Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สตูล-อิหม่ามนำชาวบ้านขอดุอาร์ บรรพบุรุษ  ที่มอบทุเรียนพื้นบ้านโบราณอายุ 217 ปี  ให้มีลูกดกนับหมื่นลูกต่อปี

สตูล-อิหม่ามนำชาวบ้านขอดุอาร์ บรรพบุรุษ  ที่มอบทุเรียนพื้นบ้านโบราณอายุ 217 ปี  ให้มีลูกดกนับหมื่นลูกต่อปี

         ภายในสวนทุเรียน  หมู่ 3 บ้านหัวกาหมิง  ต.ทุ่งนุ้ย  อ.ควนกาหลง  จ.สตูล  อิหม่าม  ผู้นำศาสนาอิสลามพร้อมชาวบ้าน  มาร่วมสวดดุอาร์ขอพร   ให้กับนางสาวอรัญนาถ   ฉลาดเลิศ อายุ 53 ปี  เจ้าของสวนทุเรียนโบราณอายุ 217 ปี ที่ทำนูหรี ด้วยการใช้ทุเรียนโบราณจำนวน 50 ลูก (ซึ่งประเพณีงานบุญจัดเลี้ยงอาหารอย่างไม่เป็นทางการ) โดยทางเจ้าของสวนต้องการจะทำบุญเลี้ยง  และขอบคุณบรรพบุรุษที่มอบต้นทุเรียนโบราณพันธุ์ซุ้มหมู  ให้มีผลผลิตในแต่ละปีไม่น้อยกว่า 10,000 ลูก เช่นเดียวกันกับปีนี้   ที่ให้ผลผลิตมากถึง 2 รุ่น

          ปัจจุบันทุเรียนโบราณต้นนี้   ตั้งเด่นตระหง่านเพียงต้นเดียว  สูงขนาด ตึก 8 ชั้น และใหญ่มากถึง 21 คนโอบ  ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคทั้งใกล้และไกล  สั่งซื้อกันไม่ขาดสาย  ด้วยสายพันธุ์ที่มีรสชาติเนื้อครีม หวานกำลังดีกลิ่นไม่แรง  ทำให้หลายคนติดใจ สั่งซื้อในราคากิโลกรัมละ 80 บาท และสั่งต้นพันธุ์ขายในราคาต้นละ 600 บาท  เพื่อนำไปปลูก

          นางสาวอรัญนาถ   ฉลาดเลิศ  เจ้าของสวนทุเรียนโบราณ  บอกว่า  ปกติทุกปีจะทำนูหรี  เพื่อเลี้ยงญาติพี่น้อง  และทำบุญให้กับบรรพบุรุษที่มอบต้นทุเรียนโบราณต้นนี้  มาให้มีผลผลิตดีทุกปี และยืนต้นสง่า งดงามจนเป็นที่รู้จักกล่าวขานไปทั่วประเทศถึงอายุที่ยืนยาว

         ด้าน นางอภิวันท์  ทองแท่น  เกษตรอำเภอควนกาหลง พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตรอำเภอควนกาหลง  บอกว่า  ทางเจ้าของสวน มีความตั้งใจจะอนุรักษ์ ดูแลทุเรียนพันธุ์ดังกล่าวเป็นอย่างดี เพื่อให้ลูกหลานและผู้คนที่หลงใหล  ในการลิ้มรสทุเรียนพันธุ์พื้นเมืองได้ชิม

         ทุเรียนบ้านโบราณพันธุ์ซุ้มหมู ความเป็นมา จากอดีต   จุดนี้เคยเป็นสถานที่อยู่ของหมูป่า และตกทอดจากรุ่นสู่รุ่น  ตั้งแต่พ.ศ.2349 ในสมัยรัชกาลที่.5  ราคาสูงกว่าทุเรียนบ้านทั่วไป  เนื่องจากมีความพิเศษ  ตรงที่เนื้อของทุเรียน แม้จะเป็นสีขาวนวล แต่เนื้อแน่นหนา ไม่ขม กลิ่นไม่ฉุนแรงเหมือนทุเรียนบ้านทั่วไป  และกรอบนอกนุ่มใน เม็ดเล็ก ลูกมีหลายขนาด ซึ่งเจ้าของต้องรอให้สุกหล่นจากต้นเท่านั้น  ถึงจะเก็บมากินหรือจำหน่ายได้  เนื่องจากต้นมีความสูงใหญ่มาก   ต้นทุเรียนบ้านโบราณ พันธุ์ซุ้มหมูนี้  ยังได้รับประกาศเกียรติบัตรการันตี จากอธิบดีกรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม  ให้เป็น  รุกขมรดกของแผ่นดินใต้ร่มพระบารมี เมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2561

…………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สตูล – เกษตรกรเมืองสตูลหันมาปลูกสับปะรดแซมยางพาราก้าวผ่านปัญหาราคายางพาราตกต่ำรับรายได้ 4 แสนบาทต่อปี

สตูลเกษตรกรเมืองสตูลหันมาปลูกสับปะรดแซมยางพารา ก้าวผ่านปัญหาราคายางพาราตกต่ำ  รับรายได้ 4 แสนบาทต่อปี

