้น และยังเป็นการป้องปรามการกระทำความผิดทางทะเลและประเมินสถานการณ์แนวโน้มภัยคุกคามในพื้นที่ทางทะเลของจังหวัดสตูล 

         ซึ่งจากการตรวจสอบลูกเรือประมง  ทะเบียนเรือ ยาเสพติด  แม้ครั้งนี้ไม่พบสิ่งบกพร่อง และไม่พบการกระทำความผิดใด ๆ

        ส่วนสถานการณ์การลักลอบขนน้ำมันเถื่อนทางทะเลนั้น พล.ร.ท.อาภากร กล่าวว่า  จังหวัดสตูลซึ่งเป็นจังหวัดที่มีชายพื้นที่ติดกับมาเลเซียนั้นเรามีหน่วยงานที่มีภาระกิจในด้านนี้ได้ช่วยกันตรวจสอบและทำงานด้านการข่าวซึ่งเรื่องนี้จะต้องใช้การข่าวนำ   ที่ผ่านมาได้ทำการจับกุมได้บ้างแต่ไม่เยอะ  ซึ่งการลักลอบขนน้ำมันเถื่อนทางทะเลในพื้นที่จังหวัดสตูลนั้นยังน้อยกว่าทางด้านอื่น

Categories
ข่าวเด่น

สตูล-บังแมนหนุ่มสตูลคะนองรีวิวยิงปืนริมถนนสาธารณะ  คนใช้ถนนหนีกันจ้าละหวั่นสุดท้ายไม่รอด 

สตูล-บังแมนหนุ่มสตูลคะนองรีวิวยิงปืนริมถนนสาธารณะ  คนใช้ถนนหนีกันจ้าละหวั่นสุดท้ายไม่รอด 

          วันที่ 28 มิ.ย.2566  สืบจากสื่อโซเซียลเมื่อผู้ใช้เฟสบุ๊ค  Bangman  salamander   ได้อัดคลิปรีวิวโชว์โดยใช้แคปชั่นว่า  “ทดสอบ  ลูกซองสั้นเบอร์12  ก่อนทำการทดสอบปลอดภัยครับผู้ดูแลชุมชนและหน่วยงานราชการ”  พร้อมปักหมุดรู้สึกปลอดภัยที่บ้านกาลูบี  ตำบลบ้านควน  อำเภอเมืองสตูล  ไว้อย่างเรียบร้อย  

          จากนั้นเจ้าตัวผู้รีวิวได้นำเป้าไปวางไว้บนกิ่งไม้ริมถนน    จากนั้นได้นำปืนถือไปมาบนถนนสาธารณะ   จากนั้นได้โบกรถจักรยานยนต์ที่แล่นผ่านไปมาให้หมดจากเส้นทางที่จะทำการทดสอบ  จากนั้นได้ยืนบนถนนในหมู่บ้านและสาธิตการยิงไปที่เป้านิ่งจำนวน 1 นัด และบอกกับคลิปที่อัดไว้ว่าได้ยิงสำเร็จแล้วก่อนที่จะยุติการถ่ายทำและโพสต์ลงในเฟสบุ๊กส่วนตัวชื่อ  Bangman salamander  โดยมีคนเข้ามาชมและกดไลก์ร่วม 1 หมื่นคนแชร์ 519 คน   และมีคนจำนวนมากเข้ามาแซวว่า  เกมส์หรือยัง,โดนจับหรือยัง,ปืนมีทะเบียนไหม, ตำรวจอยู่ไหน,ตำรวจดูแลพี่หลวงหน่อยครับ 

