Categories
ท้องถิ่น-การเมือง เยาวชน-การศึกษา

อบต.ควนโดน เปิดพื้นที่ “เฟ้นหาสุดยอดไอเดียพัฒนาเมืองควนโดน”  ภายใต้ concept พัฒนาคนให้คนพัฒนาเมือง

อบต.ควนโดน เปิดพื้นที่ “เฟ้นหาสุดยอดไอเดียพัฒนาเมืองควนโดน”  ภายใต้ concept พัฒนาคนให้คนพัฒนาเมือง

         ภายใต้การบริหารงานของ นายวริศ  มาลินี  นายก อบต.ควนโดน  ที่มุ่งหวังพัฒนาตำบลควนโดนไปสู่ความยั่งยืนภายใต้การมีส่วนร่วมของชุมชน  ซึ่งสอดคล้องกับ วิสัยทัศน์ในการพัฒนาคนให้คนพัฒนาเมือง ของ ผู้บริหารบริษัท  วี สมาร์ท ซิตี้ จำกัด  จึงเกิดเป็นความร่วมมือกัน   เดินหน้าโครงการ   One city One wish “เฟ้นหาสุดยอดไอเดียพัฒนาเมืองควนโดน”  ภายใต้โจทย์   โดนใจนักท่องเที่ยว  โดนใจคนพื้นที่  และ โดยใจสิ่งแวดล้อม    

          โอกาสนี้  ผู้จัดได้เปิดพื้นที่นำเสนอไอเดีย  พร้อมรับคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญและการสนับสนุนด้านต่างๆ  เพื่อต่อยอดไอเดียให้เกิดขึ้นจริงในการเพิ่มประสิทธิภาพของการให้บริการ  ลดค่าใช้จ่ายและการใช้ทรัพยากรของเมือง  รวมถึงสร้างการมีส่วนร่วมในการพัฒนาเมือง  ให้ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี  มีความสุข  ปลอดภัย  และยั่งยืน   โดยมีเยาวชนจากหลายๆโรงเรียนในพื้นที่เข้าร่วมโครงการจาก 15 ทีม ให้คณะกรรมการซึ่งประกอบด้วย  นักวิจัยอิสระ  ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดสตูล  ผอ.กองสาธารณสุข   ทต.ควนโดน   นายกฯอบต.ควนโดน  และ บริษัท วี สมาร์ท ซิตี้ จำกัด  คัดให้เหลือเพียง  4 ทีม  เป็นสุดยอดไอเดียพัฒนาเมืองควนโดน

         ด้าน นางสาวนัฐชยา เชี่ยวชาญ   ผู้จัดการโครงการ one city one wish    บริษัท วี สมาร์ท ซิตี้ จำกัด   กล่าวว่า  บริษัทวีสมาร์ทซิตี้   เกิดจากคุณเฉลิมชัย   มีวิชั่นการพัฒนาคนเพื่อให้คนพัฒนาเมือง   ผ่านหลักสูตรการสอน   ที่มีชื่อว่าดีไซน์ติ้งกิ้ง   จะมีกิจกรรมสี่ห้ากิจกรรม   ตั้งแต่การอบรม   การแข่งขัน   การลงพื้นที่   จนถึงการรายงานผล   โครงการที่ถูกเอาไปทดสอบและมีข้อเสนอแนะในการขยายในพื้นที่    ปัจจุบันที่จังหวัดสตูลที่ตำบลควนโดนถือเป็นที่แรกของสตูล   ได้จัดภายใต้หัวข้อควนโดนโดนใจ    โดนใจคนที่มาท่องเที่ยว   โดนใจคนที่อยู่ที่นี่   และโดนใจสิ่งแวดล้อม  

 

      สำหรับไอเดียน้องๆมีหลากหลาย ตั้งแต่การใช้หลักวิทยาศาสตร์เข้ามาผนวก   เช่นการสกัดแพ็คกิ้งจากเปลือกจำปาดะ   เป็นการลดขยะและทำให้เกิดมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจ   อีกกลุ่มหนึ่งคือทำแพ็คเกจทัวร์ที่สามารถเริ่มดำเนินการได้เลย   ติดตามน้องๆได้ทางเพจ   ธรรมชาติเยียวยาใจ   ส่วนกลุ่มอื่นๆก็นำแพลตฟอร์มสำหรับจองบุ๊คกิ้งต่างๆ  ใช้เอไอบ้างเปลี่ยนภาษาบ้าง   สำหรับท่านที่สนใจ โปรเจคของน้องๆที่ควนโดน   สามารถเข้าไปติดตามได้ที่เพจ   วันซิตี้วันวิช  ๆเป็นโปรเจคที่เราต้องการพัฒนาคนเพื่อให้คนพัฒนาเมืองต่อไป