         จากสภาพปัญหาราคาผลผลิตยางพาราในปัจจุบันที่ตกต่ำผนวกกับปัจจัยการผลิตมีราคาสูง จึงได้ปรับเปลี่ยนจากพื้นที่ปลูกยางพาราเดิมเป็นแปลงสับปะรด โดยเริ่มจากการปลูกแซมภายในแปลงยางพาราที่อายุไม่เกิน 3 ปี ซึ่งการปลูกแซมในแปลงยางพารานั้น   ไม่ส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตของยางพาราแต่ตรงกันข้ามการปลูกสับปะรดในแปลงทำให้การเจริญเติบโตของต้นยางพาราดีขึ้น    เนื่องจากยางพาราได้รับธาตุอาหารจากปุ๋ยที่ใส่ให้กับสับปะรด เมื่อไหร่ที่ต้องปลูกยางพาราใหม่ก็จะใช้สับปะรดเป็นพืชแซมในสวนยาง เสริมด้วยไม้ผลบริเวณรอบแปลง  และแบ่งพื้นที่ไว้บางส่วนในการขุดสระเก็บน้ำไว้ใช้ในการเพาะปลูกในฤดูแล้ง และใช้วิธีการทางธรรมชาติโดยการเลี้ยงผึ้งโพรงเพื่อช่วยในการผสมเกสรเพิ่มโอกาสในการติดผล

          โดยนายอิสมาแอน ไชยมล บ้านเลขที่ 161 หมู่ที่ 6 ตำบลควนโพธิ์ อำเภอเมืองสตูล จังหวัดสตูลเป็นเกษตรกรที่ปลูกสับปะรดปลอดภัย ตามระบบการจัดการคุณภาพ การปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับพืช (Good Agriculture Practices : GAP)  สับปะรดในแปลงได้รับมาตรฐานการรับรองสินค้า Q ซึ่งบ่งบอกว่าเป็นสับปะรดที่มีมาตรฐาน คุณภาพ และความปลอดภัย   จำหน่ายในราคากิโลกรัมละ 15-20 บาทรายได้จากการจำหน่ายสับปะรด  400,000 บาท/ปี ส่วนใหญ่จะมีแม่ค้ามารับเองที่สวนและจำหน่ายในพื้นที่ ทำให้ไม่ได้รับผลกระทบเรื่องของตลาด   

           สำหรับเทคนิคการปลูกสับปะรดของนายอิสมาแอน ไชยมล คือ วางแผนบังคับให้ผลผลิตออกไม่พร้อมกันทีเดียวทั้งแปลง เพื่อป้องกันผลิตออกมามากจนเกินไปจนส่งผลกระทบต่อราคาผลผลิต   มีการจดบันทึกทำปฏิทินการผลิต  อีกทั้งยังมีการเปิดหน้าร้านเพื่อจำหน่ายผลผลิตเองที่หน้าสวนให้ผู้บริโภคโดยตรง สามารถกำหนดราคาสับปะรดเองได้    หลีกเลี่ยงการถูกกดราคารับซื้อผลผลิตจากพ่อค้าคนกลาง

             ด้วยแนวคิดดังกล่าวจึงได้ดำเนินการปรับเปลี่ยนการผลิตพืชเดิมจากยางพารามาเป็นสับปะรดด้วยสภาพพื้นที่ที่มีความเหมาะสม   เป็นพืชทนแล้งและผลผลิตมีราคาดี สามารถสร้างรายได้ให้กับตนเองและครอบครัวให้มีวิถีชีวิตและสภาพความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น อีกทั้งยังเป็นแบบอย่างและแนวทางให้แก่เกษตรกรผู้ที่สนใจจะปรับเปลี่ยนชนิดพืชในพื้นที่ได้นำไปปรับใช้ในแปลงของตนเองได้ สร้างรายได้ที่เพิ่มขึ้นให้แก่ชุมชนและเกษตรกรผู้ที่สนใจต่อไป

………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

  เกษตรกรสตูลนักประดิษฐ์ไอเดียเจ๋ง   เลี้ยงไส้เดือนคอนโดนตัวโตบนกระเบื้อง

เกษตรกรสตูลนักประดิษฐ์ไอเดียเจ๋ง   เลี้ยงไส้เดือนคอนโดตัวโตบนกระเบื้อง

       ที่จังหวัดสตูล  หมู่ที่ 4 ตำบลคลองขุด อำเภอเมือง เกษตรกรจังหวัดสตูลดีกรีอดีตคุณครูนักประดิษฐ์ชั้นนำของจังหวัด  และเคยประกวดสิ่งประดิษฐ์มากมาย (อาทิ เครื่องล้างรังนก เครื่องเก็บผลปาล์มร่วง) ที่ขึ้นชื่อผู้อยู่เบื้องหลังสิ่งประดิษฐ์มากมายระดับภาคและระดับประเทศ  มาวันนี้ได้หลังเกษียณราชการในตำแหน่งครูช่างไฟฟ้า  ได้หันหน้ามาเป็นเกษตรกรเต็มตัวเริ่มจากการทำสวนปาล์มน้ำมัน และฟาร์มไส้เดือนแบบคอนโดนโดยเลี้ยงบนกระเบื้อง  (เพื่อตอบโจทย์ผู้สูงวัยที่ไม่ต้องยกกะละมังขึ้นลงในการหาความชื้น)

       นายปิยะพงศ์ ชัยยะวิริยะ  เกษตรกร (อดีตคุณครู หรือที่รู้จัก โกหลาย)  บอกว่า  ก่อนหน้านี้ใช้กะละมังเลี้ยงไส้เดือน ดูแล้วนับวันจะปวดหลังเพราะต้องยกขึ้นลงเพื่อกำหนดความชื้นให้ไส้เดือน  เมื่อเปลี่ยนมาเป็นกระเบื้องและใช้ผ้าพรมปูในรถยนต์คลุมไส้เดือนป้องกันความชื้นได้เป็นอย่างดี  อีกทั้งได้ประดิษฐ์เครื่องร่อนมูลไส้เดือนที่ผลิตขึ้นเอง โดยใช้มอเตอร์ปัดน้ำฝนจากรถยนต์  มาเชื่อมกับตะแกรงเหล็กรูขนาดแยกไข่  แยกตัวและแยกมูลไส้เดือน  ลงทุนไปจำนวน 3,000 บาท (จากปกติเครื่องนี้มีมูลค่า 10,000 บาทลดไปได้ถึง 7,000 บาทเลยทีเดียว)

