Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

ร้านลับๆในสตูล ถูก  อร่อย  นาน 20 ปี  เริ่มที่ 10 บาท หลากเมนูเตี๋ยวและเมนูน้ำ  

ร้านลับลับในสตูล ถูก  อร่อย  นาน 20 ปี  เริ่มที่ 10 บาท หลากเมนูเตี๋ยวและเมนูน้ำ

ร้านลับ ๆ ที่ไม่ลับอีกต่อไป  ในถนนสตูลธานี 9  ซอย ณ  นคร  เขตเทศบาลเมืองสตูล  ตำบลพิมาน  อำเภอเมือง  จังหวัดสตูล  (หลังศูนย์โอทอป อบจ.สตูล  ติดศาลากลางจังหวัด)   ร้านนี้เปิดมานานกว่า 20 ปีแล้ว  ไม่อร่อยไม่อยู่มานานอย่างแน่นอน   ร้านนี้ไม่มีป้ายชื่อร้าน  ลูกค้าต้องสังเกตเอาเอง   หลายคนเรียกร้านนี้ว่า  ร้านป้ามล 

ขายก๋วยจั๊บน้ำข้น  ก๋วยเตี๋ยวน้ำใส  ผัดซีอิ้ว  ข้าวแกง  แกงถุง   ราคาเริ่มต้นที่ 10 บาท (ก๋วยเตี๋ยวน้ำใสไซร์เล็ก)  ชุดใหญ่ 40 บาทก๋วยเตี๋ยวพร้อมน้ำกระเจี๊ยบหรือน้ำอัญชัน   1 แก้ว  ผัดซีอิ๋ว 20 บาท แกงถุงละ 30 บาท  โอเลี้ยง  น้ำอัญชัน  กระเจี๊ยบถังละ 10 บาท ชาร้อน กาแฟร้อน 10 บาท แต่ชาเย็น กาแฟเย็น ถังละ 20 บาท   มีขายทั้งขนมพื้นเมืองให้อร่อยครบครัน   โดยร้านป้ามลเปิดขายตั้งแต่ 8 โมง ถึง บ่าย 3 โมงเย็น

ลูกค้าบอกว่า   เป็นลูกค้าประจำมานานกว่า 4 ปีแล้ว  ร้านนี้กินอิ่มจุกใจแม่ค้าใจดีราคาก็ถูกในยุคนี้  มาทานซ้ำได้ตลอดรสชาติก็ดี  มีเมนูก๋วยเตี๋ยว อาหารตามสั่งก็มี น้ำก็มีหลากหลายราคาโดนใจในยุคนี้

ลูกค้าอีกราย  บอกว่า  เพิ่งรู้จักร้านนี้ไม่นาน  ไม่มีใครแนะนำแต่มาเจอโดยบังเอิญเลยทดลองมากิน  ชอบเมนูก๋วยจั๋บ เส้นจะม้วน ๆ นี่แหละคือก๋วยจั๊บของแท้  ทานแล้วติดใจมาเป็นลูกค้าประจำ 1 ปีแล้ว โดยเฉพาะราคาถูกเข้าถึงง่าย  อร่อยถูกใจด้วย

(ป้ามล)   นางศายามล  สุนทรนันท์  อายุ 60 ปี  บอกว่า  ร้านตนเปิดมานานกว่า 20 ปีแล้ว ขายตั้งแต่ราคา 10 บาทปัจจุบันก็ยังขาย 10 บาทเริ่มต้น และชุดใหญ่ 40 บาท  พร้อมน้ำอัญชัน น้ำกระเจี๊ยบ  และเมนูมาเสริมอีกมากมายตามคำร้องขอ ลูกค้า  การขายในราคานี้ก็อยู่ได้  เพราะว่า  บ้านเป็นของตัวเองไม่ต้องไปเช่า  เตาถ่านก็ช่วยลดต้นทุน ร้อนได้นานทำขายคนเดียว ลูกค้าส่วนใหญ่ก็เป็นลูกค้าประจำ  ทานกันมานาน นับปี บอกต่อ ๆกันมา  เลยไม่คิดจะทำป้ายบอกชื่อร้าน  เพราะเชื่อว่าหากอาหารอร่อย รสชาติดี ลูกค้าก็จะมาเอง

………………………………………

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป ท้องถิ่น-การเมือง

สตูล-ร้านค้ารักษ์โลก! ผลเกินคาด ลูกค้าพร้อมใจพกตะกร้า กระสอบ ถัง  ช็อป ลุ้นรางวัลใหญ่เป็นของสมนาคุณตอบแทน 

สตูล-ร้านค้ารักษ์โลก! ผลเกินคาด ลูกค้าพร้อมใจพกตะกร้า กระสอบ ถัง  ช็อป ลุ้นรางวัลใหญ่เป็นของสมนาคุณตอบแทน 

         ที่ร้านสุพิชญาการค้า  บ้านนาโต๊ะขุน  หมู่ที่ 6   ตำบลแป-ระ  อำเภอท่าแพ จังหวัดสตูล  ชาวบ้านในละแวกไม่มีใครไม่รู้จัก  เพราะขณะนี้กำลังเป็นที่ฮือฮา  เพราะที่นี่ลูกค้าทุกคนพร้อมใจกันมาจับจ่าย  ซื้อของใช้ในครัวเรือน  ทั้งข้าวปลาอาหาร  ด้วยการหาภาชนะใส่ของมาเองจากบ้าน   บางคนใช้ตะกร้า  บางคนใช้กระสอบ  บางคนใช้ถังก็มี  และแม่ค้าบอกว่า  ลูกค้าบางคนใช้หม้อหุงข้าวมาใส่ของที่ซื้อไปจากร้าน  