         นายยาริส   กูเล็ม  อายุ 17 ปี ม.5  โรงเรียนควนโดนวิทยา  กล่าวถึงเหตุผลที่เขาเลือกเข้าร่วมโครงการ  เพราะคิดว่าควนโดนควรได้รับการพัฒนาไปมากกว่านี้  เพราะที่นี่มีดีในด้านต่างๆเยอะมาก   สำหรับวันนี้มีการนำเสนอในเรื่องเมล็ดจำปาดะซึ่งมีสรรพคุณในเรื่องขับน้ำนมให้กับคุณแม่   ก็อยากพัฒนาด้านนี้ให้โดดเด่นขึ้นมา    หลังจากพรีเซนต์ทางคณะกรรมการมองว่าดีแล้ว  แต่อยากให้เน้นเรื่องการตลาดมากกว่านี้   ซึ่งที่คิดไว้สามารถนำไปใช้ได้จริงๆ   เพราะปัญหานี้เกิดขึ้นเยอะ    เหตุผลที่เลือกเม็ดจำปาดะเพราะเป็นของในพื้นที่ของคนโดนครับ

         นางสาวสิริวิภา สวัสดีรักษา นักเรียนจาก โรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย สตูล  หนึ่งในกลุ่มที่เข้าร่วมโครงการ  กล่าวว่า   พวกหนูเลือกเข้าโครงการนี้  เพื่อที่จะพัฒนาชุมชนควนโดน   โดยหัวข้อที่เลือก   ควนโดนโดนใจนักท่องเที่ยว   ซึ่งที่เลือกเพราะในควนโดนมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายอย่างมาก   ไม่ว่าจะเป็นทะเลบัน   ภูเขาต่างๆ   และการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์   นอกจากนี้ยังมีวิสาหกิจชุมชนไว้ศึกษาดูงานได้ซึ่งสตูลมีรายได้หลักทางด้านการท่องเที่ยว   และรายได้นี้มาจากเกาะหลีเป๊ะเป็นส่วนใหญ่   โดยควนโดนเป็นเพียงทางผ่าน   พวกหนูจะทำให้คนมาอยู่ที่ควนโดน   มาพักมากขึ้น   จะทำให้รายได้ของสตูลเพิ่มขึ้นในส่วนนี้ด้วย    ก็เลยอยากพัฒนาควนโดน   โอกาสนี้  อยากเชิญชวนให้คนมาเที่ยวคอนโดน  ที่ควนโดนเรามีจำปาดะ   มีกระท้อนนาปริก   มีทะเลบัน  มีครบมีทุกอย่างให้ทุกคนมาเยี่ยม

         ทางด้าน  นายวริศ  มาลินี  นายก อบต. ควนโดน  กล่าวว่า   ทางอบต.ควนโดน  ได้จัดโครงการวันซิตี้ วันวิช    ขึ้นที่อบต. ควนโดน   ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการแข่งขันเฟ้นหาสุดยอดไอเดียควนโดนโดนใจ   ซึ่งมีน้องๆร่วมแข่งขันเยอะแยะหลายทีม   โดยหลายท่านได้ระเบิดไอเดียร์การพัฒนาเมืองควนโดน  ซึ่งดีมาก   โอกาสนี้ก็คาดหวังที่จะมีไอเดียที่เกิดจากเวทีนี้นำมาพัฒนาเมืองเพื่อต่อยอดให้เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนต่อไป

          โดยน้องๆได้เสนอไอเดีย ที่สามารถต่อยอดได้  อย่าง   เรื่องการท่องเที่ยวโดยน้องๆเขียนแอพพลิเคชั่นท่องเที่ยว  ที่มีหลายภาษา   ทั้งแพลตฟอร์มการขายออนไลน์   นำผลไม้ของตำบลไปขายออนไลน์   มีการรีไซเคิลขยะซึ่งเป็นปัญหาของชุมชน   เช่นการนำเปลือกจำปาดะมาทำเป็น package  เพื่อพัฒนาต่อยอดในเชิงอุตสาหกรรมต่อไป   ซึ่งเป็นประโยชน์มากและเป็นไอเดียที่ดี   โอกาสนี้ก็ขอขอบคุณผู้เกี่ยวข้องทั้งหลายที่ให้โอกาสกับเราได้ทำงานกับชุมชน ได้ร่วมกันช่วยผลักดันส่งเสริมให้ได้จัดกิจกรรมในครั้งนี้เพื่อพัฒนาต่อยอดไอเดียทำเป็นกิจกรรมให้สู่ชุมชน ร่วมกันพัฒนาบ้านพัฒนาเมืองต่อไป

…………………..

