Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สตูล-เกษตรกรสูงวัยสุขใจ  ปลูกส้มโอในภาชนะผลใหญ่ดกโตเร็วแม้ในพื้นที่น้ำท่วมขัง   

สตูล-เกษตรกรสูงวัยสุขใจ  ปลูกส้มโอในภาชนะผลใหญ่ดกโตเร็วแม้ในพื้นที่น้ำท่วมขัง   

         ที่สวนของคุณลุงไพฑูรย์   ตวงสิน  อายุ 77  ปี  ชาวบ้านหมู่ที่ 2  ตำบลคลองขุด  อำเภอเมือง  จังหวัดสตูล  ขณะนี้ผลส้มโอ “พันธุ์ทับทิมสยาม”  อายุเพียง 2 ปี และ 3 ปี  กำลังให้ผลผลิตดกอย่างสวยงามแม้จะอยู่ในพื้นที่น้ำท่วมขัง   แต่ส้มโอทั้ง 70 ต้น  ก็ยังให้ผลผลิตอย่างสวยงาม  ในอีกไม่กี่เดือนก็พร้อมจะเก็บเกี่ยวผลผลิตมารับประทานได้แล้ว 

 

          เช่นเดียวกับพืชชนิดอื่น  ที่คุณลุงไพฑูรย์นำมาปลูกให้ผลผลิตที่สวยงามสมบูรณ์ให้ดอกออกผล  เช่น  ต้นสับปะรด  ต้นพริกไท   มะเขือ  มะนาว โดยเฉพาะต้นส้มโอพันธุ์ทับทิมสยามที่ให้ผลผลิตเร็วมาก  โดยเคล็ดไม่ลับที่คุณลุงได้บอก  คือการใช้ล้อยางรถยนต์เก่าที่ไม่ใช้แล้วมาเป็นฐานรองต้น   ช่วยควบคุมการเติบโต และซึมซับน้ำได้ตลอดเวลา  ล้อยางเสมือนแก้มลิง  ทำให้ไม้ผลไม่ขาดน้ำ   หรือได้รับน้ำไม่เยอะจนเกินไป  ซึ่งโดยธรรมชาติแล้วส้มโอไม่ชอบพื้นที่น้ำท่วม   เช่นเดียวกับที่นอนเก่า ๆ ที่มีผ้าช่วยซับน้ำได้ดีเหมาะกับการนำมาช่วยในการปลูกพริกไทและพืชหลายชนิด   

 

          นี่เป็นสิ่งดีของขยะเหลือใช้    ที่คุณลุงนำมาผสมผสานกับการทำเกษตรได้อย่างลงตัว   ซึ่งจะเห็นได้ว่ารอบบริเวณสวนพื้นที่ 4 ไร่ของคุณลุงไพฑูรย์  ก็จะมีแต่ล้อยางรถยนต์คันเก่ามากถึง 3000  ล้อ   ที่นำมาใช้ในการปลูกไม้ผลได้ผลผลิตอย่างดี รวมถึงนำไปทำเป็นกระชังเลี้ยงปลา  ให้อยู่อาศัย และนำมาทำเป็นถังขยะทำปุ๋ยอินทรีย์ในครัวเรือนอีกด้วย 

 

           คุณลุงไพฑูรย์   ตวงสิน  เกษตรกรตัวอย่างวันนี้บอกว่า   มีความสุขที่ได้ทำ  ช่วยลดขยะในชุมชน และเหมาะกับผู้สูงวัยอย่างตนเพราะพืชให้ผลผลิตโตเร็ว เพราะตรรกะคือการปลูกในภาชนะจะทำให้พืชโตเร็ว  ล้อยางรถยนต์ยังเป็นเสมือนแก้มลิง ไม่อยู่บ้านหลายวันต้นไม้ก็ไม่ตาย  ใช้ปลูกได้ดีในพื้นที่ชุ่มน้ำหรือน้ำท่วมขัง  วันนี้คุณลุงได้ยกระดับ “รสาบ้านสวน”  เป็นศูนย์เรียนรู้การจัดการขยะและสิ่งแวดล้อม  มีผู้คนและหน่วยงานมาศึกษาเรียนรู้ปีละไม่น้อยกว่า 1 พันคน ภายใต้แนวคิดคือ  จัดการขยะอย่างลงตัวนำพาครอบครัวสู่เศรษฐกิจพอเพียงสิ่งแวดล้อมยั่งยืน   สนใจติดต่อสอบถาม  โทร.095-478-7756  

 

        นายเฉลิมพร ศรีสวัสดิ์ เกษตรอำเภอเมืองสตูล พร้อม นางสาวปฏิมา ลิมานัน นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร และ นางสาวนิลุบล เชื้อศรีชัย นักวิชาการส่งเสริมการเกษตร ลงเยี่ยมเยียนและติดตามผลหลังลงมาให้คำชี้แนะในเรื่องการกำจัดศัตรูพืช และการจัดการสวน 

 