       การพร้อมใจกันหาภาชนะมาเองจากบ้าน  โดยปฏิเสธจะรับถุงจากทางร้าน   หลังจากทางร้านได้เข้าร่วมโครงการ  ร้านนี้ทำดีด้วยหัวใจ  “ลดรับ ลดใช้ถุงพลาสติกลุ้นรับโชค”  จากกองสาธารณสุขและสิ่งแวดล้อม อบต.แป-ระ  เพียงลูกค้าซื้อสินค้าภายในร้านครบ 50 บาท  รับบัตรลุ้นโชค  1 ใบ  หลังทางร้านเข้าร่วมโครงการฯนี้เพียง 3 สัปดาห์ได้ผลเกินคาด 100 เปอร์เซ็นต์ ลูกค้าให้ความสนใจตอบรับร่วมลุ้นรางวัล  ยอดขายดีขึ้นมาก 

 

             นางสาวอัมร๊ะ   กาเส็มส๊ะ   ลูกค้าขายของหน้าโรงเรียนในหมู่บ้าน  บอกว่า  วันนี้เอากระสอบมาเพราะซื้อสินค้าเยอะ  เป็นเรื่องดีเพราะไม่ต้องจัดเก็บถุงพลาสติกและต้องเอาไปเผาอีก  ได้ลุ้นรางวัลลุ้นโชค  เล็งรางวัลทุกอย่าง  แต่ยังไม่ได้สักอย่าง อยากให้ทุกร้านทำแบบนี้จะได้ลุ้นรางวัลและลดขยะไปด้วย

            ลูกค้าอีกราย  บอกว่า  ได้ชักชวนเพื่อนบ้านมาร่วมกิจกรรม ทุกครั้งที่มาซื้อจะหิ้วตะกร้ามาทุกที และมีแรงที่จะร่วมกันลดขยะ   ดีไม่ต้องเก็บถุงพลาสติกเพราะมีมลพิษในอากาศเยอะ  อยากให้ทุกร้านทำกิจกรรมแบบนี้ 

            ด้านนางสาวสุพิชญา  ติงสา  เจ้าของร้าน สุพิชญาการค้า  บอกว่า  เปิดร้านมาปีกว่าลูกค้าไม่เยอะเหมือนปัจจุบันนี้   หลังเริ่มเข้าร่วมโครงการจาก อบต.แป-ระ  แนะนำโครงการนี้มาก  เพียง 3 สัปดาห์ยอดขายดีเกินคาดหมาย  อีกทั้งยังเป็นการลดถุงพลสติก  ลดโลกร้อน  แม่ค้าลดค่าใช้จ่าย  และนำเงินที่ซื้อถุงพลาสติกสัปดาห์ 1000 บาท  ไปจัดซื้อของรางวัลเป็นของสมนาคุณลูกค้าชื่นชอบลุ้นรางวัล   มีทั้งรางวัล  หม้อหุงข้าว  พัดลม  ผ้าปู  เบาะ  โดยทางร้านจะเปิดให้ลุ้นรางวัลทุกวันที่  1 ของเดือน  และลูกค้าจะไปลุ้นรางวัลต่อที่ 2 อีกจากอบต.แป-ระ  รอบสามเดือนลุ้นรางวัลใหญ่อีกครั้งหนึ่ง

         สำหรับโครงการนี้นายสมนึก  อาดตันตรา  ผอ.กองสาธารณสุข อบต.แป-ระ  อำเภอท่าแพ  จังหวัดสตูล  บอกว่า  เป็นการสร้างกระแสให้ทุกคนเห็นความสำคัญและกระตุ้นในการเลิกใช้ถุงพลาสติก  ซึ่งขณะนี้มีร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการและพบว่ากระแสการตื่นตัวลดใช้ถุงพลาสติกเพิ่มขึ้น  จากโครงการแรกมี 6 ร้านค้า  มาโครงการต่อเพิ่มเป็น 16 ร้านค้า  รวมเป็น  22 ร้านค้า  โดยสร้างการมีส่วนร่วมกันโดยทุกๆ สามเดือนจะมีการจับรางวัลใหญ่จากอบต.โดยเอาหางบัตรของทุกร้าน ลุ้นรางวัลใหญ่จาก   นายกและผู้ใหญ่ใจดี   จากอบต.ให้ชาวบ้านในลุ้นโชคกัน   อีกทั้งอยากให้มีการสร้างกระแสให้เกิดขึ้นจากการทำกิจกรรมการบริหารจัดการขยะเน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน  เชื่อว่าจะมีการทำเป็นแบบอย่างให้ครอบคลุมไปทั่วทั้งจังหวัดสตูล

………………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 สตูล – ชี้เป้าขนมในตำนานถูกอร่อย  อาปมแลงังแป้งสดเตาถ่าน  ของดีชุมชนขนมจีน

สตูล  ชี้เป้าขนมในตำนานถูกอร่อย  อาปมแลงังแป้งสดเตาถ่าน  ของดีชุมชนขนมจีน

         ทุก ๆ เช้าตั้งแต่เวลา 4 นาฬิกาเป็นต้นไปถึง 8 โมงเช้า  ในซอยขนมจีน  เทศบาลตำบลกำแพง  อำเภอละงู  จังหวัดสตูล ลูกค้าหลากหลายรุ่นจะมายืนรอซื้อขนมอาปมแลหงังแป้งสดเตาถ่าน  ของม๊ะหวันหรือ  นางสมพิศ องศารา อายุ  76 ปี  ที่ยังคงทำขนมในตำนานรสชาติดั้งเดิมที่ขายมานานกว่า 20 ปี ตั้งแต่ราคาชิ้นละ 2 บาท ปัจจุบันขายชิ้นละ 5 บาท พิเศษใส่ไข่เพิ่ม  10 บาท