อัพเดทล่าสุด
Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา เยาวชน-การศึกษา

ศรชล.ภาค 3  จัดทริปเอาใจเยาวชนกระตุ้น  รักษ์ทะเลบ้านเรา  เส้นทางจากภูผาสู่ทะเล

ศรชล.ภาค 3  จัดทริปเอาใจเยาวชนกระตุ้น  รักษ์ทะเลบ้านเรา  เส้นทางจากภูผาสู่ทะเล

        พลเรือโทอาภากร   อยู่คงแก้ว   ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 พร้อมภริยาร่วมกับทัพเรือภาคที่ 3  นาวาเอกแสนย์ไท   บัวเนียม รองผู้อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลจังหวัดสตูล  นำนักเรียนโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 42  จำนวน 50 คน  (ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบาง)  เดินทางศึกษาเส้นทางธรรมชาติที่อุทยานแห่งชาติทะเลบัน อำเภอควนโดน  จังหวัดสตูล   เพื่อทำกิจกรรมสร้างความรับรู้การรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเล  และปลูกฝังจิตสำนึกให้กับเยาวชนได้รู้จักเห็นคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล  และช่วยกันดูแลรักษาไว้ให้ยั่งยืน ภายใต้โครงการ  “รักษ์ทะเลบ้านเรา”   จากภูผาอุทยานแห่งชาติทะเลบัน  สู่ท้องทะเลตำมะลังอำเภอเมืองสตูล  นักเรียนเยาวชน  จากศรชล.ภาค 3 ที่เข้าร่วมโครงการในครั้งนี้  ยังได้เปิดประสบการณ์ใหม่ด้วยการนั่งเรือชมเส้นทางธรรมชาติ  ศึกษาวิถีชีวิตชาวบ้านริมชายฝั่งตำมะลังดินแดนมลายู ไปพร้อมเรียนรู้วิถีชีวิต  และชื่นชมฝูงนกอินทรีย์ที่ออกมาต้อนรับนักท่องเที่ยวผู้มาเยือน  ผ่านการท่องเที่ยวชุมชนตำมะลัง  เพื่อเปิดประสบการณ์ใหม่เรียนรู้การอยู่ควบคู่กันระหว่างธรรมชาติ ชุมชน และการท่องเที่ยวโดยชุมชน

 

           จากนั้นน้อง ๆ เยาวชน ศรชล.ภาค 3 ยังได้ร่วมกันปล่อยกุ้งกุลาดำ จำนวน 90,000 ตัว และร่วมปลูกไม้ป่าชายเลนในพื้นที่ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรป่าชายเลนที่ 24 ตำมะลังจังหวัดสตูล

          นางสาวเกศรา  ขันติวงศ์   ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4/1 โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 42  บอกว่า  ประทับใจวิทยากร  อาหาร  การดูแลของพี่ๆทีมผู้จัด การได้มาครั้งนี้ทำได้เจอกับสัตว์หายากอย่าง  เขียดว้าก  หรือ หมาน้ำ  เพราะไม่สามารถเจอสัตว์เหล่านี้ได้ในพื้นที่อื่น  ต้องมาดูที่นี่เท่านั้น  ไปเดินในป่าแล้วเจอพันธุ์ไม้หลายชนิดและไม้ยืนต้นที่มีอายุหลายร้อยปี  และได้มาร่วมทำกิจกรรมกับเพื่อนๆที่นี่ได้ความรู้นำไปพัฒนาในชีวิตประจำวัน เพราะจังหวัดสตูลเป็นจังหวัดที่ติดทะเล  เราควรจะช่วยกันอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล

         พลเรือโทอาภากร   อยู่คงแก้ว   ผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 ผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3  บอกว่า   ศูนย์อำนวยการรักษาผลประโยชน์ของชาติทางทะเลภาค 3 และทัพเรือภาคที่ 3 ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของทรัพยากรธรรมชาติทางทะเล  ซึ่งมีอยู่อย่างจำกัดและมีผลกระทบต่อถิ่นที่อยู่อาศัยวิถีชีวิตการประกอบอาชีพของประชากรในท้องถิ่นซึ่งมีผลกระทบเชื่อมโยงไปถึงระดับชาติ   จึงมีความสำคัญจำเป็นต้องสร้างความรับรู้   รวมทั้งการปลูกฝังจิตสำนึกให้กับเยาวชนได้เห็นคุณค่าของทรัพยากรธรรมชาติทางทะเลในท้องถิ่นของตนเองให้มีความยั่งยืนตลอดไป  

Categories
ข่าวทั่วไป ข่าวเด่น ท้องถิ่น-การเมือง ท่องเที่ยว-กีฬา ทั้งหมด สัมภาษณ์พิเศษ-คอลัมน์นิสต์ เยาวชน-การศึกษา