         เมื่อตรวจสอบดูในเฟสบุคพบว่าเมื่อวันที่ 20 มิถุนายนที่ผ่านมาได้มีการทดสอบปืนยาว และโพสต์ขอบคุณเพื่อนทุกคนที่อยู่ช่วยในยามขัดสน  ขอบคุณยอดขายปังๆ สำหรับวันนี้ยอดเงินทั้งหมด5000฿ พร้อมภาพธนบัตรและยาเม็ดเขียวเหลืองและยาแก้ไอ   ก่อนจะมาเกมกับการโพสต์คลิปเมื่อวานนี้ที่โชว์การยิงปืนรีวิวกลางถนน  และโพสต์ภาพถือปืนยาว และเมื่อ 4 ชม.ที่ผ่านมายังโพสต์ ขอบคุณทุกคอมเม้นที่เป็นห่วง และวาจาไม่สุภาพผมให้อภัยครับ คราวหน้าจะลองยิงขีปนาวุธข้ามทวีป #ขอบคุณที่ติดตามชมครับ fc Bangman 😎

          หลังโพสต์คลิปไม่นานเวลา 17.20 น.  พ.ต.อ.เสกสิทธิ์ ปรากฎชื่อ ผกก.สภ.เมืองสตูล  พ.ต.ท.สินชัย พาบับพา รอง ผกก.สส.ฯ  สั่งการให้ พ.ต.ท.เฉลิมรัฐ แก้วเนียม  สว.สส.ฯ ร.ต.อ.ฮาซัน แหละหมัน  รอง สว.สส.ฯ ร.ต.อ.รัฐศักดิ์ จีนหวั่นรอง สว.สส.ฯ พร้อมชุดสืบสวน ร่วมกับ ตชด.436   นำหมายค้นศาลจังหวัดสตูลที่ ค.164/2566 ลงวันที่ 28 มิ.ย. 66  เข้าทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 151 ม.3 ต.บ้านควน อ.เมือง จ.สตูล จากการตรวจค้น พบตัวนายสุไลมาน  (ขอสงวนนามสกุล)   อายุ 27 ปี บุคคลตามคลิปที่ได้รับแจ้งรีวิวอาวุธปืน ตามที่ปรากฎคลิปในสื่อโซเชียล พร้อมอาวุธปืน จำนวน 2 กระบอก

 

1.อาวุธปืนเล็กยาว ขนาด  .22 มม. จำนวน 1 กระบอก

2.อาวุธปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์ จำนวน 1 กระบอกพร้อมลูกกระสุน จำนวน 1 นัด

        นายสุไลมาน   (ขอสงวนนามสกุล)  หลังถูกควบคุมตัวยอมรับทำผิดจริง ที่ทำไปเพราะคึกคะนองไม่คาดคิดว่าจะได้รับความสนใจมีคนแชร์คลิปมากขนาดนี้  เพราะก่อนหน้านี้ก็เคยอัดคลิปเกี่ยวกับปืนที่ตนมี  แต่ก็ไม่เห็นจะได้รับความสนใจ   พร้อมยอมรับว่าปืนที่ใช้เป็นปืนไทยประดิษฐ์แบบหักคอของตนเอง    มีกระสุนจำนวน 4 นัด และตั้งใจจะยิงโชว์เพียง 2 นัด  ไม่ได้มีไว้เพื่อทำร้ายใคร และมีไว้ป้องกันสัตว์ไม่ให้เข้ามากัดกินแพะและวัวของตนที่เลี้ยงไว้จำนวนมาก  

 

โดยตำรวจได้ควบคุมตัวดำเนินคดีในข้อหา  มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต

………………………………….

Categories
ข่าวเด่น

 ป.ป.ช.สตูล  ลุยตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการก่อสร้างอาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยวฯ

สตูล-ป.ป.ช.สตูล  ลุยตรวจสอบข้อเท็จจริงโครงการก่อสร้างอาคารศูนย์บริการนักท่องเที่ยวฯ