       เกษตรกร (อดีตคุณครู หรือที่รู้จัก โกหลาย)  บอกด้วยว่า การหันมาทำไส้เดือนคอนโด ทำให้สุขภาพดีขึ้น ไส้เดือนตัวโต ลงผลผลิตครั้งเดียวและรอเก็บเลยได้ครั้งละ 400 กก. เฉลี่ย 8,000 บาท  ส่วนใหญ่จะใส่ในสวนผลไม้ของตัวเองและขายบ้างข้างนอกบ้างในกิโลกรัมละ 20 บาท 

          ด้านนางสาวสุกัญญา  ยิ่งเจริญ  นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาการ  สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองสตูล  บอกว่า  ได้ช่วยกันคิดกันทำ และเห็นว่าแปลงนี้จะเป็นแปลงต้นแบบให้กับเกษตรกร ทั้งเลี้ยงไส้เดือนและปลูกไม้ผล นักเรียน นักศึกษา ยุวเกษตรสามารถมาเรียนรู้เพิ่มเติมได้

         นอกจากนี้ยังทำเครื่องซีนพลาสติกมาซีนถุงปุ๋ยมูลไส้เดือนขนาด 1 กก.2 กก.และ 5 กก.โดยเดือน ๆนึงได้มูลไส้เดือน 400 กก.ส่วนหนึ่งใส่ในสวนปาล์ม สวนผลไม้ของตัวเองและส่วนหนึ่งก็ทำขายที่บ้าน 20 บาท ส่งร้านค้าขาย 25 บาท  สำหรับคนที่สนใจ หรืออยากจะเข้าไปขอความรู้ ติดต่อได้ที่  โทร. 081 969 0399

………………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

  ฮือฮาพบพญาวัวตามตำราโบราณสายพันธุ์วัวชนที่สตูล  เซียนวัวเสนอครึ่งแสนกลับถูกปฏิเสธ

ฮือฮาพบพญาวัวตามตำราโบราณสายพันธุ์วัวชนที่สตูล  เซียนวัวเสนอครึ่งแสนกลับถูกปฏิเสธ

          วันที่ 18 ก.ค. 2566  กลายเป็นที่ฮือฮาของชาวบ้านทุ่งนางแก้ว   หมู่ที่ 5 ตำบลน้ำผุด  อำเภอละงู  จังหวัดสตูล  หลังพบว่าสองสามีภรรยาที่ประกอบอาชีพช่างตัดผม   และเป็นจิตอาสาของมูลนิธิกู้ภัยร่มไทร  จังหวัดสตูล  หลังเลี้ยงแม่พันธุ์วัวชนไว้  เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 14 กรกฎาคม 2566 ที่ผ่านมาในช่วงเวลา  21.00 นาฬิกา ได้คลอดลูกวัวเพศเมียตัวแรก   พบลักษณะแปลกประหลาดพบว่าตามตัวที่หัว  เท้าและที่หางด่าง   มีสีขาว สีดำ และสีแดง  เข้าตามตำราโบราณที่เชื่อว่าเป็น   พญาวัว  

       นายปิยะณัฐ   กาฬศรี   อายุ  33  ปี และนางสาวสุนิสา ขวัญแก้ว   อายุ 30 ปี สองสามีภรรยา อาศัยอยู่บ้านเลขที่ 543 ม.5 ต.น้ำผุด อ.ละงู จ.สตูล เจ้าของพญาวัวดังกล่าว  เล่าว่า  ส่วนตัวมองว่าลูกวัวตัวนี้แปลกมาก จนเพื่อนบ้าน และคนผ่านไปต่างฮือฮาสอบถามกูรูที่รู้เรื่องสายพันธุ์วัวในพื้นที่ ส่วนใหญ่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่านี่มัน   “พญาวัว”   เข้าตามตำราโบราณเลย   โดยลักษณะ   “พญาวัว” (7 ข้อคือ) 1.รูปใบโพธิ์สีขาวตรงศีรษะ 2.มีกำไลสีขาวในข้อเท้าทั้ง 4 ข้าง 3.มีลักษณะปากคาบแก้ว 4 .กีบเท้าทั้ง 4 ขาเป็นสีขาวด่าง  5. ดวงตาเป็นสีฟ้า 6.สะโพกทั้งสองข้างเป็นสีด่าง  7. หางดอกสีขาว 

 

          โดยกูรูเรื่องวัวต่างแนะนำให้ตนเลี้ยงเขาให้ดี อย่าขายกิน  เพราะจะส่งผลให้การทำมาค้าขายดี  ทำธุรกิจหรืองานใด ๆ จะมีแต่สิ่งดี ๆเฮงๆ  ซึ่งตนก็ไม่คิดจะขายไปอย่างแน่นอน  โดยตั้งชื่อว่า  “เจ้านำโชค”   เพราะสิ่งที่เปลี่ยนแปลงไปกับชีวิตครอบครัวภายใน 3 วันที่ผ่านมา   เรื่องราวในครอบครัวซึ่งตนเองเปิดร้านตัดผม และเป็นร้านในชนบท ห่างไกลตัวเมือง แต่กลับ ช่วง 2-3 วันนี้ ลูกค้ามาตัดผมคิวแน่น  อาจจะเป็นไปได้ว่า  เจ้านำโชค  ช่วยดลบันดาลให้ ลูกค้าเข้ามาก็เป็นได้ (ตามความเชื่อส่วนบุคคล )