          โดยนายเฉลิมพร ศรีสวัสดิ์ เกษตรอำเภอเมืองสตูล  กล่าวว่า   ที่ศูนย์เรียนรู้แห่งนี้เป็นศูนย์เรียนรู้ของการจัดการขยะและวัสดุเหลือใช้ในการเกษตร  สามารถมาปรับใช้ในพื้นที่มีน้ำท่วมขัง   พืชสวนครัวและไม้ผล เน้นเพื่อบริโภคในครัวเรือนเป็นหลัก  และเป็นแหล่งเรียนรู้ให้กับเกษตรกรใกล้ไกลในพื้นที่  ในส่วนของสำนักงานเกษตรและหลายหน่วยงานได้ใช้พื้นที่แห่งนี้เป็นศูนย์เรียนรู้  ในการถ่ายทอดความรู้ให้กับเกษตรกรผู้สนใจ  เกษตรอำเภอเมืองก็มาให้คำแนะนำในเรื่องของการจัดการสวน กันป้องกันกำจัดแมลงและก็ศัตรูพืช โดยจัดหาวัสดุในการทำน้ำยากำจัดศัตรูพืช  ที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานสรรพสามิต

 

       สำหรับที่  รสาบ้านสวน   ของคุณลุงไพฑูรย์  ตวงสิน   ยังบอกด้วยว่า ผลผลิตที่ออกมาทั้งหมดไม่ได้วางขายที่ไหน ส่วนใหญ่เน้นแจก และแบ่งปันความรู้เป็นวิทยาฐานที่คุณลุงทำแล้วสบายใจไม่ได้เน้นธุรกิจ

……………………………………..

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

สตูล – หนุ่มใหญ่ดวงซวย ถูกต้นปาล์มล้มทับทั้งร่างดับ ขณะใส่ปุ๋ย เกนคนนับ 10 ช่วยยกออก

สตูล – หนุ่มใหญ่ดวงซวย ถูกต้นปาล์มล้มทับทั้งร่างดับ ขณะใส่ปุ๋ย เกนคนนับ 10 ช่วยยกออก

         วันที่ 27 พ.ย.2566  ช่วงบ่ายที่ผ่านมา  เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.มะนัง   นำโดย  พ.ต.ต.ศักดิ์ชัย    หวังโส๊ะ    ร.ต.อ.วีรวัฒน์   โนรดี  ร.ต.อ.วีรวัฒน์   โนรดี  ร.ต.อ.วิทิน คงพันธ์ทะระ  พร้อม ร้อยเวร สภ.มะนัง    ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตภายในสวนปาล์มน้ำมัน    ผัง 45 ต.นิคนพัฒนา  อ.มะนัง  จ.สตูล   จึงเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมชุดกู้ชีพ อบต.นิคมพัฒนา  พบนายณรงค์ชัย  หมีนพราน  อายุ 47 ปี  ชาวบ้าน  หมู่ 5 ต.ท่าเรือ  อ.ท่าแพ  จ.สตูล   

 

        สภาพผู้เสียชีวิตที่เกิดเหตุ   นอนคว่ำหน้าบนกระสอบปุ๋ย   มีต้นปาล์มทับทั้งตัว  ตั้งแต่ศีรษะจรดเท้า  มีเลือดออกบริเวณศีรษะ  หู จมูก  ปาก  นิ้วมือ  นิ้วเท้า มีสีเขียวช้ำ ขาด้านขวาผิดรูป  อยู่ในสภาพไม่รู้สึกตัว   จึงเกนคนนับ 10  คน ช่วยยกต้นปาล์มออกจากร่าง    ก่อนเจ้าหน้าที่ชุดกู้ภัย  ได้ช่วยกันทำ CPR เพื่อช่วยเหลือเบื้องต้นแต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้     จากนั้นได้นำส่งโรงพยาบาลเพื่อพิสูจน์สาเหตุที่แท้จริงของการเสียชีวิต

 

         ด้านพ่อผู้ตาย ให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า  ลูกชายของตนพร้อมญาติอีก 2 คน  เป็นชาวท่าแพ เข้าไปใส่ปุ๋ยในสวนปาล์ม  ซึ่งตนมาซื้อที่ดินแถวนี้ไว้   โดยขณะใส่ปุ๋ยอยู่นั้น  ญาติ 2 คน  แยกไปใส่ปุ๋ยอีกจุด 1 ซึ่งอยู่ห่างกันมาก  และในช่วงนั้นสภาพอากาศภายในสวนปาล์ม  มีลมกรรโชคแรง  ประกอบกับก่อนหน้านี้ได้หยอดยาเพื่อทำลายต้นปาล์มแก่ที่หมดอายุให้ล้มตายเอง  ภายในสวนปาล์มไปพร้อมกับใส่ปุ๋ยปาล์มที่ปลูกใหม่    ซึ่งไม่คาดคิดว่าต้นปาล์มแก่ดังกล่าวจะล้มทับลูกชายของตนที่ขณะกำลังใส่ปุ๋ยใกล้กับรถยนต์ 

 

        เบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจ  สันนิฐานว่า  เกิดจากอุบัติเหตุไม่ใช่การฆาตรกรรม  ซึ่งทางญาติก็ไม่ติดใจ นำร่างไปบำเพ็ญกุศลตามหลักศาสนาต่อไป

………………………………    

 

Categories
ข่าวทั่วไป

สตูล-รณรงค์  1 กระทง 1 ครอบครัวรักษ์สายน้ำ  แต่งชุดไทยชุดท้องถิ่น  สร้างภาพลักษณ์ต่อชาวต่างชาติ อนุรักษ์มรดกภูมิปัญญาประเพณีลอยกระทงไทย