      จากกรณีมีการนำเสนอข่าวปัญหา  ก่อสร้างศูนย์บริการนักท่องเที่ยว วงเงิน 29 ล้าน 6 ปี ยังไม่เสร็จ โดยเมื่อปี 59  อบจ.สตูล ได้ว่าจ้างก่อสร้างศูนย์บริการนักท่องเที่ยวในเขตพื้นที่อำเภอควนโดน พิกัดริมถนนทางหลวงหมายเลข 406 ใกล้ตลาดนัดดุสน วงเงิน 29,798,000 บาท จัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีพิเศษ ทำสัญญากับห้างเกียรติเจริญชัยการโยธา กำหนดแล้วเสร็จ 22 ธ.ค. 60 แต่โครงการมีความล่าช้าเป็นอย่างมาก จนถึงปี 61 ก็ยังดำเนินการไม่เสร็จ จากนั้นก็มีโครงการเพิ่มขึ้นมา เป็นการทำถนนคอนกรีตและลานจอดรถ กำแพงกันดิน กับปรับปรุงภูมิทัศน์  รอบนี้ใช้วิธีการคัดเลือก  และได้ว่าจ้างห้างหุ้นส่วนจำกัดแห่งหนึ่ง เข้าดำเนินการในวงเงิน 12,990,000 บาท  

         วันที่ 22 มิ.ย.2566  เวลา  13.30 น. นายธนกฤต  เลิศวิริยวรางกูร ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสตูล  พร้อมเจ้าหน้าที่ ปปช. ประจำจังหวัดสตูล  ได้เดินทางไปยังสถานที่จริง ในพื้นที่ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวในเขตพื้นที่อำเภอควนโดน  จ.สตูล  หลังตกเป็นข่าว โดยมีเจ้าหน้าที่จาก อบจ.สตูล และนายสัมฤทธิ์  เลียงประสิทธิ์ นายก อบจ.สตูล คอยให้รายละเอียดโครงการ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวฯ

           พร้อมกันนี้ นายธนกฤต เลิศวิริยวรางกูร ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสตูล  พร้อมเจ้าหน้าที่ ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสตูล ได้ตรวจสอบยังตัวอาคาร และพบว่าหลายๆ อย่างยังทำไม่เสร็จ เช่น พื้นกระเบื้องที่ปูไว้ บางจุดมีสั่นสะเทือน แตกร้าว และพบห้องน้ำรวมภายในตัวอาคาร ทำสร้างไม่แล้วเสร็จ บานประตูบางบานเริ่มผุพังมีคราบตะไคร่เกาะ  และพบคนงานกำลังเดินสายไฟฟ้าอยู่เพียงไม่กี่คน สภาพทั่วไปพบไม่มีการก่อสร้างจุดใดเพิ่มเติมแต่อย่างใด

          นายธนกฤต  เลิศวิริยวรางกูร  ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช. ประจำจังหวัดสตูล  กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ลงพื้นที่มาดูหลังโครงการดังกล่าวนี้ตกเป็นข่าว และก็พบว่าหลายๆ จุดยังทำไม่เสร็จจริงจึงได้เข้าพูดคุยและรับฟัง จากทางนายกอบจ.สตูล  ซึ่งนายกฯ เองก็ยอมรับปัญหาดังกล่าวที่เกิดขึ้น  ส่วนเรื่องเอกสารชี้แจงทางเราเพียงแค่รับฟังจากทาง อบจ.สตูล ดังนั้น เราจึงขอให้ทางอบจ.สตูลส่งเอกสารโครงการตัวนี้อย่างละเอียดมาอีกครั้ง

          ส่วนที่จะเข้าข่ายว่าโครงการนี้ทุจริตหรือไม่ ขอตรวจสอบก่อน ยังบอกไม่ได้  ต้องดูเรื่องข้อกฎหมาย ขอรับฟังการชี้แจงเบื้องต้นก่อน  และขอฝากถึงหน่วยงานใดก็ตาม  ที่มีงานก่อสร้างและยังสร้างไม่เสร็จ  ควรแจ้งเรื่องให้ ป.ป.ช.สตูลรับทราบ อย่าปล่อยทิ้งไว้แบบนี้ ส่วนอาคารนี้ เข้ากระบวนตรวจสอบอย่างละเอียดในด้านเอกสาร จะแจ้งทางสื่ออีกครั้ง

………………………………………………………