        โดยขนมชิ้นนี้ม๊ะหวัน  จะเป็นคนทำแป้งข้าวจ้าวสดด้วยตัวเอง  โดยการนำข้าวสาร (ยี่ห้อลำไย) จำนวน 2 กิโลกรัมไปแช่น้ำหนึ่งและลุกขึ้นมาบดทำแป้งข้าวจ้าวสดๆ  วันต่อวันด้วยเครื่องบดโบราณ ก่อนนำมาปรุงด้วยน้ำตาล เกลือ  ไข่และกะทิ  นำกระทะขนาดเล็กตั้งไฟตักแป้งข้าวจ้าวที่ปรุงสำเร็จใส่กระทะที่ร้อนพอดีร่อนไปมาปิดฝาให้แป้งสุก   ส่งขายลูกค้าที่มารอหน้าบ้านอยู่อย่างนี้หลายสิบปีแล้ว   มีรายได้เฉลี่ยวันละ 700 บาท   จนเป็นที่คุ้นชินตาของลูกค้าในชุมชน 

       สูตรขนมอาปมแลหงังแป้งสดเตาถ่าน   สั่งได้ทั้งสูตรแป้งกรอบนอกนุ่มใน และ สูตรแป้งหนานุ่ม รสชาติหวานกำลังดีทานกับเครื่องดื่มร้อน ๆ อย่างโกปี้ หรือชาอ้อ เพิ่มความอร่อย    โดยเคล็ดไม่ลับม๊ะหวันบอกว่า  คอยดูไฟขณะลงแป้งในกระทะไม่ให้ร้อนเกินไปเพราะจะทำให้ขนมไหม้และเสียรูปทรงไม่สวยงาม   และหากใช้แป้งข้าวจ้าวสำเร็จรูปรสชาติความอร่อยก็จะไม่เหมือนเดิม  ม๊ะหวันจึงเลือกที่จะทำแป้งสดขึ้นมาเองเพื่อขายให้กับลูกค้า 

 

       นางดารารัตน์   ขวัญเมือง  ลูกค้าเจ้าประจำทานตั้งแต่เด็ก บอกว่า เป็นขนมโบราณที่มีรสชาติอร่อย  ทานมาตั้งแต่เด็ก  หอมเตาถ่าน ทุก ๆ เช้า ๆจะมาฝากท้องที่นี่และทานร้อน ๆ จะยิ่งอร่อย  

       นายพิสิษฐ์  แซ่จิ้ว   ปธ.ชุมชนซอยขนมจีน  ทต.กำแพง  อ.ละงู กล่าวว่า เป็นขนมอยู่คู่ชุมชนนี้มาอย่างยาวนาน  ม๊ะหวันเป็นคนขยันอยู่กับบุตรสาวที่พิการสองคน  ขายขนมอาปมแลหงันทุกวัน ยกเว้นวันที่ม๊ะหวันไม่สบาย  อยากให้นักท่องเที่ยวที่ลงไปเกาะหลีเป๊ะ หรือว่าเกาะตะรุเตา  แวะรับประทานอาหารเช้าก่อนลงเรือได้ที่ชุมชนซอยขนมจีน  และที่นี่ก็ยังมีสตรีทอาร์ต  ซึ่งเป็นรูปของม๊ะหวัน ที่กำลังทำขนมอาปมแลหงัง  ให้ได้เช็คอินถ่ายรูปเป็นที่ระลึก  พร้อมทั้งทานขนมอร่อย และขนมพื้นเมืองอีกมากมายที่ชาวบ้านในชุมชนมีจำหน่าย 

สนใจสอบถาม หรือสั่งขนม  โทร083-1863476

……………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

 ตม.สตูลขานรับนโยบายสตม.เอกซเรย์พื้นที่รับผิดชอบจับกุมชายชาวมาเลเซียหลบหนีเข้าเมือง

ตม.สตูลขานรับนโยบายสตม.เอกซเรย์พื้นที่รับผิดชอบจับกุมชายชาวมาเลเซียหลบหนีเข้าเมือง

        ตามนโยบายของ พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย  ผบช.สตม.พร้อมด้วย พล.ต.ต.ภาณุมาศ บุญญลักษม์, พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถรอง ผบช.สตม.  พล.ต.ต.ทรงโปรด สิริสุขะ ผบก.ตม.6  สั่งการให้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพื้นที่สุ่มเสี่ยงและกวดขันการกระทำผิดกฎหมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งความผิดตาม พ.ร.บ.คนเข้าเมือง พ.ศ. 2522 เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย ความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและนักท่องเที่ยว ในห้วงเทศกาลปีใหม่

       ล่าสุด พ.ต.อ.เจริญพงษ์ ขันติโล   ผกก.ตม.จว.สตูลได้สั่งการให้พ.ต.ท.ยงยุทธ   เลิศปรีชาพงศ์ พร้อมด้วย ชุดสืบสวนปราบปรามตม.จว.สตูล  ตรวจพื้นที่รับผิดชอบ เพื่อป้องกันเหตุและสืบสวนหาข่าวการกระทำความผิดกฎหมายในห้วงเทศกาลปีใหม่ตามนโยบายผู้บังคับบัญชาจนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 ม.ค.2567 ได้รับแจ้งจากเครือข่ายการข่าวภาคประชาชนว่า  ได้มีชายชาวมาเลเซียชื่อนายมูฮัมหมัดขอสงวนนามสกุล อายุ 43 ปี สัญชาติ มาเลเซียได้ลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมายมาอาศัยในพื้นที่จ.สตูลเจ้าหน้าที่จึงได้สืบสวนหาข่าวจนทราบว่านายมูฮัมหมัดฯ จะมาจับจ่ายใช้สอยซื้อข้าวของที่ตลาดสดเทศบาลเมืองสตูล จึงได้ส่งเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบเฝ้าสุ่มสังเกตการณ์ภายในตลาดดังกล่าวจนกระทั่งพบบุคคลมีลักษณะตามที่สายลับแจ้งมา จึงได้แสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ ตม.จว.สตูล

ขอตรวจสอบเอกสารการเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร ปรากฏว่านายมูฮัมหมัดฯ ไม่สามารถแสดงเอกสารหลักฐานใดๆ ได้  จึงรับสารภาพว่าได้ลักลอบเดินทางเข้ามาประเทศไทยจริง โดยคิดไปเองว่าไม่น่าจะมีปัญหาใดๆ  เจ้าหน้าที่จึงได้อธิบายข้อกฎหมายให้ทราบ  แจ้งข้อกล่าวหา“เป็นบุคคลต่างด้าวเดินทางเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต”นำส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย

……………………………………………………………………………………………………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 สตูล- ชี้เป้าสายสุขภาพอร่อยกับเมนูพื้นถิ่น ข้าวยำโบราณ  กว่า 30 ปี  เมนูของดี 4 ดาวโอทอป

สตูล.. ชี้เป้าสายสุขภาพอร่อยกับเมนูพื้นถิ่น ข้าวยำโบราณ  กว่า 30 ปี  เมนูของดี 4 ดาวโอทอป

          ช่วงนี้สายสุขภาพต้องไปชิม ข้าวยำโบราณที่ขายมานาน 30  กว่าปี ที่รวมสารพัดสมุนไพร  ขายยามฟ้ารุ่งสาง ที่บริเวณ สี่แยกไฟแดง  ตรงข้ามหน้าโรงเรียนอนุบาลควนโดน  อำเภอควนโดน  จังหวัดสตูล ที่นี่มีข้าวยำสีสันสวยงาม ปรุงแต่ง  ส่วนผสมล้วนเป็นสมุนไพรทั้งสิ้น  ตั้งแต่กระบวนการหุงข้าวที่ใช้ใบยอหุงผสม

          นางเจ๊ะรอมา  แมเร๊าะ  อายุ 55 ปี เจ้าของร้านข้าวยำสมุนไพร  มามิง  ข้าวยำโอทอป 4 ดาว เมนูชูสุขภาพ  กล่าวว่า  ทางร้านขายมา 30 ปี โดยได้สูตรทำข้าวยำมาจากจังหวัดนราธิวาส และมาต่อยอดขายที่จังหวัดสตูล ซึ่งส่วนผสมของข้าวยำได้แก่ ดอกดาหลาสีชมพู สีแดง สีขาว  สรรพคุณ ขับลมในกระเพาะ และ จันหอม สรรพคุณ เป็นยา   ใบชะพลู ยอดจิก มันปู พริกไทยอ่อน ขมิ้นขาว ดอกอันชัญ ถั่วงอก น้ำบูดู ปลาป่น มะพร้าว ขายจานละ 25 บาท  (เพิ่มไข่เป็ดยางมะตูมชุดละ 35 บาท)   มีรายได้ต่อวัน 1,500  ถึง 2,000 บาท

          เจ้าของร้านข้าวยำสมุนไพร  มามิง   บอกอีกว่า  เมื่อก่อนข้าวยำที่ตนเองทำจัดว่าเป็นเมนูพื้นถิ่น  หลังนำออกไปโชว์ขาย ที่เมืองทองธานี   กลุ่มลูกค้าผู้บริโภคต่างติดใจ  และที่สำคัญ  ได้รางวัลจาก สนง.สาธารณสุข มอบให้เป็นข้าวยำด้านสุขภาพ 4 ดาว ขึ้นเป็นสินค้าโอทอปที่ขึ้นชื่อทุกวันนี้

          ด้านลูกค้า การันตีถึงความ อร่อย  เข้าถึงสมุนไพร ทานแล้วรู้สึกสุขภาพดี  และราคาเข้าถึงง่าย

          นอกจากข้าวยำสมุนไพร ที่เปิดขายวันทุกวัน (หยุดทุกวันพุธ และวันพฤหัสบดี) แล้ว  ทางร้านยังมีเมนู  ละแซ  (ขนมจีน), นาซิดาแฆ (ข้าวมันปลาจิงจัง)  , อาหารพื้นบ้าน 3 จังหวัด (ขายเฉพาะวันเสาร์ อาทิตย์)  โดยทางร้านเปิดตั้งแต่เวลา 6  นาฬิกาถึง 10 นาฬิกา ติดต่อสอบถาม โทร  062  527  3631

…………………………………………………..

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 สตูล-ชวนลองแลน้ำพริกกั้งสินค้าโฮมเมด  สูตรฆอแร่งเฉพาะถิ่นมลายู 

สตูล ชวนลองแลน้ำพริกกั้งสินค้าโฮมเมด  สูตรฆอแร่งเฉพาะถิ่นมลายู

         ชี้เป้าแหล่งผลิตน้ำพริกพื้นเมือง  ที่สืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นรสชาติเฉพาะถิ่น  ต้องที่นี่ที่วิสาหกิจชุมชน  ลองแลน้ำพริกสตูล  ตั้งอยู่หมู่ที่ 4  บ้านตะโล๊ะใส  ตำบลปากน้ำ  อำเภอละงู  จังหวัดสตูล  ที่นี่มีกลุ่มสตรีมารวมตัวกัน  เพื่อทำน้ำพริกหลากหลายชนิด  อาทิ น้ำพริกกั้ง , น้ำพริกปูม้า , น้ำพริกไข่ปู , น้ำพริกมันปู