สตูล เขตห้ามล่าสัตว์ป่าฯ ชวนส่องนกอพยพ และ นกประจำถิ่น หลากชนิดกว่า 5,000 ตัวหนีหนาวอวดโฉมรับปีใหม่

สตูล เขตห้ามล่าสัตว์ป่าฯ ชวนส่องนกอพยพ และ นกประจำถิ่น หลากชนิดกว่า 5,000 ตัวหนีหนาวอวดโฉมรับปีใหม่

ที่เขตห้ามล่าสัตว์ป่า  “หนองปลักพระยา เขาระยาบังสา”  ตำบลฉลุง   อำเภอเมือง  จังหวัดสตูล  เป็นห้วงที่มีการอพยพของนกต่างถิ่นหนีหนาวมาจากซีกโลกเหนือ   อพยพมาอยู่ที่นี่กันเป็นจำนวนมากซึ่งเป็นเขตอบอุ่นและมีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ  โดยเฉพาะนกเป็ดแดง   นกอ้ายงั่ว   นกอีโก้ง   นกกระสา   และกลุ่มนกยางชนิดต่างๆ

          โดยเฉพาะนกเป็ดแดงที่อพยพมาจำนวนมากและนกนานาชนิดรวมไม่น้อยกว่า 5,000 ตัว   ที่มาอวดโฉมให้เห็นในห้วงเดือน ก.ย.- ส.ค.ของทุกปี   ทำให้บรรดานักส่องนกทั้งมือเก่าและมือใหม่   จะเดินทางมาชมนกที่นี่กันเป็นจำนวนมาก  ที่นี่มีความพิเศษที่ไม่ได้มีเฉพาะหนองน้ำเท่านั้น    ที่นี่ยังมีภูเขาและมีนกหายากให้ชม   อย่างนกประจำถิ่น “นกทึดทือพันธุ์เหนือ”   เป็นตระกูลนกเค้าแมวและเป็นสัญลักษณ์ประจำเขตห้ามล่าสัตว์ป่า  “หนองปลักพระยา เขาระยาบังสา” ที่หาดูได้ยากแต่สามารถหาดูได้ที่นี่ที่มีประชากร 10 ตัว

นายชุติพงค์   พลวัฒน์ 

          นายชุติพงค์   พลวัฒน์   นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการ  หัวหน้าเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองปลักพระยาและเขาระยาบังสา  กล่าวว่า  สำหรับนกประจำถิ่นที่หาชมได้ยากแต่มีที่นี่คือนกทึดทือพันธุ์เหนือ  เป็นตระกูลนกเค้าแมวและเป็นสัญลักษณ์ประจำเขตห้ามล่าสัตว์ป่าหนองปักพญา หาดูได้ยากและเป็นนกประจำถิ่น    สำหรับนักดูนกที่สนใจจะมาทำกิจกรรมที่นี่สามารถดูได้ตลอดทั้งปี หากจะดูนกอพยพก็สามารถมาดูได้ในห้วงเดือนกันยายนถึงเมษายนของทุกปีสามารถเข้ามาติดต่อเจ้าหน้าที่ได้ที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุปกรณ์ต่างๆก็มีบริการให้สำหรับนักท่องเที่ยว 

และในห้วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ทางกรมอุทยานฯ มอบให้สำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใน  เขตห้ามล่าสัตว์ป่า“หนองปลักพระยา  เขาระยาบังสา” จะมีบริการน้ำดื่ม  กาแฟ  และความปลอดภัย  ให้กับนักท่องเที่ยวรวมถึงการงดจัดเก็บการเข้ามาใช้บริการ 31 -1 มกราคม  2566

และในห้วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ทางกรมอุทยานฯ มอบให้สำหรับนักท่องเที่ยวที่เข้ามาใน  เขตห้ามล่าสัตว์ป่า“หนองปลักพระยา  เขาระยาบังสา” จะมีบริการน้ำดื่ม  กาแฟ  และความปลอดภัย  ให้กับนักท่องเที่ยวรวมถึงการงดจัดเก็บการเข้ามาใช้บริการ 31 -1 มกราคม  2566

Categories
ข่าวทั่วไป ข่าวเด่น ท้องถิ่น-การเมือง ท่องเที่ยว-กีฬา ทั้งหมด สัมภาษณ์พิเศษ-คอลัมน์นิสต์ เยาวชน-การศึกษา

วันงดสูบบุหรี่โลก สตูลประกาศให้ 2 ท่าเทียบเรือสำคัญระหว่างประเทศและท่าเทียบเรือท่องเที่ยวปลอดบุหรี่ยกระดับมาตราฐานท่าเรือสู่นานาชาติ