สตูล – รณรงค์  1 กระทง 1 ครอบครัวรักษ์สายน้ำ  แต่งชุดไทยชุดท้องถิ่น  สร้างภาพลักษณ์ต่อชาวต่างชาติ อนุรักษ์มรดกภูมิปัญญาประเพณีลอยกระทงไทย

         งานประเพณีลอยกระทงปีนี้  ทางสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัดสตูล  นำโดยนางขนิษฐา คำจันทร์แก้ว   วัฒนธรรมจังหวัดสตูล  จัดทำสื่อประชาสัมพันธ์รณรงค์เชิญชวน 1 ครอบครัว 1 กระทงร่วมสืบสานประเพณีลอยกระทงเพื่อลดขยะในแม่น้ำลำคลอง และรณรงค์ให้ใส่ชุดไทยร่วมสืบสานประเพณีที่ดีงาม

         ซึ่งปีนี้กรมส่งเสริมวัฒนธรรม ได้กำหนดแนวทางสืบสานคุณค่าทางวัฒนธรรมในงานประเพณีลอยกระทงประจำปี 2566  ไปใต้ชื่อ   “ลอยกระทงสายน้ำแห่งวัฒนธรรม”   เพื่อสืบสานคุณค่าทางวัฒนธรรมประเพณีลอยกระทงไปพร้อมส่งเสริมกิจกรรมที่สร้างสรรค์โดยใช้ทุนทางวัฒนธรรมที่มีอยู่ในชุมชน โดยเน้นเรื่องคุณค่าและสาระของวัฒนธรรมประเพณีการท่องเที่ยวและสุขภาพ และความเชื่อทางวัฒนธรรมในประเพณีลอยกระทงร่วมกันสืบสาน

         พร้อมรณรงค์สร้างอัตลักษณ์ความเป็นไทยเช่นการแต่งกายด้วยชุดสุภาพผ้าไทยผ้าท้องถิ่นหรือชุดไทยที่เป็นอัตลักษณ์แต่ละท้องถิ่นเพื่อสร้างภาพลักษณ์การรับรู้ต่อชาวต่างชาติ   อีกทั้งเป็นการสร้างความตระหนักรู้ต่อประชาชนชาวไทยในฐานะเป็นมรดกภูมิปัญญาทางวัฒนธรรมของชาติ  รวมถึงการสร้างความภาคภูมิใจและหวงแหนในประเพณีลอยกระทง 

Categories
ข่าวทั่วไป

สตูล – กอ.รมน.ภาค 4 จัดกิจกรรมพบปะเสวนาสื่อมวลชนจังหวัดสตูล  จัดตั้งครอบครัวข่าว กอ.รมน.ภาค 4 จังหวัดสตูล สานสัมพันธ์สื่อมวลชนและช่วยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข่าวสารกิจกรรมของกองทัพ

สตูล – กอ.รมน.ภาค 4 จัดกิจกรรมพบปะเสวนาสื่อมวลชนจังหวัดสตูล  จัดตั้งครอบครัวข่าว กอ.รมน.ภาค 4 จังหวัดสตูล สานสัมพันธ์สื่อมวลชนและช่วยเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข่าวสารกิจกรรมของกองทัพ

วันที่   24 พฤศจิกายน 2566  เวลา 13.30 น. ณ โรงแรมเดอะวัน บูติค โฮเทล อ.เมืองสตูล จ.สตูล สื่อมวลชนในพื้นที่จังหวัดสตูล   จำนวน 32 ท่าน นำโดย นายจรัส บำรุงเสนา ประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล  ,นายปณต วิศาลกิจ ผู้ช่วยประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล พร้อมด้วย หน่วยงาน กอ.รมน.จว.ส.ต.,หน่วย ร.5  พัน.2   เข้าร่วมประชุมกับ กองอำนวยการรักษาความมั่นภายในภาค 4 เพื่อจัดตั้งครอบครัวข่าว โดยมี พันเอก ภัทรชัย แทนขำ  ผู้อำนวยการกองกิจการมวลชนและสารนิเทศ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นผู้แทน ในการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เริ่มกล่าวต้อนรับโดย นายจรัส บำรุงเสนา  ประชาสัมพันธ์จังหวัดสตูล

            สำหรับวัตถุประสงค์การจัดกิจกรรมเพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับสื่อมวลชนในพื้นที่ และแลกเปลี่ยนข่าวสารในการประชาสัมพันธ์ภารกิจของกองทัพให้เกิดการสร้างการรับรู้อย่างแพร่หลาย    ในกิจกรรมได้มีการแลกเปลี่ยนความรู้และข้อเสนอแนะของการที่ “สื่อสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารของหน่วยทหารได้อย่างไร “และ “สื่อจะทำงานกับหน่วยทหารในการเข้าไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนได้อย่างไร” ทั้งนี้ สื่อมีความยินดีที่จะให้ความร่วมมือในการเผยแพร่กิจกรรมของกองทัพ รวมถึงข่าวสารที่เป็นผลงานของกองทัพในช่องทางที่สื่อมวลชนมีอยู่ เพื่อสร้างการรับรู้ให้กับพี่น้องประชาชน

.