        นายปิยะณัฐ  เจ้าของพญาวัว  บอกอีกว่า  พ่อพันธุ์ของ เจ้านำโชค  เป็นวัวชนตัวใหญ่  ตัวสีดำ  ส่วนแม่พันธุ์เป็นวัวชนลำตัวสีแดง   แต่!! เจ้านำโชค   เป็นเพศเมียสายพันธุ์วัวชนตัวนี้  เกิดมามีลายสีเข้าตามตำราโบราณ  ที่หน้าผากวัว  และจุดที่หางเป็นดอก  ส่วนที่กีบเท้าเป็นด่าง    ส่วนที่หนอกพาดผ้า  หน้าใบโพธิ์   ทุกอย่างมีลักษณะเข้าตามตำราโบราณ  หากใครสนใจจะมาดูตัว สอบถามเส้นได้  โทร 082 6621 777 และ  092 547 0164

         ขณะนี้ก็เริ่มมีเพื่อนบ้านมาเสนอราคาให้กับลูกวัวเกิดใหม่  เจ้านำโชค  สายพันธุ์วัวชนตามตำราแล้วโดยเสนอให้ 4 หมื่นบาทไปเลี้ยงเพื่อทำแม่พันธุ์  ซึ่งทางเจ้าของวัวยืนยันว่าไม่ขาย  

         นางสาวสุนิสา แฟนสาวหนุ่มเจ้าของ  (เจ้านำโชค)  บอกว่า เลขหวยงวดนี้ผ่านไปแล้ว ซื้อไม่ทัน และยังไม่ได้คิด ยังตะลึงในความแปลกลวดลายน้องวัวตัวนี้มี สีขาว สีดำ และสีแดงลวดลาย ตามตัวหน้าตา พร้อมกับงวดหน้าไม่พลาดแน่นอน ขอซื้อบ้านเลขที่ตนเอง คือร้านตัดผม เลข  543 ไปลุ้นในงวดต่อไป

…………………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

  สุดยอดเป็ดสตูล   เจ้าของเลี้ยงด้วยหมอนทอง และ มูซังคิงราชาทุเรียน

สุดยอดเป็ดสตูล   เจ้าของเลี้ยงด้วยหมอนทอง และ มูซังคิงราชาทุเรียน

        สวนผลไม้หลายพื้นที่ในภาคใต้  โดยเฉพาะจังหวัดสตูล  กำลังให้ผลผลิตโดยเฉพาะทุเรียนหมอนทอง  และมูซังคิง ราชาทุเรียนที่มีราคาสูงถึงกิโลกรัมละ 350 บาท  อย่างที่  “สวนลุงชัย”  ตำบลแป-ระ  อำเภอท่าแพ   จังหวัดสตูล   นับเป็นสวนคุณภาพระดับพรีเมี่ยม  ที่คัดสรรทุเรียนหมอนทองชั้นดีเท่านั้น   ที่จะส่งตรงให้กับลูกค้า   ส่วนผลทุเรียนลูกไหน  ที่ดูแล้วไม่สวย ถูกพายุพัดกิ่งหัก  เปอร์เซ็นต์แป้งไม่ถึง  ไม่ได้คุณภาพก็จะนำกลับบ้านไปให้ฝูงเป็ดกินเล่นซะงั้น 

         งานนี้หลายคนที่ทราบข่าว  ต่างพากันเสียดาย  เมื่อมีการปอกทุเรียนหมอนทอง  และมูซังคิง  ให้ฝูงเป็ดกินชนิดเป็นอาหารทานเล่น  กันอย่างสนุกสนาน   สร้างความเสียดายให้กับผู้พบเห็นไม่น้อย

         นายไพฑูรย์   ไชยรักษ์  เจ้าของสวนลุงชัย    บอกว่า   ทุเรียนที่นำมาให้เป็ด  เป็นทุเรียนภายในสวน  ที่ถูกพายุพัดตกบ้าง  อีกทั้งเป็นทุเรียนอ่อน   เปอร์เซ็นต์แป้งยังไม่ได้   จึงไม่สามารถนำไปจำหน่ายได้  และแทนที่จะทิ้งไปเฉยๆ ก็นำมาให้เป็ด  สัตว์เลี้ยงที่บ้านกิน   ปกติทางครอบครัวจะให้ข้าวเปลือกและรำข้าว  แต่ในช่วงนี้ทุเรียนให้ผลผลิต  น่าจะเป็นของชอบของเป็ด  ที่มีทุเรียนกิน  โดยเฉพาะเป็ดพันธุ์อี้เหลียง   ค่อนข้างจะชอบทุเรียนมากโดยเฉพาะทุเรียนหมอนทอง  เพราะเป็นเป็ดพันธุ์ใหญ่  ให้ไข่  มักชอบกินผลไม้และหอย

         ด้านคุณพ่อ  เจ้าของสวนบอกว่า    ปกติจะให้กินพันธุ์หมอนทองและมูซังคิง  เพราะเนื้อทุเรียนที่ตกเกรดมักจะเป็นน้ำ เอาไปทำอย่างอื่นไม่ได้   ต้องให้เป็ดกินอย่างเดียว  คนนอกที่มาเห็นก็มีแซวบ้าง  ว่าเป็ดบ้านนี้เลี้ยงโดยให้กินทุเรียนเลย

…………………………………..