วันงดสูบบุหรี่โลก สตูลประกาศให้ 2 ท่าเทียบเรือสำคัญระหว่างประเทศและท่าเทียบเรือท่องเที่ยวปลอดบุหรี่ยกระดับมาตราฐานท่าเรือสู่นานาชาติ

ที่ห้องประชุมตำรวจน้ำจังหวัดสตูล   นางสาวพัชรี  เกิดพรม  ผู้ทรงคุณวุฒิควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบจังหวัดสตูล , ศูนย์ข่าวปลอดควันจังหวัดสตูล  , องค์กรงดเหล้าสูบบุหรี่ที่จังหวัดสตูล  ร่วมเป็นสักขีพยาน  การลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU)  ในการดำเนินการให้ท่าเรือตำมะลัง เป็นท่าเรือปลอดบุหรี่ตามกฎหมาย

          โดยนายเสรี  พงศ์นฤเดช รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสตูล  ได้รับมอบหมายจากนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสตูล ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU)  ในการดำเนินการให้ท่าเรือตำมะลัง เป็นท่าเรือปลอดบุหรี่ตามกฎหมาย ซึ่งกำหนดให้ สถานที่ท่าเรือตำมะลัง เป็นสถานที่สาธารณะที่มีการคุ้มครองสุขภาพของผู้ไม่สูบบุหรี่ ตามพระราชบัญญัติควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ พ.ศ. 2560 

โดยหน่วยงานที่ร่วมลงนามประกอบด้วย สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสตูล สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสตูลด่านศุลกากรสตูล  ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสตูล ตำรวจน้ำ 3 กองกำกับการ 9 กองบังคับการตำรวจน้ำ   ด่านตรวจสัตว์ป่า  ด่านตรวจคนหางาน ศูนย์วิจัยและพัฒนาทรัพยากรป่าชายเลนที่ 5  ด่านกักกันสัตว์  ห้างหุ้นส่วนจำกัด อันดามัน บิซิเนส แอนด์ คอนสตรัคชั่น 

          ส่งผลให้ท่าเทียบเรือในจังหวัดสตูล ถูกประกาศเป็นพื้นที่ปลอดบุหรี่แล้วจำนวน 2 แห่ง  โดยแห่งแรกได้ถูกประกาศขึ้นที่ท่าเทียบเรือปากบารา (ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือท่องเที่ยวสำคัญที่ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกที่มาเยือนจังหวัดสตูล)  และแห่งที่ 2 คือท่าเทียบเรือตำมะลัง (ท่าเทียบเรือระหว่างประเทศไทยจังหวัดสตูล เกาะลังกาวีประเทศมาเลเซีย)

Categories
ข่าวทั่วไป ข่าวเด่น ท้องถิ่น-การเมือง ท่องเที่ยว-กีฬา ทั้งหมด สัมภาษณ์พิเศษ-คอลัมน์นิสต์ เยาวชน-การศึกษา

เลขาธิการ ศอ.บต.เปิดกิจกรรมสานสัมพันธ์คนไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ระบุ ศอ.บต. พร้อมดูแลประชาชนทุกศาสนิกอย่างเท่าเทียม

เลขาธิการ ศอ.บต.เปิดกิจกรรมสานสัมพันธ์คนไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ระบุ ศอ.บต. พร้อมดูแลประชาชนทุกศาสนิกอย่างเท่าเทียม

วันนี้ (5 กุมภาพันธ์ 2566) เวลา 18.30 น. ที่ ห้องปลายสยาม โรงแรมเก็นติ้ง อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานเปิดกิจกรรม และพบปะประชาชนคนไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส ในกิจกรรมสานสัมพันธ์คนไทยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ สังคมหลากหลายวัฒนธรรม เพื่อการพัฒนาและแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ของอำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส พร้อมร่วมรับประทานอาหารเนื่องในโอกาสต้อนรับวันตรุษจีน ประจำปี 2566 ซึ่งเป็นนโยบายของ พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ที่กำหนดให้จัดขึ้นในโอกาสวันตรุษจีน และเป็นวันปีใหม่ของชาวไทยเชื้อสายจีน นับเป็นโอกาสที่ดี เพื่อให้ประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีน ได้มารวมตัวกัน พบปะแลกเปลี่ยน ระดมความคิดเห็นในการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ว่าจะเป็นสมาคม มูลนิธิ ศาลเจ้า หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน เข้าร่วมจำนวนมาก โดยมี นายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นางสุนิสา รามแก้ว ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. (กรมประชาสัมพันธ์) นาวาเอกจักรพงษ์ อภิมหาธรรม ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาฝ่ายพลเรือน ศอ.บต. นางสุชาดา พันธุ์นรา นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโกลก เจ้าหน้าที่สำนักกอง / ศอ.บต. หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหาร และประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่อำเภอสุไหหงโกลก เข้าร่วมกว่า 600 คน