พันเอกภัทรชัย แทนขำ กล่าวว่า”การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ จังหวัดสงขลาเป็นจังหวัดที่ 4 ต่อจากจังหวัดสุราษฎร์ธานี ชุมพร และ สงขลา ซึ่ง กอ.รมน.ภาค 4 จะเป็นโซ่ข้อกลาง เพื่อเชื่อมต่อสื่อมวลชนทั้ง 14 จังหวัด ในการส่งต่อข่าวสารให้กับพี่น้องประชาชน ในนามสื่อพลเมืองอาสา และจะมีการจัดตั้งคณะกรรมการสื่อมวลชน กอ.รมน.ภาค 4 เพื่อกำหนดแนวทางให้สื่อนำเสนอข่าวไปในทิศทางเดียวกัน เป็นสื่อสร้างสรรค์ในเชิงบวก เพื่อรักษาความมั่นคงภายใน และการเข้าถึงพี่ประชาชนโดยมีสื่อเป็นแกนกลางโดยศูนย์ประชาสัมพันธ์ของหน่วยทหารทุกหน่วยกับสื่อในพื้นที่จะทำงานร่วมกัน   ซึ่งทหารจะทำหน้าที่ผลิตสื่อทั้งเรื่องของการช่วยเหลือประชาชน เรื่องภารกิจการรักษาความมั่นคงให้กับสื่อมวลชน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติ และพี่น้องประชาชน”

Categories
ข่าวทั่วไป

รองผู้ว่าฯ สตูล นำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. ออกให้บริการแก่ประชาชนในพื้นที่ทุรกันดารห่างไกลคมนาคม ณ โรงเรียนเพียงหลวง อำเภอละงู

สตูล-รองผู้ว่าฯ สตูล นำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. จังหวัดสตูล ออกให้บริการแก่ประชาชนในพื้นที่ทุรกันดารห่างไกลคมนาคม ณ โรงเรียนเพียงหลวง อำเภอละงู

        วันที่ 23 พ.ย. 66 ที่โรงเรียนเพียงหลวง หมู่ที่ 5 บ้านสุไหงมูโซ๊ะ ตำบลแหลมสน อำเภอละงู จังหวัดสตูล นายชูชีพ ธรรมเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล เป็นประธานในพิธีเปิดกิจกรรมหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว. จังหวัดสตูล ออกให้บริการแก่ประชาชนในพื้นที่ทุรกันดารอำเภอละงู โดยมีนางนงคราญ ธรรมเพชร รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสตูล พร้อมด้วยนายภาษิต พิศาลสุทธิกุล รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสตูล นายอำเภอละงู หัวหน้าส่วนราชการ คณะกรรมการเหล่ากาชาดและสมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดสตูล พมจ. อสม. ผู้นำท้องที่ท้องถิ่น รวมถึงคณะแพทย์ พยาบาล เจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสตูล ตลอดจนประชาชนในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียงเข้าร่วมรับบริการเป็นจำนวนมาก

.

          โอกาสนี้ รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล รองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสตูล และหัวหน้าส่วนราชการ ได้ร่วมมอบถุงยังชีพให้แก่ผู้สูงอายุ จำนวน 18 คน เพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์ตามนโยบายของสภากาชาดไทย พร้อมได้ตรวจเยี่ยมและติดตามการออกให้บริการและพบปะกับประชาชนที่มารับบริการ ซึ่งการออกหน่วยแพทย์ พอ.สว. เพื่อช่วยเหลือให้การรักษา ป้องกันโรค ส่งเสริมสุขภาพและฟื้นฟูสุขภาพอนามัยของประชาชนในท้องถิ่นทุรกันดาร ห่างไกลคมนาคมให้ได้รับบริการทางการแพทย์อย่างทั่วถึง โดยในวันนี้มีการให้บริการ ดังนี้ ตรวจรักษาโรคทั่วไป บริการแพทย์แผนไทย (ตรวจวินิจฉัย จ่ายยาสมุนไพร) ให้คำปรึกษาโรคมะเร็งเต้านม บริการทางทันตกรรม รวมถึงให้คำปรึกษาปัญหาสุขภาพด้านต่าง ๆ ซึ่งมีผู้รับบริการ ตรวจรักษาโรคทั่วไป 42 คน ทันตกรรม 25 คน (ตรวจฟัน 25 คน /ถอนฟัน 4 คน/ 5 ซี่ / ทาฟลูออไรด์วานิช 21 คน) แพทย์แผนไทย 47 คน กายภาพบำบัด 10 คน และสอนการตรวจคัดกรองมะเร็งเต้านม 12  คน

.