อัพเดทล่าสุด
Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

คิดถึงสตูล! หิ้วของฝากอัตลักษณ์ผ้าลาย ดาวน์บูดิงฟอสซิลสตูล เค้กจากผลไม้ Gi จำปาดะ ส่งถึงคนคนพิเศษ

คิดถึงสตูล! หิ้วของฝากอัตลักษณ์ผ้าลาย ดาวน์บูดิงฟอสซิลสตูล เค้กจากผลไม้ Gi จำปาดะ ส่งถึงคนคนพิเศษ

           กลิ่นอายวัฒนธรรมที่ถูกถ่ายทอดผ่านลายบนผืนผ้า  โดยเฉพาะผ้าลายดาวน์บูดิงฟอสซิลสตูล   ลวดลายอัตลักษณ์ประจำจังหวัดสตูล   ที่ผ่านการตัดเย็บอย่างประณีต  เป็นเสน่ห์ ควรค่าเป็นของฝาก  ของขวัญ   อีกทั้ง ขนมหอมๆที่คัดสรร   วัตถุดิบพิเศษ   จากผลไม้อัตลักษณ์จังหวัดสตูล  อย่างจำปาดะ  กลายเป็นของฝากที่ถูกใจ  ทั้งผู้รับและผู้ให้

           เพื่อกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยว  การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย หรือ ททท. (สำนักงานสตูลนำเสนอสินค้าทางการท่องเที่ยวที่เป็นอัตลักษณ์ในพื้นที่  ฝีมือคนสตูล   เลือกเป็นของฝากให้คนที่คุณรัก  ภายใต้โครงการ  สตูลอีโค่หรอย (Satun ECO Roi)  ส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองรอง 

        ชมผ้าสวยๆกันแล้ว  หาขนม  หิ้วไปฝากทางบ้าน  อีกสัก 7-8 อย่าง   ว่าแล้ว  เราไปกันที่  ร้านเค้กจำปาดะ สโตย โดยเซน    กันเลย   มีขนมเค้ก  คุกกี้  หลากหลายรสชาติให้เลือก  ในส่วนของขนมเค้ก  ที่นี่จัดเป็นขนมที่ขึ้นชื่อของจังหวัดสตูล   ที่ใช้วัตถุดิบหลักสินค้า GI ประจำจังหวัดสตูล นั่นก็คือจำปาดะซึ่งฤดูกาลนี้  ห้วงเดือน  (กรกฎาคมสิงหาคม) เป็นฤดูกาลของจำปาดะจังหวัดสตูล   นักท่องเที่ยวสามารถแวะ ซื้อของฝาก   ไม่ว่าจะเป็น เค้ก หรือ ผลจำปาดะสดๆ  กันได้

          ทางด้าน ฐิตาภา ประทีปรัศมี (หรือคุณเซน)  บอกว่า  ทางร้านจะใช้จำปาดะพันธุ์พื้นเมือง  กลิ่นของจำปาดะจะไม่เหมือนที่อื่น  ทำให้ได้รสชาติเค้กที่ไม่เหมือนใคร   หาทานที่ไหนไม่ได้   โดยผลิตภัณฑ์ของทางร้าน จะมีหลากหลายให้เลือกอย่าง  เค้กจำปาดะ  เค้กหม้อแกงอินทผลัม  บราวนี่จำปาดะ   คุกกี้จำปาดะ  ปอเปี๊ยะจำปาดะ  และยังมีขนมอื่นๆให้เลือกอีกมากมาย

          ส่วนกาแฟที่ร้านนี้  ก็กลมกล่อมกำลังดีเลย    มีทั้งกาแฟจำปาดะ  โกปี้จำปาดะ  จำปาดะนมมะพร้าว  และยังมีเซต อินทผาลัมฉ่ำใจ  ให้เลือกดื่มอีกด้วย   สอบถามเพิ่มเติม โทร. 094-7969666 / 086-4783868

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สตูลเกษตรกรปลูกกาแฟคุณภาพแซมสวนมะพร้าว  ภายใต้แบรนด์เลบันเด้

สตูลเกษตรกรปลูกกาแฟคุณภาพแซมสวนมะพร้าว  ภายใต้แบรนด์เลบันเด้

      เกษตรกรหลายคนเริ่มมีการปรับตัว  ในการทำการเกษตรแบบผสมผสาน  เพื่อใช้พื้นที่ว่างเปล่าให้เกิดประโยชน์สูงสุด  เหมือนอย่างเช่นเกษตรกรรายนี้  ซึ่งได้รับการยกให้เป็นแปลงเรียนรู้ เกษตรกรปราดเปรื่อง smart farmer   ด้วยการนำพันธุ์กาแฟโรบัสต้ามาปลูกแบบคุณภาพ  ในสวนมะพร้าว ในพื้นที่ หมู่ที่ 1 ต.วังประจัน อ.ควนโดน จังหวัดสตูล ภายใต้แบรนด์ “เลบันเด้”  สวนสุขใจ กาแฟโรบัสต้าควนโดน  

         นายลาภวัต  เอี่ยมสะอาด  เกษตรกรsmart farmer   อายุ 57 ปี ลงปลูกมะพร้าวพื้นเมือง 120 ต้น กาแฟพันธุ์โรบัสต้าจำนวน  400 ต้น  บนพื้นที่ 3 ไร่ 2 งาน  โดยเล่าว่า  ทันทีที่ลงแปลงปลูกมะพร้าวในปีถัดมาก็ลงกาแฟพันธุ์โรบัสต้าทันที โดยมีแนวคิดว่าในเมื่อเราต้องใส่ปุ๋ย และดูสวนอยู่แล้ว  การปลูกพืชเสริมในสวนมะพร้าวน่าจะช่วยให้มีรายได้เสริมอีกช่องทางหนึ่ง  และก็ได้ผลจริง ๆ เพราะด้วยสภาพดินที่สมบูรณ์ และเน้นการปลูกแบบคุณภาพ  ทำให้กาแฟมีราคาสูงจากราคาท้องถิ่น 60-80 บาท  เป็น กก.ละ 200 บาท

          พืชที่นำมาปลูก   มีช่องทางระบายสินค้าไว้รองรับแล้ว  ทั้งมะพร้าวและเมล็ดกาแฟ   โดยตั้งเป้าเริ่มให้ผลผลิตในช่วง 6-7 ปี  แต่ด้วยสภาพดินสมบูรณ์ปีที่ 3-4 ทั้งกาแฟและมะพร้าวเริ่มให้ผลผลิตแล้ว   แม้ไม่มากแต่ก็เป็นที่พอใจของชาวสวน  และเชื่อว่าในปีถัดไปผลผลิตจะมีเพิ่มมากยิ่งขึ้น