สำหรับ กิจกรรมภายในงาน มีการแสดงรำจีน ในชุดการแสดง 7 นางฟ้ารำอวยพร ชุดการแสดง คนไทยเชื้อสายจีน เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ การแสดงเชิ่ดสิงโตจาก ศิษย์เจ้าแม่โต๊ะโมะ และคณะสิงโตลูกท้าวมหาพรหม สุไหงโกลก

ในการนี้ เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ถือเป็นสิ่งที่ดีงามและเป็นสิริมงคลต่อบ้านเมืองเป็นอย่างยิ่ง และที่สำคัญทุกคนที่อยู่ในงานแห่งนี้ถึงแม้จะเป็นคนจีนโดยกำเนิดแต่ทุกคนก็ได้ร้องเพลงชาติด้วยความไพเราะ บ่งบอกถึงว่า เราทุกคนได้รัก และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของสถาบันพระมหากษัตริย์ และรู้สึกภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ร่วมกิจกรรมสานสัมพันธ์ พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน ในพื้นที่ต่าง ๆ มาแล้ว และครั้งนี้ได้จัดขึ้นในพื้นที่อำ้ภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส ท่ามกลางพี่น้องประชาชนเข้าร่วมอย่างคึกคัก อยากให้ได้รับรู้ว่า ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติใด ศาสนาใด ท่านทุกคนอยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะต้องได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าท่านมาจากมณฑลใด ยุคใด วันนี้ท่านคือพลเมืองไทย ที่รัฐบาล โดย ศอ.บต. จะต้องดูแลทุกคน เพราะอำเภอสุไหงโกลก คือพื้นที่สังคมพหุวัฒนธรรมอย่างแท้ เราเองจะพยายามด้วยความสามารถเพื่อให้ชาวไทนเชื้อสายจีน สามารถอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างมีความสุข

ด้าน หนึ่งในผู้ร่วมงานจากสมาคมแต้จิ๋ว ได้กล่าวถึงความรู้สึกในการเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ว่า ขอขอบคุณศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้จัดกิจกรรมพบปะคนไทยเชื้อสายจีนในครั้งนี้ และได้ความรู้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นของการใช้ชีวิตประจำวัน สิทธิของคนไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และที่สำคัญ สายด่วนอุ่นใจ ศอ.บต. 1880 เป็นเลขหมายที่คนไทยทุกคนในพื้นที่ สามารถใช้จริง และช่วยเหลือคนไทยพื้นที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าว นราธิวาสรายงาน

Categories
ข่าวทั่วไป ข่าวเด่น ท้องถิ่น-การเมือง ท่องเที่ยว-กีฬา ทั้งหมด สัมภาษณ์พิเศษ-คอลัมน์นิสต์ เยาวชน-การศึกษา

สตูล พรรคก้าวไกลประกาศชัยชนะด้วยคะแนนถล่มทลาย แห่ขอบคุณทุกคะแนนเสียงประชาชน

เลขาธิการ ศอ.บต.เปิดกิจกรรมสานสัมพันธ์คนไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาส ระบุ ศอ.บต. พร้อมดูแลประชาชนทุกศาสนิกอย่างเท่าเทียม

วันนี้ (5 กุมภาพันธ์ 2566) เวลา 18.30 น. ที่ ห้องปลายสยาม โรงแรมเก็นติ้ง อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นประธานเปิดกิจกรรม และพบปะประชาชนคนไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่อำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส ในกิจกรรมสานสัมพันธ์คนไทยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ สังคมหลากหลายวัฒนธรรม เพื่อการพัฒนาและแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ ของอำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส พร้อมร่วมรับประทานอาหารเนื่องในโอกาสต้อนรับวันตรุษจีน ประจำปี 2566 ซึ่งเป็นนโยบายของ พลเรือตรี สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการ ศอ.บต. ที่กำหนดให้จัดขึ้นในโอกาสวันตรุษจีน และเป็นวันปีใหม่ของชาวไทยเชื้อสายจีน นับเป็นโอกาสที่ดี เพื่อให้ประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีน ได้มารวมตัวกัน พบปะแลกเปลี่ยน ระดมความคิดเห็นในการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ไม่ว่าจะเป็นสมาคม มูลนิธิ ศาลเจ้า หน่วยงานภาครัฐ และภาคเอกชน เข้าร่วมจำนวนมาก โดยมี นายไพโรจน์ จริตงาม รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นางสุนิสา รามแก้ว ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. (กรมประชาสัมพันธ์) นาวาเอกจักรพงษ์ อภิมหาธรรม ผู้อำนวยการกองส่งเสริมและสนับสนุนงานพัฒนาฝ่ายพลเรือน ศอ.บต. นางสุชาดา พันธุ์นรา นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโกลก เจ้าหน้าที่สำนักกอง / ศอ.บต. หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าหน้าที่ตำรวจ เจ้าหน้าที่ทหาร และประชาชนชาวไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่อำเภอสุไหหงโกลก เข้าร่วมกว่า 600 คน