         หลังจากนั้น รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วยรองนายกเหล่ากาชาดจังหวัดสตูล นำหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว.จังหวัดสตูล และคณะ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ยากไร้ ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียงในพื้นที่ จำนวน 2 คน พร้อมมอบเงินช่วยเหลือ ถุงธารน้ำใจเครื่องใช้อุปโภคและบริโภค เพื่อเป็นการสร้างขวัญและกำลังใจแก่พี่น้องประชาชนที่ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ที่ได้รับความลำบากในพื้นที่ พร้อมรับฟังปัญหาความเดือดร้อน และความต้องการของประชาชนชน เพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนชนให้เร็วที่สุด

…………………………

ภาพ-ข่าว : ศุภาพิชญ์ ดวงไข / ส.ปชส.สตูล

Categories
เยาวชน-การศึกษา

สตูล-นักเรียนสตูล เปลี่ยนขยะเป็นกระทง  เรียกร้องสันติภาพโลก

สตูล-นักเรียนสตูล เปลี่ยนขยะเป็นกระทง  เรียกร้องสันติภาพโลก

           คณะครูและนักเรียน โรงเรียนเทศบาล 2 วัดชนาธิปเฉลิม   ต.พิมาน  อ.เมือง  จ.สตูล  ช่วยกันประดิษฐ์กระทงขนาดใหญ่จากวัสดุรีไซเคิลที่เหลือใช้ในโรงเรียน  อย่างเช่น กล่องนม ของน้องๆนักเรียนที่กินในตอนเช้าทุกวัน  ซึ่งมีมากถึง 500 กล่องต่อวัน    รวมถึงลังกระดาษใส่นม  และขยะรีไซเคิลอื่นๆ   ภายใต้ Concept  เรียกร้องสันติภาพให้กับโลก   เตรียมส่งเข้าประกวดในหัวข้อ ความคิดสร้างสรรค์  ในงานประเพณีลอยกระทง ที่เทศบาลเมืองสตูล   กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 27 พ.ย.2566 นี้

          กล่องนมจำนวนมากถูกตัดแต่งเป็นกลีบบัว  นำมาตกแต่งเป็นฐานกระทง   กระดาษลังตัดเป็นรูปมนุษย์จากชาติมหาอำนาจต่าง ๆ ทั่วโลก  ประสานมือกัน  และมีมือน้อย ๆ จากทุกคนช่วยกันโอบอุ้มโลกเอาไว้  เพื่อปกป้องให้รอดจากสงคราม  และมีนกพิราบคาบกิ่งมะกอก  สื่อถึงความสันติภาพบินอยู่บนโลก   โดยขนนกก็ได้จากกระดาษกล่องนมที่ถูกตัดมาเรียงซ้อนกัน  ทำให้นกพิราบดูโดดเด่นเงางาม

         ด.ญ.รักษิณา  คงสีดำ  นักเรียนชั้น ม.3  โรงเรียน เทศบาล 2 วัดชนาธิปเฉลิม  บอกว่า  ใช้เวลาว่างร่วมกับเพื่อนๆและคณะครู  นำกล่องนม  และขยะรีไซเคิลมาประดิษฐ์เป็นกระทงขนาดใหญ่ เพื่อส่งเข้าประกวดภายใต้แนวคิดสื่อสันติภาพโลก และขอเชิญชวนให้ร่วมกันสืบสานประเพณีลอยกระทง   

        ด้าน นางสาวโสภาวรรณ  รัตนดิลก  ณ ภูเก็ต ผอ. โรงเรียน เทศบาล 2 วัชนาธิปเฉลิม  กล่าวว่า  ในปีนี้ทางโรงเรียนได้ประดิษฐ์กระทงขนาดใหญ่  ภายใต้แนวคิด เรียกร้องสันติภาพโลก  เพราะเป็นสิ่งสำคัญ  ทุกเชื้อชาติศาสนาต้องการสันติภาพ  และลดขยะในโรงเรียน  โดยใช้วัสดุรีไซเคิลอย่างกล่องนม  ที่มีมากถึง 500 กล่องในแต่ละวัน  นำมาประดิษฐ์เป็นกระทงส่งประกวดประเภทความคิดสร้างสรรค์  เป็นอีกวิธี 1 ที่จะช่วยกันสืบสานประพณีลอยกระทง คือให้นักเรียนมีส่วนร่วมในการประดิษฐ์กระทง 

…………………………………………..

Categories
ข่าวเด่น

สตูล-ตม.สตูล รวบชายชาวบังคลาเทศ  เข้าไทยโดยวีซ่าท่องเที่ยว  ตระเวนขอบริจาคเงินในหลายจังหวัด และเชื่อว่าตระเวนขอเงินในประเทศอื่นๆ ด้วย 

สตูล-ตม.สตูล รวบชายชาวบังคลาเทศ  เข้าไทยโดยวีซ่าท่องเที่ยว  ตระเวนขอบริจาคเงินในหลายจังหวัด และเชื่อว่าตระเวนขอเงินในประเทศอื่นๆ ด้วย

         ตามนโยบาย พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สตม., พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. ได้เน้นย้ำให้ ตม.จว.ทั่วประเทศ ตรวจสอบพฤติกรรมชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย หากมีพฤติกรรมฝ่าฝืนกฎหมายหรือไม่เหมาะสม ให้ดำเนินการตามระเบียบ กฎหมายที่เกี่ยวข้อง  ดังนั้นพล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์  จิตต์ประยูรตี  รอง ผบก.ตม.6 สั่งการให้ตรวจคนเข้าเมืองทุกจังหวัดในภาคใต้ ดำเนินการตามนโยบายของ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง

            ล่าสุด เมื่อวันที่ 17 พ.ย.2566  ตม.สตูล ได้รับร้องเรียนจากประชาชนในจังหวัดสตูลว่า ได้มีคนต่างชาติ สัญชาติบังคลาเทศ พูดไทยไม่ได้ ถือป้ายขอเรี่ยไรบริจาค ออกตระเวนเรี่ยไรขอเงิน  ดังนั้น พ.ต.อ.ธนิสร แสงท่านั่ง ผกก.ตม.จว.สตูล จึงได้สั่งการ พ.ต.ท.ระลึก อินทรัศมี และ พ.ต.ท.วิชาญ นามแสงผา พร้อมชุดสืบสวน ตม.จว.สตูล กระจายกำลังลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว  จนกระทั่งพบตัวตามที่ได้รับแจ้งมา บริเวณร้านกาแฟแห่งหนึ่งภายในปั้มน้ำมัน ถ.ยนตการกำธร ต.คลองขุด อ.เมือง จว.สตูล

เจ้าหน้าที่จึงซุ่มเฝ้าสังเกตพฤติกรรม พบว่าคนต่างด้าวรายนี้ เดินถือป้ายกระดาษ ขอบริจาคเงินตามโต๊ะต่างๆในร้านกาแฟ  มักจะเลือกกลุ่มที่เป็นผู้หญิง ส่วนใหญ่ประชาชนให้บริจาคเงิน ครั้งละ 20 บาท จากนั้นออกจากร้านกาแฟ เดินไปขอบริจาคจากประชาชนที่รอเติมน้ำมัน และร้านค้าต่างๆ

  

เจ้าหน้าที่จึงได้ถ่ายคลิปวีดีโอไว้เป็นหลักฐาน  จากนั้นได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสตูล ขอตรวจหนังสือเดินทาง  ทราบว่าชื่อนายฮัสซัน ขอสงวนนามสกุล อายุ 58 ปี สัญชาติบังคลาเทศ   เดินทางเข้ามาในประเทศไทยครั้งล่าสุด จากประเทศมาเลเซีย ผ่านสนามบินท่าอากาศยานกรุงเทพ เมื่อวันที่ 14 พ.ย.2566 โดยวีซ่าท่องเที่ยว ปัจจุบันวีซ่ายังไม่หมดอายุ แต่เมื่อเข้ามาประเทศไทยไม่ได้ไปท่องเที่ยวกลับมามีพฤติการณ์เรี่ยไรขอเงิน

เจ้าหน้าที่จึงได้จับกุมในข้อหา “เรี่ยไรในทางหลวงหรือในที่สาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมของกลางหลายรายการ ป้ายกระดาษที่ใช้ในการขอเรี่ยไร เงินธนบัตรใบละ 20 บาท หลายร้อยบาท พบในกระเป๋าเสื้อด้านซ้าย นำตัวส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย และเมื่อคดีสิ้นสุด ตม.จว.สตูล จะทำการยกเลิก เพิกถอนวีซ่า  ส่งตัวออกนอกราชอาณาจักรต่อไป

 

        ด้าน  พ.ต.อ.ธนิสร แสงท่านั่ง ผกก.ตม.จว.สตูล กล่าวว่า ทางการสืบสวนเชื่อว่าคนต่างด้าวรายนี้  เดินทางมากจากกรุงเทพฯ ตระเวนไปจังหวัดต่างๆ ในภาคใต้  ล่าสุดคนต่างด้าวรายนี้ได้นั่งรถสาธารณะจาก อ.หาดใหญ่ จว.สงขลา  มายัง จว.สตูล  มาแบบสุ่ม ไม่รู้จักผู้หนึ่งผู้ใดเลยใน จว.สตูล  มาเพื่อขอเรี่ยไรเงิน  อีกทั้งคนต่างด้าวรายนี้ได้ขอวีซ่ามาเพื่อการท่องเที่ยวแต่เมื่อเข้ามาแล้วกลับมีพฤติกรรมดังกล่าว  ก็จะได้ดำเนินการ ตาม พ.ร.บ.ควบคุมการเรี่ยไร พ.ศ. 2487 และพรบ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ต่อไป  ยิ่งไปกว่านั้นทางการสืบสวนได้ดูประวัติการเดินทาง พบว่าได้เดินทางไปในหลายประเทศอยู่ในประเทศนั้นๆ ตามระยะเวลาเท่าที่อนุญาตให้อยู่ เมื่อครบกำหน  ก็หมุนไปประเทศอื่นอีก  เชื่อว่าตระเวนเรี่ยไรเงินในหลายประเทศ   สุดท้ายนี้ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนจังหวัดสตูล  ที่คอยแจ้งเบาะแส คอยเป็นหูเป็นตามาโดยตลอด  ขอบคุณในความร่วมมือที่ดีตลอดมา 

……………………….

Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สตูล-ชาวบ้านกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรงชันโรงป่าชายเลน  สินค้าเด่น  กลุ่มเข้มแข็ง   ภายใต้แบรนด์  PCปลายชล

สตูล-ชาวบ้านกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรงชันโรงป่าชายเลน  สินค้าเด่น  กลุ่มเข้มแข็ง   ภายใต้แบรนด์  PCปลายชล

       ในป่าชายเลนติดหมู่ที่ 4 ตำบลคลองขุด  อำเภอเมือง จังหวัดสตูล  ชาวบ้านกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรงชันโรงป่าชายเลน  ได้นำลังผึ้งของกลุ่มเข้าไปวางห่างกันเป็นจุด  ๆ จำนวน 100 ลัง เพื่อให้ผึ้งได้เข้ามาทำรัง  ซึ่งเป็นอีกหนึ่งวิธีการเลี้ยงผึ้ง ของศูนย์เรียนรู้  การเลี้ยงผึ้งโพรง ผึ้งชันโรงป่าชายเลนของชาวบ้านกลุ่มนี้ 