        โดยเฉพาะ   น้ำพริกกั้ง   ที่ถือว่าเป็นเมนูดั้งเดิม  ที่ปรุงแบบคั่วแห้งตามแบบฉบับของกลุ่ม  มาจากเมนู ฆอแร่ง (รสมือม๊ะ) หรือ (รสมือแม่)  เป็นเมนูอาหารพื้นถิ่นของจังหวัดสตูล ที่ได้รับอิทธิพลมาจากฝั่งมลายู อินโดนีเซีย  เป็นวิธีการถนอมอาหารเนื้อสัตว์ทะเล  ที่มีอย่างอุดมสมบูรณ์ในสมัยก่อน  ไม่ให้เน่าเสียง่าย   ซึ่งสมัยนั้น (แม่) จะเอากั้งสดๆ  แกะเอาเฉพาะส่วนเนื้อมาผสมกับเครื่องแกงสมุนไพรรสจัด 

       ส่วนผสมน้ำพริกกั้ง ประกอบด้วย  พริกแห้ง หอม  กระเทียม ตะไคร้ เกลือ  น้ำมะขามเปียก กะปิและน้ำตาลปี๊บ  และที่สำคัญที่สุดก็คือกั้งต้มสุก  ที่ผ่านการแกะเปลือกพร้อมปรุงแล้ว   นำมาบดให้ละเอียด  จากนั้นนำทั้งหมดมาคั่วในน้ำมันโดยใช้ไฟจากเตาถ่าน  คั่วไฟอ่อนนานมาก ๆ จนแห้งดี สามารถเก็บไว้ในตู้เย็นได้หลายเดือน 

 

          ด้าน  นางสาวฮัซวานี   ปากบารา   ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนลองแลน้ำพริกสตูล   บอกว่า ทางกลุ่มนำกั้งมาทำน้ำพริก  เพราะเป็นสัตว์น้ำขึ้นชื่อของจังหวัดสตูล  นอกจากนี้ยังมีน้ำพริกปูม้า  ไข่ปูม้า  มันปู น้ำพริกเผา  ที่พร้อมรับประทาน  นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่ภูมิใจนำเสนอคือ   จ๊อปูฮาลาล   ที่อัดแน่นไปด้วยเนื้อปู กรรเชียงปู  จุกๆ บริการส่งทั่วไทย

          นางสาวศุภวรรณ   บุญรอด  นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรชำนาญการ  เกษตรอำเภอละงู  กล่าวว่า   ความพิเศษของกลุ่มนี้เป็นการสืบสานวิถีชีวิตบรรพบุรุษ  ที่อพยพมาจากอินโดนีเซีย  กระบวนการทำเมนูอาหารจะเป็นการผสมผสานระหว่างวัฒนธรรมภาคใต้  ผนวกกับอินโดนีเซีย  ทำให้รสชาติการันตีได้ว่าไม่เหมือนใคร นี่คือจุดเด่นของสินค้าที่นี่  เกษตรอำเภอได้เข้ามาช่วยดูแลในเรื่องของการจัดตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชน  และการประชาสัมพันธ์   ให้สังคมภายนอกได้รู้จักกลุ่มมากขึ้น  ได้ลงมาเพื่อเยี่ยมเยียนติดตามการดำเนินงาน ให้คำแนะนำต่าง ๆ ทั้งที่เป็นอุปสรรค  และเรื่องดีๆเพื่อบอกต่อให้เครือข่ายวิสาหกิจชุมชนในอำเภอให้รู้จักมากขึ้น   สัดส่วนการตลาดมีทั้งออนไลน์และออฟไลน์  ภายใต้ชื่อเพจ ลองแล น้ำพริกกั้ง satun homemade  

          ส่วนน้ำพริกกั้ง 100 กรัม  ราคา 150 บาท   น้ำพริกปูม้า 100 กรัม 150 บาท  จ๊อปูฮาลาล 149 บาท  สามารถสั่งซื้อได้ทาง  เพจลองแล น้ำพริกกั้ง satun homemade   หรือ   ทาง tiktokลองแล.สตูล โทร 094  593 2849

………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป

สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯร่วมกับสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ เตรียมเดินหน้าจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ “โครงการเสริมสร้างจริยธรรมและพัฒนาศักยภาพ สำนักข่าวขนาดเล็กเพื่อความยั่งยืน”

สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์ฯร่วมกับสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์ เตรียมเดินหน้าจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ “โครงการเสริมสร้างจริยธรรมและพัฒนาศักยภาพ สำนักข่าวขนาดเล็กเพื่อความยั่งยืน”

ระหว่างวันที่ 26-28 มกราคม นี้ ณ โรงแรมเบสท์เวสเทิร์นพลัสแวนด้าแกรนด์ แจ้งวัฒนะ นนทบุรี  เพื่อเสริมทักษะวิชาชีพสื่อมวลชนและความรู้ต่างๆ ให้กับผู้ที่สนใจสร้างสำนักข่าวขนาดเล็กของตนเอง สนใจสมัครด่วน รับจำนวนจำกัด 

 

นายชำนาญ ไชยศร อุปนายกฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ สมาคมนักข่าวนักหนังสือพิมพ์แห่งประเทศไทย ระบุว่า การอบรมครั้งนี้จัดขึ้นเพื่อเสริมสร้างศักยภาพของสื่อขนาดเล็กให้มีความแข็งแกร่งทั้งด้านเนื้อหาและด้านทุนทางเศรษฐกิจ  เพื่อเป็นแหล่งบ่มเพาะความหลากหลายและนวัตกรรมให้งอกงามในภูมิทัศน์สื่อไทย ภายใต้กลไกตลาดและการควมรวมของสื่อขนาดใหญ่ในศตวรรษที่ 21 

 

ตลอดการอบรมทั้ง 3 วัน ผู้เข้ากิจกรรมจะได้เรียนรู้ทักษะและประสบการณ์ต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการทำงานด้านสื่อมวลชน และหาแหล่งเงินทุนเพื่อสนับสนุนสำนักข่าวของตนเอง ไม่ว่าจะเป็น จริยธรรมและจรรยาบรรณสื่อตามหลักสากล,การบริหารจัดการสำนักข่าวขนาดเล็ก,การบริหารสื่อออนไลน์และการหารายได้, การผลิตเนื้อหาข่าวบนแพลตฟอร์ม Tik Tok การเรียนรู้ Success Model โมเดลธุรกิจและหลักการบริหารสื่อ