สำหรับ กิจกรรมภายในงาน มีการแสดงรำจีน ในชุดการแสดง 7 นางฟ้ารำอวยพร ชุดการแสดง คนไทยเชื้อสายจีน เพื่อแก้ไขปัญหาและพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ การแสดงเชิ่ดสิงโตจาก ศิษย์เจ้าแม่โต๊ะโมะ และคณะสิงโตลูกท้าวมหาพรหม สุไหงโกลก

ในการนี้ เลขาธิการ ศอ.บต. กล่าวว่า การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ ถือเป็นสิ่งที่ดีงามและเป็นสิริมงคลต่อบ้านเมืองเป็นอย่างยิ่ง และที่สำคัญทุกคนที่อยู่ในงานแห่งนี้ถึงแม้จะเป็นคนจีนโดยกำเนิดแต่ทุกคนก็ได้ร้องเพลงชาติด้วยความไพเราะ บ่งบอกถึงว่า เราทุกคนได้รัก และสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ของสถาบันพระมหากษัตริย์ และรู้สึกภูมิใจอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ซึ่งก่อนหน้านี้ได้ร่วมกิจกรรมสานสัมพันธ์ พี่น้องชาวไทยเชื้อสายจีน ในพื้นที่ต่าง ๆ มาแล้ว และครั้งนี้ได้จัดขึ้นในพื้นที่อำ้ภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส ท่ามกลางพี่น้องประชาชนเข้าร่วมอย่างคึกคัก อยากให้ได้รับรู้ว่า ไม่ว่าจะเป็นเชื้อชาติใด ศาสนาใด ท่านทุกคนอยู่ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ จะต้องได้รับการดูแลอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าท่านมาจากมณฑลใด ยุคใด วันนี้ท่านคือพลเมืองไทย ที่รัฐบาล โดย ศอ.บต. จะต้องดูแลทุกคน เพราะอำเภอสุไหงโกลก คือพื้นที่สังคมพหุวัฒนธรรมอย่างแท้ เราเองจะพยายามด้วยความสามารถเพื่อให้ชาวไทนเชื้อสายจีน สามารถอยู่ในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้อย่างมีความสุข

ด้าน หนึ่งในผู้ร่วมงานจากสมาคมแต้จิ๋ว ได้กล่าวถึงความรู้สึกในการเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ว่า ขอขอบคุณศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ได้จัดกิจกรรมพบปะคนไทยเชื้อสายจีนในครั้งนี้ และได้ความรู้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นของการใช้ชีวิตประจำวัน สิทธิของคนไทยเชื้อสายจีนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ และที่สำคัญ สายด่วนอุ่นใจ ศอ.บต. 1880 เป็นเลขหมายที่คนไทยทุกคนในพื้นที่ สามารถใช้จริง และช่วยเหลือคนไทยพื้นที่ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

ปทิตตา หนดกระโทก ผู้สื่อข่าว นราธิวาสรายงาน

Categories
ข่าวทั่วไป ข่าวเด่น ท้องถิ่น-การเมือง ท่องเที่ยว-กีฬา ทั้งหมด สัมภาษณ์พิเศษ-คอลัมน์นิสต์ เยาวชน-การศึกษา

สตูลเด็กน้อยโรบินฮูดวัย 5 ขวบโชว์ลีลายิงธนู ในกีฬายิงธนูอันดามันแชมป์เปี้ยนชิพ ไทยมาเลเซียเข้าร่วมแข่งขันคึกคึก

สตูลเด็กน้อยโรบินฮูดวัย 5 ขวบโชว์ลีลายิงธนู  ในกีฬายิงธนูอันดามันแชมป์เปี้ยนชิพ  ไทยมาเลเซียเข้าร่วมแข่งขันคึกคึก