       ทางกลุ่มยังได้รับการยกระดับให้เป็นศูนย์ถ่ายทอดเทคโนโลยีการเกษตรประจำตำบล  โดยมีทางเทศบาลตำบลคลองขุดให้การสนับสนุน   ในการแบ่งปันความรู้ให้กับชาวบ้านในชุมชน  เรียนรู้วิถีของผึ้งโพรง การแยกรังผึ้งจาก 1  เป็น 2  สาธิตให้สมาชิกในกลุ่มได้เรียนรู้  และสามารถนำกลับวิชาความรู้นี้ไปต่อยอดเป็นอาชีพได้  เพื่อเป็นรายได้เสริมจากงานประจำ อีกทั้งน้ำผึ้ง  ยังมีสรรพคุณทางยาสามัญประจำบ้านด้วย

         หลังทางกลุ่มได้น้ำผึ้งมาแล้ว  วันนี้ทางสมาชิกที่เป็นแม่บ้าน  ที่ได้รับความรู้จากวิทยาลัยชุมชนสตูลได้ช่วยกันทำสบู่น้ำผึ้งมังคุด  สบู่น้ำผึ้งสมุนไพร ขายกันภายในชุมชน   และยังมีสินค้า  ที่ทำจากน้ำผึ้งป่าชายเลน  อาทิ  แชมพูน้ำผึ้งสมุนไพร   โลชั่นน้ำผึ้งสมุนไพร   ในราคาที่เข้าถึงง่าย อีกทั้งยังมีน้ำผึ้งป่าชายเลนขวดเล็กใหญ่ ตามความต้องการด้วย ภายใต้ชื่อสินค้า  “PC ปลายชล”

        นายชัยวัฒน์   ขุนศรี   ประธานกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรงผึ้งชันโรงป่าชายเลน  บอกว่า  น้ำผึ้งจากป่าชายเลนถือว่ามีสรรพคุณมากมาย เพราะพืช  ที่ผึ้งดูดซับน้ำผึ้งมาไว้   เมื่อนำมาทานจัดว่าเป็นยาระบายอ่อน ๆ รสชาติจะหวานอมขมนิด ๆ แต่ถ้าเป็นผึ้งชันโรงจะหวานอมเปรี้ยว

      นายสุนทร  พรหมเมศก์  นายกเทศมนตรี ตำบลคลองขุด   บอกด้วยว่า เทศบาลตำบลคลองขุดได้เข้ามาสนับสนุนในเรื่องวัสดุภัณฑ์   ในการทำโรงเรือนและผึ้งโพรง  ป้ายประชาสัมพันธ์กลุ่ม และพื้นที่ สิ่งที่เห็นได้ชัดคือกลุ่มนี้มีความสามัคคีและเข้มแข็ง มีการจัดทำกลุ่มอย่างเป็นระบบ

       ปัจจุบันสมาชิกของกลุ่มเลี้ยงผึ้งโพรงชันโรงป่าชายเลน ตำบลคลองขุด มีมากกว่า 50 คน ขณะนี้ได้จดทะเบียนขึ้นเป็นสินค้าโอทอป  9 ผลิตภัณฑ์ คือ จำหน่าย ผึ้ง  จำหน่ายลังผึ้ง  น้ำผึ้ง  และการแปรรูปเป็นสินค้าจากน้ำผึ้งทั้งหมด   โดยทางกลุ่มฯ บอกด้วยว่า  ทางหากท่านใดสนใจจะเลี้ยงผึ้งสามารถติตต่อขอซื้อลังเลี้ยงผึ้ง หรือรับความรู้ได้  ที่เบอร์โทร. 082-413-7598

………………………………………………….

Categories
ข่าวทั่วไป

คลิปภาพความน่ารัก และน่าสงสาร น้ำใจของน้องหมาในวัด ที่พยายามช่วยเพื่อนหมาด้วยกันที่หัวติดในไห

คลิปภาพความน่ารัก และน่าสงสาร น้ำใจของน้องหมาในวัด ที่พยายามช่วยเพื่อนหมาด้วยกันที่หัวติดในไห

         วันที่ 17 พ.ย.2566  ผู้สื่อข่าวอยากจะชวนไปดูความน่ารัก น้ำใจของเพื่อนสุนัขด้วยกัน  หรือว่าจะสงสารดี    โดยเหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่วัดนิคมพัฒนารามผัง 7 อำเภอมะนัง จังหวัดสตูล  โดยมีเจ้าสุนัขภายในวัดตัวหนึ่งชื่อว่า  ไอ้แดง  อายุปีเศษซึ่งเป็นลูกสุนัขที่มีชาวบ้านเอามาทิ้งไว้ที่วัด 

        วันนี้จู่ ๆ ก็เอาหัวมุดเข้าไปในไหสงสัยคงคิดว่า  มีอาหาร หรือด้วยความซุกซน  โดยสุดท้ายอย่างภาพที่เห็นคือ  เอาหัวออกมาจากไหไม่ได้