          สำหรับเกษตรกรท่านใดที่สนใจ  จะไปศึกษาเรียนรู้แปลงนี้  สามารถติดต่อนายลาภวัต  เอี่ยมสะอาด ได้ที่หมายเลข   089 075 2039 หรือจะติดต่อผ่านทาง  เกษตรอำเภอควนโดน 074 195116

…………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

 ศรชล.สตูลยึดเรือลักลอบขน  ลูกหอยแครงนำเข้าต่างประเทศ 1,375 กิโลกรัม 

ศรชล.สตูลยึดเรือลักลอบขน  ลูกหอยแครงนำเข้าต่างประเทศ 1,375 กิโลกรัม

        วันที่ 14 กรกฎาคม 2566  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า  เมื่อกลางดึกที่ผ่านมา  หน่วยเฉพาะกิจพื้นที่ตอนใต้ จว.สตูล ศรชล.ภาค 3 (นก.พตต.ศรชล.ภาค 3) โดย น.อ.แสนย์ไท  บัวเนียม ผบ.นก.พตต.ศรชล.ภาค 3 พร้อมด้วย น.อ.รัฐพล  แก้วกระจาย หน.ศคท.จว.สต.ศรชล.ภาค 3  ได้บูรณาการกำลัง ประกอบด้วย ศรชล.จว.สต., ดำ, สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาสตูล และชุดปฏิบัติการพิเศษ นก.พตต.ศรชล.ภาค 3

         ได้นำเรือ ศรชล.2906 และเรือเจ้าท่า 188  ออกตรวจพื้นที่และเรือที่มีพฤติกรรมน่าสงสัยทางทะเลบริเวณ เกาะปูยู เกาะยาว และแนวเขตชายแดนทางทะเลไทย – มาเลเซีย   พบเรือหางยาวทำด้วยไม้เครื่องติดท้าย จอดลอยลำอยู่ จำนวน 2 ลำ อยู่  บริเวณระหว่างเกาะยาวและเกาะกุรับ ซึ่งอยู่ในเขตน่านน้ำภายในราชอาณาจักรไทย  ซึ่งมีพฤติกรรมที่น่าสงสัย จึงได้เข้าไปตรวจสอบและแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่

        ขอตรวจค้นเรือทั้ง 2 ลำ โดยให้เจ้าของเรือทั้ง  2 ลำ เป็นผู้นำการตรวจค้นพร้อมกับสอบถามเจ้าของเรือทราบว่า       เรือกำลังทำการพ่วงจูง เนื่องจากเรือเสีย ผลการตรวจค้นเรือลำที่เสียซึ่งมีสินค้าอยู่ในระวางเรือ พบว่าเป็นลูกพันธุ์หอยแครง ตรวจนับได้จำนวน 55 กระสอบ น้ำหนักกระสอบละ ๆ 25 กิโลกรัม รวม 1,375 กิโลกรัม  มูลค่าประมาณ 400,000 บาท  พร้อมลูกเรือคนไทย 2 คน ไม่มีเอกสารประจำเรือและเอกสารแสดงสินค้า

        แจ้งข้อกล่าวหากับเรือที่ขนลูกพันธุ์หอยแครงว่ามีความผิดจะต้องถูกควบคุม/จับกุมตามกฎหมาย ในข้อหา   ห้ามมิให้ผู้ใดนำเข้าสัตว์น้ำหรือผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำ เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่    ห้ามมิให้ผู้ใดนำเข้า ส่งออก นำผ่าน เพาะเลี้ยง หรือมีไว้ในครอบครองซึ่งสัตว์น้ำ  เว้นแต่จะได้รับใบอนุญาตจากอธิบดีหรือผู้ซึ่งอธิบดีมอบหมาย ประกอบประกาศกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เรื่อง กำหนดชนิดสัตว์น้ำที่ห้ามนำเข้า ส่งออก หรือนำผ่านราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๖๔ บทกำหนดโทษ มาตรา ๑๔๔

     และ “ผู้ใดนำเข้ามาในหรือส่งออกไปนอกอาณาจักร ซึ่งของยังไม่ผ่านพิธีศุลกากร ตาม ม.๒๔๒ (ม.๒๔๖)    และพ.ร.บ. การเดินเรือในน่านน้ำไทย พ.ศ.๒๔๕๖ มาตรา ๒๘๒

       เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมผู้ต้องหาและตรวจยึดเรือพร้อมของกลาง  นำมาจอดที่ท่าเทียบเรือสถานีตำรวจน้ำสตูล และได้ทำการสอบสวนเบื้องต้น ทราบว่าผู้ถูกควบคุมตัว จำนวน 2 คน ชื่อ นายสุชาติ  (ขอสงวนนามสกุล) เป็น ผู้ควบคุมเรือ และนายสมภพ  (ขอสงวนนามสกุล) เป็นลูกเรือ   ได้นำเรือไปรับลูกพันธุ์หอยแครงจากฝั่งมาเลเซีย ซึ่งได้รับว่าจ้างจากโกแดง (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ภูมิลำเนาอยู่จังหวัดเพชรบุรี  ซึ่งเป็นคนไทยที่อยู่ฝั่งมาเลเซีย ได้ค่าจ้างเที่ยวละ 1,000 บาท พอรับสินค้าเรียบร้อยจึงได้นำเรือวิ่งกลับเข้ามาในน่านน้ำไทยเพื่อนำของไปส่งบริเวณตำมะลัง ท่าแพบังแอล