วันที่ 27 พ.ค.2566  สตูลจัดการแข่งขัน  กีฬายิงธนู  อันดามันแชมป์เปี้ยนชิพ (ครั้งแรก)  ขึ้นที่สนามกีฬาเทศบาลตำบลฉลุงอำเภอเมือง  จังหวัดสตูลระหว่างวันที่ (27 – 28 พ.ค.2566) โดยมีนักกีฬาจากทั่วประเทศไทยเดินทางเข้าร่วมการแข่งขันพร้อมนักกีฬาจากประเทศมาเลเซียที่มาร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ 160 คนโดยแบ่งการแข่งขันกีฬาเป็น 4 ประเภท ซึ่งการแข่งขันครั้งนี้ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาบุคลากรทางด้านการกีฬา และการกีฬาแห่งประเทศไทย  ร่วมกับสมาคมกีฬาขี่ม้ายิงธนูจังหวัดสตูลจัดให้มีการแข่งขันในครั้งนี้ขึ้น  รวมทั้งได้รับสนับสนุนจากภาคเอกชนในพื้นที่ อาทิ  โรงน้ำแข็งโพลี่  สิตาบีชรีสอรท   อเล็กฟิชชิ่ง

การแข่งขันในครั้งนี้มี 4 ประเภท โดยกลุ่มที่ 1 และกลุ่มที่ 2 ประเภทประถมศึกษา มัธยมศึกษาตอนต้น มัธยมศึกษาตอนปลาย (RC/CP/BB/HB)  กลุ่มที่ 2 รุ่นทั่วไป (OPEN) การแข่งขันประเภทบุคคลรอบแพ้คัดออก ทุกประเภท (Individual Match Play) และการแข่งขันประเภทบุคคลรอบแพ้คัดออก ทุกประเภท (Team Match Play)

สำหรับการแข่งขันครั้งนี้เป็นที่น่าสนใจคือ  มีเด็กน้อยวัย 5 ขวบจากจังหวัดยะลา  ที่เดินทางมากับครอบครัวร่วมการแข่งขันสร้างสีสัน ความน่ารักให้ผู้เข้าร่วมกันแข่งขันในครั้งนี้ได้ไม่น้อย  โดยลีลาท่าทางมีแววที่จะมีอนาคตไกลในการแข่งขันประเภทยิงธนู  โดยน้องอับดุลเลาะมาน   จิสวัสดิ์   มีความชื่นชอบในการแข่งขันกีฬายิงธนู  ซึ่งได้เริ่มติดตามพี่ชายวัย 10 ขวบและคุณพ่อมาที่สนามการแข่งขันทุกครั้งที่มีการซ้อม   ทำให้สนใจและอยากจะร่วมการแข่งขันเหมือนอย่างพี่ชาย  โดยทางคุณพ่อก็ให้การสนับสนุนเป็นอย่างดี

นายซามาน  จิสวัสดิ์  อายุ 30 (คุณพ่อของน้องอับดุลเลาะมาน)  กล่าวว่า  การมาแข่งขันในครั้งนี้ของน้องนับเป็นสนามที่ 2 โดยครั้งแรกไปร่วมแข่งขันในสนามเบตง  ซึ่งก็ไม่ได้คาดหวังเหรียญหรือชัยชนะแต่อย่างใดนับเป็นการเปิดประสบการณ์ให้กับน้องได้เก็บเกี่ยว อีกทั้งเป็นการฝึกสมาธิจดจ่อที่คันธนู และฝึกกล้ามเนื้อมัดเล็กและอยู่ร่วมกันขณะมีการแข่งขัน 

ด้านนายธนะสิทธิ์   ศิริพัฒน์นราทร  กรรมการผู้ตัดสินกีฬายิงธนู  สมาคมกีฬายิงธนูแห่งประเทศไทย   ผู้จัดการแข่งขันในครั้งนี้    กล่าวว่า การแข่งขันกีฬายิงธนูซึ่งจัดเป็นครั้งแรกในพื้นที่จังหวัดสตูล   ยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมกว้างขวางมากนัก  แต่กีฬาชนิดนี้จัดกีฬาระดับสากล    ในกีฬาในการแข่งขันกีฬานัดสำคัญไม่ว่าจะเป็น  โอลิมปิก   เอเชียนเกมส์  ซีเกมส์   โดยพ่อแม่ผู้ปกครองให้ความสนใจนำบุตรหลานเข้าร่วมการแข่งขันไม่น้อย  และหวังว่าในอนาคตจะจัดให้มีการแข่งขันทุกปีในพื้นที่ของจังหวัดสตูลในการเฟ้นหาช้างเผือก และเพื่อจะเป็นการคัดเลือกนักกีฬาเป็นตัวแทนของทีมชาติในอนาคตต่อไปได้

อีกทั้งสตูลเป็นเมืองชายแดนอยู่ใกล้กับประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเซีย   เข้ามาร่วมแข่งขันและกระตุ้นเศรษฐกิจในพื้นที่ได้ไม่น้อยทั้งนักกีฬาและผู้ติดตามร่วมการแข่งขันถึง 400 คนสร้างรายได้เข้าพื้นที่จังหวัดสตูล