        งานนี้ก็เดือดร้อนกับเพื่อนสุนัขแม่ลูกอ่อนด้วยกันซิคะ   ก็อยู่วัดเดียวกันก็ต้องช่วยเหลือกันก็เป็นเรื่องธรรมดา  แต่การช่วยเหลือนี่ซิ  ดูแลน่ารัก  หรือว่า  น่าสงสารดี  เพราะเพื่อนสุนัขในวัดด้วยกันก็พยายามคาบขาหน้าไอ้แดงบ้าง  คาบขาหลังไอ้แดงบ้าง  ก็ไม่สามารถเอาหัวออกจากไหได้  จนได้แดงต้องร้องระงม

        สุดท้ายงานนี้ก็ต้องเดือดร้อนท่านพระครูโสภณ  ปัญญาสาร  เจ้าอาวาสวัดนิคมพัฒนารามผัง 7 / ท่านเจ้าคณะอำเภอมะนัง  ต้องเลือกเอาว่าจะเก็บไหไว้  หรือว่า  เก็บไอ้แดงไว้  สุดท้ายท่านก็ตัดสินยอมสละไห  ด้วยการทุบไหให้แตกเพื่อให้ไอ้แดง   รอดชีวิตได้

        ท่านพระครูโสภณ  ปัญญาสาร  เจ้าอาวาสวัดนิคมพัฒนารามผัง 7 / ท่านเจ้าคณะอำเภอมะนัง  บอกด้วยว่า  ไอ้แดง เป็นลูกหมาที่ชาวบ้านเอามาทิ้งที่วัดตั้งแต่เล็ก ๆ แต่ก่อนมันจะขึ้นมานอนที่หน้ากุฏิอาตมาทุกคืน   แต่ปัญหาคือ  มันขี้เยี่ยวใส่หน้ากุฏิ    ตอนหลังอาตมาไม่ให้ขึ้นมานอน   หลังจากนั้นเริ่มคาบรองเท้าไปแอบ   ต้องหากันทุกวัน รองเท้าหายไปแล้ว 3 ข้าง   สงสัยมันโกรธไม่ให้ขึ้นมานอนหน้ากุฏิ เลยคาบรองเท้าไปแอบทุกวัน    วันนี้ช่วยมันแล้วไม่แน่   ไอ้แดงมันน่าจะคิดได้หรือเปล่า  ต้องดูกันตอนต่อไปจ้าพระครูโสภณ  กล่าวในที่สุด

……………………………………………….

Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

สตูล-ขับเคลื่อนการน้อมนำแนวพระราชดำริ ปลูกผักสวนครัวสร้างความมั่นคงทางอาหาร ภายใต้กิจกรรม “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง”

สตูล-ขับเคลื่อนการน้อมนำแนวพระราชดำริ ปลูกผักสวนครัวสร้างความมั่นคงทางอาหาร ภายใต้กิจกรรม “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง”

          วันที่ (15 พ.ย. 66) ที่สวนเศรษฐกิจพอเพียงจวนผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล อำเภอเมือง จังหวัดสตูล นายศักระ  กปิลกาญจน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล พร้อมด้วยทันตแพทย์หญิงสุกีรติ กปิลกาญจน์ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสตูล นำส่วนราชการและภาคประชาชนสร้างพลังความต่อเนื่องในการน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่ปฏิบัติการปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างต่อเนื่องเพื่อความยั่งยืน โดยมี นายชาตรี ณ ถลาง รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล นายชูชีพ ธรรมเพชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดสตูล ปลัดจังหวัดสตูล หัวหน้าส่วนราชการ สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดสตูล สมาชิกชมรมแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดสตูลและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

           สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ จังหวัดสตูล ขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแนวทางปฏิบัติการน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สร้างความมั่นคง ทางอาหาร สู่ปฏิบัติการปลูกผักสวนครัว มีกิจกรรมรณรงค์ส่งเสริมอย่างต่อเนื่อง ดังนี้ รณรงค์ปลูกพืชผักสวนครัว สมุนไพร ไม้ผล การรณรงค์ส่งเสริมการสร้างทักษะวิถีใหม่ เยาวชนไทยสร้างอาหารเป็น แก่เยาวชนในสถานศึกษา รวมทั้งการรณรงค์ขับเคลื่อนการปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร ณ ที่ว่าการอำเภอ, สถานศึกษา, วัดและมัสยิด

.

          ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดสตูลสร้างพลังความต่อเนื่องในการน้อมนำแนวพระราชดำริของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้ากรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สู่ปฏิบัติการปลูกผักสวนครัวเพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหารอย่างต่อเนื่องเพื่อความยั่งยืน และเพื่อเป็นต้นแบบตัวอย่างที่เห็นจริงให้แก่ข้าราชการและประชาชน ซึ่งมีการปลูกพืชผักสวนครัว  สมุนไพร  และไม้ผลมากกว่า 30 ชนิด อาทิ ผักบุ้ง, ผักกวางตุ้ง, พริก, มะเขือ, โหรา, กะเพรา, แมงลัก, ถั่วฝักยาว, ถั่วพู, แตงกวา, คะน้าเคล, กะหล่ำปลี, ผักชีฝรั่ง, ผักหวาน, กล้วย, มะละกอ, กระชาย เป็นต้น

……………………..

ภาพ-ข่าว : ภาสินี  จันทจักษุ/ ส.ปชส.สตูล