กิจกรรมดังกล่าว เหมาะสำหรับ

ผู้สื่อข่าวที่สนใจการสร้างสำนักข่าวขนาดเล็กของตนเอง

ผู้ประกอบการสื่อที่สนใจเรียนรู้หรือทบทวนเกี่ยวกับหลักวิชาชีพสื่อมวลชน และอัพเดตความรู้เกี่ยวกับโมเดลธุรกิจของสื่อขนาดเล็กในปัจจุบัน

สื่อภาคพลเมืองที่ต้องการยกระดับคุณภาพงานด้านสื่อมวลชนให้เป็นที่ยอมรับ

นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไปที่มีความสนใจ

ผู้ที่สนใจ สามารถลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรมภายในวันที่ 10 มกราคม 2567 ผ่านลิงก์ด้านล่าง: 

 

ทั้งนี้ “โครงการเสริมสร้างจริยธรรมและพัฒนาศักยภาพ สำนักข่าวขนาดเล็กเพื่อความยั่งยืน”ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ และเป็นกิจกรรมภายใต้ยุทธศาสตร์ของอนุกรรมการฝ่ายสิทธิเสรีภาพและการปฏิรูปสื่อ สมาคมนักข่าวฯ ที่มุ่งสนับสนุนและส่งเสริมให้วงการสื่อมวลชนผลิตงานอย่างมีคุณภาพ สอดคล้องกับจริยธรรมสื่อสากล และเพิ่มพูนประโยชน์ให้ผู้บริโภคข้อมูลข่าวสารสืบไป

หัวข้อการบรรยาย 

การตั้งต้นและการบริหารจัดการสำนักข่าวขนาดเล็ก

ฐปณีย์ เอียดศรีไชย                    ผู้ก่อตั้งสำนักข่าว The Reporters

การบริหารสื่อออนไลน์และการหารายได้

นภพัฒน์จักษ์ อัตตนนท์              บรรณาธิการบริหารสำนักข่าว TODAY

คุณรู้จักแพลตฟอร์มดีแค่ไหน?

พริสม์ จิตเป็นธม                        รองบรรณาธิการ สำนักข่าว TODAY

การผลิตเนื้อหาข่าวบนแพลตฟอร์ม TikTok + Workshop

ทัพพนัย บุญบัณฑิต               Lifestyle & Education Partnership Manager

Success Model การปรับตัวเพื่อนำเสนอเนื้อหาข่าวบนสื่อใหม่

คุณสุวิตา จรัญวงศ์ CEO & Co Founder Tellscore Co.,Ltd.

Master Class How to Write a Grant Proposal : การเขียนขอทุนเพื่อผลิตสื่อคุณภาพ

Detty Saluling (มีการจัดสรรล่ามแปลภาษาให้)

Senior Manager for Rainforest Journalism Fund, Pulitzer Center 

โมเดลธุรกิจสื่อและหลักการบริหารสื่อตามจรรยาบรรวิชาชีพ

ผศ.ดร.วิไลวรรณ จงวิไลเกษม     คณะวารสารศาสตร์และสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

สิทธิเสรีภาพสื่อภายใต้กฎหมายไทย

อ.ไพบูลย์ อมรภิญโญเกียรติ        ที่ปรึกษากฎหมายสมาคมผู้ผลิตข่าวออนไลน์         

กลไกการกำกับดูแลของสื่อมวลชน

ชวรงค์  ลิมป์ปัทมปาณี               ประธานสภาการสื่อมวลชนแห่งชาติ        

 

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวเด่น

สตูลผึ้งหลวงดุ! ทำร้ายชาวบ้านเจ็บนับ 15 ราย เด็ก 3 คนแก่ไม่เว้นที่ใช้เส้นทาง  นอภ.เชิญปราชญ์ชาวบ้าน  สั่งทำลายด่วน

สตูลผึ้งหลวงดุ! ทำร้ายชาวบ้านเจ็บนับ 15 ราย เด็ก 3 คนแก่ไม่เว้นที่ใช้เส้นทาง  นอภ.เชิญปราชญ์ชาวบ้าน  สั่งทำลายด่วน

         วันที่ 2 ม.ค.2567  ที่โรงพยาบาลมะนัง  อ.มะนัง  จ.สตูล  นายเชษฐ์ บุตรรักษ์  นายอำเภอมะนัง  เข้าเยี่ยมชาวบ้านที่ถูกผึ้งหลวงรุมต่อย  พร้อมมอบกระเช้าปลอบขวัญ  และให้กำลังใจ

        โดยช่วงบ่ายวันนี้  ที่บริเวณวงเวียนโรงเรียนอนุบาลมะนัง (เก่า) หมู่ที่ 7 ตำบลปาล์มพัฒนา   อำเภอมะนัง  จังหวัดสตูล  นายอำเภอมะนัง รีบประสานกำนันสุรินทร์  สุวรรณโณ  กำนันตำบลนิคมพัฒนา   ให้รีบประสานปราชญ์ชาวบ้าน  ที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับการจับผึ้ง  เพื่อแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้กับชาวบ้าน  พร้อมเจ้าหน้าที่ รพ.มะนัง ปศุสัตว์อำเภอ อบต.นิคม และมูลนิธิกู้ภัยร่มไทร  เตรียมพร้อม