        จนกระทั่งเวลาประมาณเวลา 20.00  น. เรือเกิดขัดข้องไม่สามารถเดินทางต่อไปได้  จึงได้โทรหา น้าชายให้ช่วยเอาเรือมาลากเรือของตนเข้าฝั่งบริเวณตำมะลัง ท่าแพบังแอล เรือของ นายนาราเฮม ฯ ก็มาถึงพร้อมกับลูกเรือจำนวน 3 คน ได้ช่วยกันทำการพ่วงเรือ แต่ในขณะกำลังจะลากจูงได้มีเรือซึ่งแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ ศรชล.จว.สตูล เข้ามาเทียบและขอทำการตรวจค้นจนพบลูกพันธุ์หอยแครง  เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการจับกุมพร้อมกับตรวจยึดเรือและลูกพันธุ์หอยแครงดังกล่าว

        จึงได้นำผู้ต้องหาทั้ง 2 คน พร้อมบันทึกการจับกุมส่งมอบให้กับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองสตูล    เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ทั้งนี้ได้ดำเนินการตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้สูญหาย     พ.ศ.2565 การปฏิบัติเป็นไปด้วยความเรียบร้อย

………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สุดฟินที่สตูล..เปิดประสบการณ์ใหม่ดริปกาแฟ-ชมสวนจำปาดะ  หลังฤดูกาลเริ่มแล้วเกษตรกรรายได้ปัง 3 เดือนสูง 8 แสนบาท

สุดฟินที่สตูล..เปิดประสบการณ์ใหม่ดริปกาแฟ-ชมสวนจำปาดะ  หลังฤดูกาลเริ่มแล้วเกษตรกรรายได้ปัง 3 เดือนสูง 8 แสนบาท

อัพเดทล่าสุด

หอมหวานชวนลอง  เนื้อเหลืองทองยวงใหญ่  ผลไม้ปลอดภัย จำปาดะสตูล  จำปาดะเป็นผลไม้พื้นถิ่น  ที่ได้รับการรับรองว่าเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์  เริ่มทยอยให้ผลผลิตแล้ว  ตั้งแต่เดือน ก.ค. ถึงและก.ย. (โดยตลอด 3 เดือน) นี้ถือเป็นช่วงที่หลายคน  ที่ชื่นชอบผลไม้ชนิดนี้ตั้งตารอ 

 

โดยวันนี้ที่  “สวนตาเดอิน”  หมู่ที่ 4 บ้านควนโต๊ะเหลง  ต.ควนโดน   อ.ควนโดน   จ.สตูล   นางวรรณนภา คงเคว็จ  เกษตรอำเภอควนโดน  นำทีม  ลงพื้นที่ส่งเสริม  และประชาสัมพันธ์การผลิตและแปรรูปจำปาดะ  ให้เป็นที่รู้จักแพร่หลาย  และให้สมกับการรอคอย สำหรับคนที่ชื่นชอบผลไม้ชนิดนี้ 

 

ซึ่งเป็นสวนของ นายรอเสด  ตาเดอิน   เกษตรกรที่ปลูกไม้ผลจำปาดะ  มานานร่วม 21 ปี  บนพื้นที่ 5 ไร่ 7 สายพันธุ์   โดยเฉพาะ  พันธุ์ขวัญสตูล  ที่มีการปลูกมากถึงครึ่งหนึ่งของสวน จากทั้งหมด  80  ต้น และพันธุ์พื้นเมืองอาทิ  พันธุ์วังทอง   พันธุ์พญาวัง  พันธุ์น้ำดอกไม้  ทยอยออกผลผลิตให้ลูกค้า  โดยเสนอขายหน้าสวนกิโลกรัมละ 80 บาท สนใจติดต่อสอบถาม 094  978  4941

พร้อมกับชวนเปิดประสบการณ์ใหม่  สำหรับคนที่ชื่นชอบการดริปกาแฟ   สามารถดริปกาแฟ  ขึ้นชื่อของจังหวัดสตูลพันธุ์โรบัสต้า   ไปพร้อมกับชมสวนจำปาดะ   และชิมจำปาดะทั้งแบบสด  และแบบทอดเหลืองกรอบ  ที่อร่อยแตกต่าง  ให้ชิมกันได้ภายในสวน  โดยนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบ  สามารถติดต่อสอบถาม  ได้ทางเกษตรอำเภอควนโดน  074 -195116 

 

  ขณะนี้ หลายพื้นที่ในอำเภอควนโดน  มีการขยายพื้นที่ในการปลูกจำปาดะเพิ่มขึ้น  โดยเฉพาะพันธุ์ขวัญสตูล  หลังสามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรอย่างเป็นกอบเป็นกำ  โดยเฉพาะสวนตาเดอินนี้  พบว่าในหนึ่งต้นสามารถให้ผลผลิตมากถึง 50 ลูก  ลูกละ 4-5 กก.  ขายในราคา  กก. 80 บาท โดยมีพันธุ์ขวัญสตูล 40 ต้น  สร้างรายได้ตลอด 3 เดือนนี้ 8 แสนบาทแล้ว

ด้านนางสาวจุฑามาศ  ใจสมุทร  นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฏิบัติการ  สนง.เกษตรอำเภอควนโดน บอกว่า  สวนจำปาดะตาเดอิน  เป็นสวนที่ได้รับส่งเสริมให้มีการปลูกแบบผสมผสาน  การจัดการแมลงวันผลไม้ และการจัดการหนอนด้วงเจาะลำต้น 

 

  สำนักงานเกษตรจังหวัดสตูล  เก็บข้อมูลพบว่า   มีการปลูกจำปาดะในพื้นที่สตูล  1,855 ไร่  โดยแต่ละปีให้ผลผลิต 1,550 ตัน และพบว่าตลาดยังมีความต้องการจำปาดะ  ผลไม้พื้นถิ่นอีกมาก  ทำให้ต้องมีการส่งเสริมการปลูกจำปาดะคุณภาพให้มากขึ้น

………………………….

Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สตูล-“สวนลุงชัย”ต้นแบบปลูกทุเรียน (หมอนทอง มูซังคิงราชาในต่างแดน)-ฟาร์มไส้เดือน ควบคู่ 

สตูล“สวนลุงชัย”ต้นแบบปลูกทุเรียน (หมอนทอง มูซังคิงราชาในต่างแดน)-ฟาร์มไส้เดือน ควบคู่ 

        ที่สวนลุงชัย  บนพื้นที่ 23 ไร่ ม.7 บ้านสวนไทย ต.แป-ระ อ.ท่าแพ จ.สตูล (หัวผัง 36)  จัดเป็นอีกหนึ่งสวนคุณภาพที่มีการปลูกทุเรียนพันธุ์หมอนทอง  และพันธุ์มูซังคิง (ซึ่งเป็นราชาทุเรียนโดดเด่นในประเทศมาเลเซีย)  เป็นไม้ผลที่ได้รับความนิยมมาอย่างยาวนาน  และเพื่อให้ได้ผลผลิตดีมีคุณภาพตามที่ตลาดต้องการ  ทำให้เกษตรกรต้องศึกษา   ดูแลอย่างประณีตตั้งแต่การเตรียมดิน การใส่ปุ๋ย  และใส่ใจทุกขั้นตอน  ตั้งแต่การตัดแต่งกิ่ง  รวมไปถึงศัตรูพืช และสภาพดินฟ้าอากาศ 

        ทุกขั้นตอนเกษตรกรต้องมีฐานข้อมูล ชุดความรู้  ซึ่งสามารถศึกษาได้ทางสื่อออนไลน์  ด้านนายไพฑูรย์  ไชยรักษ์  อายุ  39 ปี อดีตผู้จัดการบริษัทไอทีในปีนัง ประเทศมาเลเซีย ที่เพิ่งลาออกจากงานประจำมาได้เพียง 6 เดือน  ยอมรับว่า  ตลอดหลายปีที่ผ่านมา  เริ่มศึกษาหาข้อมูล   การทำสวนทุเรียนอย่างต่อเนื่อง  โดยมีคุณพ่อ  ซึ่งอยู่ที่  จ.สตูล  คอยดูแลจัดการสวนให้ตลอด 7 ปี  ของการทำสวนทุเรียน  แต่มาวันนี้สุขภาพคุณพ่อไม่แข็งแรงทำให้ตัดสินใจลาออก   กลับมาเป็นเกษตรกรอย่างเต็มตัว

        หลังตัดสินใจทำสวนทุเรียนเมื่อ 7 ปีที่ผ่านมา   ก็พยายามศึกษาหาความรู้  เพื่อหาปุ๋ยที่มีคุณภาพ และเพื่อลดต้นทุนภายในสวน   จึงเปิดฟาร์มเลี้ยงไส้เดือนควบคู่ไปด้วย  โดยเริ่มจากการเลี้ยงไส้เดือน 2 กะละมัง มาปัจจุบันมี 400 กะละมังแล้ว   ได้ปุ๋ยจากมูลไส้เดือน เดือนละ 1000 กก.  ไว้ใส่ภายในสวนของตัวเอง   เพื่อช่วยลดค่าความเป็นกรด  เป็นด่าง  ช่วยให้การดูดซึมธาตุอาหาร  ไปเลี้ยงต้นทุเรียนได้เป็นอย่างดี  อีกทั้ง ช่วยลดต้นทุนภายในสวนได้มาก   และเหลือจากใส่ภายในสวนแล้ว  ก็จำหน่ายกิโลกรัมละ 25 บาท มีลูกค้าบ่อกุ้ง และชาวบ้านทั่วไปเข้ามาดูงานอย่างต่อเนื่อง

          ด้าน  นายไพฑูรย์  ไชยรักษ์ เกษตรกรสวนลุงชัย  บอกว่า แม้จะเรียนทางด้านไอทีมา แต่สามารถนำมาค้นหาข้อมูล  ความรู้ด้านการทำเกษตรได้อย่างแม่นยำ  บวกกับครอบครัวทำเกษตรมาก่อน  และเห็นว่าการทำสวนไม้ผล  สิ่งที่จำเป็นคือการเรียนรู้เรื่องปุ๋ย   จะช่วยลดต้นทุน  และได้ผลผลิตที่มีคุณภาพตามที่ต้องการ 

อัพเดทล่าสุด

          นายสุรัฐ   สุวรรณกิจ  นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ  สนง.เกษตรอำเภอท่าแพ  กล่าวว่า     ทางเกษตรอำเภอท่าแพ  เห็นความพร้อม  ในการจัดการสวนอย่างดีของสวนลุงชัย  ได้เข้ามาช่วยชี้แนะเรื่องศัตรูพืช และช่วยผลักดัน   ให้เป็นศูนย์เรียนรู้   ให้กับเกษตรกรผู้สนใจในการปลูกทุเรียน  ควบคู่ไปกับการเลี้ยงไส้เดือนในการลดต้นทุน   ซึ่งจะเป็นแบบอย่างให้เกษตรกรได้เป็นอย่างดี

         สำหรับสวนทุเรียนลุงชัย  ในปีที่ผ่านมาสวน  สามารถให้ผลผลิตสูงถึง 15 ตัน โดยทุเรียนพันธุ์หมอนทอง  ขายปลีกกิโลกรัมละ 120 บาทและส่ง 100 บาท  ส่วนทุเรียนพันธุ์มูซังคิง  ขายปลีกกิโลกรัมละ 350 บาท  สนใจติดต่อสอบถาม 081 685 1322 หรือ 080 869 3042

……………………………………