         หลังพบว่าผึ้งที่บริเวณดังกล่าว  ได้รุมต่อยชาวบ้านได้รับบาดเจ็บไม่น้อยกว่า 15 รายเป็นเด็ก 3 ราย ที่ต้องส่งตัวเข้ารักษาด่วนที่โรงพยาบาลมะนัง  (มีเพียงบางรายที่ถูกต่อยอาการไม่สาหัส)

 

        นายภรัณยู นาคะทิฐธิ  ชาวบ้านรายหนึ่งเล่าว่า  บุตรชายของตน อายุประมาณ 11 ปีพร้อมคุณยาย  ขี่รถจักรยานยนต์ผ่านเส้นทางดังกล่าว  เมื่อเวลา 10:00 น ของวันที่ 31 ธันวาคมที่ผ่านมา  ได้ถูกฝูงผึ้งหลวงไม่น้อยกว่า 300 ตัว  รุมต่อยได้รับบาดเจ็บสาหัส  โชคดีมีตำรวจ  และชาวบ้านรีบนำส่งโรงพยาบาลได้ทันท่วงที  แต่ลูกชายของตนพบว่าอาการสาหัส ความดันลดลง  ตัวซีดขาว  และขณะนี้ได้กลับบ้านแล้ว  ทั้งหลานและคุณยาย  อยากให้เจ้าหน้าที่เร่งทำลาย  เพื่อไม่ให้ชาวบ้านถูกผึ้งรุมต่อยได้อีก

 

          นายพิชัย   ชูแก้ว  ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน ม.7  ยอมรับว่า  ตนถูกผึ้งรุมต่อยเมื่อช่วงเช้าวันนี้ ทั้งศีรษะ  แขนและลำตัว โชคดีที่ไม่มีอาการแพ้  โดยถูกต่อยขณะยืนโบกรถไม่ให้ชาวบ้านเเล่นผ่านเส้นทางที่ผึ้งอาศัยอยู่

         

          ทันทีที่ปราชญ์ชาวบ้านเดินทางมาถึงก็ได้รีบทำหัวหมี  เพื่อใช้เป็นคบเพลิงไล่ผึ้ง และปราชญ์ดังกล่าวก็ได้ขึ้นไปตัดรังผึ้งลงมาได้สำเร็จ  ในเวลาไม่เกิน 5 นาที

         

         ปราชญ์ชาวบ้านที่เชี่ยวชาญในเรื่องของกันเก็บน้ำผึ้งในป่าบอกว่า  กรณีนี้ไม่ยากเกินไป  เพราะหาผึ้งในป่าบ่อยซึ่งมีความยากและสูงกว่านี้

         

         สำหรับรังผึ้งที่หล่นลงมา  มีขนาดใหญ่ได้มีการส่งรังผึ้งต่อให้กับนายอำเภอมะนัง เพื่อไปทำยารักษาโรคแจกลูกบ้านต่อไป

……

อัพเดทล่าสุด
Categories
ข่าวทั่วไป เกษตร - อาชีพ

 สตูล-ชำชุดดีน โคขุนเนื้อวัวเกรดพรีเมี่ยม ปลอดสาร 100%  ตอบทุกโจทย์สายเนื้อ  ที่วิสาหกิจชุมชนฯเลี้ยงโคแปลงใหญ่ตำบลกำแพง 

สตูล..ชำชุดดีน โคขุนเนื้อวัวเกรดพรีเมี่ยม ปลอดสาร 100%  ตอบทุกโจทย์สายเนื้อ  ที่วิสาหกิจชุมชนฯเลี้ยงโคแปลงใหญ่ตำบลกำแพง 

         ที่วิสาหกิจชุมชนกลุ่มส่งเสริมอาชีพเกษตรกรเลี้ยงโคแบบแปลงใหญ่  จังหวัดสตูล หมู่ที่ 4 ตำบลกำแพง อำเภอละงู จังหวัดสตูล   ที่นี่มีผลิตภัณฑ์จากเนื้อโคขุนแปรรูปมากมาย  ได้แก่ เนื้อแปรรูป   เนื้อสไลด์   กระดูก  และส่วนอื่น ๆ  ที่พร้อมรับประทาน  ทั้งแบบเสียบไม้พร้อมปิ้งย่าง   นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์แปรรูป  อาทิ ใบพายวัว สันคอวัว สามชั้นวัว  ลิ้นวัว หรือเนื้อที่สำหรับทำสเต็กสะดวกสบายสำหรับผู้บริโภคในราคาเกษตรกร

        ที่วิสาหกิจชุมชนฯ เกิดจากการรวมตัวของเกษตรกรที่ประสบปัญหาวิกฤตเศรษฐกิจตั้งแต่ปี 2559 ร่วม 9 ปีของการเติบโตจากสมาชิก 10 คน  ปัจจุบันมีสมาชิก 118 คน  ที่แห่งนี้ยังเป็น  ศูนย์เครือข่ายจุดเรียนรู้  การเลี้ยงสัตว์แบบลดต้นทุน  โดยโคขุนทุกตัวจากเกษตรกรที่เป็นสมาชิก  ก่อนส่งชำแหละจากต้นน้ำ กลางน้ำ สู่ปลายน้ำ ทุกคนต้องมีความรู้ในการปรับคุณภาพ   ให้โคขุนกินอาหารคุณภาพ ทั้งอาหารหมัก  อาหารที่เป็นธัญญาพืชและอาหารเสริม  เพื่อให้ได้เนื้อที่มีคุณภาพเท่ากัน ไม่มีกลิ่นคาว ระดับพรีเมียมทุกตัว เกษตรกรจะได้ราคาดีกว่าตลาดทั่วไป โดยประกันราคาที่ 95-100 บาท (ในขณะที่ตลาดทั่วไปอยู่ที่ 70 บาท)  ผู้บริโภคจึงไว้ใจได้ถึงคุณภาพ  และราคาจำหน่ายเพียงกิโลกรัมละ 300 บาท  โดยทุกเดือนจะมีการชำแหละไม่น้อยกว่าเดือนละ 6 ตัว   ในรอบปีประมาณ 100 ตัว   ที่ต้องสต็อกโคขุนไว้

 

          นางสาวมนัสนันท์  นุ่นแก้ว เกษตรอำเภอละงู  พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สำนักงานเกษตร  ลงพื้นที่ติดตามและเยี่ยมแปลงใหญ่โคตำบลกำแพง  โดยมีสำนักงานเกษตรอำเภอละงูมาคอยให้คำปรึกษา  แนะนำช่องทางการตลาด และแนวทางการดำเนินการของกลุ่ม  เพื่อให้เกิดการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง และในอนาคตทางกลุ่มบอกว่า   มีแนวคิดที่จะผลิตลูกชิ้นเนื้อ และมีการรับซื้อมูลวัวจากสมาชิก  เพื่อเป็นการเพิ่มรายได้ให้สมาชิกอีกทางหนึ่ง

 

          สำหรับ นายชำชุดดีน  เล่งเจะ   ประธานแปลงใหญ่โคตำบลกำแพง (หรือผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 4 )   ยังปรับตัวเพื่อตอบโจทย์ธุรกิจแบบสมัยใหม่ด้วยการไลฟ์สด (ชื่อเพจสิงห์ตะวัน  โคขุน)  ขายสินค้าเองทางออนไลน์  นอกจากลูกค้าประจำแล้ว   เพื่อสร้างภาพจำ  และอัตลักษณ์เฉพาะกับสินค้า  เพื่อตอบโจทย์ชาวสตูลที่ชื่นชอบสายเนื้อ     

 

         โดยราคาเนื้อวัวสันในเกรด A กก.ละ 400 บาท เนื้อวัวเกรด A กก.ละ 350 บาท , (เนื้อเกรดรวมงานนูหรี งานแต่ง 100 กก.ขึ้นไป 280 บาท) เนื้อสันในสไลด์ 500 กรัม 250 บาท,เนื้อริปอาย สไลด์ 500 กรัม 250 บาท ,เนื้อสเต็กทีโบน ขีดละ 60 บาท เนื้อสเต็กโทมาฮอก ขีดละ 100 บาท เนื้อแดดเดียว 500 กรัม แพ็คละ 350 บาท เนื้อหมักหม่าล่า 500 กรัมแพ็คละ 300 บาท เป็นต้น 

ติดต่อสอบถามได้ที่ โทร. 089-733-7771

 

…………………………………………….

อัพเดทล่าสุด
Categories
ท่องเที่ยว-กีฬา

  สตูล-ด่านชายแดนทางน้ำ ไทย-มาเลเซียคึกคัก  นักท่องเที่ยวและแรงงานแห่เดินทางกลับฉลองปีใหม่ ท่ามกลางรักษาความปลอดภัยอำนวยความสะดวก

สตูล..ด่านชายแดนทางน้ำ ไทย-มาเลเซียคึกคัก  นักท่องเที่ยวและแรงงานแห่เดินทางกลับฉลองปีใหม่ ท่ามกลางรักษาความปลอดภัยอำนวยความสะดวก

          วันที่ 30 ธ.ค.2566  ที่ท่าเทียบเรือตำมะลัง  อำเภอเมือง จังหวัดสตูล ซึ่งเป็นท่าเรือด่านชายแดนทางน้ำ  มีนักท่องเที่ยวต่างชาติและแรงงานไทยในต่างแดน   ใช้เส้นทางนี้ในการเดินทางเข้าประเทศเพื่อกลับมาร่วมเฉลิมฉลองเทศกาลปีใหม่กันอย่างคึกคัก 

          ซึ่งด่านชายแดนทางน้ำท่าเทียบเรือตำมะลัง  จังหวัดสตูล  มีเรือเฟอร์รี่ขนาดจุได้มากสุด 300 คน  เปิดให้บริการวันละ 1 เที่ยว  วิ่งจากเกาะลังกาวี  ประเทศมาเลเซีย  โดยส่วนใหญ่ที่เข้าช่องทางด่านชายแดนนี้พบว่าเป็นแรงงานไทยในมาเลเซีย และเพื่อนต้องการเดินทางกลับไปฉลองปีใหม่กับครอบครัว  และหลายคนที่ไปทำงานอยากนำเงินทองที่หามาได้กลับไปร่วมเฉลิมฉลองกัน

 

           ด้าน พ.ต.อ.เจริญพงษ์   ขันติโล ผกก.ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสตูล  กล่าวว่า  ได้เน้นย้ำให้ด่านชายแดนทั้ง 3 ด่านในจังหวัดสตูล ทั้งที่ ด่านวังประจัน อำเภอควนโดน ด่านเกาะหลีเป๊ะ ตำบลเกาะสาหร่าย อำเภอเมืองสตูล  และด่านท่าเทียบเรือตำมะลัง  อำเภอเมืองสตูล (ซึ่งเป็นด่านทางน้ำและทางบก) ให้ช่วยกันดูแลความเรียบร้อย  นักท่องเที่ยวในช่วงเทศกาลปีใหม่ และตรวจสอบสกัดกั้นผู้มีหมายจับเข้าประเทศ  โดยวันนี้กำลังจิตอาสาออกหน่วยให้บริการนักท่องเที่ยวเพื่ออำนวยความสะดวก  และให้เกิดความประทับใจ  ในฐานะเจ้าบ้านที่ดีโดยวันนี้ได้นำน้ำดื่มและขนมพื้นเมืองมาร่วมมาต้อนรับสร้างความสุข และรอยยิ้ม ให้กับผู้เดินทาง ภายใต้หลัก  “สะดวก รวดเร็ว ปลอดภัย ประทับใจ

…………………………

อัพเดทล่าสุด